จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 864


    
    “มีหนูสกปรกซ่อนตัวอยู่  พวกเราควรรีบหามันให้พบ  เพื่อความปลอดภัยของหลวงพ่อและทุกคนในที่นี้”

    เกิดเสียงฮือฮาขึ้นทันที  คำพูดของดูรันดัลทำให้แขกร่วมงานเกิดคำถามมากมาย

    หนูสกปรก?  
    
    คนของราชวงศ์เล็กย่อมมิอาจสัมผัสถึงจิตสังหารเพียงชั่วครู่จากคาซิม  ส่งผลให้พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ดูรันดัลกำลังพูดถึง

    ใครหลายคนมองว่าองค์ชายแห่งจักรวรรดิตื่นตูมเกินจำเป็น  พฤติกรรมแสดงออกอย่างสุดโต่งมักเป็นสิ่งที่เด็กเอาแต่ใจชอบปฏิบัติ  

    ‘แย่ล่ะสิ’

    ขณะเดียวกัน  เหล่าอัศวินโอเวอร์เกียร์สัมผัสถึงบรรยากาศเลวร้าย

    อัศวินสีชาดรับรู้จิตสังหารเพียงเสี้ยววินาทีจากคาซิมในเงามืด  เช่นนั้นแล้ว  พวกตนจะปกป้องคาซิมและลอร์ดอย่างไรได้อีก?  

    ฝ่ายอัศวินโอเวอร์เกียร์กำลังตึงเครียด

    คาซิมเริ่มตัดพ้อ 

    ‘องค์ชายลอร์ดตกที่นั่งลำบากเพราะอารมณ์ชั่ววูบของเรา’

    ความทรงจำสมัยอดีตถูกฉายซ้ำในหัวคาซิมอีกครั้ง  ด้วยดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำ

    … 

    ณ หมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในหุบเหวลึก  

    หมู่บ้านเผ่านีโร  

    ชาวนีโรอ่อนโยนและไม่ละโมบ  พวกเขาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเอง  เวลาในทุกวันจะผ่านไปอย่างสงบสุขพร้อมกับครอบครัว

    แต่น่าเสียดายที่ความสุขชั่วนิรันดร์ไม่มีจริง  ในวันหนึ่ง  กองทัพจากจักรวรรดิมาเยือนหมู่บ้าน    

    องค์ชายดูรันดัลมาถึงหมู่บ้านนีโรพร้อมด้วยอัศวินสีชาดกว่าสิบคนและทหารอีกหลายร้อย

    “ด้วยผิวหนังที่ดำมืดยิ่งกว่าค่ำคืนยามราตรี  ด้วยท่อนแขนที่เหยียดยาวผิดมนุษย์…รูปลักษณ์ของพวกเจ้าอัปลักษณ์จนพวกเรามิอาจทนมอง  จักรวรรดิไม่อนุญาตให้พวกเจ้ามีเขตแดนเป็นของตัวเอง  ไม่อนุญาตให้มีศาสนา  ไม่อนุญาตให้สวมใส่เสื้อผ้าและพักในบ้านเรือน  พวกเจ้าคือสัตว์ป่าเฉกเช่นลิงค่าง  หากต้องการมีชีวิต  จงมีชีวิตเยี่ยงเดรัจฉาน  แต่หากไม่ต้องการมีชีวิต  จงถลกหนังของตัวเองออกมา  พวกเจ้าไม่ต้องกล่าวสิ่งใด  สัตว์ป่าไม่มีสิทธิ์สื่อสารด้วยภาษามนุษย์”

    คาซิมไม่มีวันลืมถ้อยคำแสนโหดร้ายประโยคนี้

    เด็กหนุ่มคาซิมไม่เคยสัมผัสโลกภายนอกมาก่อน  คำพูดดูรันดัลจึงเป็นราวกับมีดคมที่กรีดเฉือนหัวใจ  เขาเสียขวัญไปพักใหญ่

    สัตว์ป่า?  พวกตนถูกเรียกว่าสัตว์ป่า?  
    
    จากมนุษย์แสนธรรมดา  พวกเขากลายเป็นสัตว์ป่าได้อย่างไร?
    
    ในฐานะชาวนีโรที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเสมอมา  นั่นคือวันแรกในชีวิตที่คาซิมเปี่ยมด้วยโทสะและต้องการฆ่าใครสักคน

    ประโยคที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ได้กระตุ้นให้ชาวนีโรผู้รักสงบเริ่มระเบิดความเดือดดาล

    แน่นอน  ไม่ใช่เพียงคาซิมเท่านั้น  ยังรวมถึงชาวบ้านนีโรอีกหลายพัน  ทุกคนต่างเกลียดชังจักรวรรดิที่ไม่ยอมรับให้ตนเป็นมนุษย์

    ชาวนีโรทุกคนต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิต  
    สู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นคน

    แต่น่าเสียดาย  ชาวบ้านที่รักสงบมีหรือจะต่อกรกับกองทัพกระหายเลือดไหว?     

    ต่อหน้าอัศวินจักรวรรดิ  ชาวนีโรเป็นได้เพียงทารก

    แม้พวกเขาจะมีพละกำลังและรูปร่างที่กำยำจากการล่าสัตว์  แต่ประสบการณ์ในสงครามและเทคโนโลยีการรบย่อมเทียบชั้นไม่ติด  

    เผ่านีโรถูกฆ่าล้างบางจนเกลี้ยง  เหลือไว้เพียงเด็กน้อยคาซิม

    “…”

    คาซิมถูกสลักด้วยคำสาปที่ชื่อ ‘ผู้เหลือรอดคนสุดท้าย’ ไปชั่วชีวิต

    คาซิมอุทิศลมหายใจที่เหลือเพื่อการแก้แค้น  เขาเฝ้าฝันจะเห็นจักรวรรดิล่มสลายด้วยตาคู่นี้

    จนกระทั่ง  เด็กหนุ่มผู้มีสีผิวประหลาดและท่อนแขนเหยียดยาวผิวมนุษย์ได้กลายเป็นราชันย์เงา

    แต่เมื่อเผชิญหน้าดูรันดัลในระยะประชิดอีกครั้ง  คาซิมกลับมิอาจแยกแยะว่าตนคือเด็กชายเผ่านีโรที่ถูกกวาดล้าง  หรือองครักษ์ประจำตัวรัชทายาทแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กันแน่

    จิตสังหารเพียงเสี้ยววินาทีได้สร้างผลกระทบที่มิอาจย้อนกลับไปแก้ไขได้

    ราวกับดูรันดัลสัมผัสถึงคาซิมได้เลือนลาง

    “หนูสกปรกตัวนี้ไม่ธรรมดา  มันมีเจ้าของ”

    ดูรันดัลแสยะยิ้ม

    “หากแสดงตัวออกมาตอนนี้  เจ้านายของแกจะปลอดภัย”

    ‘ถึงจะไม่รู้ว่าแกเป็นใคร  แต่กล้าแผ่จิตสังหารใส่ฉันเชียวหรือ?  จงออกมาซะ  ถ้าแสดงตัวตอนนี้  องค์ชายตัวน้อยของแกจะไม่ถึงฆาต’

    นี่คือสิ่งที่ดูรันดัลต้องการสื่อ

    มันยังคงกังวลถึงความสัมพันธ์ระหว่างจักรวรรดิและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์    

    สนธิสัญญาที่ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิลงนามด้วยตัวเอง  หากดูรันดัลฝ่าฝืน  เกรงว่าถึงจะเป็นมันก็คงมีชะตากรรมไม่สู้ดีนัก  

    ดูรัลดัลขอเพียงได้เชือดหนูสกปรกทิ้งก็เพียงพอ  

    ความคิดชั่วร้ายของมันถูกอัศวินโอเวอร์เกียร์อ่านออก

    “…”

    ชักสเล่ย์ชำเลืองมองเงามืดใต้ฝ่าเท้าลอร์ด

    เป็นสายตาที่บ่งบอกว่า ‘นายต้องรับผิดชอบ’

    ชักสเล่ย์เองก็เศร้าใจไม่น้อย  เขาย่อมทราบถึงความสำคัญที่คาซิมมีต่ออาณาจักรโอเวอร์เกียร์

    แต่บุคคลพรสวรรค์มีตัวตนเพื่อสนับสนุนอาณาจักร  มิใช้มีเพื่อให้อาณาจักรตกอยู่ในอันตราย

    คาซิมเข้าใจเจตนาของชักสเล่ย์ผ่านสายตาที่ส่งมา

    ‘เข้าใจแล้ว’

    นัยน์ตาคาซิมสั่นระริกเล็กน้อย  ก่อนจะหยุดลง  ดวงตาแดงก่ำกลับสู่สีขาวโพลน  

    คาซิมสูดลมหายใจเข้าลึกพลางสงบสติ  

    …หากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์พัฒนาขึ้นและลูกศิษย์อัจฉริยะของตนเติบโตเป็นผู้ใหญ่  ถึงครานั้น  พวกจักรวรรดิเดรัจฉานต้องถูกทำลายจนสิ้นซากแน่

    ‘ถึงจะแก้แค้นด้วยตัวเองไม่ได้  แต่การฝากฝังให้ผู้อื่นช่วยแก้แค้นในภายหลังก็ไม่แย่เสียทีเดียว  ชีวิตเรามิได้สำคัญขนาดนั้น’

    คาซิมเชื่อสุดหัวใจ  หากเป็นกริดและลอร์ด  พ่อลูกคู่นี้คงทำลายจักรวรรดิได้แน่ 

    ตนต้องยอมตายเพื่อชดเชยความโง่เขลาที่ก่อขึ้น

    ‘ใช่แล้ว  เราทำพลาด  เราต้องรับกรรม’

    ขณะคาซิมตัดสินใจหนักแน่นและคิดออกจากเงา

    เสียงหนึ่งแว่วขึ้น

    “หยุดก่อน”

    เป็นเสียงของลอร์ดงั้นหรือ?  

    ไม่ใช่

    ก่อนลอร์ดจะลงมือทำสิ่งใด  ใครบางคนเดินออกมาด้านหน้าสุด

    เป็นราชินีไอรีน

    “โฮ่…?”

    หญิงสาวที่นั่งสงบเสงี่ยมในมุมหนึ่งของงานเลี้ยง  หญิงสาวที่ไม่น่าจะเกี่ยวพันกับการเมืองระหว่างอาณาจักร  ยามนี้กลับก้าวออกมาด้านหน้าขณะเหตุการณ์วิกฤตถึงขีดสุดงั้นหรือ?

    องค์ชายดูรันดัลลดท่าทีไม่เป็นมิตรลง

    มันสนอกสนใจว่าสตรีที่ตนหมายปองจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ด้วยสติปัญญาแบบใด

    ‘เหตุการณ์กำลังยุ่งเหยิง…’

    ดูรันดัลชื่นชอบสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น  ตัวมันถือไพ่เหนือกว่า  จึงเฝ้ามองอย่างสนอกสนใจ  

    ฝ่ายตรงข้ามแบ่งแยกเป็นสอง  ผู้หนึ่งคิดรับผิดชอบโดยการจบชีวิตตัวเอง  ส่วนอีกคนต้องกล่าวในสิ่งที่ทำให้อาณาจักรอยู่รอด  

    เธอจะเอาตัวรอดอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้?  

    ไอรีนจ้องมองเข้าไปในดวงตาดูรันดัลพลางกล่าว

    “คนผู้นั้นมิใช่หนูสกปรกหรือสุนัขของใคร  เขาคือองครักษ์ส่วนตัวขององค์ชายลอร์ด  และยังเป็นบุคคลพรสวรรค์ที่สำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์”

    “หือ?”

    ผิดจากที่ดูรันดัลคาดไว้มาก

    ‘ช่างโง่เขลา’

    มันหรี่ตาลงพลางขมวดคิ้ว

    “คุณกำลังยอมรับว่า  องครักษ์ส่วนตัวขององค์ชายลอร์ดแผ่จิตสังหารมุ่งร้ายต่อผมใช่ไหม?  การกระทำเช่นนี้เทียบเท่ากับ  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์คิดปองร้ายต่อองค์ชายลำดับสองอย่างผม  และนั่นหมายถึง  สนธิสัญญาระหว่างจักรวรรดิและโอเวอร์เกียร์จบลงเท่านี้”

    “ผิดแล้ว  ลองนึกดูให้ดี  เหตุใดอัศวินขององค์ชายถึงชักดาบออกมาต่อหน้าเด็กหกชวบ?  มิใช่เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์ชายหรอกหรือ?”

    “…หืม?  ก็ใช่”

    “องครักษ์ขององค์ชายลอร์ดก็เช่นกัน  เขาคืออัศวินที่คอยดูแลองค์ชายตั้งแต่ยังเล็ก  จึงแผ่รังสีคุกคามหลังจากอัศวินขององค์ชายดูรันดัลเข้ามาใกล้เกินไป”

    “นั่นไม่ใช่รังสีคุกคามธรรมดา  แต่เป็นจิตสังหาร  ไม่ใช่สิ่งที่องครักษ์ถูกฝึกฝนมาแน่”

    “การแผ่จิตสังหารเลวร้ายยิ่งกว่าการชักดาบต่อหน้าเด็กหกขวบอีกหรือ?”

    “หือ…?”

    ดูรันดัลทำพลาดมหันต์  ราวกับมันถูกตีเข้าที่ท้ายทอยอย่างจัง

    ตัวมันที่ดันยอมรับว่าการชักดาบของอัศวินสีชาดคือสิ่งชอบธรรม  ถือเป็นการยอมรับทางอ้อมด้วยว่า  การแผ่จิตสังหารก็เป็นสิ่งชอบธรรมไม่ต่างกัน

    มันติดกับดักคำพูดของไอรีนจนพลาดโอกาสจำกัดหนูสกปรก  

    ดูรันดัลพลันกระอักกระอ่วน

    มันกำลังโมโหก็จริง  แต่ก็สามารถระงับโทสะในพริบตา

    สีหน้าของมันบิดเบี้ยวเพียงชั่วครู่ก่อนระเบิด    เสียงหัวเราะ  จากนั้นก็ยื่นแขนออกไปหาไอรีนด้วยท่าทีนอบน้อม

    “เฉียบแหลมมาก  ผมขอจุมพิตหลังฝ่ามือเพื่อแทนคำขอโทษได้หรือไม่?”    

    “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

    จะมีใครในทวีปบ้างที่กล้าปฏิเสธคำขอจากองค์ชายแห่งจักรวรรดิ? 

    ไม่มีเหตุผลให้ไอรีนปฏิเสธ  เหตุการณ์กำลังดำเนินไปด้วยดีโดยไม่มีใครต้องหลั่งเลือด

    ไอรีนยื่นหลังมือให้  และดุรันดัลก็จุมพิตอย่างอ่อนโยน    

    “…”

    ดวงตาที่เคยใสสื่อของลอร์ดพลันหรี่ลงจนเรียวคมเหมือนบิดา

    ลอร์ดมองเห็นถึงจิตใจต่ำช้าของดูรันดัลในยามที่มันจุตพิตฝ่ามือมารดา  

    ‘อะไรกัน?’

    อัศวินองครักษ์ดูรันดัลต่างพากันทึ่ง

    พวกมันทุกคนได้รับแรงกดดันมหาศาลจากเด็กวัยเพียงหกขวบ  ไม่มีใครอยากเชื่อว่านี่คือความจริง
    
    จิตใจดาเมี่ยนเริ่มว้าวุ่นเมื่อสถานการณ์ดำเนินไปอย่างผิดแผก

    ‘ราชินีไอรีนทำได้ดีมากก็จริง  แต่ว่า…’

    เหตุการณ์จะไม่แย่ลงเอาหรือ?  ในเมื่อต่อมโทสะของลอร์ดใกล้ระเบิดเต็มที

    ขณะดาเมี่ยนคิดจะเข้าไประงับเหตุการณ์… 

    วาบ!

    เกิดแสงสว่างจ้าภายในโถงใหญ่จัดงาน

    เป็นแสงที่อัดแน่นด้วยความน่าขยะแขยง  ผู้คนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหลับตาลง  ตรงกันข้ามกับแสงอันอบอุ่นซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพธิดารีเบคก้าโดยสิ้นเชิง  

    ดาเมี่ยนไม่มีวันลืมแสงสะอิดสะเอียนเช่นนี้

    ขณะตัวเขาตาบอดไปชั่วครู่  ดาเมี่ยนรีบส่งเสียงตะโกนออกคำสั่ง

    “มนตร์ดำ!  หน่วยพาลาดินคุ้มกันองค์ชายและราชวงศ์!!  อึก…!”
    
    ยังไม่ทันจะกล่าวจบ  ใต้เท้าดาเมี่ยนพลันส่องแสงสีแดงสดเป็นทรงดาวห้าเฉก  มันคือคำสาปสุดทรงพลังที่ถูกร่ายดักไว้บนพื้น

[ เศษเสี้ยวจิตวิญญาณเทพยาธานได้ตัดขาดท่านจากโลกภายนอก ]
[ ท่านมิอาจยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกขณะถูกขังภายในม่านทมิฬ ]
[ ม่านทมิฬถูกทำลายได้จากด้านนอกเท่านั้น ]

    ‘จิตวิญญาณเทพยาธาน?’

    ดาเมี่ยนรีบเงยหน้าขึ้นเมื่อผลจากอาการตาบอดหมดลง

    ขณะโถงใหญ่วาติกันกำลังโกลาหลสุดขีด  อสูรตนหนึ่งกระโดดลงจากเพดาน

    รอบกายหล่อนรายล้อมด้วยปราณความมืดเข้มข้น  นามเหนือศีรษะสลักไว้ชัดเจนว่า ‘ซิลเวนัส’  เธอคือหนึ่งในข้ารับใช้ยาธาน

    “ซิลเวนัสทำได้!  ฉันผนึกสันตะปาปาสำเร็จแล้ว!”

    เสียงตะโกนของเธอคือสัญญาณเริ่มต้นหายนะทั้งปวง

    บรรยากาศแปลกประหลาดพลันพรั่งพรูจากด้านนอกโถงใหญ่  เกิดระเบิดกัมปนาทที่ปากทางเข้าส่งให้บานประตูหลักปลิวกระเด็นเข้ามาด้านใน

    ภายในห้องฟุ้งกระจายด้วยเศษฝุ่นควัน  NPC ราชวงศ์ที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นหลังจากหลุดพ้นอาการตาบอด  พวกเขาออกอาการลนลานสุดขีด

    “พวกเราจะลงทัณฑ์เหล่าสุนัขของนังเทพธิดาชั่วช้า!”

    “คำสาปเทพยาธานถูกส่งถึงพวกแกทุกคน!!”

    กลุ่มจอมเวทมืดจำนวนมากกรูเข้าโถงใหญ่พลางตะโกนส่งเสียง
    
    อัศวินจากทุกอาณาจักรต่างรีบชักดาบปกป้องผู้เป็นนาย  เหล่าอาวุโสรีเบคก้าและพาลาดินระดับสูงเตรียมทำศึกเต็มกำลัง  ขณะที่อัศวินโอเวอร์เกียร์คอยล้อมปกป้องลอร์ดและไอรีนที่มุมห้องโถง

    จากนั้นไม่นาน  ห้าบุคคลปริศนาได้ย่างกรายตามหลังกลุ่มจอมเวทมืดเข้ามาในห้อง  

    สามในห้าเป็น NPC  ส่วนอีกสองคือผู้เล่น

    ห้าสุดยอดตัวตนแห่งวิหารปรากฏกาย

ข้ารับใช้ยาธานลำดับสาม  อลิเบิร์น
ข้ารับใช้ยาธานลำดับหก  คาดิโอร่า
ข้ารับใช้ยาธานลำดับเจ็ด  ฮิลล์
ผู้เล่นจอมเวทมืดอันดับหนึ่งของโลก  ข้ารับใช้ยาธานลำดับแปด  โรส

    และคนสุดท้าย…

    “แอ็กนัส…!!”

    ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล

    ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยง  รวมถึงโค้ก  ต่างหน้าถอดสี

    พวกเขาอาจไม่รู้จักข้ารับใช้ยาธาน  แต่หากเป็นแอ็กนัส  ไม่มีแรงเกอร์คนใดไม่รู้จัก

    ‘นอกจากซิลเวนัสแล้ว…ยังมีอีกตั้งสี่คนเชียว?’

    ดาเมี่ยนที่ถูกขังในม่านทมิฬเป็นกังวลกับข้ารับใช้ยาธานนอกเหนือจากแอ็กนัส

    บุตรีแห่งรีเบคก้ารีบชักศาสตราพลางปรี่เข้าช่วยดาเมี่ยน

    “…!!”

    ดาเมี่ยนตะโกนบางสิ่งจากด้านใน  แต่กลับไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เขาพูด

    อิสซาเบลตัดสินใจพังม่านทมิฬเป็นลำดับแรก

    เปรี้ยงง— 

    “อึก…!”

    เธอใช้หอกไลฟาเอลแทงใส่  แต่กลับไร้ผลตอบสนอง  ห่างไกลจากการถูกทำลายมาก  แม้แต่ร่องรอยขีดข่วนก็ไม่ปรากฏ

    ทั้งพละกำลังและพลังศักดิ์สิทธิ์ล้วนไม่ประสบผล    
    
    “ปล่อยม่านทมิฬไปก่อน!  รีบปกป้องแขกคนสำคัญ!”

    “ปกป้ององค์ชายลอร์ด!”

    อาวุโสรีบเดินเข้าหาสามบุตรีแห่งรีเบคก้าพลางออกคำสั่ง  ถ้อยคำพวกเขาทำให้ดาเมี่ยนที่ถูกขังในกรงเบาใจ
    
    ในยามสำคัญ  ตาเฒ่าพวกนี้พึ่งพาได้มากกว่าที่คิด  ดาเมี่ยนรู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้ง

    แต่สถานการณ์โดยรอบยังไม่ใช่สิ่งที่วางใจได้    

    “กรี๊ดดดด!”

    “อ๊ากกกก!”

    เสียงกรีดร้องของแขกร่วมงานยังคงกังวาลโหยหวนทั่วโถงหลัก

    อัศวินและพาลาดินที่ประจำการอยู่ด้านนอกกลับถูกกีดกัดไม่ใช่เข้ามาช่วย  เป็นฝีมือของอันเดดจำนวนมหาศาลจากแอ็กนัส

    อิสซาเบลย่อมมองเห็นเหตุการณ์ภาพรวม  เธอรีบปรี่เข้าไปหาลอร์ดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย  

    หลังจากมั่นใจระดับหนึ่ง  สายตาของอิสซาเบลชำเลืองมองไปยังแอ็กนัสที่ประตูทางเข้า

    “คิคิก!  คิคิคิก!”

    เสียงโหยหวนจากตระกูลราชวงศ์ผสมปนเปเข้ากับเสียงหัวเราะสยดสยองของแอ็กนัส

    โถงจัดงานกำลังตกอยู่ในความโกลาหลสุดขีด

    “ลูกจะไม่เป็นอะไร  ลูกจะปลอดภัยแน่”

    เป็นเสียงปลอบประโลมจากสตรีที่เคยถูกวิหารยาธานจับเป็นเครื่องเซ่นสังเวยในฐานะสาวพรมจรรย์ถึงสองครั้งสองคราว

    ไอรีน

    ในวินาทีที่จอมเวทมืดวิหารยาธานปรากฏตัว  ความทรงจำอันโหดร้ายในอดีตได้พรั่งพรูเข้ามาในหัวไม่รู้จบสิ้น  แต่เธอข่มใจสะกดมันไว้โดยไม่แสดงออกทางสีหน้า

    เพื่อมิให้บุตรชายของตนเป็นกังวล  ไอรีนโอบกอดลอร์ดอย่างแนบแน่นพร้อมกับฝืนยิ้ม

    “…ท่านแม่”

    ลอร์ดสัมผัสได้ถึงความสั่นกลัวและความรักจากอ้อมอกไอรีน

    สายตาของเด็กน้อยชำเลืองมองรอบโถงใหญ่ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นสนามรบ

    เขาอยากต่อสู้เพื่อปกป้องทุกคน

    “องค์ชายยังไม่พร้อม  ท่านยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน”

    “ใช่แล้ว  องค์ชายห้ามเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด”

    คาซิม  ชักลเสย์  รวมถึงอัศวินหนุ่มแห่งโอเวอร์เกียร์  

    พวกเขาชักอาวุธพร้อมรบจนตัวตาย

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,263
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ฮึกเหิม​ๆ😤
    สนุก​มาก​ขอบคุณ​ครับ​👍

    ReplyDelete
  2. ลุ้นมาก 🙏😊ขอบคุณที่อัพลงให้อ่านครับแอด

    ReplyDelete
  3. กำลังสนุกเลยเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อกันนะ

    ReplyDelete
  4. ขอให้โค้กทำผลงานเข้าตาด้วยเถอะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00