จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,313
ในทักษะที่ต่างกัน มานาจะถูกใช้งานแตกต่างกัน
กระแสมานาสามารถไหลเวียนได้หลายทิศทาง เปลี่ยนไปตามแต่ละชนิดของทักษะ และเมื่อแก่นมานาตอบสนอง เวทมนตร์ดังกล่าวก็จะสมบูรณ์
แต่ในวงจรมานาของกริดมีปราณต่อสู้ไหลเวียนอย่างเข้มข้น แถมยังเหนียวหนืดราวกับน้ำมันดิบ ส่งผลให้กระแสมานาไหลเวียนได้ไม่สะดวก
ปัญหามิได้อยู่ที่การจับคู่ระหว่างมานาและปราณต่อสู้ แต่เกิดจากการที่ปราณต่อสู้ในตัวกริดได้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับปราณดาบ เหตุการณ์ในทำนองเดียวกันสามารถเกิดขึ้นกับปราณดาบได้ หากปราณต่อสู้เปลี่ยนไปกลมกลืนกับมานาแทน
‘…มีใครบางคนทำให้เป็นแบบนี้’
ใครเป็นคนปรับเปลี่ยนวงจรพลังในตัวกริด?
ในฐานะจอมเวท บราฮัมย่อมไม่ยินดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดเทเลพอร์ตไปซัดหน้าใครสุ่มสี่สุ่มห้า
บราฮัมตระหนักว่าศักยภาพของกริดสูงขึ้นมากจากความผิดปรกตินี้ ดังนั้น ถึงอีกฝ่ายจะเป็นศัตรูกับบราฮัม แต่ขณะเดียวกันก็เป็นผู้มีพระคุณของกริด
‘…คงไม่ใช่อาจารย์ธรรมดาแน่’
บราฮัมมิอาจคาดเดาตัวตนอีกฝ่ายได้เลย ทั้งที่มันมีความรู้กว้างขวางระดับมหาสมุทร
อย่างไรก็ตาม การถามกริดโดยตรงมีแต่จะทำให้มันเสียศักดิ์ศรี ท้ายที่สุด บราฮัมจำใจยอมปล่อยผ่านโดยปลอบใจตัวเองว่าโลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่
“เลือกได้ดี”
บราฮัมที่เจ็บใจเล็กน้อย หันไปจ้องกริด
ทันใดนั้น ดวงตาของมันพลันส่องประกาย เนื่องจากหนังสือเวทมนตร์เล่มที่กริดเลือกนับว่าค่อนข้างน่าสนใจ
ขณะเดียวกัน สีหน้ากริดพลันบูดบึ้ง
“เลือกได้ดี? นายไม่ได้กำลังประชดใช่ไหม?”
<เป้าลวง> เวทกึ่งลวงตาที่จะสร้างนกมานาออกมาตบตาศัตรู
ผลลัพธ์ดังกล่าวย่อมขัดใจกริด ผู้ปรารถนาเวทมนตร์ทำลายล้าง หรือไม่ก็เวทมนตร์เสริมแกร่งอาวุธซึ่งจะช่วยดึงประสิทธิภาพสูงสุดของไอเท็มมากกว่า
‘อยากได้เวทอุกกาบาตมากกว่า…’
ชายหนุ่มมีธงในใจแต่แรกแล้ว
กริดปรารถนาเวทอุกกาบาตนับตั้งแต่เริ่มออกแบบ ‘ผิดพลาด’ จึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะผิดหวัง
บราฮัมตั้งคำถาม
“นายขาดพลังทำลายหรือ?”
“…ก็ไม่คิดว่าขาด”
“แล้วขาดพลังป้องกัน?”
“…ก็ไม่”
บราฮัมพยักหน้าเมื่อเห็นกริดตอบอย่างซื่อตรง
“ก็ตามนั้น สิ่งที่นายขาดคือประสบการณ์ เวทเป้าลวงจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ที่นายขาด”
“เป้าลวงเนี่ยนะ?”
กริดจับความเชื่อมโยงไม่ได้เลย
ชายหนุ่มเคยใช้เป้าลวงมาก่อน สมัยยังมีคลาสรองเป็นมหาจอมเวทในตำนาน
เป้าลวงคือหนึ่งในเวทมนตร์พื้นฐานที่กริดได้รับมาขณะเพิ่มค่าสติปัญญาชั่วคราว
การใช้งานในตอนนั้นนับว่ามีประโยชน์ เพราะช่วยให้ศัตรูสับสนจนเกิดช่องว่าง
แต่ศัตรูของกริดในอนาคตล้วนเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทรงพลังและชำนาญศึก เช่นบราฮัมเป็นต้น
ลูกไม้ตื้นเขินเช่นนี้จะใช้ได้ผลกับพวกเขาจริงหรือ?
บราฮัมชี้ปลายไม้เท้าไปทางกริดที่เผยสีหน้าเคลือบแคลง
“ลองใช้ชุนโปและโจมตีเข้ามา”
“อา…”
กริดใช้ชุนโป
[ชุนโปแสดงผลล้มเหลว]
“ชิ…”
“….”
เมื่อไม่ได้เปิดมายาเพื่อการันตี ชายหนุ่มล้มเหลวอีกหลายครั้งอย่างน่าอับอาย
กริดลองทำจนกระทั่งสำเร็จ แต่ในวินาทีดังกล่าว บราฮัมกลับเทเลพอร์ตหนีอย่างง่ายดาย
ผลการดวลเป็นเช่นนี้ไปอีกพักใหญ่ หรือกล่าวได้ว่า รูปแบบการต่อสู้ของเหนือมนุษย์ที่เน้นเข้าทำโดยใช้ชุนโปย่นระยะ ถูกบราฮัมผนึกอย่างสมบูรณ์
‘ทำไมเทเลพอร์ตถึงใช้งานได้เร็วกว่าบลิ้ง? แบบนี้มันสมเหตุสมผลแล้วหรือ?’
โดยทั่วไป เวทมนตร์ที่จอมเวทใช้เปลี่ยนตำแหน่งระหว่างต่อสู้คือ ‘บลิ้ง’ มิใช่ ‘เทเลพอร์ต’
บลิ้งจะทำให้ผู้ร่ายสุ่มเปลี่ยนตำแหน่งในระยะทางสั้น ๆ แถมเวลาร่ายยังแค่หนึ่งวินาที แตกต่างจากเทเลพอร์ตที่ใช้เวลาร่ายนานมาก
ข้อเสียของบลิ้งคือระยะทางที่สั้นและไม่สามารถกำหนดปลายทางได้ แต่นั่นก็มากพอจะทำให้จอมเวทที่ชำนาญบางคน สามารถดวลกับอัศวินในระยะประชิดอย่างสูสี
บลิ้งเป็นเวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งการหลบหนีและเข้าจู่โจม
แต่บราฮัมแตกต่างจากจอมเวทเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง
แทนที่จะเสียร่ายหนึ่งวินาที เทเลพอร์ตของบราฮัมสามารถแสดงผลทันทีแถมยังเลือกปลายทางได้ตามใจชอบ
แล้วแบบนี้ใครมันจะไล่ทัน?
บราฮัมเป็นตัวละครสุดโกงอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะกริดมองไปรอบตัว มันจับสัมผัสได้ว่าบราฮัมกำลังอยู่ด้านหลัง
‘เสร็จฉัน!’
ฝีมือกริดพัฒนาขึ้นระหว่างการดวล?
แตกต่างจากการดวลคราวก่อน ในที่สุดกริดก็จับตำแหน่งบราฮัมสำเร็จ และตอบสนองได้ทันท่วงทีด้วยใบหน้าเปี่ยมความสุข
แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่ชายหนุ่มจับได้มิใช่บราฮัม หากแต่เป็นมวลพลังเวทมนตร์ก้อนหนึ่ง
นกที่ถูกอัญเชิญจากเวท ‘เป้าลวง’
“…?”
กระทั่งสัมผัสของเหนือมนุษย์ก็ยังถูกหลอก?
กริดทำหน้าตกใจราวกับเห็นผี ก่อนที่บราฮัมจะปรากฏตัว
“ฉันเข้าใจดีว่าทำไมนายถึงเคลือบแคลงในเป้าลวง มันไม่ใช่เวทระดับสูงก็จริง แต่ผลลัพธ์นั้นยอดเยี่ยมพอ ๆ กับทักษะสร้างร่างปลอม”
สิ่งที่บราฮัมพูดนั้นไม่ผิด
กริดเองก็มีพลังสร้างร่างปลอมจากอักขระจอมอสูร
เพียงแต่ว่า ทุกครั้งที่ชายหนุ่มสร้างร่างปลอม ศัตรูที่แข็งแกร่งจะค้นพบร่างหลักได้อย่างรวดเร็ว
เช่นนั้นแล้ว จะไม่แย่ยิ่งกว่าเดิมหรอกหรือ กับเวทเป้าลวงที่เป็นเพียงกลุ่มก้อนพลังเวท?
กริดประเมินว่าเวทเป้าลวงคงทำอะไรได้ไม่มากนัก แตกต่างจากร่างปลอมที่อย่างน้อยก็ยังหลอกตาศัตรูได้ครู่หนึ่ง
แต่ในความเป็นจริง เฉกเช่นเวทเทเลพอร์ตของบราฮัม เวทเป้าลวงของบราฮัมนั้นไม่ธรรมดา
“ข้อดีของเป้าลวงก็คือ มันเป็นเวทมนตร์เกรดต่ำ”
บราฮัมเริ่มปลดปล่อยกระแสเวทมนตร์จำนวนหนึ่ง ละอองพลังก่อตัวเป็นรูปร่างนก
สีแดงเหมือนเลือด ตัวใหญ่และดุร้ายเหมือนพญาอินทรี
“เวทมนตร์ชนิดนี้จะสืบทอดคุณลักษณะมานามาจากผู้ร่าย”
“อ๊ะ!”
กริดเข้าใจได้ทันที ว่าเหตุใดสัมผัสเหนือมนุษย์ของตนจึงถูกตบตา
เวทเป้าลวงอาจไม่สามารถตบตาศัตรูในเชิงรูปลักษณ์ได้เหมือนร่างแยก แต่มันสามารถหลอกประสาทสัมผัสได้อย่างแนบเนียน
แน่นอน กริดกำลังหมายถึงเวทเป้าลวงของบราฮัม มิใช่เวทเป้าลวงธรรมดา
ขณะชายหนุ่มเริ่มตื่นเต้นเพราะอยากลองของใหม่ บราฮัมฉีกยิ้มกว้าง ผายมือออก ท่าทางคล้ายกับอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่สักคนกำลังเผยแผ่ลัทธิ
“จงหลอมรวม”
ทันใดนั้น
[ท่านเรียนเวทมนตร์ เป้าลวง (ยกระดับ) ]
<เป้าลวง (ยกระดับ) > Lv.1
แบ่งมานาเพื่ออัญเชิญนกหนึ่งตัว
นกจะเคลื่อนที่ได้ไม่เกินห้าเมตรรอบตัวผู้ร่ายและคงอยู่นานสิบวินาที
ระยะการอัญเชิญ : 1 เมตร
ระยะหน่วง : 3 นาที
มานา : 1,000
‘มายา’
เพื่อให้ไม่ต้องวัดกับความล้มเหลว กริดตัดสินใจเปิด ‘มายา’ เป็นลำดับแรก ก่อนจะตามต่อด้วยชุนโปและเวทเป้าลวง
ชายหนุ่มเลือกชุนโปไปด้านข้างบราฮัม และสร้างนกเป้าลวงขึ้นด้านหลังบราฮัม
นกที่กริดอัญเชิญมีสีดำสนิทราวกับอีกา
บราฮัมพยักหน้า
“ไม่เลว หากใช้งานในลักษณะนี้ เป้าหมายจะใช้ประสาทสัมผัสคาดเดาตำแหน่งของนายได้ยาก”
ทว่า
“แต่สำหรับฉัน… แค่เผาทั้งหมดไปพร้อมกันก็สิ้นเรื่อง”
“อ๊ากกกกก!”
***
“เป็นตาแก่ที่เอาแต่ใจชะมัด…”
ยังเหลือเวลาอีกพักใหญ่ กว่าระยะหน่วงของประกันชีวิตอมตะจะวนกลับมาถึง
กริดที่ไม่คาดคิดว่าตนจะถูกโจมตี บ่นอุบอิบอย่างหัวเสีย
“นายผิดเองที่ประมาท… ช่างเถอะ แค่รู้ไว้ก็พอว่า เวทเป้าลวงสามารถใช้งานได้อย่างไร้ขอบเขต จงอุทิศเวลาให้กับการคิดค้นหาเทคนิคใหม่สำหรับเพิ่มความหลากหลาย”
“อา…”
คนอย่างนายไม่มีสิทธิ์เตือนใครว่าห้ามประมาท…
กริดส่ายหน้าเมื่อหวนนึกถึงอดีตของบราฮัม
อดีตที่เคยถูกเพื่อนรักแทงข้างหลัง
ทันใดนั้น ห้องแห่งความรู้พลันพังครืนและอันตรธานหาย
เมอร์เซเดสทักทายกริดและบราฮัมในวินาทีที่พวกเขากลับมายังโลกจริง
“ฝ่าบาททำได้ดีมากค่ะ”
“ขอบใจ”
กริดตอบสนองโดยไม่คิดอะไร
‘…เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาทำได้ดี?’
บราฮัมพลันบังเกิดความอึดอัด
แม้จะมีความรู้กว้างขวางและเข้าใจความลับของโลกอย่างถ่องแท้ แต่ดยุคแห่งปัญญาอย่างบราฮัม กลับรู้สึกกระอักกระอ่วนทุกครั้งที่เมอร์เซเดสอยู่ใกล้ ๆ
มันคาดเดาศักยภาพของหญิงสาวผู้นี้ไม่ถูก เพราะมิอาจวัดความลึกของดวงตาที่เงียบงันคู่นั้นได้
“เฮ่อะ”
ขณะบราฮัมพ่นลมหายใจและหมุนตัวกลับด้วยสีหน้าอึดอัด
“?”
มันพลันชะงักเนื่องจากสัมผัสได้ว่า มีอีกหนึ่งตัวตนระดับปาฏิหาริย์กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้
“ฝ่าบาท ขอรายงานปัญหา”
เพียงพริบตา เฟคเกอร์ปรากฏตัวจากเงามืด
กริดถึงกับผงะ เนื่องจากประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์เพิ่งตรวจพบเมื่อเฟคเกอร์อยู่ใกล้มากแล้ว
“หลังจากกลายเป็นลันเทียร์ นายยิ่งสุดยอดขึ้นไปอีก…”
กริดชื่นชมจากใจ
สิ่งมีชีวิตที่สามารถลบการดำรงอยู่ของตนออกจากโลก
ชายหนุ่มเคยสัมผัสความยอดเยี่ยมของวิชาอำพรางจากลันเทียร์ร่างอัศวินความตาย และตระหนักว่าสิ่งนั้นอยู่คนละมิติกับวิชาพรางตัวใด ๆ บนโลก
กริดคิดไม่ถึงว่าเฟคเกอร์จะทำความเคยชินกับพลังได้เร็วขนาดนี้
‘ผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเปลี่ยนคลาส แต่เขามาถึงระดับนี้แล้ว…’
จะพัฒนาไปได้ไกลขนาดไหนกัน?
ขณะกริดกลืนน้ำลาย เฟคเกอร์เข้าประเด็น
“มีรายงานว่า รอสไชลด์เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว พวกมันจะลงมือทำในหลายสิ่งเพื่อขัดแข้งขัดขาเรา”
“ทำไมต้องขัดแข้งขัดขาเรา?”
ประธานลีจินเมียงเคยกล่าวไว้ว่า กลุ่มทุนระดับโลกต่างทุ่มเม็ดเงินจำนวนมหาศาลกับซาทิสฟายมานานแล้ว และรอสไชลด์ก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกมันเริ่มลงทุนตั้งแต่เกมซาทิสฟายเปิดตัว วิสัยทัศน์นับว่าไม่เป็นสองรองใคร
เพียงแต่กริดเคยได้ยินว่า กลุ่มรอสไชลด์ปรารถนาความมั่งคั่ง
หากเป็นเช่นนั้นจริง พวกมันสามารถเข้ามาเจรจาธุรกิจกับกิลด์โอเวอร์เกียร์ได้อย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุจำเป็นต้องเริ่มทำตัวเป็นศัตรู
“ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด”
ขณะกริดกำลังฉงน เฟคเกอร์เริ่มเล่าเหตุการณ์ในเรย์ดัน
ชายหนุ่มตั้งใจฟังสักพัก จึงค่อยผงกศีรษะ
“…ยังไม่มีสิ่งใดยืนยันคำพูดของกลุ่มปฏิวัติใช่ไหม?”
แม้พวกมันจะอ้างว่ามีรอสไชลด์คอยสนับสนุน แต่ความจริงคือสิ่งใด?
“อย่าเพิ่งตามล่า ปล่อยให้กลุ่มปฏิวัติเคลื่อนไหวอย่างอิสระไปก่อน พวกเราแค่คอยจับตามอง”
เป็นการตัดสินใจของกริดเวอร์ชันฉลาด
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้ความโกรธส่วนตัวครอบงำภาพรวมขององค์กร
เฟคเกอร์พยักหน้าพร้อมกับเลือนหายไปในเงามืด
เพียงพริบตา กริดจับตำแหน่งของอีกฝ่ายไม่ได้ทั้งที่ห่างกันไม่ถึงสิบเมตร
หลังจากเฝ้ามองอย่างเงียบงันมาสักพัก บราฮัมหัวเราะแห้งในลำคอ
“มีแต่พวกบ้าเต็มไปหมด”
ย้อนกลับไปในตอนแรกที่บราฮัมคืนชีพ สมาชิกแต่ละคนยังไม่สุดโต่งเท่านี้
อย่างมากก็มีชาวนาเสียสติคนเดียวที่นับว่า ‘ทรงพลัง’ ภายในอาณาจักร
แต่ปัจจุบัน…
“หือ?”
“ไม่มีอะไร แค่คุยกับตัวเอง”
บราฮัมส่ายหน้าและเดินจากไป
มันกำลังยิ้ม ในใจนึกชื่นชมกริดที่สามารถรวบรวมตำนานมาไว้ใกล้ตัวได้มากมาย
เป็นความสำเร็จที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
ไม่สิ ไม่เคยมีใครคิดจะลองมากกว่า
“ไปกันเถอะ”
กริดหันไปกล่าวกับเมอร์เซเดส
ถัดจากนี้จะมีพิธีสำเร็จการศึกษาครั้งแรกของโรงเรียนหลวงโอเวอร์เกียร์
ชายหนุ่มเตรียมเดินทางไปให้กำลังใจเหล่าอัจฉริยะมากพรสวรรค์ด้วยตัวเอง จากนั้นก็พบสติกส์ และปิดท้ายด้วยการเดินทางไปยังเกาะคอร์ก
ท้องฟ้ายามค่ำคืนกำลังส่องแสงพราวพราย
คล้ายกับช่วยมอบแสงสว่างให้กับเส้นทางในวันข้างหน้าของกริด
เรกัสจัมี3 หน้า 6 แขนมั้ยนิ
ReplyDelete