จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 840
[ ภูติลมระดับต่ำกระซิบว่า เขาจะทำให้ศรของท่านพุ่งได้เร็วขึ้น ]
[ ภูติลมระดับต่ำกระซิบว่า เขาจะโอบกอดหอกของท่านให้มีน้ำหนักเบาลง ]
[ ภูติลมระดับต่ำกระซิบว่า เขาจะทำให้ปากของท่านเบาลง ]
“ทำไมต้องปาก?”
“…???”
จิสึกะ ป็อน และฮิวรอยได้ทำพันธสัญญากับภูติลม
[ ภูติดินระดับต่ำสัญญากับท่านว่า เขาจะช่วยเสริมให้ร่างกายของท่านแข็งแกร่งขึ้น ]
เรกัสทำพันธสัญญากับภูติดิน
ภายในส่วนลึกของจิตใจ หลังจากเห็นกริดได้ทำสัญญากับภูติแสงระดับสูง พวกเขาค่อนข้างผิดหวังกับผลลัพธ์ที่ตัวเองได้
แต่ก็ไม่มีใครแสดงทางสีหน้า เพราะเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด หากไม่มีกริด พวกเขาคงไม่ได้ทำพันธสัญญาแม้แต่ภูติระดับต่ำตั้งแต่ต้น
การได้รับประโยชน์มากมายขนาดนี้ถือเป็นกำไรมหาศาล
‘สุดยอด’
จิสึกะและป็อนได้รับบัฟเพิ่มความเร็วโจมตีและอัตราแม่นยำจากภูติลม ส่วนฮิวรอยได้รับบัฟช่วยเพิ่มความเร็วในการด่าพ่อล่อแม่
ด้านเรกัสได้รับพลังป้องกันและค่าต้านทานเพิ่มเล็กน้อยจากภูติดิน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เขาพึงพอใจอย่างมาก
แต่ไหนแต่ไรมา ค่าพลังป้องกันที่ต่ำของคลาสอาชูร่าเป็นสิ่งที่คอยเหนี่ยวรั้งขีดจำกัดเรกัสไว้เสมอ
ขณะเดียวกัน คริสและเฟคเกอร์ได้รับผลตอบแทนเหนือจินตนาการ
[ ภูติลมระดับต่ำตระหนักว่าท่านว่องไวกว่า เขารีบหนีด้วยความหวาดกลัว ]
[ ภูติลมระดับกลางกระซิบกับท่านว่า ท่านจะมีช่วงเวลาที่ดีกับเขา ]
[ ภูติระดับต่ำทุกธาตุหวาดกลัวพลังทรราชย์ในร่างท่าน พวกเขารีบหนีอย่างไม่คิดชีวิต ]
[ ภูติดินระดับกลางสัญญากับท่านว่า เขาจะโอบกอดธรรมชาติอันแข็งแกร่งดุดันของท่านไว้ ]
เมื่อได้เห็นตัวเองและเฟคเกอร์ทำพันธสัญญากับภูติระดับกลาง คริสจึงเกิดสมมติฐานหนึ่งขึ้น—ระดับของภูติธาตุจะขึ้นอยู่กับเกรดของคลาส
เฟคเกอร์คือผู้ครอบครองคลาสรอง ‘ศิษย์ราชาเงา’ หลังจากข่านเสียชีวิต ส่วนคริสมีคลาสรอง ‘ทรราชย์’ ติดตัวอยู่ก่อนแล้ว
“น่าจะใช้ และคงเป็นสาเหตุที่กริดได้ทำพันธสัญญากับภูติระดับสูง”
“หืม…พวกเราจะมั่นใจได้ต่อเมื่อเห็นภูติของยูร่า”
นักล่าอสูรยูร่าจะได้ทำพันธสัญญากับภูติระดับสูงเหมือนกริดหรือไม่? ทุกคนต่างเฝ้ารอผลลัพธ์ด้วยใจจดจ่อ
***
แม่น้ำสายใหญ่ถูกปกคลุมด้วยหมอกพิษหนาทึบ มันคือหมอกซึ่งก่อให้เกิดอาการ ‘ติดพิษ’ หากสูดดมเข้าไป
ภูเขาไฟในบริเวณนี้ยังคงคุกรุ่นพร้อมปะทุตลอดเวลา การสั่นไหวของพื้นดินคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปรกติ
แค่ทรงตัวให้ตั้งตรงยังทำได้ลำบาก
ลำพังอุณภูมิจากลาวาเดือดก็มากพอจะแผดเผ่าทุกสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมที่ย่างกรายเข้ามาในบริเวณ
ที่นี่คือขุมนรกลำดับ 32
มันตกอยู่ในความโกลาหลมาพักใหญ่แล้ว นับตั้งแต่สูญเสียผู้ปกครองอย่างบีเลียล
สัตว์อสูรภายในขุมนรกออกอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง เผ่าอสูรที่ถูกระราน บางส่วนถึงกับต้องจากถิ่นที่อยู่และกลายเป็นพวกเร่ร่อน เหลือทิ้งไว้เพียงสัตว์อสูรแสนหิวโหยที่เดินขวักไขว่อย่างไร้จุดหมาย
ภายในสถานที่แห่งนี้ ทุกครั้งที่เสียงปืนดังขึ้น นั่นหมายถึงหนึ่งศพของสัตว์อสูร
ปัง! ปังปัง!
สัตว์อสูรจำนวนมากกลายเป็นแสงสีเทาทันทีเมื่อกระสุนทะลวงผ่านร่าง
ท่ามกลางหมอกพิษหนาทึบ เสาแสงเทาส่องสว่างขึ้นฟ้าเป็นระยะ
ฝูงสัตว์อสูรที่เห็นพวกพ้องตายไปต่อหน้า ความฮึกเหิมย่อมลดลงหลายระดับ
หางของพวกมันเริ่มตก ราวกับลูกสุนัขที่กำลังหวาดกลัวในบางสิ่ง
ทว่า สตรีเลอโฉมผู้นี้ไม่คิดปราณีหรือเห็นใจ เธอเคลื่อนที่ผ่านห้วงมิติไปปรากฏตัวด้านหลังพวกมัน จากนั้นกระซวกดาบใส่ปากเหล่าสัตว์อสูรที่พยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
ผิวพรรณอันขาวนวลชุ่มชะโลมด้วยโลหิตสีแดงฉาน
“แฮ่ก…แฮ่ก”
ถูกตัดขาดจากโลกมนุษย์โดยสิ้นเชิง
คงเป็นการยาก ที่บุคคลสติสมประกอบจะอาศัยในดินแดนรกร้างว่างเปล่าตามลำพังโดยไม่รู้สึกตึงเครียด
ยูร่าคือสตรีที่มีจิตใจหนักแน่นดั่งภูผา หากไม่นับการเผชิญหน้ากับกริดหนแรก เธอไม่เคยสูญเสียความเยือกเย็นแม้แต่ครั้งเดียว
ทว่า สถานการณ์ความโหดร้ายในขุมนรกคือของจริง ร่างกายและจิตใจเธอกำลังอ่อนล้าสุดขีด ยูร่าเริ่มบอกไม่ได้ว่า เสียงกรีดร้องที่ดังก้องในหัวตลอดเวลา คือเสียงจริงที่ได้ยิน หรือเพียงเป็นเพียงเสียงแว่วที่จิตของเธอสร้างขึ้น
ความนึกคิดกำลังปั่นป่วนและบิดเบี้ยว
แต่ถึงกระนั้น ยูร่ายังไม่คิดถอดใจ
เธอขยับร่างกายโดยไม่หยุดพัก
ฉากเบื้องหน้าคือสิ่งซ้ำซากจำเจตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แขนทั้งสองข้างยกขึ้นพร้อมกับเล็งปืนใส่สัตว์อสูรตามสัญชาตญาณโดยไม่ผ่านสมองนึกคิด
ปัง!
เธอเฝ้าฝันจะพัฒนาตัวเองให้อยู่ในระดับเดียวกับกริด ชายผู้โค่นท้องฟ้าที่ทุกคนบนโลกคิดว่าเกินเอื้อม
ยูร่าต้องการทวงศักดิ์ศรีในอดีตของเธอคืนมา
เธอต้องการเป็นระดับท็อปของโลกอีกครั้ง
ยูร่าต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนและตัวเองเห็นว่า นักล่าอสูรมิใช่ตัวเลือกที่ผิด เธอเองก็เป็นบุคคลระดับเดียวกับครอเกลและกริด
ยูร่าต้องการยืดอกอย่างภูมิใจในตอนที่กลับไปพบกริดอีกครั้ง
เธอไม่ต้องการเป็นภาระกริด หลังจากเลือกทอดทิ้งวิหารยาธานและเข้าร่วมกับฝ่ายโอเวอร์เกียร์
“…?”
ขณะกำลังก้าวขาต่อไปอย่างไร้จุดหมาย ร่างกายของเธอพลันชะงัก ดวงตาเริ่มสั่นระริก
น่าแปลก…
ภูมิประเทศที่เคยซ้ำซากจำเจตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ยามนี้กลับเปลี่ยนไปราวกับเป็นโลกคนละใบ
หากไกลออกไป ปราสาทสีดำหลังใหญ่ถูกปกคลุมด้วยหมอกสีเทาหนาทึบ
‘ปราสาทบีเลียล?’
ยูร่ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ภาพปราสาทเก่าหลังใหญ่กำลังสะท้อนบนกระจกตาที่สั่นเครือ
เธอเริ่มเกิดความหวัง บางที ปราสาทร้างแห่งนี้อาจมีสมบัติล้ำค่าของบีเลียลหลงเหลืออยู่
ถึงสัตว์อสูรร้ายที่เฝ้ายามจะทรงพลัง แต่ผลตอบแทนต้องคุ้มค่าแน่ สมบัติด้านในจะทำให้เธอพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
นี่มิใช่การคาดเดาเลื่อนลอย
เมื่อประเมินสถานภาพจอมอสูรภายในขุมนรก ปราสาทของมันต้องเต็มไปด้วยสิ่งล้ำค่า ทฤษฏีของยูร่ามีเหตุและผลรองรับ
ประตูชั้นนอกสุดที่เก่าโทรมและเปื้อนฝุ่น ยูร่าออกแรงผลักเปิดมันด้วยมือเปล่า
“…”
เธอหรี่ตาลงพร้อมกับกวาดสายตามองโดยรอบ
สัตว์อสูรหิวโหยและคลุ้มคลั่งจนกัดกินกันเองงั้นหรือ? เหตุใดสถานที่แห่งนี้ถึงเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าคะคลุ้งจากซากศพสัตว์อสูร
เธอย่างกรายไปทีละนิดด้วยฝีเท้าที่เงียบเชียบ
ขณะเดินเข้าใกล้ประตูท้องพระโรงหลัก ยูร่าสัมผัสได้ถึง ‘บางสิ่ง’ ที่อยู่ด้านหลังของประตู
เธอไม่ได้คิดไปเอง
[ ท่านสัมผัสถึงพลังอสูรปริมาณมหาศาล ]
[ ท่านเข้าสู้โหมด ‘พร้อมรบจนตัวตาย’ ]
[ การควบแน่นของมานารวดเร็วขึ้น 10% ]
[ พลังโจมตีและป้องกันเพิ่มขึ้น 15% ]
[ ค่าต้านทานเวทมนตร์เพิ่มขึ้น 20% ]
ทักษะติดตัวที่ไม่เคยแสดงผลเลยนับตั้งแต่เผชิญหน้าจอมอสูรบีเลียลเมื่อปีก่อน สิ่งนี้บอกกับเธอเป็นนัยว่า สมบัติด้านในปราสาทต้องยิ่งใหญ่เหนือกว่าที่จินตนาการเอาไว้แน่
ยูร่ากลืนน้ำลายพลางเพ่งสมาธิ
‘เลเวลของเราสูงกว่าสามร้อยแล้ว’
แถมสถานที่แห่งนี้ยังเป็นขุมนรก ขีดจำกัดและค่าสถานะของเธอถูกรีดเร้นจนถึงจุดสูงสุด
ยูร่าในปัจจุบันคือตัวตนที่ทรงพลังยิ่งกว่าเมื่อครั้งล่าบีเลียลหลายสิบเท่า
เธอตระหนักถึงความแข็งแกร่งของตัวเอง ยูร่าสงบจิตใจและอารมณ์ฟุ้งซ่าน จากนั้นก็ผลักประตูออกไปด้วยฝ่ามือเรียวงาม
ประตูเหล็กเก่าของท้องพระโรงหลักปราสาท มันถูกดันแง้มเข้าไปด้วยเสียงแหลมลึกบาดหู ทว่า สิ่งที่รออยู่ด้านในมิใช่สมบัติล้ำค่า หากแต่เป็น ‘มนุษย์เพศชาย’ ซึ่งกำลังนั่งบนบัลลังก์ใหญ่ภายในท้องพระโรงอันมืดมิด
ตัวตนของชายคนนั้นทำให้หัวใจเธอแทบหยุดเต้น
“นายมาทำอะไรที่นี่?”
ยูร่าเอ่ยปากถามชายบนบัลลังก์ด้วยน้ำเสียงสั่นระริก
บุคคลเดียวในโลกที่ทำให้เธอสูญเสียตัวตนและความเยือกเย็น—กริด
ทำไมน่ะหรือ?
เพราะกริดคือคนเดียวในโลกที่ทำสิ่งเหนือความคาดหมายของเธอเสมอ
ใช่แล้ว เหมือนกับในตอนนี้
“วิชาดาบแพ็กม่า”
ชายบนบัลลังก์ลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมกระโจนมาด้านหน้า จากนั้นก็เริ่มรำดาบ
ดวงตาเรียวแหลมดุจดั่งพญาเหยี่ยวกำลังจดจ้องเธอโดยไม่กระพริบ
“มายาร่ายรำสังหารคลื่นทำลายล้าง”
รัศมีดาบที่สามารถบดขยี้ทุกสิ่งให้หายไปจากโลก พวกมันพุ่งโถมใส่ยูร่าจากทุกทิศทางโดยไม่เหลือช่องว่างให้หลบหนี
“…!!”
ปราสาทเก่าขนาดมหึมาที่เคยเป็นสัญลักษณ์แสดงอำนาจของจอมอสูรบีเบียล ยามนี้พังครืนลงในพริบตาราวกับเป็นเพียงปราสาททรายเด็กเล่น
***
ในช่วงระยะหลัง สมาชิกโอเวอร์เกียร์มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก แปรผันตามความโด่งดังของกริด
ลอเอลจะเชื้อเชิญผู้เล่นที่มีพรสวรรค์สูงเข้าร่วมกิลด์โดยอาศัยชื่อกริดเป็นสิ่งดึงดูด
ปัจจุบัน ประชากรกิลด์โอเวอร์เกียร์มีจำนวนทั้งสิ้น 620 คน
หากประเมินจากสัดส่วนคลาส กิลด์โอเวอร์เกียร์ค่อนข้างขาดความสมดุล เพราะสมาชิกเกินกว่าครึ่งคือคลาสสายผลิต
แต่ในมุมมองลอเอล สิ่งนี้คือก้าวเดินที่ถูกต้อง เพราะหากคำนึงถึงขุมพลังกองทัพระดับอาณาจักรในภาพรวม การมีคลาสสายผลิตที่เก่งจำนวนมากย่อมดีกว่าสายต่อสู้
“ช่างตีเหล็กทุกคนได้ทำพันธสัญญากับภูติไฟสินะ”
“ถูกต้อง แพนเมียร์ก็ด้วย”
“ชิ…แล้วทำไมฉันถึงเป็นคนเดียวที่ได้ภูติแสง? ผู้สืบทอดแพ็กม่าไม่ใช่ช่างตีเหล็กรึไง?”
กริดยึดติดกับ ‘ดยุคแห่งไฟ’ มากกว่าที่ตัวเองคิด ย่อมช่วยไม่ได้ เขาจำเป็นต้องไล่ตามเงาแพ็กม่า เพื่อรวมรวบเศษเสี้ยวพลังของชายคนนั้นให้ได้มากที่สุด
ลอเอลพยายามปลอบประโลม
“ภูติแสงมีระดับสูงกว่าภูติธาตุทั่วไปมิใช่หรือ? กระหม่อมได้ยินมาว่า ภูติแสงและมืดจะเลือกรับใช้ราชวงศ์เอลฟ์เท่านั้น ประสิทธิภาพโดยรวมจึงควรสูงกว่าภูติไฟที่ฝ่าบาทต้องการ ได้โปรดพึงพอใจในสิ่งที่มีด้วย”
“ฉันรู้ แต่ภูติแสงจะมีประโยชน์ไม่มากหากศัตรูไม่ใช่ธาตุมืด”
“แต่ภูติไฟก็แพ้ทางศัตรูธาตุน้ำเช่นกัน มีผลลัพธ์ใดที่มอบความพึงพอใจให้ฝ่าบาท 100% ด้วยหรือ?”
“ฉันมองปัจจัยด้านอื่น ภูติไฟจะมีประโยชน์ที่หลากหลาย ทั้งด้านตีเหล็ก รวมถึงด้านประกอบอาหารระหว่างเดินทางไกล”
“…ฝ่าบาทกินแต่เนื้อแดดเดียวอยู่แล้วไม่ใช่รึไง”
กริดเริ่มหาเหตุผลเพื่อแถให้ชนะลอเอล
ทว่า ลอเอลมิได้ใส่ใจ เขาพยายามทำทุกวิธีเพื่อให้กริดใจเย็นลง
ลอเอลมองออกไปนอกหน้าต่าง
สมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์หลายร้อยคนกำลังยืนรวมตัวไม่ห่างจากต้นไม้โลกมากนัก
ทุกคนมีสีหน้าเปี่ยมสุข พวกเขาทำพันธสัญญากับภูติธาตุสำเร็จ โดยหลายคนกำลังกล่าวคำสรรเสริญกริดไม่ขาดปาก
“ฝ่าบาททำได้เยี่ยมมากในครั้งนี้”
“แล้วนายทำพันธสัญญากับภูติธาตุรึยัง?”
“แน่นอน ทันทีที่ย่างกรายเข้ามาในเขตหมู่บ้าน กระหม่อมรีบทำตามเสียงกระซิบจากอีกตัวตนในดวงวิญญาณโดยไม่รีรอ”
ชายหนุ่มหันไปมองลอเอลที่กำลังใช้ฝ่ามือปิดครึ่งใบหน้าพลางเชิดคางหัวเราะไหล่สั่น
เขาถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“นายได้ภูติมืดรึไง?”
“ถูกต้อง กระหม่อมลังเลระหว่างภูติไฟและภูติมืด แต่ด้วยอำนาจของเพลิงมังกรทมิฬที่ผนึกอยู่ในแขนขวานี้ กระหม่อมจึงตัดสินใจเลือกภูติมืด”
“บ้าน่า…”
ระบบของซาทิสฟายน่าขนลุกฉิบ…
ราวกับมันอ่านจิตใจส่วนลึกของผู้เล่นและเลือกตอบสนองอย่างเหมาะสม
ลอเอลหันมาถามเพื่อให้กริดยืนยันเป็นครั้งสุดท้าย
“หากสมาชิกทั่วไปของโอเวอร์เกียร์จับทีมกับสมาชิกระดับขุนพล แบ่งออกเป็นทีมละแปดคน ทุกทีมสามารถแยกกันล่าหมีหมาป่าได้ทีมละหนึ่งตัว มีสิ่งใดผิดพลาดในคำสั่งนี้หรือไม่?”
“ไม่มี”
“ฝ่าบาททราบถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นอย่างดีแล้วใช่ไหม? คนเหล่านั้นพัฒนาตัวเองขึ้นมากหลังจากเหตุการณ์ปราบจอมอสูรบีเลียล”
“แน่นอน”
“หมีหมาป่าแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียว?”
“แข็งแกร่งมาก และนั่นคือเหตุผลที่ฉันทิ้งเมอร์เซเดสกับจู๊ดไว้ที่นี่ คอยช่วยเหลือกลุ่มที่พลาดพลั้ง”
“ฝ่าบาทจะไปคนเดียวจริงหรือ?”
กริดประกาศชัดเจนว่าเขาจะแทรกซึมเข้าไปทำลายเมืองของราชาพ่อค้าตามลำพัง
สิ่งนี้ทำให้ลอเอลเป็นกังวล
แม้กริดจะเก่งกาจขนาดจัดการอัศวินของเคียร์ได้ราบคาบ แต่ภายในเมืองย่อมมีทหารประจำการหลายพัน รวมถึงผู้เล่นอีกหลายร้อย แถมทุกคนยังเป็นแรงเกอร์ที่ได้รับของสวมใส่เกรดสูงจากเคียร์
การที่ทั้งหมดจะถูกบดขยี้ด้วยฝีมือผู้เล่นเพียงหนึ่งคน สิ่งนี้ออกจะเหนือสามัญสำนึกลอเอลไปสักหน่อย แม้เขาจะใกล้ชิดกริดยิ่งกว่าใครทั้งหมด
แรงเกอร์ยุคใหม่พัฒนาขึ้นจากแต่ก่อนมาก แม้จะเป็นแรงเกอร์ปลายแถว แต่พวกมันล้วนไม่ใช่ไอ้งั่ง
กริดยักไหล่
“ไม่ห้องห่วง…ฉันแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น”
เคียร์หมดสิทธิ์หนีรอดจากกริดในวินาทีที่แอ็กนัสกลายเป็นตำนาน
เมื่อศัตรูคู่อาฆาตพัฒนาขึ้นจนทำให้กริดต้องตื่นตัว หมายความว่า เขาไม่มีทางปล่อยให้เคียร์กลายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในอนาคต กริดเปลี่ยนใจคิดทำลายเคียร์ให้สิ้นซากด้วยระยะเวลาสั้นที่สุด
“ฉันต้องเร่งมือ ไม่อย่างนั้นเคียร์อาจติดต่อแอ็กนัส”
จักรวรรดิซาฮารัน
อิมมอทัล
วิหารยาธาน
จอมอสูร
กริดไม่คิดมองข้ามทุกฝ่ายที่เป็นปรปักษ์
ชายหนุ่มเดินทางออกจากป่าต้นไม้โลกโดยมีจุดหมายปลายทางคือเมืองราชาพ่อค้า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,254
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
เคียร์เอย นายล้มละลายแน่คราวนี้ 😱😱 ยูร่าจะเป็นยังไงบ้างตอนนี้ ?🤔🙏
ReplyDeleteล้างแค้น!!!!!
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ🙏
ReplyDeleteร่างโคลนกริดที่หมู่เกราะเบเฮ็นตอนนี้เก่งขนาดจอมอสูรเลยหรอ!?แถมมีทักษะผมสาน5ทักษะด้วย!กริดตัวจริงมีสูงสุดตอนนี้แค่4เอง
ReplyDeleteและมี4ผสานแค่ท่าเดียว กริดยังไม่มี4ผสานท่าอื่นเพิ่มเลย ถ้าเจอกับร่างโคลนจะได้ท่าเพิ่มเหมือนแต่ก่อนรึป่าว
Deleteกริดที่มีเลือดเท่าบอสและยังเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ควบคุมด้วยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์งั้นรึ แถมยังมีพลังมากกว่าตัวจริงด้วยนะ
ReplyDeleteฮิวรอย ได้แรปเร็วขึ้น😆
ReplyDeleteโฟกัสผิดจุดป่าวพี่ 555+ ได้รับสมญา อีเมเนม จะพัฒนาไปเป็น ก็อตแร็พ 555+ ตึงจัด
Delete