จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,309
หมัดอสนีบาตถือเป็นจุดขายของอาชูร่า
อาจเป็นเพียงท่าชกตรงธรรมดา แต่สามารถเอาชนะปฏิกิริยาของศัตรูได้ด้วยความเร็วที่เหนือกว่า
ในเมื่อเป็นท่าโจมตีที่รวดเร็ว อัตราความแม่นยำและพลังทำลายจึงสูง เหมาะแก่การเปิดคอมโบให้ศัตรูตกอยู่ในอาการช็อกไฟฟ้า
ทว่า
“…?”
เนี๊ยวมงหลบได้อย่างฉิวเฉียด
“ฟู่ว… อันตรายชะมัด”
ชุดเกราะซึ่งผลิตจากผ้าไพรูเริ่มฉีกขาด
เนี๊ยวมงที่รักษาชีวิตได้โดยการขยับตัวหนึ่งก้าวหลบหมัดอสนีบาตเต็มพลัง ถอนหายใจโล่งอก
ฮาลล์ซึ่งได้เห็นฉากตรงหน้า ส่งเสียงตะโกน
“แกนี่เกิดมาโชคดีจริง ๆ”
ลักษณะเด่นของคลาสเจ้าแห่งสัตว์ คือการล้างสมองสัตว์และใช้งานต่างแขนขา สมรรถภาพร่างกายจึงควรจะต่ำ เนื่องจากต้องนำแต้มสถานะส่วนใหญ่ไปลงกับค่าเสน่ห์และความเป็นผู้นำ
ฮาลล์เชื่อว่า เหตุผลเดียวที่เนี๊ยวมงสามารถหลบหมัดอสนีบาต หนึ่งในท่าสังหารของอาชูร่า จะต้องมาจากความโชคดีส่วนตัว
‘อัจฉริยะ’
เป็นความโชคดีระดับอัจฉริยะที่มักเกิดมาพร้อมบุคคลพรสวรรค์ระดับปีศาจ
เนี๊ยวมงที่ได้ครอบครองคลาสลับด้วยพรสวรรค์นี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอนาคตจะประสบความสำเร็จมากเพียงใด คงเฉิดฉายและแข็งแกร่งขึ้น จนสยบ ‘คนหมู่มาก’ ให้อยู่ใต้อาณัติ
“แกคือมะเร็งร้ายของเกม”
มนตร์ดำเริ่มก่อตัวรอบดวงตาที่อาฆาตของฮาลล์ เป็นส่วนผสมระหว่างปราณอสูรและสายฟ้า
ในวินาทีที่อาชูร่าเบิกเนตร ร่างกายพลันขยับไปทุกทิศทางคล้ายกับสายฟ้าอาละวาด
ทุกการเคลื่อนไหวของหมัดและเท้าฮาลล์จะเกิดแสงสว่างตกค้างจนดูเหมือนมีนับสิบ ไม่ต่างอะไรกับภูตผีในหนัง
ทุกจุดที่ฮาลล์ขยับแขนไป กำแพงจะถูกทำลายแหลกละเอียด ห้วงมิติฉีกขาด บริเวณโดยรอบเกิดความพังพินาศในชั่วพริบตา
ทว่า เป้าหมายกลับยังคงยืนปักหลัก
แม้เนี๊ยวมงจะถูกโจมตีอย่างรุนแรงเข้าไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่ยอมให้ถูกทำคอมโบต่อเนื่อง จึงรักษาชีวิตรอดมาได้ในสภาพยับเยิน
‘แม้แต่เนี๊ยวมงก็ยังแข็งแกร่งขนาดนี้?’
ฮาลล์ทึ่งเป็นอย่างมาก
ตามแผนที่วางไว้ เนี๊ยวมงเป็นเพียงตัวประกอบ เป็นเพียงเหยื่อที่สามารถเชือดทิ้งได้ด้วยฝีมือ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพากลยุทธ์ปราบตำนาน
อันดับแรงเกอร์ของเนี๊ยวมงไม่มีอะไรโดดเด่น และไม่เคยสร้างชื่อด้วยเรื่องมหัศจรรย์
อาจโด่งดังด้วยการเสริมพลังทัพม้าให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ หรือยับยั้งมอนสเตอร์ป่าดุร้ายมิให้ทำอันตรายกับพ่อค้า แต่นั่งยังห่างไกลจากทักษะด้านต่อสู้
ฮาลล์จึงคาดไม่ถึงว่า เนี๊ยวมงจะเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะที่ชำนาญ ‘การอ่านเกม’
เนี๊ยวมงอ่านขาดทุกโจมตีและขยับตัวหลบหนึ่งก้าวเสมอ เป็นพรสวรรค์ที่ช่วยกลบจุดอ่อนด้านสมรรถภาพร่างกาย
“มองเห็นล่วงหน้าและหลบมัน พรสวรรค์เช่นนี้ กระทั่งไฮแรงเกอร์ยังหาพบได้ยาก”
ฮาลล์พึมพำ
“พรสวรรค์? ไม่ใช่อะไรที่วิเศษขนาดนั้น ก็แค่ความสามารถที่ฉันได้มาจากการดิ้นรน”
“ดิ้นรน…? ฮะฮะฮะ! นี่แกกำลังจะพล่ามถึงความพากเพียร?”
การกลบเกลื่อนพรสวรรค์ด้วยคำว่า ‘ขยันหมั่นเพียร’ ถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจที่สุดในโลก
ฮาลล์ ผู้กระโดดขึ้นไปในอากาศด้วยร่างที่คล้ายกับแสง เริ่มย่อตัวลง
ในการมองเห็นของเนี๊ยวมง อีกฝ่ายคล้ายกับหายตัวไปโดยสมบูรณ์
ฮาลล์เตะกวาดขนานกับพื้นใส่คางเนี๊ยวมงจนตัวหมุน จากนั้นก็ซัดกำปั้นใส่แผ่นหลังอีกหนึ่งหมัด ปิดท้ายการถีบกำแพงหมุนตัวและเตรียมเตะใส่หน้า
ทว่า เนี๊ยวมงไขว้แขนป้องกันไว้ได้ทันด้วยช่องว่างเล็ก ๆ ที่อีกฝ่ายเปิดโอกาส
“อัจฉริยะของแท้…”
ฮาลล์ซึ่งคิดว่าการต่อสู้คงจบลงในหนนี้ พบกับความล้มเหลวอีกครั้ง
ขณะฮาลล์ขมวดคิ้ว เนี๊ยวมงลดแขนลงและพูด
“แฮ่ก… แฮ่ก… แมวเป็นสัตว์ป่า เป็นนักล่าที่ดุร้ายและมิอาจระงับสัญชาตญาณการล่าซึ่งฝังลึกอยู่ในสายเลือด ทาสแมวที่เลี้ยวแมวหลายตัว ล้วนมีชะตากรรมต้องได้รับหลายแผลในหนึ่งวัน”
“…?”
“มีทาสแมวนับหมื่นคนต้องประสบปัญหาอาการปวดเอว เนื่องจากถูกแมวกระโดดปีนต้นขา ปีนท้อง หรือกระโจนใส่จากคอนโดแมวในความมืด”
“เรื่องจริงหรือ…?”
“เรื่องจริงจากประสบการณ์ และนั่นค่อนข้างน่าเชื่อถือได้… มีเพื่อนนักเขียนคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เขาเคยได้รับบาดเจ็บในห้องสมุด เนื่องจากถูกแมวถีบสารานุกรมเล่มยักษ์ตกใส่หน้าผาก ดวงตาบวมเป่งจนไม่สามารถส่งงานตามกำหนดเส้นตายได้”
“…??”
“ตัวฉันเองก็มีประสบการณ์ไม่น้อยเหมือนกัน ย้อนกลับไปครั้งแรกที่ฉันได้เป็นทาสแมวเมื่อยังเด็ก แผลเป็นในคราวนั้นติดตัวนานนับสิบปี เพียงเพราะฉันเดินไม่ระวังและถูกเจ้านายข่วนเข้าที่ข้อเท้า”
“กำลังจะสื่ออะไร?”
“ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอาตัวให้รอด จึงพยายามวิเคราะห์พฤติกรรมของแมวอย่างละเอียด เพื่อให้คาดเดาได้ล่วงหน้าและป้องกันตัวได้ทันเวลา”
“…!”
“เข้าใจหรือยัง ฉันไม่ใช่อัจฉริยะ การเอาตัวรอดจากท่าโจมตีของผู้เล่นที่แข็งแกร่งอย่างนาย ล้วนเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนัก”
ทันใดนั้น หัวไหล่ของฮาลล์พลันถูกเจาะเป็นรูโหว่
ฮาลล์รีบตอบสนองโดยการหลบหลังกำแพงและดื่มโพชั่น
มันมองไปยังทิศทางที่กระสุนยิงมา จนได้พบกับสตรีผมดำซึ่งกำลังยืนบนยอดหอคอย
‘ยูร่า!’
“ฉันมาสายนิดหน่อย… เนี๊ยวมง งานเทศกาลจบแล้วหรือ”
“ยัง… ยังไม่ได้เริ่ม”
“ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจ”
ยูร่ามิได้ร่วมงานเทศกาลเนี๊ยวมงเพราะหน้าที่คุ้มกันหรืออะไรทำนองนั้น
เป็นเพียงเหตุผลส่วนตัว ที่ต้องการให้ความน่ารักของสุนัขและแมวเยียวยาจิตใจ
แต่ค่อนข้างโชคร้าย เทศกาลเนี๊ยวมงในคราวนี้ดันตรงกับวันเกิดคุณปู่ ยูร่าจึงดีใจมากเมื่อพบว่าตนยังมาทันเวลา
ต้องขอบคุณผู้บุกรุกไหม?
‘ฝันไปเถอะ’
ปัง! ปัง! ปัง!
เธอเปิดฉากระดมยิงชุดใหญ่ กระสุนเวทมนตร์พุ่งทะลวงกำแพงที่ฮาลล์ซ่อนตัวอยู่
“อั่ก!”
กำบังที่ไว้ใจได้ถูกทำลายเป็นผุยผง ฮาลล์หมดโอกาสทำแผล
มันเริ่มออกวิ่งไปตามแนวกำแพง เป็นกลยุทธ์สำหรับตอบโต้พลแม่นปืนจากระยะไกล ทำให้อีกฝ่ายหาตำแหน่งของตัวเองไม่พบ
ทว่า
“…?”
เธอมีตาทิพย์รึไง…?
ทั้งที่ซ่อนตัวอย่างมิดชิด แต่กระสุนของยูร่ากลับยังพุ่งใส่อย่างไม่พลาดเป้า
‘มีคนคอยสนับสนุน? สัตว์เลี้ยง?’
ขณะฮาลล์เริ่มสงสัยว่ามีมือที่สามคอยช่วยยูร่า มันแหงนหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ
<ราชาภูตแสง>
จำลองมาจากเทพธิดาหรืออย่างไร?
สิ่งมีชีวิตที่เฉิดฉายและงดงาม กำลังจ้องลงมาด้วยสายตาสงบเงียบ
‘เล่นใช้ไพ่ตายตั้งแต่แรกเลยหรือ… ไม่มีข้อจำกัดการอัญเชิญบ้างรึไง?’
ราชาภูตคือตัวตนที่ปกครองโลกแห่งภูต
ถึงแม้จะถูกลดทอนความแข็งแกร่งไปบ้างหลังจากทำพันธสัญญากับผู้เล่น แต่ระดับตัวตนก็ยังเทียบได้กับจอมอสูร ฮาลล์เคยเชื่อมาตลอดว่า การอัญเชิญแต่ละครั้งต้องมีผลข้างเคียงมหาศาล
แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น
โทสะฮาลล์เริ่มเดือดดาล
‘ไอ้พวกอภิสิทธิ์ชนผูกขาดทุกอย่างในเกม! แบบนี้มันยุติธรรมตรงไหน!?’
ถูกต้องแล้วหรือ กับการอนุญาตให้คนที่แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ได้ครอบครองสิ่งที่วิเศษและทรงพลังยิ่งกว่าเดิม โดยไม่เปิดโอกาสให้คนธรรมดาลดช่องว่างลง…
ฮาลล์เริ่มหงุดหงิดกับความไม่สมดุลของระบบเกม
“เริ่มได้!”
สมาชิกคณะปฏิวัติที่เคยแยกย้ายไปเตรียมตัวตามจุดและปล่อยให้ฮาลล์จัดการเนี๊ยวมงตามลำพัง เริ่มกลับมารวมตัวอีกครั้ง
ทักษะและเวทมนตร์จำนวนมากซึ่งถูกคัดเลือกมาจัดการกับยูร่าโดยเฉพาะ เตรียมร่ายใส่เป้าหมายที่อยู่บนยอดหอคอย
เกือบทั้งหมดเป็นทักษะที่มุ่งเน้นการสร้างอาการผิดปรกติมากกว่าก่อความเสียหาย
ยูร่าที่เป็นอภิสิทธิ์ชน ย่อมเพิกเฉยต่ออาการผิดปรกติและไม่แยแสทักษะของพวกตน
ฮาลล์ยืนยันให้แน่ใจอีกครั้งว่าโหมดบันทึกภาพกำลังทำงาน จากนั้นจึงกระโดดพุ่งขึ้นไปโดยไม่สนใจดาบแสงที่ราชาภูตกำลังกวัดแกว่ง
แขนขวาฮาลล์ถูกดาบแสงตัดขาด แต่กระนั้นก็ยังเหลือสองขาและแขนซ้าย มันอาศัยสเต็ปเท้าของอาชูร่ากระโดดบนอากาศสองสามหน พลางปัดป้องกระสุนเวทมนตร์ด้วยบาเรียสายฟ้า
ทันใดนั้น ฮาลล์ตะโกน
“ลงมือ!”
ทักษะและเวทมนตร์นานาชนิดกระหน่ำยิงใส่ยูร่าอย่างพร้อมเพรียง
ท่ามกลางฝุ่นควันอันเกิดจากแรงระเบิดและซากหอคอยถล่ม ฮาลล์ฉีกยิ้มเมื่อจินตนาการถึงใบหน้าแสนสิ้นหวังของหญิงสาว
“กระแทกนิทรา!”
กระแทกนิทราคือทักษะที่อาชูร่าเลเวล 330 ต้องเรียน
เป็นท่าเตะด้วยส้นท้าซึ่งจะทำให้เป้าหมายชะงักตั้งแต่ 0.5 ถึง 2 วินาที
สำหรับอาชูร่า เพียง 0.5 วินาทีก็มากพอจะเป็นบันไดไปสู่สิบ ยี่สิบ หรือสามสิบคอมโบ
“?!”
ฮาลล์ที่เลิกนับไปแล้วว่าวันนี้มันตกใจกี่ครั้ง เริ่มเผยใบหน้าบิดเบี้ยว ทุกทักษะที่ประเคนต่อจากกระแทกนิทราล้วนถูกป้องกันด้วยบางสิ่ง
‘ไม่ใช่ว่าเธอกำลังสตันอยู่หรือ?’
ยูร่าปรากฏกายท่ามกลางฝุ่นคละคลุ้ง กล่าวเสียงเรียบ
“ฉันไม่เข้าใจ… พวกนายจะได้ประโยชน์อะไรจากการลูบคมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์”
เป็นที่ทราบกันดีว่า อาณาจักรโอเวอร์เกียร์คืออีกหนึ่งขั้วอำนาจใหญ่ของทวีป บุคคลมากฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนจับกลุ่มรับใช้กริดอย่างจงรักภักดี สามารถกล่าวได้ว่า เป็นกองกำลังฝ่ายผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดของโลก
“เธอพูดถูก… ถ้าพวกนายไม่หยุด สถานการณ์อาจเลวร้ายถึงขั้นต้องเลิกเล่น”
เนี๊ยวมงกล่าวพลางถอนหายใจ การมาถึงของยูร่าทำให้มันฟื้นตัวได้หลายส่วน
ฮาลล์มิได้แยแสเนี๊ยวมง ไม่สิ กล่าวให้ชัดคือ มันไม่เหลือสมาธิจะทำแบบนั้น
ปืนวิศวกรรมเวทมนตร์ของยูร่าซึ่งถูกใช้เป็นเครื่องหยุดคอมโบ กำลังมีควันลอยออกจากปากกระบอก เห็นภาพดังกล่าว ฮาลล์คาดเดาสถานการณ์ได้ทันที
“เธอยิงกระสุนเวทมนตร์เพื่อยับยั้งการโจมตีจากด้านล่าง?”
“สายตาไม่เลว”
“ทำไปทำไม? การโจมตีของพวกเขาไม่เป็นพิษภัยอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
“เป็นเพราะไม่มีพิษภัย ฉันจึงมองว่าไม่ชอบมาพากล”
“อ่านเกมไปอีกขั้นสินะ… แล้วถ้าพวกเราซ้อนแผนล่ะ?”
“จะซ้อนอีกกี่แผนก็เปล่าประโยชน์”
ปืนวิศวกรรมเวทมนตร์ของยูร่าเปลี่ยนร่างเป็นดาบ
“ฉันมีพลังที่สามารถทำให้ทุกแผนของพวกนายไร้ค่า”
‘แข็งแกร่ง…’
วิชาดาบของยูร่าเองก็โด่งดังไม่น้อย จนยากจะเชื่อว่าเธอเคยเป็นจอมเวทมืดมาก่อน
นี่ก็เป็นพรสวรรค์แห่งความโชคดีเหมือนกันหรือ?
ฮาลล์หลบท่าแทงอย่างฉิวเฉียดและรีบถอยหลัง
“นักล่าอสูรยูร่า… พวกเราเคยคิดว่าเธอเป็นตำนานคนเดียวที่พอจะจัดการได้ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นสินะ”
“แล้วจิสึกะ?”
…ความหยิ่งทระนงของเจ้าหญิงน้ำแข็ง?
ฮาลล์เผยรอยยิ้มให้ยูร่าที่จู่ ๆ ก็โกรธโดยไม่ทราบสาเหตุ
“การล่าผู้เล่นที่เลเวลถูกรีเซต ไม่มีคุณค่าในเชิงสัญลักษณ์”
มีแต่ต้องจัดการกับตำนาน ‘ที่แข็งแกร่ง’ เท่านั้น กลยุทธ์ปราบตำนานจึงจะสร้างความประทับใจแก่คนหมู่มากและเริ่มแพร่หลาย
ทว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกได้มาโดยง่าย ฮาลล์ถอนหายใจพร้อมกับตั้งท่าต่อสู้
ถึงจะเสียแขนไปหนึ่งข้าง แต่แรงคุกคามก็ยังทรงพลังไม่เปลี่ยน
แข็งแกร่งเท่าเรกัสเมื่อครึ่งปีก่อน…
ยูร่ายอมรับในพรสวรรค์ของฮาลล์
“ถ้าจะต้องตาย ก็ขอตายในการต่อสู้อย่างมีความสุข”
ยูร่าปราม
“การยอมตายมิได้ทำให้ความผิดหายไป หากเหตุการณ์ในวันนี้ล่วงรู้ไปถึงหูกริด เขาจะไม่ปล่อยพวกนายไว้แน่”
กริดไม่เคยปล่อยให้ศัตรูที่ทำร้ายพวกพ้องลอยนวล
มันจะตามไล่ฆ่าสุดขอบโลกจนไปถึงในนรก และนี่ไม่ใช่คำเปรียบเปรย
ฮาลล์ยักไหล่
“ฉันรู้… เตรียมใจไว้แล้ว”
“ไม่อยากเล่นซาทิสฟายแล้วหรือ”
“เป็นเพราะอยากเล่นซาทิสฟายให้นานที่สุด วันนี้จึงยอมเสี่ยง”
“…”
ความศรัทธาอย่างแรงกล้าของบุคคลที่โจมตีใส่ผู้เล่นอื่นส่งเดช ฟังแล้วช่างน่าขัน
ยูร่าเชื่อว่า อีกฝ่ายมิได้ใส่ใจคำพูดของตน และมองเป็นเพียงโวหารเปรียบเปรย
หญิงสาวตัดสินใจเปลี่ยนจากดาบเป็นปืนสั้น ในเมื่อศัตรูคือนักสู้ ก็ต้องอาศัยการกระหน่ำยิงเพื่อสะกดการเคลื่อนไหว
ฮาลล์เค้นปราณสายฟ้าและปราณอสูรออกมาจนถึงขีดสุด งอเข่าลง ตั้งท่าเตรียมพุ่ง
“เธออาจคิดว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังปกครองโลกนี้ แต่นั่นไม่จริงเลย”
โอเวอร์เกียร์อาจเป็นกองกำลังผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด และอิทธิพลทางการเมืองของกริดก็ฝังรากลึกลงบนทวีปตะวันตกภายใต้การคุ้มครองของจักรวรรดิ แต่ต้องไม่ลืมว่า ผู้เล่นซาทิสฟายมีมากกว่าสองพันล้าน การเชื่อว่าทั้งหมดหวาดกลัวและยอมอยู่ใต้อาณัติของกริดและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ถือเป็นความโอหังที่ไม่ประมาณตน
“เธอคงรู้ใช่ไหมว่าบริษัทและตระกูลยักษ์ใหญ่ของโลกกำลังซ่องสุมกองทัพส่วนตัว… เธอต้องรู้แน่ เพราะเป็นถึงหลานสาวของท่านประธานแดจินกรุป”
ไม่มีทางที่ยูร่าจะไม่ทราบถึงตัวตนซึ่งถูกเรียกว่า ‘ดาบแห่งตระกูล’
หลังจากซาทิสฟายเปิดตัวได้ไม่นาน บริษัทและตระกูลใหญ่ทั่วโลกที่ได้กลิ่นเงิน เริ่มลงทุนสร้างกองทัพส่วนตัวขึ้นมาอย่างลับ ๆ
ยูร่าทราบว่าไฮแรงเกอร์ชื่อดังจำนวนมาก รวมถึงแรงเกอร์ปกปิดตัวตน ล้วนสังกัดกองกำลังส่วนตัวของบริษัท ตระกูล หรือแม้กระทั่งประเทศใดประเทศหนึ่ง
เพราะปู่ของเธอก็ทำแบบเดียวกัน
ฮาลล์เปิดปาก
“รอสไชลด์”
“…!”
“พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว”
ความร่วมมือระหว่างกริดกับทาลิม่าคือปัจจัยขับเคลื่อน บีบบังคับให้รอสไชลด์ต้องเคลื่อนไหวทั้งที่เคยสงบนิ่งแม้ในยามอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ผูกมิตรกับจักรวรรดิ
กลยุทธ์ปราบตำนานก็เป็นหนึ่งในคำบอกใบ้ที่พวกมันมอบให้
ฮาลล์รู้สึกขนลุกไปทั้งตัวเมื่อทราบว่ารอสไชลด์ยอมสนับสนุนคณะปฏิวัติ
“คณะปฏิวัติของเราเป็นเพียงหนึ่งในกองทัพอันมากมายของพวกเขา หากรอสไชลด์เริ่มลงมือด้วยตัวเองเมื่อไร ผลลัพธ์จะไม่ใช่เหตุการณ์อิมมอทัลครั้งที่สอง แต่เป็นจุดจบของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์”
ฮาลล์และพวกพ้องยังคงดิ้นรน
แม้จะทำเหมือนถอดใจ แต่กลับตั้งค่ายกลอย่างมีวินัย เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยดึงศักยภาพการ ‘รุม’ ออกมาถึงขีดสุด และยังสนับสนุนให้ฮาลล์มีอิสระมากขึ้น
แต่ในวินาทีนี้เอง พวกมันได้ยินเสียงปีกขนาดใหญ่พัดกระพือ ตามด้วยเสียงระเบิด
ฮาลล์ที่กำลังฉงน แหงนหน้ามองฟ้าและพบกองทัพไวเวิร์นนับร้อยกำลังพ่นลมหายใจ
“อ๊ากกกก!”
“แค่ก!”
คณะปฏิวัติเริ่มล้มตายทีละคนสองคน แม้แต่ฮาลล์ก็ได้รับบาดเจ็บหนักจากการรุมถล่มด้วยพายุลมหายใจ
เนี๊ยวมงที่ยืนขี่หลังไวเวิร์นตนหนึ่ง ร่อนลงอย่างเยือกเย็นพร้อมกับ ‘หน่วยไวเวิร์นโอเวอร์เกียร์’
มันจ้องฮาลล์ด้วยสายตาดำมืด
“พวกเราคือกิลด์โอเวอร์เกียร์”
องค์กรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ไม่มีใครหน้าไหนมีสิทธิ์มาใช้บรรทัดฐานของคนทั่วไปตัดสิน
กระทั่งสมาชิกโอเวอร์เกียร์ ก็ยังไม่กล้าประเมินศักยภาพที่แท้จริงของกิลด์
“ไม่ว่าอีกฝ่ายจะใช้ลูกไม้แบบใด พวกเราก็จะสู้และได้รับชัยชนะ”
การรุมถล่มจากไวเวิร์นดำเนินต่อไป
***
ในเวลาเดียวกัน
“ผมช่วยอะไรคุณได้บ้าง”
อริยดาบครอเกลเดินทางมายังทวีปตะวันออกและได้พบกลุ่มคนปริศนา
ประสาทสัมผัสอันเฉียบแหลมที่เตือนไม่บ่อยนักของมัน ร้องบอกให้ระวังตัว
ผ้าคลุมสีดำลายมังกรทองกำลังสะบัดพลิ้ว
นภาฟ้าครามถูกฉาบด้วยสีแดงเลือด คล้ายกับภาพตะวันตกดินในกรุงไรนฮาร์ท
***
“ที่รัก ช่วยให้อภัยคนเห็นแก่ตัวอย่างฉันได้ไหม”
“ไม่มีสิ่งใดต้องให้อภัย ฝ่าบาท ได้โปรดลงโทษที่ดิฉันเอาแต่ใจ โดยไม่ยอมตระหนักถึงความปรารถนาดีของพระองค์”
“ฉันต่างหากที่ต้องถูกลงโทษ! ไม่ยอมปรึกษากันก่อน ฉันมันแย่! ได้โปรดเฆี่ยนฉันด้วยแส้!”
“ฝ่าบาท…”
“ที่รัก!”
กริดและไอรีนสวมกอดอย่างเร่าร้อน
ระยะห่างเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้น ช่วยให้คนทั้งสองแนบชิดยิ่งกว่าเดิม
Comments
Post a Comment