จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,436



ความสัมพันธ์ระหว่างครอเกลและยังบันนั้นเปลี่ยนไปจากอดีต


ปัจจุบัน ครอเกลมิใช่เหยื่อที่เอาแต่หลบหนีหัวซุกหัวซุน


มันกลายเป็นนักล่าที่คอยเฝ้ามองยังบันพลิกแผ่นดินหาตนทั่วทะเลทราย จากนั้นก็หาโอกาสซุ่มโจมตีพวกมันและปลิดชีพ


แน่นอน การฆ่ายังบันไม่ใช่เรื่องง่าย


ปัญหาอยู่ตรงที่ แม้การซุ่มโจมตีจะประสบความสำเร็จ แต่ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควรเพื่อจะสร้างความเสียหายในระดับที่สามารถ ‘ปลิดชีพ’ ครึ่งเทพ แถมแต่ละคนยังเป็น NPC พิเศษ


พวกมันล้วนมีค่าพลังชีวิตสูงสุดและระดับตัวตนสูงกว่าครอเกลหลายสิบเท่า จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะลอบสังหารสำเร็จ


ในปีที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่ยังบันสามารถหลบหนีไปได้ก่อนที่จะถูกครอเกลฆ่า หรือไม่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากยังบันตนอื่น ส่วนครอเกลก็ต้องหลบหนีออกมาอย่างยากลำบาก


แต่กระนั้น ไม่ใช่ว่าเหตุการณ์เดิมๆ จะเกิดขึ้นในทุกวัน


มีบางวันที่โชคดี


และวันนี้คือวันแบบนั้น


ค่าสถานะ ‘อ่านใจขั้นสูง’ ของครอเกลถูกยกระดับขึ้นมาก หลังจากเพิ่มมาสี่หน่วยในศึกดวลกับมีร์เมื่อไม่กี่วันก่อน


สำหรับวันนี้ อาจเป็นเพราะพวกยังบันไม่เคยเรียนรู้อะไรเลยเนื่องจากปล่อยให้ความโอหังบังตา หรือไม่ก็เป็นเพราะการซุ่มโจมตีใส่หนึ่งในสามยังบันของครอเกล เกิดความบังเอิญเชิงบวกพร้อมๆ กันหลายด้าน ครอเกลที่เตรียมถอนตัวหลังจากเพิ่มประสบการณ์ดาบเสือขาวจนถึงระดับหนึ่ง เกิดเปลี่ยนใจกลางคัน


แม้จะเห็นยังบันที่เหลือกรูเข้าใส่พร้อมกับแหกปาก แต่ครอเกลก็ยังก้มหน้าทำคอมโบต่อเนื่องใส่ยังบันที่เคราะห์ร้าย


การคำนวณของมันสมบูรณ์แบบ


“อ๊าก!”


ยังบันทุกตนล้วนแข็งแกร่ง


ทว่า มีเพียงเจ็ดยังบันที่สั่งสมบารมีเทพสำเร็จ


นอกเหนือจากเจ็ดคนข้างต้น ยังบันที่เหลือมิอาจรับมือครอเกลแบบตัวต่อตัวไหว


หลังจากถูกกระหน่ำฟันอย่างบ้าคลั่ง ยังบันที่ถูก ‘ดาบผ่ามิติ’ สะบั้นร่างพลันแปรสภาพกลายเป็นเถ้าถ่านสีเทา


[ท่านสังหารครึ่งเทพสำเร็จ]


[เป็นอีกครั้งที่ท่านประสบความสำเร็จครั้งใหญ่]


[ท่านกลายเป็นตัวเอกในเทวตำนาน ‘ความอัปยศที่คายา’ ]


[ในอนาคต เมื่อต่อสู้กับครึ่งเทพหรือเทพ ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 10% และประสิทธิภาพของวิชาดาบจะเพิ่มขึ้น 20%]


[ท่านเข้าใจแนวคิดของ ‘ตำนาน’ ‘เหนือมนุษย์’ และ ‘ระดับตัวตน’ นอกจากนั้น ท่านยังเข้าถึงสภาวะ ‘หัวใจ ร่างกาย และวิชา’ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว]


[การยกระดับที่ถูกระงับไว้เนื่องจากขาดวาสนา ปัจจุบันกำลังผลิบาน]


[…!]


[…!!]


[!!!]


“แฮ่ก… แฮ่ก…?”


เป็นชุดรางวัลตอบแทนที่น่าทึ่งมาก


ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติ ครอเกลที่กำลังตื่นเต้นพลันกระวนกระวาย


เหตุเพราะหน้าต่างแจ้งเตือนเอาแต่เขียนเครื่องหมายตกใจออกมาอย่างต่อเนื่อง


ข้อผิดพลาด? อย่าบอกนะว่า..


เปรี้ยง! ครอเกลตวัดดาบไปด้านข้าง พลังจิตไร้รูปร่างของยังบันพุ่งปะทะกับคมดาบและกระจัดกระจาย


ยังบันที่ปรี่เข้าหาเริ่มแหกปากโวยวาย


“ครอเกล!”


ในปัจจุบัน นามของครอเกลได้สลักลึกลงในใจยังบันทุกคน


ผู้สืบทอดพลังของอดีตอริยดาบที่แม้แต่มีร์ยังยอมรับ


ทว่า ครอเกลไม่เคยแสดงวิชาดาบไร้เทียมทานอันเลื่องชื่อให้ยังบันเห็นแม้แต่ครั้งเดียว พวกมันจึงมองอริยดาบคนปัจจุบันเป็นเพียงเหยื่อที่อ่อนแอ เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง


อย่างไรก็ตาม ‘พรสวรรค์เดินดิน’ ผู้นี้กลับแสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมทัดเทียมกองทัพมนุษย์นับหมื่น ครอเกลสามารถก้าวข้ามเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาวิชาดาบไร้เทียมทาน


ถึงขั้นสังหารครึ่งเทพได้ด้วยฝีมือตัวเองตามลำพัง


สิ่งนี้ก้าวข้ามสามัญสำนึกของพวกมัน


พุงซาและอูซาต่างออกความเห็นว่า: ชายคนนี้อันตราย


และในวันนี้ พวกพ้องของมันถูกฆ่าตายไปอีกหนึ่ง


เหล่ายังบันมิได้อาลัยอาวรณ์กับการตายของพวกพ้อง


เพียงแต่ว่า พวกมันเริ่มตระหนัก


ตระหนักถึงโอกาสที่ความตายจะมาเยือนตัวเองในสักวัน


ไม่ว่าอย่างไร ชายคนนี้ก็ต้องถูกกำจัดทิ้ง


แม้ครอเกลจะเป็นตำนานและไม่มีวันตายเนื่องจากคำสาปแห่งการเป็นอมตะที่ถูกเล่าขานมาตั้งแต่สมัยอดีต แต่การคืนชีพหนแล้วหนเล่าจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลง


เหล่ายังบันโหมโจมตีใส่ครอเกลอย่างเกรี้ยวกราด


พวกมันให้ละทิ้งศักดิ์ศรีและความเย่อหยิ่ง ยอมร่วมมือกันเพื่อขจัดเป้าหมายตรงหน้าให้สิ้นซาก


ครอเกลเพิ่งสังหารยังบันไปหนึ่งคน ส่งผลให้ทักษะส่วนใหญ่ยังอยู่ในระยะหน่วง จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาโอกาสตอบโต้กลับไป


มันทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อชีวิตตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการปัดป้อง การหลบหลีก และการซื้อเวลาด้วยเทคนิคท่าทุ่ม


“เป็นถึงอริยดาบ แต่มีดาบไว้เป็นเครื่องประดับรึไง!”


ยังบันเหยียดหยันครอเกลที่เอาแต่วิ่งหนี


ใบหน้าของพวกมันกำลังแดงก่ำ แต่น่าเสียดาย การยั่วยุไม่ได้ผล


ครอเกลปิดปากเงียบพลางสำรวจความรู้สึกจากร่างกายตัวเอง


‘คงต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพัก…’


ร่างกายของมันเกิดการเปลี่ยนแปลง


ระบุให้ชัดก็คือ ค่าสถานะของครอเกลไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว


เป็นผลพวงมาจากการเพิ่มค่าสถานะอย่างฉับพลัน รวมถึงการได้รับทักษะติดตัวใหม่เนื่องจากสมญานาม ‘ตัวเอกของเทวตำนาน’ และสถานะ ‘เหนือมนุษย์’


สำหรับครอเกล การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้น่าทึ่งมาก


มันเคยคิดมาตลอดว่า ค่าสถานะอ่านใจขั้นสูงเป็นระบบที่เหนือกว่าประสาทสัมผัสของเหนือมนุษย์


ไม่เพียงเท่านั้น ข้อความระบบแสดงผลแปลกๆ มาสักพักแล้ว


แทนที่จะแสดงรายชื่อทักษะใหม่ แต่ข้อความระบบกลับเอาแต่เขียนเครื่องหมายตกใจไม่จบสิ้น


ครอเกลต้องการเวลาสำหรับค้นคว้าการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง


มันต้องการควบคุมตัวเองเฉียบคม มากกว่าจะปล่อยให้ร่างกายที่ถูกยกระดับเคลื่อนไหวอย่างส่งเดชขณะกวัดแกว่งดาบ


นี่คือวิธีเดียวในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้า


“หนีเก่งเหมือนหนูท่อไม่มีผิด!”


ใบหน้าเหล่ายังบันทวีความแดงก่ำ


แดงจนอดสงสัยไม่ได้ว่า พวกมันจะไม่ป่วยเป็นเลือดคั่งในสมองตายเอาหรือ


ครอเกลใช้ม่านดาบเพื่อสกัด ‘ลมเฉือน’ ที่พุ่งเข้าใส่


จากนั้น มันสะบัดคางพร้อมกับใช้ฝักดาบรับดาบของยังบันและถีบกลับด้วยจาจินโมริ


ยังบันส่งเสียงครางในลำคอขณะที่ร่างกระเด็นไปไกล


สีหน้าที่บิดเบี้ยวมิได้เกิดจากความเจ็บปวด


แต่เป็นเพราะมันถูกอีกฝ่ายขโมยดาบไป


ยังบันมิได้มีจิตวิญญาณนักรบหรืออะไรเทือกนั้น แต่มันเข้าใจดีว่าการถูกปลดอาวุธ ถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าอับอายเพียงใด


[ทักษะ ‘ชิงดาบ’ ประสบความสำเร็จ ท่านได้รับไอเท็ม ‘ดาบยาวของยังบัน’ ]


สอดคล้องกับทิศทางการหมุนของฝักดาบ ดาบยาวที่ลอยขึ้นฟ้าตกลงบนมือครอเกลอย่างแม่นยำ


ระยะเวลาของ ‘ชิงดาบ’ คือห้าวินาที


เมื่อครบห้าวินาที ดาบจะหลุดจากมือครอเกล


นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อพิจารณาว่า ศัตรูกำลังอยู่ในสภาพมือเปล่าและพยายามแย่งอาวุธกลับไป


ในการต่อสู้ทั่วไป กระแสของสงครามจะพลิกกลับด้านทันที


ทว่า ศัตรูในคราวนี้คือยังบัน


จะมีอาวุธในมือหรือไม่ ผลลัพธ์ไม่ต่างกันมากนัก


เป็นเพราะพวกมันชำนาญศาสตร์การต่อสู้ทุกประเภท?


ไม่ใช่


ออกจะตรงกันข้าม พวกมันเชี่ยวชาญศาสตร์การต่อสู้แขนงอื่นเพียงผิวเผิน


ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของยังบันมาจากพรสวรรค์ทางด้านร่างกายที่ยอดเยี่ยม รวมถึงการอวยพรจากเทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่ มิได้เก่งกาจเพราะทักษะแต่อย่างใด


แน่นอน มีร์เป็นข้อยกเว้น


“นี่เจ้า!”


ยังบันที่ถูกชิงดาบรีบปรี่เข้าหาพร้อมกับออร่ามังกรคราม


สายฟ้าทำปฏิกิริยากับทรายจนเกิดเป็นพายุทราย


ในเวลาเดียวกัน ยังบันอีกคนก็แอบลงมืออย่างลับๆ


มันโผล่ที่ด้านหลังครอเกลอย่างไร้สุ้มเสียงพร้อมกับแทงดาบ


ครอเกลป้องกันการโจมตีไว้ได้ จากนั้นเหวี่ยงดาบเสือขาวในมือขวาตอบโต้


ทักษะใหม่และค่าสถานะที่เพิ่มขึ้น – ในที่สุดครอเกลก็สร้างความเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และขยับร่างกายอย่างเฉียบแหลม


ดาบในมือครอเกลถูกตวัดแผ่วเบา


การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเพียงเล็กเมื่อเทียบกับอดีต แต่กลับทรงพลังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


“อั่ก!”


โดโปของยังบันที่ถูกสวนกลับ พลันชุ่มฉ่ำไปด้วยเลือด


ครอเกลดึงดาบกลับพร้อมกับหมุนตัว


กำปั้นฉาบออร่ามังกรครามของยังบันที่กำลังปรี่เข้าหาครอเกล ปะทะเข้ากับคมดาบสีใสของดาบเสือขาว


“…?!”


ดวงตาของยังบันพลันเบิกโพลง เนื่องจากมันคิดว่ากำปั้นของตนจะบดขยี้ดาบครอเกลไปพร้อมกับกะโหลกศีรษะของอีกฝ่าย


ดาบในมือครอเกลมีความหนาปานกลาง แต่กลับโปร่งใส่คล้ายแก้วจนดูเหมือนเปราะบาง


ยังบันเชื่อว่าใบดาบคงถูกทำลายได้ไม่ยากเย็น แต่ในความเป็นจริง ไม่เพียงจะสามารถหยุดความเกรี้ยวกราดของออร่ามังกรคราม แต่กลับยังทำลายผิวหนัง เนื้อ และกระดูกของมันอีกด้วย!


“อ๊ากกกกก!”


ยังบันแหกปากขณะที่มือของมันถูกฟันเข้าอย่างจัง


อาจแตกต่างออกไปถ้ามันสั่งสมบารมีเทพ


แต่สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเมื่อ ร่างกายได้รับบาดเจ็บหนักในยามที่พลังของเทพฟีนิกซ์แดงถูกผนึกเมื่อฟีนิกซ์แดงถูกเปิดผนึก


มันพยายามเค้นพลังฟีนิกซ์แดงอันน้อยนิดเพื่อพยายามสมานบาดแผล


ขณะเดียวกัน พวกพ้องของมันช่วยคว้าคอเสื้อและดึงกลับไป


ต้องขอบคุณสิ่งนี้ ดาบของครอเกลจึงฟันโดนเพียงอากาศ


ยังบันที่ช่วยพวกพ้องเอาไว้ กล่าวพลางเค้นพลังสายฟ้าของมังกรคราม


“มากกว่าที่ได้ยินในข่าวลือเสียอีก”


พวกมันทราบอยู่ก่อนแล้วว่า ดาบของครอเกลมีอัดแน่นไปด้วยพลังเสือขาว แต่ไม่เคยได้ยินว่าทรงพลังถึงเพียงนี้


ดาบระดับนี้ยังไม่ถูกขนานนามให้เป็นเทวภัณฑ์ได้ยังไง?


ยิ่งไปกว่านั้น ศักยภาพและพรสวรรค์ของครอเกลสูงกว่าที่พวกมันประเมินไว้หลายเท่า


อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์การต่อสู้จะไม่เปลี่ยนแปลง


ครอเกลมีขีดจำกัด


ถึงจะทำได้ดีในช่วงแรก แต่ค่าเรี่ยวแรงย่อมเหลือไม่มากแล้ว แถมบาดแผลบนร่างกายก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


“รีบปิดฉากมันกันเถอะ”


ยังบันทั้งสองต่างกระตุ้นออร่ามังกรครามและเสือขาวในเวลาเดียวกัน


นับเป็นภาระที่ค่อนข้างหนักสำหรับยังบันซึ่งมิได้สั่งสมบารมีเทพ


แม้แต่พวกมันก็ยังไม่มั่นใจว่าตัวเองสามารถรับมือกับพลังที่ท่วมท้นเช่นนี้ไหว


อย่างไรก็ตาม พวกมันทราบดี หากไม่ใช้ทุกสิ่งที่ตัวเองมีออกมาทั้งหมด ผลลัพธ์การต่อสู้คงลงเอยในทิศทางที่ไม่ดีนัก


ยิ่งเวลาผ่านไป ดาบและดาบยาวของสองยังบันก็ยิ่งเพิ่มจำนวนบาดแผลบนร่างกายครอเกล


ทว่า การขัดขืนจากครอเกลเองก็เกรี้ยวกราดจนน่าพรั่นพรึง


เมื่อระยะหน่วงของวิชาดาบหมดลง ท่วงท่าจำนวนมากถูกปลดปล่อยใส่จุดตายอย่างมีประสิทธิภาพ


“อั่ก…!”


“อย่าเพิ่งหยุด! กดดันมันเข้าไปอีก!”


ยังบันที่เสียมือไปข้างหนึ่ง เลือดของมันไหลรินอย่างต่อเนื่องจากปากแผลฉกรรจ์


ดาบยาวในมือค่อยๆ ขาดความน่าเกรงขาม


เมื่อได้เห็นดาบของครอเกลยังคงสวนกลับมาอย่างมีชีวิตชีวา ความหวาดกลัวเริ่มผุดขึ้นในใจสองยังบันทีละนิด


ความกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ


ตัวข้า


ตัวข้าที่มีสิทธิ์ได้เป็นเทพ กำลังหวาดกลัวมนุษย์คนหนึ่ง?


“ย๊ากกกกก!”


เคร้ง!


“…!”


การสู้กับสุนัขจนตรอกเป็นเรื่องที่ยากที่สุด


ความดุดันของครอเกลบรรเทาลงหลายส่วนเมื่อยังบันที่เสียมือไปข้างหนึ่ง เริ่มกระหน่ำโจมตีอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจร่างกายตัวเอง


‘คงไม่รอดแล้วกระมัง…’


ถ้าอย่างนั้น ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็คือการลากอีกฝ่ายลงนรกไปด้วยหนึ่งคน


ขณะคิดเช่นนี้ ครอเกลเกิดความลังเล


เมื่อจินตนาการว่าตนอาจดรอปดาบเสือขาวหลังจากเสียชีวิต ความกังวลเริ่มกัดกินจิตใจรุนแรง


มันไม่เคยคิดมาก่อนว่าสักวันหนึ่ง ตนจะกลัวการดรอปไอเท็มหลังจากเสียชีวิต


ครอเกลเผยรอยยิ้มขื่นขมเมื่อพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปจากสมัยก่อน


มันลดไหล่ลงข้างหนึ่งขณะที่คมดาบของศัตรูพุ่งตรงมาทางหน้าอก ส่งผลให้ดาบเสียบเข้าที่หัวไหล่แทน


จากนั้น ครอเกลใช้มือเปล่าจับดาบเพื่อป้องกันมิให้ศัตรูชักกลับ


สาเหตุที่มือของมันไม่ขาด เพราะมีทักษะติดตัวที่ชื่อ ‘คงกระพันจากการโจมตีด้วยดาบ’


แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นของจริง เลือดสีแดงฉานไหลรินอย่างมิอาจหักห้าม


ครอเกลรีบก้มตัวลงพร้อมกับดันดาบที่เสียบตรงหัวไหลขึ้น คมดาบตัดผ่านกระดูกไหปลาร้าและฟันผ่านเนื้อขึ้นไปในอากาศ


ดาบที่เจ้าของมิอาจขยับเขยื้อน ตวัดเฉียงขึ้นด้านบนจนยังบันเสียสมดุลไปเล็กน้อย


ฉวยโอกาสดังกล่าว ครอเกลกระแทกดาบเสือขาวทะลวงผ่านหัวใจของอีกฝ่าย


แม้ครอเกลจะถูกยังบันอีกคนฟันกวาดใส่ด้านข้างจนศีรษะเกิดอาการวิงเวียน แต่มันก็กัดฟันอดทน


“จ…เจ้านี่มันเสียสติไปแล้ว!”


ยังบันพลันกระวนกระวายเมื่อเห็นครอเกลเสียบดาบเข้าใส่หัวใจพวกพ้อง ทั้งที่ตัวมันกำลังถูกดาบฟันเข้าที่ท้องจนลำไส้ทะลักออกมา


ในสายตาของยังบัน ครอเกลไม่ใช่นักดาบ แต่เป็นอสูรดาบ


[ตำนานจะไม่ตายโดยง่าย]


ในที่สุดหน้าต่างข้อความระบบก็เขียนในสิ่งอื่นที่ไม่ใช่เครื่องหมายตกใจ


เนื้อหาอาจไม่น่าอภิรมย์นัก แต่จิตใจครอเกลก็ยังไม่สั่นคลอน


ด้วยความอาจหาญ มันอ้าแขนรับความตายที่กำลังย่างกรายเข้ามา จากนั้นก็ปลดปล่อยปราณดาบสุดท้ายออกไป


คล้ายกับครอเกลได้ยินเพรียกหาจาก ‘วิชาดาบไร้เทียมทาน’ ที่เก็บไว้ในช่องสัมภาระ แต่มันก็ยังหันหลังให้จนวินาทีสุดท้าย และเลือกจะปลิดชีพยังบันตรงหน้าด้วยวิชาดาบของตัวเอง


ทว่า ยังบันตนดังกล่าวยังไม่ตาย


มันรอดชีวิตมาได้อย่างฉิวเฉียด


ค่าพลังโจมตียังขาดไปเล็กน้อย


ทั้งที่ต้องการจะพรากชีวิตอีกฝ่ายไปพร้อมกัน แต่กลับลงเอยด้วยความล้มเหลว


แต่กระนั้น ครอเกลมิได้เสียใจ


ร่างกายของมันได้รับความเสียหายหลายจุด เป็นเหตุให้มีพละกำลังถูกส่งจากปลายนิ้วน้อยกว่าปรกติ


เหตุผลที่ยังบันรอดชีวิตมาได้ มิใช่เพราะวิชาดาบของครอเกลอ่อนแอ


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ


ระบบรับรู้ถึงสิ่งนี้


[นับตั้งแต่ที่ท่านกลายเป็นอริยดาบ ระบบไม่พบร่องรอยของวิชาดาบไร้เทียมทานในทุกความสำเร็จที่ท่านสร้างขึ้น]


[ทว่า ท่านกลับสามารถสังหารครึ่งเทพไปแล้วหกตนและกลายเป็นตัวเอกของเทวตำนาน]


[ระบบพิจารณาแล้วว่า วิชาดาบที่ท่านสร้างขึ้นและใช้งาน มีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวข้ามวิชาดาบไร้ก้นบึ้ง]


[เกรดของทักษะที่ท่านครอบครองถูกยกระดับกลายเป็นเลเจนดารี (ยกระดับ) ]


“ฮะฮะ…”


ครอเกลที่ชุ่มเลือด หัวเราะในลำคอแผ่วเบา


“เจ้านี่เสียสติไปแล้ว!”


สองยังบันต่างพากันสบถ


คนหนึ่งเสียมือ ส่วนอีกคนถูกแทงหัวใจ


พวกมันขนลุกเมื่อได้เห็นชายที่กำลังจะตาย ยังหัวเราะได้หลังจากที่การแลกชีวิตล้มเหลว


เปรี้ยง!


ร่างของครอเกลถูกยังบันซัดด้วยโทสะจนกระเด็นไปไกล


หน้าต่างแจ้งเตือนสุดท้ายปรากฏขึ้นตรงมุมสายตาขณะร่างกายกระแทกลงบนผืนทะเลทราย


[สิ้นสุดบัฟอมตะ]


‘จบแล้วสินะ’


ครอเกลได้แต่ภาวนาให้ดาบเสือขาวไม่ดรอป


ขณะเตรียมใจยอมจำนนต่อความตาย เสียงอันคุ้นเคยดังแว่วข้างใบหู


“ค…ครอเกล?”


เฮือก!


ร่างกายครอเกลพลันสั่นระริก


มันเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า


เมื่อพบว่าเป็นใบหน้ากริด ครอเกลรีบหันหนี


“…คุณจำผิดคนแล้ว”


ช่วงเวลาแห่งความพ่ายแพ้ของมันถูกกริดมาเห็นเข้าพอดี


สำหรับครอเกล สิ่งนี้เจ็บปวดยิ่งกว่าความตาย


“เจ้าเป็นใคร?!”


ยังบันแผดเสียงคำรามใส่กริด


พวกมันสูญเสียความเยือกเย็นไปครู่หนึ่งหลังจากถูกทำให้อับอายหนแล้วหนแล้ว สองยังบันจึงมิอาจอ่านออร่ารอบตัวกริดและไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย


แน่นอน ต่อให้จำกริดได้ พวกมันก็คงไม่เปลี่ยนท่าที


เนื่องจากในปัจจุบัน มียังบันมาสมทบเพิ่มอีกสามตน


กริดยืนเผชิญหน้ากับห้ายังบันพลางโยนขวดโพชันให้ครอเกล เป็นโพชันราคาแพงที่ผลิตโดยโรงแปรธาตุเรย์ดัน


“ต้องสู้คนเดียวสินะ… ไม่ตึงมือไปหน่อยหรือ…”


“ฉันจะช่วยนายอีกแรง”


“จำฉันได้แล้วหรือ?”


“…”


“สาวหาว! เป็นแค่มนุษย์… กล้าเมินกันเชียวรึ!”


ไอ้พวกระยำนี่ไม่คิดจะเปลี่ยนบทพูดเลยรึไง?


กริดส่ายหน้าพลางดึงดาบไร้รูปออกมาสะบัด


ดาบตวัดออกไปคล้ายแส้โลหะ ก่อนจะพันรอบร่างของยังบันที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส


เส้นดาบรัดแน่นและส่วนคมเฉือนลงบนร่างกายที่ทรุดโทรมของยังบัน

______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,940
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00