จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,245



ค่าประสบการณ์ 266.759%


<หัวใจที่ถูกบันเฮเลียร์อวยพร>


ศักยภาพท่ารำดาบใหม่ <มังกร>


เหล่านี้คือรายการของรางวัลที่กริดได้รับหลังจากสังหารเฮเลน่า


เฮเลน่าคือมอนสเตอร์ระดับสูงโดยแท้จริง เธอมอบค่าประสบการณ์มหาศาลจนกริดกลายเป็นเลเวล 411 ในพริบตา


แต่ชายหนุ่มกลับเกิดความเคลือบแคลงมากกว่ายินดีปรีดา


‘เธอไม่ใช่จุดสูงสุดของสายพันธุ์…?’


กริดมีสมญานาม <ราชาสหเผ่าพันธุ์>


<ราชาสหเผ่าพันธุ์>

ท่านเหมาะสมจะเป็นราชาสหเผ่าพันธุ์เนื่องจากรับสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์เข้าร่วมอาณาจักร

★ เอฟเฟคถาวร

* เป็นที่ชื่นชอบของสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์

* ทุกครั้งที่ค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น ปริมาณจะเพิ่มเป็นสองเท่าจากปรกติ

* ทว่า เผ่าพันธุ์ที่ดุร้ายจะทดสอบฝีมือท่านก่อนให้การยอมรับ

★ เอฟเฟคกำจัด

* ท่านได้รับระบบ ‘พันธสัญญา’

* จำนวนครั้งการทำพันธสัญญาได้ : 1/3

★ รายการพันธสัญญาที่ลงนามในปัจจุบัน

1. เฮ่า (ผู้เล่น, ดราโกเนี่ยน)

*ผลของพันธสัญญา*

- เปิดใช้งานทักษะ <ปีกมังกร>

- เป็นมิตรกับดราโกเนี่ยนง่ายขึ้นเล็กน้อย

2. เทรูชาน (NPC, ออร์คสนธยา)

*ผลของพันธสัญญา*

- <ค่าความอดทน> ส่งผลต่อค่าสถานะเพิ่มขึ้นจากปรกติ 1.8 เท่า


เนื่องจากกริดมีพันธสัญญากับเฮ่า


มันจึงรอคอย ‘อีเวนต์’ ที่จะเกิดขึ้นขณะตนเผชิญหน้ากับ ‘ดราโกเนี่ยนลอร์ด’


แต่เหตุการณ์ดังกล่าวกลับไม่ปรากฏ


เฮเลน่าเปิดฉากโจมตีใส่กริดทันทีโดยไม่คิดเจรจาแม้แต่คำเดียว


‘เป็นเพราะเราฆ่าดราโกเนี่ยนจนเกลี้ยง…?’


เธอก็เลยคับแค้นใจ ยกเลิกการเจรจา?


ไม่น่าจะลึกซึ้งขนาดนั้น…


จากที่มองผิวเผิน เผ่าดราโกเนี่ยนมิได้รักใคร่กลมเกลียวกันสักเท่าไร เฮเลน่าจึงไม่น่าจะมีความแค้นส่วนตัวต่อเราเพียงเพราะเรื่องนี้…


‘เธอโจมตีใส่เรา เพียงเพราะเราคือศัตรูที่บุกรุกเข้าไปในแขนแดน’


ยิ่งไปกว่านั้น ถึงค่าประสบการณ์ที่เฮเลน่ามอบให้จะมหาศาล แต่ในสายตากริด สิ่งนี้ยังไม่คู่ควรกับการเป็นจุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์


<หัวใจที่ถูกบันเฮเลียร์อวยพร>

เกรด : เลเจนดารี (ผูกมัดตัวละครหลังจากสวม)

ความคงทน : 131/131

ต้านทานเวทมนตร์ : 150

เครื่องประดับที่สามารถขัดขวางเวทมนตร์

* บล็อกเวทมนตร์ได้ 2 ครั้ง

* จำนวนการบล็อกจะชาร์จทุก 12 ชั่วโมง

เงื่อนไขการสวมใส่ : ไม่มี

น้ำหนัก : 13


สร้อยคอที่เฮเลน่าดรอปหลังจากเสียชีวิต


คุณสมบัติ ‘บล็อกเวทมนตร์’ ฟังดูค่อนข้างดี แต่จำนวนครั้งที่ใช้งานกลับมีน้อยเกินไป แถมระยะหน่วงการชาร์จก็แสนนาน เมื่อผนวกกับคุณสมบัติพื้นฐานที่ค่อนข้างต่่ำ มันเป็นได้แค่สร้อยสำหรับสับเปลี่ยนมากกว่าไอเท็มชิ้นหลัก


‘เซตแสงศักดิ์สิทธิ์ที่มองข้ามหรือลดทอนประสิทธิภาพเวทมนตร์ในอัตราสุ่มโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ยังมีประโยชน์มากกว่าเจ้านี่’


แน่นอน กริดไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นคุณค่าของหัวใจบันเฮเลียร์


ขึ้นอยู่กับการใช้งาน จะดีจะร้ายอย่างไร มันก็เป็นเครื่องประดับที่สามารถสลายเวทมนตร์เกรดเลเจนดารีได้อยู่หมัด ถือเป็นไอเท็มยื้อชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม


แต่กริดก็ยังมองว่า ระดับของไอเท็มต่ำเกินกว่าจะดรอปจากจุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์


‘อยากนำไปให้ไอรีนใส่…’


มันคงดีไม่น้อยถ้าไอรีนได้สวมสร้อยเส้นนี้ กริดจะได้มั่นใจว่าเธอปลอดภัย แม้ตนไม่ได้อยู่ข้างกายตลอดเวลา


‘แต่พวกพ้องของเราอาจต้องการ…’


ความโลภไม่ใช่สิ่งที่ดี


กริดข่มความรู้สึก เปิดรายการทักษะขึ้นมาตรวจสอบ


ท่ารำดาบ <มังกร> ถูกเพิ่มเข้ามาไปหมู่ของ <วิชาดาบกริด>


<มังกร>

วิชาดาบที่เลียนแบบจิตวิญญาณของมังกร

ประสิทธิภาพ :???

★ ท่านยังไม่บรรลุโดยสมบูรณ์ จึงยังอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน


“…”


ในช่วงแรก วิชาดาบแพ็กม่าจะมาพร้อมกับวิชาดาบพื้นฐานจำนวน 5 ท่า ประกอบด้วย คลื่น หน่วง ร่ายรำ สังหาร และมายา


อย่างไรก็ตาม เมื่อกริดเติบโตขึ้น ได้ผจญภัยออกตามหาชิ้นส่วนลับของแพ็กม่า วิชาดาบพื้นฐานจึงเพิ่มขึ้นอีกสามชนิด ประกอบด้วย วังวน สะพรั่ง สยบ


โดยทั้งหมดมิใช่ท่าต้นตำหรับของกริด


เป็นเพียงการเสริมศักยภาพและมิติให้กับ <วิชาดาบแพ็กม่า> เป็นเพียงสิ่งที่แพ็กม่าคิดค้นขึ้นและปูทางให้ชนรุ่นหลัง


อย่างไรก็ตาม คอนเซ็ปของ <มังกร> นั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง


เห็นได้ชัดว่าเป็นวิชาดาบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก <ดราก้อนเบลด> ของเฮเลน่า


แตกต่างจากท่ารำดาบอื่น สิ่งนี้มิได้มีรากฐานมาจาก <วิชาดาบแพ็กม่า> แต่ถือกำเนิดจาก <วิชาดาบกริด> โดยตรง


นี่คือเหตุการณ์พิเศษที่มันสร้างขึ้นเองกับมือ


แต่กริดก็ยังไม่พึงพอใจ


‘ถ้าเฮเลน่าคือจุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์จริง…’


วิชาดาบ <มังกร> ก็ควรเสร็จสมบูรณ์หลังจากเอาชนะเธอได้…


แต่เฮเลน่าแสดงกลับแสดงศักยภาพของมังกรให้ชายหนุ่มเห็นเพียงด้านเดียว


นอกจากนั้น ความตายของเฮเลน่ายังไม่ทำให้เผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนเกิดความโกลาหล


เมื่อเทียบกับกรณีของเทรูชาน กริดที่สังหารลอร์ดของดราโกเนี่ยนกับมือ ควรถูกเผ่าดราโกเนียนประกาศความเคียดแค้นผ่านข้อความโลก หรืออย่างน้อยก็ต้องมีข้อความการเลือกตั้งลอร์ดคนใหม่


‘ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ดราโกเนี่ยนลอร์ดไม่ได้อยู่ที่นี่…’


มันควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว


ประชากรของดราโกเนี่ยนมีราวสามร้อยตน แต่บนภูเขาเคอัสกลับมีเพียง 31


สรุปได้ว่า เฮเลน่ามีตำแหน่งเพียงหัวหน้าหน่วยย่อยของดราโกเนี่ยน ไม่มากไปกว่านั้น


‘แต่หัวหน้าหน่วยย่อยกลับมอบค่าประสบการณ์ถึง 267%…’


ด้วยเอฟเฟคของระบบ ‘บรรลุ’ การต่อสู้กับเฮเลน่าจึงถูกจัดอยู่ในข่าย ‘ล่าบอส’ ส่งผลให้กริดได้รับค่าประสบการณ์ปริมาณมหาศาลจนน่าขนลุกขนพอง


นอกจากนั้นอนุมานได้ว่า เผ่าดราโกเนียนคือสิ่งมีชีวิตทรงพลังโดยแท้จริง เพราะแม้จะไม่ใช่ลอร์ดก็ยังแข็งแกร่งเพียงนี้


ถึงกริดที่มี ‘ปราณดาบอนันต์’ ‘เขตแดนพายุเพลิงเทพ’ ‘วิชาดาบผสาน’ และ ‘หัตถ์เทวะ’ จะเหนือกว่าหลายขุมก็เถอะ


‘เมื่อลองนึกดูให้ดี…’


การที่เราได้รับวิชาดาบชนิดใหม่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตัวตนของปราณดาบอนันต์…


หัวใจกริดเริ่มเต้นแรงเมื่อหวนนึกถึงฉากความเกรี้ยวกราดของปราณดาบสีเงิน ที่พุ่งทำลายเกล็ดแข็งของเฮเลน่าชั้นแล้วชั้นเล่าจนแหลกละเอียด


ในอนาคต ตนอาจได้เรียนรู้วิชาดาบชนิดใหม่เพิ่มเติมขณะกำลังต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง


แค่จินตนาการก็ทำให้หัวจิตหัวใจพองโต


ซู่ววว!


สิบวีรชนที่หายตัวไปพักใหญ่ภายในมิติขุมนรกของยูร่า ยามนี้ปรากฏกายกลับมาอีกครั้ง


ภายในช่วงเวลาไม่นาน สีหน้าของสิบวีรชนดูฮึกเหิมขึ้นจนผิดหูผิดตา คงเป็นเพราะความภาคภูมิใจที่พวกมันร่วมมือกันจัดการนักรบชั้นสูง 4 ตนได้อย่างไม่ยากเย็น


“ไหน! หัวหน้าของพวกจิ้งเหลนอยู่ไหน!!”


แวนเนอร์แหกปากตะโกนอย่างดุดันพลางยืนหดหัวอยู่หลังโล่ใหญ่ ได้เห็นเช่นนั้น สิบวีรชนคนอื่นต่างพากันส่ายหน้าเอือมระอา


แต่เมื่อทุกคนมายืนรวมตัวกันและหันไปเห็นกริดกับอัศวินกำลังยืนนิ่งโดยปราศจากวี่แววศัตรู


“เฮเลน่าล่ะ… ถูกล่าไปแล้วหรือ?”


“ใช่… โซโล่คิล” (Solo Kill)


เมื่อกริดชูสองนิ้วและทำสัญลักษณ์รูปตัว V เหล่าสิบวีรชนต่างทำเพียงยืนอ้าปากค้าง


***


ไอเท็มดรอปจากบรรดานักรบชั้นสูงมิได้เตะตาสิบวีรชนสักเท่าไร


ทั้งกรงเล็บที่เป็นวัสดุสร้างอาวุธ และเกล็ดที่เป็นวัสดุสร้างชุดเกราะ ยังค่อนข้างบกพร่องในสายตาของชาวโอเวอร์เกียร์


ขณะเดียวกัน <ปีกมังกรฉีกขาด> ที่ดรอปจากนักรบชั้นสูง ถึงจะพร้อมเอฟเฟค ‘การบินพิสัยต่ำ’ และ ‘ป้องกันการตกจากที่สูงกะทันหัน’ แต่ก็ยังมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียงสี่คน เนื่องจากน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก แถมยังมีสภาพฉีกขาดยับเยิน รูปลักษณ์จึงดูไม่งดงาม


จนกระทั่งทุกฝ่ายได้ข้อสรุป กริดและสิบวีรชนเห็นพ้องต้องการว่า ควรนำไอเท็มดรอปทั้งหมดจากนักรบดราโกเนียนชั้นสูงไปขายและนำเงินมาแบ่งกัน


หลังจากนั้น


“ฉันว่ามันคงดีกว่า… ถ้านายนำสร้อยเส้นนี้ไปให้ไอรีนหรือลอร์ดสวม”


“อือ ฉันก็คิดเหมือนกัน”


ลงเอยด้วย กรรมสิทธิ์ของ <หัวใจที่ถูกบันเฮเลียร์อวยพร> ตกเป็นของกริดอย่างเอกฉันท์


ชายหนุ่มมิได้ยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาพูด แต่เป็นทางสิบวีรชนเสียเอง ที่เสนอให้ลอร์ดหรือไอรีนเป็นผู้สวมใส่


ต้องขอบคุณเรื่องนี้ ความกังวลใจของกริดจึงสลายไปในพริบตา


“ฉันจะให้ไอรีนใส่”


ในขณะที่ลอร์ดแข็งแกร่งพอจะปกป้องตัวเองไหว แถมยังมีองครักษ์ข้างกายมากมาย ทางด้านไอรีนเป็นเพียงคนธรรมดาที่มีแค่หนึ่งชีวิต


กริดกำสร้อยอย่างมีความสุข หันไปกล่าวกับพวกพ้องด้วยสีหน้ามุ่งมั่น


“ไปยังสันเขาที่เจ็ดกันเถอะ”


เหตุผลหลักที่กริดอัญเชิญสิบวีรชนและอัศวินของตนมาเทือกเขาเคอัส มิใช่เพื่อล่าดราโกเนี่ยน แต่เป็นการล่ามอนสเตอร์เพื่อเก็บเลเวล


หลังจากย้ายไปยังสันเขาสุดท้าย ปาร์ตี้ชาวโอเวอร์เกียร์เริ่มเข่นฆ่ามอนสเตอร์ที่กระจุกตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่อย่างสนุกสนาน


การเติบโตอย่างก้าวกระโดดชนิดไม่มีใครจินตนาการออกได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้


แกนหลักสำคัญคือบราฮัมและยูเฟอมิน่า


เมื่อเวทมนตร์เสริมแกร่งของบราฮัมและเวทมนตร์มูมัดของยูเฟอมิน่าร่วมมือกัน มอนสเตอร์ดุร้ายเลเวล 500 กว่าก็มีอันต้องสิ้นท่าภายในไม่กี่วินาที


โดยระหว่างที่เวทมนตร์มิอาจแสดงผล สีหน้าของคริสเริ่มเผยความตื่นเต้น เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่มันจะได้เฉิดฉาย ดาบยักษ์ถูกกระหน่ำฟาดใส่มอนสเตอร์ดุร้ายจนร่างกายพวกมันขาดสะบั้นเป็นสองท่อน


เลเวล 400 อยู่ห่างแค่เอื้อมเท่านั้น


***


ชุมชนออนไลน์ที่เกี่ยวกับซาทิสฟายเริ่มถกเถียงกันในประเด็นร้อนแรงมาพักใหญ่


จุดเริ่มต้นมาจากการปรากฏตัวของเผ่าดราโกเนี่ยน ณ เมืองฟรอนเทียร์


ในวิดีโอที่ผู้เล่นบันทึก ความแข็งแกร่งของเผ่าดราโกเนี่ยนถูกพิสูจน์แล้วว่าตรงตามข่าวลือทุกประการ ปราศจากการแต่งเติมโดยสิ้นเชิง สมศักดิ์ศรีของเผ่าพันธุ์นักสู้แสนดุร้าย โดยมีการประเมินไว้ว่า แม้แต่แรงเกอร์แถวหน้าก็ยังมิอาจดวลชนะในรูปแบบตัวต่อตัว


ทว่า อัศวินหนุ่มคนหนึ่งของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กลับดวลชนะไปได้อย่างฉิวเฉียด


ผู้เล่นที่ได้เห็นวิวัฒนาการจาก NPC พิเศษธรรมดา กลายเป็น NPC สุดพิเศษกับตาตัวเอง ต่างพากันตื่นเต้นและเกิดข้อถกเถียง


ส่วนใหญ่เป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของอัศวินหนุ่มลาเด็น รวมถึงประเด็นที่ว่า ทำไม NPC ที่เก่งกาจถึงอยู่ฝ่ายกริดอีกแล้ว


ถูกต้อง


ฉากที่กริดโผล่ออกมาฆ่าซาร์ดขณะลาเด็นใกล้ตาย มิได้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางสักเท่าไร


ในปัจจุบัน ไม่มีใครในโลกที่ไม่ทราบว่าราชาโอเวอร์เกียร์ของทุกคนทรงพลังมากเพียงใด


ไม่ว่ากริดจะสร้างปาฏิหาริย์อีกสักกี่หน ก็คงมิอาจเรียกเสียงฮือฮาจากสาธารณชนได้มากเท่าสมัยอดีตอีกแล้ว เว้นเสียแต่ว่า ชายหนุ่มจะแสดงการ ‘โซโล่คิล’ จอมอสูรระดับแถวหน้าให้ประจักษ์สายตาผู้คนทั่วโลก


= ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้นกับแรงเกอร์แถวหน้าของโอเวอร์เกียร์?


= หมายถึงอะไร?


= ลองดูตารางแรงกิ้งให้ดี อันดับของสิบวีรชนโอเวอร์เกียร์กำลังทะยานสูงขึ้น!


= นายหมายถึงลอเอลที่เพิ่งกระเด็นออกจากอันดับท็อป 100 ใช่ไหม? ฮะฮะ!


= ลอเอลไม่มีพัฒนาการทางเลเวลเพราะเขาต้องคอยบริหารอาณาจักร! แล้วเขาก็ไม่ใช่สิบวีรชน!


= แต่การได้เป็นมหาเสนาบดีต้องรวยมากแน่…


= เลิกพล่ามไร้สาระแล้วรีบแหกตาดูอันดับแรงกิ้งสักที! ฉันไม่ได้ล้อเล่น!


= …?


ผ่านไปสี่วันหลังจากกริดและสิบวีรชนหมกตัวอยู่ในสันเขาที่เจ็ดของเทือกเขาเคอัส


<เลเวลของสมาชิกหลักกิลด์โอเวอร์เกียร์กำลังเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด!>


<มีการสันนิษฐานว่า พวกเขากำลังซุ่มเก็บตัวอยู่บนเทือกเขาเคอัส!>


< (บทความ) เทือกเขาเคอัสถูกปกคลุมไปด้วยพายุหิมะอันบ้าคลั่ง! มนุษย์ปรกติไม่มีทางอาศัยอยู่บนนั้นได้นานแน่นอน!>


บทความมากมายผุดขึ้น


ถือเป็นเหตุการณ์ปรกติเมื่อประเมินว่า สิบวีรชนทุกคนมีอันดับขยับขึ้นอย่างต่ำ 2 ขั้นภายในระยะเวลาเพียง 4 วัน


หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่า ในอีกไม่ช้า กริดและสิบวีรชนจะผูกขาดอันดับ 1 ถึง 11 ของโลกไว้เพียงกิลด์เดียว


แน่นอน ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความไม่ย่อท้อของทุกคน


รวมถึงตัวกริดด้วย


“ฉันเหนื่อยแล้ว…”


ตีสามสี่สิบห้านาที


เมื่อชินยองวูล็อกเอาต์ ชายหนุ่มตรวจสอบเวลาจากหน้าจอแคปซูล


สำหรับยองวูที่ตื่นตี 5 เพื่อออกกำลังกายจนเป็นกิจวัตรมานานหลายปี การโหมเก็บเลเวลในช่วงหลายวันหลังส่งผลให้ตารางชีวิตถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก


“ให้ตายสิ… ความแตกต่างของโซนเวลาช่างโหดร้าย…”


ถึงจะเป็นกริด แต่มันก็เก็บเลเวลตามลำพังบนสันเขาสุดท้ายของเขาเคอัสไม่ไหว ดังนั้น ชายหนุ่มจึงต้องจับกลุ่มเก็บเลเวลแบบปาร์ตี้กับพวกพ้องตลอดเวลา ทุกคนต้องตื่นพร้อมกันและนอนพร้อมกัน แต่ความแตกต่างของไทม์โซนกำลังกัดกร่อนร่างกายชายหนุ่มทีละนิด


‘เรากำลังเอาสุขภาพไปแลกกับเลเวล…’


ยองวูที่มิได้ออกกำลังกายเป็นกิจจะลักษณะมาแล้วหลายวัน เริ่มวอร์มอัปเล็กน้อยหลังจากอาบน้ำเสร็จ และตัดสินใจไม่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนทุกที เพื่อเป็นการถนอมมิให้สุขภาพทรุดโทรมกว่าเดิม


โดยเหตุผลที่สองสามวันก่อนต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก็เพราะไม่มีคนคอยตื่นมาเตรียมอาหารให้ในช่วงเช้าตรู่


ขณะมันเตรียมเปิดตู้เย็นทำอาหารเอง


กิ๊งก่อง~


“…เอาจริงดิ”


ตีสามห้าสิบแปดนาที


กริ่งบ้านดังตอนเกือบตีสี่!


มารยาทอยู่ตรงไหนวะ!


แต่ถึงแม้จะสับสนเล็กน้อย ชินยองวูก็ยังเดินไปทางอินเตอร์โฟนหน้าประตูโดยปราศจากความกังวล


เพราะเหนือสิ่งอื่นใด บ้านหลังนี้มีบอดี้การ์ดสุดแกร่งอย่างทูนคอยอารักขา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนแปลกหน้าเดินเข้ามากดกริ่งส่งเดช


แล้วก็เป็นเช่นนั้น


ใบหน้าที่ปรากฏในอินเตอร์โฟนคือยูร่า


“เกิดอะไรขึ้น…?”


ยองวูซักถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ


ยูร่ายิ้มรับอย่างอ่อนโยน


“ฉันทำอาหารสุขภาพมาให้”


“อะ…!”


หัวใจยองวูพลันถูกสั่นคลอนด้วยความจริงใจและเอาใจใส่ของอีกฝ่าย มันรีบเปิดประตูบ้านต้อนรับยูร่าอย่างมีความสุข


“เข้ามาก่อนสิ”


กริ๊ก.


ประตูปิดสนิท


และไม่เปิดออกอีกเลยจนกระทั่งถึงเช้า


ภายในบ้านบรรยากาศมืดสลัวและเงียบงัน ชายหนึ่งหญิงหนึ่งอาศัยในชายคาเดียวกันตามลำพังโดยไม่มีใครรบกวน…


“แฮ่ก… แฮ่ก…”


“ฮ่าห์~”


ทั้งสองคนกำลังวิ่งบนลู่เพื่อถนอมสุขภาพ


พวกเขาที่มีงานอดิเรกเหมือนกัน เริ่มทำความเข้าใจกันและกันให้มากขึ้น


***


ซาทิสฟายขึ้นชื่อในด้านความสมดุล


แม้โลกอาจยังไม่พบสันติสุขในเร็ววัน แต่สัญญาณกำลังบ่งชี้ไปในทิศทางเชิงบวก


โบสถ์รีเบคก้าที่นำโดยอัครเทวทูตและหน่วยเท็มพล่าสุดทรงอำนาจ กำลังรุกหนักกดดันจนฝ่ายวิหารยาธานต้องตกที่นั่งลำบาก


“อา… ถึงเวลาแล้วสินะ…”


อาโมแรค จอมอสูรแห่งความขัดแย้ง และยังเป็นข้ารับใช้ยาธานอันดับหนึ่ง


หลังจากได้รับ <วิวรณ์*> จากมัน สมาชิกของโบสถ์ยาธานประสบความสำเร็จในการอพยพเข้าสู่เมืองทาลิม่าอย่างปลอดภัยโดยไม่ถูกมังกรเพลิงทราวก้ารบกวน


(การเปิดเผยของพระเจ้า ใช้ในเชิงศาสนา)


เป้าหมายหลักของพวกมัน นอนหลับใหลในเมืองทาลิม่ามาแสนนาน


โบสถ์ยาธานกำลังค้นหา ‘ประตู’ ที่เชื่อมต่อกับขุมนรกและเตรียมเปิดมันออก


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,641
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. น่าจะปูทางไปสู่บทของมังกรไฟแน่ๆ เช่น เหล็กมังดรคลั่งที่วังหลัง กริดที่มีธาตุไฟมาก วิหารยาธานอยู่ทาลิม่า

    ReplyDelete
    Replies
    1. มันต้องปูบทไปขุมนรกก่อนไม่ใช่อ๋อ

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00