จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 868



    วีรบุรุษผู้ผดุงคุณธรรมที่นักกวีทั่วทวีปนำไปแต่งเพลงกลอนขับขาน  บุคคลแรกที่สร้างเทวรูปและก่อตั้งโบสถ์เพื่อเป็นเกียรติแก่เทพธิดา  นักบุญที่กลายเป็นสันตะปาปาคนแรกของทวีปตะวันตก

    นี่คือตำนานต้นกำเนิดโบสถ์รีเบคก้า

    ดาบศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งแรกที่เทพธิดารีเบคก้าทรงประทานแก่มนุษย์  เป็นสัญลักษณ์ของสันตะปาปา  เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของโบสถ์

    ในช่วงสิ้นสุดยุคสมัยสงครามมืด  ดาบศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกปักลงในหินใหญ่และมิอาจนำออกมาใช้งานได้อีก  แต่ความเป็นสัญลักษณ์ยังคงอยู่  มูลค่าเดิมของดาบยังไม่เสื่อมคลาย

    อย่างน้อยก็ในสายตาของสาวกรีเบคก้าทุกคน

    ‘สมบัติล้ำค่าของพวกเราตกอยู่ในมือวิหารยาธานชั่วช้า!’

    ตั้งแต่สาวกรีเบคก้าระดับล่างสุดไปจนถึงสภาอาวุโสที่มีบรรดาศักดิ์สูงสุด  ไม่มีใครที่ไม่กระวนกระวายใจกับภาพตรงหน้า  

    ดาบเล่มนี้เป็นของวิเศษศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกสัมผัสแม้แต่ปลายนิ้ว  ทว่า  ปัจจุบันกลับถูกข้ารับใช้ยาธานช่วงช้าช่วงชิงไปแล้ว

    ฉากตรงหน้า  ยากเหลือเกินที่จะให้ทำใจเชื่อลงและยอมรับได้

[ ดาบที่ปักอยู่ในหินถูกวิหารยาธานขโมยไป! ]
[ ขวัญกำลังใจของทุกคนในโบสถ์รีเบคก้าลดลงหลายระดับ ]
[ พลังป้องกันและค่าต้านทานของสาวกรีเบคก้าลดลง 60% ]

[ สันตะปาปามีหน้าที่ขับเคลื่อนมวลชน ]
[ สันตะปาปาไม่สูญเสียขวัญกำลังใจ ]

[ ดาบปักในหินถูกปนเปื้อนด้วยแก่นยาธาน!  พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เคยหลงเหลือในดาบเพียงเจือจาง  ยามนี้ใกล้ดับมอดเต็มที ]
[ สมาชิกฝ่ายรีเบคก้าทุกคนจะตกอยู่ในอาการสับสน 10 วินาที ]

[ สันตะปาปามีหน้าที่ขับเคลื่อนมวลชน ]
[ ท่านต้านทานอาการสับสน ]

    แม้ดาเมี่ยนจะรอดพ้นจากอาการสับสนที่เป็นระบบของเกม  แต่จิตใจของเขากลับไม่ห่างจากความสับสนมากนัก

    “ได้ยังไง…”

    สถานการณ์เลวร้ายตรงหน้าคือสิ่งที่ดาเมี่ยนไม่เคยนึกถึงมาก่อน  

    เขากำลังลนลานสุดขีด  หัวสมองเริ่มว่างเปล่าและขาวโพลน

    ‘เป็นภารกิจที่ไม่มีวันสำเร็จรึไง?’

    ปัจจุบัน  ดาเมี่ยนถูกตรึงโดยสมบูรณ์จากเวทมืดทรงพลังของเทพยาธาน  เขาถูกตัดออกจากโลกภายนอกด้วยม่านทมิฬจนมิอาจลงมือทำสิ่งใดได้

    แม้ฉากตรงหน้าคือภาพการล่มสลายของโบสถ์  แต่ดาเมี่ยนก็ทำได้เพียงยืนมอง
    
    ‘คิดเร็วเข้า!  คิดให้ออกดาเมี่ยน!’
    
    ในฐานะโอตาคุ  ดาเมี่ยนย่อมเคยดูภาพยนต์  อมิเมะ  รวมถึงอ่านการ์ตูนมามาก  เหตุการณ์เหนือจินตนาการเคยผ่านหูผ่านตามาแล้วหลายรูปแบบ  

    ดาเมี่ยนลองปรับเปลี่ยนมุมมอง  เขาหลับตาลงและจิตนาการซาทิสฟายในฐานะนักอ่านการ์ตูนคนหนึ่ง  โดยมีพาลาดินที่ชื่อดาเมี่ยนเป็นตัวเอก

    ‘ไม่ว่าจะมองมุมไหน  โบสถ์รีเบคก้าก็ไม่มีทางล่มสลายง่ายขนาดนี้แน่  เพราะหากเป็นเช่นนั้น  คนชั่วทั่วทั้งทวีปจะพยายามอัญเชิญจอมอสูรขึ้นมาบนโลก  และสมดุลของซาทิสฟายก็จะพังครืน’

    สรุปโดยสั้นคือ  โลกกึ่งกลางจะมีสภาพไม่ต่างจากขุมนรก  เป็นโลกที่ปราศจากความหวังหรืออิสระโดนสิ้นเชิง  

    แต่ประธานใหญ่ลิมชอลโฮเคยกล่าวไว้ชัดเจนว่า  เขาเฝ้าฝันจะให้ซาทิสฟายเป็นโลกที่ทุกคนได้รับอิสระสูงสุด  เป็นโลกสำหรับเติมเต็มความสุขสมกับชื่อของมัน

    ชายคงนั้นคงไม่วางแผนให้โลกกึ่งกลางถูกเปลี่ยนเป็นขุมนรกแน่

    ‘ไม่มีทางเด็ดขาด  โบถส์รีเบคก้าจำเป็นอย่างมากต่อสมดุลของโลก’

    ร่างกายดาเมี่ยนเริ่มสั่นระริกจากภาระอันหนักอึ้งที่ตนต้องแบกรับ

    ในวินาทีนี้  เขาเริ่มตระหนักว่า  การกระทำของตัวเองจะส่งผลต่อทวีปไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง  ความตึงเครียดเริ่มเข้าแทรกแซงในจิตใจดาเมี่ยนทุกอนู

    ‘ทำไมถึงให้บุคคลเพียงผู้เดียวแบกรับชะตากรรมของโลกไว้?’

    การสูญสิ้นโบสถ์รีเบคก้าย่อมหมายถึงการสูญสิ้นทวีป  และดาเมี่ยนคือคนเดียวที่มีพลังหยุดยั้งเหตุการณ์นั้น  เขาถูกบีบเค้นหัวใจอย่างหนักจากสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ

    หากจิตใจของดาเมี่ยนอ่อนแอเฉกเช่นมนุษย์ปรกติ  บางทีเขาอาจสติหลุดจนสมองขาวโพลนโดยสมบูรณ์ไปแล้ว  

    แต่ในฐานะโอตาคุ  ดาเมี่ยนเคยได้รับแรงกดดันจากคนรอบข้างมาทั้งชีวิต  ของแค่นี้ยังไม่มากพอจะผลักให้เขาล้มลงหัวคะมำ

    แน่ล่ะ  หากดาเมี่ยนปรกติจริง  เขาไม่มีทางเที่ยวแหกปากตะโกนว่า ‘อิสซาเบล…ฉันรักเธอ!’ ในงานประชุมแสนสำคัญของโบสถ์  

    แถมยังกล้าเทิดทูนบูชา ‘กริดซามะ’ ต่อหน้าชาวญี่ปุ่นคลั่งชาติบ่อยครั้งโดยไม่แยแส

    ใช่แล้ว  ดาเมี่ยนไม่ปรกติ

    ‘ก็เอาเซ่…!’

    ชายคนนี้แปรเปลี่ยนแรงกดดันให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อน  ความกังวลในแววตาเริ่มสลายหายไป

    ตนก็เป็นตัวเอกในโลกซาทิสฟายเช่นกัน  เหมือนกับกริด  นี่คือห้วงความคิดปัจจุบันของดาเมี่ยน

    ‘เค้นสมองคิดเข้า!’

    เมื่อมั่นใจว่า  ต้องมีทางออกสักแห่งซ่อนอยู่ท่ามกลางสถานการณ์สิ้นหวัง  ดาเมี่ยนบังคับสมองตัวเองให้ประมวลผลอย่างผิดธรรมชาติ

    จนเกิดเป็นสมมติฐานขึ้นข้อหนึ่ง

    ‘จะเกิดอะไรขึ้นหากสันตะปาปาในปัจจุบันเป็น NPC?’

    มีโอกาสสูงที่ NPC สันตะปาปาจะผ่านวิกฤติครั้งนี้อย่างง่ายดายเพราะได้ยินเสียงกระซิบล่วงหน้าจากเทพธิดารีเบคก้า  
    
    ความได้เปรียบของ NPC พิเศษคือ  พวกเขาจะเข้าใจเนื้อเรื่องหลักของซาทิสฟายได้ลึกกว่าผู้เล่นมาก

    ผู้เล่นย่อมไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน  ส่งผลให้ดาเมี่ยนกำลังเผชิญวิกฤติเฉกเช่นปัจจุบันโดยขาดการรับมือที่ดีพอ  

    เทียบกับ NPC แล้ว  ผู้เล่นเสียเปรียบกว่ามากในแง่ข้อมูลข่าวสาร

    แต่แล้ว  ดาเมี่ยนเกิดฉุกคิดบางสิ่ง

    ‘ผู้เล่นเสียอาจเปรียบ NPC ในด้านข้อมูลก็จริง  แต่ยังมีอีกหลายจุดที่ผู้เล่นได้เปรียบ NPC มาก  เราต้องหาทางออกในฐานะผู้เล่นดาเมี่ยน  มิใช่สันตะปาปาดาเมี่ยน’

    ยิ่งเวลาผ่านไป  เสียงระเบิดก็ยิ่งถี่ยิบและรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ  

    สาวกรีเบคก้าส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนทรมาณ  ดาเมี่ยนขบกรามแน่นพลางฝืนมองข้ามความเจ็บปวดของคนเหล่านี้ชั่วขณะ  

    ปัจจุบัน  เขาต้องรีบหาทางแก้ปัญหาภาพรวม  ความเป็นห่วงใยเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้

    …

    “คิคิคิก!  คิฮ่าฮ่าฮ่า!”

    แอ็กนัสหัวเราะราวกับคนเสียสติ  เส้นผมสีเขียวของมันกำลังยุ่งเหยิงจากการต่อสู้อันดุเดือด

    อสูรอัญเชิญตายไปแล้วสองตน  ส่วนที่เหลือก็บาดเจ็บหนัก  มีสภาพร่อแร่  อัศวินความตายทั้งหมดถูกทำลาย  เหลือเพียงลิชมูมัดเพียงตนเดียว
    
    ด้านซิลเวนัส  ข้ารับใช้ลำดับสี่  หล่อนก็มีสภาพร่อแร่ไม่ต่างกัน  ลมหายใจกำลังขาดห้วง  ตามร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์

    แทบไม่น่าเชื่อว่า NPC พิเศษหนึ่งคนจากขั้วอำนาจใหญ่จะตกที่นั่งลำบากด้วยฝีมือผู้เล่นเพียงคนเดียวได้  

    โรสที่กำลังถือครองความได้เปรียบเหนือชักสเล่ย์  เธอทึ่งกับภาพที่เห็นตรงหน้า

    ‘ซิลเวนัสเลเวล 420 ไม่ใช่รึไง?’

    แต่เหตุใดถึงถูกผู้เล่นเลเวลสามร้อยกว่าต้อนจนมุมขนาดนี้?  ผู้เล่นเลเวลสามร้อยทั่วไปมิอาจสร้างรอยขีดข่วนบนร่างซิลเวนัสได้ด้วยซ้ำ  

    นี่น่ะหรือพลังของคลาสเกรดเลเจนดารีที่เขาร่ำรือกัน?

    โรสเกิดความริษยาและหงุดหงิดใจอย่างรุนแรง  เธอชี้ปลายไม้เท้าไปหาชักสเล่ย์ที่นอนหมอบอยู่บนพื้น

    ในอดีต  ชักสเล่ย์คือดาบที่คอยปกป้องราชวงศ์อีเทอนัล  และปัจจุบัน  ชักสเล่ย์คือดาบที่คอยปกป้องราชวงศ์โอเวอร์เกียร์  

    โรสกำลังสั่นระริกอย่างโกรธแค้นเมื่อ NPC พิเศษซึ่งชื่อสลักไว้ด้วยสีทองอร่ามคอยถ่วงแข้งขาของเธอนานถึงสิบนาทีเต็ม  

    การกระทำของชักสเล่ย์ส่งผลให้โรสแทบไม่ได้รับความสำเร็จในภารกิจกำจัดสาวกรีเบคก้าแม้แต่น้อย

    “ฉันไม่ได้ฆ่าใครแม้แต่คนเดียวเพราะแก!  เพราะไอ้ขยะอย่างแกคอยสอดมือเข้ามายุ่ง…!”

    โรสได้รับภารกิจย่อยให้จัดการสาวกรีเบคก้าเหมือนกับแอ็กนัส  ค่าสติปัญญาของเธอจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่จัดการนักบวชและพาลาดินได้ถึงจำนวนหนึ่ง  

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ  เธอถูกตรึงไว้โดย NPC พิเศษเพียงหนึ่งคน

    ปัจจุบัน  ข้ารับใช้ยาธานคนอื่นได้จัดการกับสาวกรีเบคก้าไปแล้วมากมาย  เหลือเหยื่อให้เธอจัดการอีกเพียงไม่มาก

    “ตายซะ!  ถูกเถาวัลย์หนามรัดแล้วตายไปซะ!  เถาวัลย์รัดพัน!”

    เถาวัลย์มืดสีม่วงเข้มผุดขึ้นจากรอยแยกบนพื้นห้อง  

    ขณะที่เถาวัลอันคมกริดดุจดั่งใบมีดกำลังจะฉีกกระชากร่างชักสเล่ย์… 

    ฉัวะ—

    “…!?”

    มีดบินปริศนาพุ่งตัดเถาวัลย์บริเวณข้อเท้าชักสเล่ย์จนขาดเป็นสองท่อน  

    โรสอึ้งสุดขีด  เธอรีบหันไปมองยังทิศทางที่มีดถูกขว้างมา  ส่วนชักสเล่ย์กำลังมีใบหน้าแดงก่ำ

    “องค์ชาย…”

    “อะไรนะ?”

    โรสแทบไม่เชื่อหู  เธอย่อมทราบว่าชักสเล่ย์คือ NPC ที่คอยรับใช้ลอร์ด  บุตรชายของกริดที่ปัจจุบันมีอายุราวห้าถึงหกขวบ 

    ภาพตรงหน้าได้ตอกย้ำความจริง  บุคคลที่ขว้างมีดขัดขวางในครั้งนี้คือลอร์ด

    ‘เด็กตัวเล็กแค่นี้กลับขว้างมีดทำลายเถาวัลย์มืดได้แม่นยำ?’

    …เหลวไหลสิ้นดี  

    โรสปฏิเสธความจริง  เธอเล็งไม้เท้าใส่ชักสเล่ย์อีกหนพลางร่ายมนตร์ดำถัดไป  

    ราวกับฉายภาพซ้ำ  มีดสั้นเล่มใหม่ได้พุ่งปักลำคอโรสอย่างแม่นยำ

[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,300 หน่วย ]
[ ท่านถูกขัดขวางการรายมนตร์ ]

    “บ้าน่า…!”

    เป็นมีดสั้นที่บางเฉียบและคมกริบ  

    โรสดึงมันออกจากลำคอพลางหันไปมองลอร์ด  เด็กหนุ่มวับหกขวบที่กำลังจดจ้องเธอด้วยดวงตาเรียวคมเฉกเช่นบิดา

    “ไอ้เด็กนรก!”

    เด็กคนนี้คือสัตว์ประหลาดที่ไม่ควรปล่อยให้เติบโตด้วยประการทั้งปวง  โรสสัมผัสถึงภัยคุกคามร้ายแรงทันที  

    เธอรีบร่ายมนตร์ดำชนิดใหม่  โดยเป้าหมายในครั้งนี้คือบุตรชายของกริด

    ลอร์ดชักมีดสั้นเล่มใหม่ออกมาถือเตรียมขว้าง  ทักษะการขว้างมีดที่คาซิมถ่ายทอดให้ทั้งแต่ยังเล็ก  ลอร์ดฝึกฝนมันมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา  ระดับทักษะในปัจจุบันสูงส่งจนยากจะเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กหกขวบ

    ฉึก—

    “อั่ก…!  แค่ก!”

    เป็นอีกครั้งที่มีดสั้นปักลำคอโรสอย่างแม่นยำ  และการร่ายมนตร์ถูกยกเลิก

    ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีเพียงเล็กน้อย  เนื่องจากโรสสวมใส่เครื่องป้องกันเกรดเลเจนดารีหลายชิ้น  แต่สิ่งที่แฝงมาด้วยคือผลของการยั่วยุและอาการบาดเจ็บทางจิตใจที่รุนแรง  จนทำให้โทสะของโรสปะทุ

    “สมกับเป็นลูกชายของไอ้บัดซบกริด!”

    ย้อนกลับไปขณะทำภารกิจอัญเชิญจอมอสูรบีเลียล  โรสจงเกลียดจงชังกริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์มาก  เธอไม่เคยมองกริดในแง่ดี  และไม่แยแสความเป็นความตายของลอร์ดตัวน้อย  

    โรสรีบกางบาเรียหนึ่งชั้นเพื่อขัดขวางมีดบิน  จากนั้นก็ร่ายมนตร์ดำโดยหวังสังหาร

    “ไม่นะ!”

    สายตาของโค้กและรอยแมนจับจ้องไปยังลอร์ดพร้อมกัน  แต่ทั้งสองยังคงถูกกลุ่มจอมเวทมืดพัวพันจนมิอาจขยับไปไหน  

    โค้กต้องการฝืนพุ่งตัวเข้าไปขวางลอร์ดด้วยร่างกายที่ทรุดโทรม  ทว่า… 

    ตุ้บ…

    ค่าเรี่ยวแรงของโค้กกลายเป็นศูนย์ในเวลาแสนคับคัน 

    ภาพการมองเห็นเดียวของโค้กคือแผ่นหลังแอ็กนัส  ชายที่กำลังรับมือซิลเวนัสอย่างเต็มกลืน  

    แอ็กนัสกำลังหาทางช่วยลอร์ด  ดวงตาสีทองของแอ็กนัสเริ่มลุกวาวพลางสั่นระริกเมื่อหันมาเห็นฉากตรงหน้า  

    เวทมนตร์ของโรสเตรียมปลดปล่อยจากไม้เท้าโดยมีเป้าหมายเป็นลอร์ดและไอรีนที่ไร้การปกป้อง

    “นั่งนี่!”

    “มัวมองทางไหนกัน?”

    ฉึก—

    “อั่ก…”

    สถานการณ์กำลังย่ำแย่สุดขีด  

    ฉากการร่ายมนตร์ของโรสได้กระตุ้นความทรงจำส่วนลึกสุดในจิตใจแอ็กนัส  

    ขณะที่ความสนใจของมันกำลังเพ่งใส่โรส  ซิลเวนัสได้เป็นอิสระอีกครั้ง  หล่อนพุ่งตัวผ่านดงกระสุนเวทมนตร์ของลิชมูมัดพลางแทงอาวุธในมือใส่หัวใจแอ็กนัสจากด้านหลัง

    “อะ…!”

    ไอรีนกำลังตื่นตระหนก  ผู้มีพระคุณและบุตรชายของเธอกำลังตกที่นั่งลำบากพร้อมกัน  

    เหลือเพียงสิ่งเดียวที่เธอทำได้ก่อนที่อย่างจะสายเกินไป

    “ฉันขอโทษ…”

    “ขอโทษครับ…”

    แอ็กนัสและโค้กเปล่งคำขอโทษพร้อมกันด้วยเสียงแหบพร่า  

    พวกเขาเสียใจที่มิอาจปกป้องใครได้

    ไอรีนรีบวิ่งไปโอบกอดลอร์ดอย่างแนบแน่น  อาจเป็นการสวมกอดที่แน่นที่สุดในชีวิตของเธอ  เหลือเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่ไอรีนสามารถทำได้เพื่อบุตรชาย  

    เธอหลับตาลงและรอรับความตายแต่โดยดี  อย่างน้อย  ร่างกายของตนจะเป็นโล่กำบังให้บุตรชายได้ครั้งหนึ่ง  อาจช่วยยื้อเวลาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมมาถึงลอร์ดได้ทันท่วงที  

    …แม้ตนจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม

    “องค์ราชินี!!”

    ชักสเล่ย์ฝืนพยุงร่างกายด้วยพลังใจเฮือกสุดท้าย  มัดกล้ามเนื้อทั่วร่างสามารถเอาชนะขีดจำกัดของมนุษย์ได้ชั่วคราว

    การโจมตีที่แลกมากับทุกสิ่งได้ปลดปล่อยใส่โรสที่อยู่เบื้องหน้า  โดยภายในใจปรารถนาปกป้ององค์ชายและราชินีแห่งราชวงศ์โอเวอร์เกียร์ให้อยู่รอดปลอดภัย

    แต่น่าเสียดายที่เวทมนตร์ของโรสถูกปลดปล่อยออกไปแล้ว  ถึงดาบของชักสเล่ย์ฟันใส่ร่างโรสอย่างจัง  

    แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด 

    กลุ่มก้อนพลังเวทสีดำพุ่งตรงเข้าหาไอรีนและลอร์ดด้วยความเร็วสูง  แอ็กนัสซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด  และมีโอกาสช่วยมากที่สุด  มันกำลังถูกซิลเวนัสตรึงการเคลื่อนไหวจนไม่สามารถขยับตัวได้

    “คิก…!  คิคิคิคิก!  คิฮ่าฮ่า!”

    ‘อีกแล้วหรือ?’

    มันแข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงนี้  แต่กลับมิอาจรักษาชีวิตผู้หญิงตรงหน้าไว้ได้  

    ขณะดวงตาแอ็กนัสเปี่ยมด้วยความเศร้า  เสียงหนึ่งดังแว่วที่ข้างหู

    “ขอบคุณที่ช่วยยื้อเวลาให้  แอ็กนัสจัง”

    ราวกับเสียงสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์  เป็นเสียงของชายที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงและคืนชีพใหม่อีกครั้งในวาติกัน  

    ดาเมี่ยน  

    สันตะปาปาคนปัจจุบันที่หลุดพ้นจากสุดยอดเวทมนตร์พันธนาการด้วยวิธีในแบบฉบับผู้เล่น

    ดาเมี่ยนยืนเด่นตระหง่านเบื้องหน้าไอรีนและลอร์ด  เขาชำเลืองหันกลับไปมองแอ็กนัสเล็กน้อย

    วงแหวนศักดิ์สิทธิ์สีทองอร่ามที่ลอยกลางอากาศด้านหลังดาเมี่ยนกำลังปลดปล่อยแสงชำระล้างพุ่งเข้าหาโรส  

    มนตร์ดำของเธอถูกสลายอย่างหมดจด

    แรงปะทะที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผ้าคลุมสันตะปาปาสีขาวบริสุทธิ์ปลิวสไว  เผยให้เห็นชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ของพาลาดินอันน่าเกรงขามด้านใน 

    เมื่อยืนยันว่ามารดาของตนปลอดภัย  ลอร์ดรีบเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่เขาไว้วางใจมากที่สุดในชีวิตรองจากบิดา

    “ท่านอาจารย์ดาเมี่ยน!”

    “ขอโทษที่มาช้า  นับแต่นี้ไป  ฉันจะคอยปกป้องลอร์ดจังกับแม่เอง”

    ความยิ่งใหญ่ของสันตะปาปากำลังตกเป็นเป้าสายตาของทุกฝ่ายภายในสนามรบวาติกัน  ร่างกายของชายผู้นี้กำลังโอบล้อมด้วยพรศักดิ์สิทธิ์จากเทพธิดาผู้สูงศักดิ์

    บุคคลที่มีวิชาดาบระดับเดียวกับอริยดาบครอเกล  
    บุคคลที่คอยสนับสนุนให้ราชาโอเวอร์เกียร์ทวีความโอเวอร์เกียร์ยิ่งขึ้น
    และบุคคลที่ได้รับการสอนสั่งจากสุดยอดชาวนาในตำนาน

    หนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดของโลกกำลังสำแดงพลังให้ฝ่ายมารได้ประจักษ์

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,265
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สุดดดดยอดดดดดดดด
    🤣ชอบมาก​ บีบหัวใจ​
    นึกว่าเป็นกริดที่มาทัน
    ขอบคุณดาเมี่ยน​
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​แอด😁🙏

    ReplyDelete
    Replies
    1. นึกว่ากริดมาเช่นกันครับ🙏ขอบคุณมากครับแอด เป็นตอนที่สนุกมากและสื่อถึงอารมณ์ของคนเล่นเกมส์ที่และทุ่มเท่กับพวกพ้องและ NPC และบวกกับความรู้สึกที่เคยพบเจอเรื่องเลยร้าย คือแอ็คนัสคงอยากจะปกป้องไอรีนและลอร์ดให้ปลอดภัย เพื่อจะได้รู้สึกผิดน้อยลง หลังจากนี้ที่กริดอาจจะย้อมให้เจ้าหญิงทำศิลาหรืออัญมณีที่ผนึกคนรักของแอ็คนัสได้เป็นการตอบแทนก็ได้......ใครจะไปรู้ ...เดาเอานะครับ

      Delete
  2. ดาเมี่ยนกับแอ๊กนัส ฉันรักพวกนายยย

    ReplyDelete
  3. วิธีหลุดพันธนาการแบบนี้ นึกไม่ถึงเหมือนกันนะเนี่ย

    ReplyDelete
  4. ฝ่ายกริดจะโกงไปไหนหัดแพ้บ้าง

    ReplyDelete
    Replies
    1. อคติอะไรขนาดนั้นกริกล้มเหลวมาแล้วทั้งชีวิตพึ่งผงาดได้แค่2-3ปีจะให้กลับมาล้เหลวใหม่ก็ใจร้ายเกินแต่เข้าใจว่าถ้าตัวเอกติดปีกเกินไม่มีอุปสรรคเรื่องมันจะไม่สนุก

      Delete
    2. หยุดอ่านเถอะครับ ถ้าจะอคติขนาดนี้ เรื่องมันเล่าในมุมของฝั่งกริด ถ้าไปเล่าฝั่งครอเกลหรือแอ็กนัส มันก็เป้นแบบเดียวเหมือนกัน แค่เปลี่ยนไปนิดหน่อย(?)

      Delete
    3. ถ้าอยากให้คนตายมากนัก ให้ไปดู ดาบพิฆาตอสูรคับ ตายแแน่ ตายหมด

      Delete
  5. 5นาทีของกริดคือนานเกิ้นน ไม่ค่อยเม้กเซ้นเลย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00