จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 859



    “อัญมณีเหล่านี้…หากพวกมันมีความแข็งที่มากพอ  เราสามารถนำไปใส่ในอุปกรณ์สวมใส่จำพวกดาบและชุดเกราะได้ใช่ไหม?”

    ถ้าใช่  หมายความว่ากริดสามารถเพิ่มแต้มสถานะและค่าต้านทานในอุปกรณ์สวมใส่ด้วยอัญมณีบีเลียลได้  สิ่งนี้จะเป็นนิยามใหม่ของคำว่าโอเวอร์เกียร์โดยแท้จริง

    อลิซาเบธพยักหน้าให้กริดที่กำลังคาดหวัง

    “แม้จะไม่ใช่ความคิดที่แย่  แต่มันเป็นได้เพียงมายาอุคมติ  ช่างอัญมณีกับช่างเหล็กทั่วโลกเคยทดสอบเรื่องนี้กันแล้ว  และผลลัพธ์คือความล้มเหลวไม่เป็นท่า”

    ปัญหาสำคัญคือหลักพื้นฐาน

    “ค่าความยืดหยุ่นของอัญมณีไม่สัมพันธ์กับค่าความแข็ง   นอกจากอัญมณีพิเศษบางชนิดแล้ว  อัญมณีส่วนใหญ่ง่ายต่อการแตกหักแม้ผิวสัมผัสจะแข็งมากก็ตาม  ไม่เว้นแม้แต่เพชรระดับสูง  หากถูกแรงกระแทกเกินกว่าขีดจำกัด  มันจะแหลกละเอียดโดยมิอาจคืนกลับสู่สภาพเดิม  แม้แต่อัญมณีบีเลียลก็ไม่ถูกยกเว้น  นั่นคือสาเหตุหลักที่ช่างเหล็กไม่นิยมนำอัญมณีติดตั้งในอุปกรณ์สวมใส่  นอกเสียจากทำไปเพื่อตกแต่ง  การโจมตีที่มีแรงปะทะสูงจากดาบหรือหอกจะป่นพวกมันจนแหลกละเอียด”

    “อัญมณีพิเศษที่เธอบอกว่าทนแรงปะทะได้ดีมีอะไรบ้าง?”

    “เพชรทมิฬ  แต่มันพิเศษจนฉันไม่สามารถเจียระไนได้เช่นกัน  คงต้องเป็นช่างอัญมณีในตำนานเท่านั้นกระมัง…”

    “หืม…”

    กริดมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย  น่าเสียดายที่ไอเดียใหม่ของตนไม่เกิดประโยชน์

    แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น

    ‘เดี๋ยวก่อน…’

    กริดพลันนึกถึงมงกุฏ 

    เหตุใดเขาถึงเลื่อนการผลิตมงกุฏมาตลอดนับแต่ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์คนแรก?  คำตอบคือ  มงกุฏใหม่ที่จะสร้างต้องมีอัญมณีจำนวนมากประดับประดา  ซึ่งเขาไม่สามารถหาช่างอัญมณีมาเจียระไนได้  

    แผนการสร้างมงกุฏจึงต้องพับเก็บไปอย่างไม่มีกำหนด

    สิ่งหนึ่งผุดขึ้นในหัวเลือนลาง

    ‘เราสามารถสวมมงกุฏและหมวกเหล็กพร้อมกันได้  และสามารถเลือกแสดงรูปลักษณ์ของสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามต้องการ’

    ปัจจุบัน  กริดครอบครองอัญมณีล้ำค่าจำนวนมากและมีช่างอัญมณีฝีมือเยี่ยมใกล้ตัว  เขาสามารถสร้างมงกุฏซึ่งประดับด้วยอัญมณีสิบเม็ดได้แล้ว  

    เฉกเช่นมงกุฏที่มหาจักรพรรดิฮวนเดอร์สวม  ไอเท็มใหม่ชนิดนี้จะช่วยส่งเสริมค่าสถานะปริมาณมหาศาล

    บุคคลทั่วไปมิอาจสวมมงกุฏลงสู่สมรภูมิสนามรบได้  เนื่องจากแรงปะทะของปลายแหลมดาบและหอกฝ่ายศัตรูอาจทำลายอัญมณีล้ำค่าจนชำรุดถาวร 

    แต่กับกริดล่ะ?

    ‘เราสามารถสวมหมวกเหล็กครอบอีกชั้นได้  ประสิทธิภาพของมงกุฏจะยังคงเดิม  และมันจะไม่ถูกทำลายจากอาวุธฝ่ายศัตรู’

    หนึ่งในสิทธิพิเศษของ ‘กษัตริย์คนแรก’ ที่ไม่มีใครเหมือน  การมีช่องสวมใส่ศีรษะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง

    ผู้เล่นทั่วไปต้องเลือกสวมหนึ่งสิ่งบนศีรษะ  ระหว่างหมวกเหล็ก  หมวกฟาง  หมวกจอมเวท  มงกุฏ  หรือหมวกชนิดอื่น  ขณะที่กริดได้รับสิทธิให้สวมได้ถึงสอง  โดยหนึ่งในสองจะถูกบังคับให้เป็นมงกุฏ

    กริดเคยทดสอบโดยการสวมมงกุฏแสงศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้านในมาพักใหญ่  ส่วนด้านนอกสวมหมวกเหล็กใหญ่ปิดไว้  

    ผลการทดสอบคือ  การสวมหมวกเหล็กปกคลุมไว้จะช่วยให้มงกุฏไม่สูญเสียค่าต้านทาน  แต่ยังแสดงประสิทธิภาพของมงกุฏได้เต็มที่

    แม้กริดจะยังหาทางฝังอัญมณีให้กับอุปกรณ์สวมใส่ไม่ได้  แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ  ไอเดียใหม่ของกริดสามารถนำไปใช้กับมงกุฏที่มีหมวกเหล็กสวมทับ  เขาจะได้รับแต้มสถานะเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเสี่ยงถูกทำลายอัญมณี

    แต่ปัญหายังไม่หมด

    ‘หมวกเหล็กต้องใหญ่จนสามารถปกปิดมงกุฏได้มิดชิด’

    ตลอดสามปีที่ผ่านมา  กริดเลือกสวมหมวกเหล็กหนาที่สร้างขึ้นพร้อมกับสามชั้นและถุงมือเหล็ก  

    ซึ่งเป็นดังชื่อของมัน  หมวกเหล็กหนาคือไอเท็มที่มีพลังป้องกันสูงลิบ  มาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่มหึมา  ใหญ่พอจะปกปิดมงกุฏแสงศักดิ์สิทธิ์ของสันตะปาปาได้มิดชิด

    เช่นนั้นแล้ว  มันนำมาใช้กับมงกุฏใหม่ได้หรือไม่?

    คำตอบคือไม่ได้

    กริดไม่เพียงต้องการติดอัญมณีมากถึงสิบเม็ดลงไปในมงกุฏใหม่  เขายังคำนึงถึงรูปลักษณ์ความงดงามของมงกุฏด้วย

    มงกุฏใหม่จะเป็นเครื่องแสดงอำนาจบารมีและฐานะ  ไม่แปลกที่ขนาดของมันจะใหญ่กว่ามงกุฏแสงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีจำนวนอัญมณีน้อยกว่า  ดังนั้นหมวกเหล็กใบใหม่ต้องมีขนาดใหญ่พอจะปกปิดมันให้มิดชิด

    ‘หมวกเหล็ก…’

    กริดหรี่ตาลงพลางครุ่นคิด

    หากขนาดและน้ำหนักของหมวกมีมากเกินไป  การมองเห็นจะถูกกำจัด  หรือแม้กระทั่งอาจส่งผลให้ความเร็วลดลง

    ‘เดี๋ยวก่อน… 

    ทันใดนั้น  ขณะกริดเห็นอลิซาเบธก้มหน้าเจียระไนอัญมณีชุดถัดไป  เขาหวนนึงถึงบางสิ่ง  มันคือหมวกที่ลิมชอลโฮเคยสวมในปาร์ตี้วันเกิดของตนที่ผ่านมา

    ‘หมวกทรงกรวย!’

    อธิบายโดยสั้น  มันคือหมวกเหล็กทรงกรวยปลายแหลมที่เหมือนกับกรวยจราจรสีส้ม

    ‘ถ้าเพิ่มความสูงให้หมวกเหล็ก  อาจจะมีพื้นที่มากพอสำหรับปกป้องมงกุฏ  แถมยังไม่บดบังการมองเห็นให้แคบลงอีกด้วย’

    กริดครุ่นคิดเป็นจริงเป็นจังพลางนึกชื่นชมตัวเอง

    ‘เราอัจฉริยะที่สุด!’

    กริดสนใจเพียงรูปลักษณ์ของมงกุฏ  ซึ่งจะเป็นเครื่องหมายแสดงอำนาจบารมีกษัตริย์  โดยเขาไม่สนใจรูปทรงหรือความอัปลักษณ์ของหมวกเหล็กแม้แต่น้อย  

    สิ่งนี้มิได้เกิดจากความเบาปัญญาหรือขาดการไตร่ตรอง  แต่เป็นเพราะกริดสามารถเลือก ‘แสดง’ รูปลักษณ์อุปกรณ์สวมใส่ศีรษะได้หนึ่งชนิด

    แน่นอน  ถึงเขาจะสวมหมวกเหล็กทรงกรวยจารจรสุดอัปลักษณ์เหนือศีรษะ  แต่กริดต้องเลือกปิดมันและแสดงเพียงมงกุฏเพื่อความ ‘เท่’ ในสายตาคนรอบข้าง

    เมื่อตัดสินใจได้  ชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะคิกคักตามลำพัง  ส่งผลให้อลิซาเบธถูกรบกวนสมาธิจนต้องหันมามอง

    “มีอะไรน่าสนุกหรือ?”

    กริดเอ่ยปากถามเธอ

    “ฉันต้องการทราบว่า  ไอเท็มหนึ่งชิ้นติดตั้งอัญมณีได้สูงสุดกี่เม็ด?  เช่นแหวน  แหวนหนึ่งวงมีอัญมณีได้เท่าไร?”

    “นอกจากอัญมณีเม็ดหลัก  แหวนหนึ่งวงสามารถติดตั้งอัญมณีขนาดเล็กได้มากมาย  แต่พวกมันจะไม่แสดงผลใดพิเศษ”

    “เพราะอะไร?”

    “อัญมณีต้องมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับแสดงประสิทธิภาพ  หากเล็กเกินไป  มันจะไม่เกิดประโยชน์ใดนอกจากสิ่งตกแต่ง”

    “หมายความว่า…แหวนหนึ่งวงใส่อัญมณีได้เพียงหนึ่งเม็ด?”

    “ถูกต้อง”

    “ถ้าอย่างนั้น  มงกุฏสามารถประดับอัญมณีได้สูงสุดกี่เม็ด?  นับเฉพาะเม็ดที่แสดงประสิทธิภาพ”

    “สิบเม็ด  นายเคยเห็นมงกุฏของมหาจักรพรรดิแล้วมิใช่หรือ?  ชายคนนั้นสวมมุงกุฏที่มีสุดยอดอัญมณีสิบเม็ดประดับอยู่”

    “อา…ใช่”

    “นั่นคือจำนวนสูงสุดของมงกุฏ  เมื่อเทียบกับสร้อยคอที่ประดับอัญมณีได้เพียงสามเม็ดแล้ว  มงกุฏคือไอเท็มที่แสดงประสิทธิภาพของอัญมณีได้สูงที่สุด  แต่บุคคลเดียวในโลกที่ต่อสู้โดยสวมมงกุฏได้คือมหาจักรพรรดิ”

    ‘ไม่จริงสักหน่อย…ยังมีอีกคนตรงนี้’

    กริดแสยะยิ้ม  เขาไม่ได้กล่าวออกไป

    อลิซาเบธถามต่อ

    “ขอเดาว่า  อัญมณีชุดแรกที่ฉันเจียระไนจะถูกใช้กับสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นที่ไม่ใช่นายสินะ?”

    “เพราะอะไร?”

    “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเคยเจียระไนอัญมณีบีเลียล  ส่งผลให้อัญมณีชุดแรกจะมีคุณภาพต่ำกว่าอัญมณีชุดหลัง  ออปชั่นและประสิทธิภาพย่อมด้อยกว่า  ขอแนะนำว่า  เครื่องประดับที่นายจะสวมควรใช้อัญมณีที่ฉันเจียระไนชุดหลังสุด”

    “ไม่จำเป็น  ของฉันใช้ชุดแรกนี่แหละ”

    “ไม่ได้ยินที่อธิบายรึไง?  ประสิทธิภาพของมันต่ำกว่ากว่าชุดหลังมาก  ไม่เชื่อลองดูนี่”

    อลิซาเบธยื่นอัญมณีบีเลียลที่เจียระไนตลอดทั้งคืนให้กริดชม

    ชายหนุ่มอ่านรายละเอียด

[ อัญมณีบีเลียลสีดำที่ถูกเจียระไนอย่างหยาบ (C) ]
* สติปัญญา +6
* ต้านทานธาตุมืด +2%
    อัญมณีดำที่ถูกเจียระไนโดย ‘อลิซาเบธ’   ช่างอัญมณีระดับช่างฝีมือ
    เป็นผลงานที่ไม่เลว

    “การเจียระไนชุดต่อไปจะยิ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น  ชื่อของอัญมณีจะต่อท้ายด้วย ‘ถูกเจียระไนอย่างปราณีต’ และ ‘ถูกเจียระไนอย่างสมบูรณ์’  แต้มสถานะของมันจะเพิ่มขึ้นเม็ดละหนึ่งถึงสามหน่วย”

    กริดไม่ใช่เด็กแล้วนะ  ทำไมเธอต้องเสียแรงอธิบายมากขนาดนี้?  

    อลิซาเบธเคยพบลูกค้าหลายรูปแบบ  เธอย่อมเห็นด้านละโมบของมนุษย์มากมาย  โดยเฉพาะเหล่าแรงเกอร์แถวหน้าของโลกที่คาดหวังให้ทุกสิ่งออกมาสมบูรณ์แบบ 

    ถูกต้อง

    อลิซาเบธคิดว่ากริดต้องเลือกใช้อัญมณีเม็ดที่ดีที่สุดกับเครื่องประดับตัวเอง  และใช้อัญมณีเกรดรองลงมากับสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่น

    แต่คำตอบจากปากกริดกลับผิดคาด

    “นำอัญมณีเม็ดที่ดีให้พวกพ้องของฉันใช้งาน  ต่อให้ไม่มีอัญมณีเหล่านี้  แต่ฉันก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว”

    “อะไรนะ?”

    ชื่อ ‘กริด’ มีความหมายพ้องกับ ‘กรีด’ (Greed) ที่แปลว่าละโมบ  และกริดเคยแสดงความโลภอย่างไร้ยางอายต่อหน้าสื่อทั่วโลกนับครั้งไม่ถ้วน

    หมายความว่า  เขากำลังแสร้งเป็นคนดีต่อหน้าเธองั้นหรือ?  ไม่เหมือนเลยสักนิด  

    อลิซาเบธมองไม่เห็นเศษเสี้ยวของการสวมหน้ากากเป็นคนดีจากสีหน้าที่กริดแสดงออก  

    ชายหนุ่มส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้อลิซาเบธที่กำลังฉงน

    “ยิ่งพวกพ้องของฉันแข็งแกร่ง  นั่นก็ยิ่งดีกับตัวฉัน  ความแข็งแกร่งของพวกเขาย่อมหมายถึงความแข็งแกร่งของอาณาจักร  มันคือผลลัพธ์ที่ดีผลดีต่อทุกฝ่าย”

    “นี่นาย…”

    “ฉันอาจโลภกว่านี้ถ้าไม่มีอัญมณีเกรด S รอเจียระไนอยู่”

    “…”

    “เธอคงเจียระไนมันได้สักวันใช่ไหม?  จนกว่าจะถึงตอนนั้น  ฉันจะรอนะ”

    ‘โลกนี้มีพวกเพี้ยนเต็มไปหมด’

    อลิซาเบธเริ่มตระหนักว่า  เธอไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก  เด็กสาววัยยี่สิบตอนต้นที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยได้บรรลุสัจธรรมเพิ่มอีกหนึ่งข้อ

    สายตาที่เธอจ้องมองกริดเริ่มแฝงความเชื่อใจทีละน้อย

    ‘กิลด์โอเวอร์เกียร์…อาจดีกว่าที่คิดก็ได้  อยู่ต่อไปอีกสักพักก็แล้วกัน’
    
    *** 

    “หืม…”

    ผ่านมาแล้วสี่วันนับตั้งแต่อลิซาเบธเริ่มลงมือทำงาน

    ยิ่งคุ้นชิน  ความเร็วในการเจียระไนของเธอก็ยิ่งเพิ่มขึ้น  

    เธอยินดีมากเมื่อค่าประสบการณ์ของทักษะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน 

    อลิซาเบธทำงานอย่างมีความสุขพลางหันไปมองกริดที่ยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง

    “พี่ยังสุดยอดเหมือนเคย”

    เธอไม่ประหลาดใจอีกแล้ว  

    ความอดทนแสนน่าทึ่งที่กริดแสดงให้เห็นตลอดสี่วันเต็ม  อลิซาเบธคุ้นชินกับมัน  

    เธอเดินมานั่งข้างกริดด้วยสีหน้าสนใจ  ชายหนุ่มผงกศีรษะให้เล็กน้อย

    อลิซาเบธกล่าวชม

    “หนูเข้าใจแล้ว  พี่ไม่เคยเจอกับงานที่ง่ายเลยสักครั้ง  กว่าพี่จะมีวันนี้ได้ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย”

    “ถูกต้อง  มีเรื่องง่ายบนโลกแสนโหดร้ายแห่งนี้ด้วยหรือ?”

    อลิซาเบธเรียกกริดว่า ‘พี่’ อย่างเป็นกันเอง

    ในฐานะชาวเกาหลีใต้เหมือนกัน  กริดอายุมากกว่าเธอ  และชายคนนี้ก็มีน้องสาวในวัยไล่เลี่ยกับเธอ  อลิซาเบธจึงเรียกกริดว่าพี่

    เธอเขินอายเกินกว่าจะเรียกกริดว่าชินยองวูโดยตรง

    แต่สิ่งนี้กลับทำให้คนทั้งสองสนิทกันได้รวดเร็ว   กริดใช้เวลาตลอดสี่วันขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานอลิซาเบธ  

    ส่วนเธอขจัดอคติในใจที่เคยมีทั้งหมด

    ด้วยความที่มีอายุใกล้เคียงกับน้องสาวตน  กริดจึงรู้สึกเป็นกันเองมากขึ้นเมื่ออลิซาเบธเรียกขานในลักษณะนี้

    ราวกับเขามีน้องสาวที่น่ารักเพิ่มอีกหนึ่งคน  กริดเริ่มสนทนากับอลิซาเบธอย่างเป็นกันเองมากขึ้น

    “ทำงานเหนื่อยรึเปล่า?  ให้พี่นวดให้ไหม?”

    แม้จะกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย  แต่ตัวกริดเองก็เริ่มออกอาการล้าไม่ต่างกัน 

    ตลอดสี่วันที่ผ่านมา  เขาออกแบบมงกุฏและหมวกเหล็กใบใหม่พลางเฝ้ามองการทำงานของอลิซาเบธเป็นระยะ  

    ในช่วงที่เธอล็อกเอาต์  กริดจะออกไปเก็บเลเวลให้กับโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ในจุดที่ไม่ห่างจากไรนฮาร์ทนัก

    เขาใช้เวลาสี่วันอย่างหักโหมราวกับมีร่างกายสำรองไว้คอยสับเปลี่ยน  

    และนั่นคือเหตุผลที่หัวสมองของชายหนุ่มกำลังเบลอสุดขีด  ถึงขั้นออกตัวว่าจะนวดผ่อนคลายให้กับอลิซาเบธโดยหลงลืมพลัง ‘มือมาร’ จนหมดสิ้น

    “จริงหรือ?  แบบนั้นก็เยี่ยมเลย”

    เธอขานรับข้อเสนอจากกริดพลางฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

    กริดยิ้มตอบ  จากนั้นก็เลื่อนมือสัมผัสไหลและแผ่นหลังของสาวน้อยโดยปราศจากเจตนาร้ายแอบแฝง

    “อ๊าง—”
    
    ดวงตาสีดำกลมโตราวตุ๊กตาเริ่มกระตุก  

    หัวไหล่ขาวเนียนพลันสั่นระริกอย่างหยุดไม่ได้เมื่อปลายนิ้วกริดสัมผัสเข้า  กริดที่เหนื่อยล้าย่อมไม่สังเกตเห็นถึงอาการแปลกประหลาด  เขาเพียงออกแรงบีบนวดเพื่อหวังผ่อนคลายน้องสาวคนสำคัญ

    “ฮ๊าง—!”

    เมื่อฝ่ามือที่ใหญ่และหนาของกริดเริ่มเลื่อนขึ้นไปลูบไล้ต้นคอ  อลิซาเบธรู้สึกราวกับพละกำลังทั่วร่างถูกสูบออกจนหมด  เธอเอนหลังซบแผ่นอกกริดอย่างไร้เรี่ยวแรงทันที

    ดวงตาพร่ามัวจ้องมองเพดานที่ขาวโพลน  ความรู้สึกซาบซ่านแล่นทั่วร่างจนมิอาจอธิบายเป็นคำพูด

    ขณะเดียวกัน  สวามปามจกบัลเผ็ดเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาเยี่ยมเยียนหลานสาวก่อนจะไปเรียนทักษะปรุงอาหารตามปรกติ

    “แกกำลังทำบ้าอะไร!!?”

    สวาปามจกบัลเผ็ดแผดเสียงคำรามดังสั่นห้องทำงานอลิซาเบธ

    “แกมันระยำยิ่งกว่าสัตว์ป่า!  แกมีแฟนแล้วถึงสองคน!  กล้าดียังไงถึงแตะต้องหลานสาวฉัน!!”

    “ฉันยังไม่มีแฟนสักหน่อย...”

    “อะไรนะ?  ทั้งที่แกมียูร่ากับจิสึกะข้างกาย!  อิจฉาจริงโว้ย!  พวกเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้นสินะ?  ไอ้บัดซบ!  แกมันศัตรูของผู้ชายทั้งโลก!!”

    “ด…เดี๋ยว!  อึ๋ย!”

    กริดถูกตะเพิดออกจากร้านด้วยฝีมือสวาปามจกบัลเผ็ดผู้เกรี้ยวกราด  

    เมื่อไม่มีทางเลือก  กริดตัดสินใจเดินตรงไปยังโรงเหล็ก

    ‘หมอนั่นกินยาผิดมารึไงนะ?  เฮ่อ…ช่างเถอะ  ลงมือสร้างหมวกเหล็กกับมงกุฏดีกว่า’

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,263
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. อัพรัวๆ
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​🙏

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณครับฟินมาก กับการอัพรัวๆ

    ReplyDelete
  3. เบลอจนลืมว่ามีมือมาร55555

    ReplyDelete
  4. ศัตรูของผู้ชายทั่วโลก ทั้งที่กริดเป็นไอ้งั่งเรื่องผู้หญิง(ยกเว้นไอรีน(บ้างเรื่อง))

    ReplyDelete
  5. หมวกกับ มงกุฎ สามารถแสดงอย่างใดอย่างหนึ่งได้ แล้วทำไมยังต้องสร้างหมวกให้คุมมงกุฎอีก *คนแต่งเบลอรึเปล่า โดยทั่วไป..ควรจะเป็นแบบนั้น

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00