จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 835
“แฮ่ก! แฮ่ก! แค่ก…!”
ไม่ว่าจะวิ่งหนีนานแค่ไหน แต่เคียร์ก็มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางตรงหน้า
ผืนป่าที่มันเคยมองเป็นแหล่งขุมทรัพย์ ยามนี้กลับน่าสะพรึงกลัวดุจดั่งขุมนรก
ดอกไม้งามและพืชพรรณนานาชนิด สายลมแสนบริสุทธิ์ และกลิ่นหอมรัญจวนรอบสองข้างทาง ทุกสิ่งเป็นราวกับคำสาปภาพลวงตาที่เคียร์มิอาจหลุดพ้น
เกิดคำถามขึ้นมากมายขณะมันกำลังตรวจสอบหลอดค่าเรี่ยวแรง
กริดมาทำอะไรที่ป่าแห่งนี้ เป็นเพียงเรื่องบังเอิญงั้นหรือ?
แล้วเหตุใดกริดถึงเป็นศัตรูกับมัน การจับเอลฟ์เป็นทาสมันเลวร้ายขนาดนั้นเชียว?
ทำไมตนต้องเป็นฝ่ายทุกข์ทรมาณ
หรือว่า…ทั้งหมดคือแผนที่กริดวางไว้ตั้งแต่ต้น
‘เราเต้นรำบนผ่ามือกริดมาตลอด!’
เจ้าบ้านั่นวางแผนไว้ตั้งแต่เมื่อไร?
หรือตั้งแต่ก่อนที่เราค้นหาข้อมูลของป่าต้นไม้โลก?
“ชิ…!”
เงาดำขนาดใหญ่บนท้องฟ้าเคลื่อนสาดทับตัวมัน เป็นสัญญาว่า วัตถุบนอากาศกำลังลอยอยู่เหนือศีรษะ
หัวใจเคียร์เต้นโครมครามอย่างตื่นตระหนก มันรู้สึกถูกคุกคามอย่างหนักเมื่อฮิวรอยและไวเวิร์นบินอยู่เหนือศีรษะ
“เปโร! หลบเร็ว!”
เมื่อสิ้นเสียงเคียร์
ม้าขาว ไม่สิ ยูนิคอร์นกระโจนออกด้านข้างคล้ายกับท่าเดินของปู การขยับร่างกายเหนือธรรมชาติเช่นนี้ ม้าทั่วไปไม่มีทางปฏิบัติได้แน่
เปลวเพลิงจากไวเวิร์นเล็งยิงดักหน้าในจุดที่พวกมันกำลังจะวิ่งไปหากไม่กระโดดหลบ พื้นหญ้าโดยรอบไหม้เกรียมในพริบตา
เคียร์กุมบังเหียนสั่งการให้ยูนิคอร์นรีบวิ่งหนีไปทางซ้าย
‘ไวเวิร์นย่อมมีมานาจำกัด’
ไวเวิร์นของฮิวรอยคงพ่นลมหายใจได้อีกแค่หนึ่งถึงสองหน
แต่ยูนิคอร์นของมัน หนึ่งในสัตว์พาหนะที่ดีทีที่สุด สามารถกระโดดหลบได้อีกหลายสิบครั้ง
มานาพื้นฐานของยูนิคอร์น มีมากกว่าสิ่งมีชีวิตระดับสูงอย่างมังกรเดรกเสียอีก
‘เราต้องรอดกลับไปให้ได้!’
เคียร์ไม่เหลือสมาธิให้ครุ่นคิดถึงอดีตหรืออนาคต ปัจจุบันคือสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด
มันไม่ต้องการเผชิญหน้าความตายและสูญเสียค่าประสบการณ์หรือไอเท็มดรอป
‘ต้องมีสักทาง…ต้องมีสักทางที่เราจะรอดจากมันและหนีกลับเมืองได้!’
เคียร์ต้องการเอาคืนเหตุการณ์ในวันนี้อย่างสมสม!
มันลั่นวาจากับตัวเองภายในใน เคียร์มั่นใจว่า ตัวมันสามารถสนองความแค้นกลับคืนกริดได้เป็นรอยเท่า ตราบใดที่ยังมีพลังของอัศวินทั้งสาม
ราชาบานุส ราชาความมืดดิอัส และเทพจอมเขมือบโพอู
สามบุคคลดังกล่าวคือสุดยอด NPC พิเศษที่คอยติดตามคุ้มกันเคียร์มาแล้วทั่วทวีปในฐานะราชาพ่อค้า
NPC พิเศษล้วนแข็งแกร่งกว่าเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะกริดและครอเกล
เคียร์มั่นใจมาก เพราะมันได้เห็นพลังของปิอาโร่เต็มสองตาในวิดีโอเหตุการณ์ล่าบีเลียล
หากคอยปลุกปั้นสามอัศวินไปอีกสักหนึ่งถึงสองปี รับรองได้เลยว่าทั้งสามจะกลายเป็น NPC พิเศษที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปิอาโร่แน่
เคียร์เชื่อเช่นนั้นมาตลอด
‘ต้องใช่แน่ แม้พวกมันยังไม่เติบโตเต็มที่ในปัจจุบัน แต่ทั้งสามล้วนมีชื่อเล่นนำหน้าว่า <ราชา> และ <เทพ> ทั้งสิ้น!’
เฉกเช่นที่เคียร์ถูกขนานนามให้เป็นราชาพ่อค้า
ทั้งบานุส ดิอัส และโพอู ทุกคนล้วนถูกเรียกขานโดยคนท้องถิ่นว่า ‘เทพ’ หรือ ‘ราชา’ ในตอนที่เคียร์ไปพบเข้า
ไม่ใช่ตัวตนที่ผู้เล่นจะรับมือไหว ทั้งสามคือ NPC ที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด
เคียร์คาดหวังกับสามคนนี้ไว้สูงลิบ
‘หากเราหลบหนีได้อย่างปลอดภัย มีความเป็นไปได้มากที่กิลด์โอเวอร์เกียร์จะยกทัพบุกทำลายเมือง เมื่อถึงตอนนั้น เราจะขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรเก๊าส์ และรีบหนีไปยังจักรวรรดิซาฮารันโดยมีอัศวินทั้งสามคอยคุ้มกัน’
เคียร์แสยะยิ้มพลางวางแผนชั่ว
การบุกโจมตีจากกองทัพโอเวอร์เกียร์นับเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายมันมากกว่า
ประการแรก ศึกนี้จะทำให้อาณาจักรเก๊าส์และโอเวอร์เกียร์ประกาศสงครามต่อกัน
มันจะฉวยโอกาสทองประณามกิลด์โอเวอร์เกียร์ให้เสียชื่อเสียง แถมจะสานสัมพันธ์กับอาณาจักรข้างเคียงเพื่อยั่วยุให้เกิดการล้อมโจมตีจากทุกด้าน
และผลที่ตามมาคือ เคียร์สามารถหนีเข้าสู่จักรวรรดิซาฮารันได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเกรงกลัวพลังอำนาจโอเวอร์เกียร์
‘แต่ว่า…ทำไมอัศวินลำดับหนึ่งถึงไปอยู่กับกริด’
ช่างเถอะ นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ เคียร์มั่นใจว่า จักรพรรดิซาฮารันยังคงมีจุดมุ่งหมายเดิมคือการรวมทวีปให้เป็นหนึ่ง
ขณะกำลังขบคิดหาวิธีตอบโต้กริด ร่างกายของมันลอยขึ้นลงเล็กน้อยอย่างไม่เป็นจังหวะ
สาเหตุเกิดจาก ยูนิคอร์นที่มันกำลังขี่เริ่มกระโดดหลบการโจมตีถี่ขึ้นอย่างผิดวิสัย
เพียงไม่นาน เคียร์ก็พบต้นตอของปัญหา สิ่งนั้นคือรัศมีดาบปริศนาที่คอยพุ่งโจมตีใส่ขาทั้งสี่ของยูนิคอร์นเป็นระยะ
หากยูนิคอร์นคล่องแคล่วน้อยกว่านี้ ขาของมันคงขาดออกจากกันไปนานแล้ว
‘เหลวไหลสิ้นดี!’
ฮิวรอยวิ่งเร็วขนาดตามยูนิคอร์นทันได้ยังไง แถมมันกำลังอยู่บนฟ้าไม่ใช่หรือ?
ต่อให้เป็นแรงเกอร์ แต่ชายคนนั้นก็เป็นเพียงคลาสนักพูด เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
ต้องมีบางสิ่งผิดพลาดแน่
เคียร์ตัดสินใจหันหลังกลับไปมอง
ดวงตาของมันพลันสั่นระริก ใบหน้าของผู้โจมตีกำลังเผยให้เห็นเต็มสองตา
“เฟคเกอร์!!”
กริดถึงกับงัดไพ่ตายออกมาใช้เชียว?
เคียร์เย็นสันหลังวาบ
ขณะพัฒนาตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นราชาพ่อค้า จุดเด่นที่สุดของมันคือเครือข่ายข้อมูลข่าวสาร
มันมีระบบที่เรียกว่า ‘เกรดผู้เล่น’ ซึ่งใช้คนของตัวเองวิเคราะห์ข้อมูล ในระบบตัดเกรดดังกล่าว เฟคเกอร์มีพลังอยู่ในระดับ S คลาส
เป็นระดับรองเพียงกริด ครอเกล แอ็กนัส และเฮสเตอร์
หากวัดกันที่พลังสังหาร เฟคเกอร์คือระดับท็อปอย่างไร้ข้อกังขา
แม้ทั้งสองจะเป็นแรงเกอร์ระดับสูงเหมือนกัน แต่เฟคเกอร์สร้างความกดดันได้มหาศาลกว่าฮิวรอยมาก
‘ท่าไม่ดีแล้ว’
เมื่อตกเป็นเป้าหมายของเฟคเกอร์ เคียร์ทราบชะตากรรมตัวเองทันที มันรีบตะโกนสุดเสียง
“เปโร! เร่งความเร็วพริบตา!”
ร่างกายยูนิคอร์นถูกอาบด้วยแสงสีม่วง จากนั้นก็หายไปในพริบตาราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
หากระบุให้ชัด สิ่งนี้คือทักษะที่ช่วยให้เคลื่อนได้ว่องไวเหนือขีดจำกัด เป็นทักษะสำคัญที่สิ้นเปลืองมานาจำนวนมหาศาล
เมื่อถูกทิ้งไว้ตามลำพัง เฟคเกอร์ชะงักฝีเท้าเล็กน้อยพลาดกวาดสายตามองโดยรอบ
“คิดว่าจะหนีพ้นรึไง…”
เฟคเกอร์หายตัวไปจากจุดดังกล่าวในเวลาไล่เลี่ยกัน
ฮิวรอยที่เฝ้ามองจากด้านบนเริ่มลูบคางพลางครุ่นคิด เขาพึมพำอยู่บนหลังไวเวิร์นขณะมันกำลังร่อนโฉบไปบนฟ้า
“ยูนิคอร์นสินะ…ต้องเหมาะกับนายท่านแน่”
***
ท่ามกลางผืนป่าต้นไม้โลก ดิอัสขมวดคิ้วเมื่อได้ยินโพอูพึมพำในสิ่งที่น่าปวดหัว
“ฉันหิว…”
เอลฟ์สาวที่ถูกลากจูงด้านหลังเริ่มแสดงสีหน้าหวาดกลัว สาเหตุเพราะทุกคนเคยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากโพอูบ่นหิวมาแล้ว ความตื่นตระหนกเริ่มครอบงำจิตใจเอลฟ์ทุกตนทันที
ดิอัสตำหนิ
“นายเพิ่งกินไปไม่ใช่รึไง? พวกเธอไม่ใช่อาหาร แต่เป็นสินค้าของเจ้านาย”
“ฉันหิว…”
โพอูสูญสิ้นสติปัญญาเมื่อมันรู้สึกหิว สิ่งเดียวในหัวคือการเติมเต็มท้องให้อิ่ม ทุกคำพูดที่ได้ยินจะเข้าหูซ้ายและทะลุออกหูขวา
“เฮ่อ…เชิญตามสบาย”
ดิอัสยักไหล่พร้อมกับชูมือขื้นอย่างหมดทางเลือก มันไม่มีสิทธิ์หรือพลังที่จะห้ามปรามโพอู ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมให้อีกฝ่ายทำตามใจ
“ม...ไม่นะ!”
เอลฟ์สาวพลันหน้าซีดเมื่อดิอัสถอยหลังออกไป น้ำตาของพวกเธอไหลรินอาบสองข้างแก้ม โพอูกำลังกวาดสายตาพร้อมกับน้ำลายไหลหยดย้อยจากมุมปาก
“งั่ม!”
ชะตากรรมของเอลฟ์ที่ตกเป็นเหยื่อช่างน่าหดหู่ เธอถูกมันกลืนลงท้องและกลายเป็นแสงสีเทาในทันที
เอื๊อก!
สิ่งมีชีวิตร่างยักษ์สูงกว่าสามเมตรเพิ่งจะกลืนเอลฟ์สาวสูง 170 เข้าไป แต่สีหน้าของมันกลับไม่แสดงถึงความอิ่มท้องแม้แต่น้อย หมายความว่า มื้ออาหารยังไม่จบเพียงเท่านี้
สำหรับเอลฟ์สาวที่หลงเหลือเพียงสามสิบตน สิ่งนี้ถือเป็นสถานการณ์เลวร้ายสุดขีด
ทว่า ไม่มีใครในพวกเธอที่ร่ำไห้หรือร้องขอชีวิต ทุกคนสิ้นสติไปเรียบร้อยแล้ว
ฉากเหตุการณ์สุดสยดสยองเมื่อครู่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งตลอดการเดินทาง
ทั้งผองเพื่อน ญาติมิตร รวมถึงครอบครัว มีหลายคนที่ถูกไอ้ยักษ์บัดซบนี่เขมือบเข้าไปก่อนหน้า
สภาพของแต่ละคนเหม่อลอยราวกับตุ๊กตาไร้วิญญาณที่ปราศจากความคิด
“ฉันหิว…”
ต้องมีเหยื่อสังเวยเพิ่มอีกหนึ่ง
เอลฟ์สาวผู้โชคร้ายมิอาจขัดขืนเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ยักษ์ของโพอูคว้าร่างไว้ แต่ขณะที่มันกำลังจะกลืนเธอลงท้อง…
ฝ่ามือสีทองสี่ข้างได้พุ่งจู่โจมโพอูจากด้านหลังพร้อมกับค้อนสั้นในมือ เกิดเป็นการกระหน่ำทุบตีใส่ต้นคอและท่อนแขนของโพอูอย่างต่อเนื่อง
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีแมวขนฟูฟ่องที่แขนขาป้อมสั้น แมวตนนี้เริ่มปลดปล่อยสิ่งที่คล้ายกระแสไฟฟ้าใส่เข้าใส่ร่างโพอูในเวลาเดียวกัน
“ประจุไฟฟ้า! แง่งงง!”
“พวกแกคิดจะทำอะไร?”
ถัดมาเป็นการปรากฏกายของกริด
ผ้าคลุมของชายหนุ่มสะบัดพริ้วในยามร่ายรำเพลงดาบ สายตาที่เปี่ยมด้วยแรงอาฆาตจ้องมองโพอูไม่กระพริบ
“สังหาร!”
กริดตะโกนคำรามพลางตวัดดาบอัสนีฯ ในมืออย่างฉับไว
เขามั่นใจมาก ศัตรูจะต้องตกอยู่ในอาการชะงักจากมโยลเนียร์ที่รุมทุบ แถมยังมีอาการช็อตไฟฟ้าจากโนเอะ
ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายต้องหยุดการกินเอลฟ์สาวโชคร้ายอย่างไม่มีทางเลือก เพราะมันต้องเพ่งสมาธิรับมือกับพลังดาบสังหารที่พุ่งใส่
งั่ม!
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นตรงข้าม โพอูต้านทานอาการชะงักและสายฟ้าได้ทั้งหมด
มันก้มหน้ากินเอลฟ์โชคร้ายที่แสดงสีหน้าเปี่ยมความหวังเมื่อกริดปรากฏตัว จากนั้นก็ตบฝ่ามือกระแทกใส่ท่าแทงจากกริด
[ ทักษะโจมตีของท่านถูกสลาย ]
“อะไรนะ?”
ไอ้หมอนี่สลายทักษะระดับเลเจนดารีได้ด้วยมือเปล่า?
ไม่สิ ที่น่าประหลาดกว่านั้น มันต้านทานอาการชะงักและสายฟ้าช็อตได้ยังไง?
ขณะกริดยืนอึ้ง โพอูเปิดฉากโขกศีรษะกระแทกใส่
“ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แต่เสียใจด้วยนะ”
ดิอัสส่ายศีรษะ มันไม่เคลือบแคลงเลยว่า ชายผมดำปริศนาคงไม่แคล้วถูกโพอูร่างยักษ์สามเมตรจัดการในพริบตา
ทว่า ดิอัสเดาผิด
“…”
ชายผมดำยังคงสบายดี เหตุเพราะฝ่ามือสีทองพุ่งเข้ามาบล็อคการท่าโขกได้อย่างฉิวเฉียด พวกมันทั้งสี่ข้างกระเด็นออกไปคนละทิศพร้อมกับเกิดการชะงัก
กริดจ้องมองโพอูโดยไม่กระพริบตา
“แกคือหมาที่เหมือนหมูสินะ”
อะไรอีกล่ะนั่น? ดิอัสไม่เข้าใจคำพูดกริดแม้แต่น้อย มันได้แต่เกาหัวแกร่ก
“วิชาดาบแพ็กม่า”
‘แพ็กม่า?’
“คลื่น!”
ชายหนุ่มวาดดาบสีแดงดำเป็นครึ่งวงกลมด้านหน้า ก่อเกิดคลื่นรัศมีดาบจำนวนมากกระแทกใส่ร่างโพอูจากทุกทิศ
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 28,310 หน่วย ]
[ เป้าหมายถูกลดความเร็วทุกชนิด ]
[ เป้าหมายต้านทาน ]
‘ต้านทานเชื่องช้าด้วยหรือ?’
ด้านหลอดพลังชีวิตของโพอูก็มีไม่น้อยเช่นกัน ไม่กระดิกเลยสักนิด แม้เพิ่งจะได้รับความเสียหายเข้าไปเกือบสามหมื่นหน่วย
‘พลังป้องกันค่อนข้างต่ำ ความเร็วก็มีไม่มาก…’
ขณะกริดกำลังครุ่นคิดหลังจากประเมินศัตรู ฝ่ามือซึ่งใหญ่กว่าของกริดราวสามเท่ากำลังพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูง
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากกินเอลฟ์เข้าไปสองตน ดวงตาที่เคยอ่อนโยนได้แดงก่ำราวกับคลุ้มคลั่ง
โพอูทั้งทึ่งและโมโหที่กริดไม่เป็นอะไรเลยแม้มันจะโขกเข้าไปเต็มแรง
“ฝ่ามือนั่น…การโจมตีของโพอู…ถูกหยุด”
โพอูคว้าหัตถ์เทวะไว้ข้างหนึ่งและพยายามกลืนมันลงท้อง แต่น่าเสียดายที่ระบบซาทิสฟายย่อมไม่อนุญาต
ขณะเดียวกัน ดิอัสเริ่มกวาดต้อนเอลฟ์สาวให้ออกจากรัศมีการต่อสู้
“หากเป็นผู้ใช้วิชาดาบแพ็กม่า หมายความว่าแกคือราชาโอเวอร์เกียร์คนนั้นเองสินะ? แต่จะรับมือกับโพอูไหวจริงหรือ เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นเป็นลูกผสมระหว่างคนยักษ์และราชาโทรลล์ แม้กระทั่งมนุษย์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดก็ยังมิอาจรับมือไหว”
บาดแผลบนร่างโพอูที่ถูก ‘คลื่น’ เฉือนใส่ ปัจจุบันสมานติดกันเรียบร้อยแล้ว ราวกับมีพลังฟื้นฟูตามธรรมชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าโทรลล์
ใบหน้าของโพอูแดงก่ำอย่างโกรธแค้น มันแผดเสียงคำราม
“โพอู! ไม่ใช่! สัตว์ประหลาดดดด!!”
เอลฟ์สาวกว่าสามสิบตน แรนดี้ รวมถึงโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ที่มาถึงจุดเกิดเหตุช้า หรือแม้กระทั่งดิอัส ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากเสียงคำรามกึกก้องของโพอู
นี่คือพลังตะโกนของเผ่าคนยักษ์ ซึ่งจะส่งผลให้แข้งขาปราศจากเรี่ยวแรงอย่างไร้เหตุผล
“เสมือนเทพ·ผสานไอเท็ม”
กลับกัน กริดยังสบายดี
[ ไม้เท้าบีเลียลถูกผสานกับเข้าดาบอัสนีฯ ]
วาบ!
เกิดแสงสว่างเป็นตัวกลางเชื่อมผสานดาบและไม้เท้าเกรดมิธเข้าด้วยกัน
เพียงอึดใจเดียว ชายหนุ่มคว้าหอกที่ลอยอยู่กลางอากาศมาควงอย่างแคล่วคล่อง
ต้องขอบคุณผลจากทักษะผสานอาวุธ เพลิงทมิฬและสายฟ้าสีชาดจึงเปลี่ยนให้เป็นการโจมตีทางเวทมนตร์ชนิดหนึ่ง
ค่าพลังเวทของกริดเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% และคริติคอลเวทมนตร์รุนแรงขึ้น 150% สิ่งนี้ย่อมเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตโพอู
กริดเปิดฉากโหมกระหน่ำอย่างดุดัน ลูกครึ่งคนยักษ์ผสมโทรลล์เป็นต้องทุรนทุรายจากความเจ็บปวดแสนสาหัส
เช่นนั้นแล้ว ทางฝั่งกริดล่ะ?
[ ท่านได้รับบาเรียคุ้มกาย 5,000 หน่วยจากผลของบาเรียบีเลียล ]
[ ท่านได้รับบาเรียคุ้มกาย 5,000 หน่วยจากผลของบาเรียบีเลียล ]
[ ท่านได้รับบาเรียคุ้มกาย 5,000 หน่วยจากผล… ]
…
…
บาเรียสีดำสนิทกำลังซ้อนทับบนร่างกริดหลายชั้น จำนวนของมันแปรผันตามบาดแผลที่เกิดขึ้นบนลำตัวโพอู
“เจ็บ! โพอูเจ็บบบบ!!”
สีหน้าท่าทางของโพอูกำลังคลุ้มคลั่ง มันกระหน่ำชกใส่กริดที่มีบาเรียดำคุ้มกายอย่างไม่ลดละความพยายาม แต่น่าเสียดายที่การกระทำเช่นนี้ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ ซ้ำร้ายยังส่งผลเสียรุนแรง
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,700 หน่วย ]
[ บาเรียคุ้มกายดูดซับความเสียหาย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 10,300 หน่วย ]
[ บาเรียคุ้มกายดูดซับความเสียหาย ]
[ เป้าหมายที่โจมตีท่านได้รับอาการ ‘หวาดกลัว’ และ ‘เชื่องช้า’ ]
[ เป้าหมายต้านทานเชื่องช้า ]
ด้วยความช่วยเหลือจากบาเรียสุดโกง พลังชีวิตของกริดยังคงเต็มหลอดเท่าเดิม ขณะที่โพอูกำลังขวัญผวาสุดขีด
“ก…กลัว! โพอูกลัว…!”
ใช่แล้ว โพอูเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่ง พลังทำลายเทียบเท่าปิอาโร่เมื่อครั้งล่าบีเลียล แถมยังมีค่าต้านทานสถานะหลายชนิด
ถึงกระนั้นโพอูก็มิใช่ตำนาน มันยังเหลืออาการหวาดกลัวที่มิอาจต้านทานได้
ขณะเดียวกัน กริดแข็งแกร่งขึ้นหลังจากเหตุการณ์ล่าบีเลียลมาก เขาได้ก้าวข้ามปิอาโร่ในตอนนั้นไปไกลแล้ว
“โทสะช่างตีเหล็ก·ร่างมืด”
กริดวาดหอกเป็นครึ่งวงกลมด้านหน้าด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด คมหอกไร้เทียมทานกระซวกใส่ช่องท้องอันเปลือยเปล่าของโพอูอย่างไร้ความปราณี
“อัญเชิญอัศวิน! จิสึกะ เรกัส คริส ป็อน จู๊ด!”
เหตุใดเขาต้องอัญเชิญอัศวินในสถานการณ์ที่ตัวเองกำลังจะชนะ?
คำตอบคือ กริดไม่คิดประมาทอีกแล้ว เขาต้องทำทุกทางเพื่อให้มั่นใจว่าบรรลุผล
ชายหนุ่มออกคำสั่งกับห้าอัศวินที่ตอบรับคำเชิญ
“จัดการไอ้บัดซบนั่น! จากนั้นก็รีบช่วยเอลฟ์”
‘ไอ้บัดซบนั่น’ ย่อมหมายถึงดิอัส
อัศวินทั้งห้าล้วนมีบรรยากาศคุกคามรุนแรง ไม่แปลกที่ดิอัสจะเผยอาการหวาดกลัวบนใบหน้าอย่างชัดเจน
กริดกำลังแสดงให้เคียร์เห็นว่า ตัวเขาเหนือกว่ามันในทุกด้าน
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,251
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ต้องอย่างนี้พระเอกเรา
ReplyDeleteสุดยอดดดด
ReplyDeleteขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง😊🙏
ถ้าอัญเชิญอัศวินมาตั้งแต่แรกพวกเอลฟ์ส่วนใหญ่ก็ไม่ตายหรอกนะ
ReplyDeleteตอนนั้นกริดประมาทครับกริดคิดว่าแค่ตัวเองกับเมอร์เซเดสก็จัดการได้แต่ก็จัดการได้จริงๆนั้นแหละแต่ไอเคียร์มันมีทักษะหนีบวกกับกริดที่ประมาทเลยทำให้เคียร์หนีได้
Deleteจะให้สวยงามตลอดก็ควไม่ได้หรอก มันeasyโหมดเกินไป
Delete