จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 855



[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 12,300 หน่วย ]

    ‘เอ๋?’

    “อะไรกัน?”

    ทั้งผู้โจมตีและผู้ถูกโจมตีต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจพร้อมกัน

    การความเสียหายเกินหนึ่งหมื่นหน่วยมิใช่เรื่องปรกติสำหรับยูร่าซึ่งเป็นผู้โจมตี  และแอ็กนัสซึ่งเป็นผู้ถูกโจมตี  

    เมื่อครู่ที่ยูร่าใช้ปืนสั้นวิศกรรมเวทมนตร์กระหน่ำยิงใส่แอ็กนัส  แม้จะเป็นธาตุชนะทาง  แต่ความเสียหายสูงสุดกลับรุนแรงเพียง 4,700 หน่วยเท่านั้น  

    ในปัจจุบัน  เธอโจมตีได้รุนแรงกว่าปรกติถึงสามเท่า  แถมยังเกิดจากการโจมตีธรรมดา… 

    ฝ่ายที่ตกตะลึงมากกว่าย่อมเป็นแอ็กนัส  ตัวมันมีทักษะติดตัวที่ช่วยลดความเสียหายทางกายภาพได้ 30%  แต่กลับถูกโจมตีได้รุนแรงถึงเพียงนี้  

    ไม่แปลกที่จะเริ่มเกิดอาการหวั่นวิตก  

    แอ็กนัสผงะถอยหลังหลายก้าวเพื่อตั้งหลัก  มันไม่คิดเสี่ยงกับพลังทำลายที่อยู่นอกเหนือการคำนวน  

    ยูร่าจึงฉวยโอกาสนี้รีบตรวจสอบรายละเอียดของดาบในมือ

[ +1 ดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมจนก่อเกิดภวังค์ปรารถนาแรงกล้า ]
เกรด : มิธ
ความคงทน : 1,660/1,660
พลังโจมตี : 3,780+189
* เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 20%
* เพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์ 20%
* เพิ่มพลังโจมตีธาตุไฟ 30%
* เพิ่มพลังโจมตีธาตุมืด 30%
* เพิ่มพลังโจมตีธาตุสายฟ้า 15%
* โจมตีใส่สิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์รุนแรงขึ้น 50%
* มีโอกาสปานกลางที่จะสร้าง ‘ปลวเพลิงมหึมา’ ขณะโจมตี
* มีโอกาสเล็กน้อยที่จะสร้าง ‘ภาพหลอน’ ขณะโจมตี
* มีโอกาสเล็กน้อยที่จะสร้าง ‘สายฟ้าสีชาด’ ขณะโจมตี
* มีโอกาสเล็กน้อยที่จะสร้าง ‘เพลิงทมิฬ’ ขณะโจมตี
… 


    ‘นี่คือพลังของไอเท็มเกรดมิธ!’

    ปืนวิศวกรรมที่ยูร่าได้รับจากกริดยังคงมีเกรดเพียงยูนีค  ในมุมมองของเธอ  มันจะทรงพลังขึ้นมากหากพัฒนาเป็นเลเจนดารี  และเกรดมิธก็จะยิ่งทรงพลังกว่าเดิมหลายเท่า

    ‘พลังโจมตีที่เพิ่มจากไอเท็มเกรดมิธ +1   เทียบได้กับไอเท็มเกรดเลเจนดารีเสริมแกร่งมากถึงสามระดับ…ยองวูเสริมแกร่งสำเร็จได้ยังไง?’

    ยูร่าทราบดีว่า  ไอเท็มเกรดมิธไม่มีจุดปลอดภัยในการเสริมแกร่ง 
    
    การเสริมแกร่งแม้เพียง +1 จะมีโอกาสสำเร็จต่ำมาก  อาจต้องพยายามเสริมแกร่งมากถึงร้อยครั้งพันครั้ง  ขึ้นอยู่กับดวง  แต่กริดกลับมีดาบเกรดมิธ +1 ไว้ในครอบครอง

    ยูร่ามั่นใจ  กริดต้องเป็นผู้กอบกู้ประเทศในชาติที่แล้ว

    ‘แม้จะโชคร้ายไปบ้าง  แต่เขามักโชคดีในช่วงเวลาสำคัญเสมอ’

    เคยมีคำกล่าวไว้ว่า  วีรบุรุษธรรมดาสามารถกลายเป็นเซียนสวรรค์ได้หากชะตาฟ้าลิขิต  แต่แน่นอน  สิ่งนี้ต้องมาพร้อมความเพียรพยายาม

    ทว่า  ในความเป็นจริงนั้น  ยูร่าย่อมไม่ทราบว่ากริดเสริมแกร่งดาบ +1 สำเร็จจากม้วนคาถาที่สุ่มความสำเร็จ 100% ตั้งแต่ +1 ถึง +3 ระดับ  

    หมายความว่ากริดคือบุคคลที่ดวงซวยบัดซบ  หาใช่ดวงดีอย่างที่เธอคิด

    “คิคิก!  คิก!”

    แอ็กนัสหัวเราะด้วยร่างกายที่สั่นระริก

    นับตั้งแต่กลายเป็นตำนาน  มันแทบไม่เคยได้รับความเสียหายเกินหนึ่งหมื่นหน่วยมาก่อน  ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคือคลาสที่เป็นภัยคุกคามต่อผู้เล่นทั้งโลก  จึงไม่แปลกที่จะได้รับทักษะช่วยเสริมความถึกทนร่างกาย

    กระนั้น  มันกลับได้รับการโจมตีที่รุนแรงถึง 12,300 หน่วย  หมายความว่า  พลังไอเท็มของกริดสามารถทำลายสมดุลซาทิสฟายอย่างราบคาบ  

    และพลังนั้นถูกส่งต่อมาถึงยูร่าในปัจจุบัน

    “คิฮ่าฮ่าฮ่า!”

    แอ็กนัสหยุดสั่น  มันเลื่อนมือขึ้นไปลูบหน้าผากพลางแสยะยิ้มน่าขนลุก

    แอ็กนัสกำลังตื่นเต้นงั้นหรือ?

    กริด  ยูร่า  และสวาปามจกบัลเผ็ด  ทั้งสามพากันขมวดคิ้วสับสน  ส่วนบุลเล็ตกับอลิซาเบธกำลังยืนแข็งทื่อด้วยสีหน้าหวาดกลัว

    “มีเรื่องน่ายินดีนักรึไง?”

    กริดถามออกไปตามตรง

    “คิก…ฮิฮิก”

    แอ็กนัสหยุดหัวเราะพร้อมกับให้คำตอบ

    “ฉันดีใจที่รู้ว่าโลกใบนี้ไร้ขีดจำกัด”

    “ไร้ขีดจำกัด?”

    มันกำลังหมายถึงอะไร?  

    ขณะทุกคนสับสน  แอ็กนัสชี้นิ้วมายังกริด

    “แกคือสิ่งที่พิสูจน์เรื่องนั้น”

    “ฉัน?”

    “ถูกต้อง  แกทำเรื่องที่เหนือความคาดหมายเสมอ  ยอดเยี่ยม…ยอดเยี่ยมมาก!!”

    แอ็กนัสเริ่มเห็นภาพหลอนของคนรักที่ตายไปแล้ว  บุคคลเดียวที่ทำให้ชีวิตของมันดำเนินต่อไปได้  เธอกำลังยืนมอบรอยยิ้มแสนสดใสเฉกเช่นทุกครั้ง  

    แอ็กนัสสัมผัสถึงชีวิตที่ทั้งสองจะได้มีกันและกันอีกครั้ง

    มันมั่นใจว่าตนสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนรักในโลกซาทิสฟายได้  ในเมื่อกริดแสดงให้เห็นหลายครั้งแล้วว่า  ซาทิสฟายคือโลกที่ไร้ขีดจำกัด

    หลังจากส่งเสียงหัวเราะน่าขนลุกราวกับคนเสียสติอยู่พักใหญ่  ในที่สุดมันก็สงบลงพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างเหม่อเลย

    “ถึงเวลาต้องกินยาระงับสติแล้วรึไง?”

    ท่ามกลางบรรยากาศอึดอัด  กริดเอ่ยปากถามเชิงประชดประชันปนยั่วยุ  

    แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับจากแอ็กนัส

    สำหรับมันแล้ว ‘ปัจจุบัน’ ไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป

    “คิฮ่าฮ่าฮ่า!”

    แอ็กนัสพุ่งปรี่เข้าหายูร่าด้วยรอยยิ้มประหลาด  มันกวัดแกว่งอาวุธที่สร้างจากเขาจอมอสูรใส่ดาบอัสนีฯ ในมือเธอ  

    คำสาปลดทอนความคงทนและพลังโจมตีเริ่มทำงาน

    ‘มีผลกับไอเท็มเกรดมิธด้วยหรือ?’

    ยูร่าเคยลิ้มรสคำสาปอสูรจากแอ็กนัสในศึกก่อนหน้า  แต่เธอต้องประหลาดใจเมื่อคำสาปชนิดนี้ส่งผลต่อไอเท็มเกรดมิธด้วย  

    ขณะยูร่าถูกแอ็กนัสพัวพันด้วยดาบ  โครงกระดูกนักรบสองตนผุดขึ้นจากพื้นดินด้านหลังและลอบโจมตี  

    สำหรับยูร่าที่มีพลังชีวิตเหลืออยู่ไม่มาก  การโจมตีจากพวกมันคือสิ่งที่มิอาจมองข้าม  หากถูกฟันเข้าสักดาบ  เกรงว่าระดับพลังชีวิตอาจลดลงถึงขีดอันตรายอีกครั้ง

    ขณะเกิดความคิดหลบหนี  เสียงตะโกนจากกริดดังแว่วในหู

    “อย่าหนี!  ปะทะซึ่งหน้า!”

    การหลบหลีกจะเปิดโอกาสให้ศัตรูตั้งตัวและมีเวลาสวนกลับ  
    
    หลักการต่อสู้ของบุคคลโอเวอร์เกียร์นั้นง่ายมาก  แลกซึ่งหน้า  ตาต่อตาฟันต่อฟัน  ซึ่งยูร่ายังไม่คุ้นชินนัก

    “อื้อ!”
    
    เธอขานรับ  ยูร่าละทิ้งเทคนิค  เมินเฉยโครงกระดูกนักรบ  และหันไปกระหน่ำโจมตีใส่แอ็กนัสอย่างไม่หยุดพัก

    จะเกิดอะไรขึ้นหากแอ็กนัสโจมตีสวนกลับ?

    คำตอบคือ…ช่างมันปะไร

[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ สายฟ้าสีชาดแสดงผล ]

    ความดุดันของยูร่าส่งผลให้พลังชีวิตแอ็กนัสต้องลดฮวบฮาบ

    หลอดพลังชีวิตของเธอก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน  แต่ฝ่ายแอ็กนัสน่าเป็นห่วงกว่ามาก  ทักษะติดตัวที่สร้างความเสียหายเพิ่มเติมแก่เผ่าพันธุ์อสูรช่วยอำนวยความสะดวกกับยูร่าไม่น้อย

    “ย๊ากกก!”

    “คิคิก! คิฮ่าฮ่า!”

    เพลิงสีดำ  เพลิงสีส้ม  และสายฟ้าสีแดง  ทุกสิ่งผสมปนเปท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืน  คนทั้งสองไม่แยแสว่าร่ายกายจะบาดเจ็บบอบช้ำเพียงใด  ขอแค่ได้ทำให้อีกฝ่ายเจ็บหนักกว่าก็พอ  

    ในตอนแรก  ยูร่าคล้ายได้เปรียบกว่ามาก  สาเหตุเพราะพลังชีวิตแอ็กนัสจากเต็มหลอดต้องจมก้นในเวลาเพียงไม่นาน  ส่วนพลังชีวิตของยูร่าลดลงอย่างเชื่องช้า  จากหนึ่งส่วนสามของหลอดแทบไม่กระดิกลง  

    แต่ใช่ว่ายูร่าจะไม่ประสบปัญหา

[ ผู้เป็นตำนานย่อมไม่ตายโดยง่าย ]

    แอ็กนัสยังเหลือประกันชีวิตอมตะ  ส่วนยูร่าชิงใช้ไปก่อนแล้ว

    “คิก…!”

    พลังชีวิตแอ็กนัสที่เคยลดลงหลายระดับ  ยามนี้นิ่งค้างที่หนึ่งหน่วย  

    ยูร่าสูญเสียความฮึกเหิมทันที  เธอรีบหาโอกาสถอยเพื่อตั้งรับ

    ศัตรูจะเป็นอมตะห้าวินาที  ส่วนเธอไม่ใช่  ดังนั้นต้องยื้อชีวิตให้นานที่สุดในห้าวินาทีหลังจากนี้

    ทางด้านแอ็กนัส  เมื่อมันเข้าสู่ช่วงเวลาอมตะ  แอ็กนัสเริ่มร่ายมนตร์ดำคำสาปที่กินวงกว้างรัศมีสิบเมตรใส่พื้นดินใต้ฝ่าเท้ายูร่า

    เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมาก

    หากมันร่ายคำสาปใส่ยูร่าโดยตรง  แน่นอนว่า  พลังของตำนานย่อมต้านทาน  แต่พื้นดินใต้เท้ายูร่าไม่

    คำสาปกัดกร่อนแปรเปลี่ยนให้พื้นดินกลายเป็นบ่อโคลนพิษ  ดูดแข้งขาและพันธนการความเร็วของเธอไว้

    “นั่นมัน…”

    “พี่สาว!”

    สวาปามจกบัลเผ็ดและอลิซาเบธต่างหน้าถอดสีพร้อมกัน  พวกเขาคาดว่ายูร่าคงไม่รอดเงื้อมมือแอ็กนัสแน่แล้ว  เพราะอีกฝ่ายพันธนาการเธอไว้โดยสมบูรณ์  

    แอ็กนัสเองก็มั่นใจว่ามันเป็นฝ่ายชนะ

    ขณะเดียวกัน  บุลเล็ตหลับตาลงด้วยสีหน้าเจ็บแปลบ  คนหนึ่งเป็นไอดอล  ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนใหม่  บุลเล็ตทำตัวไม่ถูกในศึกนี้  เขาเอาใจช่วยฝ่ายใดไม่ได้  และไม่ต้องการเห็นใครสักคนตายไป

    แล้วกริดล่ะ?  

    กริดไม่พูดพร่ำทำเพลง  เขาชัก ‘ความผิดพลาด’ ออกมาถือพร้อมกับเริ่มก้าวขา  

    ชายหนุ่มใช้อาวุธในมือเหวี่ยงฟันเพื่อหักเหวิถีดาบแอ็กนัสซึ่งกำลังจะเสียบร่างยูร่า

    “ฉันไม่เคยพูดว่านี่เป็นศึกหนึ่งต่อหนึ่ง”

    กริดกระโจนเข้าร่วมสนามรบพลางใช้วิชาดาบแพ็กม่า·คลื่น  จากนั้นก็กระหน่ำโจมตีใส่แอ็กนัสที่ถูกลดความเร็วลง  

    เมื่อถูกทะลวงร่างด้วยดาบสำรองกริด  แอ็กนัสส่งเสียงครางเจ็บปวดเป็นระยะ 

    มันพยายามดึงดาบกลับ  แต่น่าเสียดายที่สายเกินไป  โลหิตไหลซึมทั่วร่างแอ็กนัสขณะกริดรัวฟันโดยไม่พักหายใจ

    สวาปามจกบัลเผ็ด  อลิซาเบธ  บุลเล็ต  และยูร่า  ทุกคนต่างทึ่งไปกับฉากตรงหน้า

    การดวลอย่างสมศักดิ์ศรีระหว่างสองตำนาน  กริดกลับยื่นมือเข้าสอดแทรกอย่างไร้ยางอาย (?) เนี่ยนะ

    ช่างน่าขัน

    “คิคิก!  คิคิก!”

    แอ็กนัส  เหยื่อของความไร้ยางอาย  มันมิได้ตัดพ้อหรือต่อว่ากริด

    เหนือสิ่งอื่นใด  ไม่มีการต่อสู้ที่ยุติธรรมบนโลกใบนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว  ผู้ชนะคือฝ่ายเขียนประวัติศาสตร์และกำหนดความถูกต้อง  ส่วนผู้แพ้ไม่หลงเหลือสิ่งใดไว้ให้โลกจารึก

    แอ็กนัสคือไอ้ขี้แพ้มาหลายปีในช่วงชีวิตก่อนหน้า  มันทราบความจริงแสนเจ็บปวดดีกว่าใครทั้งหมด

    “ชิ…!”

    บ่อโคลนพิษเริ่มส่งผลต่อความเร็วกริด  แอ็กนัสรอดตัวจากดาบกริดก่อนที่บัฟอมตะของมันจะหมดลง

    กริดที่แข้งขาล้าหลังจากถูกบ่อโคลนดูดกลืน  เขารีบหันไปตะโกนกับยูร่า

    “มัวทำอะไรอยู่?  รีบฆ่ามันเร็วเข้า!”

    “ข…เข้าใจแล้ว!”

    แอ็กนัสถูกกริดดึงความสนใจไปพักใหญ่  เธอจึงมีเวลาเตรียมตัวนานมาก  ดาบอัสนีฯ ถูกกระหน่ำแทงใส่แผ่นหลังแอ็กนัสที่เผยช่องว่างมากมาย

    ลงเอยด้วย… 

[ ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลพ่ายแพ้! ]

[ ท่านสำเร็จภารกิจ ‘อริเก่า’ ]
[ พลังที่ถูกผนึกไว้ถูกปลดปล่อย ]

[ ท่านได้รับทักษะใหม่ ‘ดาบแห่งแสง’ ]
[ ทักษะ ‘ความชำนาญดาบ’ ถูกลบ ]

    แอ็กนัส  หนึ่งในผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดของโลก  ซึ่งเอาชนะยูร่าและสวาปามจกบัลเผ็ดติดต่อกันอย่างไม่ยากเย็น  ยามนี้ถึงคราวเสียชีวิต  เนื่องจากต้องสู้กับกริดโดยที่ทักษะทั้งหมดอยู่ในระยะหน่วง

    บ่อโคลนพิษสลายไป  ร่างยูร่าอาบด้วยแสงสีฟ้าพลางทรุดลงกับพื้นอย่างอิดโรย  

    กริดรีบคว้าตัวเธอไว้พลางจ้องมองด้วยสายตาอ่อนโยน

    “ทำได้ดีมาก”

    “ขอบคุณ”

    คนทั้งสองยิ้มให้กันอย่างอบอุ่นขณะประสานสายตา  

    กริดและยูร่าย่อมทราบดีว่า  พวกเขาและโอเวอร์เกียร์ต้องเผชิญหน้ากับแอ็กนัสอีกบ่อยครั้งในอนาคต  

    ปัจจุบัน  แอ็กนัสได้เลือกเดินบนเส้นทางที่มีชะตากรรมต้องห้ำหั่นกับมนุษย์

    *** 

    “…”

    สิ่งแรกที่ทำหลังจากคืนชีพคือการตรวจสอบช่องสัมภาระ  แอ็กนัสกังวลว่าศิลาแห่งชีวิตอาจดรอปหลังจากถูกฆ่า  แต่โชคดีที่อัญมณีแสนสำคัญยังคงอยู่

    “ดีจริง…ขอบคุณสวรรค์”

    ดวงตาของมันแดงก่ำขณะโอบกอดศิลาแห่งชีวิตอย่างแนบแน่น

    ทันใดนั้น  เสียงของบาเอลดังแว่วในหู

    >> เจ้าต้องการพลังมากกว่านี้ไหม?

    “หุบปาก!”

    >> เจ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเรา

[ ภารกิจประจำคลาส ‘สังหารหมู่ (1)’ ถูกสร้างขึ้น ]

[ สังหารหมู่ (1) ]
ระดับความยาก : ภารกิจคลาส
    บาเอล  จอมอสูรลำดับหนึ่ง  มันต้องการดวงวิญญาณมนุษย์
    จงสังหารมนุษย์เพื่อเซ่นสังเวยดวงวิญญาณแก่บาเอล
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : สังหารผู้เล่น 1,000 คน (0/1,000)
รางวัลภารกิจ : 
- ค่าพลังอสูร 200,000 แต้ม
- ภารกิจต่อเนื่อง ‘สังหารหมู่ (2)’

    “ไม่ว่างอีกแล้ว…สินะ…”

    แผ่นหลังแอ็กนัสเปี่ยมด้วยความโศกเศร้าและโดดเดี่ยว  มันก้าวเดินด้วยแข้งขาสั่นระริกไร้เรี่ยวแรง  ไม่หลงเหลือมาดของชายเสียสติที่ผู้คนรู้จักแม้แต่น้อย

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,263
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สมมตินะ ถ้าแอ๊กนัสสามารถคืนชีพภรรยาตัวเองสำเร็จ เป็นไปได้ไหมที่แอ๊กนัสจะหลอกล่อกริดไปเป็นลูกน้องโดยที่บกว่าจะตัวเองจะคืนชีพข่านให้ ?

    ReplyDelete
    Replies
    1. น่าคิด🤔
      คิดได้หลายแบบ

      Delete
    2. เราคิดว่ามันคงอีกนาน มันคงไม่ถึงจุดนั้นหรอก มันคงจะยากกับกริดและเแอ็กนัส เพราะยิ่งกริดมีความผูกพันธ์กับ เพื่อน NCP คงยาก เพราะตอนนี้ยิ่งแอ็กนัสได้ภาระกริดฆ่าผู้เล่น เซ่นสังเวยและสมมุติว่าไปพบเจอพวกพ้องกริดเขาและฆ่าพวกของกริด แน่นอนว่า เรื่องการฟื้นคืนชีพของข่าน ดริดคงตัดใจ เพราะข่านตายไปแล้ว แต่พวกพ้องที่มีในชีวิตจริงย้อมสำคัญกว่า

      Delete
    3. อย่างงี้นี่เอง

      Delete
    4. ไม่แน่นอน กริดรู้ดีเพราะต้องต่อสู้กับพวกทีฟื้นคืนชีพมาเป็นอมตะอย่าง มาดรา มูมัด แต่ไร้ความสุข แถมได้อ่านไดอารี่ของมาดราแล้วด้วย อีกอย่างกริดสามารถบรรจุวิญญานได้แต่ก็ให้ข่านไปอย่างสงบ

      Delete
  2. สงสารแอ๊กนัส
    .
    ..
    สนุก​มาก​
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​🙏

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ น่าสงสาร แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ โดยที่ไม่ทำเหมือนคนที่มันทำเรา แต่ถ้าเป็นพวกไม่ดีก็จัดการไป ไม่ใช่ทำแย่กับทุกคน มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกเดินทางไหนมากกว่า ขอบคุณ😢

      Delete
    2. แค่อยากเจอคนรัก
      แต่ไม่ยอมพูดคุยเจรจา​
      คิดแต่เพียงว่าคนอื่นเป็นเหมือนกันหมด
      #คงโดนอะไรมาเยอะเลยฝังใจ

      Delete
    3. ใช่ นี้แหล่ะ เป็นอะไรที่น่าสงสารมาก เหมือนตายทั้งเป็น

      Delete
  3. แอบเชียร์ให้แอ็กนัสชนะอ่ะ มันดูแพ้ง่ายไม่สมราคาคุยที่อวยนางมาตลอดทั้งเรื่องเลย

    ReplyDelete
  4. อยากลองให้แอ็กนัสมีความสุขแบบจริงๆจัง

    ReplyDelete
  5. คืนชีพเมียมาสิ แล้วให้บาเอลเอาไปปู้ยี่ปู้ยำอีกซักรอบ ดำดิ่งลงไปอีกสิ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00