จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,210



<ปกป้องเทพเต่าดำ>

★ภารกิจลับ★

บุคคลนิรนามได้ประกอบพิธีกรรมคืนชีพให้กับเทพเต่าดำขณะอีโก้ถูกแบ่งออกเป็นสอง

ส่งผลให้เทพเต่าดำแยกออกเป็น ‘เต่าดำมรณะ’ และ ‘เต่าดำวารี’

จงพาเต่าดำมรณะไปรวมตัวกับเต่าดำวารี

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : การรวมตัวระหว่างเต่าดำมรณะและเต่าดำวารี

รางวัลภารกิจ :

- กระดองเต่าดำ

- ความสัมพันธ์กับเต่าดำกลายเป็นค่าสูงสุด

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว :

- เต่าดำจะสูญเสียบารมีเทพอย่างมาก

- ถือกำเนิดเนื้อเรื่องบทใหม่ <ซอบยอล ราชันดารา>

★ เนื้อเรื่องของซอบยอล ราชันดารา จะปลุกตำนานลวงของทวีปตะวันออกกลับมาอีกครั้ง


‘อะไรคือ ซอบยอล ราชันดารา?’


กริดไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน


แต่ถ้าพิจารณาจากเนื้อหา ก็คงเป็นหนึ่งในห้าอาวุโสกระมัง…


ในทางกลับกัน ค่อนข้างแน่ชัดแล้วใครคือบุคคลนิรนามผู้ประกอบพิธีกรรมคืนชีพ


ฮวางกิลดง เจ้าของแผ่นขโมยอัญมณีเต่าดำ


ซ่า—!


สายฝนเม็ดใสทวีความหนาแน่นและชุ่มชื้น


[ผลของ <เทพเต่าดำพิทักษ์> ช่วยอวยพรแก่ทุกชีวิตบนดินแดนภาคเหนือ!]


[เลเวลและความสามารถของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนดินแดนภาคเหนือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย!]


[สัตว์เทพซึ่งเคยถูกทำให้อ่อนแอ ฟื้นฟูพลังกลับคืนมาเล็กน้อย!]


[เทวตำนานปลอมถูกลบเลือนไปบางส่วน!]


[พลเมืองส่วนน้อยของดินแดนภาคเหนือกลายเป็นศัตรูกับอาณาจักรฮวาน!]


[พลเมืองอาณาจักรโชยินดีปรีดาเมื่อทราบข่าวการคืนชีพของเทพเต่าดำ!]


สำหรับกริด ข้อความข้างต้นไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยสักนิด


ย้อนกลับไปขณะเทพฟินิกซ์แดงคืนชีพสำเร็จ เลเวลและความสามารถของทุกชีวิตในดินแดนภาคใต้นั้นเพิ่มขึ้น ‘อย่างมาก’


สัตว์เทพซึ่งถูกทำให้อ่อนแอ ต่างฟื้นฟูพลังกลับคืนมาอย่าง ‘เต็มเปี่ยม’


เทวตำนานลวง ‘ทั้งหมด’ ถูกทำลาย และพลเมืองดินแดนภาคใต้ ‘ทุกคน’ เป็นศัตรูกับอาณาจักรฮวาน


เมื่อนำไปเปรียบกับเอฟเฟคขณะฟินิกซ์แดงคืนชีพ จะเห็นได้ว่า การคืนชีพของเต่าดำสร้างผลลัพธ์ได้เพียงครึ่งเดียว


‘ล้อเล่นกันรึไง…’


กริดขมวดคิ้วเมื่อตระหนักถึงความย่ำแย่ของสถานการณ์ แต่มันไม่คิดตำหนิฮวางกิลดง


หากฮวางกิลดงไม่วางแผนขโมยอัญมณี กริดกับเหล่าไฮแรงเกอร์ก็คงเสียชีวิตกันหมดแล้ว และการคืนชีพเต่าดำก็คงไม่เกิดขึ้น


ถูกต้อง เมื่อลองพิจารณาให้ดี ฮวางกิลดงนั้นเข้าข่ายผู้มีพระคุณ


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ค่อนข้างน่าเศร้าเพราะอีกฝ่ายเลือกเวลาในการคืนชีพผิดไป


อุบัติเหตุ?


‘หรือว่า… ตั้งใจให้เป็นแบบนี้?’


กริดหวนนึกถึงคำพูดของชิลชอน


กลุ่มฮวัลบินดังไม่เพียงทราบความลับของโลกมากมาย แต่ยังทราบด้วยว่า เทพฟินิกซ์แดงได้คืนชีพอย่างสมบูรณ์แล้วในภาคใต้ และยังทราบไปถึงตำแหน่งจริงของอัญมณีเทพเต่าดำ


หมายความว่า ฝ่ายฮวัลบินดังมีข้อมูลมากกว่ากริด


‘ฮวางกิลดงไม่จะน่าพลาดรายละเอียดเล็กน้อยจนทำให้เกิดสถานการณ์ปัจจุบัน’


ย้อนกลับไปขณะฮวางกิลดงเริ่มเข้าสู่สนามรบเป็นครั้งแรก


แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย กับการไม่ตระหนักถึงเทพเต่าดำมรณะตัวใหญ่ ซึ่งกำลังออกอาละวาดจนเมืองเฉาจื่อเกือบพังพินาศ


‘เขารู้อยู่แล้วว่าอีโก้ของเต่าดำจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังประกอบพิธีกรรมคืนชีพ’


ชักไม่ชอบมาพากล…


บางที จุดประสงค์ในการคืนชีพเทพผู้พิทักษ์ของเรา อาจไม่ตรงกับจุดประสงค์ในการคืนชีพของฮวางกิลดง


ขณะชายหนุ่มทำหน้าอึมครึมพร้อมกับใช้มือฝ่ามือลูบหน้า บูบัตเดินเข้ามาใกล้


“กริด ภารกิจของนายล้มเหลวหรือ ทำไมถึงทำหน้าไม่มีความสุขเช่นนั้น”


เมื่อได้ยินเสียงบูบัต กริดหันไปมอง และเห็นเหล่าไฮแรงเกอร์ทุกคนกำลังยิ้มแย้มแจ่มใส


พวกเขาคงไม่ทราบว่า เทพเต่าดำถูกคืนชีพอย่างไม่สมบูรณ์ จึงกำลังมีความสุขหลังจากได้รับรางวัลภารกิจตัวเอง


กริดไม่อยากทำลายบรรยากาศชื่นมื่น


มันเผยรอยยิ้ม


“เล่าภารกิจของพวกนายให้ฟังหน่อย”


“ในตอนแรก มันคือภารกิจปกป้องหนึ่งในเทพผู้พิทักษ์ แต่หลังจากเต่าตัวนั้น… เอ่อ หลังจากเทพเต่าดำปรากฏตัวและเริ่มอาละวาด เนื้อหาภารกิจได้เปลี่ยนไป กลายเป็นภารกิจแก้แค้นยังบันแทน… ต้องขอบคุณนายจริง ๆ พวกเราทุกคนจึงประสบความสำเร็จ”


บูบัตกล่าวพลางเปิดหน้าต่างแรงกิ้งและกวาดสายตาหาชื่อตัวเอง


อันดับของมันกระโดดรวดเดียว 31 ขั้น


“ขอบคุณมาก”


บูบัตและไฮแรงเกอร์ก้มศีรษะอย่างนอบน้อม


เหล่าผู้เล่นมืออาชีพซึ่งมีอันดับยอดพีระมิด 0.00005% บนสุดของโลก ผู้ได้ชื่อว่าทระนงตนและหวงแหนในศักดิ์ศรี กำลังโค้งคำนับกริดจากก้นบึ้งหัวใจ


“…ทางนี้ก็ต้องขอบคุณเช่นกัน”


กริดเกาแก้มพลางผงกหัวรับอย่างเคอะเขิน


แต่สิ่งนี้มาจากใจจริง


ถ้าไม่มีเหล่าไฮแรงเกอร์ กริดคงไม่สามารถเอาชนะศึกนี้ได้ตามลำพัง


แตกต่างจากบูบัต บองเดรเริ่มซักไซ้กริด


“กริด นายอย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่อง ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ภารกิจของนายมีข้อผิดพลาดตรงไหน ทำไมถึงทำหน้าเหมือนกับกำลังอมขี้หมา!”


เป็นเพราะอีกฝ่ายส่งกระแสจิตคุยกับกริดโดยตรง จึงไม่มีใครได้ยินเสียงของเต่าดำเมื่อครู่


ลงเอยด้วย ไม่มีใครทราบว่า ฮวางกิลดงคือผู้ทำให้เกิดสถานการณ์ไม่คาดฝันขึ้น


ตรงข้ามกับความดีใจหลังจากเทพเต่าดำคืนชีพและอวยพรทุกชีวิตบนดินแดนภาคเหนือ บองเดรสนใจความเคร่งเครียดของกริดมากกว่า


“ความจริงแล้ว…”


กริดถอนหายใจสั้นหนึ่งคำ ตามด้วยการอธิบายสถานการณ์อย่างละเอียด


จนกระทั่งสีหน้าของไฮแรงเกอร์เริ่มอึมครึม


“ฮวางกิลดง… ฉันคิดว่าการหาตัวชายคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย”


ทวีปตะวันออกจะมีคำกล่าวติดปากหนึ่งว่า ‘ว่องไวปานภูตผี’ และนั่นหมายถึงฮวางกิลดง


มันไม่ชอบพบปะผู้คน ไม่เข้าสังคม


นอกจากนี้ ฮวางกิลดงยังเป็นหัวหน้ากลุ่มฮวัลบินดัง—ศัตรูของอาณาจักรฮวาน การเสี่ยงปรากฏตัวออกมาให้โดนจับจึงไม่ใช่เรื่องฉลาดนัก


อาจฟังดูเหมือนคนเป็นคนง่าย ๆ แต่ความจริงแล้ว การจะออกมาพบใครแต่ละครั้ง ต้องเป็นสิ่งสำคัญในแผนการเท่านั้น


“กริด ถ้าฮวางกิลดงตั้งใจซ่อนเต่าดำวารี นายคงได้ปวดหัวแน่ และภารกิจคงเป็นได้เพียงความฝัน”


“ขอเห็นต่าง กริดเป็นคนน่าเชื่อถือ หากอธิบายไปว่า เทพเต่าดำต้องรวมตัวกันเป็นหนึ่ง มิฉะนั้นโลกจะตกอยู่ในอันตราย ฉันเชื่อว่าฮวางกิลดงคงยอมร่วมมือ”


“แต่ก่อนอื่น พวกเราต้องหาทางติดต่อกับฮวางกิลดงให้ได้เสียก่อน ไม่อย่างนั้น การรวมตัวจะไม่มีวันเกิดขึ้น…”


ขณะไฮแรงเกอร์กำลังยืนถกเถียงและเสนอความเห็นของตัวเอง สายตาทุกคู่พลันจ้องไปทางเฒ่าดาบมารอย่างพร้อมเพรียง


เฒ่าดาบมาร ผู้เคยเป็นพวกพ้องฮวางกิลดงจนถึงหนึ่งชั่วโมงก่อน ย่อมต้องมีวิธีติดต่อกับอีกฝ่ายบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงการโน้มน้าวให้ออกมาพบกับกริด


“…เลิกคิดไปได้เลย”


ได้ยินเช่นนั้น บรรดาผู้ตั้งตารอคำตอบต่างพากันส่ายหน้าผิดหวัง


แต่หลังจากลองมองย้อนกลับไป ฮวางกิลดงได้ทิ้งเฒ่าดาบมารและหนีไปอย่างเลือดเย็น เหล่าไฮแรงเกอร์จึงเริ่มตระหนักว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคงมิได้สนิทสนมกันมากนัก


กริดเองก็มิได้คาดหวัง


เฒ่าดาบมารหัวเราะแห้งอย่างเขินอาย


“จริงอยู่ แม้แต่ฉันก็ยังพบตัวฮวางกิลดงได้ไม่ง่าย ลืมเรื่องการโน้มน้าวไปได้เลย แต่พวกนายรู้อะไรไหม… ฉันเคยทำงานร่วมกับฮวางกิลดงเกินสิบครั้ง และรู้จักนิสัยของเจ้านั่นเป็นอย่างดี”


“…?”


“ท่านท้องฟ้า เชื่อฉัน ฮวางกิลดงต้องกำลังรออยู่บนยอดเขาแบ็กมีแน่”


“…!”


กริดไม่รีรอ มันรีบอัญเชิญโอเวอร์เกียร์คอร์นออกมาและปืนขึ้นไปขี่


“โฮ่…!”


เสียงอุทานดังแซ่ซ้อง ทุกคนต่างชื่นชมรูปโฉมอันงดงามของยูนิคอร์นสุดหายาก


จนกระทั่ง


“โอเวอร์เกียร์คอร์น แกได้พักผ่อนเพียงพอแล้วใช่ไหม”


“…”


เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกว่าโอเวอร์เกียร์คอร์น บรรดาไฮแรงเกอร์ต่างเผยสีหน้าดำมืด


รสนิยมการตั้งชื่อของกริดในอดีต ได้ทำให้เกียร์ติของยูนิคอร์นอันเลอค่าต้องมัวหมอง


“กริด ฉันจะไปกับนายด้วย”


“ฉันด้วย!”


“ฉันด้วยสิ”


กลุ่มไฮแรงเกอร์ต่างเดินมายืนล้อมกริดเพื่อเสนอตัว สีหน้าของทุกคนเปี่ยมด้วยความกระตือรือร้น โดยเฉพาะบูบัต ผู้แสดงความปรารถนามากกว่าใคร


กริดส่ายหน้า


“ไม่เป็นไร การจะเข้าใกล้ฮวางกิลดงได้ ฉันคิดว่าไปคนเดียวคงจะเหมาะสมกว่า ไม่อย่างนั้นจะมัวแต่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน”


ไม่มีอันตรายใดต้องกังวล


กริดจ้องเข้าไปในตาไฮแรงเกอร์ทุกคน รวมถึงบูบัตและบองเดร พลางเผยรอยยิ้มเป็นกันเอง


“ขอบคุณทุกคน… จากหัวใจ”


“กริด…”


“ขอตัวก่อน ทุกคนเองก็ด้วย พวกนายคงมีอะไรให้ต้องไปจัดการ พวกเราต่างก็ยุ่งกันหมด”


ขณะกริดอุ้มเต่าดำมรณะด้วยมือข้างหนึ่งและสั่งให้โอเวอร์เกียร์คอร์นออกวิ่ง


“กริด! ถ้านายมีปัญหาอะไรในอนาคต และไม่สะดวกจะออกหน้าในนามโอเวอร์เกียร์ สามารถติดต่อพวกเราได้ทุกเมื่อ! ถึงจะไม่แข็งแกร่งเท่าลูกน้องของนาย แต่สมาชิกของพวกเราทุกคนล้วนอยู่ในระดับสูง มีการคัดเลือกคนมาอย่างดี ทุกคนเต็มใจช่วยนาย!”


โอเวอร์เกียร์คอร์นวิ่งเหยาะ ๆ โดยมีเสียงตะโกนจากกลุ่มไฮแรงเกอร์ดังไล่หลัง


กริดหันไปโบกมืออำลา จนกระทั่งพวกเขากลายเป็นจุดเล็ก ๆ และหายไปจากการมองเห็น


“ทุกคนแข็งแกร่งขึ้นมาก…”


“ถูกต้อง หากได้รับการสนับสนุนจากไฮแรงเกอร์ผู้มีความสามารถและศักยภาพในระดับนี้ รับรองได้เลยว่า ในชีวิตจริง นายจะมีอิทธิพลต่อสังคมเทียบเท่าหนึ่งประเทศใหญ่”


“…!?”


เสียงอันไม่คาดฝันดังขึ้นจนทำให้กริดผงะ


เมื่อหันไปมอง มันเห็นเฒ่าดาบมารกำลังวิ่งตามหลังมาไม่ห่าง


อยู่ในท่ากอดอก ลักษณะการขยับร่างกายคล้ายกับคนเดินเร็ว แต่กลับไล่ตามโอเวอร์เกียร์คอร์นทันได้อย่างน่าอัศจรรย์


‘ตั้งแต่ตอนไหน…?’


เราสัมผัสถึงตัวตนไม่ได้เลย


กำลังเผยฝีมือแท้จริงอยู่สินะ…


เหมือนกับขณะสู้กับยังบันมารุ


“คลาสเลเจนดารีใช่ไหม?”


ตามปรกติแล้ว การถือกำเนิดของคลาสเลเจนดารีคนใหม่จะถูกประกาศบนช่องข้อความโลก


อย่างไรก็ตาม อย่างได้ยึดถือข้อความโลกเป็นสำคัญ บางกรณีอาจเกิดขึ้นโดยไม่ป่าวประกาศให้ทุกคนได้ทราบ


เฉกเช่นกริด มันกลายเป็นผู้สืบทอดแพ็กม่าอย่างเงียบเชียบ ต้องรอสั่งสมความสำเร็จให้ถึงระดับหนึ่งก่อน จึงจะมีระดับตัวตนยิ่งใหญ่ควรค่าแก่การป่าวประกาศ โดยกรณีของกริดคือสงครามปกป้องไบรัน


“ยังไม่เป็น”


ยังไม่เป็น…


คำตอบแฝงความนัยเอาไว้


‘คลาสเติบโต… และมีโอกาสพัฒนาไปเป็นคลาสเกรดเลเจนดารี!’


กริดพลันกระจ่าง ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงตัดสินใจละทิ้งตำแหน่งแรงเกอร์ และปลีกตัวออกจากโลกมานานหลายปี


ต้องแข็งแกร่งระดับไหนกัน จึงจะรับมือกับยังบันมารุได้นานสิบนาทีเต็ม?


แม้ว่าจะถูกผู้คนลืมเลือน แต่ในไม่ช้า เขาจะกลับไปทวงความยิ่งใหญ่ได้เหมือนเดิมแน่นอน


พร้อมกับข้อความโลก แจ้งเตือนการก้าวไปเป็นตำนานอย่างยิ่งใหญ่


“แล้วจะรอฟังข่าวดี”


“ฮุฮุ ขอบคุณมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้รับการคาดหวังจากพี่ท้องฟ้า”


“เรียกชื่อฉันตามปรกติเถอะน่า นายอายุมากกว่าตั้งหลายปี”


กริดยิ้มแห้งพลางหวนนึกถึงฉายา ‘เนื้อหอมในหมู่คุณลุง’ ของตน


“สำหรับเกม อายุไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่เป็นเลเวลต่างหาก”


“…ฉันแค่ไม่อยากได้ยินนายเรียกว่าพี่”


“ฮุฮุฮุ… ย้อนกลับไปหลายปีก่อน ขณะเพิ่งมาเยือนทวีปตะวันออกได้ไม่นาน ฉันรู้สึกทึ่งกับฝีมือครอเกลมาก เขาสมควรเป็นท้องฟ้าในตอนนั้น”


“…”


“แต่มาวันนี้ ฉันมีโอกาสได้ประจักษ์ฝีมือของท้องฟ้าคนใหม่อีกครั้ง และต้องขอยอมรับตามตรงว่า ยอดเยี่ยมเกินคำร่ำลือไปมากทีเดียว”


“งั้นหรือ… ไม่รู้เหมือนกันว่าจะถูกหมอนั่นทวงบัลลังก์กลับไปตอนไหน แต่ฉันไม่ถือสา เพราะพวกเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน”


“โฮ่…”


สีหน้าของเฒ่าดาบมารแปรเปลี่ยนเล็กน้อย


เมื่อชื่อ ‘ครอเกล’ หลุดออกมา คล้ายกับดวงตากริดกำลังลุกโชนด้วยไฟแห่งการต่อสู้


‘เข้าใจแล้ว การมีอยู่ครอเกล ได้ยกระดับชายคนนี้ขึ้นไปอีกขั้น’


เคยมีคำกล่าวไว้ว่า คู่แข่งคือพรจากพระเจ้า คงไม่มีตัวอย่างใดชัดเจนกว่านี้แล้ว


เฒ่าดาบมารยังคงวิ่งในท่ากอดอกเดินโดยไม่เหน็ดเหนื่อย และสปีดก็มิได้ช้าลงแม้จะผ่านมาแล้วสิบกว่านาที


จนกระทั่งทั้งคู่เริ่มมองเห็นภูเขาแบ็กมี


‘ไม่ใช่คลาสจำพวกนักลอบสังหารรึไง…?’


โดยปรกติแล้ว นักลอบสังหารจะเน้นอัปค่าความว่องไวและพละกำลังเป็นหลัก


แต่เฒ่าดาบมารกลับมีค่าความอดทนสูงจนน่าตกใจ โดยไม่สูญเสียจุดเด่นด้านพละกำลังและความว่องไวไป


‘เป็นเอฟเฟกของคลาส… หรือเพราะดื่มโอสถเข้าไปเป็นจำนวนมาก?’


ทวีปตะวันออกคือบ้านเกิดของวอลนัทสีทอง


เฒ่าดาบมาร ผู้อาศัยบนทวีปตะวันออกมาหลายปี และเข้าถึงเนื้อหาระดับสูง ย่อมมีโอกาสได้ลิ้มลองวอลนัทสีทองอย่างน้อยสักครั้งสองครั้ง


“ไปพักก่อนนะ”


เมื่อผ่านแม่น้ำแบ็กมีและมาถึงตีนเขา กริดเก็บโอเวอร์เกียร์คอร์นเข้าช่องสัตว์เลี้ยง เพื่อถนอมร่างกายไว้ใช้งานในยามฉุกเฉิน


เฒ่าดาบมารเดินมายืนข้างกริด พลางกล่าวโดยแหงนหน้ามองขึ้นไปบนยอดเขา


“พนันได้เลยว่า ฮวางกิลดงต้องลองหยั่งเชิงฝีมือท้องฟ้าแน่”


“ไหนว่าฮวางกิลดงมีข้อมูลในมือมากมาย ยังไม่รู้อีกหรือว่าฝีมือของฉันอยู่ในระดับใด?”


“ฮวางกิลดงมีนิสัยชอบยืนยันข้อมูลด้วยตาตัวเอง นายควรกังวลเอาไว้บ้าง แม้ฉันจะเคยทำงานด้วยกันมานาน แต่ก็ยังตามเล่ห์เหลี่ยมของมันไม่ทัน หากนายเผลอ มันก็พร้อมจะชกหน้าหรือชักมีดออกมาแทงได้ทุกเมื่อ”


“อา…”


หนอนหนังสือหน้าขาว ฮวากยอง เคยประเมินไว้ว่า บราฮัมและฮวางกิลดงอยู่ในระดับเดียวกัน


ถึงนั่นเป็นการเปรียบเทียบหลังจากได้เห็นพลังแค่บางส่วนของบราฮัม แต่กริดก็ค่อนข้างมั่นใจว่า ตนยังเป็นรองฮวางกิลดงพอสมควร


‘ชักประหม่าแฮะ’


ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งอุ้มเต่าดำมรณะและเริ่มเดินขึ้นไปบนยอดเขา


มันไม่มีความจำเป็นต้องบิน


กริดชำนาญการปีนเขาของทวีปตะวันออกอย่างมาก เพราะเคยต้องออกไปตัดฝืนฟอสฟอรัสขาวบ่อยครั้งสมัยอดีต


ระหว่างทางขึ้น


“เฒ่าดาบมาร… ทางนั้นมันหน้าผานะ”


“อะแฮ่ม!”


กริดควรจะถึงจุดหมายเร็วกว่านี้สักเล็กน้อย ถ้าเฒ่าดาบมารไม่พยายามเดินนำและพาหลงมาตลอดทาง


“ยินดีต้อนรับ ราชาโอเวอร์เกียร์กริด… ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าเทพโอเวอร์เกียร์แล้วสินะ”


ณ ยอดเขาสูง ร่องรอยของพิธีกรรมยังคงปรากฏให้เห็นเลือนราง


ในจุดดังกล่าว ชายสวมหมวกไม้ไผ่ ‘ร้อยคน’ กำลังยืนต้อนรับกริดด้วยท่าทางเป็นมิตร


‘อะไรกัน!’


กริดตกใจกับจำนวนคน และยิ่งประหลาดใจเมื่อได้เห็นใบหน้าทุกคนอย่างแจ่มชัด


ชื่อเหนือศีรษะล้วนเขียนไว้เหมือนกันว่า


<ฮวางกิลดง>


‘แยกอีโก้…?’


แม้แต่จอมอสูรก็ยังมิอาจแยกอีโก้ออกมาได้นับร้อยร่างเช่นนี้


“หืม… นำอดีตเต่าดำมาส่งให้ด้วยหรือนี่ นับว่าทำได้ไม่เลวทีเดียว”


“อดีตเต่าดำ?”


“เพราะมันกำลังจะหายไปในอีกไม่ช้า”


หายไป?


มีบางอย่างไม่ถูกต้อง…


“เดี๋ยวก่อน! ทำไมเต่าน้อยตัวนี้ถึง…”


บ้าจริง เรารีบพูดเกินไป


กริดเผลอเรียกเต่าดำตามชื่อสะดวกของตน


“เทพเต่าดำต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง! ไม่อย่างนั้น สมดุลของเทพสี่ทิศจะพังทลาย และโลกก็จะตกอยู่ในอันตราย!”


“ผิดแล้ว เมื่อเต่าดำมรณะเสียชีวิต พลังศรัทธาจะถูกถ่ายเทไปยังเต่าดำวารีแทน ฉะนั้น เทพสี่ทิศยังไม่เสียสมดุลในแง่อำนาจบารมี”


“แต่พลังมรณะของเทพเต่าดำมีไว้เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างเทพผู้พิทักษ์ด้วยกันเอง!”


“หืม… ต่อให้นายพูดถูก แต่แล้วยังไงล่ะ? มนุษย์อย่างพวกเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทพสี่ทิศสักหน่อย พวกเขาเคยล้มเหลวมาแล้วหนหนึ่ง… โลกของเรา ก็ต้องแก้ไขด้วยมือเราเท่านั้น!”


“แล้วนายคืนชีพเทพเต่าดำขึ้นมาทำไม?”


“แน่นอยู่แล้ว… เพื่อให้ยังบันอ่อนแอลง”


ฉึบ!


ฮวางกิลดงนับร้อยปรี่เข้าหากริดพร้อมเพรียง


ทุกร่างจะถือไม้กระบองขนาดใหญ่อันแฝงจิตคุกคามมหาศาล ไว้ในมือข้างเดียว


“ส่งเต่าดำมรณะมาให้ฉัน! จะบอกอะไรให้ ย้อนกลับไปสมัยเทพสี่ทิศยังปกครองโลก เทพเต่าดำคือภัยอันตรายต่ออารยธรรมของมนุษย์มากกว่าใคร!”


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,604

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ขยี้เจ้านั้นเลยเทพเจ้าโอเวอร์เกียร์

    ReplyDelete
  2. ดาบ ชอบหลงทิศทาง​
    เป็นลูกเรือหมวกฟางด้วยป่ะ😆
    ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​แอด​😁

    ReplyDelete
    Replies
    1. ในอีกเรื่อง อ่ายตัวนี้โหดสุดในเรื่อง.. ใช้ดาบยาว ว่องไว ทรงพลัง แต่งตัวเหมือนกัน ในชีวิตจริงเป็นปรมาจารย์ พระเอกเป็นคลาสนักล่าสังหารเวทมนตร์

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00