จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,339
“สมเหตุสมผลตรงไหน?”
ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุป
อาจเรียกสิ่งนี้ได้ว่าการถ้ำมอง แต่เหล่าคณะกรรมการที่กำลังจับตามองความเคลื่อนไหวของกริด ต่างกำลังสนใจในคำกล่าวหนึ่ง
คำกล่าวที่ว่า : หากใครก็ตามสามารถสร้างวิชาดาบที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าวิชาดาบไร้เทียมทาน คนผู้นั้นจะฟันได้ทั้งมังกรและเทพ
ถ้อยคำอันน่าตกใจของอริยดาบบีบัน สร้างความตกตะลึงให้แก่ทุกฝ่าย
“เท่าที่ผมทราบ มอร์เฟียสสร้างวิชาดาบในอุดมคติจากการรวบรวมศาสตร์แห่งดาบทั่วโลก เป็นไปได้ด้วยหรือที่จะสร้างวิชาดาบซึ่งยอดเยี่ยมยิ่งกว่าวิชาดาบไร้เทียมทาน? โดยเฉพาะจากฝีมือผู้เล่น?”
พฤติกรรมของครอเกลหลังจากกลายเป็นอริยดาบ ค่อนข้างทำให้ทุกคนผิดหวัง แตกต่างสมัยคลาสปรกติที่เคยถูกขนานนามว่า ‘ฟ้าเหนือฟ้า’
ครอเกลแทบไม่มีผลงานอะไรนัก บรรดาคณะกรรมการและผู้บริหารต่างผิดหวังกับเรื่องนี้ นอกจากนั้นครอเกลยังดื้อรั้น ไม่ยอมสืบทอดวิชาดาบไร้เทียมทานที่มุลเลอร์พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ทุกคนจึงมิอาจมองครอเกลในแง่บวกได้อีก เกียรติยศของอริยดาบกำลังถูกย่ำยี แทบไม่เหลือเค้าเดิมของ ‘คลาสที่แข็งแกร่งที่สุด’
ในช่วงแรก บีบันพูดแทนความรู้สึกของคณะกรรมการทุกคนด้วยสีหน้าขื่นขม แต่ในภายหลังกลับยอมรับว่า : สาเหตุที่ครอเกลปฏิเสธวิชาดาบไร้เทียมทาน อาจเพราะต้องการสร้างวิชาดาบที่ดีกว่าขึ้นมา
นั่นเป็นการคาดเดาที่สมเหตุสมผลตรงไหน?
เหล่าผู้บริหารต่างประหลาดใจ
หลังจากเงียบงันสักพัก ประธานลิมชอลโฮกล่าวกับสายตาทุกคู่ที่จ้องมาทางตน
“มอร์เฟียสมีข้อมูลของวิชาดาบ 289 ชนิดทั่วโลก และทักษะดาบจำนวน 2,570 ประเภทล้วนเกิดจากการพลิกแพลงข้อมูลดังกล่าว วิชาดาบไร้เทียมทานเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
สุดยอดวิชาดาบที่สมบูรณ์ที่สุด เกิดจากการสังเคราะห์ข้อมูลวิชาดาบหลายร้อยชนิดอย่างละเอียดโดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มอร์เฟียส
จวบจนปัจจุบัน แม้กระทั่งประธานลิมชอลโฮก็ยังยกย่องให้มันคือ ‘วิชาดาบที่ดีที่สุด’
และในทางทฤษฎีก็ยังเป็นเช่นนั้น
แต่เมื่อได้ยินคำพูดของบีบัน ลิมชอลโฮเริ่มเปลี่ยนใจ โดยเชื่อว่ามอร์เฟียสซึ่งคลุกคลีกับข้อมูลของผู้เล่นกว่าสองพันล้านทุกวัน อาจพบ ‘โอกาส’ ที่วิชาดาบซึ่งยอดเยี่ยมกว่าวิชาดาบไร้เทียมทานจะถือกำเนิด คำพูดจากปากบีบันจึงเป็นผลพวงจาก ‘พัฒนาการ’ ของมอร์เฟียส
“อย่างที่ทุกคนทราบ ในตอนที่มอร์เฟียสสร้างวิชาดาบไร้เทียมทาน ข้อมูลทั้งหมดล้วนเป็นของหลายปีก่อน มันเก่าไปแล้ว เมื่อในปัจจุบันสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากขึ้น โอกาสเกิดความน่าจะเป็นใหม่ ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก”
“นั่นสินะ… โอกาสที่วิชาดาบซึ่งยอดเยี่ยมกว่าวิชาดาบไร้เทียมทานจะถือกำเนิด คงไม่ใช่ศูนย์เสียทีเดียว”
“เห็นด้วย… ผมเคยได้ยินมาว่า มีนักดาบในชีวิตบางคนเลิกเล่นเกมเพราะวิชาดาบของตนไม่สามารถนำมาใช้ในซาทิสฟาย บางที มอร์เฟียสอาจนำจุดนั้นมาวิเคราะห์และออกแบบวิชาดาบใหม่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม”
ในบางครั้งมนุษย์ก็ทำเรื่องมหัศจรรย์ เฉกเช่นกริด ครอเกล และแอ็กนัสซึ่งเคยทำในสิ่งที่มอร์เฟียสคาดไม่ถึงบ่อยครั้ง ผู้เล่นธรรมดาเองก็สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เช่นกัน แค่อาจไม่บ่อยเท่า
เมื่อข้อมูลปาฏิหาริย์เหล่านั้นถูกเก็บรวบรวม ระบบอัจฉริยะอย่างมอร์เฟียสจึงเปลี่ยนรูปแบบการคาดเดา ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเกมที่มีจำนวนผู้เล่นมหาศาลอย่างซาทิสฟาย
“หากครอเกลได้ครอบครองวิชาดาบที่ว่า… ก็คงไม่น่าแปลกใจอะไร”
ประธานลิมชอลโฮหันไปมองจอภาพฝั่งซ้ายตรงกลาง บนจอกำลังถ่ายทอดสดการต่อสู้ของครอเกลกับยังบันตนหนึ่ง ทั้งสองปะทะกันขณะอริยดาบพยายามข้ามทะเลทรายคายา
สีหน้าครอเกลค่อนข้างตึงเครียด มันประเมินให้ตัวเองเป็นรองยังบันพอสมควร
ไม่แปลกที่จะคิดเช่นนั้น คู่ต่อสู้คนแรกดันเป็นเยอึม
ครอเกลคิดว่ายังบันทุกตนแข็งแกร่งเทียบเท่าเยอึมเป็นอย่างน้อย การต่อสู้จึงเป็นไปอย่างระมัดระวัง ไม่สร้างข้อผิดพลาดจนเสียท่าบนผืนทราย
ทุกครั้งที่ตั้งรับการโจมตีของยังบัน ครอเกลจะเสริมกำลังกายมากกว่าปรกติ ส่งผลให้ฝ่าเท้าบางเบาจนเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระไปบนภูมิประเทศทะเลทราย
สมกับเป็นอัจฉริยะที่ปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อม
ฝีมือด้านการต่อสู้ของครอเกลมิได้ย่อหย่อนลงแต่อย่างใด ยังคงเก่งกาจที่สุดในบรรดาผู้เล่นทั้งหมด
เช่นนั้นแล้ว อัจฉริยะด้านการควบคุมรายนี้บอกปัดสุดยอดวิชาดาบเพียงเพราะทิฐิและความหัวรั้นจริงหรือ?
‘เขาคงรับรู้ได้จากสัญชาตญาณ’
หลังจากเห็นแก่นแท้ของวิชาดาบไร้เทียมทาน จิตใต้สำนึกครอเกลคงส่งเสียงเตือนว่า นี่ยังไม่ใช่วิชาดาบที่ดีที่สุด
‘…แต่เราอาจคิดไปเองก็ได้’
ประธานลิมชอลโฮส่ายหน้าพลางหัวเราะ
มันเคยมีความคิดทำนองนี้มาแล้วในอดีต สมัยที่กริดเพิ่งเริ่มพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด
บนจอฉายภาพ ครอเกลทำลายการโจมตีทุกชนิดของยังบัน แทงปลายดาบใส่ลำคออีกฝ่ายอย่างแม่นยำ ปิดท้ายด้วยการใช้ดาบผ่ามิติแหวกทะเลทราย
คนที่สองถัดจากกริด
นี่คือวินาทีที่ผู้เล่นคนอื่นนอกจากกริด สามารถสังหารครึ่งเทพ
หลังจากพ่ายแพ้เยอึมอย่างหมดสภาพ ครอเกลเตร็ดเตร่ไปทั่วคายานานกว่าครึ่งเดือน เติบโตขึ้นในทุกด้าน ค้นพบโอกาสชีวิตมากมายบนดินแดนที่มีผู้เล่นเพียงน้อยนิดเคยมาเยือน
***
ณ หอสมุดฮายาเตะ ด้านบนสุดของหอแห่งปัญญา
กริดนั่งฝั่งตรงข้ามโดยมีฮายาเตะรินน้ำชาแก้วอุ่นส่งให้
“อีกสิบวันหลังจากนี้ วัฏจักรการเขมือบจะวนมาถึง”
“วัฏจักรการเขมือบ?”
“หมายถึงช่วงเวลาที่มังกรจอมเขมือบ ไรเดอร์ส ตระเวนไปทั่วทวีปเพื่อเสพสุขกับอาหาร”
“มังกรจะตระเวนไปทั่วทวีป…?”
ใบหน้ากริดพลันขาวซีดขณะจินตนาการถึงร่างกายอันใหญ่โตและใบหน้าดุร้ายตามธรรมชาติ
ตระเวนไปทั่วทวีปของมังกร ฟังยังไงก็เป็นหายนะ
ฮายาเตะยิ้มอ่อน
“อย่าได้จินตนาการถึงมังกรร่างยักษ์ที่บินโฉบลงจากท้องฟ้าและพ่นลมหายใจทำลายเมือง ระหว่างวัฏจักรการเขมือบ ไรเดอร์สจะจำแลงกายเป็นมนุษย์ ลดขนาดกระเพาะตัวเองลง มุ่งเน้นไปที่การลิ้มรสชาติอาหาร”
“อย่างนี้นี่เอง…”
กริดเข้าใจหลักการของเวทจำแลงกายได้ไม่ยาก แฮชลิ่งเนเฟลิน่าที่ซ่อนตัวอยู่ในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เองก็จำแลงกายเป็นมนุษย์
แต่นั่นมิได้ทำให้ชายหนุ่มเบาใจลง
มังกรมีรูปลักษณ์เหมือนมนุษย์แล้วอย่างไร? สันดานชั่วช้าของพวกมันยังไม่เปลี่ยนไปแน่นอน
“แล้ว… ผมต้องทำยังไงบ้าง”
“ช่วยแนะนำร้านอร่อยให้ไรเดอร์สรู้จัก”
“เข้าใจแล้วครั… เอ๋…? เห!?
“วัฏจักรการเขมือบจะวนมาทุกหนึ่งร้อยปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ร้านประจำของไรเดอร์สจะหายไปหรือรสชาติเปลี่ยน หากไรเดอร์สไม่เอร็ดอร่อยกับอาหาร ปัญหาร้ายแรงอาจตามมาในภายหลัง… ข้าหวังให้เจ้าช่วยเลือกร้านที่อร่อยที่สุดในปัจจุบันมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็นำทางไรเดอร์สไปลิ้มลอง”
“…”
นำทางมังกร?
ต้องออกเดินทางเพื่อลิ้มรสอาหารร่วมกับมังกรดุร้าย?
สมองกริดพลันขาวโพลนประหนึ่งถูกสายฟ้าซัดใส่กลางวันแสก
จริงอยู่ที่หัวแถวและสภาหอคอยมีความสัมพันธ์ในเชิงพึ่งพาอาศัย กริดอาจเคยได้รับความช่วยเหลือจากสภาหอคอยมากมาย แต่ข้อเสนอของฮายาเตะคราวนี้ทำให้ชายหนุ่มเกิดความลังเล
ไม่ใช่ว่าหัวแถวมีหน้าที่เพียงคอยดูแลด้านความสงบสุขของโลก ส่วนสภาหอคอยต้องรับมือกับมังกรหรอกหรือ?
แล้วทำไมตนต้องเป็นไกด์นำทางให้มังกร?
ฮายาเตะอธิบายกับกริดผู้ทำสีหน้าคลางแคลง
“อย่างที่เจ้าทราบ เป้าหมายของหอแห่งปัญญามิใช่การทำลายมังกร แต่เป็นการป้องกันไม่ให้พวกมันก่อความวุ่นวาย”
สภาหอคอยไม่มีปัญญาเก็บกวาดมังกรทั้งหมดอยู่แล้ว เป้าหมายของหอแห่งปัญญาคือการยับยั้งมิให้มังกรโจมตีโลกกึ่งกลาง
“ด้วยเหตุผลข้างต้น ไรเดอร์สคือมังกรที่รับมือได้ง่าย จะไม่เกิดเหตุร้ายตราบเท่าที่พวกเราสนองความอยากอาหารของมันได้ เป็นเหตุผลว่าทำไมสภาหอคอยถึงช่วยกันพาไรเดอร์สไปกินของอร่อยจวบจนปัจจุบัน…”
สีหน้าฮายาเตะเริ่มดำมืด กริดเข้าใจเหตุผลในทันที
“สภาหอคอยมิอาจแนะนำร้านที่เหมาะสมให้ไรเดอร์สได้อีกแล้ว…”
สภาหอคอยเป็นตัวตนจากโลกในอดีต ตัดขาดโดยสมบูรณ์ เกือบทั้งหมดจะออกจากหอคอยด้วยภารกิจพิเศษเท่านั้น มีเพียงบีบันที่ผ่านเข้าออกตามอำเภอใจ
แล้วพวกเขาจะไปมีข้อมูลภัตตาคารของโลกได้อย่างไร?
การเดาสุ่มส่งเดช ไม่มีทางสนองความอยากของไรเดอร์สได้แน่
“ถูกต้อง… ในทางกลับกัน เจ้าคือราชาของอาณาจักร ย่อมต้องทราบความเป็นไปของโลกได้ดี ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสืบหาร้านอาหารชื่อดังจากทั่วทุกมุมทวีป อีกทั้งยังเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระกว่าพวกเรามาก นั่นคือเหตุผลที่ข้าไหว้วานให้เจ้าพาไรเดอร์สไปตระเวนกินอาหาร”
“อา…”
เหตุผลฟังขึ้น แต่ชายหนุ่มไม่ค่อยเต็มใจนัก
ตระเวนกินอาหารทั่วทวีป – จริงอยู่ที่กริดสามารถตรวจสอบพิกัดของร้านอาหารล่วงหน้าและใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติเพื่อเดินทาง แต่นั่นก็ยังใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งเดือน
หากต้องอยู่กับมังกรนานขนาดนั้น โอกาสก่อความผิดพลาดก็ยิ่งมีมาก ความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยสามารถนำพาไปสู่ความฉิบหาย
เหนือสิ่งอื่นใด กริดจะไม่ได้เก็บเลเวลตลอดสองสัปดาห์เต็ม
‘ต้องขอโทษด้วย… แต่เรารับภารกิจนี้ไม่ได้’
หลังจากครุ่นคิด กริดอ้าปากเตรียมตอบ
“ผม…”
[★ ภารกิจลับ ★ <วัฏจักรการเขมือบ> ถูกสร้างขึ้น!]
<วัฏจักรการเขมือบ>
ระดับความยาก :???
นำทางมังกรจอมเขมือบ ไรเดอร์ส ตระเวนกินอาหารทั่วทั้งทวีป
เพื่อให้ไรเดอร์สพึงพอใจ ท่านต้องพาไปกินไม่ต่ำกว่าแปดสิบร้าน และได้รับคำชมว่าอร่อยไม่ต่ำกว่าหกสิบครั้ง
ทุกครั้งที่ไรเดอร์สพูดว่า ‘ข้ามีความสุข’ ท่านจะได้รับของขวัญพิเศษจากไรเดอร์ส
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : นำทางไรเดอร์สไปชิมอาหารอย่างน้อยแปดสิบร้าน
รางวัลสำเร็จภารกิจ : ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของไรเดอร์ส
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : มังกรจอมเขมือบโมโห
[ท่านต้องการรับภารกิจหรือไม่]
“…ผมจัดการเอง”
“ขอบใจมาก”
“เพื่อสันติภาพของโลก ผมไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว”
“ยอดเยี่ยมมาก ข้าเชื่อใจเจ้า”
ของขวัญพิเศษจากมังกรจะเป็นอะไร?
แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว
กริดประกาศข้อความลงแชตกิลด์ด้วยสีหน้ายินดี
> แนะนำร้านอาหารมาให้ฉัน
จากนั้นก็ส่งข้อความเสียงไปหาลอเอล
> แจ้งไปยังเจ้าเมืองทุกเมือง ให้พวกเขาจัดอีเวนต์แนะนำร้านอาหาร
> หือ?
> เดี๋ยวนี้!
> ตกลง… เข้าใจแล้ว
เป้าหมายถัดไปคือเฟคเกอร์
> ถึงเวลาที่อุปราคาต้องเคลื่อนไหวแล้ว
> สั่งการมาได้เลย
> กระจายตัวออกไปจองร้านอาหารทั่วทั้งทวีป
> รับทราบ
‘ดีล่ะ’
การเตรียมตัวขั้นต้นจบลงอย่างรวดเร็ว
ถัดจากนี้ กริดมีแผนจะแวะไปยังทวีปตะวันออก ขอคำแนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารจากกษัตริย์โชและชิง
ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้ กล่าวกับฮายาเตะด้วยสีหน้ามั่นใจ
“ผมจะทำให้ภารกิจตระเวนกินผ่านไปอย่างไร้ที่ติ รอฟังข่าวดีได้เลย”
“ได้ยินเช่นนั้นค่อยเบาใจ… สมกับที่เป็นตำนาน เหนือมนุษย์ และราชาวีรบุรุษ ข้าจะแจ้งตำแหน่งรังของไรเดอร์สให้ทราบ กรุณาเดินทางไปที่นั่นภายในสิบวัน”
“ตกลงครับ”
มังกรจอมเขมือบ ไรเดอร์ส
หากกริดผูกมิตรกับมันสำเร็จ คำสาปที่ครอบงำหัวใจสติกส์มาอย่างยาวนานอาจมีทางรักษา
ชายหนุ่มรอคอยให้ถึงวันนั้นด้วยใจจดจ่อ
คำสาปอะไรนะ ลืมแล้ว
ReplyDelete