จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,445



ลิชหรืออัศวินความตายที่เป็นทรัพย์สินของผู้เล่นจะไม่ถูกทำลายด้วยวิธีการตามปรกติ


ลักษณะคล้ายกับสัตว์เลี้ยง เป็นวัตถุที่ผูกกับตัวละคร


เช่นนั้นแล้ว ผู้เล่นคนอื่นมีสิทธิ์อะไรถึงไปทำลาย?


เฟคเกอร์เอาแต่พูดว่าจะทำลายพอลด์


เป็นแค่การบลัฟ?


แต่เมื่อพิจารณาจากสีหน้าที่ยังคงขึงขัง อีกฝ่ายดูไม่เหมือนกำลังบลัฟเลยสักนิด


‘เจ้านี่กำลังเชื่อมั่นใจบางสิ่ง’


มีดสั้นที่รายล้อมด้วยเงา


พลังที่อัดแน่น เข้มข้นยิ่งกว่าเงาทรงโดมซึ่งปกคลุมคฤหาสน์เสียอีก


‘นี่คือเหตุผลที่เราเคลือบแคลงมาตลอดว่าผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลไร้เทียมทานจริงหรือ’


อริยดาบอาจแข็งแกร่งที่สุด แต่ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลนั้นไร้เทียมทาน


เป็นหน้าที่ซึ่งต้องกลายเป็นศัตรูกับมนุษยชาติ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่


เป็นคลาสที่แข็งแกร่งอย่างไร้เหตุผล


นอกจากความเกลียดชังที่มีต่อแอ็กนัส ผู้คนยังพากันหวาดกลัวในศักยภาพของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล


แม้กระทั่งแอ็กนัสเองก็มิอาจกะเกณฑ์ขีดจำกัดของตัวเอง


ในตอนที่กำลังอารมณ์เสีย มันเคยปฏิเสธภารกิจของบาเอลหลายครั้งเพราะเห็นว่าไร้สาระ


หากแอ็กนัสย้อนเวลากลับไปและทำภารกิจที่เกี่ยวกับการสังหารหมู่ผู้คนอย่างครบถ้วน มันจะแข็งแกร่งกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่า


ทว่า สำหรับแอ็กนัส นั่นเป็นเรื่องที่สุดโต่งเกินไป


‘นอกจากจะแพ้ทางพลังเทพและนักล่าอสูร เรายังแพ้ทางพลังแห่งเงาด้วย?’


นี่คือสาเหตุที่ทำให้แอ็กนัสมองว่า คำประกาศของบาเอลที่ระบุว่า คลาสผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลนั้นไร้เทียมทาน เป็นเพียงลมปากไร้สาระ


‘…ไม่ใช่’


แอ็กนัสใคร่ครวญพลังงานที่แฝงอยู่ในมีดสั้นเฟคเกอร์ จนกระทั่งสังเกตเห็นบางสิ่ง


พลังแห่งการ ‘ขจัด’


ไม่มีข้อจำกัดในเชิงผลลัพธ์


พลังชนิดนี้มิได้ทำให้แค่ตาย แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะ ‘ทำลาย’ เป้าหมาย


เป็นวิชาลับของนักลอบสังหาร


ทักษะชนิดนี้จำกัดจำนวนครั้งในการใช้งาน เฉกเช่น ‘สร้างคนตาย’ ของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล และ ‘สร้างวิชาดาบ’ ของอริยดาบ


‘หมอนี่ทุ่มสุดตัว’


โดยทั่วไป ทักษะเกรดเลเจนดารีที่จำกัดจำนวนครั้งในการใช้งาน มักถูกใช้เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง


แต่ถึงอย่างนั้น เฟคเกอร์กลับนำมาใช้กำจัดพอลด์


หนึ่งในผลประโยชน์สำคัญของคลาสในตำนาน เฟคเกอร์ยอมเสียสละเพื่อส่วนรวม


นี่มิใช่ความคิดของมนุษย์ปรกติ


‘พอลด์ไม่ปลอดภัย…’


แอ็กนัสชักดาบพร้อมกับสำแดงอำนาจของอสูรระดับสูง


มันอัญเชิญอสูรออกมาสามตน


พิจารณาจากจำนวน ดูเหมือนว่าสถานะขุนนางของมันจะถูกยกระดับขึ้นมาก


“เชิญใช้สิทธิ์ของนายให้เต็มที่… ฉันเองก็เข้าใจดี… ทุกครั้งที่คนแข็งแกร่งใช้สิทธิ์ จะต้องมีคนอ่อนแอเสียสิทธิ์เสมอ”


ตัวฉันก็เคยทำแบบนั้นมาก่อน


เฟคเกอร์อ่านสายตาของแอ็กนัส ภายในใจสัมผัสถึงบางสิ่ง


‘หมอนี่เปลี่ยนไป’


ไม่หลงเหลืออาการเสียสติที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแอ็กนัส


ปราศจากจิตสังหาร?


เฟคเกอร์ได้แต่เคลือบแคลง


บางที แอ็กนัสอาจสลัดมันไปพร้อมกับอาการเสียสติ หรือไม่ก็ยังซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ


แต่มีหนึ่งสิ่งที่แน่ชัด


แอ็กนัสไม่ใช่คนเสียสติที่ลงมือตามอำเภอใจโดยไม่คิดหน้าคิดหลังอีกแล้ว


เฟคเกอร์เล็งเห็นแล้วว่า ตนคงต้องล้มเลิกเป้าหมายที่จะทำลายอัศวินความตายไปพร้อมกับพอลด์


หนึ่งในจุดอ่อนเพียงไม่กี่อย่างของแอ็กนัสคืออาการเสียสติ


เมื่อสิ่งนั้นหายไป แอ็กนัสจะกลายเป็นศัตรูที่ตึงมือเหนือจินตนาการ


กึก


แอ็กนัสก้าวไปข้างหน้า


มันไม่ได้ขยับเข้าหาเฟคเกอร์


ไม่ว่าทักษะดาบของมันจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ก็ยังห่างไกลกับเฟคเกอร์ในการสู้ระยะประชิด


เฟคเกอร์เพิ่งรับมือกับอัศวินความตายสองตนที่แข็งแกร่งกว่าไฮแรงเกอร์ไปต่อหน้าต่อตามัน


แอ็กนัสชำเลืองไปรอบๆ เมืองที่อยู่นอกขอบเขตของเงามืด จากนั้นก็กางแขนออก


“ถนนเส้นรองของเมืองที่เจริญแห่งนี้เต็มไปด้วยคนด้อยโอกาสที่สูญเสียสิทธิ… พวกมันอ่อนแอจนไม่มีใครแยแส ถึงจะหายตัวไปก็ไม่มีใครสนใจ”


“…”


เฟคเกอร์ที่ตระหนักถึงบางสิ่งเริ่มเป็นกังวล


แม้จะไม่มีหลักฐานหรือเครื่องบ่งชี้ในทางกายภาพ แต่ลำพังคำพูดก็มากพอจะทำให้เฟคเกอร์รู้สึกไม่ดี


นี่คือสัมผัสที่หกของอัจฉริยะ เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นการมองเห็นอนาคต


“แต่ฉันมอบคุณค่าให้พวกเขา”


ตึง


แอ็กนัสกระทืบเท้าแผ่วเบาบนดินที่มันยืน


ผลลัพธ์ที่ตามมาค่อนข้างน่าทึ่ง


ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือนหนักหน่วง ศพจำนวนมากเริ่มคืบคลานขึ้นมา


ตำแหน่งที่ตั้งของคฤหาสน์แอ็กนัส แปรสภาพกลายเป็นสุสานขนาดมหึมานานแล้ว


ศพหลายร้อยถูกฝังอยู่ใต้พื้นที่กว้างใหญ่ในละแวกใกล้เคียง


อูอา…


โอ…


บรรดาผีดิบที่ถูกแสงสว่างฉาบ ใบหน้าของพวกมันเผยให้เห็นความเจ็บปวดในตอนที่เสียชีวิต


จำนวนกองทัพกว่าสี่ร้อยที่พร้อมทำตามคำสั่งขอเพียงแอ็กนัสขยับมือ


ไม่มีการแบ่งจำนวนคนมาคุ้มกันพระราชา


เฟคเกอร์ตระหนักได้ทันที


อาการเสียสติและจิตสังหารของแอ็กนัสยังไม่ได้หายไปไหน


เพียงแต่พวกมันถูกควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ


หมาบ้ายกระดับกลายเป็นคนบ้า


“ฉันเข้าใจถึงสาเหตุที่นายลงมือโจมตีโดยไม่รอพวกพ้อง… นายต้องการตรึงฉันไว้ที่นี่ โดยพยายามไม่ทำให้ฉันกลัวและหลบหนีกลับนรก… แต่ว่า… นายจะรับมือกับสิ่งนี้ได้จริงหรือ?”


แอ็กนัสพ่นคำเหยียดหยันพลางตวัดนิ้ว


ทันใดนั้น อสูรทั้งสามต่างยิงลำแสงออกจากปาก


เป้าหมายหลักคือหน่วยเงา ไม่ใช่เฟคเกอร์


แอ็กนัสต้องการลดจำนวนหน่วยเงาที่คอยกีดขวางกองทัพคนตาย ไปพร้อมกับเพิ่มจำนวนให้ฝ่ายตน


หลังจากนี้จะเป็นของจริง การต่อสู้เพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้น


เฟคเกอร์จำเป็นต้องบรรลุเป้าหมายของภารกิจให้เร็วที่สุด


มันซ่อนตัวอยู่ในเงาเพื่อหลบเลี่ยงจากสายตาของกองทัพคนตาย


เฟคเกอร์ไม่คิดจะย้ายตัวเองไปอยู่ในเงาพอลด์ เพราะอีกฝ่ายคงระวังเรื่องนี้ไว้แล้ว


มันตัดสินใจโผล่ขึ้นจากเงาของแอ็กนัสแทน


จุดประสงค์ไม่ซับซ้อน เฟคเกอร์คิดจะตัดกำลังสามอสูรด้วยการลอบกำจัดพวกมันทีเผลอ


ทว่า อันตรายที่เฟคเกอร์ตรวจจับไม่พบ ซ่อนอยู่ในท่อนแขนของแอ็กนัส


อ๊บ


กบสีดำ


ใบหน้าอันไร้อารมณ์ของเฟคเกอร์เริ่มแปรเปลี่ยน


เนื่องจากชื่อ <เซพาเดีย> บนหัวกบลิ้นยาว มีสีที่ผิดแผกไปจากปรกติ


สีดำแดง


หมายความว่า เป็นตัวตนลำดับสูงมาก ไม่เว้นกระทั่งภายในนรก


ลิ้นเล็กๆ ของมันเหยียดมาหาเฟคเกอร์


ทุกครั้งที่ลิ้นเปลี่ยนแปลงขนาด ทั้งวิถีและความเร็วก็จะเปลี่ยนตาม


ลำพังการแลบลิ้นของกบ ทำให้เฟคเกอร์ต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ไม่คาดฝัน


‘โชคดีที่ไม่ลึกมาก’


เฟคเกอร์ที่บาดเจ็บตรงเอวเนื่องจากหลบไม่พ้นอย่างสมบูรณ์ กลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง


ความเสียหายแค่สี่พันหน่วย ไม่มีความผิดปรกติทางกายภาพ


อาจมีพิษแถมมาด้วย แต่ก็สามารถต้านพิษได้ด้วยพลังของตำนาน


ตรงข้ามกับความกังวล เซพาเดียค่อนข้างอ่อนแอ


ทุกคนต่างทราบว่าอสูรจะอ่อนแอลงเมื่ออยู่บนโลก แต่ก็ไม่คิดว่าจะอ่อนแอขนาดนี้


หมายความว่า นี่อาจไม่ใช่ร่างหลัก


อสูรชั้นสูงและเทวทูตมักไม่ใช้ร่างจริงในการมาเยือนโลก และกบตัวนี้ก็คงเหมือนกัน


ลิ้นของเซพาเดียกระแทกพื้นอย่างต่อเนื่อง


จุดดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่เฟคเกอร์เคยยืน แต่ปัจจุบันมันหลบหนีเข้าไปในเงาแล้ว


> อ๊บ! เจ้านั่นรอดจากการโจมตีจากร่างนี้ของข้า!


“เพราะแกอ่อนแอยังไงล่ะ ชิ!”


แอ็กนัสไม่พอใจกับการแทรกแซงของเซพาเดียสักเท่าไร


ในโลกมนุษย์ ค่าสถานะของเซพาเดียถูกลดระดับจนน่าสมเพช


อย่างไรก็ตาม เฟคเกอร์คงจับสัมผัสได้


ลิ้นของเซพาเดียไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น


การยิงรัวและต่อเนื่องของมัน ค่อยๆ ตีกรอบการเคลื่อนไหวของเป้าหมายที่พยายามเข้าใกล้แอ็กนัส


การมีอยู่ของเซพาเดียหมายถึง จะไม่มีใครเข้าใกล้แอ็กนัสได้ง่ายนัก


‘เราทำตัวเป็นเหยื่อล่อนานกว่านี้ไม่ไหวแล้ว’


นักลอบสังหารเปรียบดังเปลวไฟอันโชติช่วง แต่ก็ดับมอดในเวลาอันสั้น


นับแต่นี้ไป เป้าหมายของเฟคเกอร์จะมีเพียงพอลด์


เฟคเกอร์หายไปและโผล่ตัวอีกครั้งในเงาพอลด์


แน่นอน นั่นเป็นกับดัก


อัศวินความตายของตนฟันดาบสองพร้อมกัน โดยที่แหวนวงหนึ่งของพอลด์วงสว่างวาบและดับลง


เฟคเกอร์หายตัวไปอีกครั้ง คราวนี้โผล่ตัวข้างๆ พอลด์


เป็นตำแหน่งที่ไอความเย็นแผ่อิทธิพลไม่ถึง


พอลด์มิได้มีเพียงหนึ่งเงา


ยังมีเงาจางๆ อีกหลายจุดที่จะแปรเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องตามองศาของดวงอาทิตย์และการเคลื่อนตัวของเมฆ


เฟคเกอร์สับเปลี่ยนไปตามเงาเหล่านี้และโจมตีพอลด์อย่างต่อเนื่อง


หากมีใครรู้ว่าวิชา ‘เคลื่อนเงา’ จะย้ายตัวเองไปยังเงา ‘ที่มองเห็นด้วยตา’ เท่านั้น พวกมันคงทึ่งกับศักยภาพที่เฟคเกอร์กำลังแสดงให้เห็น


การระบุเงาเป้าหมายและเชื่อมโยงเข้ากับทักษะเคลื่อนที่ไปพร้อมการลงมือโจมตีอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ ดูไม่น่าจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้


เคร้ง!


แคร้ง!


ก๊อง!


ทุกครั้งที่เฟคเกอร์โผล่ขึ้นที่ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง หรือแม้กระทั่งใต้ฝ่าเท้าพอลด์ ดาบของอัศวินความตายจะฟันโดนเพียงลมก่อนจะกระแทกพื้น ส่งผลให้บาเรียคุ้มกายหลายชั้นบนตัวพอลด์เริ่มปริแตก


พอลด์มิอาจร่ายเวทได้เร็วนัก เนื่องจากแก่นของมันได้รับความเสียหาย แถมยังเป็นช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น


เป็นเรื่องยากที่จะใช้เวทมนตร์เพื่อพันธนาการเคล็ดวิชาลับของลันเทียร์


พอลด์ตะโกนด้วยสีหน้าหงุดหงิด


“ช่วยข้า!”


ถึงจะถูกจับตัวโดยผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล แต่มันก็ได้รับชีวิตใหม่ที่ปรารถนามานาน


เป็นการคืนชีพหลังจากความพยายามอย่างหนักกว่าหลายร้อยปี


มันไม่อยากตายไปอย่างไร้ค่าที่นี่


แอ็กนัสลงมือตอบสนองทันควัน


ผีดิบกว่าร้อยตัวกำลังรุมล้อมพอลด์ประหนึ่งรับคำสั่งจากมัน


‘พวกเราต้องเข้าไปช่วย!’


สมาชิกหน่วยเงาที่รับหน้าที่ตรึงกองทัพผีดิบ เริ่มกระจายตัวออกไปทุกทิศ


มีสองสามคนที่ถูกลำแสงของอสูรยิงตาย แต่ความฮึกเหิมของพวกมันมิได้เหือดหาย


ทุกคนทราบดี ชีวิตของพวกตนมิได้สลักสำคัญ


เคล็ดวิชา ‘ปลูกเงา’ ของลันเทียร์จะช่วยบ่มเบาะนักลอบสังหารได้มากและรวดเร็ว ดังนั้น พวกตนจึงเป็นเพียงหมากที่สามารถหามาทดแทนใหม่ได้ตลอดเวลา


แน่นอน พวกมันพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ตาย


นั่นก็เพื่อเหตุผลข้อเดียว


ศัตรูคือแอ็กนัส


หากพวกมันตาย คงไม่แคล้วถูกปลุกให้คืนชีพและกลายเป็นภาระของพวกพ้อง


“ชิ!”


การดิ้นรนขัดขืนของหน่วยเงาโอเวอร์เกียร์เริ่มระคายเคืองความอดทนของแอ็กนัส


หน่วยเงาสามารถชะลอความเร็วของกองทัพผีดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวางกับดักหรือปาดาวกระจายจากทุกทิศทาง ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องหงุดหงิด


‘เคยคิดว่าเจ้าพวกนี้ดังเกินตัว… แต่ความจริงแล้วตรงกันข้าม’


หากเป็นไปได้ ก็ควรรีบเก็บกวาดให้หมดในวันนี้


แอ็กนัสที่คอยบงการทิศทางการยิงของลำแสงอสูร ตัดสินใจปล่อยให้อสูรลงมืออิสระ ส่วนตัวเองเข้าร่วมสนามรบ


มันหันหลังให้เฟคเกอร์ และเดินหน้าฟาดฟันหน่วยโอเวอร์เกียร์เงา


โดยทั่วไป นักดาบทุกคนจะกวัดแกว่งดาบด้วยวิชาดาบที่ตนฝึกฝนมา เว้นเสียแต่ในตอนที่ใช้ทักษะ


ไม่สำคัญว่าจะเป็นวิชาดาบที่ลอกเลียนแบบมาจากผู้อื่นหรือคิดค้นขึ้นเอง


ขอแค่เป็นวิชาดาบก็พอ


แต่ในทางกลับกัน วิชาดาบของแอ็กนัสเป็นผลมาจากพลังของอักขระล้วนๆ


มันมิได้เหวี่ยงดาบตามความคิดและเจตนารมณ์ของตัวเอง แต่เป็นการปล่อยให้ร่างกายไหลไปตามพลังของอักขระ


คล้ายกับช่างตีเหล็กที่สร้างไอเท็มด้วยการกดปุ่มอัตโนมัติ


แอ็กนัสกำลังใช้วิชาดาบอัตโนมัติ


วิชาดาบที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้นๆ จะถูกงัดออกมาใช้งานโดยระบบ


แน่นอน ย่อมมีช่วงเวลาที่มันพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชต่อนักดาบที่มีเชิงดาบสูงกว่า แต่นั่นเกิดขึ้นได้ยากมาก


โดยส่วนใหญ่ มันจะเหนือกว่าศัตรูหลายขุม


“แอ็กนัส!”


ผู้เล่นที่สังกัดโอเวอร์เกียร์เงาต่างขบกรามแน่น


มันเดือดดาลเมื่อได้เห็นแอ็กนัสสะบั้นคอพวกพ้องจนขาด


แอ็กนัสหัวเราะพลางเปลี่ยนให้หน่วยเงาที่ตายไปกลายเป็นอันเดด


“พวกแกกำลังโมโหใคร?”


พฤติกรรมของแอ็กนัสทวีความป่าเถื่อนขึ้นทุกขณะ


ในบางครั้ง มันขยับเข้าไปใกล้เฟคเกอร์และสังหารหน่วยเงาที่พยายามช่วยเฟคเกอร์


จากนั้น มันปลุกคนเหล่านั้นให้กลายเป็นอันเดดและตรึงหน่วยเงาคนอื่นต่อไป


ผีดิบกว่าสี่ร้อยตัวกำลังกระจุกอยู่รอบๆ พอลด์


พวกมันคอยยืนดักเงาทุกจุดรอบๆ ตัวพอลด์ จากนั้นก็รุมโจมตีเฟคเกอร์ที่โผล่ขึ้นมา


อย่างไรก็ตาม การโหมบุกจากเฟคเกอร์ยังไม่หยุดลง


มันกระอักเลือดพลางอาละวาดเพื่อทำลายบาเรียคุ้มกายของพอลด์อย่างต่อเนื่อง


“ทำไมเจ้านี่คือดื้อด้านขนาดนี้?”


สีหน้าพอลด์ยิ่งซีดลง


มันใกล้จะรังเกียจใบหน้าเฟคเกอร์ที่โผล่ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า


จนกระทั่ง มันตระหนักว่าโอกาสทองมาถึง


เฟคเกอร์โผล่ขึ้นจากเงาระหว่างผีดิบ จากนั้นก็ถูกผีดิบรุมตรึงร่าง


สีหน้าคล้ายกับกำลังประหม่า ดูเหมือนร่างกายใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว


อาจดูไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไร แต่พอลด์ก็เห็นจริงๆ ว่าดาบในมืออัศวินความตายทะลวงกำลังผ่านแผ่นหลังเฟคเกอร์


นี่คือโอกาสอันดีที่จะตอบโต้


แต่กระนั้น พอลด์มิได้บุ่มบ่าม


ตำนานจะไม่ตายโดยง่าย


มันย่อมทราบดี เพราะเคยอยู่ในยุคสมัยเดียวกับบราฮัม


หากมันลงมือตอนนี้ เฟคเกอร์จะเข้าสู่ภาวะอมตะหลายวินาที และมีดชั่วร้ายนั่นก็จะแทงเข้าใส่แก่นลิชของตน


แหวนสองวงบนนิ้วพอลด์ส่องแสง


เป็นสมบัติวิเศษที่ช่วยเสริมความแรงเวทมนตร์และความเร็วในการร่ายเวท


บาเรียคุ้มกายถูกกางทับร่างอีกครั้ง


หนึ่งชั้น สองชั้น สามชั้น


ความเร็วในการกางอาจเชื่องช้ากว่าปรกติ แต่ก็ปกป้องร่างกายของมันอย่างมั่นคง


บาเรียคุ้มกายหลายชั้นที่เฟคเกอร์พยายามทำลายอย่างยากลำบาก ปัจจุบันเริ่มกลับไปอยู่ในสภาพเดิมอีกครั้ง


ทว่า เฟคเกอร์มิได้กระวนกระวาย


มันกระอักเลือดหนึ่งคำขณะถูกเสียบด้วยดาบของอัศวินความตายประหนึ่งหมูปิ้ง


หลังจากถูกผีดิบกระชากร่างออกจากคมดาบ เฟคเกอร์ฉวยโอกาสพุ่งไปข้างหน้าหนึ่งก้าว


มันตวัดมีดแทงเป็นเส้นตรง


ผีดิบตัวหน้าสุดกลายเป็นเหยื่อรายแรกของมีดเงา


โฮกกกก!


ผีดิบสามตัวด้านหลังเองก็สิ้นลมไปในพริบตา


โฮกก!


กระทั่งผีดิบตัวที่ยืนเป็นโล่ให้พอลด์ก็ไม่รอด


มีดเพียงเล่มเดียวสามารถทำลายปราการที่ปกป้องพอลด์อย่างโหดเหี้ยม


ทว่า ใบหน้าของพอลด์กำลังเปี่ยมสุข


“สายไปแล้ว!”


มันเคยสร้างสมบัติวิเศษขึ้นมากมาย จารึกชื่อไว้ในหน้าประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่


บุคคลที่จะถูกยกย่องไปอีกนานต่อให้ไม่คืนชีพมาในสภาพลิช กำลังยิ้มอย่างดีใจพร้อมกับกางบาเรียทับร่างกายหลายชั้น


กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันกำลังหวาดกลัวภัยอันตรายจากเฟคเกอร์


เฟคเกอร์ที่เลิกคิดเรื่องหนี ตัดสินใจโจมตีใส่หัวใจ


ไม่สิ ไม่ผิดนักหากจะเรียกว่าเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของเฟคเกอร์


พอลด์เผยสีหน้าโล่งใจ


หลังจากจับตามองมาสักพัก มันเล็งเห็นว่ามีดเงาในมืออีกฝ่าย ไม่สามารถทำลายบาเรียได้มากกว่าสี่ชั้นในคราวเดียว


มันมั่นใจว่าตัวเองยังรอด


สิ่งเดียวที่ทำให้มันไม่สบายใจก็คือ ใบหน้าอันราบเรียบไร้อารมณ์ของเฟคเกอร์ แต่พอลด์ก็คิดว่านั่นคงเป็นความโอหังส่วนตัวของอีกฝ่าย


ทันใดนั้น


—!


หอกเล่มหนึ่งพุ่งแหวกอากาศพร้อมกับทำลายบาเรียคุ้มกายของพอลด์ไปห้าชั้น


พอลด์เห็นเต็มสองตา


เฟคเกอร์ที่ไม่เคยเปลี่ยนสีหน้าตลอดการต่อสู้ เผยรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก


‘นี่… มัน…’


พอลด์ตระหนักว่ากระแสเวลาเริ่มไหลช้าลง


ภาพของใบมีดเงาที่กรีดทำลายบาเรียที่เหลือ กำลังสะท้อนบนกระจกตาเล็กๆ ของพอลด์


“จัดการเลย! เฟคเกอร์!”


เสียงของตัวละครใหม่ดังกังวานทั่วสนามรบ


***


“…?”


อารมณ์อันซับซ้อนกำลังปรากฏขึ้นบนใบหน้าสมาชิกหน่วยเงา ผู้ไม่เคยเปลี่ยนสีหน้าแม้ในยามถูกแอ็กนัสฆ่าล้างบาง


นั่นเพราะกองทัพเงาจำนวนมหาศาลได้ผุดขึ้นจากเงาและคอยเป็นโล่ให้พวกตน


น…นี่มัน… บ้าน่า…


ดวงตาที่สั่นระริกของหน่วยเงาต่างหันไปทางเฟคเกอร์อย่างพร้อมเพรียง


หัวหน้าของพวกตนที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมศัตรู


ทุกคนสังเกตเห็นว่า การที่เฟคเกอร์ไม่สามารถใช้วิชาเคลื่อนเงาได้สะดวก เป็นเพราะกำลังสร้างกองทัพเงามาปกป้องพวกตน


‘เขาปกป้องเราทำไม?’


“ได้เห็นเรื่องเหลวไหลแบบนี้… คงเพราะการชุบเลี้ยงพวกแกต้องสิ้นเปลืองเงินไม่น้อยสินะ?”


ด้วยกันกับลำแสงของอสูร แอ็กนัสไล่กวาดล้างหน่วยเงาพลางเย้ยหยันการเสียสละอันโง่เขลาของเฟคเกอร์


ทันใดนั้นเอง


“จัดการเลย! เฟคเกอร์!”


เสียงของตัวละครใหม่ดังกังวานทั่วสนามรบ


แอ็กนัสและหน่วยเงาต่างหันไปมองต้นเสียงเป็นตาเดียว จากนั้นก็พากันตกตะลึง


ปราการอันแข็งแกร่งที่สร้างจากร่างกายของผีดิบนับร้อย ปัจจุบันถูกบดขยี้เป็นเส้นตรงทางยาว


ผีดิบทั้งหมดบนเส้นทางดังกล่าวกำลังกระเสือกกระสนกับร่างกายพิกลพิการ


คลื่นกระแทกเมื่อการโจมตีปะทะเป้าหมาย สร้างระเบิดลูกใหญ่พร้อมกับการพังทลายของบาเรียคุ้มกายพอลด์


ท่ามกลางเสียงระเบิด คนของหน่วยเงาได้พบกับอัศวินขี่ม้าขาว


นี่คือสาเหตุที่เฟคเกอร์ต้องดึงดูดความสงสัยของศัตรูโดยแสร้งทำเป็นตกที่นั่งลำบาก


นี่คือสาเหตุที่มันกล้าเผยรอยยิ้มแม้ตัวเองจะหมดทางหนี


มันทราบดี พวกพ้องที่เชื่อใจได้จะต้องมาถึง


มีดเงาเสียบเข้าที่แก่นลิชของพอลด์อย่างจัง


พร้อมกันนั้น อัศวินความตาย ‘ลันเทียร์’ ผุดขึ้นจากเงาเฟคเกอร์ จากนั้นก็คว้าคอเฟคเกอร์ทุ่มพื้นและแทงมีดใส่หัวใจ


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,952
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00