จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,435



“กินได้แล้ว ฉันผสมน้ำผึ้งเข้ากับเครื่องปรุงรสกระเทียม”


“อร่อย”


“…”


เสือตัวหนึ่ง กำลังชื่นชอบสลัดแครอทที่ปรุงโดยกระต่าย


กริดมิได้รู้สึกขวางหูขวางตากับความจริงที่ว่ากระต่ายกำลังทำอาหาร


โทซุนเป็นตัวตนพิเศษในหมู่เผ่าพันธุ์เทพโบราณ


สัตว์จักรราศี — พวกมันคือข้าใช้เทพโบราณ


โทซุนมีสติปัญญา ยืนด้วยขาสองข้าง และรู้วิธีใช้งานเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ อย่างชำนาญ ร่างกายคล้ายคลึงมนุษย์


เช่นนั้นแล้ว การจะทำอาหารได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


และมันมิได้ประหลาดใจกับภาพเสือกินแคร์รอต


เสือครามเป็นทายาทของเสือขาว เป็นสัตว์ครึ่งเทพ แม้เธอจะตัวใหญ่เป็นสองเท่าของเสือโคร่งทั่วไป แต่ก็ยังยืนกรานว่าจะไม่กินเนื้อสัตว์


ทว่า สิ่งที่กริดกำลังสับสนก็คือ เหตุไฉนโทซุนและเสือครามถึงได้แสดงความรักอย่างเปิดเผย


แม้โทซุนจะไม่ใช่กระต่ายธรรมดา และเสือครามก็ไม่ใช่เสือโคร่งธรรมดา แต่พวกมันก็ยังเป็นกระต่ายกับเสืออยู่ไม่ใช่หรือ?


ไม่สิ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สายพันธุ์ แต่เสือครามนั้นเป็นครึ่งเทพ ต่อให้คบหากับเสือโคร่งธรรมดาก็ยังไม่ใช่เรื่องปรกติ


และเหนือสิ่งอื่นใด ยังมีปัญหาที่สำคัญที่สุดอยู่อีกเรื่องหนึ่ง


“อย่างน้อยก็ควรอยู่ในเพศที่ถูกต้อง… เธอแปลงเป็นเพศชายไม่ได้หรือ?”


กริดกินสลัดแคร์รอตที่โทซุนยกมาเสิร์ฟพร้อมกับพูดเข้าประเด็นที่ตนคิดว่าเป็นปัญหา


เสือครามที่อยู่ในร่างมนุษย์ กำลังนั่งร่วมโต๊ะอาหารและพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับกริด เธออยู่ในร่างผอมเพรียว ใบหน้างดงาม


และโทซุนเองก็เป็นเพศหญิง


เสือครามอธิบายด้วยรอยยิ้มขื่นขม


“การเกิดมาเป็นลูกของเทพไม่ใช่เรื่องที่ดี… ต้องใช้ชีวิตอย่างเดียวดายและง่ายต่อการเผชิญอันตราย ข้าคงไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้”


กริดมีความทรงจำของแพ็กม่า จึงยังไม่ลืมว่าเสือครามเคยถูกจับขังไว้ในกรงและปฏิบัติเยี่ยงสุนัข


ชายหนุ่มจึงพอจะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย


“ความรักที่บริสุทธิ์สินะ…”


“จุ้บ~”


“…อา คงไม่ใช่”


เพียงเพราะมีเพศเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่สามารถมีความสัมพันธ์ในเชิงร่างกาย


กริดรู้สึกเหมือนกับกำลังได้ยินเสียงของกลุ่มผู้เรียกร้องความเท่าเทียมกำลังบอกให้ตนเคารพความหลากหลายทางรสนิยม


เมื่อหันไปเห็นโทซุนและเสือครามกำลังจุมพิตกัน ชายหนุ่มหยิบแคร์รอตขึ้นมาอีกหนึ่งหัว


‘ช่างเถอะ ขอแค่พวกเขามีความสุขก็พอ’


กริดยิ้มพลางมองไปรอบตัวโดยไม่กล่าวคำใด


ป่าที่เคยถูกการัมทำลายจนพินาศ ดินแดนของเทพโบราณที่กริดเคยคิดว่า ‘ไม่เหลือซาก’ ยามนี้ฟื้นฟูกลับคืนมาได้หลายส่วนจากความร่วมมือของโทซุนกับเสือคราม บางที ความรักคงเกิดขึ้นท่ามกลางความขื่นขมและทุกข์ระทม


ขณะกริดกำลังครุ่นคิดเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้น เสือครามจิ้มเข้ามาที่ท่อนแขนของกริดผู้กำลังจิบชาเย็น


“มันเคยแข็งเหมือนเหล็ก แต่ตอนนี้กลับยืดหยุ่น”


“เหมือนกล้ามเนื้อของเสือใช่ไหม?”


“โฮก!”


ร่างกายในปัจจุบันของกริด ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงโดยสถานะเหนือมนุษย์และบารมีเทพ มีพัฒนาการที่น่าทึ่งมาก


มวลกล้ามเนื้อที่มีความยืดหยุ่นและความทนทาน ช่วยรองรับและคอยสนับสนุนโครงกระดูกที่วิวัฒนาการขึ้นมาพร้อมกัน


ชายหนุ่มสามารถระเบิดพลังพลังมหาศาลได้ในพริบตาโดยไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะรับภาระหนัก


ปัจจุบัน มันไม่ต่างอะไรกับนักล่าที่สามารถสลับโหมดได้ทุกเมื่อ


‘จึงเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากเมื่อได้เห็นกล้ามเนื้อระดับนี้เกิดอาการล้า…’


กริดหวนนึกถึงผลข้างเคียงหลังจากสร้างดาบไร้รูป


ขณะเดียวกัน เสือครามถามด้วยรอยยิ้ม


“เจ้าถ่อมาจากตะวันตกเพียงเพื่อพบพวกเราหรือ?”


“ใช่… ทำไมล่ะ?”


“ฮุฮุฮุ!”


“หืม? หัวเราะทำไม?”


“ฮุฮุฮุ! นั่นหมายความว่าเจ้าคิดถึงพวกเรา ข้าดีใจมาก! สมแล้วที่เป็นเทพคุณธรรม ช่างมีจิตใจอ่อนโยนยิ่งนัก!”


“ตอนนี้ฉันไม่ใช่เทพคุณธรรมแล้ว…”


และมันไม่เคยเป็นเทพคุณธรรมตั้งแต่แรก


โทซุนเป็นคนเรียกเอาเองฝ่ายเดียว


เมื่อได้ยินสมญานามเทพคุณธรรมที่ไม่ได้ยินมานาน กริดเริ่มตระหนักว่าชื่อ ‘เทพโอเวอร์เกียร์’ ของตนฟังดูรื่นหูกว่ามาก


“ท่านผู้มีพระคุณ! ท่านกลับมาจริงๆ ด้วย! จี๊ด!”


“ท่านเทพคุณธรรม! ฟ่อ!”


“มออออออ!!”


คยองจา พังอูลี วัวดำ และอีกมากมาย


สัตว์จักรราศีที่สูญเสียเทพของพวกตนและเคยเป็นภูตผีแร่ร่อนบนดินแดนที่ถูกทิ้งร้าง พวกมันล้วนเคยได้รับการช่วยเหลือจากกริด


ทุกตัวรีบรุดหน้ามาที่นี่ทันทีเมื่อทราบว่ากริดมาเยือน


“ข้าคิดถึงท่านมาก!”


“ข้าดีใจมากที่ท่านกลับมา!”


“มออออออ!!”


“ด…เดี๋ยวก่อน! ใจเย็น!”


กริดรีบแหกปากร้องขณะถูกผลักให้ล้มลงกับพื้น


ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นว่า เสื้อผ้าและชุดเกราะของสัตว์จักรราศีล้วนเปื้อนคราบสกปรกและเหงื่อ


นี่คือหลักฐานว่าพวกมันทำงานหนักขนาดไหน


แต่ถึงอย่างนั้น กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็ออกจะรุนแรงไปสักหน่อย


กริดสลัดหลุดจากสัตว์จักรราศีที่พยายามถูไถร่างกายของตนอย่างยากลำบาก จากนั้นก็ถกแขนเสื้อขึ้น


“ระหว่างอยู่ที่นี่ ฉันจะสร้างเสื้อผ้าชุดใหม่ให้พวกนาย”


“พวกเราจะช่วยท่านอีกแรง!”


“ข้าจะเตรียมเหล้าและอาหาร!”


“มออออ!!”


ระหว่างพวกมันกำลังสนทนา กริดสังเกตเห็นรอยยิ้มของสัตว์จักรราศีบางคน เป็นรอยยิ้มที่เกิดจากก้นบึ้ง รอยยิ้มของคนที่กำลังมีความสุขกับชีวิตใหม่


กริดรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก


***


คร่อก ฟรี๊~


กลางดึกสงัด สัตว์จักรราศีและบรรดาเผ่าพันธุ์ของเทพโบราณต่างพากันเมามายและผล็อยหลับไป


อาจเป็นเพราะกริดไม่ต้องการปลุกพวกมัน จึงเลือกใช้แสงสว่างที่อ่อนโยนเพื่อช่วยให้ตัวเองมองเห็นทัศนวิสัย


เป็นแสงจากภูตแสง - ตัวตนที่มีความนึกคิดเป็นของตัวเอง และปรารถนาจะช่วยเหลือกริดอย่างสุดความสามารถ


ขณะเดียวกัน หัตถ์เทวะทั้งสิบข้าง บ้างถือค้อนมโยลเนียร์ บ้างถือดาบยาว พวกมันคอยทำลายก้อนหินและกิ่งไม้ที่ระเกะระกะอยู่ตามทาง ช่วยให้กริดเดินได้สะดวกขึ้น


“…”


ภายในป่า กริดหยุดยืนหน้าทะเลสาบที่ส่องแสงระยิบระยับเมื่อสะท้อนกับแสงจันทร์


ในใจกำลังดื่มด่ำไปกับคำว่า ‘สันติสุข’


อาณาจักรฮวาน เทพตกสวรรค์ นรก จอมอสูร และเหล่าทวยเทพจากแอสการ์ด


ยิ่งกริดตระหนักถึงคุณค่าแห่งสันติสุข มันก็ยิ่งพบว่ามีภัยคุกคามที่จ้องจะทำลายสันติสุขมากเพียงใด


ครุ่นคิดสักพัก ชายหนุ่มเริ่มเข้าใกล้ข้อสรุป


ภาพของมีร์ผุดขึ้นในใจกริดที่กำลังฮึกเหิม


มีร์ ผู้ครอบครองดาบหนักมังกรคราม เป็นตัวตนที่ฮานึลสร้างขึ้นเพื่อต่อกรกับเทวทูต


มันทั้งทรงพลังและเก่งกาจเทียมเท่าจอมอสูร


กริดรู้สึกว่า การต่อสู้กับมีร์คือชะตาที่มิอาจเลี่ยง


สายฟ้าที่มิอาจรับมือได้เมื่อสองเดือนก่อน ปัจจุบันจะตอบสนองได้ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน


เก่งพอจะสร้างรอยอาการบาดเจ็บให้มีร์แล้วหรือยัง?


โดยไม่ต้องพึ่งพาครอเกล?


‘เราไม่จำเป็นต้องฆ่ามีร์ แต่ต้องแสดงให้เห็นถึงการคุกคาม’


สำหรับทวีปตะวันออก มีร์เป็นตัวตนที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบัน


หากหวังปลดผนึกให้เสือขาวและมังกรครามเพื่อฟื้นฟูตำนานที่ถูกลืมของเทพตะวันออก กริดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโค่นมีร์ให้ได้


ณ ตอนนี้ มีร์คือบรรทัดฐานความแข็งแกร่งในสายตากริด เฉกเช่นที่การัมเคยเป็นเมื่อในอดีต


‘การจะกวาดล้างนรกขุมที่ยี่สิบ อันดับแรกก็ต้องแข็งแกร่งจนคุกคามมีร์ให้ได้เสียก่อน’


อัศวินดำที่คอยปกป้องปากสุนัขนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด?


ในตอนที่เผชิญหน้ากัน กริดมิอาจกะเกณฑ์อีกฝ่ายได้แม่นยำ


แต่เมื่อก้าวออกมาจากนรกและนึกทบทวนอย่างเป็นกลาง กริดเริ่มพบความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของอัศวินดำ


แม้ผู้ส่งสารทุกคนจะล่าเฮลกาโอจนได้รับสมญานามที่ช่วยขจัดผลข้างเคียงในนรก แต่กริดก็ไม่คิดว่าพวกตนจะเอาชนะอัศวินดำได้


ทางนั้นมีเซอร์เบอรัส สัตว์เทวตำนานที่ยากจะประเมินฝีมือ แถมโอกาสที่ซาลิเอลจะคลุ้มคลั่งก็ยังมีสูงมาก จำเป็นต้องคำนวณให้อยู่นอกเหนือการต่อสู้ไปก่อน


‘ตัวเราสำคัญมาก’


กริดปรารถนาจะสู้กับมีร์และวัดความสามารถของตัวเอง


ต้องเป็นมีร์เท่านั้น


ขณะกำลังตัดสินใจหนักแน่น เสียงหนึ่งถามจากด้านหลัง


“ไม่มีวิธีทำลายสะพานนกกางเขนเลยหรือ?”


อาณาจักรคายาและอาณาจักรปาเชื่อมต่อกันด้วยสะพานนกกางเขน ส่งผลให้ทั้งสองดินแดนอยู่ภายใต้การควบคุมของมีร์


หากมีวิธีทำลายสะพานนกกางเขน นั่นจะช่วยให้แผนการปลดผนึกเทพผู้พิทักษ์ง่ายขึ้นมาก


“สะพานนกกางเขนสร้างขึ้นจากการสังเวยอีกาและนกกางเขนจำนวนหลายหมื่นตัว การทำลายวัตถุที่เกิดจากการหลอมรวมดวงวิญญาณจำนวนมากขนาดนั้น… ไม่น่าจะเป็นเรื่องง่าย”


ผู้ที่กำลังเดินเข้ามาใกล้คือเสือคราม


สวบ สวบ


ขณะเข้าใกล้ ร่างกายของเธอค่อยๆ เปลี่ยนจากมนุษย์เป็นเสือ


“ท่านยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะปลดปล่อยเทพเสือขาวกับมังกรครามอีกหรือ? โฮก… ข้าคิดว่าการถอดใจและยอมยกธงขาวไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไรนัก… ค่อนข้างพูดยาก… อาณาจักรคายาถูกเทพมังกรครามสาปแช่งให้มีน้ำแข็งปกคลุมตลอดทั้งปี ผู้คนจำนวนมากต้องล้มตายและหายตัวไป ในทางกลับกัน อาณาจักรปานั้นเป็นแค่อาณาจักรเล็กๆ ต่อให้ท่านช่วยปลดผลึกเทพสำเร็จ แต่ก็มีมนุษย์น้อยคนมากที่จะได้รับประโยชน์”


“…”


“กริด… ทวีปนี้สามารถเรียกได้ว่าสงบสุขแล้ว ถือแม้จะไม่เต็มปากนักก็ตาม… ต้องขอบคุณท่านที่ช่วยคืนชีพให้เทพฟีนิกซ์แดงและเทพเต่าดำ… นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด… โฮก…”


“การถูกครอบงำด้วยความกลัวไปตลอดชีวิต… เธอเรียกสิ่งนี้ว่าความสงบสุขได้จริงหรือ?”


ผู้คนในอาณาจักรโชและอาณาจักรชิงมิอาจข้ามเขตไปยังชายแดนของอีกสองอาณาจักร เพราะทันทีที่ออกจากการคุ้มครองของฟีนิกซ์แดงและเต่าดำ ทุกคนถูกชาวอาณาจักรฮวานจับกุมตัวและนำไปขังที่คายาหรือปา


โดยหลังจากนั้น ชาวบ้านจะถูกล้างสมองให้หลงลืมเทพโบราณที่คืนชีพมาแล้ว และถูกฝังความทรงจำใหม่ให้กลายเป็นหุ่นเชิดที่เอาแต่ยกย่องตำนานของยังบัน


“เหนือสิ่งอื่นใด… เธอต้องได้พบหน้าพ่อ”


“กริด…”


ดวงตากลมโตของเสือครามเริ่มเปียกชุ่ม


กริดเคาะหน้าผากอีกฝ่ายในจุดที่มีตัวอักษร ‘ราชา’ สลักอยู่


“ฉันแค่คิดจะทำในสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้… ในอนาคต พวกเธอจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระโดยแท้จริง… นั่นคือสาระสำคัญ”


หากใครสักคนคิดว่าตัวเองสามารถอยู่ค้ำฟ้าได้ตลอดกาล นั่นเป็นความคิดที่เย่อหยิ่งและจองหอง


ตราบใดที่ซาทิสฟายไม่มีจุดจบ ย่อมต้องมียุคสมัยที่ ‘ปราศจากกริด’ เกิดขึ้น


อย่างไรก็ตาม กริดมิได้กังวลหรือพยายามยืดเวลาของตัวเองออกไป เพียงแต่หวังให้การกระทำในปัจจุบันของตน ส่งผลให้เกิดอนาคตในเชิงบวกที่น่าจดจำ


ใครรู้? ในอนาคตอันใกล้ สมาชิกโอเวอร์เกียร์อาจแต่งงานกันและมีลูก โดยที่ลูกๆ ของพวกเขาเองก็เล่นซาทิสฟาย


เมื่อถึงตอนนั้น ตัวตนอย่างพ่อลูกเสือขาวและเสือครามจะเป็นกำลังสำคัญให้บรรดาทายาทรุ่นต่อไป


แน่นอน ชายหนุ่มมิได้หวังผลประโยชน์จากการช่วยเหลือผู้คน เพียงแต่หวังให้การกระทำในอนาคตของตัวเอง นำพาโลกนี้ไปสู่วังวนที่ผู้คนเต็มไปด้วยคุณธรรม


กริดเปิดปากพูด


“ขอฝากสิ่งนี้ไว้กับเธอสักพัก”


“นี่มัน…?”


“หัวใจของราชินีเยือกแข็ง… ฉันต้องออกเดินทางเพื่อไปสะสางบางสิ่ง คงน่าอายไม่น้อยถ้าเผลอทำมันหาย ได้โปรดปกป้องมันไว้สักสองสามชั่วโมง”


มีความเป็นไปได้อย่างมากกริดที่จะตายถ้าต่อสู้กับมีร์ การพกหัวใจราชินีเยือกแข็งไปเผชิญหน้ากับมีร์ถือเป็นความโง่เขลาที่ยากจะให้อภัย


เสือครามและเหล่าสัตว์จักรราศีมีพลังมากพอที่จะปกป้องหัวใจของราชินีเยือกแข็ง กลุ่มคนเหล่านี้ฟื้นฟูพลังบางส่วนจากตำนานจนแข็งในขึ้นมาในช่วงหลายปีหลัง


แถมที่นี่ยังห่างไกลจากอิทธิพลของอาณาจักรฮวาน


“โฮก… นี่มัน… เหมือนกับคำสาปของเทพมังกรคราม”


“ใช่… แต่ดูเหมือนจะไม่ส่วนเกี่ยวข้องกัน ราชินีเยือกแข็งคือผู้ปกครองดินแดนแห่งหนึ่งในทวีปตะวันตก และไม่เคยข้องเกี่ยวกับทวีปตะวันออก”


“อา…”


“ถ้าอย่างนั้น ฉันไปก่อนนะ”


กริดออกจากป่า


ทันทีที่พ้นจากเขตคุ้มครองของเทพโบราณ ชายหนุ่มพลันสัมผัสถึงสายตาจ้องมองที่ทรงพลัง


แต่ก็คงอยู่เพียงครู่เดียว


‘สระน้ำ’ ของอาณาจักรฮวานที่คอยเฝ้ามองผืนพิภพเบื้องล่าง ย่อมมิอาจติดตามการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและเร้นลับของกริดได้ตลอดรอดฝั่ง เว้นเสียแต่เทพจะคอยจับตามองด้วยตัวเอง


แน่นอน คนที่ทำหน้าที่เฝ้าคือยังบัน


กริดลอบเข้าสู่อาณาจักรคายาได้อย่างปลอดภัยโดยไร้อุปสรรค


แต่ทันใดนั้นเอง


[ดาบอันทรงพลังของอริยดาบได้ผ่าโลกออกเป็นสองซีก!!]


“…!”


ทัศนวิสัยของกริดพลันพลิกด้าน


ทะเลทรายที่ปลายเท้ากำลังเหยียบลงไปเริ่มทรุดตัว เม็ดทรายจำนวนมหาศาลค่อยๆ ตกลงไปในหน้าผาไร้ก้นบึ้งที่มืดมิด


[เทพธรณี คาริออน สำแดงพลัง]


[ทุกสรรพสิ่งไร้ชีวิตที่เคยถูกตัดแบ่ง สมานตัวกลับอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน]


“…”


ฉากตรงหน้าเป็นราวกับความฝัน


ผืนทะเลทรายอันกว้างไกลที่กำลังสั่นสะเทือนและพังทลายลงอย่างมิอาจควบคุม ค่อยๆ ถูกฟื้นฟูกลับมาดังเดิมอีกครั้ง


เมื่อเห็นข้อความโลกถัดไป กริดหัวเราะในลำคอ


[อริยดาบ ‘ครอเกล’ ทำการสังหารครึ่งเทพ]


‘ยังอยู่แถวนี้อีกหรือ?’


ถ้าครอเกลเอาแต่หมกตัวอยู่ในอาณาจักรคายาและหมั่นต่อสู้กับยังบันนับตั้งแต่ตอนนั้น…


นอกเหนือจากเลเวลตัวละคร มีโอกาสสูงมากที่ดาบเสือขาวจะพัฒนาจนใกล้จะถือเกรดมิธ และครอเกลอาจสร้าง ‘บารมีเทพ’ หลังจากเข่นฆ่าครึ่งเทพไปมากมาย


ความเครียดซึ่งจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่กริดนึกถึงศัตรูแข็งแกร่งในอนาคต เริ่มบรรเทาลงหลายส่วน จนกระทั่งกลายเป็นความโล่งใจ


ใช่แล้ว ครอเกลคืออีกหนึ่งมิตรสหายที่กริดไว้วางใจและพึ่งพาได้มากที่สุด


ขณะชายหนุ่มหวนนึกถึงท้องฟ้าเหนือท้องฟ้าที่ไม่มีวันเลือนหายไปไหน


ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!


“…?”


ความทรงจำเกี่ยวกับครอเกลพลันสลายไปจากหัวทันที


สีหน้ากริดกำลังแข็งทื่อ


นั่นเพราะร่างของชายคนหนึ่งซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่ากระเด็นมาจากไหน แถมยังเป็นร่างที่ชุ่มเลือดและเต็มไปด้วยบาดแผล กลิ้งหลายตลบไปบนผืนทรายก่อนจะหยุดลงตรงปลายเท้ากริด


ไม่ใช่ใครนอกจากครอเกล


“ค…ครอเกล?”


“…จำคนผิดแล้วครับ”


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,939
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00