จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,347



[มหาโจรราตรีสีชาดสนใจในตัวท่าน กรุณาระวังค่ำคืนอันแดงฉาน]


นี่คือคำเตือนซึ่งกริดเห็นหลังจากเข้าไปในทางลับวังหลวงและได้รับพิมพ์เขียวพระราชวังจักรวรรดิ


ในตอนนั้น กริดไม่ได้ใส่ใจมากนัก มองว่าเป็นเพียงหัวขโมยที่เก่งกาจคนหนึ่งของทวีป การเข้าไปพัวพันคงไม่ใช่เรื่องดี


แต่ในภายหลัง เมื่อกริดไปเยือนหอแห่งปัญญาและได้รับคำเตือนจากลำดับสามของหอแห่งปัญญา ลาร์ดวูล์ฟ ชายหนุ่มเริ่มหวาดระแวงมหาโจรราตรีสีชาดมากขึ้น


“มหาโจรราตรีสีชาดลอบเข้ามาขโมยของในหอแห่งปัญญา?”


“ถูกต้อง”


“บ้าน่า… เขาเป็นเหนือมนุษย์?”


“ใช่ มันดำรงชีวิตมานานกว่าหกร้อยปี อายุขัยทัดเทียมพวกเรา เมื่อราวร้อยปีก่อน เจ้าบ้านั่นขโมยสร้อยคอเนอวาร์ธานที่ซ่อนอยู่ในหอคอย”


มหาโจรราตรีสีชาดสามารถมองเห็นร่างจริงของหอแห่งปัญญาซึ่งเต็มไปด้วยเวทอำพราง แถมยังลอบเข้ามาด้านในโดยไม่มีใครรู้ตัว


ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บุคคลซึ่งมีฝีมือระดับนี้ต้องเก่งกาจเหนือคำบรรยาย อาจเป็นหนึ่งในตัวตนทรงพลังของยุคสมัยปัจจุบัน


แต่ดันปรากฏตัวในสถานการณ์คับขันเสียได้…


“หีบสมบัติถูกเปิดแล้วสินะ… คึคึก”


บุรุษผู้หนึ่งปรากฏตัวใจกลางท้องพระโรง


ภายนอกดูเหมือนชายชราทั่วไป ผิวพรรณเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยรอยกระดำกระด่าง หลังค่อมจนอยากจะยื่นไม้เท้าให้ใช้


ขณะชายชราใช้มือไพล่หลัง สายตาของบรรดาขุนนางต่างชำเลืองมาทางกริดอย่างพร้อมเพรียง ประหนึ่งทุกคนกำลังสงสัยว่า นี่ก็เป็นของคนอาณาจักรโอเวอร์เกียร์หรือ?


บาซาร่าตะโกนออกคำสั่ง


“ล้อมไว้!”


“…!”


เหล่าอัศวินพลันสะดุ้งเมื่อได้ยิน ก่อนจะรีบกรูเข้าไปล้อมชายชราแปลกหน้าไว้ทุกทิศ


ชายชราหันไปมองบาซาร่า


“ต้อนรับแขกกันแบบนี้หรือ”


“จักรวรรดิไม่มีนโยบายต้อนรับหัวขโมยเยี่ยงแขก”


ใช่แล้ว บาซาร่าผู้ดำรงตำแหน่งจักรพรรดินี ย่อมทราบตัวจริงของชายชราได้ทันทีจากสถานะตัวตน


“มหาโจรราตรีสีชาด”


“…!”


“…!”


ดวงตาเหล่าขุนนางพลันเบิกโพลง


อัศวินซึ่งกำลังรายล้อมต่างรีบชักดาบ


“ปลดปล่อยออร่า!”


อัศวินคนหนึ่งตะโกน


อีกหลายคนนำเชือกออกมาเตรียมจับกุมคนร้าย


แม้บรรยากาศภายในท้องพระโรงจะกำลังตึงเครียดสุดขีด แต่สีหน้าชายชรากลับไม่แปรเปลี่ยน มิได้แสดงความกังวลในฐานะผู้ถูกล้อมจับ นับเป็นภาพที่สร้างความระคายเคืองต่อศักดิ์ศรีของอัศวินสีชาดไม่น้อย


“จับมันไว้!”


ในวินาทีที่อัศวินลำดับสิบสามออกคำสั่ง เปลือกตาอันหย่อนยานของชายชราพลันเปล่งแสงประหลาด


“อ๊ะ…?”


“…?!”


หน่วยอัศวินสีชาดพลันถูกมัดแน่น


สิ่งที่น่าตกใจก็คือ เชือกป่านซึ่งกำลังพันธนาการทุกคน คือเชือกที่เคยอยู่ในมือพวกมันเมื่อครู่


เมื่อเริ่มตามสถานการณ์ไม่ทัน บรรดาอัศวินต่างเผยสีหน้าสับสน ชายชราตบบ่าหนึ่งในอัศวินผู้ถูกมัดพลางหันไปกล่าวกับบาซาร่า


“เอาล่ะ… ข้าขอหยิบสิ่งที่คู่ควรติดมือกลับไปสักชิ้นก็แล้วกัน อย่าได้คิดทำอะไรพิเรนทร์… แค่จับตาดูก็พอ”


กึก


ขณะชายชราเตรียมเดินออกจากท้องพระโรง ฝีเท้าของมันพลันชะงัก


ชายคนหนึ่งกำลังยืนขวางทาง


เมื่อเห็นมงกุฎเงินบนศีรษะ ชายชราเริ่มให้ความสนใจ


“พิจารณาจากสมบัติบนร่างกาย… เจ้าคงเป็นราชาโอเวอร์เกียร์ที่เขาร่ำลือกันสินะ”


“ในฐานะรุ่นน้อง เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่รุ่นพี่เคยได้ยินชื่อ”


“รุ่นน้อง? ฮะฮะ! ข้าจำไม่ได้เคยมีรุ่นน้องแบบเจ้า”


แต่ไหนแต่ไร มหาโจรราตรีสีชาดมักสนใจเพียงสิ่งของ มิใช่ผู้คน


มันอาจเป็นเหนือมนุษย์ซึ่งเก่งกาจถึงขนาดเคลื่อนไหวจนอัศวินสีชาดมองตามไม่ทัน แต่ ‘วิสัยทัศน์’ ของมันยังด้อยกว่าไคล์พอสมควร ไม่ทันได้ตระหนักว่ากริดเองก็เป็นเหนือมนุษย์เหมือนตน


แต่ถึงจะทราบ ท่าทีก็คงไม่เปลี่ยนไปสักเท่าไรกระมัง?


มหาโจรราตรีสีชาดไม่น่าจะใช่พวกชอบผูกมิตรกับคนอื่น…


ทันใดนั้น ชายชราเข้าสู่ภาวะ ‘โลกของเหนือมนุษย์ที่แท้จริง’ อีกครั้ง


ฉากรอบตัวเคลื่อนไหวช้าลงสิบเท่า หนึ่งวินาทีกลายเป็นสิบวินาที ประสาทสัมผัสทุกด้านถูกยกระดับจนถึงขีดสุด


ขณะมันเดินผ่านกริด


ไม่สิ พยายามจะเดินผ่าน


“…”


เป็นครั้งแรกอย่างแท้จริงที่มหาโจรราตรีสีชาดชักสีหน้า


เมื่อเห็นกริดขยับตัวขวางทางอย่างเหนือความคาดหมาย มันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม


“เคยคิดว่าเป็นแค่ห่านทองคำ… ที่แท้คือสัตว์ร้ายซ่อนเขี้ยว”


ห่านทองคำจะออกไข่เป็นทองคำ


ถูกต้อง เหตุผลที่มหาโจรราตรีสีชาดไม่ปล้นกริดหลังจากได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับความร่ำรวย เพราะมันอยากให้กริดสะสมของมีค่าเพิ่มอีกหลายชิ้น จากนั้นค่อยปล้นรวดเดียวจนสาแก่ใจ


เหยื่อจะระวังตัวมากขึ้นหลังจากถูกปล้นไปแล้วหนหนึ่ง การลงมือครั้งแรกจึงต้องมั่นใจว่าจะคุ้มค่า


แต่กลับกลายเป็น กริดมิใช่ห่านทองคำที่รอถูกเชือด


“จากข้อมูลของข้า เจ้ายังมีอายุไม่ถึงร้อยปี เหตุใดถึงกลายเป็นเหนือมนุษย์เร็วนัก?”


แตกต่างจากตำนานซึ่งเกิดจากการสั่งสมความสำเร็จ เหนือมนุษย์เกิดจากการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงและยาวนาน


นอกจากนั้น การจะเข้าสู่ ‘โลกแห่งเหนือมนุษย์ที่แท้จริง’ จำเป็นต้องยกระดับตัวตนจากเหนือมนุษย์ปรกติอีกหลายขั้น


ด้วยความสัตย์จริง มหาโจรราตรีสีชาดกำลังทึ่ง


“น่าสนใจดีนี่… ไม่เคยได้ยินว่ามีเหนือมนุษย์อายุน้อยขนาดนี้มาก่อน”


“ผมก็แค่โชคดี”


โชคดีที่ได้เป็นผู้สืบทอดแพ็กม่า


ในอดีต กริดเคยเกลียดความคิดในทำนองว่า ‘พวกตนและไฮแรงเกอร์ก็แค่โชคดีกว่าคนอื่น’


แต่สำหรับปัจจุบัน ข้อความดังกล่าวมีส่วนจริงอยู่ไม่น้อย


บนโลกนี้มีคนมากมายที่แม้จะพยายามอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้รับผลตอบแทนใดกลับมาเลย


คำว่า ‘โชคดี’ จึงนับว่าถูกต้องแล้ว


โชคดีที่ความพยายามของตนมอบผลลัพธ์ตามครรลอง


“โฮ่…”


มหาโจรราตรีสีชาดเผยความสนใจชัดเจน


แต่ไหนแต่ไร เหนือมนุษย์ล้วนหยิ่งผยอง ปลายจมูกแต่ละคนล้วนเชิดสูงเสียดท้องฟ้า กริดผู้ถ่อมจนจึงน่าสนใจในสายตาชายชรา


“แล้วทำไมถึงขวางทางข้า?”


ไม่ทันสิ้นเสียงคำถาม เสาลำแสงหลายร้อยต้นพลันสาดส่องลงมาจากด้านบน ทุกครั้งเมื่อสิ้นแสง ร่างหนึ่งจะปรากฏกายภายในท้องพระโรง


ไม่ว่าจะปิอาโร่ อัศวินโอเวอร์เกียร์ ขุนพลโอเวอร์เกียร์ หรือแม้กระทั่งมหาจอมเวทในตำนานบราฮัม ทุกคนถูกส่งมาถึงจักรวรรดิอย่างปลอดภัย


มหาโจรราตรีสีชาดพลันเย็นไปถึงสันหลัง


ถึงจะมีสายตามองคนด้อยกว่าเหนือมนุษย์ปรกติ แต่เหนือมนุษย์ก็ยังเป็นเหนือมนุษย์ ไม่มีทางมองไม่เห็นละอองพลังเวทของบราฮัม


และไม่ใช่แค่บราฮัม แต่รวมไปถึงตำนานอีกหลายคน


ฉากการปรากฏกายของบุคคลทรงพลังหลายสิบในพริบตา แม้แต่มหาโจรผู้มีอายุหลายร้อยปีก็ยังหวาดหวั่น


กริดซึ่งมีพวกพ้องกำลังรอรับคำสั่ง กล่าวกับมหาโจรอย่างสุภาพ


“คงทราบอยู่แล้วใช่ไหม… ด้านนอกมีจอมอสูรที่แข็งแกร่งอยู่ พวกมันคือศัตรูของมวลมนุษย์ ผมต้องการให้คุณช่วยพวกเราสู้”


“…”


แล้วทำไมต้องช่วย?


มันคือหมาป่าเดียวดาย และจะเป็นเช่นนั้นต่อไป - นี่คือความคิดจากก้นบึ้งของมหาโจรราตรีสีชาด คำชักชวนของกริดจึงฟังดูเหลวไหล


แต่ภายใต้แรงกดดันจากบราฮัม ปิอาโร่ เมอร์เซเดส เฟคเกอร์ จิสึกะ และยูเฟอมิน่า มหาโจรราตรีสีชาดอดไม่ได้ที่จะลังเล


มันเริ่มสนใจกริด


ชายหนุ่มตรงหน้ามีบริวารมากมายซึ่งแต่ละคนสามารถจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ได้ไม่ยาก นี่อาจเป็นครั้งแรกที่มันกำลังสนใจตัวบุคคลมากกว่าทรัพย์สมบัติ


นอกจากนั้น ตัวมันซึ่งมองกริดเป็นห่านทองคำมาตลอด ย่อมไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ขุ่นมัวกับชายหนุ่ม


‘เหนือสิ่งอื่นใด… จอมอสูรที่ปรากฏตัวคราวนี้…’


พิจารณาจากระดับความเกลียดชัง มีโอกาสมากที่จะเป็นจอมอสูรแห่งคำสาป ดราเชี่ยน หากปล่อยให้ดราเชี่ยนเพ่นพ่านบนผืนทวีป สวรรค์และนรกอาจยื่นมือเข้ามาแทรกแซง


‘…นั่นจะทำให้ดินแดนแห่งนี้ถูกทำลาย’


มหาโจรราตรีสีชาดไม่ต้องการให้โลกถูกทำลาย


ตัวมันซึ่งหลงใหลในการขโมยสมบัติ ย่อมปรารถนาให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ดำรงอยู่ต่อไปอีกตราบนานเท่านาน จะได้ผลิตสมบัติล้ำค่าออกมาให้ตนช่วงชิงอย่างไม่ขาดมือ


มหาโจรราตรีสีชาดครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะพยักหน้า


“ตกลง จะยอมช่วยนิดหน่อยก็ได้”


“…!”


บาซาร่าพลันเคลือบแคลงในสิ่งที่ได้ยิน


เธอไม่อยากจะเชื่อว่า มหาโจรราตรีสีชาดซึ่งมีแต่ชื่อเสียงในทางลบมาตลอด สุดท้ายจะกลับใจยอมต่อสู้เพื่อมวลมนุษย์


“แต่มีข้อแม้… ไม่ว่าพวกเราจะปราบจอมอสูรสำเร็จหรือไม่ เจ้าต้องมอบสมบัติให้ข้าสามชิ้น”


“สมบัติแบบไหน?”


“ไว้ค่อยคิดทีหลัง”


“ตกลง”


กริดไม่ลังเลแม้แต่น้อย


ถึงมหาโจรราตรีสีชาดจะบอกให้ตนยกดาบมังกรเพลิง กริดก็เชื่อว่าตนสามารถสร้างไอเท็มชิ้นใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้ (ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายก็ตาม) แต่สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใด นี่คือโอกาสแสนหายากสำหรับสร้างความสัมพันธ์กับมหาโจรราตรีสีชาด


‘การพบเขาไม่ใช่เรื่องง่าย’


ไม่ใช่แค่นั้น มหาโจรราตรีสีชาดสามารถลอบเข้าไปในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์และขโมยสมบัติได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว ในเมื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียสมบัติไม่ได้ อย่างน้อยก็ใช้แลกมิตรภาพก็ยังดี


กริดไตร่ตรองก่อนจะตัดสินใจ


และนั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูก


“ได้ยินแบบนี้ค่อยชื่นใจ”


[ค่าความสัมพันธ์กับมหาโจรราตรีสีชาดเพิ่มขึ้น 1 หน่วย]


จากบรรดา NPC พิเศษระดับสูง บางที มหาโจรราตรีสีชาดอาจมีเงื่อนไขปรากฏตัวซับซ้อนที่สุด และถึงจะปรากฏตัว ผู้เล่นก็แทบไม่มีโอกาสได้พบหน้า เพราะสมบัติจะถูกขโมยไปก่อนจะได้รู้ตัว


แต่กริดกลับได้พบมหาโจรราตรีสีชาดโดยตรง แถมยังเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับหนึ่งในบุคคลซึ่งน่าจะทรงพลังที่สุดสำเร็จ


“ปลาใหญ่กินเบ็ดแล้ว”


บราฮัมพึมพำขณะเฝ้ามองเหตุการณ์


มหาจอมเวทในตำนานเห็นด้วยกับการตัดสินใจของกริด


สิ่งนี้หมายความว่า บราฮัมก็ยอมรับในฝีมือของมหาโจรราตรีสีชาด


“ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิเชิญรับบัญชา!”


ถัดมาไม่นาน เหล่าอัจฉริยะของจักรวรรดิต่างถูกอัญเชิญเข้ามาในท้องพระโรงอย่างพร้อมเพรียง


นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบทีที่เหล่าอัศวินหลักเดียวซึ่งกุมอำนาจบัญชาการกองทัพชายแดน ถูกเรียกตัวกลับมาร่วมสงครามพร้อมหน้า


“ลุยกันเลย”


กริดเดินนำด้านหน้าสุด


ทีมล่าดราเชี่ยนประกอบไปด้วยขุนพลโอเวอร์เกียร์ ขุนพลจักรวรรดิ และมหาโจรราตรีสีชาด นับเป็นการรวมตัวที่ค่อนข้างแปลกตาและขัดแย้งในเชิงความรู้สึก


แต่เชื่อเถอะ นี่คือกองทัพมนุษย์ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา


***


ณ แอสการ์ด


เหล่าทวยเทพกำลังชุมนุมเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี


เหตุเพราะเทวทูตตนหนึ่งกำลังจะตื่นจากการหลับใหลอันยาวนาน


เทพสงคราม เซราทุล เสนอแนะกับทุกคน


“คราวนี้พวกเราต้องลงมือเอง… ไม่อย่างนั้น หากปล่อยให้เจ้านั่นถูกมนุษย์จัดการจนความลับของเราเกิดรั่วไหล ชื่อเสียงและความน่าเกรงขามที่สั่งสมมาคงถึงคราวพังพินาศ”


ไม่มีเทพตนใดคัดค้านข้อเสนอของเซราทุล


กระทั่งเทพตีเหล็ก เฮ็กเซเทีย ก็ปิดปากเงียบ


เพื่อความปลอดภัยของกริด ดราเชี่ยนต้องถูกกำจัดโดยเร็ว…


เซราทุลลุกจากบัลลังก์


“ข้าจะส่งสาวกบนทวีปตะวันตกเข้าไปในเวิ้งนรก”


______________

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,821

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00