จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,308



เกรดของคลาสมิได้เป็นตัวบ่งบอกความแข็งแกร่ง


ข้อความนี้เป็นความจริงจนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีก่อน


แต่เดิม ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวใดที่ระบุว่า ผู้เล่นคลาสลับแข็งแกร่งกว่าผู้เล่นคลาสทั่วไป


ครอเกลเป็นเพียงคลาสทั่วไปและเอาชนะกริดได้ในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สอง อีกทั้งยังครองบัลลังก์อันดับหนึ่งในฐานะคลาสทั่วไปได้นานหลายปี


เฟคเกอร์ที่เคยสังหารหมู่กิลด์ไอซ์ฟลาเวอร์ด้วยตัวคนเดียว นั่นก็กระทำโดยคลาสทั่วไป


ป็อน แวนเนอร์ เรกัส พีคซอร์ด และเซ็ดนอสแห่งกิลด์โอเวอร์เกียร์ก็ล้วนเป็นคลาสทั่วไป


จากบรรดาท็อปสิบในอันดับรวม มีคนเดียวที่เป็นคลาสลับคือแอ็กนัส


ถูกต้อง


เดิมทีแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในซาทิสฟายคือ ‘ฝีมือควบคุม’ มิใช่คลาส ซาทิสฟายจึงเป็นเกมที่ผู้เล่นซึ่งมั่นใจในฝีมือ คาดหวังว่าตนจะได้ผงาด


ทว่า ตัวเกมเริ่มเปลี่ยนไปในช่วงหลัง


เป็นเพราะไอเท็มของกริดทรงพลังขึ้น?


นั่นไม่ใช่ปัญหาหลัก


เหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคลาสทั่วไปและคลาสลับก็คือ ทักษะที่มาพร้อมอาการผิดปรกติ


ย้อนกลับไปในช่วงแรกของซาทิสฟาย


อย่างมาก ผู้เล่นหนึ่งคนจะมีทักษะสร้างอาการผิดปรกติไม่เกินสามชนิด และอาการที่อันตรายที่สุดคือ ‘สตัน’ แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ผู้เล่นเริ่มเปลี่ยนเป็นคลาสระดับสาม รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนของประชากรคลาสลับ ทักษะเกี่ยวกับอาการผิดปรกติจึงเพิ่มจำนวนและหลากหลายมากขึ้น การต่อสู้แต่ละครั้งจึงมีประเด็นให้ต้องคอยพะวงไม่น้อย


ในช่วงแรก ผู้เล่นคลาสทั่วไปไม่ค่อยประสบปัญหาใน PVP มากนัก เนื่องจากสามารถแก้ลำได้ด้วยการเพิ่มค่าต้านทานอาการ ‘สตัน’ และอาการ ‘หวาดกลัว’


ทว่า ปัจจุบันต้องคอยรับมืออาการผิดปรกติไม่ต่ำกว่าสิบชนิด แต่แรงเกอร์ที่มีคลาสลับกลับต้านทานอาการผิดปรกติได้ ‘บางชนิด’ โดยธรรมชาติ และคลาสระดับตำนานซึ่งมีเกรดสูงสุดจากบรรดาทั้งหมด สามารถต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิด ส่งผลให้มีสิ่งที่ต้องคอยระแวงน้อยลงมาก


ไฮแรงเกอร์ที่เปลี่ยนคลาสระดับสามอาจเก็บเลเวลได้รวดเร็ว สามารถลดความแตกต่างทางเลเวลระหว่างคลาสทั่วไปและคลาสลับ แต่ในแง่ของการ PVP นั้น ประสิทธิภาพมีแต่จะห่วยลงทุกขณะ


ไฮแรงเกอร์ที่เป็นคลาสทั่วไป ต้องลงทุนลงแรงไปกับการสร้างค่าต้านทาน แต่ไฮแรงเกอร์ที่เป็นคลาสลับสามารถนำเงินก้อนเดียวกันไปลงทุนกับส่วนอื่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไฮแรงเกอร์คลาสลับจะพัฒนาตัวเองได้ไกลกว่า


หรือในอีกความหมายหนึ่ง ซาทิสฟายกลายเป็นเกมแห่งอาการผิดปรกติ


‘แต่ตอนนี้… โอกาสมาถึงแล้ว’


ไฮแรงเกอร์ที่เป็นคลาสทั่วไป บางคนเริ่มเปลี่ยนเป็นคลาสระดับสามและคุ้นชินกับพลังใหม่ ท่ามกลางโลกแห่งอาการผิดปรกติ พวกมันมิได้ไร้ประโยชน์เหมือนเมื่อก่อน เพราะเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี


เช่นนั้นแล้ว ทางฝั่งคลาสลับล่ะ?


พวกมันดื่มด่ำกับค่าต้านทานอาการผิดปรกติแสนวิเศษมานาน จนเกิดเป็นความเคยชิน ส่วนมากมักปล่อยให้ทักษะที่สร้างอาการผิดปรกติ ปะทะใส่ร่างกายโดยไม่แยแส ส่วนใหญ่จะฝึกฝนตัวเองให้ต่อสู้ในแนวทางที่ดุดันมาตลอด หวังแต่จะฆ่าฟันศัตรูให้ตายโดยเร็ว ไม่มัวเสียเวลารับมือทักษะที่ไม่เป็นพิษภัย


ฮาลล์ฉีกยิ้มขณะจินตนาการถึงวินาทีที่ศัตรูตระหนักว่า ค่าต้านทานของตนไม่มีผล


‘พวกมันต้องได้รับบทเรียน การที่ไต่เต้ามาถึงจุดนี้ได้มิใช่เพราะฝีมือเหนือกว่าผู้อื่น แต่เป็นเพราะพวกมันมีวาสนาได้เป็นอภิสิทธิ์ชน’


ฮาลล์ไม่ศรัทธาในคำว่า ‘เพียรพยายาม’


มันเกลียดมนุษย์ที่เอาแต่พล่ามถึงความพากเพียรออกจากปาก


ไม่ว่าจะวงการธุรกิจ กีฬา การศึกษา และอีกมาก บุคคลที่ก้าวไปถึงจุดสูงสุดล้วนมิได้ใช้ความเพียรพยายามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีพรสวรรค์และวาสนาประกอบ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’ ไม่ใช่เรื่องจริง


คิดว่าเหล่าไฮแรงเกอร์อุทิศตัวให้เกมน้อยกว่ากริดและครอเกลหรือ? ไม่จริงเลยสักนิด


ไฮแรงเกอร์ทุกคนทำงานหนักไม่ต่างกัน ลดเวลาการกินการนอน ทุกลมหายใจมีแต่เกม เมื่ออยู่นอกเกมก็ใช้เวลาศึกษาค้นคว้าเป็นส่วนใหญ่


ทว่า ฮาลล์ติดแหง็กอยู่ในอันดับ 54 ของโลกมานาน และมีแรงเกอร์อีกมากที่ประสบความโชคร้ายยิ่งกว่าฮาลล์ ความพยายามของแต่ละคนผลิดอกออกผลไม่เท่ากัน บุญวาสนาและพรสวรรค์คือปัจจัยที่สำคัญยิ่งกว่า


ฮาลล์คิดมาตลอดว่า ไฮแรงเกอร์ก็แค่กลุ่มคนที่มีวาสนาดีและพรสวรรค์สูงกว่าคนปรกติ และจากบรรดาทั้งหมด พวกที่ครอบครองคลาสลับนับว่าโชคดีกว่าใคร


โลกที่ผู้คนจำนวนมากเทิดทูนกลุ่มคนเหล่านี้ ช่างน่าอดสูและน่าสมเพชยิ่งนัก


‘ไม่ได้รู้ตัวกันสักนิดเลยว่า… พวกอภิสิทธิ์ชนคือมะเร็งร้ายที่บ่อนทำลายอายุขัยของเกม’


ฮาลล์เดิมพันทุกสิ่งไว้กับซาทิสฟาย การล่มสลายของซาทิสฟายย่อมหมายถึงความล่มสลายของตัวมันเอง


‘เราจะไม่ปล่อยให้พวกที่มีวาสนามากกว่าคนอื่น มาทำลายสิ่งที่เป็นชะตาชีวิตของเราเด็ดขาด’


ผู้เล่นจะพากันเบื่อเกมมากขึ้นหากซาทิสฟายเต็มไปด้วยคลาสลับ ความท้อแท้จะค่อย ๆ ถูกถ่ายทอดจากไฮแรงเกอร์ลงไปยังแรงเกอร์ จนกระทั่งถึงผู้เล่นทั่วไป และความนิยมในตัวเกมก็จะลดลงอย่างฮวบฮาบ


ก่อนที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น ฮาลล์หวังปกป้องซาทิสฟายให้ได้ เป้าหมายจึงเป็นการออกล่าผู้เล่นคลาสลับและกระจายเจตนารมณ์ของตนไปทั่วโลก


ถึงเวลาแล้วที่ต้องยับยั้งมิให้ผู้เล่นคลาสลับซึ่งเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น


ขณะกำลังปลุกใจ ข้อความระบบปรากฏขึ้นตรงหน้าฮาลล์


[ท่านเข้าสู่ดินแดนของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์]


[ความร้อนของทะเลทรายจะทำให้ความเหนื่อยล้าเพิ่มเร็วขึ้น]


ขณะเดียวกัน คนขับรถม้ากล่าว


“ที่นี่คือเรย์ดัน”


“ครับ รบกวนส่งให้ถึงที่หมายด้วย”


“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง”


รถม้าที่มีอูฐคอยลากจูง


การเดินทางราบรื่นกว่าที่คิด


ขณะฮาลล์หันไปมองนอกหน้าต่าง พวกพ้องคนหนึ่งถามขึ้น


“ยูร่าจะมาที่เรย์ดันจริงหรือ”


เป็นที่ทราบกันดีว่า ยูร่าใช้เวลาส่วนใหญ่กับขุมนรก นั่นเพราะคลาสนักล่าอสูรจะแสดงพลังได้มากที่สุดก็ต่อเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมของนรก


หากเป็นโลกกึ่งกลาง ยูร่าจะอ่อนแอกว่าคลาสตำนานอื่นอย่างเห็นได้ชัด


ด้วยเหตุผลนี้ พวกมันจึงเลือกยูร่าเป็นเป้าหมาย มิใช่จิสึกะที่เพิ่งได้รับคลาสเกรดตำนาน


“เธอต้องกลับมาร่วมงานเทศกาลของเนี๊ยวมงแน่”


เนี๊ยวมง


ชื่อตัวละครที่สร้างจากการเลียนเสียงร้องของแมวและเสียงเห่าของสุนัข เป็นชื่อที่ใครหลายคนต่างลงความเห็นตรงกันว่า ให้เด็กตั้งยังออกมาดีกว่านี้


แต่ถึงอย่างนั้น ไม่มีใครในโลกกล้าหัวเราะเยาะเนี๊ยวมง


เจ้าแห่งสัตว์ คลาสลับเกรดยูนีคที่เป็นหนึ่งในกระดูกสันหลังของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


เนี๊ยวมงสามารถผูกมิตรกับสัตว์ป่าและมอนสเตอร์ได้หลายชนิด ส่งผลใช้ประชาชนหลายพันคนของอาณาจักรสามารถข้ามแม่น้ำและภูเขาเพื่อค้าขายได้อย่างปลอดภัย


ไม่เพียงเท่านั้น กองพันไวเวิร์นของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่เริ่มออกปฏิบัติการพื้นฐานเมื่อหลายเดือนก่อน ก็เป็นฝีมือการจัดตั้งของเนี๊ยวมงเช่นกัน


“งานเทศกาลเริ่มจัดขึ้นปีละสองครั้งนับตั้งแต่เนี๊ยวมงกลายเป็นผู้สำเร็จราชการแทน”


ชื่อของงานก็คือ ‘งานเทศกาลเนี๊ยวมง’ เป็นการนำเหล่าสรรพสัตว์จำนวนหลายร้อย เดินสวนสนามไปรอบเมืองเรย์ดัน


งานนี้ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะกองทัพสัตว์ที่นำมาร่วมขบวนนั้นเต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่แบ่งแยกว่าเป็นสัตว์กินเนื้อหรือกินพืช งานเทศกาลแต่ละครั้งจึงมียอดนักท่องเที่ยวผู้เล่นเพิ่มขึ้นกว่า 2,000% เดาได้ไม่ยากว่าจะมีเงินสะพัดมากแค่ไหน


“เทศกาลเนี๊ยวมงกลายเป็นงานสำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ พวกมันให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาก ดังนั้น ยูร่าต้องกลับมาเป็นหนึ่งในทีมคุ้มกันแน่”


“ใช้คลาสระดับตำนานอย่างยูร่ามาเป็นคนคุ้มกัน? ฟุ่มเฟือยฉิบ”


“ฟุ่มเฟือย? จะแน่หรือ? ความจริงแล้ว เทศกาลเนี๊ยวมงเป็นเหมือนกับการเดินสวนสนามกองทัพมากกว่างานเทศกาล”


“สวนสนามกองทัพ?”


“เป็นการเดินสวนสนามเพื่อประกาศศักดาว่า ผู้เล่นคลาสลับสามารถบงการสัตว์และมอนสเตอร์ได้หลายร้อยในคราวเดียว นั่นเทียบได้กับหนึ่งกองทัพ ถือเป็นงานที่มีความนัยแฝงสำคัญ จึงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือยหากจะนำยูร่ามาเป็นคนคุ้มกัน”


“…!”


“คลาสลับ… พวกมันทั้งหมดคือยาพิษ! เป็นมะเร็งร้ายที่ต้องตัดออกเพื่อให้โลกสงบสุข!”


“เพื่อคนหมู่มาก!”


“เพื่อคนหมู่มาก!”


พรรคพวกของฮาลล์ได้ตระหนักว่า เป้าหมายของพวกตนในวันนี้มีถึงสอง มิใช่แค่หนึ่ง


***


“โอ้… ช่างงดงามยิ่งนัก ถึงจะไม่รู้ว่าพ่อและแม่เป็นใคร แต่พวกเขาต้องรักเจ้ามากแน่”


เนี๊ยวมงที่กำลังมีดวงตาเป็นรูปหัวใจ เดินเข้าไปกอดสุนัขและแมวจรจัดซึ่งกำลังจับกลุ่มรอร่วมงานในวันนี้


การจะมอบความรักให้สัตว์นับร้อยอย่างเท่าเทียมทีละตัว จำเป็นต้องใช้เวลาอย่างมาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เป็นเหตุผลที่ต้องกำหนดให้งานเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย


“เหล่าหนอนผู้ภักดีและลุงวัวมาถึงแล้วสินะ”


เนี๊ยวมงลูบหลังหนอนทะเลทรายยักษ์ที่ผงาดขึ้นจากดินจนทำให้ทหารตกใจ ตามด้วยการถอดหมวกปีกกว้างของตน นำไปสวมบนศีรษะของมิโนทอร์


“ฮะฮะฮะ แค่นี้เจ้าก็กลายเป็นสุภาพบุรุษแล้ว”


ฟุดฟิด! ฟุดฟิด!


ดวงตาของมิโนทอร์กลายเป็นสีแดงก่ำขณะพ่นลมหายใจฟึดฟัด คล้ายกับกำลังมีความสุข


ขณะเหล่าอัศวินพากันยืนทึ่งเนื่องจากปรับตัวไม่ทัน เนี๊ยวมงหันไปถาม


“เตรียมถนนเสร็จหรือยัง”


“ขอรับ! พวกเราได้วางทหารไว้ตามแนว เพื่อมิให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ!”


“การเตรียมอาหารกับของว่างไปถึงไหนแล้ว”


“เสร็จแล้วเช่นกันครับ! ถนนเต็มไปด้วยอาหารที่สุนัขและแมวสามารถกินได้ทุกที่ทุกเวลา!”


“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนัก แล้วก็ ช่วยเฝ้าระวังพวกสัตว์ให้ดี… เราจะให้ประชาชนและสัตว์ได้รับอันตรายไม่ได้”


“ขอรับ! ไว้เป็นหน้าที่พวกเราเอง! ทุกสิ่งจะราบรื่นภายใต้นามแห่งท่านเนี๊ยวมง!”


ด้วยความสัตย์จริง เหล่าอัศวินและทหารของเรย์ดันเคยงุนงงเป็นอย่างหนัก


เนี๊ยวมงถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนทันทีที่เซ็ดนอสได้รับตำแหน่งเจ้าเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยทำงานในตำแหน่งอื่นมาก่อน ไม่ว่าจะด้านข้าราชการหรือกองทัพ เนี๊ยวมงเป็นแค่ผู้เล่นที่รักสัตว์อย่างหาที่สุดมิได้ มักมอบความรักให้แก่แมวจรจัดซึ่งเป็นภัยคุกคามของพ่อค้า รวมถึงหมาจรจัดที่ชอบไล่ขู่เด็กเล็กจนฉี่ราด


พวกเขาได้แต่สงสัยว่า การให้คนแบบนี้มาทำงานในตำแหน่งใหญ่ ถือเป็นเรื่องที่ดีแน่แล้วหรือ เป็นหนแรกที่ทุกคนเคลือบแคลงการตัดสินใจของมหาเสนาบดีลอเอล


ทว่า เรย์ดันกลับพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด แมวจรจัดช่วยพ่อค้าขนส่งปลา ส่วนหมาจรจัดช่วยปกป้องเด็กเล็กจากมอนสเตอร์ดุร้าย


หนอนยักษ์ที่เคยไล่ต้อนกองทหารจนหมดทางสู้ ยามนี้กลับจงรักภักดีและคอยเป็นปราการด่านแรกในทะเลทราย ช่วยให้พ่อค้าเดินทางมาค้าขายได้อย่างปลอดภัยและอิสระมากขึ้น


สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือเทศกาลเนี๊ยวมงซึ่งจัดขึ้นปีละสองหน งานนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลามจนทำให้เศรษฐกิจของเรย์ดันขยายตัว


ครั้งแรกจัดขึ้นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ครั้งที่สองในช่วงฤดูใบไม้ร่วง


‘เมืองเรย์ดันได้บุคคลที่ยิ่งใหญ่มาบริหารไม่ขาดช่วง!’


เรย์ดันถูกขนานให้เป็นเมืองหลวงรองแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ชาวเรย์ดันจึงภาคภูมิใจในเมืองเกิดของตนเป็นอย่างมาก


และเมื่อพิจารณาว่า เมืองเรย์ดันเคยถูกบริหารด้วยบุคคลที่ยอดเยี่ยม ไล่เรียงจากกริด คริส เซ็ดนอส จนมาถึงเนี๊ยวมง ชาวเรย์ดันก็ยิ่งภาคภูมิใจยิ่งกว่าเดิม


เหล่าอัศวินและทหารที่กำลังกระตือรือร้น เริ่มกระจายตัวออกไปยังเขตรับผิดชอบ ส่วนเนี๊ยวมงคอยรับหน้าที่ควบคุมขบวนสัตว์จนกระทั่งจบงานเทศกาล


“เอาล่ะเด็ก ๆ ถึงเวลาออกเดินแล้ว”


เนี๊ยวมงต้องการให้โลกรับรู้ว่า เด็ก ๆ ที่น่ารักเหล่านี้สง่างามมากเพียงใด มันปรารถนาให้คนทั่วโลกรักและเอ็นดูสัตว์เหมือนกับตน


หลังจากแปรงขนสุนัขและแมวเสร็จ เนี๊ยวมงเปิดประตูปราสาทเจ้าเมือง


“หลีกทา— อั่ก!”


ตุ้บ!


เพียงพริบตา ทหารยามนอกปราสาทกระอักเลือดและล้มลง


‘ผู้บุกรุก?’


เราประมาทเกินไป…


ผู้บุกรุกฉวยโอกาสที่อัศวินกระจายตัวไปตามจุด บุกเข้ามาในปราสาท


ขณะเนี๊ยวมงกำลังมีสีหน้าดำมืด บุคคลแปลกหน้าได้แสดงตัว


“ไม่เห็นยูร่าที่นี่… หมายความว่า ความสงบสุขอันยาวนานทำให้พวกแกขาดความระวังสินะ”


เนี๊ยวมงกลืนน้ำลายถาม


“แกเป็นใคร?”


ผู้บุกรุกตอบ


“ตัวแทนของคนหมู่มากที่จะดึงคนกลุ่มน้อยอย่างพวกแกให้ต่ำลง พวกเราคือนักปฏิวัติ”


“ผู้ก่อการร้ายต่างหาก”


“…ได้ยินว่าหนอนยักษ์และมิโนทอร์เองก็เข้าร่วมสวนสนามด้วยไม่ใช่หรือ? ไม่เรียกมาปกป้องเจ้านายสักหน่อยล่ะ?”


ฮาลล์กระโดดขึ้นพร้อมกับเล็งถีบใส่หน้าเนี๊ยวมง แผนของมันคือการเปิดฉากด้วยท่าถีบ จากนั้นก็หมุนตัวเตะซ้ำเข้าที่ท้อง


ทว่า เนี๊ยวมงกลับหลบท่าแรกได้ ทั้งที่หลายคนเข้าใจว่าเนี๊ยวมงต่อสู้ไม่เก่ง


ฉากตรงหน้าเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก


‘ไม่ได้คล่องตัว… แต่ปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อครู่มันอะไรกัน’


เนี๊ยวมงจ้องฮาลล์ที่กำลังฉงน


“ฉันเป็นทาสของแมวสิบสามตัว คิดว่าการลอบโจมตีทีเผลออ่อนหัด จะเทียบได้กับการจู่โจมอันว่องไวของเหล่าเจ้านายหรือ?”


“พล่ามไร้สาระอยู่ได้! ถึงจะตายช้าลงอีกนิด แต่แกก็ต้องตายอยู่ดี”


ฮาลล์ปลดปล่อยบรรยากาศคุกคาม


นี่คือแรงกดดันของอาชูร่า คลาสระดับสามที่มีผู้เล่นเพียงสามคนบนโลกเข้าถึงนับตั้งแต่เรกัส และยังเป็นคลาสที่ต้องพึ่งพาฝีมือควบคุมเป็นลำดับต้น ๆ ของเกม


“ล…หลบไป!”


เนี๊ยวมงที่กำลังผงะ รีบโปรยอาหารเพื่อให้สุนัขและแมวกระจายตัวออกไปไกล


“หมัดอสนีบาต”


กำปั้นของฮาลล์ยิงตรงมาด้านหน้าในลักษณะคล้ายลำแสง ทะลวงหน้าอกเนี๊ยวมงอย่างแม่นยำ


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,749
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00