จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,341



“แฮ่ก…”


ดูรันดัลถูกแรงข่มขวัญของกริดเล่นงานจนหายใจไม่ออก กว่าจะสูดลมหายใจเข้าอีกครั้งก็หลังจากทรุดไปบนพื้นแล้วสักพัก


‘เกิดอะไรขึ้น…’


สายเลือดซาฮารันคือตัวตนพิเศษ โดยเฉพาะดูรันดัลที่ครอบครองปราณสีชาดมาตั้งแต่เกิด หากเทียบกับองค์ชายคนอื่น มันอาจด้อยกว่าพอสมควร แต่ถ้านำไปเปรียบกับมนุษย์ธรรมดา องค์ชายอย่างมันย่อมเหนือกว่าหลายขุม


ดูรันดัลจึงคาดไม่ถึงว่าตนจะถูกข่มขวัญได้ง่ายดาย


‘เป็นแค่สายเลือดชั้นต่ำ… บังอาจทำกับเรา’


ดูรันดัลเคยได้ยินชื่อเสียงของกริดตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่มันไม่เคยยอมรับในฝีมือของอีกฝ่าย


ความสำเร็จของกริดมีมากมายเกินกว่าจะให้เชื่อว่า ทั้งหมดเกิดจากฝีมือของคนคนเดียวตามลำพัง


กริดต้องมีผู้ช่วยอยู่เบื้องหลังแน่ ดูรันดัลเชื่อเช่นนั้น ตัวกริดเป็นเพียงราชาเจ้าเล่ห์ที่รู้จักใช้คารมคมคาย ความสำเร็จทั้งหมดเกิดจากการหลอกใช้หรือเสียสละผู้คนไปเป็นจำนวนมาก


ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น จากสามัญชนกลายเป็นราชา


กริดเริ่มเส้นทางชีวิตในฐานะกบฏแผ่นดิน หักหลังราชวงศ์อีเทอนัลและช่วงชิงบัลลังก์มาครอบครอง นั่นคือเนื้อแท้ของราชาโอเวอร์เกียร์


ด้วยเหตุนี้ ดูรันดัลนึกเหยียดหยันกริดในใจมาตลอด


‘…หมอนั่นแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว?’


หลังจากตระหนักว่าฝีมือกริดเป็นของจริง องค์ชายดูรันดัลเงยหน้ามองแผ่นหลังชายหนุ่มอีกครั้ง


อันที่จริง หากต้องการประเมินว่าใครมีพรสวรรค์ ดูรันดัลมักไม่สนใจอุปนิสัยสักเท่าไร เพียงแต่ก่อนหน้านี้ มันอคติจนเอาแต่คิดว่ากริดประสบความสำเร็จด้วยคารม มิใช่ฝีมือ


‘ตัดสินใจแล้ว… เจ้านั่นต้องมารับใช้เรา!’


ดูรันดัลประทับใจฝีมือกริดมาก ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะนำตัวกริดมาเป็นบริวาร


มันไม่คิดจะใช้ ‘เทพสายฟ้า’ ไคล์หรือกองทัพอัศวินทมิฬเพื่อข่มขู่ให้กริดยอมสวามิภักดิ์ แต่หวังสร้างความประทับใจซึ่งหน้า


“เลซี่”


“ขอรับ องค์ชาย”


เมื่อไม่นานมานี้ เลซี่คืออัศวินทมิฬที่มีพัฒนาโดดเด่นกว่าใคร


ดูรันดัลออกคำสั่งกับเลซี่ที่ยืนอยู่ด้านนอกท้องพระโรง


“ไปหามาว่ากริดมีภรรยาและบุตรกี่คน”


เป็นคำถามที่ง่ายมากสำหรับผู้เล่น เลซี่ตอบได้ทันที


“ภรรยาหนึ่งคนและบุตรชายอีกหนึ่งคน”


“ไม่มีภรรยารองเลยหรือ?”


“ไม่ขอรับ….”


“มิได้ลุ่มหลงหญิงงามสินะ… หืม… ถ้าอย่างนั้นไปหามาว่ากริดมีทรัพย์สินเท่าไร”


“องค์ชายคิดจะซื้อใจกษัตริย์กริดด้วยเงิน?”


“ถูกต้อง วิธีนี้มักได้ผลเสมอ”


“เกรงว่า… กริดอาจร่ำรวยยิ่งกว่าองค์ชาย”


“…”


ดูรันดัลเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ในช่วงหลังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ทำกำไรได้มหาศาลแม้จะเป็นเพียงอาณาจักรเล็ก


เช่นนั้นแล้ว มันควรซื้อใจราชาที่ไม่สนนารีและเงินทองด้วยวิธีใด?


ขณะดูรันดัลไตร่ตรอง เลซี่แนะนำ


“ก่อนอื่น… ไปขอโทษเขาก่อนดีไหม?”


“ขอโทษ?”


“องค์ชายเพิ่งเสียมารยาทกับกษัตริย์กริดไม่ใช่หรือ? หากต้องการทำให้ใครสักคนพึงพอใจ สิ่งแรกคือการยอมรับความผิด”


เลซี่เสื่อมศรัทธาในตัวดูรันดัลมาตั้งแต่ต้น จึงเลือกอยู่ฝ่ายกริดนับตั้งแต่ทำภารกิจสำรวจคุกนรกด้วยกัน


ดูรันดัลย่อมคาดไม่ถึงว่า พฤติกรรมทั้งหมดของมันถูกเลซี่รายงานให้กริดทราบอย่างละเอียดทุกวัน


และนั่นคือเหตุผลที่ดูรันดัลยังมีชีวิตอยู่


ข้อมูลในมือทำให้กริดรู้ว่า ดูรันดัลตัดใจจากตำแหน่งจักรพรรดิไปนานแล้ว ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด มันก็มิอาจกระชากบาซาร่าลงจากบัลลังก์ที่ฮวนเดอร์มอบให้ได้


ดูรันดัลรวบรวมคนได้ไม่ถึงเป้า แถมยังขาดรากฐานที่มั่นคง สิ่งเดียวที่ทำได้คือการแสร้งเมามายและมีปากเสียงกับบริวารฝ่ายบาซาร่า หวังให้อีกฝ่ายหลงกลเข้าสักวัน


มันมีเทพสายฟ้าไคล์อยู่กับตัวไม่ใช่หรือ?


นั่นก็จริง แต่ถ้าดูรันดัลสั่งให้ไคล์ยึดวังหลวง ทหารจักรวรรดิจากทุกสารทิศจะล้อมกรอบและสำเร็จโทษมันในฐานะกบฏแผ่นดินทันที


อย่างไรก็ตาม เรื่องราวจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หากมันสามารถนำกริดมาเป็นพวกสำเร็จ


“เข้าใจแล้ว… ต้องขอโทษสินะ”


คำขอโทษ


ขณะเดินกลับวัง ดูรันดัลวางแผนในสิ่งที่มันไม่ทำมาก่อน


กลับถึงห้องพัก องค์ชายสองแห่งจักรวรรดิอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อขจัดกลิ่นเหล้าที่จงใจพรมลงบนตัวเอง


แต่เมื่อไปถึงภัตตาคารที่กริดกำลังกิน ร่างกายดูรันดัลพลันแข็งทื่อ


มันเห็นบาซาร่ากำลังยิ้มอย่างมีความสุขขณะร่วมโต๊ะกินข้าว


ความทรงจำเก่าเริ่มหวนกลับมาทีละนิด


ความทรงจำสมัยที่มันเคยเรียกเธอว่าท่านอา


บาซาร่ามักยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นนี้เสมอ


“…”


ดูรันดัลนึกทบทวนตัวเอง


ในวันที่มหาจักรพรรดิฮวนเดอร์สิ้นพระชนม์ ตนหลั่งน้ำตามากเท่ากับที่บาซาร่ากระทำหรือไม่?


มันจำไม่ได้แล้ว


ความทรงจำเดียวมีเพียงความเคียดแค้นและคำสาปแช่ง ดูรันดัลเกลียดชังบาซาร่าที่พรากบัลลังก์ไปจากตน


‘บ้าจริง…’


เหตุผลที่บาซาร่าไม่เชือดมันทิ้ง ไม่ขับไล่ออกจากจักรวรรดิ เพราะเธอยังคงมองว่าตนคือครอบครัว


ทำไมเราถึงลืมเรื่องแบบนี้ไปได้…


มันถูกความโลภครอบงำจนหน้ามืดตามัวมานานแค่ไหนแล้ว?


ถึงขั้นวางแผนทำร้ายคนในครอบครัวที่เป็นห่วงเป็นใย


“องค์ชายมาทำอะไรหรือ”


ขณะดูรันดัลกำลังยืนหน้าภัตตาคารและจ้องบาซาร่า อัศวินสวมเกราะสีแดงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาขวางทาง


อัศวินสีชาดส่วนพระองค์แสดงความหวาดระแวงโดยไม่ปิดบัง


ดูรันดัลกล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด หนนี้มิได้เสแสร้ง


“อยากเข้าไปทักทายฝ่าบาทสักหน่อย”


มันเพิ่งตระหนักว่า คนแรกที่ตนควรขอโทษคือบาซาร่า


แต่ทันใดนั้น เสียงระเบิดพลันสนั่นหวั่นไหวไปทั่วเมืองหลวง


ที่นี่คือไททัน


มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ณ ใจกลางเมืองหลวงของจักรวรรดิ?


เมื่อแรงสะเทือนจากแผ่นดินไหวทำให้ภัตตาคารหรูพังครืน เสียงกรีดร้องของผู้คนด้านในดังเล็ดลอดเป็นระยะ


“ฝ่าบาท!”


เหล่าอัศวินสีชาดที่ยังคงคลางแคลงในตัวดูรันดัล แผดเสียงตะโกนด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด พวกมันชื่อว่าดูรันดัลกำลังกระทำบางสิ่งเพื่อปองร้ายจักรพรรดินี


“ขอจับกุมตัวองค์ชาย! กรุณาอย่าขัดขืน!”


“ชิ!”


ดูรันดัลเมินเฉยเหล่าอัศวินที่เริ่มชักดาบและปลดปล่อยปราณสีชาด


องค์ชายสองรีบตรงไปทางบาซาร่า ก่อนจะใช้แผ่นหลังรับหินก้อนใหญ่ที่ตกจากเพดานจนเกือบกระแทกศีรษะจักรพรรดินี


“แค่ก… ท่านอาเป็นอะไรไหม?”


“ดูรันดัล?”


ดวงตาบาซาร่ากำลังสั่นเทาเนื่องจากยังไม่เข้าใจสถานการณ์


“ฝ่าบาท!”


กลุ่มอัศวินสีชาดที่สงสัยในตัวดูรันดัล วิ่งตามติดมาจากด้านหลัง


“…จอมอสูร”


กริดทราบสถานการณ์ได้ก่อนใคร


สายตาชำเลืองไปทางวังหลวงที่ไม่ห่างออกไปนัก


สัญลักษณ์ของจักรวรรดิที่เคยเปล่งแสงสีทองระยิบระยับ กำลังถูกกัดกร่อนด้วยพลังอสูรอันดำมืดและชั่วร้าย กริดยังเห็นไปถึงองค์ชายลำดับสาม เบนัวต์ ที่กำลังยืนโงนเงนด้านหลังม่านหมอกพลังอสูรเข้มข้น


“ดูรันดัล”


“ห…หือ?”


กริดเคยนึกสงสัยว่าทำไมคำสั่งเสียของฮวนเดอร์ ถึงขอร้องให้ตนอย่าทำร้ายบุตรชายทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น


จริงอยู่ องค์ชายลำดับหนึ่ง โรแลนด์ อาจเป็นคนอ่อนโยน เฉลียวฉลาด และช่วยแบ่งเบาภาระบาซาร่าในหลายด้าน แต่องค์ชายลำดับสองนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง มันปรารถนาบัลลังก์อย่างชัดเจน


เก็บคนแบบนี้ไว้เป็นเสี้ยนหนามจะดีหรือ?


เหนือสิ่งอื่นใด ดูรันดัลคือบุคคลอันตรายที่มีแนวคิดการปกครองเหมือนกับจักรพรรดิรุ่นก่อน ๆ


ดูรันดัลไม่พยายามทำความเข้าใจเผ่าพันธุ์นอกจักรวรรดิ คิดเพียงแต่จะใช้กำลังสยบ


กริดมิได้แยแสคำสั่งเสียของฮวนเดอร์ เหตุผลที่ปล่อยให้ดูรันดัลมีชีวิตต่อไปเพราะบาซาร่าต้องการเช่นนั้น


ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา กริดแอบติดต่อกับเลซี่และไคล์อย่างสม่ำเสมอ จนทราบถึงเหตุผลที่บาซาร่าพยายามปกป้องหลานของตน


ดูรันดัลมีเนื้อแท้เป็นคนอ่อนโยน อาจปรับปรุงตัวเองได้ในสักวัน


ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง


“ฝากดูแลเธอด้วย”


“ด…ได้”


ดูรันดัลพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า มันสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้


ความเชื่อใจที่บาซาร่ามอบให้ไม่สูญเปล่า


‘ทีนี้ก็เหลือแค่… จัดการกับเจ้านั่น’


สำหรับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เสถียรภาพและความมั่นคงของจักรวรรดิซาฮารันคือสิ่งจำเป็น และเพื่อรักษาความมั่นคงดังกล่าว พฤติกรรมอันตรายของเหล่าองค์ชายต้องถูกตีกรอบ เป็นเหตุให้เบนัวต์ถูกกักตัวภายในวังหลวง มิอาจเดินทางไปทั่วทวีปเพื่ออัญเชิญจอมอสูรได้อีก


“ทำไม… ทำไมจักรวรรดิแห่งนี้ถึงได้สงบสุขนัก! สุขสบายเหมือนกับคนที่ฆ่าท่านแม่ไม่มีผิด! ยอมไม่ได้! ข้าจะทำลายทุกสิ่งให้พินาศ!”


อาศัยชุนโป กริดมาถึงจุดที่มีพลังอสูรหนาแน่นในพริบตา แต่ชายหนุ่มต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงแหกปากขององค์ชายเบนัวต์


จักรพรรดินีแมรี่


ตัวการที่สร้างความวุ่นวายแก่จักรวรรดิด้วยการลอบวางยาพิษอดีตจักรพรรดินีอาเรีย ส่งผลให้ฮวนเดอร์ไม่มีกะจิตกะใจบริหารบ้านเมือง


ความเคียดแค้นและเกลียดชังขององค์ชายเบนัวต์ที่มีต่อแมรี่ เมื่อไม่รู้จะไประบายกับใคร มวลอารมณ์อันเข้มข้นพลันปะทุจนสติสัมปชัญญะเกิดบิดเบี้ยว คิดทำลายดินแดนที่ตนควรต้องปกป้อง ด้วยการอัญเชิญจอมอสูรตนหนึ่งขึ้นมายังโลกมนุษย์


“ฟ่อ! ฟ่อ! มองไปทางไหนก็มีแต่มนุษย์เต็มไปหมด! ยอดเยี่ยมมาก! ฟ่อ! มนุษย์ผู้อัญเชิญเอ๋ย หากเจ้าปรารถนาจะทำลายทุกสิ่ง ฟ่อ! ตัวข้า โบทิส ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ความต้องการนั้นเป็นจริง!”


[จอมอสูรลำดับ 17 โบทิส ขึ้นมายังโลกมนุษย์เพื่อหวังยึดครอง]


[พิษรุนแรงกำลังทำให้ทุกชีวิตในบริเวณใกล้เคียงหายใจไม่ออก]


อสรพิษที่หัวจรดหางปกคลุมด้วยเกล็ด มีแขนสองข้างเหมือนมนุษย์


โลกพลันสับสนอลหม่านทันทีที่จอมอสูรรูปโฉมประหลาด โบทิส ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับคำรามแพร่พิษร้ายไปทั่วบริเวณ


กลุ่มก้อนพลังอสูรเข้มข้นเริ่มกระจายตัว


“อ๊ากกกก!”


“อ…อึ๋ย!”


“บ้าบอสิ้นดี!”


ความโกลาหลพลันเกิดกับผู้คนนับล้านที่เป็นทั้งพลเมืองและนักท่องเที่ยว หายนะเข้าครอบงำทุกสิ่งในพริบตา คำสั่งจากผู้บังคับบัญชากลายเป็นสิ่งไร้ความหมาย กลุ่มทหารซึ่งมีหน้าที่ต้องปกป้องชาวเมือง กลับหวาดกลัวและเผ่นหนีไปก่อนใคร


ท่ามกลางความชุมนุมวุ่นวาย ชาวเมืองที่วิ่งหนีตายเริ่มเหยียบกันเองจนมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต บ้างกระชากคอเสื้อคนที่ขวางทางอย่างเดือดดาล ทุกคนพยายามทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองออกไปจากนรกแห่งนี้


สถานการณ์ของฝั่งผู้เล่นก็ไม่ต่าง


“ล็อกเอาต์ไม่ได้?”


“แม่งเอ้ย! หลีกทางสิวะ!”


ผู้เล่นยังคงไม่ลืมหายนะที่เกิดจากจอมอสูรลำดับ 19 ซาลอส ผู้สังหารกองทัพพันธมิตรและเข่นฆ่าแรงเกอร์ไปมากมาย


ไม่มีใครสามารถใจเย็นอยู่ได้เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนจากระบบ


เหนือสิ่งอื่นใด โบทิสมีลำดับสูงกว่าซาลอส


ทุกคนเผ่นหนีโดยไม่คิดชีวิต แต่ก็ไม่มีใครสมควรถูกตำหนิ


『บ้าน่า… จอมอสูรถูกอัญเชิญใจกลางจักรวรรดิ』


『หากจักรวรรดิได้รับความเสียหายหนัก สถานการณ์ของทวีปตะวันตกจะพลิกจากหน้าเป็นหลังมือทันที ราคาสินค้าของจักรวรรดิทุกชนิดจะแพงขึ้นหลายเท่า พวกลักลอบเข้าเมืองจะผันตัวไปเป็นโจร ระดับความปลอดภัยสาธารณะจะตกฮวบในชั่วข้ามคืน…』


สถานีทีวีจากแต่ละประเทศที่ได้ทราบข่าวด่วนภายในจักรวรรดิ ต่างพากันส่ายหน้าเมื่อเห็นประชาชนวิ่งหนีตายอลหม่าน ทุกคนทำได้เพียงภาวนาให้ความเสียหายไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง


แต่ทันใดนั้นเอง ฉากของมังกรผงาดที่ทะลวงผ่านหมอกอสูรสีดำทะมึนเหนือท้องฟ้าจักรวรรดิ ถูกถ่ายทอดสดไปยังทุกประเทศทั่วโลกโดยพร้อมเพรียง


ตัวจริงของมังกรซึ่งกลืนกินอสรพิษ ‘โบทิส’ ผู้สร้างความหวาดหวั่นแก่พลเมืองไททันนับล้านคน ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกริด


ผู้บรรยายในทีวีต่างตกตะลึงจนลุกพรวดจากเก้าอี้โดยไม่รู้ตัว


หลายฝ่ายต่างเชื่อว่า กริดลงมือเพื่อช่วยยื้อเวลาให้ทุกคนหนี


แต่ในความเป็นจริง ราชาโอเวอร์เกียร์กำลังทำในสิ่งที่อยู่นอกเหนือสามัญสำนึกของทุกคน ชายหนุ่มแข็งแกร่งพอจะรับมือจอมอสูรลำดับ 17 ตามลำพังโดยไม่ต้องให้ใครยื่นมือเข้าช่วย


ราวกับกำลังประกาศกึกก้องออกไปทั่วโลกว่า


ฉันจะปกป้องทุกคนเอง


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,810
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00