จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,314



โอเวอร์เกียร์คืออาณาจักรที่ก่อตั้งโดยผู้เล่น


นโยบายจึงนับว่าล้ำสมัยหากเทียบกับอาณาจักรข้างเคียงที่เริ่มต้นจากยุคกลาง


หนึ่งในจุดเด่นสำคัญที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือระบบการศึกษา


เด็กจะได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมโดยไม่สนใจยศถาบรรดาศักดิ์ เพศ หรือพรสวรรค์


นับว่าแซงหน้าจักรวรรดิที่มีระบบการศึกษาแบบไม่สนฐานะรวยจน อยู่หนึ่งก้าว


‘ไม่คิดว่าจะพัฒนาไปมากขนาดนี้…’


กริดส่ายหน้าขณะเดินเยี่ยมชมโรงเรียนหลวงโอเวอร์เกียร์ซึ่งตนไม่ได้แวะเข้ามานาน อาณาเขตของโรงเรียนหลวงขยายขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะกลายเป็นเมืองไปแล้ว กล่าวกันว่า โรงเรียนโอเวอร์เกียร์อาจมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่ามหาวิทยาลัยบนโลกความจริงเสียอีก


‘ภูมิใจชะมัด’


กริดตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาได้ดีกว่าใคร


ชายหนุ่มเดินไปรอบ ๆ โรงเรียนด้วยความชื่นมื่น ใบหน้าเผยอารมณ์ซับซ้อน


ผ่านมาแล้วเจ็ดปีนับตั้งแต่เริ่มเปิดโรงเรียน ในที่สุดก็ถึงพิธีจบการศึกษาของศิษย์รุ่นแรก


ชายหนุ่มรอคอยวันเวลาที่เด็กเหล่านี้จะใช้ความสามารถของตนพัฒนาบ้านเมือง


“ขอคารวะฝ่าบาท”


โรงเรียนโอเวอร์เกียร์มีหลายสาขาวิชา รวมถึงคณาจารย์อีกกว่าร้อยชีวิต บุคลากรของโรงเรียนเต็มไปด้วยคนเก่งคนดังจากทุกสารทิศที่ลอเอลเชื้อเชิญมา


สาเหตุที่คนเหล่านี้ยอมมาเป็นอาจารย์ มิใช่เพราะปรารถนาความมั่งคั่งหรืออำนาจ หากแต่เพราะทุกคนเคารพศรัทธาในตัวมหาจอมปราชญ์สติกส์


“ขอบคุณสำหรับความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมา”


กริดกล่าวทักทายเหล่าอาจารย์


ชายหนุ่มชื่นชมอาจารย์ทุกคนที่คอยถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้อย่างจริงใจ


อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลก็คือ อาจารย์หลายคนเริ่มชราและมีผมหงอกขาว เกรงว่าอีกไม่นานก็คงต้องเกษียณอายุราชการ


‘…ลอเอลได้เดือดร้อนอีกแน่’


“ทำไมฝ่าบาทถึงมาเร็วนัก?”


สติกส์เดินเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว


อีกไม่นานจะถึงเวลาไก่ขัน หรือสามารถกล่าวได้ว่า ตอนนี้ยังเช้าตรู่เกินไปมาก ยังเหลือเวลาอีกพักใหญ่ก่อนที่พิธีจบการศึกษาจะเริ่มขึ้น


การที่กริดมาในเวลานี้และทำให้กำหนดการทั้งหมดของสติกส์คลาดเคลื่อน อีกทั้ง มหาจอมปราชญ์เกรงว่าตนอาจต้องเสียเวลารวบรวมมานาใหม่หลังจากใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติ


…เราจะไม่เป็นลมไปในตอนที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์ใช่ไหม?


ชายหนุ่มเดินไปหาสติกส์ที่เผยสีหน้ากังวลและเตรียมใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติ


“ฉันแค่อยากเดินชมบรรยากาศอันเงียบสงบของโรงเรียนในตอนที่ยังไม่มีนักเรียน และอยากทักทายคณาจารย์ที่ทำงานอย่างหนักด้วย”


“เข้าใจแล้ว”


‘…ฝ่าบาทกำลังจะทำให้เหล่าอาจารย์ที่ตื่นเช้าได้เจอกับนรก’


สติกส์กลืนคำพูดลงคอ


มันย่อมทราบดีว่า ความขยันของกริดอยู่ในระดับเหนือสามัญสำนึก และบรรดาอาจารย์อาจประสบปัญหาพักผ่อนไม่เพียงพอก่อนเข้าร่วมพิธี


***


“อาหารห่วยชะมัด”


หลังจากเดินชมได้สักพัก กริดขมวดคิ้วเมื่อเดินเข้าไปในโรงอาหารเพื่อเตรียมกินมื้อเช้า


ขนมปังอบใหม่อาจมีรสชาติดี เนื่องจากทั้งนุ่มและเข้มข้น แต่เครื่องเคียงจัดว่าแย่ น้ำซุปรสชาติเหมือนน้ำจืดร้อน คล้ายกับไม่ถูกเคี่ยวอย่างเพียงพอ


“เด็ก ๆ จะมีสมาธิเรียนหลังจากกินอาหารแบบนี้ได้ยังไง?”


กริดไม่เก็บซ่อนสีหน้าหงุดหงิด


เกิดอะไรขึ้นกับงบประมาณด้านการศึกษาจำนวนมากในแต่ละปี?


อาหารไม่ได้คุณภาพเลยสักนิด บรรดาเครื่องครัวราคาแพงมีไว้ประดับผนังหรือ?


‘ใครเป็นคนจัดการค่าอาหาร?’


เราจะต้องส่งแร็บบิตมาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง!


ขณะกริดสาบานในใจอย่างหนักแน่น สติกส์มอบคำตอบ


“ยังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงมื้อเช้าของเด็ก อาหารจึงยังเตรียมไม่เสร็จ หากฝ่าบาทพูดเช่นนั้นให้พ่อครัวได้ยิน พวกเขาต้องเสียใจมากแน่”


“…”


ชายหนุ่มหลงลืมไปชั่วขณะ


แต่ละวันของตนผ่านไปอย่างดุเดือดและหนักหน่วงกว่าคนปรกติหลายเท่า แนวคิดทางด้านเวลาจึงผิดเพี้ยนจากสามัญสำนึก เรียกได้ว่าลืมวันลืมคืนไปนานแล้ว


ขณะกริดกระแอมแห้ง ลอเอลเดินเข้ามาใกล้


ในฐานะนายกรัฐมนตรี มันเองก็ต้องเข้าร่วมพิธีจบการศึกษาในวันนี้ด้วย


“มาขยันอะไรในเวลาแบบนี้?”


“…”


เพียงเสียงกระซิบแผ่วเบาจากลอเอล กริดทวีความรู้สึกผิด


***


ก่อนพิธีจบการศึกษาจะเริ่มขึ้น เหล่าศิษย์ในแต่ละภาควิชาที่เรียนจบจะแวะเข้ามาในช่วงเช้า พวกเขาอยากขอบคุณเหล่าอาจารย์ที่คอยมอบความรู้อันมีค่าตลอดเจ็ดปี


“พ่อของผมอาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านเกิด แต่อยู่มาวันหนึ่ง บ้านเขาพังลงเนื่องจากพายุไต้ฝุ่น เหตุผลเดียวที่เขาไม่หัวเสียเพราะผมได้ใช้ทักษะที่อาจารย์ถ่ายทอดให้ นำไปก่อสร้างเสาหลัก เพดาน และผนังของบ้านหลังใหม่ให้พ่อด้วยตัวเอง ต้องขอบคุณอาจารย์ที่มอบความรู้ให้ผมโดยไม่มองว่าเป็นแค่ลูกคนขายเนื้อ”


“บ้านเกิดของผมอยู่บนภูเขา ต้องคอยทำให้พื้นที่รอบบ้านโล่งเตียนด้วยการจุดไฟเผา… ครอบครัวของเราและเพื่อนบ้านล้วนอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็ก ทุกฤดูร้อนจะต้องเผชิญความร้อนและแมลงน่ารำคาญ ทุกฤดูหนาวจะต้องตัวสั่นเพราะอากาศอันหนาวเหน็บ… แต่ทุกสิ่งเปลี่ยนไปหลังจากผมได้เรียนวิชาก่อสร้างจากที่นี่ ทุกวันหยุด ผมจะกลับบ้านเพื่อไปต่อเติมกระท่อม จนตอนนี้มันกลายเป็นบ้านที่น่าอยู่และอบอุ่น ขอบคุณอาจารย์มาก”


บ้าน หรือที่พักอาศัย ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการดำรงชีวิต


ทว่า เช่นเดียวกับสาขาอาชีพส่วนใหญ่ วิชาการก่อสร้างมักไม่ถูกสอนอย่างแพร่หลาย


เหล่าสถาปนิกต่างภาคภูมิใจในอาชีพของตน จึงไม่รับลูกศิษย์ส่งเดช หากใครไม่มีแววหรือไม่มีหัวนอนปลายเท้า ก็จะไม่ถ่ายทอดวิชาให้อย่างเด็ดขาด


คนยากจนจึงต้องสร้างบ้านด้วยประสบการณ์จากคนใกล้ตัว โครงสร้างของบ้านจึงยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ ผิวภายนอกอาจดูดี แต่ปัญหาที่มักตามมาคือการเก็บเสียง ความเย็น และน้ำรั่วซึม รวมไปถึงความทนทานที่ค่อนข้างต่ำ


สำหรับนักเรียนภาควิชาสถาปัตยกรรมทุกคน อาจารย์ของพวกตนเปรียบดังเทพเจ้า


เหล่าเด็ก ๆ จะนำความรู้ที่ได้ศึกษามา ไปสร้างบ้านต้นทุนต่ำให้กับคนยากจนในอนาคต


พวกเขาจะเปลี่ยนให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ปลอดจากบ้านที่มีหลังคารั่วซึมน้ำฝน


“สหายคนนั้น… และคนนั้นด้วย”


ขณะยืนมองนักเรียนแผนกสถาปนิกจากจุดห่างไกล กริดชี้ไปยังนักเรียนสองคนโดยมีลอเอลคอยเขียนชื่อตาม


ในมือกริดกำลังถือดาบแห่งราชา


***


“ต้องขอบคุณอาจารย์ ตัวผมที่เคยทุกข์ทรมานจากอาการกระดูกหักและเส้นเอ็น กลับมามีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงได้อีกครั้ง ต้องขอบคุณมากจริง ๆ”


“ผมเรียนไปพร้อมกับการถูกอาจารย์ฝึกซ้อมอย่างหนัก จนตอนนี้ไม่กลัวอันธพาลหน้าไหนแล้ว ย้อนกลับไปในช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา มีหัวขโมยคนหนึ่งพยายามไถเงินผม… ผมขำจนฉี่แทบราด”


“อาจารย์ปากเสียชะมัด ผมควรยกเลิกพิธีจบการศึกษาของตัวเองแล้วเรียนซ้ำชั้นอีกสักปีดีไหม?”


“ฮะฮะ… ผมซาบซึ้งจนไม่มีอะไรจะพูด จะไม่มีวันลืมบุญคุณของอาจารย์ที่เปลี่ยนนายพรานธรรมดาอย่างผม ให้กลายเป็นนักดาบที่พอจะมีฝีมือเด็ดขาด… แล้วสักวัน ผมจะเป็นอัศวินที่ยอดเยี่ยมให้ได้”


“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เรียนกับอาจารย์!”


“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง!”


ภาควิชาที่เก้าที่กริดไปเยือนคือแผนกวิชาดาบ


เทียบกับภาควิชาอื่น นักเรียนที่นี่มีจำนวนมากกว่า และรวมไปถึงจำนวนที่สำเร็จการศึกษา


อย่างไรก็ตาม แม้จะจบการศึกษามากถึง 137 คน แต่ก็ไม่มีใครมีพรสวรรค์ในเชิงดาบอย่างจริงจัง


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น


หากเด็กคนไหนมีพรสวรรค์ดาบ ส่วนใหญ่จะไม่เข้ามาศึกษาต่อในโรงเรียน แต่จะฝากตัวเป็นศิษย์กับอาจารย์ดาบที่แข็งแกร่ง หรือไม่ก็เข้าหลักสูตรอัศวิน


โดยส่วนใหญ่แล้ว นักเรียนของโรงเรียนมักประกอบอาชีพควบคู่กันไป เป็นการเรียนครึ่งวันและทำงานอีกครึ่งวัน เป็นเช่นนี้ตลอดการศึกษาเจ็ดปีเต็ม การฝึกฝนจึงเข้มข้นน้อยกว่าหลักสูตรอัศวินหัวกะทิหลายเท่า


“แต่ก็ยังดีกว่าทหารทั่วไป”


นายกรัฐมนตรีต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล


ลอเอลที่ได้รับค่าสถานะและทักษะพิเศษหลังจากก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง กำลังยืนยิ้มข้างกริดขณะกวาดตามองเหล่านักเรียนจบใหม่


“เมื่อคนเหล่านี้กลับไปยังหมู่บ้านและเข้าร่วมกลุ่มอาสาสมัคร ทุกคนจะช่วยยกระดับความปลอดภัยชุมชนขึ้นมา”


“อา…”


ในอนาคต จำนวนนักเรียนจบใหม่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนั่นหมายถึงจำนวนประชากรคุณภาพที่กระจายกลับสู่ชุมชน


ราวสิบปีข้างหน้า ประชากรโอเวอร์เกียร์จะมีสัดส่วนสถาปนิก รวมถึงพลเมืองที่ชำนาญการต่อสู้ เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอย่างก้าวกระโดด


กริดย่อมดีใจ แต่ขณะเดียวกันก็แอบผิดหวังเล็ก ๆ


พรสวรรค์


หนึ่งในสิ่งที่ไม่ยุติธรรมที่สุดของโลก และในบางครั้งก็เป็นเพียงคำลวง


พรสวรรค์ของใครบางคนอาจไม่แสดงออกเป็นเวลานานหลายปี หรือหลายสิบปี แต่จู่ ๆ ก็เบ่งบานในจังหวะและช่วงเวลาที่เหมาะสม


หนึ่งในนั้นคือพรสวรรค์ด้านความพากเพียรและอดทน


หากมีพรสวรรค์ชนิดนี้ เด็กบางคนที่เคยถูกมองว่าไม่ฉลาด จะยังคงพัฒนาตัวเองได้อย่างเชื่องช้าเนื่องจากไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค จนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพสูงกว่าคนรอบข้าง


กริดเองก็เข้าข่ายดังกล่าว


จึงมีใครบางคนกล่าวไว้ว่า ‘สุดยอดพรสวรรค์มักเบ่งบานช้า’


‘…เคยคิดว่าเด็กจบใหม่จะมีศักยภาพสูงกว่านี้’


แต่ความจริงแล้วตรงกันข้าม นักเรียนส่วนใหญ่มีค่าสถานะปานกลาง


กริดพบเด็กพรสวรรค์เพียงห้าคนจากเก้าภาควิชา และทั้งหมดเก่งกว่าคนทั่วไปไม่มาก


กว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระให้อาณาจักรได้ ก็ต้องขัดเกลาเพิ่มเติมอีกหลายปี


และในภาควิชาดาบก็ไม่มีเด็กพรสวรรค์แม้แต่คนเดียว


กริดผิดหวังอย่างมาก เพราะคาดหวังไว้พอ ๆ กับสาขาเวทมนตร์และภูตธาตุ 


‘สาขาเวทมนตร์น่าจะยิ่งแย่กว่านี้อีก… หรือเราจะฝากความหวังได้แค่สาขาภูตธาตุ?’


เด็กที่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ส่วนใหญ่จะถูกดึงตัวเข้าหอเวทมนตร์ตั้งแต่เด็ก โอกาสพบเด็กพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ในโรงเรียนจึงต่ำมาก


‘…สงสัยจะพึ่งพาได้แค่ชนเผ่าอัล’


หน่วยจอมเวทส่วนใหญ่ของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์มาจากชนเผ่าอัล


แต่นอกจากจะมีจำนวนน้อย พวกเขายังมีปัญหาด้านการสื่อสารกับมนุษย์ปรกติ เนื่องจากวัฒนธรรมและค่านิยมแตกต่างกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ชาวอัลมากพรสวรรค์ที่เคยทำงานในหอคอยเวทมนตร์และเป็นอาจารย์ให้กับโรงเรียน ถึงทนไม่ไหวและตัดสินใจลาออก


“ฝ่าบาท!”


“ขอคารวะฝ่าบาท!”


“…”


กริดถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์


เมื่อเงยหน้าขึ้น ชายหนุ่มเห็นนักเรียนภาควิชาดาบกำลังโค้งคำนับจากระยะไกล


“ลุกขึ้นเถิด เรามิได้ต้องการรบกวน”


กริดแสร้งทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ จึงเดินเข้าไปในลานฝึกเพื่อบอกให้พวกเขาลุกขึ้น


สายตาเหล่านักเรียนเต็มไปด้วยความเคารพศรัทธา


เฉกเช่นเด็กที่ใฝ่ฝันอยากเป็นช่างตีเหล็ก เด็กเหล่านี้อยากเป็นนักดาบเพราะศรัทธาในตัวกริด และยังเป็นเช่นเดียวกันนักเรียนภาควิชาเวทมนตร์


ราชาโอเวอร์เกียร์ถล่มกองทัพข้าศึกอย่างห้าวหาญด้วยวิชาดาบและเวทมนตร์อันสง่างาม ชายหนุ่มคือความฝันของผู้คน เป็นเป้าหมายให้เด็กรุ่นใหม่เอาเยี่ยงอย่าง


ลอเอลฉีกยิ้มเมื่อได้เห็นนักเรียนมีดวงตาส่องประกาย


“ฝ่าบาท นักเรียนเหล่านี้คงอยากชมเพลงดาบของฝ่าบาทสักเล็กน้อย”


อึก


ลอเอลแต่งเรื่องขึ้นมาเอง แต่นั่นยิ่งทำให้บรรดานักเรียนพากันกลืนน้ำลาย


ไม่มีใครไม่อยากเห็นวิชาดาบกริดในระยะประชิด


โดยเฉพาะนักเรียนที่เคยได้ยินเรื่องเล่าผ่านข่าวลือและตำนาน


สีหน้ากระตือรือร้นแฝงความตื่นเต้นของพวกเขา ทำให้กริดปฏิเสธไม่ลง


‘ถึงจะน่าอายไปสักนิด แต่ก็…’


ก็แค่แกว่งดาบ ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย


กริดเหยียดแขนไปทางเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังยืนตัวเกร็งตาใส


“ขอยืมดาบหน่อย”


แร็บบิตคงโผล่ออกมาแน่หากตนใช้ดาบจริงที่นี่


“ป…เป็นเกียรติอย่างยิ่งขอรับ!”


เด็กหนุ่มยื่นดาบไม้ด้วยท่าทีนอบน้อม ขณะที่เด็กรอบข้างเฝ้ามองด้วยสายตาอิจฉา


กริดที่ตื่นเต้นเล็ก ๆ แกมตึงเครียด กวาดตามองไปรอบสนามฝึก


สายตามิได้จดจ่ออยู่เพียงเป้าซ้อม หากแต่เป็นภาพรวมของทั้งลานฝึก


‘ได้ทดสอบพลังแบบนี้ก็ไม่เลว’


ปัจจุบัน ท่ารำดาบของกริดไม่จำเป็นต้องก้าวขา แต่สามารถก้าวเพื่อเพิ่มพลังทำลายได้


ระดับสูงสุดคือสี่ก้าว


สวบ


กริดขยับหนึ่งก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับถือดาบอย่างผ่อนคลาย


ฉึบ


จิตคุกคามเริ่มแผ่ออกไปรอบบรรยากาศ


บรรดานักเรียนต่างคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอน แต่เพียงไม่นานก็พบว่าไม่ใช่


กริดก้าวขาออกไปอีกครั้ง


ในหนนี้ ผืนดินเริ่มสั่นสะเทือน เม็ดทรายบนลานฝึกเกิดการสั่นไหวรุนแรง


ปราณดาบโปร่งใสปรากฏขึ้นที่ปลายดาบไม้ในมือกริด


“โอ้!”


นักเรียน อาจารย์ภาควิชาดาบ และเมอร์เซเดส ต่างส่งเสียงชื่นชมออกมาพร้อมกัน


กริดขยับถอยก้าวที่สามและสี่ในคราวเดียว


และนั่นทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่มีวันจินตนาการถึง


“ทำลายล้าง”


เทพสงคราม


วิชาดาบที่เลียนแบบการฟันของซือโหยว มิใช่เซราทุลที่เป็นเพียงร่างจำลอง


ดาบไม้ถูกฉาบด้วยปราณดาบสีเงินสว่าง พร้อมกับตวัดลงเป็นเส้นตรงอันคมกริบ


อย่างไรก็ตาม อย่าว่าแต่ฉากระเบิดโครมคราม แม้แต่เสียงเล็กน้อยให้ได้ยินก็ยังไม่มี


แต่ถึงอย่างนั้น เมอร์เซเดสย่อมมองเห็นว่าห้วงมิติกำลังถูกฟันขาดสะบั้น


ถัดมาเพียงหนึ่งอึดใจ คลื่นกระแทกอันทรงพลังแผ่พุ่งออกทุกทิศทาง


แรงลมทำให้ต้นไม้รอบลานฝึกสั่นไหวอย่างหนัก ใบไม้ปลิวตามเกลียวสามลมก่อนจะตกลงพื้น


“แฮ่ก…”


อาจารย์ภาควิชาดาบและนักเรียนต่างพากันอ้าปากค้างและส่งเสียงคราง


‘หืม?’


ขณะคืนดาบไม้ให้เด็กหนุ่ม กริดตระหนักถึงบางสิ่งผิดปรกติ จึงรีบวางมือลงบนฝักดาบที่ห้อยอยู่ตรงเอว พร้อมกับเปิดใช้พลังเฟ้นหาพรสวรรค์ของราชา


ชื่อ : เบเทล

อายุ : 21

คลาส : นักดาบ

สมญานาม : ผู้แสวงดาบ

เพลงดาบของราชาโอเวอร์เกียร์ทำให้โลกของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลังจากนี้ เขาจะเลียนแบบการโจมตีของกริดไปชั่วชีวิต

การโจมตีด้วยท่าฟันจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ 50% ถึง 400%

ได้รับค่าประสบการณ์ของทักษะ <ความชำนาญดาบ> เพิ่มขึ้น 300%

เลเวล : 195

พละกำลัง : 981/1,590 ความอดทน : 360/630

ความว่องไว : 319/551 สติปัญญา : 210/509

ความหลงใหล : 10

— รายการทักษะ —

- วิชาดาบขั้นต้น (D)

- วิชาดาบโอเวอร์เกียร์ (D)

- คำสาปของท่าฟัน (S)

- ผู้แสวงดาบ (S)

<คำสาปของท่าฟัน>

ประเภท : ติดตัว

เขาหลงใหลในท่าฟันที่ตัวเองไม่มีวันก้าวไปถึง คำสาปอันทรงพลังจะทำให้เขาคอยตำหนิตัวเองและก้มหน้าพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง

* เปิดใช้งานค่าสถานะ ‘โทสะ’

* ทุกครั้งที่ค่าโทสะเพิ่มขึ้น การโจมตีประเภทฟันจะทรงพลังขึ้นอย่างมาก

★ หากค่าโทสะสูงถึงขีดจำกัด เพดานค่าสถานะจะถูกทำลาย

ระยะหน่วง : ไม่มี

ทรัพยากร : ไม่มี


“ลอเอล”


“ขอรับ”


“นับสหายคนนี้เข้าไปด้วย”


“รับทราบ”


ณ เวลานี้ เรื่องราวในอดีตระหว่างแพ็กม่าและซือโหยวกำลังเกิดขึ้นอีกครั้งบนโลกมนุษย์


ขณะกริดแสดงความสนใจในตัวเบเทลโดยไม่ปิดบัง เด็กหนุ่มทำได้เพียงยืนตัวแข็งทื่อ


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะดวงตาเปี่ยมความละโมบของกริด ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ปรกติจะทนรับไหว


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,757
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00