จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 862



    ดาเมี่ยนได้ยินมาว่า  ไอรีนมีอายุย่างเข้าวัยสามสิบตอนต้นแล้ว  แต่เธอกลับยังเลอโฉมและสง่างามเฉกเช่นทุกครั้ง

    ราวกับกาลเวลาทำอะไรสตรีผู้นี้ไม่ได้  ไอรีนเป็นกุลสตรีสมบูรณ์แบบก่อนที่เธอจะย่างเข้าสู่วัยกลางคนเสียอีก

    ‘เธออายุมากกว่ากริดสินะ’

    ดาเมี่ยนแสดงสีหน้าขื่นขมในยามจ้องมองไอรีนวางถ้วยชา

    เขารักอิสซาเบลมาก  ช่องว่างระหว่างผู้เล่นและ NPC จึงสร้างความเจ็บปวดแก่ดาเมี่ยนไม่น้อย

    ไอรีนกำลังเฝ้ามองลอร์ดด้วยสายตาเอ็นดู  ลอร์ดตัวน้อยถูกอาวุโสหัวล้านหลายสิบคนยืนรุมล้อมพลางกล่าวชื่นชมไม่ขาดปาก

    ดาเมี่ยนยังคงยิ้มค้างไว้ขณะชำเลืองสายตามองลอร์ด

    “องค์ชายลอร์ดมีกริยามารยาทที่น่าทึ่ง  แม้เด็กคนนี้จะเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ระดับสั่นคลอนทวีป  แต่กลับอ่อนน้อมถ่อนตนและซื่อตรง  ต้องขอบคุณการอบรบสั่งสอนที่ดีจากคุณ”

    “ไม่จริงค่ะ  เด็กคนนี้มีจิตใจงดงามตั้งแต่เกิดแล้ว”

    อุปนิสัยและธรรมชาติส่วนตัวมิอาจแปรเปลี่ยนได้ด้วยการอบรมเพียงอย่างเดียว

    ไอรีนคือบุตรีของขุนนางใหญ่ของอดีตอาณาจักรอีเทอนัล  ไม่แปลกที่เธอจะเคยพานพบบุตรขุนนางที่มีนิสัยบกพร่องจำนวนมาก

    ไม่ว่าจะถูกอบรบสั่งสอนอย่างเข้มงวดเพียงใด  แต่คนเหล่านั้นก็ไม่หยุดการรังแกบุคคลที่อ่อนแอกว่า  ไม่หยุดทำตามใจตัวเอง  

    ด้วยเหตุนี้  ไอรีนจึงภูมิใจในตัวลอร์ดมาก  ลอร์ดคือเด็กที่ถ่อมตนอยู่เสมอ  ชื่นชมและสนทนากับผู้อื่นอย่างนอบน้อมเสมอ  ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาจากฐานะใด

    ‘เหมือนกับกริด…’

    ไอรีนฉีกยิ้มกว้างในยามนึกถึงสามี

    เธอไม่มีวันเปลี่ยนความคิด  แม้จะทราบถึงอุปนิสัยของกริดในช่วงเริ่มต้น  สำหรับไอรีน  กริดคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต

    “…”

    ท่ามกลางแสงตะวันสาดส่อง  รอยยิ้มของไอรีนงดงามจนกลบบรรยากาศรอบข้างมิดชิด

    ดาเมี่ยนและอิสซาเบลต่างมีใบหน้าแดงก่ำเมื่อหันมองกันและกัน

    จากนั้น  ดาเมี่ยนตัดสินใจลุกจากที่นั่ง

    “อะแฮ่ม  ท่านอาวุโส  พวกท่านเลิกกวนใจองค์ชายลอร์ดได้แล้ว  เขาคงเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล”

    ดาเมี่ยนพยักหน้าให้ไอรีนเล็กน้อยขณะเดินผ่านลานหญ้าเขียวขจี

    ในฐานะพาลาดิน  ท่วงท่าการเดินของดาเมี่ยนขึงขังและน่าเกรงขาม  มิได้องอาจแลสง่างามเหมือนกับนักบวช

    และนี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่เหล่าอาวุโสซึ่งเป็นนักบวชเกิดอคติกับดาเมี่ยน

    มีใครบ้างในโลกที่สมบูรณ์แบบ?
    มีใครบ้างในโลกที่ปราศจากจุดด้อย?

    ใช่แล้ว  ไม่ใช่อาวุโสทุกคนที่มองดาเมี่ยนในแง่ลบ  บางคนชื่นชมรอบรับ  บางคนตัดสินใจฝากอนาคตของโบสถ์ไว้กับดาเมี่ยน

    เพราะเหนือสิ่งอื่นใด  ดาเมี่ยนคือสันตะปาปาที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดรวิโกหรือปาสคาลอย่างไร้ข้อกังขา  ไม่แปลกที่เสียงส่วนใหญ่ของโบสถ์จะสนับสนุนดาเมี่ยนนานถึงสามปีเต็ม

    “ท่านอาวุโส  ได้โปรดปล่อยให้องค์ชายได้พักผ่อนเถิด  ประเดี่ยวองค์ชายลอร์ดจะสำลักกลิ่นของเฒ่าพรมจรรย์จนขาดอากาศหายใจตาย”

    “แค่ก…”

    เหล่าอาวุโสที่กำลังหลงไหลพลังศักดิ์สิทธิ์ปริมาณมหาศาลซึ่งลอร์ดแผ่จากร่าง  ยามนี้เริ่มได้สติกลับคืน

    พวกเขาหลงลืมว่าการรุมล้อมเด็กหนุ่มจนเกินงามมิใช่ภาพลักษณ์ที่ดีนัก

    อาวุโสทุกคนอมยิ้มอย่างอบอุ่นแทนที่จะอับอายหลังจากถูกดาเมี่ยนตำหนิ

    “องค์ชายลอร์ด  แล้วเจอกันในงานเลี้ยงอาหารค่ำ  ไว้มาพวกเราค่อยคุยกันใหม่”

    “องค์ชายลอร์ด  อย่าลืมสวดภาวนาถึงเทพธิดารีเบคก้าอย่างสม่ำเสมอ”

    “เทพธิดาจะปกป้องท่าน…”

    เหล่าอาวุโสโค้งศีรษะเล็กน้อยก่อนจะก้าวถอยหลังและจากไป

    พวกเขาคลั่งไคล้ในตัวลอร์ดที่แผ่พลังศักดิ์สิทธิ์รุนแรง  ลอร์ดเป็นราวกับผู้ส่งสาส์นจากเทพธิดาโดยตรง  การได้สนทนากับเด็กคนนี้ทำให้พวกเขาอิ่มเอมหัวใจ

    ในที่สุด  ลอร์ดก็มีโอกาสได้พักหายใจหลังจากกลุ่มคุณลุงจากไป  

    ขณะลอร์ดสูดลมหายใจเต็มปอดหนึ่งฟอดใหญ่  ดาเมี่ยนยักไหล่พลางอมยิ้ม

    “ทำตัวเป็นเด็กบ้างก็ดีนะ  การต้องคอยเอาใจตาแก่พวกนี้ตลอดเวลาอาจทำให้เธอแก่เร็ว”

    “ผมยอมแก่ดีกว่าทำให้ท่านพ่อต้องขายหน้า”    

    “อา...”

    การกระทำของเด็กคนนี้ช่างน่ายกย่อง

    กระนั้น  ดาเมี่ยนกลับยังลูบศีรษะลอร์ดอย่างอ่อนโยนด้วยใบหน้าเป็นกังวล

    จนกระทั่งเขาฉุกคิดได้

    “อ๊ะ!  ฉันขอโทษ”

    ไม่ว่าลอร์ดจะอายุน้อยสักเพียงใด  แต่เด็กคนนี้คือองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักร  การลูบศีรษะถือเป็นเรื่องเสียมารยาท  ดาเมี่ยนรีบชักมือกลับทันที

    ขณะดาเมี่ยนกล่าวขอโทษ  ลอร์ดรีบเดินเข้าไปหาดาเมี่ยน

    “ท่านอาจารย์  ลูบหัวผมอีก”

    “ฮะฮะ!  ลอร์ดจังน่ารักมาก!”

    จนกระทั่งเวลาผ่านไป… 

    … 

    “หลวงพ่อ!  ทำเกินไปแล้ว!”

    “หลวงพ่อ!  ช่วยรักษาภาพพจน์ด้วย!”

    ดาเมี่ยนกำลังหัวเราะอย่างมีความสุขขณะเล่นเป็นม้าให้ลอร์ดขี่หลัง

    เขาหัวเราะเสียงดังในยามวิ่งสี่ขาไปรอบลานหญ้าข้างโบสถ์ใหญ่วาติกัน  อิสซาเบลและบุตรีแห่งรีเบคก้าที่เหลือต่างรีบส่งเสียงห้ามปราม

    ไอรีนกำลังมีความสุขเมื่อเฝ้ามองเหตุการณ์อันชื่นมื่นใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่

    ขณะเดียวกัน  เหล่าอัศวินองครักษ์ของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต่างพากันทึ่งกับภาพที่เห็น

    แทบไม่น่าเชื่อว่า  สันตะปาปาแห่งโบสถ์รีเบคก้า  ตัวตนที่ยิ่งใหญ่เป็นรองเพียงมหาจักรพรรดิซาฮารัน  จะปฏิบัติต่อองค์รัชทายาทของพวกตนราวกับเป็นหลานในไส้

    พวกเขาทั้งภูมิใจและเย็นสันหลังในเวลาเดียวกัน  โดยเฉพาะโค้ก  ชายคนนี้อมยิ้มอย่างมีความสุข

    ‘ความสัมพันธ์ของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กับโบสถ์รีเบคก้าแน่นแฟ้นยิ่งกว่าข่าวลือเสียอีก  โชคดีที่เราเลือกทำงานรับใช้อาณาจักรกริด’

    โค้ก—หนึ่งในสิบรุคกี้รุ่นที่สาม  ชายคนนี้เล็งเห็นถึงศักยภาพของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก่อนใครทั้งหมด

    ขณะโค้กยังถูกเรียกขานให้เป็นผู้เล่นอัจฉริยะดาวดวงใหม่  ในช่วงนั้น  เขากำลังวุ่นวายกับภารกิจภายในเมืองป้อมปราการแพเรี่ยน  จนกระทั่งถูกปิอาโร่ถุยกระดูกใส่เกือบตาย

    โค้กศรัทธากริดอย่างแรงกล้านับตั้งแต่เหตุการณ์คราวนั้น  และเมื่อกริดก่อตั้งอาณาจักร  เขารีบย้ายมาเป็นพลเมืองโดยไม่ลังเล

    หลังจากผ่านมาหลายปี  โค้กไล่ทำภารกิจยากลำบากของอาณาจักรจนมีคุณสมบัติได้เข้ารับตำแหน่งอัศวิน 

    ด้วยความอัจฉริยะส่วนตัว  โค้กนำพาตัวเองจนกลายเป็นอัศวินแนวหน้าและถูกย้ายมาประจำการในเมืองหลวง

    ถึงกริดจะไม่เคยทราบถึงตัวตนและคุณงามความดีของโค้ก  แต่เขาก็สาบานกับตัวเองว่าจะศรัทธากริดไปชั่วชีวิต

    โค้กไม่เคยเคลือบแคลง  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะต้องรวมทวีปเป็นหนึ่งได้แน่  และถึงตอนนั้น  ตนจะกลายเป็นขุนนางใหญ่คนหนึ่งของอาณาจักร

    เหตุใดโค้กถึงกล้าเสี่ยงเดินบนเส้นทางที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นนี้?  
    
    ใครหลายคนเคยเย้ยหยันว่าสิ่งที่โค้กคิดไม่มีวันเกิดขึ้นจริง  พวกเขามองว่าโค้กเป็นไอ้งั่งที่ไม่เลือกย้ายไปอยู่กับจักรวรรดิซาฮารันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนกว่า

    แน่นอน  โค้กดื้อรั้นและอดทน

    เคยมีครั้งหนึ่งที่โค้กได้ยินข่าวลือไม่สู้ดีนัก  อาณาจักรใหม่อย่างโอเวอร์เกียร์กลับกล้าประกาศตัวเป็นศัตรูกับจักรวรรดิซาฮารันผู้ยิ่งใหญ่  

    เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้โค้กถึงกับหยุดคิดทบทวนอนาคตตัวเอง  

    แต่ท้ายที่สุด  โค้กคือบุคคลที่แน่วแน่ไม่สั่นคลอน  เขาเป็นแฟนตัวยงของกริด  โค้กเชื่อมั่นในกริดและกิลด์โอเวอร์เกียร์

    หลังจากนั้นไม่นาน  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็กลายเป็นอาณาจักรแรกในประวัติศาสตร์ที่จักรวรรดิซาฮารันยอมทำสัญญาสงบศึกด้วย

    ปัจจุบัน  ความเชื่อมั่นของโค้กไม่ถูกสั่นคลอนอีกแล้ว  

    เขาเฝ้ามองการเติบโตของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไปพร้อมกับขัดเกลาฝีมือตนเองให้แข็งแกร่ง

    “เซอร์โค้ก?”

    “อ๊ะ!  ขอโทษ”

    ขณะโค้กจ้องมองสันตะปาปาดาเมี่ยนและลอร์ดด้วยสายตาเหม่อลอย  เสียงหนึ่งแว่วที่ข้างหู

    อัศวินรอยแมนออกปากตักเตือน

    “คุณลืมหลักพื้นฐานของภารกิจคุ้มกันแล้วหรือ?  ยิ่งสถานการณ์เงียบสงบ  หน่วยคุ้มกันยิ่งต้องระแวดระวังมากขึ้น”

    รอยแมนกล่าวด้วยเสียงห้าวหาญโดยไม่ทราบเลยว่า  ทุกคนต่างล่วงรู้เพศที่แท้จริงของเธอหมดแล้ว

    รอยแมนไม่เคยฉุกคิดในยามพวกพ้องเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือห้องอาบน้ำขณะเธอใช้งาน  

    แต่ถึงจะเป็นหญิง  ทักษะและฝีมือของรอยแมนไม่มีสิ่งใดให้กังขา

    เลเวลของรอยแมนคือ 320   สูงกว่าโค้กเพียง 19 ระดับ  แต่กลับแข็งแกร่งกว่าโค้กราวสองเท่า

    ไม่เพียงแค่โค้ก  แต่รอยแมนแข็งแกร่งกว่าอัศวินยุคใหม่ทุกคนที่อัสโมเฟลเลือกเฟ้นฝึกฝน

    มีบางข่าวลือกล่าวว่า  รอยแมนอาจมีคลาสรองหรือทักษะติดตัวลับหลังจากถูกปิอาโร่ฝึกฝนทำฟาร์มอย่างหนัก

    “ครับ!  ผมจะจำไว้!”

    โค้กตอบกลับด้วยเสียงฉะฉานเพื่อให้เข้ากับความตึงเครียดของงานที่กำลังปฏิบัติ  เขาย้ายตำแหน่งการยืนเพื่อให้เห็นไอรีนและลอร์ดได้ชัดเจนพร้อมกัน

    การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงตอบสนองความคาดหวังจากรอยแมน  แต่โค้กต้องการเป็นขุนนางใหญ่ของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในอนาคต  ดังนั้นชัยชนะของกริดจึงเป็นสิ่งสำคัญ  โค้กหวังอารักขาไอรีนและลอร์ดเพื่อให้กริดเผชิญโลกกว้างอย่างสบายใจ

    ‘มีบุคคลที่ยิ่งใหญ่เต็มไปหมด’

    สายตาของโค้กชำเลืองมองไปยังตีนเขา

    ปัจจุบัน  ขบวนรถม้าจากราชวงศ์ทั่วทวีปทยอยเดินทางมายังวาติกัน
    
    และที่ขาดไม่ได้เลย  รถม้าซึ่งติดธงสัญลักษณ์ของจักรวรรดิซาฮารัน 

    ทุกอาณาจักรยกเว้นฝ่ายที่กำลังทำสงครามอย่างอุลทาน่าและวัลฮัลล่าล้วนเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองการครองบัลลังก์สันตะปาปาสมัยที่สามของดาเมี่ยน
    
    ‘องค์ชายแห่งจักรวรรดิ…!’

    โค้กผงะเล็กน้อยเมื่อเหลือบไปเห็นขบวนรถม้าที่ถูกลากจูงด้วยอาชาขาวพิสุทธิ์สี่ตัว

    องค์ชายลำดับสอง  ดูรันดัล
    
    โค้กไม่เคยคิดว่า  หนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปจะเดินทางมาที่นี่  และเป็นอีกครั้งที่เขาตระหนักถึงพลังอำนาจทางการเมืองของโบสถ์รีเบคก้า
    
    ดาเมี่ยนวางลอร์ดลงทันที

    “ลอร์ดจัง  กลับไปที่ห้องพักพร้อมกับคุณแม่ก่อนนะ  แล้วเจอกันในงานเลี้ยงอาหารค่ำ”

    “ครับ”

    ลอร์ดตอบกลับอย่างว่าง่าย  ไม่แสดงสีหน้าท่าทีว่าต้องการเล่นสนุกกับดาเมี่ยนต่อ  ลอร์ดเป็นเด็กฉลาดที่เข้าใจฐานะของดาเมี่ยน

    จากนั้น  ดาเมี่ยนออกไปต้อนรับแขกพิเศษจากทั่วทั้งทวีป  รวมถึงจักรวรรดิ… 

    … 

    “วางเทวรูปสีทองไว้ตรงนี้”

    “ประจำการกองอัศวินที่สี่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน  พวกเราต้องคุ้มกันแขกพิเศษให้มีความปลอดภัยสูงสุด”

    เหล่าอาวุโสต่างยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานเสริมความปลอดภัย  พวกเขาไม่สนใจแขกพิเศษจากทั่วอาณาจักรเลยสักนิด  แตกต่างจากท่าทีที่แสดงต่อลอร์ดโดยสิ้นเชิง  

    ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นองค์ชายจากจักรวรรดิหรือแม้แต่ตัวจักรพรรดิเองก็ตาม
    
    นี่คือเหตุการณ์ปรกติ  โบสถ์รีเบคก้าคือขั้วอำนาจที่มีพลังทางการเมืองยิ่งใหญ่  พวกเขาไม่ต้องก้มหัวให้กับแรงกดดันจากฝ่ายใด

    หลังจากกริดกำราบเดรวิโก้และปาสคาลลงได้  โบสถ์รีเบคก้าจึงกลับสู่จุดสูงสุดแห่งความรุ่งโรงจ์และพลังอำนาจอีกครั้ง    

    โค้กที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นเริ่มรู้สึกอิ่มเอมใจ

    เขาที่ใจที่เหล่าอาวุโสแสนทระนงตนไม่แยแสองค์ชายจากจักรวรรดิแม้แต่น้อย  แต่คนเหล่านั้นกลับแสดงไมตรีต่อลอร์ดเป็นล้นพ้น

    … 

    สวบ

    สวบ

    ณ โถงทางเดินยาวที่ถูกปูด้วยพรมกำมะหยีสีแดงสด  ขณะลอร์ดเดินตรงไปยังห้องพักที่ถูกจัดเตรียม  เขาส่งเสียงกระซิบแผ่วเบา

    “ท่านอาจารย์รู้สึกอึดอัดงั้นหรือ?”

    เสียงหนึ่งแว่วจากเงามืด

    >>  ไม่ขอรับ  กระหม่อม…สบายดี   

    เป็นเสียงจากคาซิม  

    ถึงจะตอบว่าสบายดี  แต่เนื้อเสียงกลับสั่นเครือชัดเจน

    ใช่แล้ว  คาซิมไม่สบายดีเลยสักนิด

    ‘ดูรัลดัล’ องค์ชายลำดับสองแห่งจักวรรดิซาฮารัน  บุคคลที่เพิ่งมาถึงวาติกันได้ไม่นาน  มันคือตัวการสำคัญที่กว้างล้างชนเผ่านีโรจนราบคาบ

    คาซิมมิอาจข่มจิตสังหารเมื่อศัตรูของครอบครัว  ศัตรูของพวกพ้องในหมู่บ้าน  ปรากฏตัวเบื้องหน้า  คงเป็นการยากที่จะให้เขาเยือกเย็นตามวิสัยปรกติ

    ชักสเล่ย์ที่สัมผัสจิตสังหารได้รีบออกปากเตือน

    “นายห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด”

    >>  ฉันรู้

    คาซิมตอบกลับเสียงแหบพร่า

    รอยยิ้มจางหายจากใบหน้าลอร์ดหลังจากได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสอง  

    ในขณะเดียวกัน  ทั้งสามกลับมิอาจสัมผัสถึงบรรยากาศโดยรอบวาติกันที่เปลี่ยนแปลงไป

    ไอรีนและเด็กสาวที่ถูกเลือกของรีเบคก้ากำลังสนทนาอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง  พวกเธอดีใจที่แม่สามี (?) เป็นสตรีเลอโฉมที่มีจิตใจงดงาม  

    ส่วนเหล่าอัศวินหนุ่มสาว  รวมถึงรอยแมนและโค้ก  ต่างกำลังปฏิบัติหน้าที่อารักขาโดยไม่ขาดตกบกพร่อง

    …

    เมฆดำเริ่มเคลื่อนคล้อยปกคลุมวาติกันจากด้านบน 

    เสียงฟ้าร้องคำรามดังเป็นระลอกอย่างต่อเนื่องเบื้องนอกหน้าต่าง

    ณ  ยอดเขา ‘เคย์’ ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นโบสถ์หลักวาติกันสีขาวบริสุทธิ์อย่างชัดเจน…

    “พวกสัตว์ประหลาดเริ่มรวมตัวกันแล้วสินะ  คิคิก!”

    แอ็กนัสกล่าวพลางหัวเราะหลังจากมันเดินทางถึงจุดนัดหมายช้ากว่ากำหนด 
    
    ฝนตกหนักจนเปี่ยมชุ่มไปถึงฝ่าเท้า  

    เงาลางของเหล่าข้ารับใช้ยาธานกำลังปรากฏบนท้องฟ้า

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,263
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มาแล้วๆ
    มันส์​แน่ๆ​ อิอิ
    ขอบคุณ​ครับ​😊👍

    ReplyDelete
  2. สนุกมากขอบคุณครับ 🙏เนื้อเรื่องกำลังอิน

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00