จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,434
[ไอเท็มเกรดมิธถูกสร้างขึ้น ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 30 หน่วยเป็นการถาวร!]
[ชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 1,000 หน่วย]
[สาวกของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์และช่างตีเหล็กทั่วโลกจะยิ่งทวีความศรัทธาในตัวท่าน]
“………!”
กริดพลันตื่นขึ้นจากภวังค์ที่ดำดิ่ง พลางกรีดร้องอย่างไร้สุ้มเสียงภายในใจ
กล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกายพลันหดเกร็ง ข้อมือทั้งสองก็บวมเป่งอย่างเห็นได้ชัด
มันต้องการจะดื่มโพชัน แต่ดูเหมือนร่างกายจะไม่ฟังคำสั่ง
‘ความรู้สึกแบบนี้… ไม่ได้สัมผัสมานานแค่ไหนแล้ว’
เมื่อมันเข้าสู่ภาวะไร้ตัวตน ความรู้สึกตามธรรมชาติอย่าง ‘ความเจ็บปวด’ ที่คอยปกป้องร่างกาย จะถูกลบเลือนออกไปชั่วขณะ
มันมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับงานตรงหน้าจนเรี่ยวแรงเหือดหายและมิอาจขยับแม้แต่ปลายนิ้ว
กริดในช่วงเลเวลสามร้อยจะทุกข์ทรมานจากอาการเหนื่อยล้าอย่างแสนสาหัสทุกครั้งที่เข้าสู่ภาวะไร้ตัวตน
ในภายหลัง ผลกระทบเริ่มดีขึ้นหลังจากเข้าสู่ช่วงเลเวลสี่ร้อย
สมรรถภาพทางกายสูงขึ้นจนสร้างไอเท็มเสร็จก่อนหมดแรง
แต่ปัจจุบันต้องกลับไปอยู่ในสภาพดังกล่าวอีกครั้ง แถมยังได้รับบาดเจ็บที่มือทั้งสองข้าง
ต้องเหวี่ยงค้อนหนักหน่วงขนาดไหนกัน?
เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมานานมากแล้ว
‘อาจเป็นเพราะว่า… เราทุบค้อนในมุมที่ผิดธรรมชาติของกล้ามเนื้อและกระดูก’
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ระดับความยากในการสร้างดาบกระดูกหลังนั้นสูงมาก แทบไม่มีวิธีการปรกติใดที่สามารถเชื่อมกระดูกสันหลังของโอโบร่าเข้าด้วยกันโดยไม่ทำให้เสียหาย
“และในตอนสุดท้าย เปลวไฟคงปะทุออกมา…”
จะมีช่างตีเหล็กคนใดในโลกที่ระเบิดโรงตีเหล็กทิ้งไปพร้อมกับสละชีวิตทุกครั้งที่ผลิตไอเท็มสำเร็จ?
หากนำไปเล่าให้คนอื่นฟัง คงยากจะมีใครเชื่อ
กริดอัญเชิญโอเวอร์เกียร์คอร์นพลางสะบัดมือเพื่อให้อุ่นขึ้น
กระดูกที่หักไปกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพลังการฟื้นฟูตัวเองของกริดไม่ต่างจากมอนสเตอร์บอสสักเท่าไร
โอเวอร์เกียร์คอร์นเลียแก้มกริดพลางพ่นลมหายใจทางจมูก
มันหงุดหงิดที่ต้องมาเลียแก้มสกปรกๆ ของมนุษย์เพศชายแทนที่จะเป็นสาวงาม
สิ่งนี้เป็นความรู้สึกในระดับสัญชาตญาณที่ยากขัดขืน
โอเวอร์เกียร์คอร์นชื่นชมและเคารพกริดพอสมควร เรียกได้ว่าชื่นชอบในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง แต่กลับรู้สึกเกลียดชังอีกฝ่ายด้วยปัจจัยด้านสรีระ
ยิ่งเวลาผ่านไป โอเวอร์เกียร์คอร์นยิ่งพ่นลมออกจากปากรุนแรงขึ้น ดวงตาแทบจะเหลือกถลนกลับด้าน
พิจารณาจากฟองน้ำลายรอบปาก คล้ายกับมันใกล้อาเจียนเต็มที
ปีกสองข้างเริ่มพัดกระพือเนื่องจากความหงุดหงิด ส่งผลให้ดาบกระดูกหลังบนทั่งเหล็กเริ่มสั่นระริก
ข้อต่อทั้งสามสิบข้อขยับเพียงเล็กน้อยอย่างวิจิตรงดงาม แต่ก็มากพอจะทำให้กริดเห็นถึงความยอดเยี่ยมของดาบกระดูกหลัง
ภาพการเคลื่อนไหวในมุมต่างๆ ของดาบกระดูกหลังเริ่มปรากฏขึ้นในจินตนาการกริด
การเปลี่ยนแปลงที่มีความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน
เพียงการเคลื่อนไหวแค่ครั้งเดียวจากปีกของโอเวอร์เกียร์คอร์น กริดสามารถเห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของดาบเล่มนี้
“…”
หัวใจกริดเริ่มสูบฉีด
เป้าหมายสูงสุดในวิชาดาบที่ตนไม่แน่ใจว่าจะเอื้อมไปถึงหรือไม่
ใช่แล้ว กริดกำลังจินตนาการภาพของตัวเองกำลังใช้วิชาดาบของอริยดาบครอเกลผ่านดาบกระดูกผ่าน
‘ครอเกลจะต้องประหลาดใจแน่’
การเคลื่อนไหวในจินตนาการเกิดขึ้นการปล่อยตัวไปตามธรรมชาติเท่านั้น
ทักษะการใช้ดาบของครอเกลมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ยากจะคาดเดา เป็นศาสตร์ซึ่งก้าวข้ามเทคนิคและพื้นฐานไปแล้ว
ทั้งพิสดารและงดงาม
มีนักสู้ดังๆ หลายคนที่คอยขัดเกลาศิลปะการต่อสู้มาทั้งชีวิต ชื่นชมว่าวิชาดาบของครอเกลเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่งดงาม
ปัจจุบัน กริดสามารถลอกเลียนแบบศิลปะดังกล่าวได้สำเร็จ แม้จะค่อนข้างฝืนธรรมชาติก็ตาม
ราวกับดาบกระดูกหลังกำลังบอกเจ้านายของมันว่า ข้าจะทำให้ความปรารถนาของท่านเป็นจริง
แม้ว่าความรู้สึกทั้งหมดจะเกิดจากการเคลื่อนไหวเล็กๆ แค่ครั้ง เดียว แต่กริดกลับมั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
> เจ้าเด็กใหม่ไร้ยางอาย
มันกำลังอิจฉาท่าทีตอบสนองของกริดที่มีต่อดาบกระดูกหลัง?
ดาบมังกรเพลิงเปล่งเสียงในใจกริดหลังจากเงียบหายไปนาน
เสียงของมันแฝงความเย็นชา หากมีหน้าก็คงจะส่ายหน้าให้เห็น
“นั่นน้องของนายนะ ใช้คำดีๆ หน่อย”
> ต้นกำเนิดของพวกข้าต่างกัน จะให้เรียกน้องได้ยังไง?
ดาบมังกรเพลิงถูกสร้างขึ้นจากศิลาอัคคีและละโมบ
จริงอยู่ ดาบกระดูกหลังใช้ละโมบเช่นกัน แต่ก็เป็นแค่ส่วนด้ามจับเท่านั้น
คล้ายกับดาบมังกรเพลิงกำลังมองว่า ดาบกระดูกหลังซึ่งทำจากกระดูกสันหลังของจอมอสูร มีระดับต่ำกว่าตนค่อนข้างมาก
‘กับดาบจันทราดับก็ยังไม่เย็นชาขนาดนี้…’
หรือสิ่งที่มันชื่นชมจะเป็นเหล็กแสงจันทร์ ไม่ใช่ละโมบ?
กริดหยิบดาบกระดูกหลังขึ้นมาถือเพื่อตรวจสอบรายละเอียด
<ดาบไร้รูป>
เกรด: มิธ
ความคงทน: 1,100/1,100 พลังโจมตี: 2,790
★ เปลี่ยนรูปร่างทุกครั้งที่โจมตี
★ ทุกครั้งที่รูปร่างมีการเปลี่ยนแปลง โอกาสหลบหลีกของเป้าหมายการจะลดลงอย่างมาก พร้อมกับถูกเผยจุดอ่อน
★ ทุกการโจมตีธรรมดาจะสร้างรูปแบบการโจมตีสองชนิดเสมอ
- เกิดผลการ ‘แทง’ หลังจาก ‘ฟัน’
- เกิดผลการ ‘ฟัน’ หลังจาก ‘แทง’
★ เมื่อทำคอมโบครบห้าครั้ง ทุกเป้าหมายของการโจมตีทั้งห้าครั้งจะได้รับอาการผิดปกติ และมีโอกาสต่ำมากที่จะเกิด ‘โจมตีใส่จุดบอด’
★ เมื่อทำคอมโบครบสิบสองครั้ง ทุกการโจมตีถัดไปจะเกิดผล ‘โจมตีใส่จุดบอด' เสมอ
ดาบที่เกิดมาพร้อมกับอุดมคติของเทพโอเวอร์เกียร์กริด
ถูกสร้างจากกระดูกสันหลังจอมอสูรลำดับที่ยี่สิบสอง โอโบร่า
ข้อต่อทั้งสามสิบข้อยังถูกคงสภาพไว้เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างและความยาวได้อย่างอิสระ
ถูกตั้งชื่อว่า ‘ไร้รูป’ เพราะไม่มีใครรู้จักรูปลักษณ์ที่แท้จริง
* จากธรรมชาติของใบมีดกระดูก ทุกการโจมตีจะทำให้ค่าความคงทนของอาวุธลดลง
น้ำหนัก: 900
เงื่อนไขการสวมใส่: กริด
‘มันได้ชื่อ ไร้รูป เพราะแม้จะเห็นชัดๆ ว่าสร้างจากกระดูกสันหลังโอโบร่า แต่ก็ยากจะบอกว่าสิ่งนี้คืออะไร’
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น จะมีสักกี่คนบนโลกที่รู้ว่ากระดูกสันหลังของโอโบร่ามีหน้าตาเป็นแบบไหน
กริดยืนขมวดคิ้วกับชื่อของดาบสักพัก ก่อนลองจะเหวี่ยงดาบไร้รูปเพื่อทดสอบในหลายๆ มิติ
ความยาวของดาบไร้รูปจะเพิ่มขึ้นเมื่อกริดเล็งไปยังจุดใดจุดหนึ่งด้วยสายตา ไกลสุดคือสามเมตร ยาวกว่าหอกเสียอีก
“หืม”
กริดยกมุมปากอย่างสนใจพลางดึงดาบไร้รูปกลับ
ทว่า ดาบที่หดกลับจนเหลือหนึ่งเมตร พลันดีดตัวออกไปอีกครั้งโดยอัตโนมัติราวกับแส้
นี่มัน…
กริดเกือบจะตอบสนองช้าไปหนึ่งก้าว โชคยังดีที่โลกแห่งเหนือมนุษย์ที่แท้จริงทำงานและช่วยให้ตอบสนองได้ทัน
‘บ้าบอสิ้นดี’
อาวุธที่สามารถเปลี่ยนรูปได้อย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องควบคุมอย่างระมัดระวังและมีสมาธิ สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องปรกติ ยิ่งเมื่อพิจารณาว่ามันคือแส้ที่สามารถจู่โจมในทิศทางซึ่งยากคาดเดา
‘พลังโจมตีที่ต่ำ สามารถปิดจุดอ่อนได้ด้วยการทำคอมโบ’
กริดสามารถแก้ปัญหาด้านความคงทนได้ด้วยทักษะการซ่อมแซม
หากเปิดโหมด ‘โจมตีจุดบอด’ ได้ในเวลาที่เหมาะสม สิ่งนี้จะช่วยให้กริดถือไพ่เหนือศัตรูอย่างมาก
‘ยอดเยี่ยมกว่าที่เราคิดไว้มาก’
ชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมดาบเล่มนี้จึงมีเกรดมิธ
กริดที่กำลังตื่นเต้นเริ่มเหวี่ยงดาบไร้รูปโดยไม่หยุดพัก
ในทุกการตวัดข้อมือ ดาบไร้รูปจะโค้งงอประหนึ่งแส้ ยืดยาวออกไปทิ่มแทงประหนึ่งหอก ปลายแหลมสะบัดฟันประหนึ่งดาบ
กริดลงมือควงอย่างต่อเนื่องในแนวทแยงสลับกับวงกลม
ภาพของดาบที่พุ่งผ่านช่องว่างเล็กๆ ระหว่างอุปกรณ์ในโรงตีเหล็ก ดูคล้ายกับมังกรตัวจิ๋วที่กำลังบินโฉบเฉี่ยวไปมา
> เหมือนไส้เดือนมากกว่ามังกร
“ฮะฮะ!”
ไม่ว่าดาบมังกรเพลิงจะส่งเสียงน่ารำคาญสักเพียงใด แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากริดก็มิได้จางลง มีแต่จะยิ่งกว้างขึ้น
หลังจากแกว่งไปมาอย่างตื่นเต้นสองสามนาที กริดเริ่มสังเกตเห็นว่า ค่าความชำนาญของตนช่วยทำให้วิถีการพุ่งของดาบไร้รูปยิ่งเฉิดฉาย
‘มีความสุขชะมัด’
วัฏจักรการได้รับดาบเล่มใหม่เริ่มสั้นลงเรื่อยๆ ส่งผลให้กริดสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของตนได้ชัดเจน
‘แล้ววันหนึ่ง เราจะไปช่วยเฮ็กเซเทีย…’
ถึงตอนนั้น กริดหยิบยืมความช่วยเหลือของเฮ็กเซเทียเพื่อสร้างดาบไร้รูปโดยมีวัสดุหลักเป็นละโมบ แน่นอน ละโมบในตอนนั้นต้องเป็นรุ่นพัฒนา - กรีบราเนี่ยม
‘แล้วเราจะถล่มทั้งสวรรค์และนรก’
เกม MMORPG นั้นไม่มีจุดจบ
แม้ว่าเรื่องราวหลักของโลกจะจบลง และโลกก็จะยังคงอยู่ต่อไปโดยมีเรื่องราวที่เกิดจากฝีมือผู้เล่น
กริดหวังให้วันนั้นมาถึงโดยเร็ว
หลังจากกำจัดภัยอันตรายทั้งปวงสำเร็จ มันต้องการสนุกสนานไปกับโลกอันแสนสงบสุข
กริดยังคงมีความฝันที่จะเปิดโรงตีเหล็กในวัยเกษียณ
มันจะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ฟังในสิ่งที่อยากฟัง และเห็นสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น
บางครั้งบางคราวก็ออกเดินทางไปช่วยผู้เล่นใหม่
‘หึหึ…’
หลังจากจินตนาการใบหน้าของเด็กใหม่ที่มาซื้อไอเท็มที่ตนผลิตโดยไม่รู้ว่าตัวจริงเป็นใคร กริดอมยิ้มพลางเดินออกจากโรงตีเหล็ก
“ฝ่าบาทพยายามได้ดีมากค่ะ”
เมอร์เซเดสและราชองครักษ์หลายสิบคนต่างขยับเปิดทางและตั้งขบวนต้อนรับ
กริดได้แต่นึกสงสัยว่า ทำไมทุกคนถึงมารวมกันมากขนาดนี้
จำนวนผู้คนรอบๆ โรงตีเหล็กนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ประหนึ่งผู้เล่นทุกคนที่เห็นข้อความโลกเกี่ยวกับ ‘เทวภัณฑ์’ ต่างรีบกรูกันเข้ามามุงดู
“กรี๊ด! พี่กริดหล่อมาก!”
“ได้โปรดแสดงหลักฐานว่าเป็นตัวจริงด้วย! ผมจะเอาไปโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย!”
“ก็อดกริด! กรี๊ด! ไม่ไหวแล้ว!”
ผู้คนมากมายกำลังส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี
แน่นอน ทุกคนต่างต้องการเห็นเทวภัณฑ์กับตาตัวเอง แต่กริดกลับทำเพียงยิ้มและโบกมือ
ว่ากันตามตรง กริดเองก็ต้องการอวดโฉมดาบไร้รูป แต่ด้วยธรรมชาติและเอกลักษณ์ของดาบ อาวุธชนิดนี้ควรจะถูกปิดเป็นไพ่ตายให้มากที่สุด
‘ถ้าเป็นแวนเนอร์ เจ้านั่นคงโอ้อวดโดยไม่ต้องคิดให้หนักสมอง’
ในบางครั้ง กริดอิจฉาแวนเนอร์ไม่น้อย
***
“ทางเราสืบทราบแล้วว่า ใครคือผู้ที่จ้างไนท์ให้ไล่ล่าหัวใจราชินีเยือกแข็ง”
นี่ตนกำลังฝันร้าย
“ไลออน พ่อค้าแรงค์สามของโลก… มันคือหนึ่งในเทพแห่งการค้าขายของโลกธุรกิจ ถูกขนานนามให้เป็นหนึ่งในห้าพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ มีถิ่นฐานอยู่ทางตอนใต้”
หรือตนกำลังตาฝาด?
หลังมือของลอเอลที่ถูกยกขึ้นมาปิดครึ่งหน้า ยามนี้กำลังมีเปลวไฟสีดำรายล้อม
กริดเพ่งมองพลางอ้าปากพูดตะกุกตะกัก
“ม… มังกรเพลิงทมิฬ?”
“โฮ่… ฝ่าบาทช่างมีสายตาเฉียบแหลม… นี่คือกรรมเก่าจากชีวิตที่แล้วของกระหม่อม… เวรกรรมที่มิอาจหลุดพ้น”
“…”
แล้วปีกเชี่ยนี่คืออะไรอีก?
กริดพลันเย็นไปถึงสันหลังเมื่อพบว่าพลังของนักสร้างสกินนั้นยอดเยี่ยมเหนือจินตนาการ
เห็นได้ชัดว่าโรค ‘เบียว’ ของลอเอลที่ไม่หายขาดสักที แม้แต่จะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมหลังจากได้รับสกินใหม่
กริดพยายามมองโลกในแง่บวก
‘คงเป็นความสุขเล็กๆ ภายในเกมของลอเอล… ถึงแม้ตากับหูของเราอาจต้องเน่าก็ตาม… ต้องอยู่ร่วมกับสิ่งนี้ให้ได้’
“กลับเข้าประเด็นหลัก… มีโอกาสสูงมากที่จะมีขั้วอำนาจอื่นอยู่เบื้องหลังไลออน… หากพิจารณาถึงมูลค่าของหัวใจราชินีเยือกแข็ง ค่าตัวต้องไนท์ต้องไม่ถูกแน่ ไม่ใช่จำนวนเงินที่ไลออนสามารถจ่ายตามลำพัง… แม้จะเป็นหนึ่งในห้าพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ แต่ความมั่งคั่งยังเทียบไม่ได้กับเคียร์ในยุครุ่งเรือง… แค่ก! แค่ก!”
“ลอเอล!”
กริดพลันลนลานเมื่อเห็นลอเอลกระอักเลือดกะทันหัน
ยาพิษ?
ไม่ใช่ว่าลอเอลมีค่าต้านทานจากฝีมือของไอดานหรอกหรือ?
ลอเอลโบกมือเชิงปฏิเสธขณะที่กริดล้วงหยิบยาถอนพิษ
“อัจฉริยะมักมีอายุสั้น… สิ่งนี้รักษาไม่ได้ด้วยยา”
“ให้ตายสิ… หมอนี่…”
กริดขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายหลังจากตระหนักว่าเลือดของลอเอลเป็นแค่สกิน
อย่างไรก็ดี ลอเอลยังคงอธิบายต่อไป
ประเด็นสำคัญของเรื่องราวก็คือ มีขั้วอำนาจใหญ่คอยหนุนหลังกลุ่มพ่อค้าไลออน
มีความเป็นไปได้มากที่พวกมันจะเป็นฝ่ายเดียวกับที่ลอบสนับสนุนกองกำลังต่างๆ จำพวกกลุ่มปฏิวัติ
ได้ยินเช่นนั้น กริดโพล่งความสงสัย
“ทำไมถึงคิดว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน? ฟังดูไม่สมเหตุสมผล?”
กลุ่มที่ลอเอลไล่เรียงให้ฟัง - บรรดากลุ่มที่คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากกองทุนใหญ่สักแห่ง เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว กริดไม่พบความเชื่อมโยงแม้แต่เรื่องเดียว
แม้แต่จุดประสงค์ก็ดูจะต่างกัน เพราะมีทั้งผู้ก่อการร้าย นักการเมือง กลุ่มศาสนา และบูชาอสูร
“ทุกการลงทุนต้องหวังผลไม่ใช่หรือ?”
กริดได้แค่เคลือบแคลง
กลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังกองกำลังเหล่านี้ไม่เปิดเผยจุดยืนหรือเป้าหมายที่ชัดเจน คล้ายกับสุ่มแจกเงินไปเรื่อยๆ
“หืม… หรือว่าพวกมันต้องการสร้างสงครามให้เรื้อรัง จากนั้นก็ขายอาวุธให้กลุ่มที่เป็นอริต่อกัน?”
สงครามสามารถเป็นบ่อเงินบ่อทองของคนบางกลุ่ม เป็นเหตุผลที่กริดระแวงกลุ่มนายทุนลึกลับและไม่มีจุดประสงค์แน่ชัดมาตลอด
ทว่า ลอเอลตีความต่างออกไป
“ถ้าพิจารณาจากผิวเผิน ข้อสันนิษฐานของนายฟังดูมีเหตุผล… แต่ฉันกลับคิดต่าง โดยมองว่ากลุ่มทุนดังกล่าวต้องการยับยั้งมิให้มีสงครามเกิดขึ้น คล้ายกับการเลี้ยงสัตว์ป่าหิวโหยด้วยปศุสัตว์”
การที่กลุ่มปฏิวัติซึ่งเคยพยายาม ‘ไล่เก็บ’ ผู้เล่นคลาสลับที่โด่งดังของโลกคนแล้วคนเล่า กลับมีท่าทีสงบลงในช่วงหลัง นั่นเป็นเพราะ ‘งานจ้าง’ ของผู้ว่าจ้างค่อยๆ ลดจำนวนลง
ลอเอลเฝ้าจับตามองมาสักพักและพบว่าอุปกรณ์สวมใส่ของกลุ่มปฏิวัติถูกยกระดับขึ้นมาก และด้วยเหตุผลดังกล่าว พวกมันจึงหมดไฟในการ ‘ล่า’ คลาสลับ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเก็บเลเวลและล่าบอสเพื่อพัฒนาตัวเอง
พิจารณาจากเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าอุดมการณ์ที่จะปฏิวัติพวกมันเป็นเพียงเปลือก และ ‘กองทุน’ ที่สนับสนุนเบื้องหลังก็มิได้พยายามผลักดันให้เกิดการปฏิวัติอย่างเป็นรูปธรรม
ตีความได้ว่า พวกมันสนับสนุนการปฏิวัติ แต่ก็มิได้บังคับว่าต้องทำให้สำเร็จ บรรดานักปฏิบัติจึงลดอุดมการณ์ลงหลังจากได้รับความมั่งคั่งจำนวนหนึ่ง
“คล้ายกับว่า กลุ่มทุนดังกล่าวกำลังเน้นลงทุนในกลุ่มผู้เล่นที่มีอนาคตไกล หวังให้คนเหล่านั้นเติบโต… นั่นคือความเห็นของฉัน”
“หมายความว่ายังไง… คิดจะทำตัวเป็นพ่อเลี้ยง?”
“เปรียบเปรยได้เหมาะสม… อย่างไรก็ตาม ทางเรายังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เฟคเกอร์ยังสงสัยอีกฝ่ายกำลังวางแผนอื่นที่อยู่เหนือความคาดหมาย ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป… แค่ก! แค่ก!”
“…”
กริดเริ่มเหนื่อยหน่ายเมื่อเห็นลอเอลกระอักเลือดอีกครั้ง
มันเดินออกจากห้องมาพร้อมเมอร์เซเดสและผู้ส่งสาร
เป้าหมายถัดไปคือการล่าเฮลกาโอและย้ายไปยังที่ทวีปตะวันออก
ถึงเวลาตรวจสอบว่าเสือคราม ทายาทของเทพผู้พิทักษ์โบราณ รวมถึงเผ่าพันธุ์ของเทพโบราณดังกล่าว มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรในปัจจุบัน
แต่มีหนึ่งสิ่งที่กริดยังไม่ทราบ
ค่าความสัมพันธ์ระหว่างลอเอลกับราชาเนตรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากมันสวมสกินใหม่
“กริด!”
โชคยังเข้าข้าง เสือครามยังคงสบายดี เธอเล่าด้วยว่า ปัจจุบันตนกำลังคบหาอยู่กับโทซุน
ในระยะหลัง จิตใจของกริดต้องเผชิญกับความสับสนอยู่บ่อยครั้ง
เสือคบกับกระต่ายเนี่ยนะ55555555
ReplyDelete