จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 853
[ ดิวเลบุล ]
พลังชีวิต : 100,001
ดิวเลบุลเคยเป็นกิ้งก่าโลกันตร์แสนธรรมดาที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโลกันตร์
แต่วันหนึ่ง มันถูก ‘บาเอล’ จอมอสูรลำดับหนึ่งถมน้ำลายใส่ขณะปิกนิกริมแม่น้ำ ส่งผลให้ดิวเลบุลกลายพันธุ์เป็นอสูรระดับสูง
* ต่อมน้ำลายดิวเลบุลถูกยกระดับโดยบาเอล
( ดิวเลบุลจะพ่นลำแสงทรงพลังทุก 5 วินาที )
* ลำแสงของดิวเลบุลจะรุนแรง 20,000 หน่วยแบบคงที่ และสร้างความเสียหายรอบข้างเป้าหมายรัศมี 10 เมตรอีก 8,000 หน่วย
* ผิวหนังของดิวเลบุลพัฒนาขึ้นจากน้ำลายของบาเอล
( ไม่ว่าจะถูกโจมตีรุนแรงเพียงใด แต่ความเสียหายที่ได้รับจะเป็นค่าคงที่ 2,000 หน่วย )
* หางของดิวเลบุลจะขยับตลอดเวลาโดยไม่หยุดพัก
( ศัตรูที่เข้าใกล้ดิวเลบุลจะได้รับความเสียหายจากเพลิงโลกันตร์ 3,000 หน่วยแบบคงที่ จากนั้นจะถูกเพลิงนรกแผดเผาอีกวินาทีละ 699 หน่วย )
ดิวเลบุลคืออสูรที่มีร่างกายเป็นมนุษย์ แต่ศีรษะเป็นกิ้งก่า
หางใหญ่ยาวและสะบัดเป็นวงกลมตลอดเวลา ปลายหางมีเปลวเพลิงโลกันตร์ร้อนแรงลุกโชน
“อสูร…?”
สวาปามจกบัลเผ็ดรู้สึกมึนงงเหมือนถูกทุบด้วยค้อนยักษ์ เขาไม่เคยทราบมาก่อนว่าผู้เล่นสามารถอัญเชิญอสูรเป็นบริวารได้
แต่เมื่อลองไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน นั่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยสักนิด เพราะเหนือสิ่งอื่นใด แอ็กนัสคือผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล คงแปลกกว่าหากแอ็กนัสอัญเชิญได้แค่อันเดดไปชั่วชีวิตทั้งที่ทำสัญญากับจอมอสูรลำดับหนึ่ง
ดิวเลบุลบินลอยหยุดเหนือศีรษะสวาปามจกบัลเผ็ดและอลิซาเบธพร้อมกับอ้าปากกว้าง กลุ่มก้อนแสงสว่างของเวทมนตร์กำลังถูกบีบอัด คงไม่มีใครจินตนาการออกแน่ว่านี่คือ ‘น้ำลาย’
แอ็กนัสเอ่ยปากเตือน
“อย่าดิ้นรนดีกว่าน่า ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ล่ะนะ คิคิคิก!”
ประสิทธิภาพของดิวเลบุลยังด้อยกว่าอัศวินความตายและลิช
รูปแบบการโจมตีและทักษะไม่หลากหลาย จุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือใช้สังหารศัตรู ยิ่งไปกว่านั้น สติปัญญาของมันยังต่ำมาก เป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ ‘ฆ่ามนุษย์’ ซึ่งถูกฝังในตัวอสูรทุกตน ไม่เสมอไปที่จะฟังคำสั่งจากผู้เป็นนาย
แต่ความแข็งแกร่งก็มากพอจะกลบจุดอ่อนข้างต้นได้มิดชิด
การโจมตีแสนทรงพลังสร้างความเสียหายคงที่ 20,000 หน่วยและความเสียหายกระจาย 8,000 หน่วย แถมยังมีเปลวเพลิงที่ไม่ยินยอมให้ศัตรูเข้าใกล้ และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ความถึงทนของมันที่จะบาดเจ็บเพียง 2,000 หน่วยในทุกการโจมตี ทั้งที่มีพลังชีวิตสูงถึง 100,001 หน่วย
หมายความว่า ดิลเลบุลจะเสียชีวิตหลังจากถูกโจมตีครบ 51 ครั้ง ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะมีทักษะระดับตำนานหรือไม่
สำหรับผู้เล่นแล้ว สิ่งนี้ถือเป็นหายนะ
หรือหากถูกรุมโจมตีเป็นกลุ่ม แอ็กนัสเพียงอัญเชิญอันเดดออกมาช่วยดึงความสนใจก็สิ้นเรื่อง
“หลบเร็ว!”
วาบ!
ปัจจุบัน ดันเจียนพังครืนลงจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมหลังจากถูกลำแสงระลอกแรก
เมื่อเห็นดิวเลบุลเตรียมยิงลำแสงระลอกสอง สวาปามจกบัลเผ็ดรีบผลักอลิซาเบธให้กระเด็นไปทางอื่น ส่วนตัวเขาอ้าแขนรับลำแสงที่พุ่งปะทะอย่างจัง
[ ท่านได้รับความเสียหาย 20,000 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 8,000 หน่วย ]
“อั่ก! แค่ก! แค่ก!”
หลอดพลังชีวิตสวาปามจกบัลเผ็ดจมก้นทันที ความตกตะลึงและความสิ้นหวังผุดขึ้นในใจพร้อมกัน
รากฐานความแข็งแกร่งของแอ็กนัสมาจากสิ่งใด? คำตอบคือ ลิช! แต่แอ็กนัสยังไม่ได้อัญเชิญลิชออกมาด้วยซ้ำ เหตุการณ์ตรงหน้ายากจะให้สวาปามจกบัลเผ็ดทำใจเชื่อลง
การพัฒนาเป็นตำนานของแอ็กนัสทำให้ข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมอย่างยากลำบากต้องกลายเป็นหมัน เขาได้แต่นึกสงสัยในใจ ว่าข้อมูลแอ็กนัสที่ผ่านมาใช่สิ่งที่ถูกต้องแล้วจริงหรือ
‘หรือเราจะเก่งไม่เท่ากริด?’
รอยยิ้มจืดชืดปรากฏบนใบหน้าสวาปามจกบัลเผ็ด
ช่างน่าขัน เขาใช้กริดเป็นตัวเปรียบเทียบความแข็งแกร่งตั้งแต่เมื่อไร?
‘เราเคยคิดว่าหมอนั่นเป็นคนชั่ว…’
น่าประหลาด ยิ่งเวลาผ่านไป สวาปามจงบัลเผ็ดก็ยิ่งคิดตรงกันข้าม
การเข้าแข่งนานาชาติและแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกริด ทำให้เขารับรู้ว่า ตัวเองไม่ได้เกลียดชังกริดมากขนาดนั้น
ขณะเดียวกัน ดิวเลบุลอ้าปากกว้างอีกระลอก
“คุณลุง!”
อลิซาเบธส่งเสียงตะโกนเมื่อเห็นแสงสว่างในปากอสูร
เธอกำลังสำนึกผิด หากตนไม่งี่เง่าและยอมล็อกเอาต์ตามที่ลุงบอกแต่แรก ลุงของเธอคงไม่ต้องเจ็บปวดทรมาณเช่นนี้
สวาปามจกบัลเผ็ดอ่านความคิดเธอออกงั้นหรือ?
“ม่ใช่ความผิดของเธอ!”
นักสร้างดันเจี้ยนตะโกนปลอบประโลมขณะเผชิญหน้าลำแสงตามลำพัง
ใบหน้าปราศจากความโกรธเคืองหรือโมโหหลานสาวที่ไม่ยอมเชื่อฟัง ตรงกันข้าม เขากำลังส่งสายตาห่วงใยและอาทร
“ไม่ว่าเธอจะล็อกเอาต์หรือไม่ แต่ผลก็ไม่เปลี่ยนไป เจ้าบ้านี่จะเฝ้ารอการล็อกอินของเธอไปตลอดกาล! ลืมหลักการดำรงชีวิตของตระกูลเราแล้วหรือ? อย่านึกเสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว!”
ดิวเลบุลยิงลำแสงระลอกที่สาม
“เข้ามาเลยโว้ย!”
น้ำตาไหลอาบสองข้ามแก้มอลิซาเบธเมื่อลุงบังเกิดเกล้ากำลังจะเสียชีวิตไปต่อหน้า
ลุงของเธอ บุคคลที่เธอเคยมองว่าเป็นซูเปอร์แมนมาตลอด…
ขณะแข้งขาของอลิซาเบธอ่อนแรงทรุดลง เสียงแว่วแสนเย็นชาจากแอ็กนัสดังขึ้น
“ยอมรับชะตากรรมเสียเถิด เจียระไนศิลาแห่งชีวิตให้ฉัน เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฟังคำสั่ง!”
ทำไมน่ะหรือ?
“เพราะหากเธอไม่ฟังฉัน เธอต้องตายอีกนับร้อยนับพันครั้งในอนาคต! อยากใช้ชีวิตที่เหมือนกับขุมนรกนักรึไง?”
ใบหน้าแอ็กนัสปราศจากรอยยิ้ม เป็นความขึงขังปะปนกับความสิ้นหวังและขอร้อง
ในที่สุด แอ็กนัสก็มีโอกาสสร้าง ‘เธอ’ จากทักษะ ‘สร้าง’ ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของคลาสตำนาน แต่การจะทำให้สิ่งนี้บรรลุผล
ศิลาแห่งชีวิตต้องถูกเจียระไน
การคืนชีพ—ถ้อยคำที่ทุกคนทั่วโลกขบขันถึงความเพ้อฝัน แต่สำหรับแอ็กนัส มันอยู่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้น
“…”
บรรยากาศหม่นหมองลงทันใด
สวาปามจกบัลเผ็ดถูกลำแสงจากดิวเลบุลยิงกระทบร่างพร้อมกับเพดานหินที่ถล่มใส่
ทุกสิ่งควรจะจบสิ้นแค่นี้ แต่สวาปามจกบัลเผ็ดกลับส่งเสียงตะโกนอย่างเหนือความคาดหมายทุกคน
“นั่นคือคำพูดที่แกใช้ขอร้องคนรึไง!!”
สวาปามจกบัลเผ็ดกระโจนออกจากกองหินพร้อมกับพุ่งเข้าหาอลิซาเบธ
“ค…คุณลุง?”
ดวงตาอลิซาเบธพลันเบิกโพลงด้วยสีหน้าหวั่นวิตก แทนที่จะมีความสุขเมื่อได้เห็นคุณลุงยังมีชีวิต
สวาปามจกบัลเผ็ดหันไปยิ้มให้เธอ
“ไม่รู้รึไงว่าลุงเป็นอมตะ?”
[ ท่านจะไม่ตายโดยง่ายในดันเจี้ยนของตัวเอง ท่านจะเป็นอมตะ 2 วินาทีด้วยพลังชีวิตหนึ่งหน่วย ]
[ ทักษะติดตัว ‘ทางออกฉุกเฉิน’ แสดงผล ]
นี่คือความพิเศษของคลาสนักสร้างดันเจี้ยนที่เคยหลบหนีได้แม้กระทั่งกริด
ขณะสวาปามจกบัลเผ็ดคิดหนีโดยใช้ทางออกฉุกเฉิน…
“เนตรบาเอล”
แอ็กนัสใช้ทักษะพิเศษเพื่อสยบการกระทำผิดแผกของสวาปามจกบัลเผ็ด
ด้วยความเป็นคนทำตามใจตัวเอง มันจึงมีประสบการณ์ดวลกับผู้เล่นมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา แอ็กนัสพอจะเดาได้ว่าสวาปามจกบัลเผ็ดคิดหนีด้วยวิธีการประหลาด เนตรบาเอลจึงถูกใช้เพื่อขัดขวางสิ่งนี้
ตึกตัก!
บรรยากาศรอบดันเจี้ยนพลันถูกความมืดมิดปกคลุม ภาพดวงตาขนาดใหญ่ถูกฉายจากความว่างเปล่า
สีของนัยน์ตาดำแปรเปลี่ยนตลอดเวลา ทั้งแดง เหลือง และดำ ซึ่งแน่นอน นี่มิใช่ดวงตาของมนุษย์
ทุกสิ่งมีชีวิตนอกจากแอ็กนัสถูกจ้องมองอย่างเท่าเที่ยม ทั้งดิวเลบุล สวาปามจกบัลเผ็ด และอลิสซาเบธ ไม่มีผู้ใดสามารถหลุดพ้นหรือต้านทาน
[ ความหวาดกลัวสัมบูรณ์กำลังกัดกินจิตใจของท่าน ]
[ สมองของท่านขาวโพลนชั่วขณะ ท่านมิอาจขยับร่างกายได้หนึ่งวินาที ]
[ ท่านไม่สามารถใช้เวทมนตร์หรือทักษะได้ 3 วินาที ]
สุดยอด CC ของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลเกรดเลเจนดารี เวทมนตร์ที่สามารถพันธนาการหมู่โดยไม่สนใจค่าต้านทาน
นอกจากตัวแอ็กนัส ทุกสิ่งมีชีวิตจะได้รับผลกระทบโดยไม่แบ่งแยกมิตรหรือศัตรู ทักษะนี้อาจเป็นดาบสองคมสำหรับแอ็กนัสหากมันกำลังอัญเชิญกองทัพอันเดดจำนวนมาก แต่ปัญญานี้สามารถแก้ได้โดยการอัญเชิญอันเดดกลุ่มใหม่ออกมาแทน
“หยุดดิ้นรสักที!”
เมื่อขัดขวางมิให้สวาปามจกบัลเผ็ดหลบหนีด้วยทางออกฉุกเฉิน แอ็กนัสปรี่เข้าไปโจมตีด้วยตัวเอง
‘ชิ!’
สวาปามจกบัลเผ็ดทำได้เพียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ใบหน้าของเขาเริ่มบิดเบี้ยวเมื่อตระหนักว่า ความตายคงมิอาจเลื่อนออกไปได้อีกแล้ว
แต่ทันใดนั้น
สตรีผู้เลอโฉมปรากฏกาย
“ฉันจะลงทัณฑ์แกเอง”
ผ้าคลุมขาวบริสุทธิ์สะบัดพลิ้ว เส้นผมดำขลับปลิวลอยตามแรงลม
ชื่อเหนือศีรษะเขียนไว้ว่ายูร่า สายตาลุ่มลึกไม่สั่นคลอนกำลังจดจ้องอสูรชั่วร้ายหมายลงทัณฑ์
นี่คืออดีตแรงเกอร์อันหนึ่งของเกาหลีใต้ที่แบกรับความภูมิใจคนทั้งชาติไว้ก่อนที่กริดจะปรากฏตัว
“กระสุนปัดเป่า”
ปังงง!
เธอลั่นไกใส่แอ็กนัสหนึ่งครั้ง
“อึก…!”
ศีรษะของมันถูกกระสุนฝังอย่างจังโดยไม่ทันตั้งตัว เสียงครวญคราญอย่างเจ็บปวดดังเล็ดลอดออกจากปาก
ความฮึกเหิมถูกสยบ หลอดพลังชีวิตลดลงหนึ่งในสี่ชั่วพริบตา
ปัญหาใหญ่ของมันคือ หลังจากพัฒนาคลาสไปเป็นระดับตำนาน เผ่าพันธุ์ของมันถูกเปลี่ยนให้เป็นครึ่งอสูร การกระสุนจากนักล่าอสูรจึงเป็นของแสลงสุดขีด
“ทำไมกัน…”
มันพยุงร่างขึ้นพลางอัญเชิญโครงกระดูกเป็นกำบังกระสุนนัดถัดไป
“ทำไมต้องมีคนขัดขวางฉันอยู่เรื่อย!”
“…”
“หือ? คิก! คิคิคิก!”
แม้แอ็กนัสจะหัวเราะ แต่ในใจกลับเปี่ยมด้วยโทสะหลังจากได้รับแผลใหญ่กึ่งกลางหน้าผาก
จิตสังหารปริมาณมากแผ่พุ่งใส่หญิงสาวเลอโฉมตรงหน้าทันที
ขณะเดียวกัน ภารกิจใหม่ปรากฏ
[ ภารกิจประจำคลาสที่สองของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลถูกสร้างขึ้น ]
[ อริเก่า ]
นักล่าอสูรคือศัตรูตัวฉกาจผู้ทำลายขุมนรก
ในฐานะที่ท่านเป็นตัวแทนบาเอล เธอจึงมองท่านเป็นศัตรูคู่อาฆาต เธอจะไม่หยุดตามล่าท่าน
เพื่ออนาคตของตัวท่านเอง จงจัดการนักล่าอสูรซะ
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : สังหารนักล่าอสูร
รางวัลสำเร็จภารกิจ : พัฒนาเผ่าพันธุ์จากครึ่งอสูรเป็นอสูรเต็มตัว
( เมื่อท่านกลายเป็นอสูร ท่านจะได้รับเวทมนตร์และทักษะชนิดใหม่ แถมยังเพิ่มจำนวนอสูรที่สามารถทำพันธสัญญาได้ )
เงื่อนไขภารกิจล้มเหลว : ถูกนักล่าอสูรสังหาร
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : ค่าสถานะสูงสุดลดลง 100 แต้มถาวร
คลาสชนิดเติบโตที่พัฒนาไปเป็นตำนานจะมีผลข้างเคียงอยู่หนึ่งเรื่อง—ถึงเลเวลจะไม่ถูกรีเซ็ตเหลือ 1 ใหม่ แต่ก็ยังถูกรีเซ็ตให้เหลือเพียง 300 ถ้วน
เป็นบทลงโทษที่น้อยนิดหากเทียบกับกริด ยูร่า และครอเกล กลุ่มผู้เล่นที่ถูกรีเซ็ตเลเวลจนเหลือ 1 อีกครั้งหลังจากกลายเป็นตำนาน
แต่ข้อเสียไม่ได้มีเพียงแค่นั้น ระดับความยากของภารกิจคลาสตำนานชนิดเติบโตจะสูงกว่าตำนานที่ถูกรีเซ็ตเลเวล แถมบทลงโทษยังรุนแรงกว่ามากหากภารกิจล้มเหลว ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวจะส่งผลให้คลาสอ่อนแอลงอย่างถาวร เป็นความเสี่ยงที่ไม่ต่างจากการปิดตาเดินบนเชือกสูง
สำหรับแอ็กนัสผู้ต้องการหลงลืมโลกแห่งความจริง บททดสอบและความท้าทายยากลำบากคือสิ่งที่มันถวิลหา
แต่หนนี้ถือเป็นกรณีพิเศษที่มันไม่รู้สึกยินดีเลยสักนิด
“ไสหัวไปซะ! อัญเชิญลิชมูมัด!”
เวทมนตร์ทรงพลังหลายสายถูกกระหน่ำยิงใส่ยูร่าอย่างพร้อมเพรียง
เฉกเช่นดิวเลบุล เมื่อมันหลุดพ้นจากพันธนาการของเนตรบาเอล ลำแสงสีขาวถูกบีบอัดในปากและพ่นใส่ยูร่าทันที
***
แตกต่างจากเด็กในวัยเดียวกัน อลิซาเบธไม่เคยย้อมสีผมเลยสักครั้ง
ในมหาวิทยาลัยที่เป็นสังคมแข่งขันความงามและแฟชั่นของหญิงสาว เธอยังคงไปเรียนด้วยเส้นผมสีดำตามธรรมชาติ
เพราะสีดำเข้ากับภาพลักษณ์ของเธอ ที่เหมือนกับตุ๊กตาเอเชียงั้นหรือ? ผู้คนต่างพากันคิดและเชื่อเช่นนี้
แต่ความจริงนั้นแตกต่างออกไป
สำหรับอลิซาเบธ เส้นผมสีดำคือสัญลักษณ์ของยูร่า และนั่นเป็นเหตุผลที่เธอยึดติดกับสีนี้มาก เธอเริ่มคลั่งไคล้ยูร่าผ่านหน้าจอทีวีเมื่อสี่ปีก่อน
“แฮ่ก…แฮ่ก!”
“พี่ยูร่า!”
ยูร่าคือดาราดังระดับโลกที่อลิซาเบธทำได้เพียงเฝ้ามองจากจุดห่างไกลมาโดยตลอด แต่ในวินาทีนี้ บุคคลดังกล่าวกำลังยืนหยัดปกป้องอยู่เบื้องหน้าเธอ
อลิซาเบธตื่นเต้นมากที่วีรบุรุษขี่ม้าขาวเป็นยูร่า แต่หัวใจกลับยิ่งเจ็บแปลบเมื่อการต่อสู้ดำเนินผ่านไปได้พักใหญ่
“อั่ก! บ๊ก…! ไม่สิ อลิซาเบธ! รีบหนีเร็วเข้า! อย่ามัวยืนเหม่อ!”
สวาปามจกบัลเผ็ดไม่คิดทอดทิ้งยูร่าที่มาช่วย พวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีในงานแข่งนานาชาติที่ผ่านมา
แต่ความสิ้นหวังยังคงไม่เลือนหายเมื่อแอ็กนัสเริ่มแสดงพลังที่แท้จริงโดยใช้อัศวินความตายและโครงกระดูกนักรบล้อมไว้
ท่ามกลางการต่อสู้ที่วุ่นวาย อลิซาเบธกลับยังยืนมองโดยไม่รีบหนีไป เธอไม่ต้องการเอาตัวรอดคนเดียวโดยทิ้งคุณลุงและยูร่าไว้เบื้องหลัง คนหนึ่งคือสมาชิกครอบครัว ส่วนอีกคนคือไอดอลในดวงใจ
แน่นอนว่า เธอจะรีบหนีทันทีหากตระหนักว่าตัวเองถ่วงแข้งขาผู้อื่น แต่สถานการณ์ปัจจุบันมิได้เป็นเช่นนั้น
แอ็กนัสมิได้ทำร้ายอลิซาเบธหรือจับเธอเป็นตัวประกัน มันเพียงรับมือยูร่าและสวาปามจกบัลเผ็ดอย่างตรงไปตรงมาด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า
ขณะยูร่าบีบอัดกระสุนนัดใหม่หลังจากหลบเวทมนตร์จากลิชมูมัดและลำแสงดิวเลบุล เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แอ็กนัสได้หายไปจากการมองเห็นอย่างสมบูรณ์
ในจุดที่แอ็กนัสเคยยืน มีโครงกระดูกตนใหม่โผล่ขึ้นคอยเป็นกำบังที่มิดชิด
แอ็กนัสมั่นใจว่ายูร่าเล็งยิงมันจากระยะไกล จึงอาศัยโครงกระดูกคอยปัดป้อง ถือเป็นสติปัญญาที่เฉียบแหลมในการรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ขณะยูร่าพยายามเล็งยิงใส่แอ็กนัสที่หลบซ่อน วงเวทมนตร์ปริศนาได้ปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าเธอ นี่คือสัญญาณบอกเหตุเมื่อลิชมูมัดเริ่มร่ายเวท
ก่อนหน้านี้ ยูร่าตกที่นั่งลำบากเมื่อถูกมูมัดกระหน่ำยิงด้วยไฟบอลหลายนัด เธอจึงกระโจนหลบหลีกเวทมนตร์ระลอกใหม่โดยไม่ลังเล
ยูร่ากระโดดหลบวงเวทมนตร์ด้วยท่าทีตอบสนองฉับไว แต่กลับถูกดาบปริศนาแทงใส่จากด้านหลังโดยไม่คาดคิด ความเจ็บแปล่บแล่นไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว เธอรีบง้างนกปืนสั้นพลางหันกลับไปยิงเป่ากระโหลกโครงกระดูกที่ลอบทำร้ายจนแหลกละเอียด
บึ้มมมมม!
ทว่า พื้นดินในจุดที่ฝ่าเท้าร่อนลงแตะพื้นกลับระเบิดขึ้นอย่างไร้สัญญาณบอกเหตุ เปลวเพลิงร้อนแรงลุกโชนขึ้นคลอกร่าง
นี่คือกับดักเปลวเพลิงทีลิชมูมัดแอบติดตั้งไว้ล่วงหน้า เป็นเพราะมีโครงกระดูกนักรบคอยดึงความสนใจ ยูร่าจึงติดกับเข้าอย่างจัง
“พี่สาว!”
“คิคิคิก! คุฮ่าฮ่าฮ่า!”
ท่ามกลางดันเจี้ยนที่พังครืน เสียงหัวเราะผสมปนเปไปกับเสียงครวญครางแสนเจ็บปวด
***
“นั่นใช่ไหม?”
กริดเอ่ยปากถามหลังจากเห็นยอดเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร
บุลเล็ตซึ่งไม่ทันสังเกตุเห็น เขารีบหันมองตามปลายนิ้ว จากนั้นก็ขานรับพลางผงกศีรษะถี่ยิบ
“ช…ใช่แล้ว! นั่นแหละภูเขาเจรัด!”
“เป็นการเดินทางที่ยาวนานดีนะ”
อัญมณีล้ำค่าหลากสีกำลังส่องประกายแวววับในช่องสัมภาระกริด
สมบัติล้ำค่าจากบีเลียลที่มนุษย์ทั่วไปแทบไม่มีโอกาสได้ครอบครอง
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,262
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สนุกมากครับ ขอบคุณครับแอด
ReplyDeleteสนุกมาก
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ😊🙏
บาเอลก็เกินไปแค่ถุ้ยน้ำลายใส่ก็กลายพันธุ์
ReplyDeleteในที่สุดกริดกับบุลเล็ตก็เห็นภูเขาสักทีการเดินทางนับ2ตอน
ReplyDeleteเป็นการเดินทางที่ยาวนานดีนะ 555+
Delete