จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,521



ฮายาเตะมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น


เป็นการอุทิศตนที่ไม่มีใครเคยรับรู้


นั่นเพราะฮายาเตะถูกสาปด้วยวาจามังกรซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ส่งผลให้ผู้คนหลงลืมชายคนนี้มาตั้งแต่อดีตกาล


ฮายาเตะต้องดำรงชีวิตตามลำพัง


กริดรู้สึกเคียดแค้นแทนฮายาเตะ


ฮายาเตะและเหล่าสภาหอคอยล้วนอุทิศตัวเพื่อปกป้องโลก


พวกมันคอยรับมือกับมังกรที่ทำราวกับมนุษย์เป็นเพียงของเล่น


นี่คือเรื่องราวที่ไม่มีใครในโลกได้รับรู้


ฮายาเตะใช้การกระทำแทนคำพูดเสมอ


ครั้งนี้ก็เช่นกัน ด้วยเกรงว่ากริดจะกระตุ้นโทสะของมังกร มันจึงเปลี่ยนมหากาพย์ของกริดให้เป็นความลับ


“…!”


มหากาพย์ที่กริดเผลอสร้างขึ้นโดยบังเอิญขณะพยายามสื่อสารกับอีโก้ของกูเซล


เป็นปรากฏการณ์ที่เข้าใจได้


กริดต้องการสร้างสัมพันธ์อันดีกับกูเซล จึงประกาศเจตจำนงและความรู้สึกของตนอย่างซื่อตรง


มันไม่มีความคิดที่จะเขียนมหากาพย์แม้แต่น้อย


ข้อผิดพลาดก็คือ กริดมองข้ามความพิเศษของตัวตนระดับมังกรไป


มังกรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างโลก พวกมันจึงไม่ใช่เป้าหมายความศรัทธาของผู้คน อย่างไรก็ดี ทั้งที่ปราศจากบารมีเทพ แต่มังกรกลับยังแข็งแกร่งพอที่จะนำพาโลกไปสู่ความพินาศ


เป็นความแข็งแกร่งอันดิบเถื่อนโดยกำเนิด


และไม่เพียงจะเกิดมามีกายาทรงพลัง แต่ยังเป็นผู้สร้างแนวคิดเกี่ยวกับเวทมนตร์


มังกรจึงเป็นสายพันธุ์ที่ก้าวข้ามทุกสิ่ง สามารถทำลายโลกได้โดยไม่ต้องยึดโยงกับพลังเทพ


หากวันใดมีใครสักคนลุกขึ้นมาประกาศต่อต้านมังกรโดยไม่หลบซ่อน เหตุการณ์ดังกล่าวจะถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์


“ฮายาเตะ!!”


การกระทำเกิดก่อนความคิด


กริดบีบอัดห้วงมิติและกระโจนผ่านในพริบตา หวังไปให้ถึงฮายาเตะโดยเร็วที่สุด


นี่เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็คงทำแบบเดียวกัน


ฮายาเตะลงเดิมพันโดยแทบไม่มีโอกาสชนะ จะเรียกว่าสละชีพก็ไม่ผิดนัก


ทั้งหมดทำไปเพียงเพื่อปกป้องกริด


ดังนั้น กริดจึงมีเหตุผลและหน้าที่ในการหยุดฮายาเตะมากกว่าใคร


“หยุดนะ!!”


กริดแหกปากตะโกน แต่สายไปหนึ่งก้าว


พอรู้ตัวอีกที ออร่าของฮายาเตะก็แผ่ปกคลุมไปทั่วโลก


ทันใดนั้นเอง


ความสนใจของเหล่ามังกรถูกเบี่ยงเบนทันที


มิใช่ว่ากริดไม่สำคัญ


กริดคู่ควรแก่การเป็นศัตรูกับมังกร เพราะหากปราศจากคุณสมบัติ มหากาพย์คงไม่ทำงานตั้งแต่แรก


โลกนี้รู้จักกริดมานานแล้ว


อย่างไรก็ตาม ฮายาเตะคือตัวตนที่พิเศษยิ่งกว่าในสายตามังกร


นักล่ามังกรเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์


นับตั้งแต่วันที่ได้รับสมญานาม ฮายาเตะก็กลายเป็นจุดเพ่งเล็งของมังกรมาตลอด


สำหรับมังกร การปรากฏตัวของฮายาเตะสำคัญและหนักแน่นกว่าคำประกาศกร้าวของกริดหลายเท่า


เหล่ามังกรเกือบทุกคนบนโลกต่างสัมผัสถึงตำแหน่งของฮายาเตะ


สุดยอดสิ่งมีชีวิตซึ่งแทบไม่แยแสสิ่งใดนอกจากฮายาเตะ กำลังเกิดอารมณ์หลากหลาย


กระทั่งเทพสวรรค์ก็ยังสัมผัสได้


“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง… วันตายของมนุษย์น่าสมเพชนั่น”


เซราทุลระเบิดเสียงหัวเราะขณะฟื้นฟูร่างกาย


เซราทุลกำลังเปี่ยมไปด้วยความสุขที่แม้แต่ตัวเองก็คาดไม่ถึง


เป็นระดับความสุขที่มากกว่าการได้ฆ่าซือโหยว (ในจินตนาการ) เสียอีก


‘เราหมกมุ่นกับฮายาเตะถึงเพียงนี้เชียว?’


ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้


เราก็แค่โมโหเจ้านั่น… มนุษย์ที่ริอ่านทำลายศักดิ์ศรีของเรา…


ขณะเซราทุลขมวดคิ้ว สุ้มเสียงไม่พึงประสงค์ดังแว่วข้างหู


“น่าขยะแขยง”


“…”


เซราทุลหันไปมองตัวตนที่ริอ่านตำหนิเทพ แถมยังทำต่อหน้าเหล่าทวยเทพ


ใบหน้าอ่อนเยาว์ ร่างเล็กกะทัดรัด


รอยแดงบนแก้มทั้งสองข้างซึ่งยังอวบอ้วนเหมือนทารก ทำให้รูปลักษณ์ของตัวตนดังกล่าวดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง


อัครเทวทูตลำดับหนึ่ง ไลฟาเอล


มันเป็นตัวตนแสนบริสุทธิ์


แตกต่างจากเทวทูตทั่วไป มันไม่มีพ่อแม่


เป็นหนึ่งในเทวทูตต้นกำเนิดเพียงไม่กี่ตน


“ข้าไม่อยากเชื่อว่าเทพจะกลัวมนุษย์”


“ข้าไม่ได้กลัว”


เซราทุลที่ทนฟังไม่ได้รีบโต้แย้ง


จากนั้นก็ต้องนึกเสียใจทันที


“เจ้าเกิดความสุขหลังจากมองเห็นจุดจบของฮายาเตะ… หากไม่ใช่เพราะกลัวฮายาเตะ ยังมีเหตุผลอื่นให้เจ้าต้องดีใจด้วยหรือ? รบกวนช่วยอธิบายให้ข้าฟังด้วย”


“…”


ข้าไม่มีหน้าที่ต้องตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของเจ้า…


ขณะเซราทุลพยายามข่มความรู้สึกของตน


“ก๊อกก๊อก~ เวนิชมาเยือนแล้ว! โอ๊ะ? วันนี้ไลฟาเอลผู้น่ารักของเราก็อุทิศตนเพื่อท่านเซราทุลอีกแล้ว”


“มันเป็นหนึ่งในงานของข้า หากในอนาคตท่านเวนิชต้องทนทุกข์ในสิ่งเดียวกัน ข้าก็จะดูแลอย่างสุดความสามารถเช่นกัน”


“อุก… ได้โปรดหยุดพูดเรื่องที่น่ากลัวเช่นนั้น…”


ในที่สุดก็มีผู้มาโปรด


เวนิช เทพแห่งเงินตรา


เทพสวรรค์ส่วนใหญ่ดูแคลนเวนิช


นั่นเพราะพวกมันรังเกียจนิสัยที่ชอบมองทุกสิ่งเป็นสินค้า


แต่เซราทุลชื่นชอบเธอมาก


เพราะมันสามารถโอ้อวดเคล็ดวิชาลับผ่านร้านค้าที่เธอเปิดทำการ


***


พายุเวทมนตร์กระหน่ำเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง


เวทมนตร์ของมังกรซึ่งไม่สนใจระยะทาง ถูกประเคนใส่ฮายาเตะไม่หยุดพัก


‘สำหรับเรื่องนี้ เราไม่ควรโทษตัวเอง’


กริดวิเคราะห์อย่างใจเย็นขณะยืนเคียงข้างฮายาเตะผู้กำลังสูดลมหายใจพลางดึงปราณดาบกลับ


บทสนทนากับอีโก้ของมังกร – จุดเริ่มต้นของมหากาพย์ที่ดึงดูดความสนใจจากมังกรทั่วโลก


กริดมองว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิดในเรื่องนี้


ศาสตรามังกรคือสุดยอดอาวุธ


ไม่เกินจริงไปนักหากจะเรียกพวกมันว่าเป็นอาวุธ ‘เอนด์เกม’ (End Game)


เป็นสิ่งที่ต้องครอบครองด้วยความระมัดระวังสูงสุด


ด้วยเหตุผลข้างต้น กริดไม่สามารถปล่อยอีโก้ของกูเซลทิ้งไว้ได้


และไม่ว่าจะทำอย่างไร ทุกสิ่งก็จะลงเอยด้วยการดึงดูดความสนใจจากมังกรอยู่ดี มันเป็นชะตากรรมมาตั้งแต่ต้น


ดังนั้น


“คุณใช้ร้อนเกินไป”


กริดตำหนิฮายาเตะ


เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มตำหนิและแสดงความไม่พอใจต่อบุคคลที่ตนเคารพและเทิดทูนยิ่งชีพ


และนั่นไม่ได้ทำไปด้วยอารมณ์ กริดในวินาทีนี้กำลังเยือกเย็นจนไม่ถูกอารมณ์ครอบงำ


“ข้าขอโทษ”


ฮายาเตะกล่าวขอโทษ มันยอมรับว่ากริดมีสิทธิ์ตำหนิตน


แต่สีหน้าแววตาของมันปราศจากความเสียใจ


ฮายาเตะเข้าใจจุดยืนของกริด แต่ขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าตนคิดถูก


“ได้โปรดเข้าใจด้วย… ข้าคิดว่าหากมัวนิ่งเฉย อาจเกิดความสูญเสียในระดับที่ต้องทำให้เสียใจภายหลัง”


กริดเป็นเทพ


เป็นอมตะ


แต่ถึงเป็นอมตะก็ไม่ได้แปลว่าจะรอดพ้นจากความตาย


ดังที่เซราทุลแสดงให้เห็น ความตายอาจไม่ใช่จุดจบของเทพ แต่ก็เป็นโอกาสในการลดทอดค่าบารมีเทพ


ไม่แน่ใจว่ากริดทราบเรื่องนี้หรือไม่ แต่เห็นได้ชัดว่ากริดพยายามหลีกเลี่ยงความตายมากกว่าสมัยที่ยังเป็นมนุษย์


นอกจากนั้น ภายใต้กริดยังมีผู้คนอีกนับสิบล้านหรือร้อยล้าน


การเป็นศัตรูกับมังกรจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง


นั่นคือเหตุผลที่ฮายาเตะไม่นึกเสียใจกับตัวเลือกของตน


ดวงตาอันแน่วแน่ของมันทำให้กริดถอนหายใจยาว


“แบบนี้ตำแหน่งของหอคอยก็ถูกเปิดโปงพอดี… ฮายาเตะคุณต้องสูญเสียหลายสิ่งยิ่งกว่าผม”


หอแห่งปัญญาเปรียบดังบ้านของสภาหอคอย


สภาหอคอยที่ปราศจากความคุ้มครองจากหอคอย ย่อมหลีกหนีไม่พ้นสายตามังกร ทุกคืนคงมิอาจข่มตาหลับสนิท


นอกจากนั้น หอคอยยังเปรียบดังขุมทรัพย์


สมบัติล้ำค่าของโลกอย่างจักรกลเวทมนตร์และเหล็กแสงจันทร์ต่างก็ถูกเก็บไว้ในหอคอย


การต้องสูญเสียพวกมันไป ถือเป็นเสียหายที่หนักหน่วงเกินไปสำหรับสภาหอคอย ไม่ว่าจะมองมุมใดก็ดูเหมือนฮายาเตะต้องสูญสิ้นทุกสิ่ง


ฮายาเตะกล่าวเพื่อให้คู่สนทนาสบายใจ


“หอคอยมิได้มีแห่งเดียว พวกเราสู้กับมังกรมานับพันปีและเตรียมการไว้มากมาย”


“แต่ถึงอย่างนั้น การขนย้ายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”


ลำดับสองแห่งสภาหอคอย ฟรอนซาลล์ ปรากฏตัว


สีหน้าของมันค่อนไปทางดุร้าย แต่นั่นเป็นธรรมชาติของคนยักษ์


มันมิได้กำลังโกรธจริงๆ


สายตาปราศจากการตำหนิฮายาเตะหรือกริด


มันครุ่นคิดอย่างรอบคอบและยืนยันว่าคนทั้งสองไม่ได้ทำอะไรผิด นี่คือความไวของสมองคนยักษ์ผู้ทรงปัญญา


“ไม่ได้พบกันนาน เทพโอเวอร์เกียร์”


ฟรอนซาลล์ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและวินัยอย่างมาก


มันทำตัวสุภาพมาตลอดนับตั้งแต่ที่ได้พบกริดครั้งแรก


หัวแถวคือตัวแทนของมนุษยชาติผู้ควรค่าแก่การถูกยกย่องไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ใดหรืออายุเท่าไร


ทว่า ท่าทีของฟรอนซาลล์ดูออกจะเกินพอดีไปสักหน่อย มันโค้งศีรษะคำนับต่ำราวกับแสดงความเคารพต่อเจ้านาย


“ทำตัวตามสบายเถอะครับ”


กริดชื่นชมสภาหอคอยเสมอ


ยิ่งไปกว่านั้น ฟรอนซาลล์ยังเป็นคนยักษ์ที่ดำรงชีวิตมาตั้งแต่สมัยโบราณ ท่าทีของมันกำลังทำให้กริดกระอักกระอ่วน


ฟรอนซาลล์ส่ายหน้า


“เจ้าคู่ควรกับความเคารพแล้ว ได้โปรดทำตัวให้ชิน แม้ว่านั่นจะทำให้เจ้าอึดอัด”


ท่าทีของฟรอนซาลล์คือสิ่งที่เข้าใจได้


กริดมิได้เป็นเพียงตัวแทนมนุษยชาติ แต่ยังเป็นเทพผู้ถือกำเนิดจากความปรารถนาอันแรงกล้าของมวลมนุษย์


นอกจากนั้นยังเป็นผู้สร้างศาสตรามังกร ส่งผลให้กริดในปัจจุบันอาจมีระดับทัดเทียมนักล่ามังกร


‘เขายังไม่ตระหนักถึงความยอดเยี่ยมของตัวเองอีกหรือ?’


ฟรอนซาลล์จ้องกริดด้วยความฉงน จากนั้นก็หันไปเร่งเร้าฮายาเตะ


“ตอนนี้ต้องรีบเก็บข้าวของกันก่อน มีโอกาสที่มังกรบางตัวจะไล่ตามท่านมา พวกเราจำเป็นต้องเร่งมือ”


“ก็อย่างที่เห็น… กริด เจ้ากลับไปก่อน”


“ผมก็จะไปด้วย!”


กริดยืนกรานต่อหน้าฮายาเตะ


“ถ้าทำแบบนั้น มังกรจะหันมาสนใจเจ้าอีกครั้ง”


“…”


“จงจำไว้ว่า การที่มังกรหันมาสนใจข้าแทนเจ้า มิใช่เพราะเจ้าด้อยกว่าข้า”


“…ครับ”


กริดเริ่มตระหนักว่าการโน้มน้าวของตนไม่มีทางสำเร็จ


มันไม่มีทางเลือกนอกจากทำหน้าเศร้า จากนั้นก็ยื่นดาบกูเซลให้ฮายาเตะ


“ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากดาบเล่มนี้ไปถึงบีบันแทนผม… เป็นสัญญาที่ผมให้ไว้กับเขา”


“…!”


ดวงตาฟรอนซาลล์เบิกกว้างทันที


ศาสตรามังกรที่สภาหอคอยสร้างขึ้นไม่สำเร็จ


พลังงานความเป็น ‘นักล่ามังกร’ กำลังเอ่อล้นออกมาอย่างท่วมท้น


แน่นอนว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่นั่นก็น่าสะพรึงไม่น้อย


‘แม้จะคิดไว้แล้ว… แต่ก็ยังอดตกตะลึงไม่ได้’


พลังที่ฮายาเตะได้รับจากการ ‘บั่นเศียรมังกร’ กริดสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยฝีมือเพียงอย่างเดียว


เป็นศักยภาพอันน่าเหลือเชื่อ


[ค่าความสัมพันธ์กับฟรอนซาลล์ ลำดับสองแห่งหอคอย เพิ่มขึ้น 10 หน่วย]


“…”


“บีบันจะต้องดีใจแน่… บางทีเขาอาจมองเจ้าเป็นผู้มีพระคุณชั่วชีวิต”


“หนึ่งในผู้มีพระคุณชั่วชีวิตของผมคือบีบัน… ท่านฮายาเตะก็เช่นกัน”


[ค่าความสัมพันธ์กับฟรอนซาลล์ ลำดับสองแห่งหอคอย เพิ่มขึ้น 10 หน่วย]


“…?”


“ข้าจะส่งคนไปแจ้งพิกัดของหอคอยใหม่ในอีกไม่ช้า ไว้ถึงตอนนั้นเจ้าค่อยไปเยือน”


ฮายาเตะยิ้มจางๆ ก่อนจะหันหลังกลับไปยังหอคอย ฟรอนซาลล์คำนับกริดและตามหลังไป


‘เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงกับหอคอย… โล่งอกชะมัด’


ในเวลาเดียวกัน ฐานของหอคอยเริ่มสั่นสะเทือนจนส่งเสียงดังมาถึงภายนอก พิจารณาจากการที่ทั้งอาคารกำลังสั่นไหว กริดเดาว่าด้านในคงมีการเคลื่อนย้ายจักรกลเวทมนตร์


‘เราเองก็กลับบ้างดีกว่า— …?’


ขณะกริดเตรียมกลับ มีบางสิ่งทำให้มันตกตะลึงจนยืนแน่นิ่งประหนึ่งรูปปั้นหิน


นั่นเพราะบริเวณยอดหอคอยที่กำลังแยกออกสองซีก เรือบินขนาดมหึมากำลังลอยขึ้นด้านบน


ยาวกว่าสามร้อยเมตร สูงราวครึ่งหนึ่งจากความยาว


หากไม่เคยสัมผัสถึงความกว้างใหญ่ไพศาลของด้านในมาก่อน คงเป็นการยากที่จะให้กริดเชื่อว่าสิ่งนี้สามารถถูกเก็บไว้ในหอคอย


‘สุดยอด… นี่ก็เป็นมรดกของเผ่าพันธุ์คนยักษ์?’


สิ่งแรกที่เตะตากริดคือปืนใหญ่ของเรือบิน โดยเฉพาะกระบอกมหึมาบนดาดฟ้าซึ่งมีขนาดตื่นตาตื่นใจ


“อ…เอ๋? ฮ…เฮ้!”


“…?”


กริดผู้มองกวาดไปทั่วทุกซอกมุมเรือบิน พลันชะงักด้วยสีหน้าตกตะลึง


บีบันซึ่งกำลังเกาะลำกล้องปืนใหญ่ประหนึ่งจักจั่น แหกปากตะโกนทันทีที่เห็นกริด


“หมายความว่ายังไง? เจ้ามาเยือนหอคอย? แล้วทำไมถึงไม่รีบบอกล่ะโว้ย!! ว…ว๊ากกก!”


“…”


นี่มันหมายความว่ายังไง


ทำไมบีบันถึงห้อยโหนด้านนอกอยู่คนเดียว?


กริดฉงนอย่างหนัก แต่ก็พยายามสลัดความสงสัยทิ้งไป เพราะถ้าขบคิดจนพบเหตุผลเมื่อไร นั่นคงทำให้ตนปวดหัวมากกว่าเดิม


ฟ้าว!


เรือบินซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เวทมนตร์สิบสองตัว พุ่งแหวกอากาศจนกลายเป็นเพียงจุดเล็กสีดำ


ฉากดังกล่าวทำให้หัวใจกริดเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ


ชายหนุ่มเกิดลางสังหรณ์ว่า หากตนได้ลาร์ดวูล์ฟมาช่วยงาน การสร้างเรือบินด้วยละโมบจะต้องผ่านไปด้วยดีแน่


‘แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้’


กริดรีบกดใช้ม้วนคาถาพากลับ


มันได้รับข่าวว่าราชาเอลฟ์ยอมเปิดปากแล้ว

______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ


Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00