จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,444



โลกของซาทิสฟายมีขนาดใหญ่กว่าโลกแห่งความจริง


ต่อให้นับเฉพาะทวีปตะวันตก คำกล่าวข้างต้นก็ยังเป็นความจริง


ดังนั้น การตามหาคนกำลังหลบซ่อนย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย


ทว่า โอเวอร์เกียร์เงาถูกดูดกลืนมาจากอุปราคาสามารถรีดข้อมูลได้ทุกชนิดจากทุกตารางนิ้ว


กระทั่งงมเข็มในทะเลทรายก็ยังเป็นไปได้


เทียบได้กับเครื่องตรวจจับโลหะและดาวเทียมล้ำสมัย


มีแค่ไม่กี่คนบนโลก สามารถหลบหนีจากความเก่งกาจของหน่วยโอเวอร์เกียร์เงาซึ่งไม่เพียงจะเชี่ยวชาญเทคนิคการแกะรอยพื้นฐานจำพวก: การตรวจสอบเส้นทางการเคลื่อนไหวด้วยการสืบสวนจากรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ รสนิยม และภูมิหลังของเป้าหมาย แต่ยังเชี่ยวชาญเทคนิคขั้นสูงของอุปราคาเช่น ศาสตร์การวางยาพิษ ศาสตร์การไล่ล่าด้วยเครื่องหอมวิญญาณ


นอกจากนั้น อาณาจักรหลายแห่งในทวีปตะวันตกก็ยังคอยอำนวยความสะดวกให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์


หลากหลายอาณาจักร แม้กระทั่งจักรวรรดิก็ยังช่วยกันค้นหา


เฟคเกอร์คิดว่าอีกไม่นาน แอ็กนัสจะถูกพบตัว ตราบเท่ามันไม่ได้อยู่ในนรก


และไม่ผิดจากคาด


> หาเจอแล้ว


> รอก่อน


ข้อความเสียง ระบบถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการ ‘กระซิบ’


ผู้เล่นทุกคนชื่นชอบระบบนี้และยินดีใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่กับ NPC นั้นแตกต่างออกไป


พวกมันไม่สามารถใช้การส่งข้อความเสียงได้ เว้นเสียแต่เลเวลจะเพิ่มถึงจุดหนึ่ง หรือไม่ก็เรียนรู้ทักษะบางชนิด


หน่วยโอเวอร์เกียร์เงาล้วนมีพลังนี้


นี่เป็นหนึ่งในคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่จากการตัดสินใจดูดกลืนอุปราคาเข้ามาเป็นพวก


พวกมันคือองค์กรลับอันดับหนึ่งของทวีป และมีความสามารถในการใช้เสียงเพื่อส่งสัญญาณ


เฟคเกอร์ได้รับข้อความจากสมาชิกและเปิดแผน


แผนฝีมือสกังค์


แนวป้องกัน ภูมิประเทศ สิ่งก่อสร้าง และเค้าโครงภาพรวม ทั้งหมดถูกทำเครื่องหมายอย่างละเอียด


ทั้งเป็นกระดาษแผ่นเดียว แต่ก็ถือเป็นขุมทรัพย์ทางข้อมูลอันมีค่า


“…”


เนื้อหาอันซับซ้อนถูกประทับไว้ในความทรงจำเฟคเกอร์อย่างรวดเร็ว


เมืองเฮชราน


เฟคเกอร์สามารถทำความเข้าใจและนึกทบทวนข้อมูลเกี่ยวกับเมืองขนาดเล็กค่อนไปทางกลางตั้งอยู่ห่างไกลความเจริญแห่งนี้ได้ในพริบตา


เมืองมันเพิ่งเคยมาเยือน แต่กลับคุ้นเคยพอๆ กับบ้านเกิด


นี่คือมันสมองของอัจฉริยะ


เงามืดคอยคุ้มครองอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ช่างน่าสะพรึง


> ผู้นำทุกหน่วยจงฟัง


เฟคเกอร์คือผู้นำสูงสุดของกลุ่มเงา


> ลงมือ


ทุกครั้งออกคำสั่ง ทางเข้าออกของเฮชรานจะถูกปิดกั้นทีละหนึ่ง ความวุ่นวายบนท้องถนนเริ่มสงบลง


เมืองมืดลงจนกลายเป็นกลุ่มเงาดำรายล้อมรอบคฤหาสน์


อาคารแห่งเดียวในเมืองอันเงียบสงัด ยังคงมีแสงไฟสว่างไสว


> ทางออกทั้งหมดถูกปิดกั้นแล้ว


> ชาวเมืองอพยพเรียบร้อย


> นายกเทศมนตรีนำทหารออกไปแล้ว


การทุกสิ่งผ่านไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว นั่นเพราะนายกเทศมนตรีกับโอเวอร์เกียร์เงาร่วมมือกัน


เขตปกครองตัวเองเฮอมิลตันเลือกจะเป็นพันธมิตรภักดีของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ปกครองได้ออกเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อช่วยเหลืออาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างแข็งขัน


นายกเทศมนตรีกล่าวว่า ตนยังจะช่วยเหลือด้านกำลังทหารด้วย


เฟคเกอร์รู้สึกขอบคุณ แต่ก็ปฏิเสธโดยธรรมชาติ


การใช้กองทัพเข้าจัดการกับแอ็กนัสคือหนทางโง่เขลา


รากฐานมันคือหมอผี


ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไปนาน กองทัพอันเดดก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นตามจำนวนศพ


หากเป็นสนามรบมีแอ็กนัสเข้าร่วม จะดีสุดคือการไม่ต้องมีใครเลย


‘แต่นั่นเป็นแค่กลยุทธ์ในเชิงทฤษฎี’


รูปแบบการต่อสู้ของแอ็กนัสแตกต่างจากหมอผีคนอื่น


หลักการเดียวกับกริดมีรูปแบบการต่อสู้แตกต่างจากช่างตีเหล็ก


แตกต่างจากหมอผีทั่วไปซึ่งจะค่อยๆ ปกครองสนามรบผ่านการเตรียมตัวและเงื่อนไขเพียงพอ สำหรับแอ็กนัส มันมักปกครองสนามรบได้ในทันที


แอ็กนัสฟาดฟันศัตรูด้วยทักษะดาบเทียบได้กับนักดาบ ควบคุมอัศวินความตายและลิชอย่างชำนาญในเวลาเดียวกัน สามารถสำแดงอานุภาพเทียบได้กับมหาจอมเวท และแม้จะได้รับบาดเจ็บ มันก็สามารถคืนชีพหรือทำให้ความตายถูกยกเลิกได้ในพริบตา


แอ็กนัสไม่มีจุดอ่อนของหมอผีว่า ‘อ่อนแอในช่วงเริ่มสู้’ แถมจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป


นี่คือเรื่องปรกติ เพราะมันข้ามข้อจำกัดของคลาสได้ด้วยพลังอักขระ สมญานาม ความสำเร็จ และคลาสลับ


‘เราต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง… ดำดิ่งลึกลงไป’


ดวงตาของเฟคเกอร์มืดลง


กระจกตาสีเข้มสะท้อนภาพคฤหาสน์ของสัตว์ประหลาด แต่จากนั้น มันเห็นตัวเองจ้องกลับมาตัวเอง


ดำดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ


เฟคเกอร์ดึงจิตสังหารเคยใช้กำจัดหนึ่งในเจ็ดกิลด์ใหญ่ตามลำพัง


มันใคร่ครวญเกี่ยวกับอดีตลันเทียร์ ผู้พัฒนาทักษะเพียงครึ่งเดียวเพื่อให้เป็นเสาหลักของจักรวรรดิ และใช้สิ่งนั้นเป็นแหล่งเรียนรู้อารมณ์ด้านลบ


มันคร่ำครวญซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงความเสียใจปกป้องช่างตีเหล็กผู้ยิ่งใหญ่ไม่สำเร็จ จากนั้นก็ฟื้นฟูจิตใจของตนให้กลับมาเข้มแข็งด้วยการระลึกถึงความเกรียงไกรของอาณาจักรมันคอยปกป้องในเงามืด ปรับสภาพจิตใจให้มั่นคง


พรสวรรค์สามารถเอื้อมถึงท้องฟ้า


พรสวรรค์แสนล้ำค่าถูกเก็บซ่อนมาหลายปีเนื่องด้วยบทบาทหน้า บัดนี้กำลังปะทุออก


เฟคเกอร์สั่งให้สมาชิกทุกคนถอย จากนั้นก็วางมือลงบนพื้น


เงานับพันยืดยาวออกไปทางคฤหาสน์


อิฐมอญสีส้มและหน้าต่างโปร่งใส่ถูกย้อมเป็นสีดำทันที


คฤหาสน์ถูกเงาดำกัดกร่อน


มันกลายเป็น ‘ทรัพย์สิน’ ของเฟคเกอร์ชั่วคราว


เงาดำกัดกร่อนคฤหาสน์เริ่มเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตจิตใจ


ปากของสัตว์ประหลาดในตำนานจะใหญ่ถึงเพียงนี้ไหม?


คฤหาสน์ทั้งหลังกำลังถูกกลืนกิน


‘น่าทึ่งมาก’


‘เขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง’


จากบรรดาสมาชิกหน่วยเงาทั้งหมด ไม่ใช่ทุกคนเป็น NPC


ผู้เล่นจำนวนหนึ่งได้สะสมความไว้วางใจและพัฒนาฝีมือในกิลด์โอเวอร์เกียร์มาเป็นเวลานาน


สำหรับพวกมัน ไฮแรงเกอร์นักลอบสังหาร เฟคเกอร์คือบุคคลเป้าหมายน่าชื่นชม


พวกมันเชื่อว่าแอ็กนัส ศัตรูมิอาจเลี่ยงการปะทะ และพอลด์ อีกหนึ่งเป้าหมายของภารกิจ คงไม่แคล้วถูกเงาดำกลืนกินไปกับคฤหาสน์


แต่ทันใดนั้น เงาทรงโดมครึ่งวงกลมกำลังกลืนกินคฤหาสน์ เกิดการผันผวนสถานหนัก


ฝ่ามือของใครบางคนโผล่ออกมาเงา


เป็นมือผอมแห้งราวกับโครงกระดูก


เส้นเลือดจำนวนมากปูดโปนทั่วผิวสีซีด ชวนให้นึกถึงศพ


“กระจายกำลัง”


ทันทีเฟคเกอร์ออกคำสั่งสั้นกระชับ สมาชิกหน่วยเงากว่าสามร้อยคนอยู่รอบคฤหาสน์ พลันอันตรธานหายไป


แน่นอน พวกมันไม่ได้หนีไปไหน


ทุกคนเร้นกายในเงามืด ขณะเดียวกันก็ยังล้อมกรอบอย่างเหนียวแน่น


ทันใดนั้น มือยื่นออกจากเงาดำทรงโดม พุ่งพรวดออกมาด้วยความเร็วสูง


เพียงพริบตาก็มาถึงปลายจมูกเฟคเกอร์


เฟคเกอร์เอนหลังหลบ ตามด้วยการยกเท้าขึ้น


ใบมีดคมโผล่ออกจากปลายรองเท้า แทงเข้าช่องท้องของคู่ต่อสู้ แต่ความดุดันของอีกฝ่ายยังไม่จางหาย


เป็นศัตรูมีค่าต้านทานทางกายภาพสูง


เฟคเกอร์ชักเท้ากลับและหมุนตัวแทงด้วยมีดสั้น


มันตวัดซ้ำอีกหลายครั้งก่อนจะดึงกลับ


กรร!


อีกฝ่ายคำรามเสียงต่ำคล้ายสัตว์ป่า


บนหน้าอกและคอมีรอยมีดลึก แต่กลับมิได้หลังเลือดแม้แต่หยดเดียว


เส้นเลือดปูดโปนบนผิวสีซีดทวีความแข็งตัว


กลิ่นศพเหม็นฉุนมาก


ชายเจ้าของชื่อ <คนตายของแอ็กนัส> เริ่มย่นระยะห่างระหว่างมันกับเฟคเกอร์ให้แคบลงอีกครั้ง


พลังการโหมบุก ดุดันมากเสียจนสร้างบรรยากาศน่าสะพรึง


เฟคเกอร์ซึ่งไม่เป็นรองกริดในด้านความเร็ว เกือบจะหลบไม่พ้น


“ข้าคิดว่าเราต้องเพิ่มแรงขับให้สูงกว่านี้”


“แต่ร่างคนตายไม่สามารถรับภาระหนักกว่านี้ได้”


“นั่นเป็นความผิดของเจ้าไม่ยอมสร้างของคุณภาพดีกว่านี้”


“วัตถุดิบเหมาะสมมันหายาก”


บทสนทนาระหว่างคนสองคน


แอ็กนัสและพอลด์


ทั้งสองคุยกันเสียงแผ่วขณะเดินผ่านโดมเงาดำครึ่งวงกลมออกมา


สายตาเฟคเกอร์จับจ้องไปทางพอลด์


อีกฝ่ายยังเด็กมาก ดูเหมือนว่ารายงานของอลิซาเบธจะถูกต้อง


เฟคเกอร์ระบุจุดประสงค์การมาเยือนของตน


“แอ็กนัส ลิชพอลด์อันตรายเกินไป ฉันจำเป็นต้องจำกัดทิ้ง… นายมีสิทธิ์จะร่วมมือหรือต่อต้านก็ได้”


“แล้วนายมีสิทธิ์อะไร?”


“สิทธิ์ของผู้แข็งแกร่ง”


ดวงตาแอ็กนัสเบิกกว้างเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำตอบ


มันค่อนข้างฉงนกับท่าทีแสนมั่นใจของเฟคเกอร์ ผู้กล้าประกาศตนอย่างมั่นใจเสียเต็มประดา


“สมแล้วที่เป็นเฟคเกอร์”


สีหน้าแอ็กนัสเผยความสดใส


มันชื่นชอบเฟคเกอร์ที่เป็นแบบนี้ ชื่นชอบการพูดอย่างตรงไปตรงมา แทนที่จะอ้างความชอบธรรมหรือหลักตรรกะ


“แต่ความแข็งแกร่งมักมาพร้อมจุดอ่อน นั่นคือกฎ”


แอ็กนัสกล่าวพลางยักไหล่


พอลด์ก้าวไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว


“ข้าจะถูกกำจัดง่ายเช่นนั้นเชียว? ดูเหมือนว่า ชื่อเสียงของข้าจะไม่ค่อยโด่งดังในยุคสมัยนี้สินะ… สงสัยจะเป็นเพราะบราฮัม”


พอลด์ส่ายหน้าอย่างโกรธเคือง ส่วนเฟคเกอร์รีบสำรวจอีกฝ่าย


ผิวของพอลด์ค่อนข้างซีด แต่ก็ดูเหมือนมนุษย์มาก


แตกต่างจากลิชตนอื่นที่เฟคเกอร์เคยพบโดยสิ้นเชิง ส่วนใหญ่พวกมันจะมีร่างกายเป็นโครงกระดูกสีขาว


สีหน้าเรียบเฉยกำลังแสดงถึงความมั่นใจ


ร่างกายเล็กๆ อาจดูอ่อนแอ แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ย่อมไร้ความหมายในเชิงเวทมนตร์


‘ทั้งหมดนั่นเป็นฝีมือของพอลด์หมดเลยหรือ?’


สร้อยคอ กำไลข้อมือสองวง และแหวนสิบวง


พอลด์ประดับประดาไปด้วยเครื่องประดับหรูหรา


ชายกางเกงอาจกำลังปกปิดจนยากจะมองเห็น แต่ข้อเท้าก็น่าจะมีเครื่องประดับชิ้นอื่น


บางที ผ้าผูกผมก็คงด้วย


‘แข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้’


หากการเดาของอลิซาเบธถูกต้อง พอลด์สามารถสร้างสมบัติวิเศษได้


ประกอบกับเรื่องที่ครอเกลเคยรายงานการคืนชีพของพอลด์ให้กริดทราบเมื่อนานมาแล้ว มีความเป็นไปได้ว่า เครื่องประดับเกือบทั้งหมดที่พอลด์สวม คือฝีมือการผลิตของมัน


นอกจากนั้น คนตายของแอ็กนัสก็ยังแข็งแกร่งมาก


เป็นศัตรูที่ตึงมือกว่าผลการคาดคะเน


เฟคเกอร์คิดไวทำไว ลงมือเขียนบนเงาเพื่อให้พวกพ้องเห็น


นี่คือพลังของลันเทียร์


มันบอกให้ทุกคนช่วยตรึงคนตายเอาไว้ และเสริมว่าอย่าฝืนตัวเอง


ทันใดนั้น ร่างกายเฟคเกอร์พลันเลือนหาย


ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนคนตายของแอ็กนัสเอียงคอฉงนขณะพยายามเข้ามาขย้ำเฟคเกอร์


เฟคเกอร์ผงาดขึ้นจากเงาใต้เท้าของพอลด์ จากนั้นก็แทงพอลด์ด้วยมีด


เป้าหมายคือแก่นของลิช


โดยไม่สนเงื่อนไข หากถูกโจมตีใส่แก่น ลิชจะได้รับความเสียหายใหญ่หลวง


อย่างน้อยก็ทฤษฎีก็ว่าไว้แบบนั้น


[เป้าหมายทำให้ความเสียหายไร้ผล]


สร้อยคอที่พอลด์กำลังสวม สองแสงสีฟ้าอ่อน


เป็นแสงอันเย็นเยียบ ส่องสว่างโดยไม่ผสมปนเปกับแสงแดด


“สมกับที่ได้เป็นลันเทียร์ ฝีมือไม่เลว… เหมือนกับลำดับยี่สิบห้า”


ลันเทียร์ลำดับยี่สิบห้า


ลันเทียร์เพียงผู้เดียวที่กลายเป็นตำนาน มันโลดแล่นในยุคสมัยเดียวกับพอลด์


พอลด์เก็บสร้อยคอที่ต้องอับแสงไปเพื่อแลกกับการดูดซับความเสียหายปริมาณมหาศาล จากนั้นก็ใช้มหาเวท


ไม่ใช่การโจมตีที่ดุดันหรือเกรี้ยวกราด


เป็นเวทมนตร์อัญเชิญก้อนแสงทรงกลมขนาดมหึมา


เหมือนกับเวทส่องแสงทั่วไป แต่มีขนาดใหญ่กว่าปรกติหลายร้อยเท่า


สำหรับเฟคเกอร์ สิ่งนี้อันตรายยิ่งกว่าเวทมนตร์โจมตี


“ข้ามีประสบการณ์ไม่น้อยทีเดียว… เพราะเคยเกือบตายด้วยฝีมือลำดับยี่สิบห้ามาแล้ว”


พลังเวทอันไร้สิ้นสุดของลิช กำลังทำให้แสงทรงกลมขยายขนาดอย่างรวดเร็ว ชะล้างเงาทั้งหมดภายในรัศมีห้าสิบเมตร


การเคลื่อนไหวอย่างลับๆ ของหน่วยเงาถูกเปิดโปงต่อหน้า ‘คนตาย’ และวิชาเคลื่อนเงาของเฟคเกอร์ที่เชื่อมโยงกับ ‘เงาที่ใกล้ที่สุด’ กลายเป็นหมันไปชั่วคราว


คนตายของแอ็กนัสคำรามต่ำ


ประหนึ่งสัตว์ร้าย มันปรี่เข้าหาหน่วยเงาที่มิอาจซ่อนตัวหรือวิ่งหนึ่ง


วิชาต่อสู้จำนวนมากที่ถูกปลดปล่อย บ่งบอกชัดเจนว่ามันเคยยอดเยี่ยมเพียงใดสมัยยังมีชีวิต


“…!”


นักฆ่าผู้ช่ำชองมักไม่ส่งเสียง


แม้เกราะหนังเดรกชั้นเลิศจะถูกฉีกทำลาย และเหล่าหน่วยเงาต้องตายอย่างสยดสยอง แต่ก็ไม่มีใครเลยที่ส่งเสียงร้อง


อย่างไรก็ตาม เสียงของเนื้อถูกบด เสียงกระดูกหักกังวาน ได้มอบบรรยากาศอันน่าขนลุกแก่สนามรบ


เฟคเกอร์เร่งความเร็ว


ในทุกลมหายใจที่สูดเข้าไป มันโยกหลบเวทมนตร์ของพอลด์พร้อมกับแทงมีดใส่


เมื่อเทียบกับพอลด์ หลอดพลังชีวิตของเฟคเกอร์ลดลงเร็วกว่า


เวทมนตร์ของพอลด์แทบไม่ปะทะเป้าหมาย


แม้จะปราศจากเงา แต่เฟคเกอร์ก็ยังเป็นนักลอบสังหารชั้นเลิศ


มันประสบความสำเร็จในการลดระยะห่างจากจอมเวท สถานการณ์จึงเหนือกว่ามาก


ทว่า แหวนทั้งสิบวงบนมือสองข้างของพอลด์ สลับกันเปล่งแสงที่แตกต่าง ส่งผลให้การโจมตีของเฟคเกอร์ไร้ผลหรือไม่ก็สะท้อนกลับ


ยิ่งไปกว่านั้น อัศวินความตายทั้งสองที่แอ็กนัสอัญเชิญ ปัจจุบันกำลังร่วมวงรุมโจมตีเฟคเกอร์


เสียงโลหะดังกังวานหลังจากมีดสั้นปะทะกับดาบสองเล่ม


กล่าวอีกนัยหนึ่ง เฟคเกอร์สามารถป้องกันการโจมตีจากอัศวินความตายสองตนพร้อมกัน โดยการเคลื่อนไหวร่างกายเพียงครั้งเดียว


‘ถ้าเจ้านี่เป็นอริยดาบ กริดก็กริดเถอะ…’


เฟคเกอร์ที่สามารถควบคุมปราณเงาสีดำอันแหลมคมจำนวนมากไปพร้อมกับรักษาสมดุลร่างกาย สร้างความประทับใจให้แอ็กนัสไม่น้อย


การรับมือกับอัศวินความตายที่เก่งกาจสองตน และลิชอีกหนึ่งตนในเวลาเดียวกัน เป็นภาพที่ยอดเยี่ยมจนทำให้หัวใจที่เย็นชาของแอ็กนัสเต็มเกิดความตื่นเต้น


พอลด์สูญเสียวงแหวนไปสองวง บาดแผลตามร่างกายเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมิอาจรับมือกับความเสียหายที่สะสมอย่างต่อเนื่องและทวีความเร็วขึ้นเรื่อยๆ


จุดแข็งอันดับหนึ่งของเฟคเกอร์มิใช่ความเร็ว แต่เป็นความลับ


ความลับทำให้ศัตรูสับสน พะวง และกังวล


พอลด์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากควบแน่นบาเรียคุ้มกายและฉาบไปบนร่าง


มันมิอาจคาดเดาได้ว่า การโจมตีของเฟคเกอร์จะมาจากทิศทางใด


‘ขนาดข้าลบเงาไปมากมายเพียงนี้แล้ว?’


‘จังหวะนี้แหละ’


สีหน้าของเฟคเกอร์ยังคงเรียบเฉยในยามปัดป้องดาบของอัศวินความตายด้วยมีดสั้นในมือขวา พลางหยิบมีดสั้นเล่มใหม่ในมือซ้ายที่ซ่อนอยู่หลังเสื้อคลุมซึ่งพัดกระพือจากแรงปะทะ


สีหน้าสงบนิ่งโดยสมบูรณ์ ความคิดของมันจึงไม่ถูกอ่านออก ไม่มีใครมองเห็นเจตนาที่แท้จริง


แอ็กนัส อัศวินแห่งความตายทั้งสอง และพอลด์


เฟคเกอร์เพ่งสมาธิเพื่อตบตาการสำรวจของศัตรูที่มองมาจากทุกทิศ


จากนั้น มันระเบิดจิตสังหารในวินาทีที่แทงใส่ท้องของพอลด์เข้าไปจนมิดด้าม


พอลด์รู้สึกวิงเวียนศีรษะ พลังเวทจำนวนมหาศาลเริ่มขาดเสถียรภาพ


แสงทรงกลมขนาดมหึมาที่ลอยอยู่กลางอากาศ เริ่มกระจัดกระจายคล้ายกระจกแตก ส่งผลให้เงาดำกลับคืนสภาพเดิม


สถานการณ์กำลังพลิกผัน


คนตายของแอ็กนัสซึ่งกำลังระเบิดวิชาต่อสู้อย่างไร้ขีดจำกัด เสียหลักล้มเป็นครั้งแรก


พิจารณาจากท่าทางติดๆ ขัดๆ หลังจากหน่วยเงาได้รับความสามารถในการพรางตัวกลับคืน ดูเหมือนว่าประสาทสัมผัสของคนตายจะมิได้ยอดเยี่ยมสักเท่าไรเมื่อเทียบกับวิชาต่อสู้


“…”


แอ็กนัสที่ถูกรายล้อมด้วยกองรบอันโด่งดังของกิลด์โอเวอร์เกียร์ มีสีหน้าดำมืดเป็นครั้งแรก


เป็นอีกครั้งที่เฟคเกอร์กล่าวกับแอ็กนัส ผู้เพิ่งตระหนักถึงสถานการณ์ที่แท้จริงได้เมื่อสาย


“ฉันทำเป็นต้องทำลายลิชพอลด์”


พระอาทิตย์กำลังขึ้น


ในวินาทีที่ดวงอาทิตย์ส่องแสง ความดุดันของคนตายและอัศวินความตายย่อมอ่อนแอลง


สิ่งมีชีวิตกลางคืนย่อมทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับชาวโอเวอร์เกียร์ผู้ปกครองทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่แบ่งแยก


เฟคเกอร์เช็ดเลือดออกจากหน้าผาก ก่อนจะดูดซับเงารอบตัวพลางควบแน่นไว้บนมีดสั้น


ดาบเงาที่จะกลืนกินและทำลายพอลด์


มันยังหวังด้วยว่า ตนอาจกำจัดอัศวินความตายเป็นของแถม


“จะลองป้องกันดูก็ได้นะ”


นักลอบสังหารเน้นการปิดฉากในระยะสั้น


เฟคเกอร์ไม่มีเจตนาจะยืดการต่อสู้ให้นานออกไป


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,951
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00