จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 850



    อัสโมเฟลและเฮสเตอร์มิได้ไล่ตามทหารที่แตกทัพหนีไป  พวกเขาแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของชาวบ้าน  และทหารกลุ่มดังกล่าวคงไม่ย้อนกลับมาอีกแล้ว

    “นายจะช่วยฉันตามหาอดีตอัศวินสีชาด?  นายไปจากที่นี่ได้หรือ?  ไม่ใช่ว่าต้องปกป้องกระท่อมหลังนั้นเพราะมีเหตุผลจำเป็นรึไง?”

    อัสโมเฟลเอ่ยปากถามเฮสเตอร์ที่กำลังถอดหมวกเหล็กคืน  

    อันที่จริง  เหตุผลการเฝ้ากระท่อมของเฮสเตอร์มิได้ซับซ้อน  หนึ่งในทักษะที่ร่ำเรียนจากวินฟรีดเกี่ยวข้องกับการ ‘ทำสมาธิ’  ซึ่งยอดเขาเปลี่ยวผู้คนถือเป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับการฝึก  ยิ่งไปกว่านั้น  คำสั่งเสียของวินฟรีดได้กล่าวไว้ชัดเจนว่า  บุคคลที่ยิ่งใหญ่จะเดินทางมาเยือนยอดเขาแห่งนี้ในอนาคต

    เฮสเตอร์จึงปกป้องกระท่อมและรอคอยโอกาสเสมอมา

    แต่ปัจจุบัน  ถึงเวลาที่มันต้องไปแล้ว  เลเวลของทักษะมีมากเพียงพอ  และบุคคลในคำทำนายคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอัสโมเฟล

    “ลาก่อน…ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง”

    เฮสเตอร์บอกลาชาวบ้านที่เคยมีความทรงจำล้ำค่าร่วมกัน  รวมถึงสถานที่แห่งความผูกพันธ์ระหว่างตนและอาจารย์

    ทันใดนั้น  มันฉีกยิ้มกว้างเมื่อข้อความระบบหนึ่งแสดงขึ้น  

[ ค่าความสัมพันธ์กับอัสโมเฟลเพิ่มขึ้น 10 หน่วย ]

    อัสโมเฟลยินดีต้อนรับศิษย์เอกของเพื่อนเก่าโดยไม่เคลือบแคลง

    “ได้เดินทางร่วมกับศิษย์วินฟรีดก็ไม่เลว  หวังว่าพวกเราจะเป็นประโยชน์ต่อกัน”

    “เช่นกัน”

    ขณะขานรับ  บาเรียคุ้มกายสีส้มสว่างกำลังก่อตัวคลุมร่างเฮสเตอร์
    
[ ทรัพยากรทุกชนิดถูกฟื้นฟูจากผลของทักษะติดตัว ‘ตำนานวีรบุรุษ’ ]
[ หลักจากนี้หนึ่งนาที  พลังป้องกันของท่านจะเพิ่มขึ้นแปรผันตามปริมาณทรัพยากรที่ใช้ไปในช่วงสองนาทีก่อนหน้า  ]
[ บาเรียคุ้มกายที่สามารถสลายการทักษะและเวทมนตร์ทุกชนิดจะคงอยู่นาน 10 วินาที ]

    *** 

[ สูตรสร้าง : เจียงซือ ]
ประเภท : ตำราเวทมนตร์ (ยูนีค)
    ตำราเก่าแก่ที่บรรจุสูตรการสร้างเจืองซือโลหะ
เงื่อนไขการใช้งาน : นักพรต, หมอผี

    ทักษะส่วนใหญ่จะแบ่งได้เป็นสองชนิด  หนึ่งคือ  ชนิดที่เรียนได้เมื่อเลเวลและคลาสสัมพันธ์กัน  และสอง  ชนิดลับที่มีตำราให้เรียนเพิ่มเติมภายหลัง  

    แน่นอนว่าแบบที่สองย่อมมีมูลค่าสูงกว่ามาก

    แตกต่างจากทักษะประจำคลาสที่ดาษดื่น  ตำราทักษะลับถือเป็นไอเท็มที่ขลาดแคลนและหาได้ยาก  โดยเฉพาะเมื่อทักษะมีเกรดสูงและมีประสิทธิภาพมาก  ราคาตำราจะยิ่งพุ่งทยานประหนึ่งติดจรวดขึ้นฟ้า

    ตัวอย่างเช่น  ตำราทักษะเกรดยูนีค  หากนำไปวางขายในโรงประมูล  ราคาขั้นต่ำที่ได้รับคือหนึ่งพันล้านวอน  และหากเป็นตำราที่เรียนได้หลายคลาส  ราคาของมันจะยิ่งสูงเพราะมีความต้องการมาก  แต่ฝ่ายวางขายกลับมีเพียงน้อยนิด

    ปัจจุบัน  ราคาของไอเท็มหายากในซาทิสฟายเพิ่มขึ้นจากหลายปีก่อนมาก

    “จะยกให้ฉันจริงหรือ?”

    หมอผีอันดับสองของโลก  บุลเล็ต  หลังจากถูกแอ็กนัสทอดทิ้ง  เขาประกาศถอนตัวจากอิมมอทัลที่ล่มสลายเพราะฝีมือไอ้บัดซบเวอราดิน

    บุลเล็ตกำลังทึ่ง

    เขาไม่ทราบมาก่อนว่า  เจียงซือที่กริดพูดถึงในวันนั้นจะหมายถึงตำราเรียนทักษะเกรดยูนีค  บุลเล็ตคิดเพียงว่า  คงเป็นไอเท็มชนิดหนึ่งจำพวกกดใช้แล้วจะอัญเชิญมอนสเตอร์ประเภทเจียงซือได้ชั่วคราว

    และอันที่จริง  ความสนใจของบุลเล็ตมิได้อยู่ที่เจียงซือตั้งแต่ต้น  เขาเดินทางมายังไรนฮาร์ทเพราะสัมผัสถึงความห่วงใยที่กริดมอบให้ผ่านสายตาในวันก่อน  เรื่องของเจียงซือแทบไม่มีอยู่ในหัวสมอง

    “ทำไมถึงเป็นฉัน?”

    บุลเล็ตถามซ้ำด้วยนัยน์ตาสั่นระริก  เขากังวลว่า  หนังสือเล่มนี้จะเป็นลางบอกเหตุของความสัมพันธ์ที่ตนมิได้ต้องการ

    “ขอเตือนไว้ก่อน  ฉันจะไม่บอกข้อมูลเกี่ยวกับแอ็กนัสเด็ดขาด  ส่วนหนึ่งเพราะฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย  หรือต่อให้รู้ก็ไม่มีวันบอกนาย  ฉันไม่ต้องการตกเป็นเป้าจองล้างจากหมอนั่น  ขอโทษด้วยที่เป็นประโยชน์ให้ไม่ได้”

    บุลเล็ตกล่าวพลางก้มศีรษะ  เขากังวลว่าตนอาจทำให้กริดไม่พอใจ  ทั้งที่กริดหยิบยื่นโอกาสล้ำค่าให้แม้จะกลายเป็นศัตรู

    ‘เราพลาดโอกาสมีเพื่อนอีกแล้วสินะ’

    สีหน้าของบุลเล็ตเผยความขื่นขมชัดเจน  เขาก้มหน้ามองพื้นด้วยบรรยากาศหม่นหมอง  บุลเล็ตมั่นใจหลายส่วนว่ากริดต้องโกรธแน่  โดยเฉพาะการที่เขาปกป้องแอ็กนัสซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของกริด

    แต่ท่าทีจากกริดนั้นตรงกันข้าม

    “หยุดพูดจาเหลวไหลสักที  ฉันไม่ได้ต้องการของแบบนั้นเลยสักนิด”

    “…?”

    “ฉันแค่ต้องการให้นายเป็นพวกพ้อง  ตำราเล่มนี้ถือเป็นสินบนก็แล้วกัน”

    กริดทราบดีว่าบุลเล็ตคือหมอผีที่แข็งแกร่ง  เฉกเช่นเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่ทรงพลังในแต่ละสาขาของตัวเอง  

    แต่ถึงจะมีขุมกำลังที่ยอดเยี่ยมเพียงใด  แต่ก็ไม่มีวันเพียงพอสำหรับสงครามแสนโหดร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  

    ไม่มีทางที่กริดจะวางใจลง

    กริดจึงเกิดแผนจ้องทำลายเคียร์  มิใช่เพราะกังวลว่าเคียร์จะเป็นศัตรูตัวฉกาจในอนาคตเพียงอย่างเดียว  แต่กริดกำลังกังวลถึงจุดยืนอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในอนาคต  

    ไม่ช้าก็เร็ว  อาณาจักรของตนจะถูกโดดเดี่ยวโดยกลุ่มผู้เล่น  เพื่อการนั้น  เขาต้องการพลังและความมั่งคั่งสำหรับความอยู่รอดของอาณาจักร

    การยืดครองธรุกิจเคียร์คือหนึ่งในแผนที่ถูกวางไว้  รวมถึงการรวบรวมบุคคลพรสวรรค์เช่นบุลเล็ต  ชายคนนี้สามารถตอบสนองสิ่งที่กริดต้องการได้  ต้องอย่าลืมว่า  ตำราสูตรสร้างเจียงซือได้ถูกเก็บไว้ในช่องสัมภาระกริดมานานจนหยากไย่แทบขึ้น  ไม่ช้าก็เร็ว  เขาต้องการตัวผู้เล่นคลาสหมอผีเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์สักคนหรือสองคนอยู่ดี

    ในเมื่อหมอผีอันดับหนึ่งคือไอ้บัดซบเวอราดิน  การคว้าตัวบุลเล็ตซึ่งเป็นอันดับสองจึงนับว่าเหมาะสม

    “ได้ยินเรื่องของอิมมอทัลกับเวอราดินมาแล้ว  แอ็กนัสไม่เคยปรากฏตัวในตอนที่อิมมอทัลตกที่นั่งลำบากเลยสินะ”

    “…”

    กริดได้ยินบทสนทนาระหว่างบุลเล็ตและเวอราดินโดยบังเอิญ  อุดมคติของบุลเล็ตสอดคล้องกับบรรยากาศภายในกิลด์โอเวอร์เกียร์มาก  และนั่นคือสาเหตุที่กริดเชื่อใจ

    “เข้าร่วมโอเวอร์เกียร์ซะ  พวกเราทุกคนต้องการนาย  ฉันเองก็ต้องการนาย”

    “…”

    ชายหนุ่มจดจ้องบุลเล็ตด้วยดวงตาที่ไม่สั่นคลอน

    ช่างแตกต่างจากพวกที่หวังพึงพาพลังของบุลเล็ต  รวมถึงพวกพ้องที่จิกหัวใช้และเตรียมเขี่ยทิ้งในภายหลัง  

    มาดแสนองอาจของกริดได้ตอกย้ำความเชื่อใจที่บุลเล็ตรู้สึก  เมื่อได้รับรู้ว่าพลังของตนเป็นที่ต้องการจากศัตรู  จากผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลก  หัวใจบุลเล็ตจึงถูกโยกคลอนอย่างรุนแรง

    ความรู้สึกนับถือและชื่นชมในตัวกริดเป็นคนละบรรยากาศกับแอ็กนัส

    “ขอบคุณมาก  ในอนาคต  ฉันจะตอบแทนกิลด์โอเวอร์เกียร์…ไม่สิ  กริด  ฉันจะตอบแทนความเชื่อใจที่นายมอบให้”

    แต่ก่อนอื่น  มีสิ่งหนึ่งที่บุลเล็ตต้องทำให้ชัดเจน

    “ฉันจะซื้อตำราเล่มนี้ในราคาสมเหตุสมผล  การรับมาฟรีจะทำให้ตัวฉันติดค้างนายมากเกินไป”

    บุลเล็ตเคยเห็นความสัมพันธ์ที่พังลงเพราะเรื่องเงินมานักต่อนัก  จึงไม่ต้องการให้ตัวเองเดินซ้ำรอยดังกล่าว  เขาตัดสินใจโดยมีประสบการณ์ในอดีตรองรับ

    แต่กริดตอบปฏิเสธ

    “ของแบบนั้นไม่จำเป็น  นายรู้รึเปล่าว่าฉันได้ตำราเล่มนี้มาจากทวีปตะวันออก”

    ไอเท็มที่ได้รับระหว่างภารกิจช่วยสองพ่อลูกตระกูลฮาน  ดรอปจากบอสใหญ่สุดของคุกลาวา  คุกหลวงที่มีระดับการอารักขาสูงสุดของอาณาจักรโช  

    มันคือตำราที่มิอาจหาได้อีกแล้ว

    “นายคิดว่าตำรานี้มีมูลค่าเท่าไรกัน?”

    “…”

    แล้วตนต้องทำอย่างไร?  บุลเล็ตสับสนจนทำได้เพียงนิ่งเงียบ  

    กริดเริ่มแสยะยิ้ม

    “ฉันขอซื้อความเป็นเพื่อนจากนายด้วยตำราเล่มนี้  นายต้องอยู่กิลด์โอเวอร์เกียร์ไปจนกว่าจะเลิกเล่น”

    “ถ้าฉันกดเรียนมันแล้วรีบหนีไปล่ะ?”

    “เคยเห็นชะตากรรมของเหยื่อที่ถูกประกาศค่าหัวแล้วไม่ใช่รึไง?  ฉันจะตามล่าไปจนสุดขอบขุมนรก”

    “ฮะฮะ…”

    เขาควรปฏิเสธดีไหม?  บุลเล็ตครุ่นคิดอย่างจริงจัง  

    แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเย้ายวนเกินกว่าจะห้ามใจไหว  สิ่งนั้นมิใช่ตำรา  หากแต่เป็น ‘สายสัมพันธ์พวกพ้อง’ ที่ถวิลหามาแสนนาน
    
[ หมอผี ‘บุลเล็ต’ เข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์หนึ่ง ]

    *** 

[ ท่านได้รับไอเท็ม ‘สูตรสร้าง : เจียงซือ’ ]

[ ท่านใช้งาน ‘สูตรสร้าง : เจียงซือ’ ] 
[ ท่านได้รับทักษะ ‘สร้างเจียงซือ’ ]
[ ท่านได้รับทักษะ ‘สร้างโลงศพ’ ]
[ ท่านได้รับทักษะ ‘บงการเจียงซือ’ ]

[ สร้างเจียงซือ Lv.1 ]
* ท่านสามารถเปลี่ยนซากศพของมนุษย์ให้กลายเป็นเจียงซือได้  
( ไม่สามารถสร้างจากซากศพสิ่งสีมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่น )
* ท่านไม่สามารถสร้างเจียงซือได้หากเลเวลของศากซพมีระดับสูงกว่าเลเวลผู้สร้าง
    เลเวลขั้นต่ำของเจียงซือคือ 100 และสูงที่สุดคือ 100 เลเวลต่ำกว่าผู้สร้าง
( ยิ่งเลเวลทักษะมากขึ้น  ความหลากหลายของเจียงซือก็ยิ่งมีมาก  )
ทรัพยากรที่ใช้ : 100% มานาสูงสุด
ระยะหน่วง : ไม่มี

[ สร้างโลงศพ ]
* สร้างโลงศพสำหรับเก็บเจียงซือ 
( โลงศพจำเป็นต้องใช้เพื่อบงการเจียงซือ )
    อัตราการใช้ง่านระหว่างเจียงซือและโลงศพคือ 1:1
ทรัพยากรที่ใช้ : 1,000 มานา
วัถตุดิบที่ใช้ : 
- หนามแหลม 12 ชิ้น
- ไม้เบิร์ช 3 ท่อน
ระยะเวลาการสร้างโลงศพ : 1 ชั่วโมง 30 นาที

[ บงการเจียงซือ Lv.1 ]
(ทักษะติดตัว)
    ท่านสามารถบงการเจียงซือได้สองตนพร้อมกัน    
    เมื่อนำออกจากโลงศพ  เจียงซือสามารถใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง  หลังจากครบ 3 ชั่วโมง  เจียงซือต้องกลับไปพักผ่อนในโลกเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
    หากเจียงซือเสียชีวิต  ระยะเวลาพักผ่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 12 ชั่วโมง

    ‘สุดยอด…’

    เมื่อบุลเล็ตได้เห็นรายละเอียดทักษะใหม่และเริ่มเข้าใจธรรมชาติของเจียงซือมากขึ้น  เขาอดรู้สึกทึ่งไม่ได้

    ‘พวกมันพัฒนาไปเป็นตัวตนพิเศษได้เหมือนอัศวินความตายงั้นหรือ?’

    ข้อเสียเดียวที่เห็นคือ  เลเวลสูงสุดของเจียงซือจะถูกกำจัดไว้ต่ำกว่าผู้ใช้งานหนึ่งร้อยระดับ      แต่ขีดจำกัดอาจลดลงเมื่อเลเวลทักษะเพิ่มขึ้น  
    
    หรืออีกความหมายหนึ่ง  เจียงซือถือเป็นสัตว์อัญเชิญระดับท็อป

    “สุดยอดสัตว์อัญเชิญ…”

    “ฉันบอกนายแล้ว  ตำราเล่มนี้ดรอปจากทวีปตะวันออกอย่างยากลำบาก”

    กริดยังจดจำความแข็งแกร่งของเจียงซืออาชาทมิฬในคุกลาวาได้ดี  มันคือสัตว์ประหลาดที่ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางรับมือไหว  

    หากบุลเล็ตบงการกองทัพเจียงซืออาชาทมิฬได้ในอนาคต… 

    “บุลเล็ต  ช่วยพัฒนาและวิจัยมันอย่างเต็มที่  ขาดเหลือสิ่งใดสามารถแจ้งฉันหรือลอเอลได้ทุกเมื่อ”

    “จะไม่ทำให้นายผิดหวังแน่นอน!”

    บุลเล็ตกำลังตื่นเต้น 

    เขามั่นใจว่า  เมื่อตนเองทำการอัญเชิญอันเดดปรกติพร้อมกับอัญเชิญเจียงซือที่ไม่สิ้นเปลือง ‘ค่าพลังปกครอง’  กองทัพสัตว์อัญเชิญของตนอาจมีระดับทัดเทียมแอ็กนัสได้ในสักวัน  

    บุลเล็ตรู้สึกว่าขีดจำกัดของตัวเองถูกปลดปล่อย  เขามีท่าทีรีบร้อนโดยไม่รู้ตัว

    “ต้องรีบเปลี่ยนสร้อยคอแล้ว”

    สร้อยคอเส้นปัจจุบันทำจากกระดูกอีกา  กึ่งกลางสร้อยมีอัญมณีที่ช่วยเพิ่มค่าพลังปกครองฝั่งอยู่  ยิ่งสร้อยเกรดสูง  ระดับพลังปกครองก็ยิ่งมาก

    “สร้อย?  นายรู้จักช่างอัญมณีฝีมือดีงั้นหรือ?”

    กริดเอ่ยปากถามบุลเล็ตผู้ซึ่งเตรียมถลุงเงินจำนวนมากไปกับสร้อยคอเส้นใหม่  

    อัญมณีบีเลียลจำนวนมากยังคงหลับไหลในช่องสัมภาระโดยปราศจากการรบกวน  สาเหตุที่สุดยอดอัญมณีถูกทอดทิ้งอย่างไร้ค่า  เพราะกริดยังมิอาจหาช่างอัญมณีฝีมือเยี่ยมได้  

    บุลเล็ตพยักหน้าโดยไม่ลังเล
    
    “ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์หญิง”

    “องค์หญิง?”

    เหตุใดคำว่าองค์หญิงถึงถูกเอ่ยขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้?  บุลเล็ตรีบอธิบาย

    “อ้อ…เธอค่อนข้างโด่งดังในแวดวงผู้เล่นหมอผี  ช่างอัญมณีฝีมือเยี่ยมที่อาศัยอยู่ในดันเจี้ยนลึกทางเข้าภูเขาเจรัด  เธอมักรับแต่งานผลิตสร้อยคอ  ทั้งทรงผมและท่าทีคล้ายคลึงกับพวกองค์หญิงของอาณาจักร  พวกเราจึงเรียกเธอว่าองค์หญิง”

    “แนะนำให้ฉันรู้จักด้วยสิ”

    “อาจจะยากหน่อยนะ”

    *** 

    ในวันที่บุลเล็ตเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์  ทั่วโลกเกิดเสียงฮือฮาอีกคำรบ

- อันดับผู้เล่นคลาสหมอผี -
1. เวอราดิน (ไม่มีกิลด์)
2. บุลเล็ต (โอเวอร์เกียร์)

=== หลังจากมุโต้ก็เป็นบุลเล็ต?

=== หมอผีอันดับสองเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์…บ้าไปแล้ว

=== บุลเล็ตเคยอยู่อิมมอทัลไม่ใช่รึไง?

=== เจ้านั่นคงถูกฆ่าจนตัวเปื่อย  จึงยกธงขาวยอมแพ้และเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์… 

=== ไม่มีศักดิ์ศรีสักนิด!  ในสายตาอิมมอทัล  หมอนี่คงเป็นคนทรยศที่น่ารังเกียจ 

=== พวกนายกำลังวิจารณ์คนที่เลือกทางเดินสงบสุขเนี่ยนะ?  ไปยุ่งอะไรกับเขา?

=== กองทัพโอเวอร์เกียร์ + กองทัพอันเดด… 

=== ต่อให้เจ็ดกิลด์ใหญ่ร่วมมือกัน  คนเหล่านั้นก็หมดสิทธิ์ต่อต้านโอเวอร์เกียร์

=== ไม่เห็นจะแปลกนี่?  เจ็ดกิลด์ใหญ่เคยพังพินาศเพราะชาวนาเรย์ดันเพียงคนเดียวมาแล้ว

=== นั่นสินะ…เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น

=== ซีบาลกับซิวรอนไปไหนแล้ว?

=== คงหาทางประจบโอเวอร์เกียร์อยู่มั้ง?

=== แอ็กนัสล่ะ

=== ไม่มีใครเดาการกระทำแอ็กนัสได้… 

    ทั้งขั้วอำนาจปัจจุบัน  อดีต  และขั้วอำนาจใหม่  ทั้งหมดต่างถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นสนทนาร้อนแรง  โดยเฉพาะแอ็กนัสที่ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากกลายเป็นตำนาน
    
    ***

    “คิคิคิก!”

    ชายคนหนึ่งเดินทางมาถึงปากทางเข้าภูเขาลูกใหญ่—ภูเขาเจรัด  ซึ่งด้านในมีดันเจี้ยนมากมายถึงหกแห่ง 

    สวาปามจกบัลเผ็ดเริ่มเหงื่อตกเมื่อดันเจี้ยนสุดทรงพลังของตนถูกทำลายลงห้องแล้วห้องเล่า

    “ฝีมือกริดงั้นหรือ?”

    เป็นไปไม่ได้แน่  ความเร็วระดับนี้  แม้แต่กริดก็ทำไม่ได้

    “หรือว่ามังกร?”

    เรื่องใหญ่ล่ะสิ…

    สวาปามจกบัลเผ็ดละทิ้งทุกสิ่งเพื่อรีบมุ่งหน้าไปยังภูเขาเจรัด

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,260
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. Replies
    1. ขอบคุณ​ครับ​

      Delete
    2. ตอนต่อไปตามมาติดๆ

      Delete
  2. ขอบคุณที่แปลครับ นึกว่าไม่อัพแล้ว 🙏😅

    ReplyDelete
  3. ปูบทให้แอ็กนัสดูน่าเกรงข่ามเกิ้นนนน

    ReplyDelete
    Replies
    1. แอสนัสมันรู้จุดเก็บดีเกิ๊นนน พลังของแอสนัสคือ แผนที่โลกอ๋อ หรือมันเป็นผู้หวนคึน

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00