จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,467
ชื่อ: กริด
ชื่อตัวละครของมันยังไม่แปรเปลี่ยน
เป็นเสียงสั้นของคำว่า ‘โลภ’ (Greed) ซึ่งชายหนุ่มเริ่มต้นซาทิสฟายด้วยความมุ่งหมายดังกล่าว
แน่นอน นั่นไม่เข้ากับบุคลิกของกริดในยุคสมัยปัจจุบัน แต่ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องเปลี่ยนชื่อ
ต่อให้มีบัตรเปลี่ยนชื่อ แต่กริดก็จะไม่เปลี่ยนมัน
ชื่อคืออำนาจ ชั่วชีวิตของชายหนุ่มผูกติดอยู่กับสิ่งนี้
เป็นเครื่องพิสูจน์ความเชื่อมโยงทั้งหมดที่สร้างขึ้น เป็นหลักฐานแห่งความสำเร็จ เป็นตราแห่งชื่อเสียง และอีกมากมายที่สาธยายไม่หมด
ทุกชื่อล้วนแฝงไว้ด้วยพลัง
ใช่แล้ว ชื่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้คือกริด
เลเวล: 463
คลาส: เทพโอเวอร์เกียร์
เทพโอเวอร์เกียร์มีความหมายรวมไปถึงทุกคลาสของกริด ไม่ว่าจะเป็นผู้สืบทอดแพ็กม่า มหากาพย์จอมดาบเวท และดยุคแห่งปัญหา นอกจากนั้นยังเป็นอีกหนึ่งฉายาของกริด
คำว่าเทพโอเวอร์เกียร์ไม่ได้นิยามตัวกริด แต่คำว่ากริดคือนิยามของเทพโอเวอร์เกียร์
‘เทพโอเวอร์เกียร์…’
เป็นชื่อที่ฟังดูเท่ในทุกแง่มุม
อาจเป็นเพราะมันถูกเรียกด้วยชื่อนี้มานา กริดจึงไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงแต่อย่างใด มีเพียงความสุขและรอยยิ้มที่พึงพอใจ
สายตาของชายหนุ่มจ้องไปยังบรรทัดที่สี่ของหน้าต่างค่าสถานะ
เผ่าพันธุ์—
‘ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเสมือนเทพแล้ว… และเราไม่สามารถกลายเป็นผู้สังหารเทพ’
—เทพ
ในท้ายที่สุด มันได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งนี้
ราวกับเป็นโชคชะตา ราวกับขั้วแม่เหล็กที่ดึงดูดหากัน
ในสายตาชายหนุ่ม เทพไม่ใช่ตัวตนที่ยิ่งใหญ่อะไร น้ำหนักของคำว่า ‘เทพ’ จึงมิได้สร้างแรงกระเพื่อมภายในจิตใจ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่กริดจะคิดแบบนั้น
หากนับเฉพาะโลกในซาทิสฟาย เทพเป็นตัวตนที่ ‘กลวง’ มาตั้งแต่ต้น
กริดเคยเผชิญหน้ากับหลายสิ่ง ได้เห็นในหลายสิ่ง
มันไม่ศรัทธาในเทพตนใด
เทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่ที่ไม่มีปัญญาจะปกป้องดินแดนของตัวเอง
เฮ็กเซเทีย เทพที่ถูกความริษยาครอบงำจนดวงตามืดบอดและทำพลาด ในท้ายที่สุดต้องมานั่งเสียใจกับบาปที่ตัวเองเคยก่อ
ฮานึล เทพที่ถูกความเคียดแค้นครอบงำจนดวงตามืดบอดและลงมือทำร้ายมนุษย์
รีเบคก้า เทพที่เอาแต่เงียบ และซือโหยว เทพที่ต้องการถูกฆ่า
กริดไม่เคยศรัทธาเทพเหล่านี้ มีเพียงเห็นใจ เกลียดชัง หวาดระแวง หรือตั้งคำถาม
ครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มเคยเชื่อว่าตัวตนที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ อาจเลวร้ายยิ่งกว่ามนุษย์
แต่ในภายหลัง เมื่อเห็นว่าเทพก็เสียใจเป็น และปรับปรุงตัวเองได้ทั้งที่มีพลังพอจะกลบเกลื่อนบาป กริดจึงเริ่มมองว่าเทพเหล่านั้นก็ไม่ต่างจากมนุษย์มากนัก
ใช่แล้ว สาเหตุที่กริด ‘เคารพ’ เฮ็กเซเทียและผู้พิทักษ์สี่ทิศ มิใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นเทพ
กริดไม่เคยมองว่าทวยเทพเป็นตัวตนที่พิเศษ
เฉกเช่นปัจจุบัน มันมองไม่เห็นความแตกต่างในตัวเองระหว่างก่อนและหลังการเป็นเทพ
เฮ็กเซเทียเปลี่ยนแปลงได้เพราะจิตใจของตัวเอง ไม่ใช่เพราะเป็นเทพ
‘แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่เราปฏิเสธสถานะครึ่งเทพในอดีต’
มันแค่กลัวการลงทัณฑ์จากสวรรค์ หวั่นเกรงกองทัพติดอาวุธของสวรรค์ที่อาจบุกจู่โจมลงมา
มันเคยขีดเส้นให้ตัวเองมาตลอด ด้วยกังวลว่าครอบครัวและพวกพ้องจะเป็นอันตราย
แต่ปัจจุบัน มันอยู่ในอารมณ์สงบสุขุม
ไม่ว่าจะอย่างไร กริดก็ต้องเผชิญหน้ากับเทพอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าตนจะเป็นเทพหรือไม่
หากทวยเทพในชอบใจที่ตนกลายเป็นเทพ ทางเลือกเดียวคือการตอบโต้
มันจะฆ่า และทำลายล้างอีกฝ่าย
เทพมิอาจฆ่าเทพด้วยกัน?
ช่างมันปะไร กริดมีพวกพ้องจำนวนมากที่พร้อมประเคนดาบใส่หัวใจเทพแทนตน
‘เราจะคอยปรุงรสชาติ ส่วนพวกเขาเป็นคนจัดจาน’
พวกพ้องของกริดมีทั้งยูร่า จิสึกะ เฟคเกอร์ ยูเฟอมิน่า และครอเกล
นอกจากยังมีบราฮัม ปิอาโร่ เมอร์เซเดส และผู้ส่งสารที่เหลือ
ไม่ว่าศาสตราเทพที่ได้รับการปรับแต่งของตนจะยอดเยี่ยมสักเพียงใด แต่นั่นก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกพ้องจำนวนมากที่คอยอำนวยความสะดวกในฐานะผู้ส่งสารและอัครสาวก
กริดที่เยือกเย็น ตรวจสอบหน้าต่างสถานะด้วยความสงบ
สิ่งแรกที่เด่นสะดุดตาคือค่าสถานะหลัก
★พละกำลัง: 6,800 ★ความอดทน: 5,300
★ความว่องไว: 5,300 ★ สติปัญญา: 7,200
★ค่าสถานะสำคัญล้วนอยู่ในสัดส่วนทองคำ
★ค่าสถานะที่อยู่ในสัดส่วนทองคำจะส่งผลทุกด้านสูงกว่าปรกติ 1.5 เท่า, ค่าพลังโจมตี พลังป้องกัน พลังเท และพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 20%, อัตราหลบหลีกสัมบูรณ์และอัตราแม่นยำสัมบูรณ์เพิ่มขึ้น 5%
ผลรวมเหล่านี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างค่าสถานะยืนพื้น ไอเท็มสมญานาม และปราณต่อสู้
เป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมาก
ปราณต่อสู้ที่เคยมีค่าสูงสุดตายตัวห้าสิบหน่วย ปัจจุบันเพิ่มเป็นเจ็ดสิบห้าหน่วย
ดังคำกล่าวของฮายาเตะ ปราณต่อสู้เป็นพลังระดับเทวตำนาน
ทันที่กลายเป็นเทพแท้จริง ข้อจำกัดบางประการก็ถูกยกเลิก
‘ยิ่งบารมีเทพของเราสูงแค่ไหน ปราณต่อสู้ก็ยิ่งใกล้เคียงค่าสมบูรณ์แบบ… ขีดจำกัดในการเรียนเวทมนตร์ก็เช่นกัน มันจะค่อยๆ ลดทอนลงจนกระทั่งหายไป’
ไม่ว่าจะอย่างไร แต่ตัวเลขที่ถูกตกแต่งอย่างเป็นระเบียบนั้นงดงามมาก
กริดสังเกตเห็นว่า ค่าพลังกำลังและความว่องไวมีช่องว่างห่างกันพอสมควร
แต่นั่นเป็นระบบลับ สัดส่วนทองคำไม่จำเป็นต้องเท่ากันเสมอไป ยิ่งมีค่าสถานะสูง อัตราส่วนก็ยิ่งยืดหยุ่นและส่งผลลัพธ์ที่แตกต่าง
แม้ว่ากริดจะแบ่งปันค่าสถานะปัจจุบันของตนให้พวกพ้องรับรู้ แต่เกรงว่าสัดส่วนทองคำของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน
สำหรับคนทั่วไป ส่วนมากมักรู้จักสัดส่วนทองคำอยู่หนึ่งชนิด
ความแข็งแกร่งและความว่องไว 1:1
โดยเงื่อนไขย่อยก็คือ ค่าความอดทนและสติปัญญาต้องสูงกว่าแปดร้อย ส่วนค่าพละกำลังและความว่องไวต้องสูงกว่าสองพัน
หากผู้คนต้องการเข้าถึงสัดส่วนทองคำแบบเดียวกับกริด เกรงว่าจะมีแต้มสถานะไม่เพียงพอ
นอกจากนั้น สัดส่วนของกริดยังต้องการค่าพละกำลังและสติปัญญาที่สูงมาก คงเป็นการยากหากจะมีใครคิดเลียนแบบ
คลาสที่ให้ความสำคัญกับค่าสติปัญญา ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นจอมเวท
แล้วจะมีจอมเวทคนใดอัปค่าพละกำลังตามสติปัญญามาติดๆ แบบกริด?
‘บราฮัมเองก็เข้าถึงสัดส่วนนี้ไม่ได้’
บราฮัมและพวกพ้องของตนต้องหาสัดส่วนทองคำเป็นของตัวเอง
ทว่า ยังมีอยู่สองคน
มีสองคนที่กริดเชื่อว่า สามารถไล่ตามสัดส่วนทองคำจองตนได้
คนแรก ซาลิเอล
ในฐานะอัครเทวทูต เธอ (?) มีค่าสถานะรวมสูงมากเป็นทุนเดิม
นอกจากนั้นยังต้องมีค่าสถานะแบบสมดุล เนื่องจากหนึ่งในภารกิจของเทวทูตคือการใช้พลังตรีเอกานุภาพ
สำหรับซาลิเอล ค่าพละกำลัง สติปัญญา ความอดทน และความว่องไว ทั้งหมดเกือบจะเท่ากัน
คนถัดมาคือเมอร์เซเดส
เธอเป็นต้นแบบของผู้เล่นอัศวินทั่วโลก และค่าสถานะที่เติบโตจาก ‘ปณิธานอัศวิน’ ก็สูงเป็นอันดับสองรองจากซาลิเอล
ถึงจะไม่มากเท่า แต่ความสมดุลนั้นไม่ต่าง
ค่าสติปัญญาที่ยังค่อนข้างด้อยกว่า สามารถถูกชดเชยได้ด้วยไอเท็ม
‘การสวมใส่ไอเท็มเพิ่มค่าสติปัญญาไม่ใช่เรื่องเสียหาย’
กริดยิ้มขณะที่การมองเห็นของตนเต็มไปด้วยหน้าต่างสถานะตัวละคร
ชื่อ: กริด
เลเวล: 463
คลาส: เทพโอเวอร์เกียร์
เผ่าพันธุ์: เทพ
สมญานาม: ผู้ที่กลายเป็นเทวตำนาน และอีก 42 รายการ
พลังชีวิต: 1,319,500/1,319,500
มานา: 525,730/530,790
ปราณดาบ: 2,400/2,400
ปราณต่อสู้: 75
★พละกำลัง: 6,800 ★ความอดทน: 5,300
★ความว่องไว: 5,300 ★ สติปัญญา: 7,200
★ค่าสถานะสำคัญล้วนอยู่ในสัดส่วนทองคำ
★ค่าสถานะที่อยู่ในสัดส่วนทองคำจะส่งผลทุกด้านสูงกว่าปรกติ 1.5 เท่า, ค่าพลังโจมตี พลังป้องกัน พลังเท และพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 20%, อัตราหลบหลีกสัมบูรณ์และอัตราแม่นยำสัมบูรณ์เพิ่มขึ้น 5%
ความชำนาญมือ: 10,650 ความพากเพียร: 3,757
ความเยือกเย็น: 3,043 ความทรหด: 3,298
ศักดิ์ศรี: 3,271 วิสัยทัศน์: 3,561
ความกล้าหาญ: 2,550 พลังทางเมือง: 1,150
พลังจิต: 1,630 ความน่าหลงใหล: 2,001
โชค: 1,210
บารมีเทพ: 17
แต้มสถานะคงเหลือ: 0
“มากกว่าแค่นิดเดียว… แต่ดีขึ้นหลายเท่า”
หืม…
กริดมองว่าสมเหตุสมผลแล้ว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันทำงานหนักแค่ไหน? ค่าความชำนาญมือคือเครื่องพิสูจน์
หากชายหนุ่มนำไอเท็มทั้งหมดที่เคยสร้างมากองรวมกัน ก็คงถมเมืองได้สักสองสามแห่ง
หากนับรวมกางเกงในที่เคยผลิตมาทั้งหมด นั่นเทียบเท่าภูเขาลูกเล็กๆ
พลังชีวิตเยอะไปนิด…
นับวันยิ่งเข้าใกล้บอสแม็ปมากกว่าผู้เล่น…
แต่ถึงอย่างนั้น
จอมอสูรแถวหน้าและเทพบนแอสการ์ด คงมีพลังชีวิตระดับหลายร้อยหรือหลายพันล้าน
เมื่อเทียบกับพวกมัน ของกริดจะดูน่ารักขึ้นมาทันที
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน”
เป็นเพราะมันดื่มด่ำกับความสำเร็จนานเกินไป?
ความอ่อนเพลียสะสมในระยะหลังเริ่มออกอาการ
นานแค่ไหนแล้วนะ…
ไม่สิ… นี่อาจเป็นครั้งแรก…
การล็อกเอาต์ออกจากเกมก่อนจะถึง ‘ขีดจำกัดการเชื่อมต่อ’
แน่นอน ไม่นับรวมงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ
อย่างน้อยที่สุด กริดก็จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายเมื่อไร เพราะต่อให้อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่ร่างกายชายหนุ่มก็มักจะนอนในแคปซูลเกือบตลอดเวลา
***
ในตอนที่กริดหลับ โลกเปลี่ยนแปลงไปหลายสิ่ง
ความเมตตาของเทพโอเวอร์เกียร์
ผู้เล่นที่ได้ลิ้มรสความยอดเยี่ยมของสุดยอดพรบัฟซึ่งส่งผลต่อผู้คนทั้งอาณาจักร เริ่มทำคลิปวิดีโอและนำไปเผยแพร่ตามเว็บไซต์และชุมชน
= บ้าไปแล้ว ผลิตไอเท็มเร็วขึ้นสองเท่า ᄏᄏᄏ
= นิวทูเบอร์ไก่อ่อนคนนั้นอัปเลเวลทักษะอีกแล้ว? ได้ประโยชน์ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยเนี่ยนะ? อิจฉาชะมัด
= พลังทำลายของท่ารำดาบสุดยอดเกินไป… ฉันเพิ่งเป็นมานับถือวิหารยาธานได้สามชั่วโมง แต่ตอนนี้อยากเปลี่ยนกลับไปนับถือเทพโอเวอร์เกียร์อีกแล้ว
ᄂถ้าเปลี่ยนศาสนา นายจะเปลี่ยนไม่ได้อีกอย่างน้อยสามเดือน
ᄂบ้าน่า? ไม่ได้โกหกกันใช่ไหม?
ᄂ ฉันพูดจริง ลองคิดดูให้ดีสิ ถ้ามีคนเปลี่ยนไปนับถือเทพยาธานและรีบเหมาโพชั่น EXP จากนั้นก็เปลี่ยนกลับเป็นศาสนาเดิม แบบนั้นระบบจะไม่พังเอาหรือ? พวกยาธานไม่ใช่องค์กรการกุศลสักหน่อย
= ของฉันเปลี่ยนครบแล้วสามเดือน แต่ทำไมตอนนี้ถึงยังเปลี่ยนไม่ได้?
ᄂนายต้องทำภารกิจบางอย่างของศาสนาให้เสร็จก่อน เหมือนกับการจ่ายค่าอาหารน่ะ
= เฮ้อ… น่ารำคาญฉิบ ไอ้พวกยาธานแม่งถ่วงแข้งถ่วงขาชะมัด
= เอกลักษณ์ของวิหารยาธานคือคำหยาบ สมกับที่เป็นสาวกยาธานตัวจริง ᄏᄏᄏᄏ
= ว่าแต่ พรของเทพโอเวอร์เกียร์จะมีผลแค่ภายในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ หรือรวมถึงดินแดนทั้งหมดของศาสนาเทพโอเวอร์เกียร์?
ᄂแค่ภายในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
= โธ่เว้ย! กษัตริย์ของพวกเรากำลังทำอะไร! สังเวยประเทศนี้ให้เทพโอเวอร์เกียร์ได้แล้ว!
= คุณป้าบาซาร่า ได้โปรดขอกริดแต่งงานที
ᄂคิดจะให้จักรพรรดินีขอบุรุษที่สมรสแล้วแต่งงาน? อยากตายคาที่รึไง? ᄏᄏ
ᄂแต่งงานแล้วสำคัญตรงไหน?
= ก็อดกริดทำตัวสมกับฉายาสักที เจ๋งชะมัด
ᄂก็อดกริดเป็นชื่อเล่น ส่วนชื่อจริงๆ คือกริด นายหมายความว่ายังไงที่บอกว่าเขาทำตัวสมกับชื่อเล่น?
ᄂ นายไม่มีเพื่อนรึไง?
ᄂฉันคงเลเวลอัปไม่ได้ถ้าไม่มีเพื่อน ^^
ᄂ? … ก็อดกริดมีเพื่อนมากมาย แถมยังมีแฟนสองคน เขาคือที่สุด
ᄂ หุบปาก
= ดูเหมือนว่าพักหลังกริดจะไม่ได้เจอจิสึกะบ่อยนัก
ᄂคงงานยุ่งทั้งคู่ กริดไม่ใช่ไอ้ขยะสักหน่อย จะทิ้งผู้หญิงที่อุตส่าห์ถ่อมาหาจากบราซิลเลยหรือ?
***
มันนอนนานถึงสิบชั่วโมงเต็ม
ครั้งล่าสุดที่นอนนานขนาดนี้คือตอนไหน มันเองก็จำไม่ได้แล้ว
ร่างกายและจิตใจกระปรี้กระเปร่าสุดขีด
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เมื่อวานตนได้กลายเป็นคลาสเทวตำนาน มันจะมีความสุขจนตัวสั่นทุกครั้ง
ยองวูเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายและเดินไปทางหน้าต่าง แต่ใดนั้นต้องประหลาดใจ
“มากกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย…”
ตอนนี้เป็นเวลาตีห้า
อาจจะยังเช้าอยู่ แต่บรรยากาศหน้าบ้านช่างขัดแย้งกับเวลา
ถนนหน้าบ้านคลาคล่ำไปด้วยผู้คน แถมยังมาจากหลายเชื้อชาติ
มันรู้สึกราวกับนักข่าวทุกคนบนโลกกำลังยืนอยู่หน้าบ้านตัวเอง
‘ความวุ่นวายแบบสุดๆ นี่มันอะไรกัน?’
ยองวูรำพันพลางเดินออกจากบ้าน ทูนที่คอยเฝ้ากล้องวงจรปิดมาทั้งคืนก็ตามไปไม่ห่าง
“นอนแล้วหรือ? ฉันไม่คิดว่านายจะนอนตอนกลางคืน…”
“ไม่ต้องห่วงฉัน… ว่าแต่… เมินพวกนักข่าวดีไหม?”
“ถึงจะน่ารำคาญ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย พวกเขาจะสร้างความรำคาญให้ชาวบ้านรอบๆ ด้วย”
ปัจจุบัน แนวตึกที่สร้างโดยยองวูและคนของโอเวอร์เกียร์ เรียงรายกันจนดูเหมือนหมู่บ้านขนาดย่อม
ถนนหลายเส้นเริ่มตัดผ่านรอบๆ อาคารของยองวู ส่งผลให้มีบ้านเรือนถูกสร้างเพิ่มตามแนวถนน
มันต้องจัดการกับกองทัพนักข่าวก่อนที่ชาวบ้านเหล่านั้นจะตื่นเช้าไปทำงาน
‘คำถามของพวกนักข่าวก็คงเดิมๆ’
คลาสเกรดมิธจำเป็นต้องเลื่อนลำดับจากเลเจนดารีเสมอไปไหม?
วิธีเปลี่ยนเป็นคลาสเกรดมิธคืออะไร?
เอกลักษณ์และจุดเด่นของคลาสเกรดมิธคืออะไร?
คงไม่พ้นเรื่องเหล่านี้
การรับมือกับการรัวยิงคำถามของกองทัพนักข่าวไม่ใช่เรื่องยาก
เหนือสิ่งอื่นใด ยองวูเคยเผชิญหน้ากับสื่อมานับไม่ถ้วน
มันสามารถเรียบเรียงข้อมูลที่จะถ่ายทอด และข้อมูลที่ไม่ควรเผยแพร่
“อา…”
ชายหนุ่มเดินออกจากบ้านและพบกับตำรวจจำนวนหนึ่ง
พวกมันคงถูกส่งมาประจำการล่วงหน้าเนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่คาดเดาได้
ตำรวจกลุ่มนี้ติดอาวุธหนัก แถมยังสร้างแนวกำบัง
บางที หากไม่มีคนเหล่านี้ ทูนอาจต้องทุกข์ทรมานตลอดทั้งคืน
ยองวูเดินไปทักทายตำรวจด้วยสีหน้าขอโทษขอโพย จากนั้นก็หันไปบอกกับนักข่าว
“คราวหน้า ส่งคำขอสัมภาษณ์มาดีๆ ก็ได้… ถ้าคราวหน้าพวกคุณยังทำแบบนี้อีก… ผมจะเลิกสัมภาษณ์กับสื่อไปตลอดชีวิต… ห้านาที… ผมจะตอบคำถามเป็นเวลาห้านาที เริ่มได้เลย”
นักข่าวตระหนักว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายของพวกตน จึงรีบยิงคำถามเด็ดใส่กริด
“ทาง SA กรุปประกาศอย่างเป็นทางการว่า พวกเขาจะสร้างเพลงธีมให้กริด… คงไม่มีใครในโลกคาดคิดว่าทางบริษัทเกมจะแต่งเพลงธีมให้ผู้เล่น… คุณรู้สึกอย่างไรบ้างครับ?”
“…?”
คำถามแรกก็ผิดคาดเสียแล้ว
ขณะยองวูสับสนและตอบสนองไม่ถูก คำถามถัดไปถูกยิงมาเพิ่ม
“เทพสงครามอาเรสกำลังครุ่นคิดอย่างจริงจังว่า จะนำอาณาจักรวัลฮัลล่ามาเข้ากับโอเวอร์เกียร์… ทางคุณจะยอมรับพวกเขาไหม?”
“…??”
คำถามที่สองก็มาเหนือเมฆเช่นกัน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มใหม่ที่เพิ่งมาถึงเริ่มทำการกันนักข่าวออกไป
นับเป็นการตอบสนองที่รวดเร็วจนน่าชื่นชม
‘ถ้ารู้ว่าตำรวจขยันแบบนี้ คงไม่ออกมาตั้งแต่แรก’
ว่าแต่ เป็นเพราะเราจ่ายภาษีแพง?
ตำรวจใจดีชะมัด…
ด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน ยองวูยิ้มให้กับตำรวจที่สบตากันเป็นพักๆ
ลงเอยด้วย ทุกคนก็แยกย้ายกลับไปด้วยความสงบ
จากนั้น ชายหนุ่มตัดสินใจตรวจสอบบทความที่ถูกเผยแพร่ในช่วงคืนที่ผ่านมา
แค่คืนเดียว โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก
และศูนย์กลางการเปลี่ยนแปลงคือกริด
Comments
Post a Comment