จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,202



<ดาบลอบสังหารทัพสามแสน (ลดระดับ) >

อาศัยสมาธิอันแน่วแน่เพื่อสร้างการโจมตีล่องหนจนศัตรูไม่ตระหนักถึง

* สร้างความเสียหายรุนแรง 600% ของพลังโจมตีกายภาพพร้อมกับเปิดจุดอ่อนศัตรูทุกเป้าหมายในการมองเห็น หากติดคริติคอลจะเพิ่มความรุนแรงคริติคอลอีก 2,000%

* การโจมตีไม่มีวันพลาดเป้า

ทรัพยากร :

- มานา 10,000

- ปราณดาบ 200

ผลข้างเคียงทักษะ : ปราณดาบจะไม่ฟื้นฟูด้วยทุกสาเหตุเป็นเวลา 3 วินาที

ระยะหน่วงหลังใช้ : 1 ชั่วโมง


ทักษะขั้นต่อจากดาบทัพสองแสน กริดเข้าถึงมันทางลัดด้วย <ดึงศักยภาพซ่อนเร้น>


อย่างไรก็ตาม <ดาบลอบสังหารทัพสามแสน> ซึ่งมีลักษณะเป็นการปล่อยปราณวารีไหลต่ำเลียดพื้น ก่อนจะผงาดโถมใส่ศัตรูในจังหวะทีเผลอ ได้มาพร้อมผลข้างเคียงรุนแรงเกินขีดจำกัดร่างกาย


ปราณดาบจะไม่ฟื้นฟูเป็นเวลา 3 วินาที


แต่เนื่องจากมีพลังโจมตีสูง ความรุนแรงคริติคอลสูงมาก และยังมีคุณสมบัติเปิดจุดอ่อน ดาบลอบสังหารทัพสามแสนจึงเหมาะแก่การ ‘เปิดคอมโบ’ ก่อนใช้งานท่าไม้ตายจริงตามหลัง


“เสมือนเทพ. ดึงศักยภาพซ่อนเร้น.”


ฉูดดดด—!


ด้วยดาบลอบสังหาร กริดโจมตีใส่จุดอ่อนช่วงลำคอและหน้าอกยังบันจนเกิดน้ำพุเลือดพวยพุ่งออกจากปากแผล ละอองฝอยกระเซ็นมาโดนใบหน้าชายหนุ่มซึ่งกำลังเอนตัวเตรียมซัดท่าปิดบัญชี


พายุหายนะอีกระลอกกำลังก่อตัวจากผลของ <ดึงศักยภาพซ่อนเร้น> รอบสอง


อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าดึงศักยภาพซ่อนเร้นนั้นมีข้อเสียต่อร่างกายผู้ใช้อย่างมหาศาล


กริดจะสูญเสียมานา 10,000 หน่วย พลังชีวิต 20,000 หน่วย และค่าเรี่ยวแรงครึ่งหนึ่งของปัจจุบันในการใช้งานแต่ละหน


แต่ขณะวิชาดาบผสาน 5 ชนิดกำลังจะถูกปลดปล่อยหลังจากดึงศักยภาพซ่อนเร้น สมองชายหนุ่มพลันขาวโพลนพร้อมกับการหลั่งไหลไปทั่วร่างของกระแสความเจ็บปวด


“อั่ก!”


มันเผื่อใจไว้บ้างแล้ว จึงกัดฟันอดทนพลางกลืนน้ำลายเหนียวข้น


ความหวาดกลัวเริ่มกัดกินจิตใจ


แต่กริดไม่ลังเล


ดวงตายังคงเพ่งจ้อง บรรยากาศรอบตัวกำลังท่วมท้นไปด้วยความองอาจ


“คลื่นทำลายล้างมายาร่ายรำสังหาร”


<คลื่นทำลายล้างมายาร่ายรำสังหาร>

วิชาดาบผสานห้าชนิดรวมเป็นหนึ่ง

ปลดปล่อยปราณดาบ ‘สังหาร’ ใส่เป้าหมาย 7 ครั้งรวดภายใน 1 วินาที แต่ละเส้นสร้างความเสียหาย 5,000% ของพลังโจมตีกายภาพ หากมีเส้นใดพุ่งกระทบเป้าหมาย จะทำการสร้างปราณดาบ ‘คลื่น’ ใส่ศัตรูทุกคนในรัศมี 10 เมตร

หากเป้าหมายใดถูกปราณดาบโจมตี จะได้รับอาการผิดปรกติ ‘ปลดอาวุธ’ ‘เลือดออก’ และ ‘สิ้นหวัง’

ปราณดาบทุกเส้นจะมองข้ามพลังป้องกันของเป้าหมาย 70%

★ เกิดผล ‘เวทตรวจจับ’ ‘ลมเฉือน’ ‘บาเรียคุ้มกาย’ และ ‘เสริมแกร่งอาวุธ’

เงื่อนไขการใช้งาน : สวมใส่อาวุธประเภทดาบ

ทรัพยากร : ปราณดาบ 500

ระยะหน่วงหลังใช้ : 2 ชั่วโมง


ฉึก!


ฉึกฉึกฉึกฉึกฉึกฉึก!


ร่างของยังบัน ‘ซาอูล’ ผู้ถูกดาบลอบสังหารเล่นงานเข้าอย่างจังในการโจมตีก่อนหน้า พลันออกอาการสั่นกระตุกรุนแรง


ศีรษะวิงเวียนหมุนเคว้ง


‘เกิดอะไรขึ้นกับเรา…?’


แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น ศัตรูลงมือบุกรุกตามความคาดหมาย และขั้นตอนการคืนชีพจิตวิญญาณครึ่งหนึ่งของเทพเต่าดำก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี


อย่างไรก็ตาม เกิดปัญหาตามมาหลังจากนั้นเล็กน้อย เพราะเต่าดำครึ่งตัวตนเอาแต่คำรามใส่ห้าอาวุโสบนท้องฟ้า เราจึงเป็นต้องเบี่ยงเบนความสนใจของมันลงไปยังด้านล่าง


แต่ระหว่างนั้น เราพบบุคคลแปลกหน้า


เมื่อประเมินว่าอีกฝ่ายไม่มีประโยชน์ต่อแผนการ เราและคนอื่นจึงหมายกำจัดทิ้ง


เป็นความรู้สึกเดียวกับขณะบี้แมลงวันน่ารำคาญสักตัว


ทุกคนชุนโปเข้าไปประชิดตัวเหยื่อ พร้อมกับสะบัดกระบี่อ่อนเล็งแทงจุดตายอย่างสามัคคี


ความทรงจำของเราจบลงแค่ตรงนั้น


…แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย


“…แค่ก!”


ขณะอาเจียนเลือดข้นก้อนใหญ่ ดวงตาซาอูลแทบถลนออกจากเบ้า


มาถึงจุดนี้ มันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าตนโดนอะไรเข้าไป


เพื่อเอาชนะความเจ็บปวดอันไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิต ลมหายใจเทพผู้พิทักษ์สองชนิดถูกงัดออกมาใช้อย่างชำนาญ


“ซาอูล!!”


เราได้ยินเสียงของพี่น้องดังจากด้านหลัง


‘พวกเรา… คือเทพในอนาคต’


ต้องเผยความสุขุมในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเผชิญสภาพแวดล้อมเลวร้ายสักเพียงใด


ต่อให้ต้องลุยฝ่าพายุหิมะหรือคลื่นยักษ์ถาโถม อากัปกิริยาต้องเป็นไปอย่างองอาจสง่างามเยี่ยงสิ่งมีชีวิตอันสูงส่ง


ฉะนั้น ห้ามตะโกนอย่างน่าสมเพชเด็ดขาด


แต่ซาอูลไม่มีอำนาจใดไปขัดขวาง สุดท้ายแล้ว ยังบันอีกสองตนยังคงรีบมาเข้ามาช่วยประกบซ้ายขวา


ทว่า พวกมันมิอาจช่วยซาอูลไว้ได้


ปราณดาบอันทรงพลังเจ็ดเส้นได้พุ่งทะลวงร่างซาอูลในคราวเดียว พร้อมกับสร้างคลื่นดาบเกรี้ยวกราดขึ้นมาในรัศมี 10 เมตรรอบตัว


“อึก…!”


ขณะสองยังบันพยายามเอาชีวิตรอดจากการซัดโถมของคลื่นปราณดาบลึกลับ


ปึด!


ปึด!


แขนขาซาอูลเริ่มฉีกขาดออกจากลำตัว


“…อะ!”


เมื่อความเจ็บปวดเริ่มแล่นไปทั่วร่าง ซาอูลเริ่มยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันกำลังเลวร้ายมากเพียงใด


ความตาย


ชะตากรรมอันห่างไกลจากตัวตนระดับยังบัน ยามนี้กำลังคืบคลานกัดกินชีวิตมันทีละนิด


“ไม่—”


ซู่ว—


ความตายพรากไปแม้กะทั่งคำสั่งเสีย


ร่างกายสั่นกระตุกแผ่วเบาเป็นหนสุดท้าย ก่อนจะเลือนหายไปตลอดกาลพร้อมกับเสาลำแสงสีเทาส่องสว่างขึ้นฟ้า


“…”


สองยังบันผู้เอาตัวรอดจากการโจมตีระลอกสองมาได้อย่างหงุดหงิด กำลังยืนทึ่งโดยไม่กล่าวสิ่งใดเป็นเวลานาน


พวกมันหวนนึกถึงความทรงจำสมัยเก่า


รอยยิ้มของซาอูลหลังจากทราบว่าไม่มีใครในกลุ่มพวกตนสอบผ่านซือโหยว


รวมถึงถ้อยคำให้กำลังใจของซาอูลอันมีใจความว่า ‘ครั้งหน้าทุกคนจะต้องสอบผ่านไปด้วยกัน’


“ทำไมกัน… ตำแหน่งลำดับ 7 กำลังว่างอยู่และเปิดกว้างให้พวกเราทุกคนแท้ ๆ …”


ซาอูลกำลังจะได้เป็นเทพ


แต่กลับต้องมาตายไปเสียก่อน…


“ไอ้สารเลว!!”


สองยังบันเพ่งมองกริดผู้เอาแต่หายใจหอบ


พวกมันไม่เคยเกลียดชังใครเท่านี้นับตั้งแต่ลืมตาดูโลก ความเกรี้ยวกราดถูกนำไปลงกับลมหายใจมังกรครามเพื่ออัญเชิญพลังสายฟ้า


กริดหมดสิทธิ์ตอบโต้


ในท่ายืนหลังค่อมเล็กน้อย ดวงตากริดกำลังเหม่อลอยโดยไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะตั้งท่ายกตาบ


หงึกหงึก…


ด้วยความสัตย์จริง การยังถือดาบอยู่ได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์มากแล้ว


ดึงศักยภาพซ่อนเร้นสองหนซ้อน ดาบลอบสังหารทัพสามแสน และวิชาดาบผสานผ้าชนิด…


ไม่มีร่างกายมนุษย์คนใดสามารถทนแรงสะท้อนกลับจากทักษะเหล่านี้ติด ๆ กันได้แน่


กล้ามเนื้อทั่วลำตัวกริดเสื่อมสภาพชั่วคราว ค่าเรี่ยวแรงใกล้เหือดแห้งเต็มที


“ไปตายซะ!”


ฉึก!


นี่เรากำลังเห็นฉากความตายของตัวเอง?


ทำไมปลายดาบยังบันถึงมีสีแดงสดแต้มอยู่…


แน่นอน สีแดงเข้มดังกล่าวเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากเลือดของกริด


‘บ้าจริง’


แม้จะเห็นทุกสิ่งเต็มสองตา แต่ก็มิอาจตอบสนองสิ่งใดกลับไปได้


กริดฉุนเฉียว แต่ก็พยายามเยือกเย็น


การต่อสู้ยังไม่จบ


‘เราทนได้แน่’


ยังเหลือบาเรียคุ้มกายและทักษะเด้งเลือดอีกเป็นจำนวนมากมากจากสมญานามและอุปกรณ์สวมใส่


หากโชคดีพอ เอฟเฟคมองข้ามความเสียหายมีโอกาสฟลุกแสดงผลในจังหวะสำคัญ ถ้าเป็นเช่นนั้น เราคงทนได้นานราวห้าวินาที


‘พวกมันอ่อนแอกว่าการัมมาก และอ่อนแอกว่าฮันกยอลเล็กน้อย’


ฉึก—! ฉึก—!


“แค่ก!”


หนึ่งดาบเสียบแผ่นอก หนึ่งดาบเสียบสีข้าง กริดกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด ดวงตากรอกมองไปรอบตัวเพื่อมองหาโอกาส


โอกาสหลบหนี


ขอเพียงเรี่ยวแรงฟื้นฟูกลับมาอีกเล็กน้อย มันจะใช้ชุนโปเผ่นหนีจากตรงนี้โดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง


แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย


สองยังบันมองเห็นเจตนากริดอย่างแจ่มชัด


พวกมันรุมปิดทางอย่างสมบูรณ์แบบโดยมิปล่อยให้ชายผู้ดับลมหายใจซาอูลรอดกลับไปอย่างมีชีวิต


“เจ้าต้องตายตรงนี้!”


ฉึก!


ฉึกฉึกฉึกฉึก!!


การโหมบุกจากสองยังบันเกรี้ยวกราดราวกับพายุบุแคมซัดโถม


เมื่อประเมินว่าสภาพร่างกายกริดไม่เหมือนกับในตอนแรก พวกมันเปลี่ยนแนวคิดจากการเน้นโจมตีโดยคอยระวังท่าสวนกลับ มาเป็นการฟาดฟันเต็มรูปแบบเพื่อเพิ่มจำนวนครั้งการโจมตีต่อวินาที


กระบี่ถูกรัวมือระวิง ทั้งรวดเร็วและฉับไวจนผู้ชมด้านหลังมองตามไม่ทัน


แต่ถึงกระนั้น สองยังบันกลับไม่สามารถทำให้ประกันชีวิตอมตะของกริดแสดงผล


[ได้รับความเสียหาย 6,599]


[ได้รับความเสียหาย 7,105]


[ความเสียหายถูกมองข้ามโดยเอฟเฟคของ <เกราะกางเกงพญาเสือขาวค้ำจุนฟ้าดิน>]


[ได้รับความเสียหาย 7,750]


[ได้รับความเสียหาย 8,300]


[ความเสียหายถูกมองข้ามโดยเอฟเฟคของ <เกราะไหล่เสือขาวถูกฟินิกซ์แดงโอบกอด>]


[ความเสียหายถูกมองข้ามโดยเอฟเฟคของ <รองเท้ามังกรครามโอหังสยบฟ้าดิน>]



ข้อความระบบสุดน่าทึ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วยพลังแห่งไอเท็ม


จริงอยู่ การโจมตีของยังบันอาจรวดเร็วและรุนแรงจนบาเรียคุ้มกายของกริดถูกเผาหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่ดาบ แต่ก็ยังไม่พอจะทำให้ถึงแก่ความตาย เนื่องจากความเสียหายบางส่วนถูกมองข้ามไปโดยอุปกรณ์ป้องกันเทพผู้พิทักษ์


เอฟเฟคมองข้ามความเสียหายขณะถูกโจมตีส่วนล่างของลำตัว เป็นส่วนสำคัญในการยื้อชีวิตกริดไว้จนถึงวินาทีนี้


“เจ้านี่…?”


สองยังบันเริ่มเดือดดาล


แต่ฝ่ายกริดก็ยังหัวเราะไม่ออก สีหน้าของมันเผยความอึมครึมและดำมืด


‘ยังไม่ได้อีกรึไง…’


ผลกระทบทางร่างกายในคราวนี้ช่างหนักหนา


ผ่านไปแล้วห้าวินาทีเต็ม โดยค่าเรี่ยวแรงฟื้นฟูกลับคืนมาส่วนหนึ่ง แต่กลับไม่มากพอจะช่วยให้ขยับร่างกายได้ดั่งใจ


ข้อต่อตามลำตัวยังคงเหนียวหนืด กล้ามเนื้อสั่นกระตุกอย่างไม่ฟังคำสั่ง


‘การฝืนใช้ดึงศักยภาพซ้อนเร้นสองครั้งซ้อน ส่งผลให้ร่างกายได้รับความเสียหายมากเพียงนี้เชียวหรือ…’


ช่างเถอะ ตอนนี้ต้องเพ่งสมาธิอยู่กับการขยับตัวให้ได้โดยเร็ว…


แต่ในทุกวินาทีผ่านไป ร่างกายกลับฟื้นฟูได้ช้ากว่าปรกติพอสมควร


‘ถ้าเป็นแบบนี้ เห็นทีคงต้องพึ่งพาประกันชีวิตอมตะอย่างมิอาจเลี่ยง’


ได้ยื้อชีวิตเพิ่มห้าอีกวินาที


ยังพอมีโอกาสรอด…


ปัจจุบัน กริดทำได้เพียงยืนมองปลายกระบี่อ่อนพุ่งตรงมายังลำคอ


ชายหนุ่มยอมจำนนต่อชะตากรรมตรงหน้า


ทว่า


ฟุ่บ!


ปลายกระบี่อ่อนซึ่งควรจะเสียบต้นคอกริด กลับถูกกระชากกลับไปในทิศทางเดียวกับเจ้าของอาวุธ


สืบเนื่องมาจาก สองยังบันผู้เป็นเจ้าของกระบี่อ่อน ยามนี้กำลังลอยเสียหลักกลางอากาศ


“…?”


“…?”


ทั้งกริดและยังบันต่างพากันสับสน


เมื่อชายหนุ่มหันไปมอง มันได้พบกับชายร่างกายบึกบึน กำลังจับเอวสองยังบันทุ่มลงพื้นด้วยมือทั้งสองข้าง


ไม่ใช่ใครนอกจากบูบัต


ในฐานะผู้ถูกยกย่องให้เป็น ‘ตัวเปิด’ อันดับหนึ่งของโลกคนปัจจุบัน บูบัตมีทักษะมองข้ามค่าต้านทานอาการผิดปรกติมากมาย โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบการจับทุ่ม


เจ้าแห่ง CC ยื่นมือช่วยกริดได้ทันเวลา


สองยังบันถูกทุ่มลงพื้นอย่างไร้ความปรานี


ในซาทิสฟาย CC ทางกายภาพจะมิอาจต้านทานได้ในทุกเหตุผล ตัวอย่างเช่น การสร้างกรงน้ำแข็งปิดล้อมเป้าหมาย หรือการจับทุ่มในลักษณะประชิดตัว


โครม!!


หงึกหงึก…


ในสภาพกลับหัวกลับหาง สองยังบันถูกทุ่มอย่างรุนแรงจนปลายเท้าชี้ขึ้นไปในอากาศ


บูบัตหันมาตะโกนใส่กริดผู้เอาแต่ยืนเหม่อ


“มัวทำอะไรอยู่! รีบหนีเร็วเข้า!”


“…!”


ชายหนุ่มพลันคืนสติ


ประสาทสัมผัสแล่นไปถึงปลายนิ้วมือได้สักที


“ชุนโป”


สายตากริดมิได้กำลังเพ่งไปยังจุดหลบหนีซึ่งมันกลอกตามองเตรียมไว้ล่วงหน้า


แต่เป็นการจ้องไปบนพื้นข้างกายบูบัต


กริดหายตัวไปโผล่ในชั่วพริบตา


“…!”


เมื่อเห็นกริดปรากฏตัวด้านข้างอย่างไร้สุ้มเสียง บูบัตออกอาการกระอักกระอ่วน


บทสนทนาระหว่างตนและกริดเมื่อราวสองปีก่อนเริ่มหวนกลับมาดังก้องในหัว


“กริด ฉันจะไม่สู้กับนายอีกแล้ว”


นั่นคือคำพูดของบูบัตหลังจากพ่ายแพ้ต่อแรงเกอร์วัยรุ่นชาวจีนซึ่งไม่มีค่าพอให้จดจำชื่อ


การพ่ายแพ้ครั้งนั้นทำให้บูบัตตระหนักถึงขีดจำกัดของตัวเอง


‘ขีดจำกัดของตัวเปิดในการดวล…’


ถูกต้อง คุณค่าแท้จริงของตัวเปิดคือการตะลุมบอนแบบปาร์ตี้


หากต่อสู้แบบ 2v2 หรือ 3v3 พลังของบูบัตจะมีประโยชน์กว่า 1v1 หลายเท่า


“…หากพวกเราได้พบกันอีกในสงคราม”


“นายเคยบอกว่าไม่อยากเป็นศัตรูกับฉัน”


คนทั้งสองกำลังหวนนึกถึงบทสนทนาในอดีต


ตามด้วยการเผยรอยยิ้มให้กันเล็กน้อย


หมับ!


ฝ่ามือใหญ่โตของบูบัตคว้าข้อเท้าสองยังบันซึ่งถูกจับทุ่มจนหน้าทิ่มพื้น


“มายาร่ายรำสะพรั่ง!”


กริดปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างของตน


“สะพรั่งทำลายล้างร่ายรำสังหาร!”


ท่านกลางโลกมืดสีดำ กลีบดอกไม้ฟ้าครามกำลังส่องแสงระยิบระยับเหนือศีรษะกริดและบูบัตอย่างงดงาม


บรรดาแรงเกอร์ด้านหลังต่างพากันจ้องมองด้วยใบหน้าขื่นขม


พวกมันกำลังสมเพชตัวเอง สมเพชในความยึดติดกับภารกิจจนมองข้ามสิ่งถูกต้องไป


การปรากฏตัวของเทพเต่าดำครึ่งจิตวิญญาณกำลังสร้างผลลัพธ์ในทิศทางตรงข้ามจากเจตนารมณ์ดั้งเดิม


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,591
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สรุปเป็นร่างเต่าดำที่ไม่มีสติสินะ แต่ก็ยังโกรธแค้นห้าอาวุโสนี่เอง
    ขอบคุณสำหรับงานแปลครับ

    ReplyDelete
  2. ได้ปาตี้กับ​บูบัต
    ตบยังบัน👍👍👍

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00