จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,431 (แก้ไขแล้ว)
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,431
มีงานกองเป็นภูเขาสำหรับกริด
ชายหนุ่มไม่รู้มาก่อนว่าซาลิเอลจะอาละวาดในยามที่อยู่ในนรก จึงเรียงลำดับความสำคัญผิดพลาด ลงไปกวาดล้างนรกโดยไม่มีการเตรียมตัวที่ดีพอ
“เฮ้อ…”
กว่าสองสัปดาห์แล้วที่มันติดแหง็กอยู่ในโรงตีเหล็ก
กริดพับแผนผลิตดาบกระดูกหลังไว้ชั่วคราว และมุ่งเน้นสะสางงานระยะสั้นให้เรียบร้อยก่อน
ชายหนุ่มผลิตสิ่งของตามใบสั่งสมาชิกกิลด์ จากนั้นก็เป็นการสร้างหรือแก้ไขไอเท็มให้ผู้ส่งสาร
ทั้งหมดก็เพื่อชดเชยจุดแข็งและจุดอ่อนของบรรดาผู้ส่งสารที่เผยออกมาให้เห็นในนรก
ดาบกระดูกหลัง
อาวุธชนิดนี้ไม่มีทางสร้างเสร็จภายในสองสามวัน
เนื่องจากวัสดุหลักเป็นกระดูก กระบวนการจึงต้องทำอย่างระมัดระวังที่สุด
โลหะต้องผ่านการหลอมด้วยความร้อนหลายครั้งเพื่อเพิ่มความแข็งและทนทาน จากนั้นก็หลอมใหม่อีกครั้งไปพร้อมกับใช้เทคนิคการอบคืนตัวอีกนับพันนับหมื่นรอบ
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากมากเมื่อวัสดุหลักเป็นกระดูก
โดยธรรมชาติ เมื่อโดนความร้อน กระดูกจะถูกเผาแทนที่จะละลาย เป็นสาเหตุให้การหลอมกระดูกไปพร้อมกับอบคืนตัวนั้นแทบไม่มีโอกาสสำเร็จ เว้นเสียแต่จะมีเทคนิคการตีเหล็กระดับช่างฝีมือเลเวลสูงสุด
“ดูเหมือนจะเสร็จเกือบหมดแล้ว”
ชายหนุ่มทำงานหนักมาตลอดครึ่งเดือนเต็ม
งานจ้างของสมาชิกกิลด์เสร็จสมบูรณ์ และไอเท็มของผู้ส่งสารก็ถูกดูแลให้อยู่ในสภาพเยี่ยม
แต่ขณะกริดกำลังจะเริ่มสร้างดาบกระดูกหลัง ชายหนุ่มพลันฉุกคิดถึงบางสิ่ง
มันจำไม่ได้ว่าตนสร้างไอเท็มให้จิสึกะไปตอนไหน
กริดที่ตื่นตัวรีบตรวจสอบรายการงานจ้างของสมาชิกทุกคน แต่กลับไม่พบงานจ้างของจิสึกะ
‘เธอไม่ได้จ้างเราเพราะลำบากใจที่จะเจอหน้า…?’
จิสึกะปฏิเสธคลาสผู้สืบทอดโพเวียและเลือกเดินบนเส้นทางนักธนูของตัวเอง
ในเวลาถัดมา เธอเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ผิดไปจากความคาดหมายของผู้คน ไม่มีใครคาดคิดว่าจิสึกะจะได้รับสองเหรียญทองในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติประจำปี
ศพของอริยศรไม่มีวันหมด แถมยังมีทักษะซุ่มยิงหลากหลายรูปแบบที่ยากจะรับมือ จึงไม่มีผู้เล่นแถวหน้าคนใดตอบสนองต่อการยิงของเธอได้ทัน
ลงเอยด้วย จิสึกะกลับมาพร้อมกับรางวัลเหรียญทองและเก็บไว้ในคลังสัมภาระของกิลด์
ทว่า เธอมิได้จ้างให้กริดสร้างบางสิ่งจากรางวัลดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวพยายามหลีกเลี่ยงทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกริด
ชายหนุ่มเริ่มกระวนกระวาย กังวลว่าจะเสียเธอไปในฐานะพวกพ้องคนสำคัญ
‘ถ้าจิสึกะหายไป… เราก็คง…’
จิสึกะคือหนึ่งใน ‘จุดกำเนิด’ ของกริด
หากปราศจากความเชื่อใจและแรงสนับสนุนจากจิสึกะและกิลด์เซดากาห์ กริดก็จะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากทุกวันนี้โดยสิ้นเชิง
มันคงกลายเป็นแอ็กนัสคนที่สอง
สาเหตุที่กริดเกลียดชังแอ็กนัส เพราะชายหนุ่มมองเห็นแนวโน้มที่ตนจะกลายเป็นแบบเดียวกับแอ็กนัสหากปราศจากพวกพ้อง
‘ต้องใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวดและทุกข์ระทม…’
กริดพลันหดหู่เมื่อคิดว่าจิสึกะมีโอกาสจากไป
เพียงจินตนาการถึงความรู้สึกสูญเสียปลอมๆ แผ่นหลังของมันพลันเย็นวาบอย่างน่าขนลุก
‘ก่อนอื่น… เราต้องสร้างไอเท็มใหม่ให้เธอ’
สำหรับปัจจุบัน อุปกรณ์สวมใส่ของจิสึกะคล้ายคลึงกับเฟคเกอร์ในหลายชิ้น
ชายหนุ่มศึกษา วิเคราะห์ และปรับปรุงกางเกงของครูเกอร์ที่เคยมอบให้เฟคเกอร์เมื่อนานมาแล้ว จากนั้นก็สร้างเป็น ‘เซตเกราะผ้าของกริด’
อันที่จริง เซตเกราะผ้าของกริด คือกางเกงครูเกอร์รุ่นอัปเกรดที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ไอเท็มมีคุณภาพสูงขึ้นได้เพราะใช้ ‘วัสดุที่ถูกเสริมแกร่ง’ ส่งผลให้ ‘เงื่อนไขการสวมใส่’ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
แน่นอน เทคนิคการตัดเย็บของกริดยังห่างไกลจากปลายนิ้วเท้าของครูเกอร์อยู่หลายขุม
‘แต่นั่นอาจเป็นเรื่องในอดีต…’
ด้วยผลของหนังสือที่ชำรุดของดันทาเลี่ยน ทักษะการตัดเย็บของกริดจึงถูกยกระดับเป็นขั้นสูงเลเวลแปด ใช้เวลาอีกราวหนึ่งถึงสองปีก็คงพัฒนาไปถึงขั้นสูงเลเวลสิบ
ของรางวัลภารกิจที่จะได้รับเมื่อทักษะตัดเย็บกลายเป็น ‘ขั้นสูงเลเวลสิบ’ ก็คือ เลเวลตัวละครหกเลเวล รวมถึงการเปิดใช้งานทักษะ ‘เทคนิคการตัดเย็บระดับช่างฝีมือ’
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการหลอมรวมระหว่าง ‘เทคนิคการตีเหล็ก’ และ ‘เทคนิคการตัดเย็บ’
เมื่อพิจารณาว่า เทคนิคการตีเหล็กของกริดสามารถพัฒนาจากระดับตำนานไปเป็นเทวตำนานได้ด้วยทักษะ ‘ดึงศักยภาพซ่อนเร้น’ ในทำนองเดียวกัน เทคนิคการตัดเย็บของกริดที่มีเพียงระดับช่างฝีมือ ก็สามารถก้าวไปเป็นระดับตำนานได้ไม่ต่างกัน
‘ด้วยทักษะปัจจุบันของเรา ยังพอจะอัปเกรดอุปกรณ์สวมใส่ของจิสึกะได้อยู่… โดยเฉพาะอาวุธที่สามารถช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นมาก’
คันศรฟีนิกซ์แดงล้าสมัยแล้ว
จริงอยู่ มันอาจเป็นอาวุธเกรดมิธ ส่งผลให้คุณสมบัติพื้นฐานอยู่ในระดับยอดเยี่ยม สามารถเรียกได้อย่างไม่อายปากว่า ‘เป็นอาวุธที่ใช้ได้จนตาย’
แต่ค่าพลังโจมตีของมันต่ำเกินไป นี่คือการประเมินของกริด
แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ กริดเชื่อว่าฝีมือปัจจุบันของตนสามารถผลิตธนูที่ดีดีกว่าคันศรฟีนิกซ์แดงออกมาได้
‘สำหรับยุคปัจจุบัน คันศรฟีนิกซ์แดงรุ่นต้นตำรับไม่ใช่ไอเท็มที่ทรงพลังจนเข้าขั้นโกงอีกแล้ว… และคันศรฟีนิกซ์แดงของเราคือรุ่นที่พัฒนาจากของเดิม แต่ดูเหมือนว่าไอเท็มชิ้นนี้จะมาถึงทางตัน’
ในหัวกริดเต็มไปด้วยสูตรการผลิตมากมาย
สมาชิกโอเวอร์เกียร์ที่กระจายตัวออกไปทำงานทั่วทวีปยังคงรวบรวมสูตรการผลิตใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องและส่งกลับมาให้กริด
ปัจจุบัน ชายหนุ่มมีสูตรการผลิต ‘ธนู’ ทั้งหมด 192 แบบ
จากความรู้และประสบการณ์อันโชกโชน ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างธนูที่ดีกว่าคันศรฟีนิกซ์แดง
หากลำพังพลังของกริดยังไม่เพียงพอ ก็มีอีกหลายวิธีในการขอความช่วยเหลือจากระบบของทักษะ ‘ออกแบบไอเท็ม’
สำหรับพวกพ้องคนสำคัญอย่างจิสึกะที่ได้ครอบครองคลาสเกรดเลเจนดารี การยอมลงทุนใช้ทักษะออกแบบไอเท็มไม่ถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์
นอกจากนั้น อาวุธที่เรียกว่าธนูยังสามารถใช้งานได้หลากหลาย
‘ถ้าเราผลิตธนูชั้นเลิศสำเร็จ คนที่ได้ประโยชน์จะไม่ใช่แค่จิสึกะ’
เมอร์เซเดสเองก็สามารถใช้ธนูได้เก่งกาจ
“ถ้าอย่างนั้น… เกี่ยวกับธาตุของธนู...”
กริดตัดสินใจจะไม่ใส่ธาตุให้กับธนูใหม่
จริงอยู่ คุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมธาตุไฟนั้นเข้ากันได้ดีกับคันศรฟีนิกซ์แดงมาก แต่ต้องไม่ลืมว่าตัว ‘คันศร’ คืออาวุธที่ได้รับผลประโยชน์จากธาตุค่อนข้างน้อย
คันศรคืออุปกรณ์ยิงลูกศร ดังนั้น ธาตุสามารถถูกบรรจุอยู่ในลูกศรแทน จึงเป็นการดีกว่าในแง่ความหลากหลาย หากจะผลิตให้คันศรออกมาไม่มีธาตุ
ยิ่งเมื่อพิจารณาจาก ‘ทรัพยากร’ ใหม่ของอริยศรที่มีชื่อว่า ‘ศรปราบมาร’ ประสิทธิภาพของศรปราบมารจะลดลงอย่างมากเมื่อใช้คู่กับคันศรฟีนิกซ์แดง เนื่องด้วยการถูกปราณไฟข่ม
กริดไม่แน่ใจว่าจิสึกะสังเกตเห็นหรือยัง แต่การใช้คันศรแบบไร้ธาตุจะดีกว่าคันศรฟีนิกซ์แดงเมื่อยิงด้วยลูกศรพิษหรือศรปราบมาร
‘วัสดุที่ช่วยส่งประสิทธิภาพของทุกธาตุ… มิธริลกับโอริชาลคั่ม’
ทั้งมิธริลและโอริชาลคั่มต่างเป็นโลหะที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังไม่พอที่จะเป็นวัสดุสำหรับอาวุธเกรดมิธ
กริดตัดสินใจว่า ตนควรลงทุนในอดามันเทียมมากกว่า
อดามันเทียม โลหะจากแอสการ์ด รวบรวมข้อดีของแร่ธาตุทั้งหมดบนผืนพิภพเอาไว้
จริงอยู่ ระดับของมันค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่เฮ็กเซเทียสร้างขึ้น แต่ปัจจุบัน เฮ็กเซเทียถูกขังอยู่ในคุกนิรันดร์ แทบไม่มีหนทางให้กริดได้รวบรวมศิลาศักดิ์สิทธิ์
แม้กริดจะกำลังครุ่นคิด แต่ก็มิได้หยุดขยับแขน
ชายหนุ่มปรับความร้อนแรงของไฟในเตาหลอมพร้อมกับเปลี่ยนทำให้กระดูกสันหลังของโอโบร่ามีอุณหภูมิสูง
กริดหยิบวัสดุออกมาในเวลาที่เหมาะสม จากนั้นก็พยายามใช้ค้อนทุบลงบนข้อต่อ
ในทางสามัญสำนึก การถลุงและการเสริมแกร่งให้กระดูกอาจฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ที่นี่คือซาทิสฟาย สถานที่ซึ่งมีสามัญสำนึกต่ำกว่าปรกติเล็กน้อย นอกจากนั้นยังได้รับความช่วยเหลือจากเทคนิคระดับเทวตำนาน
[ค่าความชำนาญของท่านเพิ่มขึ้น 1 หน่วย]
“หือ?”
ยิ่งเลเวลของทักษะสูงขึ้น ยิ่งค่าสถานะโดยรวมสูงขึ้น ค่าสถานะที่ได้จากการผลิตก็จะยิ่งลดลง
เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการ ‘ปั๊ม’ ค่าสถานะของผู้เล่นสายผลิต
สำหรับกริดที่เริ่มรู้สึกว่า โบนัสค่าสถานะจากทักษะตัดเย็บค่อยๆ ลดน้อยลงไปทุกที การเพิ่มขึ้นของค่าความชำนาญเพียงหนึ่งหน่วยจึงนับว่าสำคัญมาก
‘การหลอมข้อต่อกระดูกถูกจำแนกให้เป็นงานที่ยาก ระบบจึงปลดข้อห้ามการได้รับโบนัส?’
กริดผ่านขั้นตอนการหลอมข้อต่อกระดูกอย่างราบรื่น แถมยังเป็นคุณภาพที่สูงกว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
คล้ายกับการหยุดพักงานยากๆ เป็นเวลานาน จะช่วยให้ประสาทสัมผัสและความรู้สึกเฉียบคมขึ้น
‘ทุกอย่างกำลังไปได้สวย…’
กริดพิจารณาจากความยากในการผลิตของดาบกระดูกหลัง
ดาบเล่มนี้จะต้องมีเกรดสูงกว่าเลเจนดารีแน่นอน ส่งผลให้กริดไม่ต้องสิ้นเปลืองทักษะ ‘อัปเกรดไอเทม’ ที่จะช่วยเพิ่มเกรดของไอเท็มหนึ่งระดับ แต่ไม่เกินเกรดเลเจนดารี
ขณะกริดมีลางสังหรณ์ว่าผลลัพธ์จะออกมาราบรื่น
พีคซอร์ดแวะมาเยี่ยมโรงตีเหล็ก
กริดที่กำลังอยู่ในอารมณ์สดใส ตั้งใจฟังเรื่องราวของคูเซฮาและราชินีเยือกแข็งอย่างมีสมาธิ
จากนั้น ชายหนุ่มอ้าแขนรับคำขอของอีกฝ่ายทันที
***
[ผู้เล่น ‘ชิฟต์’ โอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ‘หัวใจราชินีเยือกแข็ง’ มาให้ท่าน]
“ฉันจะดูแลให้เอง”
“กริด ขอบคุณมาก… ถ้ามันอยู่ในมือนาย ฉันก็สบายใจ”
ข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายลุล่วงไปด้วยดี
หัวใจราชินีเยือกแข็ง
คุณสมบัติอาจจะแปลกประหลาดไปสักนิด แต่ก็เป็นไอเท็มที่มีมูลค่าสูงอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังไม่มีวันบุบสลาย
หากเปลี่ยนสิ่งนี้เป็นโอสถ เกรดของมันจะต้องอยู่ในระดับเลเจนดารีอย่างไม่ต้องสงสัย จึงเป็นเรื่องปรกติที่จะไม่บุบสลาย
คงตลกไม่น้อยหากดื่มโอสถไม่สำเร็จเพียงเพราะขวดแตกคามือ
เนื้อหาหลักของสัญญาก็คือ กริดจะเก็บหัวใจไว้จนกว่าคูเซฮาจะค้นพบวิธีทำลาย
มีเงื่อนไขแถมมาด้วยเล็กน้อย
ข้อแรก คูเซฮาต้องยอมรับงานจ้าง ‘สร้างสกิน’ จากสมาชิกโอเวอร์เกียร์ทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข
ข้อที่สอง ถ้ากริดทำหัวใจราชินีเยือกแข็งสูญหาย คูเซฮาไม่สามารถเอาผิดกริดได้ แต่กริดต้องนำวิดีโอย้อนหลังของเหตุการณ์ที่ทำให้หัวสูญหายมาเปิดเผยต่อหน้าคูเซฮา
ข้อที่สาม หากกริดค้นพบวิธีใช้หัวใจราชินีเยือกแข็งอย่างเหมาะสมและไม่ผิดศีลธรรม คูเซฮาจะต้องขายให้กริด แน่นอนว่าเป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้อ
สัญญาเหล่านี้เอื้อประโยชน์ให้กริดอย่างมากจนดูไม่ยุติธรรม แต่คูเซฮาก็มิได้ถือสา เพราะหัวใจของราชินีเยือกแข็งนั้นไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา
คูเซฮาเป็นคนยื่นระเบิดให้กริด อันตรายที่คูเซฮาเคยเผชิญในอดีตจะเบนเป้าไปหากริดทั้งหมด
แทนที่จะเรียกร้องสิ่งตอบแทนราคาแพง กริดกลับขอในสิ่งที่คูเซฮาสามารถทำได้ง่ายๆ อย่างการสร้างสกิน
แถมยังไม่ใช่งานฟรี มีการตกลงแล้วว่า สมาชิกโอเวอร์เกียร์จะเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายสำหรับวัสดุทั้งหมดในการผลิต
ส่วนเรื่องที่กริดมีโอกาสทำหัวใจสูญหาย คูเซฮามองว่า ถ้าระดับกริดยังไม่สามารถรักษาไว้ได้ เก็บไว้กับตนก็คงไม่ดีกว่ากันสักเท่าไร
ทำได้แค่ทำใจและยอมรับหากสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง
ดังคำกล่าวของพีคซอร์ด กริดมิได้ไร้เทียมทาน
สำหรับเงื่อนไขข้อสุดท้ายที่ระบุว่า ‘หากกริดพบวิธีใช้งานหัวใจราชินีเยือกแข็งอย่างเหมาะสมและไม่ผิดศีลธรรม คูเซฮาจะต้องขายให้กริด’
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่ายินดี
จะไม่ให้คูเซฮายินดีได้อย่างไร ก็ในเมื่อมันสามารถขจัดปัญหาไปพร้อมกับได้รับเงินก้อนโต?
“คูเซฮา... นายไม่ต่างจากตอนที่อยู่บนเวทีเลย”
การที่คูเซฮาสามารถรักษาจุดสูงสุดได้นานกว่ายี่สิบปี สิ่งนี้ไม่ใช่ผลจากรูปลักษณ์ที่สง่างามและความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเพราะความดีที่ชายคนนี้คืนให้กับสังคม
ในหลายครั้งที่กริดอ่านบทความหรือบทสัมภาษณ์ของคูเซฮา มันพบว่าชายคนนี้มีจิตใจที่ซื่อตรงอย่างมาก และดูเหมือนจะไม่ผิดไปจากที่คิด
หากกริดอยู่ในสถานการณ์เดียวกับคูเซฮา มันก็คงส่งระเบิดกลับและตำหนิองค์ชายแห่งเฮอมิลตันแทน นอกจากนั้นยังจะฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยอย่างสมน้ำสมเนื้อ ไม่สิ บางทีอาจจะนำไปต่อรองกับคนที่ต้องการไอเท็มต้องสาปชิ้นนี้
ในทางกลับกัน เมื่อหัวใจราชินีเยือกแข็งตกเป็นของคูเซฮา มันพยายามรับผิดชอบจนถึงที่สุด
ชายคนนี้มีจิตใจที่ซื่อตรง สามารถเอาชนะความโลภ หันหลังให้กับความร่ำรวยที่จะเกิดจากการหัวใจไปขาย
กริดเชื่อโดยสนิทใจว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ซาทิสฟายรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาจวบจนปัจจุบัน เป็นเพราะมีคนดีๆ เหล่านี้คอยผลักดันอยู่เบื้องหลัง
“ขอชื่นชม… จากก้นบึ้งหัวใจ”
กริดกล่าวความในใจด้วยรอยยิ้ม
ใบหูของคูเซฮาพลันแดงระเรื่อ
“ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริง ฉันคงยอมแพ้ในทันที… ที่กัดฟันทนมาจนถึงตอนนี้ก็เพราะโลกนี้คือซาทิสฟาย… ไม่มีอะไรให้น่าชื่นชมเลยสักนิด… ฉันละอายใจ”
“ไม่ว่าจะในซาทิสฟายหรือโลกความจริง…”
“…?”
“หากนายยังถูกคุกคามไม่เลิก ได้โปรดติดต่อหาพวกเรา”
‘หา…?’
กิลด์โอเวอร์เกียร์
ในฐานะผู้นำสูงสุดขององค์กรแถวหน้าของโลก กริดมีความทระนงตนสูงมาก
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ในเมื่อสมาชิกหลายคนของโอเวอร์เกียร์มีบทบาทและเป็นบุคคลสำคัญในหลากหลายสาขาของโลกความจริง แล้วจะไม่ให้กริดภูมิใจในตัวเองและองค์กรได้อย่างไร?
คูเซฮาที่กำลังยืนมองหน้ากริด พบว่าความกังวลเล็กๆ ภายในใจตนถูกชะล้างออกไป
“แค่คำพูดยังทำให้ฉันเกิดวางใจและตื่นเต้นได้ขนาดนี้… ในอนาคต ฉันจะพยายามช่วยเหลือกิลด์โอเวอร์เกียร์ตามแบบฉบับของตัวเอง”
คูเซฮาจากไปพร้อมกับคำพูดทิ้งท้ายที่ทรงพลัง
พิจารณาจากการที่ทั้งพีคซอร์ดและลอเอลต่างรีบแยกย้ายออกไปทำงานของตัวเอง ดูเหมือนว่ากิลด์โอเวอร์เกียร์จะยุ่งวุ่นวายไปอีกสักพัก
กริดผู้ถูกทิ้งไว้ตามลำพัง เผยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
มันดีใจที่ได้รู้จักคนดีๆ เพิ่มขึ้นในชีวิต
‘เฟคเกอร์และลอเอลจะเริ่มสืบหาคนที่กำลังตามล่าหัวใจ… ถ้าอย่างนั้น ก่อนอื่น เราควรตรวจสอบว่าเจ้าสิ่งนี้สามารถถูกดัดแปลงโครงสร้างได้ไหม’
กริดวางค้อนลงชั่วคราวและเริ่มศึกษาหัวใจราชินีเยือกแข็ง
ตอนซำ้กับตอนที่แล้วครับ
ReplyDeleteซ้ำๆ
ReplyDelete