จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,472



ละอองเกสรที่ถูกสายลมพัดพา เหลือทิ้งร่องรอยสีเขียวไว้บนขอบหน้าต่าง เป็นสัญญาณของฤดูใบไม้ผลิ


แตกต่างจากทางตอนกลางซึ่งมีอากาศเย็นในฤดูหนาว ทางตอนใต้นั้นมีอากาศอบอุ่น


ท้ายซอยมีเสียงเด็กวิ่งเล่น


ภรรยาพูดคุยขณะรดน้ำดอกไม้ด้วยเสียงเรียบ และบนราวตากผ้าที่แขวนอยู่ระหว่างบ้าน ผ้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของชาวเมืองในละแวกใกล้เคียง กำลังถูกตากจนใกล้แห้ง


ทิวทัศน์ของหมู่บ้านดูแสนธรรมดา ไม่มีสิ่งพิเศษ


ผู้เล่นไม่พบความผิดปรกติใดๆ จนกระทั่งดวงจันทร์สุกสว่างปรากฏขึ้นท่ามกลางท้องฟ้ามืดครึ้ม


อ๊ากกกก!!


“ก…เกิดอะไรขึ้น!?”


“เฮ้!”


เด็กผู้ชายที่กำลังเตะบอล เด็กสาวที่กำลังอวดแหวนดอกไม้ วัยรุ่นที่ช่วยงานพ่อแม่ และชายคนวัยกลางคนที่กำลังโอ้อวดประสบการณ์ในค่ายทหาร ภรรยาที่ยิ้มแย้มทักทายใจดีแต่เข้มงวด รวมไปถึงหัวหน้าหมู่บ้านที่คอยพูดคุยกับผู้คนด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส


ชาวบ้านดูธรรมดาๆ ในตอนกลางวัน กลับกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดอย่างกะทันหัน


เจ้าของโรงแรมที่เคยยกอาหารมาให้ด้วยหน้าตาเป็นมิตรเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับใช้มีดแทงหลังของผู้เล่นคนหนึ่ง


หัวหน้าหมู่บ้านที่ขอร้องไม่ให้ดื่มมากไปเพื่อรอทำภารกิจในวันพรุ่งนี้ กลับจุดไฟเผาทางเข้าโรงแรม


ดวงตาของมันแดงก่ำ ผิวกายแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง


ตัวตนที่แท้จริงของชาวบ้านคือ ‘ครึ่งอสูร’ ที่เคยได้ยินจากข่าวลือ


“บัดซบ!! พวกเราไม่สังเกตเห็นได้ยังไง?”


นักสู้ซึ่งถูกมีดแทงหลังขณะกินซุป อุทานขึ้นด้วยอาการแตกตื่น เนื่องจากตัวเองก็มีเชื่อเสียงไม่น้อย จึงโต้กลับอย่างคล่องแคล่วดุจดังสายน้ำ ปลดปล่อยท่าไม้ตายใส่ใบหน้าเจ้าของโรงแรม


นักดาบคนหนึ่งตะโกนตอบขณะที่ภรรยากำลังเข้าใส่ด้วยกระทะ


“พวกเราไม่ได้ประมาท แต่อีกฝ่ายไม่มีกลิ่นอายพลังเวทเลย”


จอมเวทที่ถูกลูกสาวและลูกชายเจ้าของโรงแรมแทงใส่ต้นขาจนล้มลง สบถอย่างหัวเสีย


“ไอ้พวกลูกหมา… ข่าวลือเรื่องที่ครึ่งอสูรสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเป็นความจริงสินะ… นับวันยิ่งปกปิดตัวตนได้แนบเนียน”


“คาเวียร์!”


“เวลาจะเรียกชื่อใคร ช่วยหันมามองก่อนได้ไหม… คึ่ก!”


“อ๊ากกก…!”


เพียงห้านาที ปาร์ตี้ผู้เล่นถูกกวาดล้างจนเกลี้ยง


ทั้งที่เป็นปาร์ตี้ขนาดกลางซึ่งประกอบด้วยกลุ่มผู้เล่นแปดคน แต่ละคนมีเลเวลขั้นต่ำสามร้อย


การโจมตีของครึ่งอสูรทั้งรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงมาก ทันทีที่ผู้เล่นเห็นเจ้าของโรงแรมและภรรยากลายร่าง ภาพการมองเห็นของหลายคนก็กลายเป็นสีขาวดำ จากนั้นก็ลืมตาอีกครั้งที่จุดคืนชีพ


เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทั่วโลก นั่นทำให้หลายคนเกิดอารมณ์หดหู่


เมืองและชาวบ้านที่พวกมันอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นเวลาหลายเดือน บางคนนานหลายปี ล้วนแล้วแต่แปรสภาพกลายเป็นครึ่งอสูร


“บ…บ้าบอสิ้นดี…”


“บัดซบ! ฉันอยู่ในเมืองนี้มาหลายปีแล้ว! เคยกินดื่มข้าวคืนกับพวกเขา! เดิมทีพวกเขาไม่ใช่ครึ่งอสูร! ว๊ากกก!”


ความวุ่นวายก่อตัวขึ้นทั่วทั้งทวีป


ข่าวด่วนเกิดขึ้นทุกหัวระแหง ระบุว่าชาวบ้านในหมู่บ้านและเมืองหลายร้อยแห่งได้กลายเป็นครึ่งอสูรอย่างกะทันหัน


จำนวนผู้เล่นเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากหลายพัน เป็นหลักหมื่นภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน


ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างครึ่งอสูรและผู้เล่น หมู่บ้านและเมืองหลายสิบแห่งถูกทำลาย


เผาเอลฟ์เองก็ได้รับผลกระทบ หลายคนกลายเป็นดาร์คเอลฟ์


เหตุการณ์นี้มิได้เกิดกับ ‘เอลฟ์แห่งต้นไม้โลก’ แต่เป็นเอลฟ์ชายหญิงที่ตัดสินใจละทิ้งต้นไม้โลกหลังจากเผชิญเหตุการณ์บางอย่าง


ทว่า หลังจากถูกพลังงานปีศาจกัดก่อนที่ใดสักแห่ง พวกมันได้กลับไปยังต้นไม้โลกที่เป็นบ้านเกิด


แน่นอน นี่ไม่ใช่การสำนึกรักบ้านเกิด


พวกมันเป็นราวกับมีดอันแหลมคมที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร


กองทัพจักรวรรดิที่ตรึงกำลังบริเวณชายแดนป่าต้นไม้โลกถูกดาร์คเอลฟ์กำจัด


กว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะได้รับข่าว บาซาร่าก็ส่งกองทัพใหม่ออกไปเสริมเรียบร้อยแล้ว


เป็นการตอบสนองที่รวดเร็ว แต่สีหน้าลอเอลกลับมืดมน


“จักรวรรดิแบ่งกองทัพออกเป็นหลายส่วนและกระจายกันไปกวาดล้างครึ่งอสูร… เกิดเป็นสงครามกลางเมืองทุกหัวระแหง… พวกเขาไม่น่าจะมีกำลังทหารมากพอที่จะส่งไปไปยังต้นไม้โลก”


ในเหตุการณ์ครึ่งอสูร จักรวรรดิได้รับความเสียหายมากกว่าใคร


ปัญหาหลักก็คือ อาณาดินแดนกว้างใหญ่เกินไป และมีผู้คนมากเกินไป


ในจักรวรรดิเต็มไปด้วยหมู่บ้านนับไม่ถ้วน และเป็นเรื่องยากที่จะจัดการได้ทั้งหมด


แถมยังมีการก่อตั้งหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ห่างไกล ‘ตลอดเวลา’


แม้จะพบตรวจหมู่บ้านและทำการกวาดล้างขณะลาดตระเวนเป็นระยะ แต่ในเวลาเดียวกันก็มีหมู่บ้านถูกสร้างขึ้นใหม่ในตำแหน่งอื่น


เรื่องราวเช่นนี้จึงดูเหมือนว่าจะไม่มีที่สิ้นสุด


ผู้คนซึ่งอาศัยในหมู่บ้านที่ไม่ได้รับอนุญาตเหล่านี้ ง่ายต่อการตกเป็นเป้าหมายของครึ่งอสูร


เนื่องจากไม่ได้รับคุ้มครองจากจักรวรรดิ วิหารยาธานจึงลอบแทรกซึมเข้าไปได้สบาย


“พวกเราควรส่งกำลังเสริม… ไม่มีทางเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าต้นไม้โลกตกอยู่ในมือศัตรู… ต้องส่งยอดฝีมือที่สามารถลงมือได้ไวไปทำภารกิจ”


“ผู้ส่งสาร?”


“ใช่… ได้โปรดอนุญาตด้วย”


ลอเอลคุกเข่าหนึ่งข้างพร้อมกับก้มหัว


มันอดไม่ได้ที่จะโค้งศีรษะลงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกริดซึ่งมีออร่าสีแดงรายล้อม


เทพโอเวอร์เกียร์กำลังแผ่กลิ่นอายความสูงส่งออกมาอย่างท่วมท้น


ลอเอลรู้สึกทึ่งกับความยิ่งใหญ่ของสีสัน พวกมันกลมกลืนกับสีน้ำเงินเข้มของละโมบ


ย้อนกลับไปเมื่อครั้งแรกที่ได้เห็น ลอเอลแทบกลายเป็นบ้า


ครั้งที่สองก็ยังไม่ต่างกัน มันอิจฉาจนยากจะควบคุมสติ


บางครั้ง มันก็ส่งข้อความเสียงไปหา ‘นักสร้างสกิน’ คูเซฮา โดยหวังว่าจะมีสกินแบบนี้บ้าง


นักสร้างสกินเป็นราวของขวัญจากพระเจ้าสำหรับลอเอล เป็นที่เชื่อกันว่า ลอเอลน่าได้กลายเป็นผู้สนับสนุนหลักของผู้มีพระคุณนามว่าคูเซฮาไปที่เรียบร้อยแล้ว


“ส่งบราฮัมกับเนเฟลิน่าไปก็แล้วกัน… พวกเขาน่าจะว่าง”


เหนือชาวนาและอัศวิน ปิอาโร่และเมอร์เซเดสเป็นแม่ทัพและผู้บัญชาการสงคราม จำเป็นต้องเข้าร่วมการประชุมยุทธศาสตร์และช่วยฝึกกองทัพ


แอสการ์ดคงกำลังเฝ้าจับตามองซาลิเอล และเธอจะกลายเป็นเป้าหมายหากเดินทางออกนอกอาณาจักรโอเวอร์เกียร์โดยลำพัง


ซิกเฟรคเตอร์…


สภาพปัจจุบันย่ำแย่เกินกว่าจะไว้ใจให้ทำภารกิจ


“เรื่องฝีมือการต่อสู้คงไม่ต้องห่วง… แต่ว่า… ยังมีเรื่องอื่นที่น่ากังวล”


ขณะกริดครุ่นคิดและเตรียมส่งคนไปแจ้ง คำตอบของลอเอลได้สร้างความวิตก


“ถ้าส่งพวกเขาสองคนไป จะไม่ถูกบรรยากาศชักนำจนเผลอเผาต้นไม้โลกหรอกหรือ?”


“……”


บราฮัมอาจเป็นดยุคแห่งปัญญา แต่ก็ชอบทำอะไรตามอารมณ์


ขณะเดียวกัน เนเฟลิน่าเป็นมังกร แต่เธอก็ยังเด็ก


นอกจากนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ยังไม่ค่อยดีนัก


เป็นคู่ที่ถูกอารมณ์และบรรยากาศชักนำได้ง่ายที่สุด เพราะเต็มไปด้วยความรู้สึกของการแข่งขัน


กริดขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงการ ‘โทรลล์’ ในอดีตของบราฮัม


“ถ้าอย่างนั้น… ควรส่งเมอร์เซเดสไป?”


“เธอเองก็… บางครั้งก็ไม่รู้จักคำนึงถึงผลที่จะตามมา”


“……”


เป็นอีกครั้งที่กริดตระหนักได้


เหล่าผู้ส่งสารของตน


ทุกคนล้วนมีความพลังที่โดดเด่น และมีศักยภาพยิ่งใหญ่ในอนาคต


แต่บุคลิกกลับผิดเพี้ยน


นี่เป็นปัญหาที่ค่อนข้างน่ากังวล จนถึงขั้นที่กริดไม่กล้ามอบหมายงานเดี่ยว


‘จริงอยู่ ทุกคนค่อยๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ว่า… หรือผู้ส่งสารคนที่เจ็ด… เราควรเลือกคนธรรมดา?’


กริดพึมพำกับตัวเองก่อนจะเสนออีกชื่อหนึ่ง


“แล้วปิอาโร่?”


“เป็นตัวเลือกที่ดี… พวกเราควรส่งอัศวินสีแดงทั้งหมดโดยมีปิอาโร่และอัสโมเฟลเป็นแกนหลัก… ก่อนเกิดมหาสงครามระหว่างมนุษย์และอสูร พวกเขาควรเรียนรู้ที่จะสามัคคีเหมือนแต่ก่อน… นอกจากนั้น ภรรยาของปิอาโร่ยังเป็นเอลฟ์ ภารกิจนี้จึงมีแรงจูงใจ”


“ตกลง”


สำหรับผู้ส่งสารคนที่เจ็ด เราจะเลือกคนธรรมดา…


กริดสาบานกับตัวเอง


“มีรายงานด่วนจากไซเรน”


ทันใดนั้นหน่วยข่าวกรองคนหนึ่งเดินเข้ามา


“สัตว์ทะเลจำนวนมากกลายเป็นสัตว์อสูรและกำลังโจมตีไซเรน”


“สัตว์ทะเล? หมายถึงมอนสเตอร์จำพวกคราเค่น?”


หน่วยข่าวกรองอธิบายให้กริดฟัง


“…ปลาธรรมดาจำนวนหนึ่งกลายเป็นสัตว์อสูร”


ใบหน้าลอเอลพลันแข็งทื่อ


“ชาวประมงกำลังตกอยู่ในอันตราย… พวกเราจำเป็นต้องเร่งมือสร้างแนวป้องกันชายฝั่ง… แล้วคำขอของไซเรนคืออะไร?”


“พวกเขาร้องขอทหารชำนาญศึกห้าพันนาย”


ในปัจจุบัน ทหารชำนาญศึกจำนวนห้าพันนายถือว่ายังน้อยสำหรับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ สามารถส่งไปได้ทันทีโดยไม่ต้องรอระดมทัพ


แต่ปัญหาในคราวนี้ก็คือ ต้องสามารถต่อสู้ใต้น้ำได้ด้วย


โอเวอร์เกียร์เป็นพันธมิตรกับไซเรนมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว ย่อมต้องเคยศึกษาเทคนิคการหายใจใต้น้ำ


แต่การหายใจใต้น้ำได้ ไม่ได้แปลว่าจะต่อสู้ในน้ำได้ดี


‘ภายในเมืองไซเรนไม่มีแรงดันน้ำ… แต่ปัญหาคือระหว่างทางก่อนที่จะเข้าไป’


ไซเรนระบุว่าพวกตนถูกโจมตี และตอนนี้น่าจะกำลังถูกล้อม


เพื่อจะตีฝ่าศัตรูรอบไซเรนเข้าไป ทหารต้องเชี่ยวชาญการรบใต้น้ำ รวมถึงมีพลังที่สามารถเอาชนะแรงดันน้ำ


‘เมื่อสองสามปีก่อน ‘โซลเยอร์’ เคยถูกฝึกกับของทัพเรือ แต่เขายังไม่มีประสบการณ์รบจริง… คงต้องส่งสมาชิกรุ่นแรกๆ อย่างทูนไปก่อน’


ในความเป็นจริง ทางออกที่ง่ายที่สุดคือการส่งบราฮัมไป


ทว่า สิ่งที่ไซเรนต้องการคือทหารชำนาญศึกห้าพันนาย


การลงทุนส่งบราฮัม ออกจะเกินคำขอไปหลายเท่า


มูลค่าของบราฮัมไม่ใช่แค่กองทัพห้าพันนาย แต่เป็นห้าแสนนาย


ปัจจุบัน ขอบเขตระหว่างนรกกับโลกมนุษย์ค่อยๆ พังลง แถมยังมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นทั่วทวีป กริดต้องบริหารผู้ส่งสารให้ดี


“กำลังเสริมของไซเรน… เราจะส่งคนที่ไม่ได้เข้าร่วมทีมสำรวจนรก รวมถึงคนที่ตายกลางทาง”


“จะส่งทหารไปกี่นาย?”


“ถ้าพวกเขาขอห้าพัน ฉันก็ต้องส่งไปอย่างน้อยห้าพัน… ผู้เล่นผสมกับกองทัพเรือ พวกเขาจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วย”


“ฟังดูเข้าท่า… ฉันเคยเห็นทหารเรือที่เกาะคอร์ก… พวกเขาดูเบื่อๆ”


อันที่จริง โอเวอร์เกียร์ไม่จำเป็นต้องส่งทหารห้าพันนาย ขอเพียงส่งทูนไป


สองพันก็เหลือเฟือแล้ว


ทว่า ในเมื่อพันธมิตรร้องขอเช่นนั้น คงเป็นการดีกว่าหากจะไม่ขัดข้อง


พวกตนต้องแสดงความจริงใจ เพื่อสร้างความไว้วางใจและรักษาความสัมพันธ์ให้แนบแน่น


“ฉันจะส่งโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองไปด้วย”


“หมายเลขสอง?”


“ตั้งแต่กลายเป็นลิช หมายเลขสองสามารถแยกตัวไปทำภารกิจได้… ฉันเองก็อยากทดสอบว่าจะอยู่ห่างกันได้ไกลแค่ไหน”


“กำลังจะบอกว่า… การอัญเชิญไม่หายไปแม้ฝ่าบาทจะไม่อยู่ใกล้ๆ?”


“ถูกต้อง มันแยกตัวจากฉันได้อย่างอิสระ เว้นเสียแต่พลังชีวิตจะหมด หรือยกเลิกการอัญเชิญ”


ผู้เล่นคลาสหมอผีจะต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเรื่องนี้


โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากฝีมือเบริอาเช่ อดีตจอมอสูรอันดับสาม และพวกมันเต็มไปด้วยคุณสมบัติพิเศษ จะเรียกว่าปาฏิหาริย์เดินดินก็ไม่ผิดนัก


แต่กริดก็ไม่มั่นใจว่า ภายในไซเรนซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่หลายพันกิโลเมตร การอัญเชิญจะหายไปหรือไม่


ดังนั้น ชายหนุ่มจึงต้องการทดสอบ


ลอเอลเผยสีหน้าเป็นกังวล


“ฉันไม่เชื่อว่าหมายเลขสองจะยังทำงานได้โดยปราศจากฝ่าบาท… หากมันทำตัวอ่อนแอในไซเรน ฝ่าบาทอาจได้รับความอับอาย”


ลอเอลไม่เคยเคลือบแคลงในพลังของโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสอง


ลิชคือหนึ่งในยอดพีระมิดของอันเดด ยิ่งไปกว่านั้น หมายเลขสองยังสวมใส่ไอเท็มที่กริดสร้างในระยะหลัง


สิ่งเดียวที่ลอเอลกังวลคือ ความสมบูรณ์ของปัญญาประดิษฐ์


เมื่อไม่มีเจ้านายอยู่ใกล้ๆ มันจะตัดสินใจและทำหน้าที่ได้ดีสักแค่ไหนเชียว?


ลอเอลไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของกริดต้องเสื่อมเสียเมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอก


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ผู้คนในไซเรนมีวัฒนธรรมและนิสัยที่แตกต่างออกไป ศาสนาโอเวอร์เกียร์จึงเผยแพร่ได้ค่อนข้างช้าภายในนั้น


หนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้คนไม่ศรัทธาก็คือ การขาดพลังอำนาจอันเป็นที่ประจักษ์


กริดหันไปถามโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองซึ่งกำลังทุบค้อนเสียงดัง


“หมายเลขสอง… ฉันไว้ใจนายได้ไหม?”


> ได้… ข้าจะตอบแทนความคาดหมายของนายท่าน


หมายเลขสองวางค้อนลงพร้อมกับตอบขณะหมอบไปกับพื้น


เป็นท่าทีราวกับว่า ไม่มีความจำเป็นต้องสาธยายให้ยืดยาว


ขอพิสูจน์ด้วยการกระทำ


ภาพโครงกระดูกมาดสง่างามซึ่งถูกรายล้อมด้วยพลังเวทสีดำสนิท รวมถึงดวงตาที่ส่องประกายแวววาว ทำให้ลอเอลเกือบหยุดหายใจ


“อึก… คลื่นพลังเวทพวกนี้… กำลังเรียกหามังกรทมิฬ!!”


“ไสหัวไปได้แล้ว”


เมื่อเห็นเปลวไฟสีแดงเข้มปะทุจากแขนซ้ายลอเอล กริดก็ขมวดคิ้วพลางโบกมือไล่


ชายหนุ่มตัดบทก่อนที่บทสนทนายืดยาวจะเริ่มขึ้น


ปัจจุบัน กริดกำลังยุ่งมาก เพราะต้องคิดค้นไอเท็มสวมใส่ให้ผู้ส่งสาร


เรียกได้ว่างานกำลังล้นมือ


ทันใดนั้น


[ขวัญกำลังใจของทหารพันธมิตรกำลังถดถอย]


[ค่าเรี่ยวแรงและฝีมือของทหารพันธมิตรลดลง 40%]


“……?”


ทันใดนั้น ข้อความแจ้งเตือนสุดประหลาดปรากฏขึ้น


กริดพลันชะงักกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ส่วนลอเอลรีบตรวจสอบความผิดปรกติ


ผ่านไปสักพัก


“มีรายงานเข้ามาว่า โบสถ์หลักของทั้งสามเทพเริ่มทำการปลุกระดมสิ่งต่างๆ”


หลังจากเข้าใจสถานการณ์ ลอเอลอธิบายด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว


“พวกมันกุเรื่องว่า… ครึ่งอสูรเกิดขึ้นเพราะอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไล่ทำลายสัญลักษณ์ของเทพ…”


“ไม่เข้าร่วมยังไม่พอ… ตอนนี้ยังจะตั้งตัวเป็นศัตรู?”


“ครึ่งอสูร ดาร์คเอลฟ์… สัตว์อสูรทะเล… พวกมันกำลังใช้สถานการณ์นี้เป็นโอกาสในการหาความชอบธรรม… ยิ่งผู้คนแตกตื่น อิทธิพลของศาสนาก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น… ศาสนาของสามเทพเป็นเพียงหลักยึดเหนี่ยวเดียวที่สามารถสยบความโกลาหลนี้… ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกมันวางแผนเพิ่มจำนวนสาวกด้วยการโยนความผิดให้เรา”


“เป็นเพราะผู้คนเอนเอียงไปทางสามเทพ ทหารพันธมิตรจึงเกิดความสั่นคลอน?”


ทันใดนั้น ข้อความจากโลกปรากฏขึ้น


[ผู้คนหันมาศรัทธาในเทพธิดารีเบคก้ามากขึ้น]


[ผู้คนหันมาศรัทธาในเทพโดมิเนียนมากขึ้น]


[ผู้คนหันมาศรัทธาในเทพยูดาห์มากขึ้น]


มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ น้อยคนนักที่จะเลือกใช้ชีวิตตามลำพัง


ยิ่งผู้คนได้เผชิญเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ พวกมันก็ยิ่งนับถือสิ่งที่เหนือธรรมชาติ


และนั่นหมายถึงการหันไปพึ่งพาเทพ


นี่คือโอกาสทองที่สามศาสนาหลักเฝ้ารอ


“เข้าใจแล้วว่าทำไม… พวกลัทธินอกรีตมันถึงได้มีที่ยืนในสังคม”


“ฝ่าบาท?”


“ฉันจะหาสันตะปาปา”


กริดที่ไม่เคยหยุดทำงานแม้จะกำลังคุยกับลอเอล ตัดสินใจวางค้อนลงเป็นครั้งแรก


ลอเอลรู้สึกเย็นสันหลังอย่างบอกไม่ถูก


ณ ลานโล่งด้านนอกโรงตีเหล็ก เฮสเตอร์ที่กำลังสู้กับหัตถ์เทวะพลันตื่นตระหนก


เป็นเพราะหัตถ์เทวะทั้งหมดพลันหยุดเคลื่อนไหวและปล่อยจิตสังหารอันท่วมท้น

______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,997
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00