จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,448
“ไอ้เจ้าเล่ห์นั่น”
พวกมันคาดไม่ถึงว่าแอ็กนัสจะฆ่าพอลด์ด้วยมือตัวเอง
ไม่สิ พูดให้ถูกคือ ไม่มีใครคิดว่ามันจะทำในบรรยากาศดังกล่าว
แอ็กนัสพยายามปกป้องพอลด์อย่างเต็มที่นับตั้งแต่เฟคเกอร์ปรากฏตัว
แม้กระทั่งไม่ยามที่ถูกล้อมด้วยสมาชิกโอเวอร์เกียร์ มันก็ยังคอยปกป้องพอลด์ด้วยการใช้ร่างกายตัวเองเป็นกำบัง
แถมยังมีสีหน้าตอนกล่าวคำอำลานั่น
เป็นใบหน้าที่เหงาและเศร้าจนยากจะเชื่อว่านั่นคือการแสดง
แอ็กนัสทำราวกับกำลังจะเสียเพื่อนที่มีค่า
ด้วยบรรยากาศดังกล่าว คงยากที่จะมีใครคิดว่า แอ็กนัสจะลงมือกับพอลด์
“นึกแล้วเชียว… เจ้าบ้านั่นไม่อารมณ์แบบนั้นอยู่แล้ว… ฉันควรจะอ่านเจตนาของมันออกในตอนที่มันปล่อยให้พอลด์ตายมากกว่าจะพยายามฟื้นฟู”
“ไม่ใช่ว่ามันไม่อยากฟื้นฟูพอลด์… แต่มันทำไม่ได้… ลิชจะไม่มีวันถูกฟื้นฟูหากแก่นของลิชที่เสียหายยังไม่กลับคืนสภาพเดิม”
“งั้นหรือ… น่าเสียดายชะมัด… ฉันก็แค่อยากให้เฟคเกอร์ได้รับผลประโยชน์มากกว่านี้”
“…”
น้อยคนบนโลกที่จะเข้าใจหรือชื่นชอบแอ็กนัส
ไม่แม้แต่กิลด์โอเวอร์เกียร์ที่ทราบถึงอดีตของแอ็กนัส
พวกมันเห็นใจอดีตของอีกฝ่าย แต่ศัตรูก็ยังเป็นศัตรู
ความเข้าใจและเห็นใจยังไม่มากขนาดนั้น
เหนือสิ่งอื่นใด แอ็กนัสเคยมีประวัติการรุกรานอาณาเขตของกิลด์โอเวอร์เกียร์
เคยมีสมาชิกกิลด์และทหารต้องสังเวยชีวิตไปมากเพราะแอ็กนัส
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป็อน ชายคนนี้เกลียดแอ็กนัสเข้าเส้น
นั่นก็เพราะแอ็กนัสเคยทำให้มันเผชิญความทุกข์ยากไม่น้อยสมัยยังเป็นกิลด์เซดากาห์
ไม่เพียงเท่านั้น มันและพวกพ้องยังเคยช่วยแอ็กนัสเมื่อหลายปีก่อน แต่นั่นไม่ได้ทำไปเพราะชื่นชอบอีกฝ่าย
ทว่า มาวันนี้ ป็อนกลับถูกแอ็กนัสมองข้าม มันจึงยิ่งทวีความเกลียดชัง
“…”
ป็อนไม่ใช่คนประเภทที่จะพูดทุกเรื่องที่ตัวเองคิด
มันทำเพียงพ่นลมหายใจเหยียดหยันพลางสำรวจรอบๆ
จากนั้นก็แจกจ่ายผ้าพันแผลและโพชั่นให้กับเหล่าหน่วยเงาและทหารม้าที่บาดเจ็บ
กริดเองก็ทำหน้าที่ตัวเองอย่างเงียบงัน
มันนำเตาหลอมชนิดพกพาออกมาและเริ่มซ่อมแซมอุปกรณ์ของพวกพ้องที่ชำรุด
ในงานแบบนี้ โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์และหัตถ์เทวะมีประโยชน์อย่างมาก
พวกมันซ่อมแซมอุปกรณ์เซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมากได้ดี
จนกระทั่งผ่านไปสักพัก กริดไตร่ตรองหลายๆ สิ่งก่อนกล่าว
“สูญเสียไปเท่าไร?”
ไม่จำเป็นต้องนับผู้บาดเจ็บ
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีนักบุญหญิง
ต่อให้แขนขาขาดด้วน แต่ก็สามารถกลับเป็นปรกติได้ขอเพียงยังมีลมหายใจ
“หน่วยเงาตาย 175…”
สูญเสียเกินกว่าครึ่ง
นี่คือหน่วยหัวกะทิที่ถูกปลุกปั้นขึ้นมาเป็นพิเศษจากทักษะ ‘บ่มเพาะเงา’ ของลันเทียร์
ถึงกระนั้นกลับยังมิอาจทำตามคำสั่งง่ายๆ อย่างการเอาชีวิตให้รอด
กริดจ้องไปทางเฟคเกอร์และหน่วยเงาที่รอดชีวิต ทั้งหมดเอาแต่ก้มหน้าราวกับก่อบาปร้ายแรงลงไป
ดวงตาของกริดเผยความลุ่มลึกขณะสบตากับทุกคน
“ฉันภูมิใจในตัวพวกนายทุกคน… เป็นเพราะการเสียสละของหน่วยเงา พวกเราถึงสามารถทำลายพอลด์และฆ่าแอ็กนัสได้หนึ่งชีวิต… ทุกคนทำดีที่สุดแล้ว”
สาเหตุที่กิลด์โอเวอร์เกียร์ตัดสินใจว่าลิชพอลด์ต้องถูกทำลาย ปัจจัยสำคัญคือพลังในการสร้างของวิเศษ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ของวิเศษที่มีคำขยายว่า ‘แห่งความไร้เหตุผล’ รวมถึง ‘กลไกถาวร’ ที่สร้างโดยพอลด์ จะกลายเป็นขวากหนามสำคัญในอนาคตหากมันถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมากและกลายเป็นเขี้ยวเล็บให้กองทัพของแอ็กนัส
ไม่สำคัญว่าแอ็กนัสจะถูกซับพลังของพอลด์หรือไม่
ต่อให้พลังที่แอ็กนัสดูดซับเข้าไปจะเกี่ยวข้องกับการผลิตของวิเศษ แต่กริดก็มองว่าแอ็กนัสคงไม่สามารถสร้างของวิเศษตระกูล ‘ไร้เหตุผล’ และกลไกถาวรได้ตามลำพัง
เป้าหมายของภารกิจลุล่วง
เป็นความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีหน่วยโอเวอร์เกียร์เงา
กริดเคยได้ยินความยิ่งใหญ่ของโอเวอร์เกียร์เงา แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงระดับนี้
หน่วยนักลอบสังหารที่สามารถตามหาใครก็ได้ในทวีปและฆ่าทิ้ง
เก่งกาจ แข็งแกร่ง เท่
สอดคล้องกับชื่อเท่ๆ อย่างโอเวอร์เกียร์เงา
นั่นคือเหตุผลที่ทั่วโลกต้องสั่นสะท้านเมื่อได้ยินชื่อ
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเพิ่มเกรดของอุปกรณ์สวมใส่ให้โอเวอร์เกียร์เงาหนึ่งระดับ”
กองทัพทั้งหมดในอาณาจักรล้วนสวมใส่ยุทโธปกรณ์รุ่นผลิตจำนวนมากของกริด
เป็นเซตที่กริดคิดค้นขึ้นเมื่อในอดีต
อุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีและผลิตโดยช่างฝีมือคุณภาพเยี่ยมของไรน์ฮาร์ท จุดเด่นคือการมีเงื่อนไขการสวมใส่ต่ำ และคุณสมบัติไม่เฉพาะทางเกินไป
พวกมันเป็นไอเท็มที่ดีและสามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์
ไม่มีผลข้างเคียงด้านลบ ไม่ลดค่าสถานะ มีความคงทนสูง พังทำลายมากกว่าอาวุธในเลเวลเดียวกัน
ปัจจัยที่ทำให้พวกมันง่ายต่อการใช้งานก็คือ รูปร่างที่ใกล้เคียงอุดมคติ
อย่างไรก็ดี แม้แต่ไอเท็มชนิดเดียวกันก็ยังถูกแบ่งแยกด้วย ‘เกรด’
ยกตัวอย่างเช่น ดาบกริดรุ่นผลิตจำนวนมากที่ถูกแจกจ่ายให้ทหารในกองทัพใช้ เกรดจะมีตั้งแต่ทั่วไปจนถึงยูนีค
ไอเท็มที่มีเกรดสูงกว่าแรร์นั้นหายาก จึงมักจะถูกแจกจ่ายให้ตามลำดับตำแหน่งของทหารและหน่วยรบ
ในหมู่หน่วยรบทั้งหมด โอเวอร์เกียร์เงาถูกจัดให้เป็นขุมกำลังหลักแม้จะมีจำนวนน้อย ลำดับความสำคัญจึงนับว่าสูงมาก
สมาชิกทุกคนของหน่วยจะได้สวมใส่ไอเท็มเกรดอีปิกเป็นอย่างต่ำ และเกรดยูนีคในกรณีหัวกะทิ
แต่กระนั้น กริดกลับยังมองว่าไม่เพียงพอ
มันตัดสินใจยกระดับไอเท็มของหน่วยโอเวอร์เกียร์เงาให้เป็นเกรดยูนีคทั้งหมด ทัดเทียมกับอัศวินในหน่วยองครักษ์หลวง
นั่นหมายความว่า ‘ช่างฝีมือ’ ที่มีอยู่น้อยนิดของไรน์ฮาร์ทต้องทำงานหนักขึ้น
คำประกาศดังกล่าวได้เน้นให้เห็นว่า หน่วยโอเวอร์เกียร์เงามีความสำคัญมากเพียงใด
หน่วยเงาที่พร้อมเสียสละตัวเองในทุกภารกิจสุ่มเสี่ยง คู่ควรกับการถูกเอาใจใส่ในระดับนี้แล้ว
แน่นอน คนที่สำคัญที่สุดคือเฟคเกอร์
เฟคเกอร์กวาดสายตามองเหล่าหน่วยเงาที่เหลือรอดด้วยความภาคภูมิใจ
ขณะเดียวกัน ทัศนวิสัยที่กว้างไกลของกริดกำลังจดจ้องเฟคเกอร์
ความรู้สึกทึ่งและยกย่องที่เคยมีต่อครอเกลมานานหลายปี บัดนี้ถูกโอนถ่ายมายังเฟคเกอร์อย่างทัดเทียม
“นายกำหนดแอ็กนัสเป็นเป้าหมายในรายการสังหาร?”
กริดถามพลางนึกทบทวนการโจมตีสุดท้ายที่เฟคเกอร์กระทำกับแอ็กนัส
เฟคเกอร์พยักหน้ารับ
สีหน้ากริดพลันชะงักไปครู่หนึ่ง
จริงอยู่ ทักษะรายการสังหารเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ แต่มันส่งผลกระทบต่อผู้เล่นน้อยกว่าที่ควร
การเพิ่มบทลงโทษความตายขึ้นเป็นสองถึงสามเท่า อาจฟังดูน่ากลัวและไม่มีใครอยากเผชิญ (โดยเฉพาะกับผู้เล่นที่มีเลเวลสูง) แต่นั่นก็ส่งผลแค่ชีวิตเดียว การนำไปใช้กับ NPC และมอนสเตอร์พิเศษจะมีประสิทธิภาพสูงกว่ามาก
แต่ถึงอย่างนั้น เฟคเกอร์ก็ยังใส่แอ็กนัสในไว้ในรายการสังหาร
ดูเหมือนว่า มันจะไม่ยอมเพิกเฉยต่อภัยคุกคามของอาณาจักร
ความยิ่งใหญ่ของจิตใจกำลังแผ่ออกมาอย่างท่วมท้น
“…เกมนี้มีไอเท็มที่ชื่อว่าศิลาเวทมนตร์ปริศนา”
<ศิลาเวทมนตร์ปริศนา>
เกรด: มิธ
ประเภท : ใช้แล้วหายไป
สามารถเพิ่มระดับของไอเท็มเป้าหมายให้มีระดับเดียวกับศิลา
เป็นไอเท็มที่กริดเก็บไว้สักพักแล้ว
มันมิได้นำออกมาใช้แม้ในยามที่ดาบไร้รูปมีระดับต่ำกว่าเลเจนดารี
เป็นไอเท็มที่มีค่าถึงเพียงนั้น
“ฉันจะใช้มันกับนาย”
จิตใจอันยิ่งใหญ่ก็ต้องถูกตอบแทนด้วยจิตใจที่ยิ่งใหญ่ระดับเดียวกัน
ขณะเผชิญดวงตาที่แน่วแน่ของกริด รอยยิ้มค่อยๆ เผยบนใบหน้าเฟคเกอร์
บางที นี่อาจเป็นรอยยิ้มแรกที่มันแสดงต่อหน้าผู้อื่น
แม้จะเป็นผู้ที่อาศัยในเงา แต่ปัจจุบันกำลังเผยสีหน้าสดใสราวกับดวงอาทิตย์
ในสถานการณ์เช่นนี้ เฟคเกอร์สัมผัสได้ว่า การพูด ‘ขอบคุณ’ อาจเป็นเรื่องที่เสียมารยาท
ขณะกำลังใช้ความคิด ป็อนเดินเข้ามากอดพร้อมกับแสดงความยินดี
“ดีใจกับนายด้วย!”
ป็อนเองก็ทึ่งในฝีมือของเฟคเกอร์และหน่วยเงาอย่างมาก
ได้ยินเช่นนั้น หน่วยทหารม้าหุ้มเกาะด้านหลังพลันเกิดอาการกระสับกระส่าย
พวกมันรู้สึกได้ว่า การฝึกหนักที่ไม่ต่างจากนรกกำลังรออยู่
***
องค์ชายผู้ปกครอง เสด็จมาเยือนเมืองเฮชรานด้วยตัวเอง
เนื่องจากแม้แต่นายกเทศมนตรีก็ไม่มีอำนาจมากพอจะตอบสนองคำขอร้องของกริดที่ต้องการบันทึก ‘พิกัดเวทมนตร์’ ซึ่งถือเป็นความลับสุดยอดของเขตปกครองตัวเองเฮอมิลตัน
“ฉันเข้าใจ… ถ้าเป็นฉันก็จะทำแบบเดียวกัน”
สาเหตุที่พิกัดเวทมนตร์ถูกปกปิดอย่างเข้มงวด ส่วนใหญ่ก็เพื่อปิดกั้นการแทรกแซงทางเวทมนตร์
และตามปรกติ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่อาณาจักรเหล่านี้จะยินยอมให้ใครมาบันทึกพิกัดเวทมนตร์ในดินแดนของตัวเอง
ไม่อย่างนั้น อาณาจักรที่ไม่ได้กางข่ายเวทมนตร์ ก็ต้องคอยเตรียมตัวรับมือการลอบจู่โจมทีเผลอในทุกลมหายใจ หนึ่งในนั้นคือเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติแบบกลุ่ม
ทว่า องค์ชายแห่งเฮอมิลตันไว้ใจกริดและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ราชวงศ์เฮอมิลตันที่ตัดขาดจากโลกภายนอกมานานหลายร้อยปี มีจิตใจที่ใสซื่อและไร้เดียงสา (ถึงขนาดมอบหัวใจราชินีเยือกเย็นให้กับผู้มีพระคุณที่รักษาองค์หญิง) จนไม่คิดคลางแคลงในตัววีรบุรุษผู้เคยกอบกู้โลกมาแล้วหลายครั้งอย่างกริด
นอกจากนั้น ข้อเสนอของกริดก็ยังหอมหวาน
กริดเสนอให้ติดตั้งวาร์ปเกตระหว่างเฮอมิลตันและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ หากอีกฝ่ายยินยอมที่จะเปิดเผยพิกัดทางเวทมนตร์
วาร์ปเกต
อุปกรณ์ที่เกิดจากวิศวกรรมเวทมนตร์โบราณซึ่งมีต้นตอมาจากคนยักษ์
ระบบคมนาคมขั้นสูงที่จอมปราชญ์สติกส์สร้างขึ้นด้วยเงินทุนและเทคโนโลยีของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ในอนาคตจะกลายเป็นแกนหลักสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองอาณาจักร
‘เรียบร้อย’
กริดถอนหายใจโล่งอก หลังจากจัดการธุระที่ลอเอลฝากฝังให้มาเจรจากับผู้ปกครอง
ถัดไป มันสามารถอัญเชิญบราฮัมมาบันทึกพิกัด
ที่ต้องลงทุนทำเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการพัฒนาอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ขณะเดียวกันก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้พันธมิตร
เหนือสิ่งอื่นใด จุดประสงค์เริ่มแรกคือการติดตั้งวาร์ปเกต
เนื่องจากปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกมานาน เขตปกครองตัวเองเฮอมิลตันจึงมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์หลายอย่าง และนั่นคือเป้าหมายการค้าขายแลกเปลี่ยนที่ยอดเยี่ยม
การแลกเปลี่ยนในสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างขาดแคลน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนในอุดมคติ
แต่ปัญหาก็คือ ระยะทางที่แสนไกล
‘หากการติดตั้งวาร์ปเกตล้มเหลว สถานการณ์คงเลวร้าย’
กริดเองก็กังวลในเรื่องเดียวกับสติกส์ วาร์ปเกตยังไม่ใช่เทคโนโลยีที่สมบูรณ์
“…เป็นความจริงหรือ?”
องค์ชายที่กำลังนั่งข้างกริดและกินดื่มท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น พลันเผยความตื่นเต้นในดวงตาสีฟ้า
นั่นเพราะมันเพิ่งได้รับข่าวใหม่จากอัศวินที่เดินเข้ามากระซิบข้างหู
“การมาเยือนของท่าน ช่วยมอบพรอันยิ่งใหญ่ให้แก่เขตปกครองของเรา”
“ข่าวดีหรือ?” กริดถามองค์ชาย
รอยยิ้มองค์ชายฉีกกว้างยิ่งกว่าเก่า
“มีมอนสเตอร์ที่ชื่อวาฬสีเทาปรากฏตัวในน่านน้ำตะวันออก… ร่างกายของเจ้านั่นใหญ่โตราวกับป้อมปราการ… วาฬตัวดังกล่าวท่องไปทั่วท้องทะเล เป็นเหตุให้เขตปกครองของมิอาจทำกิจกรรมใดๆ ทางทิศตะวันออกได้เลย ไม่แม้แต่จะตกปลาในทะเลที่อยู่แค่ตรงหน้า… แต่นอนนี้ เจ้านั่นตายไปแล้ว”
“ดีใจด้วยนะ”
น่าจะเป็นตัวที่เราเชือดไป…
กริดอยากเล่าออกไป แต่สุดท้ายก็ปิดปากเงียบ เนื่องจากไม่ต้องการให้อีกฝ่ายมองว่าเป็นคนโอ้อวด
ในบางครั้ง การเงียบก็ให้ประโยชน์ที่มากกว่า
ไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากปิดปากให้สนิท
“ผู้คนในทวีปต่างนับถือกษัตริย์กริดในฐานะเทพ… พวกเราเคยได้ยินเกี่ยวกับความสำเร็จของฝ่าบาทมามากก็จริง เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาเหล่านั้น แต่ก็มิได้คิดเห็นตรงกัน… ว่ากันตามตรง คนเหล่านั้นออกจะเลยเถิดไปสักนิด… มนุษย์จะถูกเทิดทูนเยี่ยงเทพได้อย่างไร? เขตปกครองของเราจึงนับถือฝ่าบาทเป็นเพียงวีรบุรุษคนหนึ่ง… แต่ตอนนี้ พวกเราเปลี่ยนใจแล้ว”
“…?”
“พวกเราได้รับรายงานว่า มีผู้เห็นการณ์จำนวนหนึ่งยืนยันได้ว่าฝ่าบาทมาจากทางทิศตะวันออก… ผู้ที่ฆ่าวาฬสีเทาคงไม่ใช่ใครนอกจากฝ่าบาท… อาจเป็นเพียงเหตุบังเอิญ แต่ว่า… พวกเรารู้สึกเหมือนเป็นวาสนาที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเหตุบังเอิญ”
เมื่อสิ้นเสียงองค์ชาย สายตาของผู้คนในห้องโถงก็เริ่มแปลกไป
พวกมันทุกคนคือข้าราชการในเขตปกครองตัวเองเฮอมิลตัน
“ย้อนกลับไปในอดีต เขตปกครองตัวเองของเราตัดสินใจแยกตัวออกจากทวีป… บรรพบุรุษของเราหวั่นเกรงอำนาจของจักรวรรดิจนไม่กล้าหันกลับไปมองทวีปอีกเลย… เหล่าบรรพบุรุษตัดสินใจตัดขาดจากโลกภายนอก นั่นคือรากฐานของวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์… เช่นเดียวกันกับความศรัทธา พวกเรามิได้นับถือเทพธิดาแห่งแสง… เรานับถือเทพสมุทร โดยหวังว่าสักวันพระองค์จะทำลายวาฬสีเทาและเปิดทางให้พวกเราลงไปในทะเล… กษัตริย์กริด… ท่านคือเทพสมุทรใช่ไหม?”
อาจฟังดูคล้ายกับมุกตลกที่ใช้อำแขกบ้านแขกเมือง
แต่พิจารณาจากบรรยากาศ ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น
คำกล่าวขององค์ชายเต็มไปด้วยความศรัทธาและเชื่อใจจากก้นบึ้ง
[ตำนานของท่านเริ่มผลิบานในอาณาจักรอันห่างไกลที่แม้แต่แอสการ์ดก็มิอาจเอื้อมถึง]
[ค่าสถานะ ‘บารมีเทพ’ ของท่านเพิ่มขึ้น 1 หน่วย]
“…”
ในวันเดียวกับที่คนจรจัดซึ่งถูกแอ็กนัสฆ่าตายได้กลายเป็นละอองแสงสีเทา
ในวันเดียวกับที่หน่วยเงาต้องสูญเสียไปถึง 175 นาย
ฝนดาวตกโปรยปรายบนท้องฟ้าประหนึ่งกำลังไว้ทุกข์
ภายในใจกริดกำลังนึกทบทวนบางสิ่ง
ตำนานของตน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกตัวเองคลางแคลงเนื่องจากยังแข็งแกร่งไม่เพียงพอ ตอนนี้ได้ถูกจารึกไว้ในโลกเป็นที่แน่ชัดแล้ว
Comments
Post a Comment