จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,250



“มีอะไรให้ข้ารับใช้ไหมคะ? ขอเพียงท่านเอ่ยปากสั่งมา ข้าพร้อมน้อมรับบัญชาทุกเมื่อ… ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ตัวข้า มนุษย์แสนต่ำต้อย จะได้รับใช้ท่านผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่แข่งขุมนรก”


จอมเวทมืดอันดับหนึ่ง และข้ารับใช้ยาธาน


โรส ผู้เป็นตัวการสำคัญในการอัญเชิญห้าจอมอสูรคราวนี้ อดีตเคยสร้างความดีความชอบให้วิหารยาธานมาแล้วนับไม่ถ้วน ชนิดที่สาธยายทั้งหมดก็คงไม่จบ


แต่สาธารณชนมิได้ยกย่องให้เธอเป็น ‘ที่ 1’


หากยูร่าไม่ออกจากวิหารยาธานเสียก่อน โรสจะเป็นได้เพียงผู้เล่นหมายเลขสองตลอดกาล เสียงส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องในเรื่องนี้


ทัศนคติดังกล่าวยิ่งทำให้โรสเกิดความมุมานะ


โรสที่ต้องการออกจากเงาของยูร่า ทุ่มเทเวลาชีวิตให้กับซาทิสฟายจนเข้าขั้นเสพติด


ดังนั้น การแสร้งสรรเสริญเยินยอจอมอสูร—สิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจและกลิ่นกายเหม็นบัดซบ—มิได้เป็นอุปสรรคในสายตาโรสแต่อย่างใด


‘เรามีภูมิคุ้มกันด้านนี้สูงกว่าใคร’


นอกจากนั้น จอมอสูรในคราวนี้ก็มิได้น่ารังเกียจอะไรนัก เพียงแต่ประหลาดไปสักหน่อย


ดันทาเลียนมีใบหน้ามากมายบนหนึ่งลำคอ


ประกอบด้วยใบหน้าเด็กชายหญิงที่ฉีกยิ้มกว้างอย่างไร้เดียงสา ใบหน้าเด็กหนุ่มที่กำลังเผยความเจ็บปวด ใบหน้าเด็กสาวที่กำลังเผยความโศกเศร้า ใบหน้าสุขุมเยือกเย็นของสุภาพบุรุษ ใบหน้าที่สง่างามและมีความสุขของภรรยา ใบหน้าที่อ่อนโยนของคุณย่า และใบหน้าที่เกรี้ยวกราดของคุณปู่


ภาพของ 8 ใบหน้าที่กองสุมรุมกันอยู่บนลำคอเดียวจนดูเหมือนช่อดอกไม้ สร้างความน่าสะพรึงแก่ผู้พบเห็นได้ไม่น้อย


แต่โรสกลับกล้าติดสอยห้อยรับใช้ตามราวกับมองมองข้ามสิ่งดังกล่าวโดยสมบูรณ์


“หืม…”


ใบหน้าของสุภาพบุรุษที่เผยความมั่นใจ เอ่ยเอ่ยปากกล่าวกับหญิงสาว


“ไม่ได้เจอมนุษย์ที่ไม่กลัวข้ามานานแล้ว…”


ใบหน้าคุณปู่ที่อารมณ์ร้อนพลันตะโกนเสริม


“ไม่กลัวจริงหรือ? ไม่กลัวสักนิดจริงหรือ!!”


ใบหน้าเด็กชายและเด็กสาวประสานเสียง


“มนุษย์ใจกล้า!”


“มักตายเร็วเหมือนคนที่แล้ว!”


“…”


ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของโรสที่มีรอยยิ้มฉาบไว้ตลอดเวลา เริ่มซีดเซียวเป็นหนแรก


ภาพของแปดใบหน้ากำลังเปล่งเสียงโดยสายตายังมองหนังสือในมือ ชวนให้โรสขนหัวลุกขึ้นมาอย่างจับจิต


แต่เพียงไม่นาน หญิงสาวรีบแก้ไขอารมณ์และสีหน้า พลางกล่าวเอาอกเอาใจดันทาเลียน


“กำลังอ่านหนังสืออะไรอยู่หรือคะ”


หนังสือแห่งดันทาเลียน ถูกกล่าวขานว่าเป็นสิ่งที่บรรจุความรู้ทั้งหมดของโลกกึ่งกลางเอาไว้


พลังอันยิ่งใหญ่ของหนังสือเล่มนี้ โรสเคยประจักษ์ด้วยตาตัวเองมาแล้ว


‘ฮิลล์’ ข้ารับใช้ยาธานลำดับเจ็ดที่เสียชีวิตด้วยฝีมือกริดในภารกิจบุกถล่มวาติกัน มันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้หลังจากอ่านหนังสือของดันทาเลี่ยนไปเพียง ‘หนึ่งบรรทัด’


โรสปรารถนาความรู้ดันทาเลี่ยน


จะเป็นความรู้ใดก็ไม่เกี่ยง เพราะนั่นจะช่วยให้เธอบรรลุศาสตร์แขนงดังกล่าวและกลายเป็นบุคคลที่ก้าวข้ามเหนือยูร่าในทันที


เป้าหมายหลักในปัจจุบันของมีเพียง ไต่เต้าไปเป็นสุดยอดผู้เล่นระดับทัดเทียมกริดและครอเกล


ใบหน้าที่อ่อนโยนของหญิงชราเปิดปาก


“หนังสือประวัติศาสตร์ เป็นบันทึกเกี่ยวกับการล่มสลายของอาณาจักรมนุษย์แห่งหนึ่งที่มีอายุขัยสั้น”


“ประวัติศาสตร์… อาณาจักรอายุขัยสั้น?”


หลังจากความพยายามอย่างหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ในที่สุดโรสก็เพิ่มค่าความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายสำเร็จ


เมื่อโรส ผู้ได้รับความชื่นชอบจากดันทาเลี่ยนจนถึงจำนวนหนึ่ง เอ่ยปากถามซ้ำ ใบหน้าหญิงชราที่ยังคงอ่อนโยนและอบอุ่น เปล่งเสียงตอบ


“ข้าหมายถึงอาณาจักรที่ชื่อโอเวอร์เกียร์ พวกมันจะล่มสลายในอนาคตอันใกล้”


โดยทั่วไป ประวัติศาสตร์คือการบันทึกอดีต


หรือก็คือ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว


แต่ดันทาเลี่ยนกลับนิยาม ‘สิ่งที่กำลังจะเกิด’ ว่าเป็นประวัติศาสตร์


เรื่องนี้เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะมันกำลังมั่นใจเสียเต็มประดาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน


“นั่นคืออนาคต”


หญิงชราละสายตาจากหนังสือเป็นครั้งแรก


ทันใดนั้น รูม่านตาโรสพลันหดลีบเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองป้อมเปลทริโน่ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้า


เหตุเพราะบนกำแพงสูงมีธงศึกของหกกองทัพกำลังโบกสะบัดอย่างฮึกเหิม


โดยธงที่เตะตาโรสมากที่สุดคือผืนตรงกลาง


สัญลักษณ์ค้อนและทั่ง…


มันคือธงประจำอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่มีไอ้ระยำกริดเป็นผู้ปกครอง และมีนังแพศยายูร่าเป็นขุนพลคนสำคัญ


ปึด!


โรสกัดฟันกรอด


เป็นท่าทีตอบสนองโดยอัตโนมัติ


ความเคียดแค้นที่โรสมีต่ออาณาจักรโอเวอร์เกียร์และกริดนั้นรุนแรงเกินกว่าใครจะจินตนาการออก เธอไม่เคยลืมว่าเคยถูกพวกมันประกาศค่าหัวจนชีวิตไม่ต่างอะไรกับตกนรกเป็นเวลานาน เลวร้ายถึงขั้นทำให้ภารกิจล้มเหลวไปมากมาย


ใบหน้าทั้งเจ็ดเริ่มพูดต่อจากหญิงชรา


“ประวัติศาสตร์ดังกล่าวคือปัจจุบัน”


“อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะล่มสลายในวันนี้”


“พวกมันจะสูญเสียกองทัพไปมากมายที่นี่”


“เกิดความพังพินาศครั้งใหญ่หลวง”


“ราชาโอเวอร์เกียร์และนักล่าอสูร…”


“ทุกปัจจัยที่เป็นภัยต่อขุมนรก”


“กำลังจะหายไป”


พรืด.


ดันทาเลี่ยนพลิกหน้าหนังสือ


เมื่อแผ่นกระดาษพลิกไปได้ครึ่งเล่มและหยุดลงตรงหน้ากึ่งกลาง วงแหวนเวทสีแดงปรากฏขึ้นตรงหน้าดันทาเลี่ยนจำนวนหนึ่งวง


แต่เป็นวงแหวนเวทที่โรส ผู้เชี่ยวชาญเวทมนตร์คนหนึ่งของโลก ไม่คุ้นเคยเลยสักนิด


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะเธอเพิ่งเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก


เวทมนตร์ถูกบันทึกไว้ใน <บท : ปาฏิหาริย์> ของหนังสือดันทาเลียน เป็นเวทในตำนานที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่เคยพบเจอตลอดชั่วชีวิต


“ฝนอุกกาบาต”


ครืนนนนนนน!!


ท้องฟ้าพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ


อุกกาบาตอันร้อนแรง กระหน่ำสาดเทลงมาจากจักรวาลที่กำลังคำรามสนั่น


“…!!”


『....!!』


โรส สาวกยาธาน และพิธีกรภาคสนามจากสำนักข่าวทั่วโลก ล้วนมีสีหน้าแบบเดียวกันทั้งหมด


ตกตะลึงโดยสมบูรณ์ ปากอ้ากว้างไม่หุบ


พวกมันกำลังจินตนาการภาพความล่มสลายของกองทัพหกอาณาจักร ที่กำลังจะหายไปพร้อมกับป้อมเปลทริโน่


นั่นคืออนาคตในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า


บรรยากาศคุกคามจากฝนอุกกาบาตเข้มข้นจนข่มขวัญทุกคนจนอยู่หมัด ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่า เวทมนตร์ในตำนานชนิดนี้มิได้ถูกยกย่องสรรพคุณเกินความจริง


“จะหลบให้พ้นยังไง…”


กระทั่งกองทัพพันธมิตรภายในป้อมก็ยังมองไม่เห็นชะตากรรมอื่นนอกจากจุดจบ


ในวินาทีที่ฝนอุกกาบาตถล่มโปรยปรายจากฟากฟ้า พวกมันคิดแต่เพียงว่า ต้องทำอย่างไรจึงจะตายอย่างไม่ทรมาน


『แม้แต่อริยดาบมุลเลอร์ที่ผนึกจอมอสูรลำดับ 9 เฮลกาโอสำเร็จ ก็ยังถูกบันทึกไว้ว่า ไม่สามารถเอาชนะดันทาเลี่ยนได้ครับ! 』


『คงไม่ต้องสาธยายถึงความน่ากลัวของดันทาเลียนให้เสียเวลา จอมอสูรรายนี้สามารถเรียกใช้ความรู้ทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือ ผมเกรงว่าบางที มันอาจเป็นจอมอสูรที่แข็งแกร่งจนอยู่เหนือนิยามของ ‘ลำดับ’ 』


ผู้เชี่ยวชาญในสถานีต่างวิเคราะห์ไปในแนวทางเดียวกัน


เป็นการคาดเดาที่เหมาะสมหากพิจารณาจากข้อมูลในมือ


『พลังของดันทาเลียนไม่ต่างอะไรกับเทพครับ เพราะไม่เพียงจะเรียกข้อมูลจากหนังสือได้ทันที แต่ยังสำแดงพลังที่บันทึกเอาไว้ได้ด้วย』


อย่างไรก็ตาม มีบางสิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจ


ถึงจะเป็นเวทมนตร์ชนิดเดียวกัน แต่ความทรงพลังจะขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน


“กล้าเรียกสิ่งนี้ว่าฝนดาวตก…”


ท่ามกลางป้อมเปลทริโน่ที่กำลังอลหม่าน


เสียงเหยียดหยันของชายคนหนึ่งดังขึ้น


ทุกคนในป้อมต่างเหลียวมองชายสติเพี้ยนที่เอาแต่ยิ้มและหัวเราะในลำคอ รวมถึงกล้องจับภาพอีกนับร้อยตัวในละแวกดังกล่าว


『น…นี่มัน…!』


พิธีกรส่งเสียงตื่นตระหนก


= อีกแล้วหรือ…


= หมอนี่ก็อยู่ในกองทัพโอเวอร์เกียร์ด้วยสินะ


= ทำไมเพิ่งแสดงตัวเอาป่านนี้?


ช่องแชตทั่วโลกต่างแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน มิได้ตื่นเต้นหรือฮือฮาอะไรนัก


สิ่งหนึ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันก็คือ ชายผมเงินผู้กำลังถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ได้เปลี่ยนความสิ้นหวังให้กลายเป็นความหวัง


“ดิสอินทิเกรต” (Dintegrate)


ชิ้ง—!


ไม่เหมือนฝนอุกกาบาตที่ต้องเสียเวลา ‘พุ่งลง’ จากชั้นบรรยากาศ หอกแสงซึ่งเกิดจากการควบแน่นของมานาสามารถแสดงผลได้ทันที


เวทมนตร์ของมหาจอมเวทในตำนาน บราฮัม แทงทะลวงฝนอุกกาบาตหลายสิบลูกจนระเบิดกลางอากาศและเหลือเพียงฝุ่นผง


“ฝนอุกกาบาต”


ครืนนนนนนน!!


ชั้นบรรยากาศร้องคำรามอีกครั้ง


ฝนอุกกาบาตหลายสิบลูกได้เปลี่ยนให้ท้องฟ้าเหนือป้อมเปลทริน่ากลายเป็นสีดำสนิท แต่คราวนี้พุ่งเป้าไปทางจอมอสูรดันทาเลี่ยนและสาวกของวิหารยาธานแทน


“อ…อึ๋ย!”


“นี่มัน…!”


โรสและสาวกยาธานต่างหน้าถอดสี


เมื่ออนาคตที่พวกมันคาดหวังให้เกิดถูกพลิกผันกะทันหัน ในใจจึงเกิดความตื่นตระหนกทันที


อย่างไรก็ตาม ดันทาเลี่ยนยังคงใจเย็น


ไม่สิ ตรงกันข้าม มันกำลังฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้าทั้งแปดล้วนเผยรอยยิ้มแฝงเลศนัย


“บราฮัม ข้าทราบนานแล้วว่าเจ้าแฝงตัวอยู่ในกองทัพโอเวอร์เกียร์!”


ดันทาเลี่ยนล่วงรู้ทุกความลับบนโลกกึ่งกลาง


ทราบกระทั่งเรื่องที่บราฮัมคืนชีพ และเรื่องที่จะได้พบกันในสมรภูมิแห่งนี้


มันตื่นเต้นที่จะได้ต่อกรกับอีกฝ่าย


พรึด.


ขณะกำลังเผชิญหน้าเวทมนตร์สุดทรงพลัง


ดันทาเลียนรีบพลิกไปยังบทอื่นภายในหนังสือ เพราะมันตระหนักเป็นอย่างดีว่า ตนมิอาจสลายฝนอุกกาบาตได้ด้วยพลังเวทมนตร์ที่รุนแรงกว่าเหมือนกับบราฮัม


คราวนี้เป็น <บท : ไร้เทียมทาน>


เป็นหน้าที่บันทึกพลังของอริยดาบมุลเลอร์


ชิ้ง—!


ดันทาเลี่ยนชักดาบออกจากเอว ตามด้วยการวาดเป็นทรงจันทร์เสี้ยวขึ้นไปด้านบน


ทันใดนั้น ปราณดาบทรงจันทร์เสี้ยวที่เกิดจากพลังจิตไร้เทียมทาน พุ่งอาละวาดอย่างบ้าคลั่งจนท่วมท้นท้องฟ้าสีดำสนิท เฉือนทำลายฝนอุกกาบาตที่บราฮัมเรียกออกมาอย่างหมดจด


‘ไม่มีสิ่งใดที่ตัดไม่ขาด’ คือกฎทางธรรมชาติของอริยดาบผู้อยู่บนจุดสูงสุด


เป็นสาเหตุว่าทำไม มนุษยชาติจึงมองว่าอริยดาบมุลเลอร์ มีพลังเหนือกว่ามหาจอมเวทในตำนานอย่างบราฮัมอยู่เล็กน้อย


“และยังเป็นเหตุผลที่มุลเลอร์ไม่สามารถทำอะไรข้าได้”


ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์เพียงแขนงเดียว ไม่มีทางต่อกรกับศัตรูที่ใช้พลังได้ทุกรูปแบบ…


ขณะน้ำเสียงแฝงความมั่นใจเสียเต็มประดาของดันทาเลียน กำลังดังกังวานไปทั่วสนามรบอันเงียบสงัด


“เร่งโต!”


ครืนนน!


ผืนปฐพีพลันสั่นคลอนหนักหน่วง


พืชพรรณนานาชนิดผลิบานขึ้นจากพื้นดินที่เริ่มสั่นสะเทือน พรั่งพรูโอบล้อมร่างดันทาเลียนไว้ทุกทิศทาง


“นี่ก็เหมือนกัน”


ดันทาเลียนพ่นลมหายใจเหยียดหยัน ตามด้วยการใช้ดาบสะบั้นทั้งหมดทิ้งอย่างง่ายดาย


มันย่อมทราบถึงตัวตนของปิอาโร่


สำหรับดันทาเลี่ยนที่เคยดวลกับตำนานอันดับหนึ่งของโลกอย่างมุลเลอร์และรอดชีวิตมาได้ ตำนานคนปัจจุบันที่ยังเติบโตไม่เต็มที จึงแทบไม่อยู่ในสายตา


เคร้ง!!


ดาบดันทาเลียนตัดผ่านมวลหมู่พืชพรรณได้ง่ายดาย จากนั้นก็พุ่งกระแทกใส่อุปกรณ์ทำฟาร์มที่ปิอาโร่กำลังถือ


เปรี้ยะ!


จอบและเคียวสั้นซึ่งกำลังไขว้รับท่าแทงของดันทาเลี่ยน ปรากฏรอยแตกร้าวในทันที


หากเป็นปิอาโร่ก่อนฝีกพลังจิตไร้เทียนทาน ร่างกายอาจถูกฟันขาดครึ่งไปพร้อมกับอุปกรณ์ทำฟาร์มในคราวเดียว


แต่เมื่อใช้ทำฟาร์มอิสระเข้าช่วย พลังจิตไร้เทียมทานซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดเดียวกับปราณดาบของมุลเลอร์ ได้หักล้างความเสียหายจนวัตถุยังคงสภาพเอาไว้ได้


“แล้วถ้าเป็นท่านี้…!”


ดันทาเลียนพลันชะงักมือขณะง้างดาบเตรียมโจมตีใส่ปิอาโร่เป็นหนที่สอง


ตึกตัก!


หัวใจของมันพลันเต้นระรัว


สาเหตุเพราะ ดันทาเลียนเหลือบขึ้นไปเห็น


อัศวินผมขาวที่กำลังสยายปีกเงินระยิบระยับ


ดวงตาสีฟ้าลุ่มลึกของเธอ กำลังสร้างความสับสนอลหม่านแก่ดันทาเลี่ยนเป็นอย่างมาก


สืบเนื่องจาก หนังสือที่ถูกกล่าวขานว่าบันทึกความรู้ทั้งหมดของโลกกึ่งกลางไว้ กลับไม่มีการเขียนถึง ‘เนตร’ คู่นี้แม้แต่บรรทัดเดียว


“อะไรกัน…!”


ดันทาเลี่ยนอุทานด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว เผลอผงะถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว สองมือรีบพลิกหน้ากระดาษหาข้อมูล


และไม่ผิดไปจากที่คาด


มันไม่พบข้อมูลของเนตรประหลาดซึ่งทำให้ตนสัมผัสถึงลางร้ายจนหัวใจแทบระเบิด


‘หล่อนเป็นมนุษย์จริงหรือ…’


ความกลัวมักเกิดจากความไม่รู้


นี่คือเหตุผลว่า ทำไมดันทาเลี่ยนถึงหวาดกลัวจอมอสูรและเทพซึ่งมีระดับตัวตนสูงกว่ามัน


ถูกต้อง


ความรู้ของดันทาเลี่ยนมิได้ไร้เทียมทาน


หากเก่งกาจถึงเพียงนั้นจริง คงไม่ถูกจัดให้มีลำดับไกลถึง 25 แน่นอน


มันอาจมีข้อมูลของตัวตนระดับต่ำกว่าทั้งหมดในมือ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือมนุษย์ แต่หากต้องต่อกรกับตัวตนระดับสูงกว่า โอกาสชนะแทบจะกลายเป็นศูนย์ทันที


เนตรมองทะลุที่แม้แต่เทพบนสวรรค์ยังหวาดหวั่น นับประสาอะไรกับจอมอสูรลำดับ 25


เป็นไปตามการคาดเดาของบาซาร่า เธอจงใจวางหมากให้เมอร์เซเดสที่น่าจะเป็นของแสลง คอยรับมือและสะกดพลังพิเศษในตัวดันทาเลี่ยน


ฉัวะ!


“อั่ก…!”


ไม่ว่าดันทาเลี่ยนจะงัดกลอุบายใดออกมาใช้ ก็มิอาจต่อกรกับเนตรมองทะลุที่เห็นอนาคตล่วงหน้าและทำนายวิถีการโจมตีได้อย่างทะลุปรุโปร่ง


มันคำรามอย่างเจ็บปวด เสียงโหยหวนของจอมอสูรดังกังวานไปทั่วสนามรบ และนั่นคือสัญญาณให้ฝ่ายพันธมิตรโอเวอร์เกียร์เริ่มลงมือ


เมื่อต้องเผชิญหน้ากับขุนพลเอกคู่กายกริดอย่างพร้อมหน้า รวมถึงสิบวีรชน แรงเกอร์หลายพันคนทั่วโลก และอัศวินเอกที่เป็น NPC พิเศษของแต่ละอาณาจักร ทั้งโรส สาวกยาธาน และจอมอสูรดันทาเลี่ยน ได้ตกอยู่ในวงล้อมจนหมดหนทางขัดขืน


ดันทาเลี่ยนทำอะไรไม่ได้นอกจากป้องกันตัว


หนึ่งในตำนานจอมอสูรที่โด่งดังของโลก สิ่งมีชีวิตที่แม้แต่มุลเลอร์ก็ยังผนึกไม่สำเร็จจวบจนลมหายใจสุดท้าย กำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ


โลกกำลังเปลี่ยนแปลง


และศูนย์กลางของทั้งหมดคือกริด


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,645

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ดันทาเลี่ยนกับอีดอกโรส มีอย่างนึงที่เหมือนกันคือ"เก่งแต่ปาก"

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00