จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,307



ตึกตัก!


‘ไอรีน!’


ตึกตัก!


‘ไอรีน! ไอรีน! ไอรีน!’


ขณะวิ่งไปตามทางเดินวังหลวง หัวใจกริดแทบระเบิดออก ภาพของไอรีนในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ผุดขึ้นภายในใจ เพียงจินตนาการภาพใบหน้าอันเปี่ยมความสุขหลังจากที่เธอได้รับความเยาว์วัยกลับคืนมา น้ำตาก็เริ่มคลอเบ้าชายหนุ่ม


“ที่รัก!”


มันลงทุนแม้กระทั่งใช้ชุนโปเพื่อให้เห็นใบหน้าอันยิ้มแย้มของหล่อนได้เร็วขึ้น


กริดที่กลับถึงวังโดยไม่ได้แจ้งข่าวให้ใครทราบแม้แต่อัศวินคู่ใจ บรรจงเปิดประตูห้องนอนไอรีน


“ที่รัก…?”


ชายหนุ่มพลันสับสน


ไอรีนนั่งอยู่หน้ากระจกพลางก้มศีรษะต่ำ คล้ายกำลังร้องไห้


“ฝ…ฝ่าบาท? กลับมาแล้วหรือคะ?”


ไอรีนที่เพิ่งทราบว่ากริดกลับมาถึง รีบลุกจากเก้าอี้อย่างลุกลี้ลุกลน เส้นผมสีเงินปกปิดใบหน้าเรียวเล็กไว้อย่างมิดชิด


กริดขมวดคิ้วฉงน


“เธอกำลังร้องไห้? เกิดอะไรขึ้น?”


แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ไอรีนก็ไม่ยอมเงยหน้า กริดเดินเข้าไปใกล้ด้วยสายตาเป็นกังวล


ทว่า ไอรีนไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัว


“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงไม่ยอมให้ฉันเห็นหน้า?”


หรือว่า… มีบางอย่างผิดพลาด?


กริดเริ่มจินตนาการในแง่ร้าย


“ฉ…ฉัน”


ไอรีนเปล่งเสียงสั่นเครือ


หญิงสาวเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นความอ่อนเยาว์เมื่อครั้งแรกพบกริด


รอยย่นเล็ก ๆ รอบขอบตาและมุมปากเลือนหายไป ผิวหนังที่เคยหยาบกร้านขึ้นเล็กน้อยกลับไปเต่งตึงราวกับเด็กสาว มีเพียงดวงตาอันลุ่มลึกที่ถูกหล่อหลอมด้วยกาลเวลา ยังคงแฝงความสง่างามและอบอุ่นอยู่เช่นเคย


โชคดีที่ไม่เกิดปัญหาขึ้น…


ตรงกันข้าม สิ่งนี้ตรงตามความต้องการของกริดทุกประการ ชายหนุ่มตื่นเต้นอย่างมากที่ได้เห็นภรรยาตนเด็กลงนับสิบปี


เสียงอันสั่นเครือของไอรีนทะลุทะลวงโสตประสาทกริด


“ใบหน้าของดิฉันกลายเป็นแบบนี้เพียงชั่วข้ามคืน… ฉ…ฉันเป็นสัตว์ประหลาดรึเปล่า?”


“…!!”


กริดเริ่มพบสาเหตุที่ไอรีนหวาดผวา


ท่าทีตอบสนองอันเหนือความคาดหมายของอีกฝ่าย ทำให้กริดตัดสินใจโผเข้ากอดแนบแน่น


“เธอไม่ใช่สัตว์ประหลาดหรือตัวประหลาด… การย้อนวัยคือพรจากสวรรค์ที่น่ายินดี เหตุใดถึงต้องกังวลมากเพียงนี้?”


“…ฝ่าบาททราบหรือ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับดิฉัน?”


“เรื่องนั้น…”


กริดเริ่มอธิบาย


ไล่จากหลักการของสิ่งที่เรียกว่าค่าบารมีเทพ ไปจนถึงแผนการสร้างค่าบารมีเทพให้กับไอรีนบนทวีปตะวันออก น้ำเสียงขณะเล่าเป็นไปอย่างภาคภูมิใจ


ไอรีนที่นั่งฟังเริ่มมีสีหน้าดำมืดทีละนิด อารมณ์มากมายกำลังคุกรุ่นในดวงตาอันลุ่มลึก


“ที่รัก?”


กริดที่หวังให้ไอรีนยิ้มแย้มแจ่มใสและมีความสุข พลันกระวนกระวายเมื่อผลลัพธ์ออกมาตรงข้าม


ริมฝีปากซึ่งปิดแน่นมาสักพัก เริ่มเผยออกเล็กน้อย


“ทำไมถึง… ทำเรื่องทั้งหมดโดยที่ไม่ปรึกษาดิฉันก่อน…?”


“ฉันต้องการเซอไพรส์เธอ อยากให้เธอมีความสุขเป็นสองเท่า”


“ได้โปรดออกไปก่อน”


“หือ…?”


“ดิฉันอยากอยู่คนเดียว”


“ท…ที่รัก?”


ไอรีนไม่เคยฝึกฝนร่างกายเป็นพิเศษ ดังนั้น ถึงจะได้รับบารมีเทพ แต่พละกำลังก็เหนือกว่ามนุษย์ปรกติเพียงเล็กน้อย


อย่างไรก็ตาม กริดกลับมิอาจต่อต้านแรงผลักจากมือฝ่าเล็ก ๆ ของหล่น ชายหนุ่มถูกดันออกนอกห้องอย่างกะทันหันและทำได้เพียงยืนจ้องบานประตูที่ปิดสนิท


“น…นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”


***


“เกิดอะไรขึ้นกับคนสองคนที่รักกันขนาดนั้น…?”


“องค์ราชินีน่าจะไม่พอพระทัยที่ฝ่าบาทออกไปทรงงานข้างนอกบ่อย”


ข่าวลือเกี่ยวกับความระหองระแหงระหว่างกริดและไอรีน เริ่มแพร่ไปทั่ววังหลวง


สามวันหลังจากกริดกลับมา ไอรีนไม่ออกจากห้อง และงดรับประทานอาหารร่วมโต๊ะ


จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนจะสันนิษฐานว่า คนทั้งสองมีปัญหาระหว่างกัน


“ฝ่าบาท”


“…”


“ฝ่าบาท!”


“หือ… อา… ว่าไง”


ประหนึ่งหุ่นกระบอกไม้ไร้วิญญาณ กริดเอียงคอขณะกำลังกินข้าว


มันได้พบกับลอเอลที่กำลังยืนจ้อง


“นายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร?”


“กระหม่อมยืนข้างฝ่าบาทได้สักพักแล้ว คิดจะทำตัวไร้วิญญาณไปถึงเมื่อไร?”


กริดคือชายผู้ไม่เคยปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างสูญเปล่า


ในทุกวัน มันจะทำงานอย่างหนัก หากไม่เก็บเลเวลก็ตีเหล็ก จากนั้นก็จะกลับวังเพื่อทำหน้าที่ของกษัตริย์พลางฟื้นฟูค่าเรี่ยวแรง แทบไม่เคยจัดมื้ออาหารใหญ่โตให้สมฐานะ นอกเสียจากจะเป็นการกินพร้อมหน้าไอรีนและลอร์ด


แต่ชายคนดังกล่าวกลับเอาแต่ทำตัวไร้ประโยชน์ถึงสามวันเต็ม


ไม่เพียงจะหลงลืมการตีเหล็กหรือเก็บเลเวล แม้กระทั่งการผลิตกางเกงในที่เคยทำจนเป็นความเคยชิน ก็ยังไม่มีให้เห็นเลยสักครั้ง


“มันน่าสมเพชเมื่อคนที่เคยมองว่าเวลาเป็นเงินเป็นทอง กำลังเผาผลาญเวลาเสียเอง แม้แต่องค์ชายลอร์ดก็ไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนเพราะเป็นห่วงฝ่าบาท”


“แล้วไอรีนล่ะ? ไอรีนเป็นห่วงฉันไหม?”


“มิอาจทราบได้ เธอไม่ยอมให้ใครเข้าเฝ้า… ก็คงเป็นห่วงกระมัง”


“เฮ่อ…”


“เลิกถอนหายใจได้แล้ว ประชาชนกำลังสับสน”


“ทำไมกัน… เพราะอะไรไอรีนถึงโกรธ…”


ปัจจุบัน ลอเอลคือผู้บริหารคนสำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ในฐานะอัจฉริยะระดับโลก กริดคาดหวังให้ลอเอลช่วยวิเคราะห์ปัญหาและมอบแนวทางการแก้ไข แต่หารู้ไม่ว่า ลอเอลอ่านออกทุกสิ่งยกเว้นหัวใจสตรี แม้จะมีมันสมองระดับอัจฉริยะและใบหน้าอันหล่อเหลา แต่ความทุ่มเททั้งหมดของมันจมอยู่กับซาทิสฟายเพียงสิ่งเดียว ไม่เหลือเวลาให้ศึกษาหัวใจหญิงสาว


อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้เขียนหนังสือ ‘กลยุทธ์มัดใจ NPC สาว’ ลอเอลมั่นใจฝีมือตัวเองมาก


“เหตุผลที่เธอโกรธ… ไม่ซับซ้อนเลยสักนิด”


แม้จะไม่เคยมีคนรัก แต่ไม่มีสิ่งใดในโลกที่มันมองไม่ออก


ลอเอลเริ่มวิเคราะห์สภาพจิตใจไอรีน


“กระหม่อมได้ยินมาว่า ฝ่าบาทอยู่ในร่างราชินีไอรีนตลอดเวลาเลยใช่ไหม? ลองคิดกลับในมุมมองของหล่อน ฝ่าบาทจะมีความสุขได้อย่างไร หากถูกชาวทวีปตะวันออกจดจำในฐานะสตรีป่าเถื่อนและชอบใช้ความรุนแรง? อา… ใช่แล้ว ฝ่าบาทกำลังทำให้ภาพจำของสตรีผู้มีงานอดิเรกเป็นดอกไม้และบทกวีต้องแปดเปื้อน… เฮ่อ…”


“อย่างนี้นี่เอง!”


กริดที่เข้าใจแจ่มแจ้ง รีบลุกจากเก้าอี้


ชายหนุ่มไม่แยแสคำสั่งที่ห้ามเข้าใกล้ห้องบรรทมราชินี


มันเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับสวมหน้ากากหนังเฟย์ริส


“ฉันจะกลับทวีปตะวันออก! กลับไปทำให้พวกมันเชื่อว่าเธอสง่างามและรักดอกไม้…”


กริดที่กำลังตื่นเต้น พลันตัวแข็งทื่อโดยมิอาจฝืนกล่าวจบประโยค


สายตาอันเย็นชาของไอรีนทำให้มันตระหนักได้ว่า ตนกำลังแก้ไขผิดประเด็น


***


“เฮ่อ…”


ชินยองวูล็อกเอาต์ ถอนหายใจยาว


มันรู้สึกห่อเหี่ยว


ความตื่นเต้นที่จะได้แบ่งปันความสุขหลังจากไอรีนคืนความสุข แปรเปลี่ยนเป็นความเครียดและซึมเศร้า


“กินอะไรไม่ลงเลยแฮะ…”


เราทำอะไรผิด…


ยองวูไม่สนใจสัญญาณความหิวจากกระเพาะอาหาร รีบแต่งตัวและเดินไปยังลานจอดรถ


วันนี้มันมีนัดสำคัญ


ปู่ของยูร่า


ยองวูถูกเชิญไปร่วมงานวันเกิดของประธานใหญ่ ลีจินเมียง


มันไม่มีอารมณ์จะร่วมงานรื่นเริงสักเท่าไร แต่นี่เป็นสิ่งที่รับปากไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน


“ไอรีน…”


ชายหนุ่มต้องการเห็นรอยยิ้มของเธออีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ


มันโกรธที่ตัวเองไม่รู้ว่าเธอไม่พอใจเรื่องใด และมิอาจช่วยบรรเทาความรู้สึกดังกล่าวได้


“ไอรีนนนนนนนน!”


ในวินาทีที่เข้าสู่ทางด่วน ยองวูกระทืบคันเร่งจนเจ้า ‘สิบสาม’ ส่งเสียงคำรามกึกก้อง คล้ายกับกำลังตอบสนองอารมณ์ของผู้เป็นนาย


***


“ฉันได้ยินข่าวมาบ้าง… แต่นายหดหู่กว่าในข่าวลืออีกนะ”


ก่อนจะเข้างาน ยองวูนัดพบยูร่าและพากันไปเดินห้างแห่งหนึ่ง จุดประสงค์คือการเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้ประธานลีจินเมียง


“ไอรีน… ไอรีนไม่ยอมออกจากห้องบรรทม”


ตามปรกติแล้ว ยองวูจะไม่พูดถึงไอรีนต่อหน้ายูร่ามากนัก อย่างน้อยก็ไม่ต้องการทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายไปมากกว่าเดิม


แต่วันนี้เป็นกรณีพิเศษ มันกังวลเสียจนต้องเล่าเรื่องไอรีนให้ยูร่าฟัง


“ฉันพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้ไอรีนได้รับความเยาว์วัยกลับมา… ปัญหาอยู่ตรงไหน? ทำไมเธอถึงโกรธแทนที่จะยินดี?”


รสนิยมของประธานลีจินเมียงค่อนข้างเรียบง่าย ยูร่าจึงเลือกซื้อกลัดเนกไทจากยี่ห้อท้องถิ่นมากกว่าแบรนด์หรูหรา ระหว่างนั้นก็รับฟังยองวูและมอบคำตอบ


“คุณไอรีนน่าจะเตรียมใจมานานแล้ว”


“เตรียมใจ”


“เตรียมใจที่จะจากไปตามลำพัง”


“…”


“เธอคงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่หลายปี การต้องจินตนาการภาพตัวเองแก่ชราอยู่ฝ่ายเดียว มันทรมานมากนะ”


ยองวูพอจะทราบเรื่องนี้มาบ้าง


เมื่อได้เห็นตัวเองแก่ขึ้นในกระจก ไอรีนจะรู้สึกเดียวดายและหวาดกลัวเสมอ


และนั่นคือสาเหตุที่ยองวูต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ มันไม่ต้องการให้เธอรู้สึกเดียวดาย และปรารถนาให้อีกฝ่ายแก่เฒ่าไปพร้อมกัน


“คุณไอรีนคงโศกเศร้ากับเรื่องนี้มานาน แต่เธอเป็นคนเข้มแข็ง… อาจสาบานกับตัวเองอย่างหนักแน่นไว้แล้วว่า ในวันที่ต้องจากไปตามลำพัง เธอจะมอบรอยยิ้มให้นาย”


“…”


“แต่ความมุ่งนั่นและเตรียมใจจากก้นบึ้ง มีอันต้องกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์เมื่อความเยาว์วัยกลับคืนมาอีกครั้ง เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่ทันได้เตรียมใจ บางทีเธออาจกำลังสับสน… ถึงลึก ๆ แล้วจะมีความสุข แต่ก็คงรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ ความผิดพลาดเดียวของนายคงเป็นการไม่ยอมปรึกษาก่อนลงมือทำ…”


“อา…”


ในที่สุด ยองวูเริ่มเข้าใจปัญหาที่แท้จริง


มันกัดฟันกรอดเมื่อพบว่าตัวเองมีความคิดตื้นเขินเกินไป


หลังจากชอปปิ้งเสร็จ คนทั้งสองกลับมายังรถ


ขณะยองวูกำลังนั่งตำหนิตัวเองอย่างหนัก ยูร่ายื่นมือไปหา


บนฝ่ามืออันเรียวยาวและขาวเนียน มีช็อกโกแลตที่เธอเพิ่งซื้อมาเมื่อครู่


“กินไหม”


“กิน…”


ความอ่อนโยนและห่วงใย ทำให้ความกังวลของชายหนุ่มเริ่มบรรเทาลง


ยองวูรับช็อกโกแลตมาถือพลางเหลือบกระจกมองหลัง และได้เห็นรอยย่นบนหน้าผากของตน


“…!”


ขณะเดียวกัน ยูร่ากุมมืออีกข้างของยองวูแน่น ฝ่ามือของเธอทั้งอ่อนนุ่มและอบอุ่น


หญิงสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม


“อีกไม่นาน ความสับสนของไอรีนก็จะจบลง เธอจะต้องเข้าใจความหวังดีและความซื่อตรงของนายแน่ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง ดังนั้น เลิกกังวลและทำสมองให้โล่ง”


“…”


“ยิ้มเข้าไว้นะ”


“…ขอบคุณมาก”


ตั้งแต่เมื่อไรก็มิอาจทราบ


แต่ทุกครั้งที่คนทั้งสองนั่งรถไปด้วยกัน มือซ้ายของยูร่าจะต้องยื่นมากุมมือขวายองวูเสมอ


ผ่านมาหลายวัน ในที่สุดชายหนุ่มก็ยิ้มออกเป็นครั้งแรก


***


จอมปราชญ์สีชาด เฮสเตอร์


เจ้าของคลาสลับเกรดยูนีค หนึ่งในห้าผู้เล่นปาฏิหาริย์


มันไม่เคยพลาดบัลลังก์อันดับหนึ่งในทุกเกมที่เล่น และเป้าหมายในซาทิสฟายก็ยังเป็นเช่นเดิม


เฮสเตอร์หวังว่าตนจะไล่ตามกริดทันในสักวัน


“เอาล่ะ พวกเราสามารถยืนยันทฤษฎีได้แล้ว”


“แค่ก! แค่ก!”


อย่างไรก็ตาม มันพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับผู้เล่นคลาสธรรมดาสิบคนพร้อมกัน


สีหน้าของเฮสเตอร์ที่กำลังจะตาย เต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว ส่วนฝ่ายแรงเกอร์ที่ได้รับชัยชนะ ย่อมยินดีปรีดากันถ้วนหน้า


“ช่องว่างระหว่างผู้เล่นลดลงแล้ว คำพูดของประธานลิมชอลโฮพูดมิได้เกินจริง”


ค่าต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิด ไม่ใช่ทักษะติดตัวที่ไร้เทียมทานอีกต่อไป


หลักฐานยืนยันก็คือ เฮสเตอร์ซึ่งเป็นเจ้าของคลาสยูนีคที่สามารถต้านทานได้หลายอาการผิดปรกติ กำลังพ่ายแพ้และถึงแก่ความตายโดยฝีมือพวกมัน


ภายในเกมมีระบบลับที่ช่วยให้โจมตีทะลุค่าต้านทานได้อยู่ และพวกมันพิสูจน์จนมั่นใจแล้ว


“เป้าหมายต่อไป… ยูร่าก็แล้วกัน”


ไฮแรงเกอร์ต่างหัวเราะสะใจเมื่อได้เห็นเฮสเตอร์กลายเป็นละอองสีเทา


จุดประสงค์ของพวกมันไม่ซับซ้อน


ทวงคืนความยุติธรรมให้ผู้เล่นคลาสทั่วไป สั่งสอนคนโชคดีที่บังเอิญได้รับคลาสพิเศษให้รู้ว่า บัดนี้คนธรรมดากำลังกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่


“อัดวิดีโอตอนจัดการยูร่าไว้ เผยแพร่กลยุทธ์โจมตีตำนานไปทั่วโลก นั่นคืองานของเรา”


เกมคือสิ่งที่สร้างความสุข


ผู้เล่นทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎดังกล่าวเหมือนกัน จะให้ใครได้รับสิทธิพิเศษเพียงกลุ่มเดียวไม่ได้


เกมมือถือที่กลุ่มผู้เล่นเติมหนักเสพสุขอยู่ฝ่ายเดียว ก็เคยล่มสลายไปด้วยเหตุผลนี้ไม่ใช่หรือ?


“พวกเราจะนำพาซาทิสฟายไปยังที่ถูกต้อง!”


“เพื่อคนหมู่มาก!”


“เพื่อคนหมู่มาก!”

______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,749
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00