จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,239



ดราโกเนี่ยนรักการต่อสู้เพราะพวกมันปรารถนาความแข็งแกร่ง


เป้าหมายคือการพัฒนาฝีมือจนสามารถสังหารศัตรูได้รวดเร็ว เพราะยิ่งได้ฆ่าเร็วเท่าใด ประสบการณ์ก็ยิ่งเพิ่มเร็วเท่านั้น และมีสิทธิ์ข้ามไปสู้กับศัตรูที่น่าตื่นเต้นกว่าเดิม


นี่คือวัฏจักรขั้นบันไดสำหรับเพิ่มความแข็งแกร่งของเผ่าดราโกเนี่ยน


ถูกต้อง


เป็นแนวคิดการบูชานักรบที่แตกต่างจากเผ่าออร์คสนธยาโดยสิ้นเชิง


ขณะที่นักรบออร์คสนธยาต้องการได้รับความยำเกรงจากนักรบคนอื่นภายในเผ่า นักรบดราโกเนี่ยนต่อสู้เพื่อเติมเต็มแรงกระหายของตัวเอง


เฉกเช่นที่มังกรมาร ‘บันเฮเลียร์’ ปรารถนาในการเข่นฆ่าทุกสรรพสิ่ง


“อ๊ากกกก!!”


บึ้ม!!


ฟราวา นักรบดราโกเนี่ยนผู้ถูกลาเด็นแทงหนามแหลมใส่ลำคอ ส่งเสียงคำรามพร้อมกับสะบัดปีกเต็มแรง เกิดเป็นคลื่นกระแทกร่างอัศวินอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือจนลอยกระเด็น


ฟราวาบินถอยไปตั้งหลักสุดขอบเวที สายตามิได้มองไปทางลาเด็น หากแต่เป็นแท่งเหล็กสีแดงในมือที่ทำร้ายตนอย่างเจ็บปวด


“สิ่งนั้น… สร้างจากอะไร?”


สาเหตุที่เกล็ดดราโกเนี่ยนได้ชื่อว่าเป็นของแสลงสำหรับอาวุธประเภทดาบ ปัจจัยหลักมิใช่เพราะความแข็ง แต่เป็นเพราะผิวเกล็ดที่มีลักษณะมันและลื่น


ความเสียหายเกินกว่าครึ่งจะถูกลดทอนลงเสมอ เนื่องจากการคมดาบเกิดการแฉลบเบี่ยงออกด้านข้าง


ดังนั้นในทางทฤษฎี แทบไม่มีโอกาสที่แท่งเหล็กซึ่งหนักเทียบเท่าดาบยาวหนึ่งเล่ม จะมีฤทธิ์ทำลายเกล็ดดราโกเนี่ยนในการกระแทกเพียงหนเดียว


ฟราวาจึงเดาว่า อาวุธในมืออัศวินหนุ่มต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้


แต่สาเหตุที่มันไม่ทราบ เป็นเพราะเผ่าดราโกเนียนปลายแถวจะมีระดับสติปัญญาต่ำและข้อมูลค่อนข้างจำกัด


พวกมันไม่มีทางตระหนักถึงพลังของเทพจากทวีปตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทพที่ถูกมนุษย์ทอดทิ้งไปนาน


“…ประเด็นสำคัญไม่ใช่อาวุธ”


ด้านนอกสังเวียน


ซาร์ด ผู้เฝ้ามองการต่อสู้ด้วยสีหน้าอึมครึม พึมพำออกมาเสียงค่อย


สายตากำลังเพ่งมองลาเด็น มิใช่แท่งเหล็ก


‘เจ้านั่นรู้จักพวกเราเป็นอย่างดี’


ในฐานะคู่ต่อสู้โดยตรง ฟราวาย่อมต้องเพ่งความสนใจไปยังแท่งเหล็กที่ทำให้เกล็ดของตนถูกทำลาย แต่ในฐานะคนนอก ซาร์ดเห็นในมุมที่ฟราวาไม่เห็น แท่งเหล็กเป็นเพียงปัญหารอง ประเด็นหลักอยู่ที่ตัวลาเด็น ซึ่งมีความเข้าใจในแพทเทิร์นการโจมตีของเผ่าดราโกเนี่ยนเป็นอย่างดี


‘ประหนึ่งเคยดวลกับพวกเรามาแล้วหลายร้อยครั้ง…’


สมรรถภาพร่างกายของลาเด็นต่ำกว่าฟราวาในทุกแง่มุม โดยเฉพาะด้านพละกำลังและความว่องไว จุดนี้แตกต่างกันมากจนมิอาจกลบเกลื่อนด้วยเทคนิค


อย่างไรก็ตาม ลาเด็นกลับเล็งโจมตีใส่จุดอ่อนของแพทเทิร์นอย่างแม่นยำทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการสยายปีก การโจมตีด้วยหาง รวมไปถึงการพ่นลมหายใจ


สำหรับมัน อีกฝ่ายเหมือนกับคนที่เคยสู้กับดราโกเนี่ยนมาตลอดชีวิต


‘…เคยเป็นอัศวินของจักรวรรดิ?’


แต่ผิวพรรณเรียบเนียนเกินกว่าจะเป็นไปได้


อัศวินและทหารของจักรวรรดิที่ต้องรับศึกฝั่งดราโกเนี่ยนจะมีเอกลักษณ์พิเศษ นั่นคือแผลเป็นจำนวนมากบนร่างกาย เกิดจากรอยกรงเล็บอันแหลมคมของนักล่าที่ต้องการเล่นสนุกกับเหยื่อ


แต่ลาเด็นไม่มีของแบบนั้นเลย


ซู่ววว!


เมื่อฟราวาพ่นลมหายใจ ลาเด็นตอบสนองได้อย่างสมบูรณ์แบบตามที่ซาร์ดคิด ใช้โล่สีทองเป็นกำบังและพุ่งเข้าหาตรง ๆ ด้วยความเร็วสูง หากอัศวินหนุ่มเลือกเข้าหาทางซ้ายหรือขวา รับรองว่าได้ถูกหางเล่นงานจุดตายแน่นอน


“ช่างน่าขัน!”


ฟราวาเย้ยหยัน ตวัดแขนสองข้างพลางจ้องลาเด็นที่กำลังพุ่งเข้าใส่


กรงเล็บที่แหลมคมและมันวาวสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเช้า สร้างความระคายเคืองแก่ดวงตาของอัศวินหนุ่ม


แต่ลาเด็นยังคงสุขุม ทำตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้าอย่างใจเย็น เอนตัวหลบพร้อมกับพุ่งโถมด้วยโล่ใหญ่


ฉึบ!


กรงเล็บของฟราวาฟันเฉียดศีรษะลาเด็นจนเส้นผมขาดกระเด็นหลายเส้น พลาดเป้าหมายหลักอย่างหน้าผากไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร


แตกต่างจากกรงเล็บสัตว์ที่โดยมากจะมีลักษณะเป็นตะขอ กรงเล็บดราโกเนี่ยนนั้นเหยียดตรงคล้ายใบมีด เน้นสร้างรัศมีการโจมตีที่กว้างและลึก


“…!”


ฟราวาพลันเย็นไปถึงสันหลัง


มันตระหนักอย่างแจ่มชัด เมื่อเห็นลาเด็นจงใจโยกตัวหลบกรงเล็บของตนเพียงฉิวเฉียด


‘มองเห็นการเคลื่อนไหวของเราอย่างทะลุปรุโปร่ง…!’


ลงเอยด้วย


ฉัวะ!!


ฟราวาถูกแท่งเหล็กสีแดงกระแทกใส่แผ่นเกล็ดหนาบนหน้าอก ตามด้วยการทะลวงของหนามแหลมอีกครั้ง


แค่ก!


นักรบดราโกเนี่ยนกระอักเลือดคำใหญ่ พลังชีวิตลดลงจนอยู่ในระดับอันตราย


แต่ฟราวาสัมผัสถึงความผิดปรกติได้หนึ่งเรื่อง


การโจมตีของลาเด็น ลดทอนความรุนแรงจากสองครั้งแรกค่อนข้างมาก


‘เจ้านี่ถึงขีดจำกัดแล้วสินะ…’


สาเหตุที่ลาเด็นสร้างความเสียหายหนักหน่วงให้ฟราวาในการแทงสองครั้งแรก เพราะหนึ่งในเอฟเฟคสำคัญของ <แท่งหนามเต่าดำ> คือการสร้างความเสียหาย 60% ของพลังชีวิตเป้าหมายในปัจจุบัน


เมื่อฟราวาเหลือพลังชีวิตเพียง 20 % หลังจากถูกแทงสองหน หนามแหลมจึงมิได้สร้างความเสียหายเป็นรูปธรรมอีกต่อไป


ฟราวากัดฟันทนต่อความเจ็บปวดที่บรรเทาลงมาก มิได้ส่งเสียงร้อง ตรงกันข้าม กลับไล่ล่าลาเด็นอย่างฮึกเหิมโดยไม่เกรงกลัวการตอบโต้จากอีกฝ่าย


หมัดเท้าถูกประเคนใส่อย่างไร้ความปรานี


กร็อบ!!


เมื่อท่าเตะกระแทกใส่ท้องน้อย ลาเด็นที่ซี่โครงหักอยู่ก่อน ถูกส่งลอยกระเด็นไปยังสุดขอบเวทีประลอง พร้อมกับได้รับความเสียหายมหาศาลจนเลือดออกตามทวารทั้งเจ็ด


ฟราวาฝืนใจไม่ทำพฤติกรรมที่ติดเป็นนิสัย


เดิมที มันจะพ่นลมหายใจใส่เสมอเมื่อศัตรูกระเด็นไปไกล แต่คราวนี้กลับเลือกพุ่งประชิดพร้อมกับฟาดกรงเล็บใส่


เคร้งงงง!!


แผ่นเกล็ดของ <สามชั้น> ดูดซับความเสียหายจากกรงเล็บฟราวาไว้หลายส่วน ไม่เพียงเท่านั้น ปลายเล็บดราโกเนี่ยนยังติดอยู่ในแง่งหนามชุดเกราะ


‘น่ารำคาญทั้งโล่และเกราะ!’


ขณะฟราวาส่ายหน้าพลางออกแรงดึงกรงเล็บ


เปรี้ยะ!


นอกจากแง่งหนามบนชุดเกราะจะเหนี่ยวรั้งมิให้อีกฝ่ายถอนกรงเล็บออกได้ง่าย การฝืนดึงแต่ละครั้งจะยิ่งสร้างรอยร้าวบนเล็บแหลมคม


นี่คือเอฟเฟค ‘หักศาสตรา’


<สามชั้น> ของลาเด็นไม่เพียงจะถูกคัดลอกจากเกราะ <สามชั้น> ของกริด แต่ประสิทธิภาพกลับยังสูงกว่ามาก


นี่มิใช่เรื่องแปลก เพราะกริดในปัจจุบันมีเทคนิคการผลิตไอเท็มสูงกว่าขณะ <สามชั้น> รุ่นแรกถูกสร้างขึ้น


“คึ…! คึฮ่าฮ่าฮ่า!”


เมื่อตระหนักว่ากรงเล็บอันงดงามของตนเริ่มแตกหัก ฟราวาระเบิดเสียงหัวเราะ


ความสุขเหนือคำบรรยายเมื่อได้เห็นมดปลวกพยายามดิ้นรนก่อนถูกฆ่า มันตื้นตันจนเนื้อตัวเต้นระริก


“ต้องอย่างนี้! มาดูกันว่าแกจะทนได้สักกี่น้ำ!”


ฟราวาคำรามอย่างฮึกเหิม ไม่สนใจการโจมตีจากหนามแหลมจากแท่งเหล็กสีแดงอีก เอาแต่กระหน่ำรัวพายุหมัดเท้าเข้าใส่


“อึก…!”


สีหน้าลาเด็นพลันจมดิ่ง


เมื่อตระหนักว่า <สามชั้น> มีสรรพคุณทำลายกรงเล็บ ฟราวาเปลี่ยนจากท่าข่วนเป็นการต่อย เปลี่ยนจากท่าเตะเป็นการถีบ


ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้ลาเด็นตกที่นั่งลำบาก


ซ่าาา! ฟู่วว!


ลาเด็นทำได้เพียงใช้แท่งเหล็กป้องกันกำปั้นและฝ่าเท้าอีกฝ่ายเต็มกลืน แม้เอฟเฟค <พ่นละอองน้ำ> จะแสดงผลจนเกล็ดฟราวาเริ่มสึกกร่อน แต่ด้วยความแตกต่างเชิงกายภาพ อัศวินหนุ่มไม่มีโอกาสสวนกลับแม้แต่ครั้งเดียว


“เซอร์ลาเด็น!!”


“สู้เค้า! ลาเด็น!!”


เมื่อลาเด็นเอาแต่ตั้งโล่รับ ผู้ชมด้านล่างจึงมองเห็นเป็นภาพคล้ายกับเต่าหดหัวในกระดอง


ชาวเมืองหลายพันต่างส่งเสียงให้กำลังใจเมื่อตระหนักว่าลาเด็นที่เคยเหนือกว่า เริ่มตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ


พวกเขาคือคนที่ลาเด็นสัญญาว่าจะปกป้อง


แต่ในปัจจุบัน มันกลับไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จ


แม้จะสวมใส่ยุทธภัณฑ์ที่กริดทุ่มเทแรงใจสร้างให้ตลอดทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นโล่สองอัน ชุดเกราะหนึ่งตัว และอาวุธหนึ่งแท่ง แต่ลาเด็นกลับเห็นแสงแห่งชัยชนะเลือนรางลงทุกขณะ


‘ฝ่าบาท… กระหม่อมไร้ความสามารถ…’


จริงอยู่ จิตใจลาเด็นเข้มแข็งเกินพิกัด เรื่องนี้ไม่เคยมีใครกังขา แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวย มันรู้สึกผิดหวังกับตัวเองที่มิอาจสนองความต้องการของพระราชา


ทันใดนั้น เข่าลาเด็นเริ่มบิดงอ


ฟราวาโถมน้ำหนักทั้งตัวถีบใส่โล่ จนเกิดแรงกระแทกมหาศาลแก่อวัยวะภายใน


“อึก…!”


อัศวินหนุ่มโอดครวญด้วยร่างกายสั่นเทา


มันเจ็บปวดเจียนตายจนเกือบจับโล่ไว้ไม่อยู่


โล่ที่เคยมีน้ำหนักเบาและคล่องตัว ยามนี้กลับหนักอึ้งประหนึ่งระฆังวิหาร


‘จะจบแค่นี้หรือ…’


ย้อนกลับไปในช่วงสิบนาทีแรก ลาเด็นมองเห็นแสงแห่งชัยชนะรำไร เนื่องจากฟราวามีระดับต่ำกว่าดราโกเนี่ยนที่มันเคยจำลองในจินตนาการพอสมควร


แม้จะไม่เคยเอาชนะดราโกเนี่ยนในจินตนาการได้เลย แต่หากเป็นฟราวา ลาเด็นยังพอมีความหวัง


มันตื่นเต้นที่จะได้สร้างความสุขแก่ประชาชนชาวฟรอนเทียร์ รวมไปถึงการตอบสนองความคาดหวังของฝ่าบาทกริด


แต่หลังจากผ่านไป 20 นาที ลาเด็นตระหนักว่าทั้งหมดเป็นเพียงมโนภาพเลื่อนลอย


‘…เรามันไร้ประโยชน์’


แต่ไหนแต่ไร ผู้คนมักยกย่องให้ลาเด็นเป็นอัจฉริยะเสมอ และมันก็ไม่เคยปฏิเสธ


เด็กหนุ่มน้อมรับคำชมอย่างเต็มใจ เนื่องจากเคยแสดงฝีมือให้ทุกคนประจักษ์แล้วว่า ตนคืออัศวินที่คู่ควรแก่การรับใช้ดยุคสไตม์


ทั้งหมดเป็นเพียงความโอหังอันโง่เขลา…


‘เราไม่คู่ควรกับคำยกย่อง’


ขณะอัศวินหนุ่มใคร่ครวญถึงความอ่อนหัด


ฟ้าว…


เสียงเสียดสีของสายลมที่มักดังกึกก้องในทุกการเหวี่ยงกำปั้นของฟราวา ลาเด็นกลับเริ่มได้ยินเบาลง


ขณะเดียวกัน ในทัศนวิสัยของลาเด็น มือเท้าฟราวาเริ่มขยับเขยื้อนช้าลงจากปรกติ จนถึงขั้นมองตามทันและโยกตัวหลบได้ไม่ยากเย็นนัก


ฟุ่บ…


หางแหลมยาวของฟราวาที่ผงาดขึ้นและเตรียมแทงลอดช่องว่างระหว่างโล่ ลาเด็นมองเห็นมันกำลังเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า


“…อะไรกัน!”


ฟราวา ผู้หมายทะลวงคออัศวินหนุ่มให้ขาดสะบั้น พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นดำมืด


ในวินาทีที่ลาเด็นโยกคอหลบหลีกการโจมตีจากหางได้ฉิวเฉียด ฟราวาเริ่มสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล


‘แรงฮึดสุดท้าย?’


แม้จะเป็นดราโกเนี่ยนหางแถว แต่ฟราวาก็เคยสังหารมนุษย์มากมายนับไม่ถ้วน เคยเผชิญเหตุการณ์แปลกประหลาดก็ไม่น้อย


หนึ่งในนั้นคือ เมื่อสัตว์ร้ายหรือมนุษย์ใกล้สิ้นลม พลังที่เหนือขีดจำกัดจะถูกระเบิดออกมาในช่วงเวลาสั้น ๆ


ลาเด็นกำลังเป็นเช่นนั้น


ฟราวาตัดสินใจถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่าง


ดวงตาเพ่งมองลาเด็นที่อีกไม่นานก็คงหมดแรงและสิ้นลมไปเอง


…แต่สิ่งนั้นกลับไม่เกิดขึ้น


ลาเด็นคืออัจฉริยะระดับอาณาจักร


สมัยยังเป็นอัศวินหนุ่มอ่อนประสบการณ์ มันเคยใช้สัมผัสอันเฉียบคมหยั่งถึงการมีอยู่ของราชันแห่งเงา คาซิม โดยที่คนอื่นไม่ทราบ


ลำพังเมื่อวานวันเดียว ฝีมือลาเด็นพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากการดวลกับเฮลทาวอนมายาหลายร้อยยก


และในวินาทีนี้ มันกำลังดวลกับฟราวาโดยมีชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน


ได้เวลาที่พรสวรรค์อันเหลือล้น จะผลิบานจากองค์ประกอบมากมายที่เร่งให้เกิดการปะทุ


[อัจฉริยะนิรนามคนหนึ่ง พัฒนากลายเป็นยอดนักรบที่ผู้คนต่างเคารพนับถือ]


ขณะที่ข้อความโลกปรากฏ


บรึ้มมม!!


คลื่นกระแทกปริศนาพลันระเบิดออกไปรอบลานประลองโดยมีลาเด็นเป็นจุดศูนย์กลาง


เป็นคลื่นพลังที่รุนแรงจนฟราวา ผู้ไม่เคยคิดกระพือปีกปัดโพรเจกไตล์ของลาเด็น ตัดสินใจกางปีกออกอย่างลนลานตามสัญชาตญาณ เพื่อสร้างม่านลมสำหรับดูดซับแรงกระแทก


“ชิ!”


ฟราวาเตรียมบินหนีขึ้นฟ้า จะได้ตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันจากมุมสูงอย่างใจเย็น


แต่ลาเด็นไม่ปล่อยให้ทำ


ท่ามกลางพื้นเวทีที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด


อัศวินหนุ่มอาศัยพลังพิเศษจาก <แท่งหนามเต่าดำ> รวบรวมเลือดที่เจิ่งนองบนพื้น สร้างปีกสีแดงเข้มหนึ่งคู่กึ่งกลางแผ่นหลัง จากนั้นก็ปรี่เข้าใส่ฟราวาที่กำลังยืนชะงักจากผลข้างเคียงของท่าปัดโพรเจกไตล์


“ไส่หัวไป!!”


ฟราวาเผยสีหน้าตกตะลึง ตามด้วยการสะบัดปีกอีกครั้งเพื่อสร้างคลื่นล่องหน หวังทำให้อีกฝ่ายเสียหลักล้มลง


อย่างไรก็ตาม ลาเด็นโฉมใหม่สามารถหยั่งถึงสิ่งที่ซับซ้อนอย่างปราณล่องหนได้แล้ว


เมื่อนำพรสวรรค์ด้านประสาทสัมผัสผนวกกับการตื่นตัวของเซลล์ทุกหน่วยในร่างกาย ท่าพุ่งของลาเด็นจึงมีสรรพคุณคล้าย <เคลื่อนที่อิสระ> ที่กริดมักใช้เป็นไพ่เด็ดสำหรับหลบหลีกท่าโจมตีแบบไม่ล็อกเป้า


ฟุ่บ!


หลังจากหลบหลีกทุกสิ่งโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ลาเด็นเข้าประชิดตัวฟราวาสำเร็จในพริบตา


ฟราวาเริ่มตระหนักถึงลางร้าย


มันเกิดความหวาดกลัวต่อแท่งเหล็กสีแดงที่ตนเคยคิดว่าหมดฤทธิ์ไปนานแล้ว


ลงเอยด้วย


“ว๊ากกกกกก!”


ฟราวาแหกปากคำรามพลางพ่นลมหายใจ สองมือตวัดข่วนกรงเล็บใส่อัศวินหนุ่มตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง


ลมหายใจสีดำถูกเล็งใส่ใบหน้า สองกรงเล็บหมายข่วนทำลายหน้าอกลาเด็นให้ขาดสะบั้น


แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสตัว


ฉึก!


หนามแหลมจากแทงเหล็กของลาเด็น ทะลวงลึกเข้าไปในหน้าผากของฟราวาอย่างไร้ความปรานี


ลมหายใจสีดำที่ถูกพ่นออกจากจมูกได้เกินครึ่งทาง อีกไม่กี่เซนติเมตรก็จะแผดเผาร่างอัศวินหนุ่มจนมอดไหม้ พลันอันตรธานหายไปราวกับเป็นเพียงภาพลวงตา


เมื่อเจ้าของลมหายใจเสียชีวิต ท่ามโจมตีก็หมดฤทธิ์โดยพลัน


“…อะ!”


“เฮ—!!”


“สุดยอด! ลาเด็น!”


หลังจากชาวฟรอนเทียร์เห็นเต็มสองตาว่า นักรบดราโกเนี่ยน ‘ฟราวา’ ถูกเปลี่ยนให้เป็นละอองแสงสีเทา ณ ใจกลางลานประลอง ทุกคนพลันตะโกนโห่ร้องสุดเสียง บ้านที่เคยปิดประตูหน้าต่างสนิท ถึงกับต้องชะโงกออกมามอง


ฟรอนเทียร์ถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศแห่งความชื่นมื่นร่าเริง


“แฮ่ก… แฮ่ก…!”


ตุบ!


ลาเด็นที่ยืนหยัดตามลำพังบนเวที ถึงคราวหมดเรี่ยวแรงและนอนแผ่ไปบนพื้น


ทันใดนั้น เงาดำจุดหนึ่งปรากฏเหนือร่างอัศวินหนุ่มที่มิอาจขยับได้แม้แต่ปลายนิ้ว


เป็นซาร์ด


น้ำเสียงแสนเย็นชาของซาร์ดที่เปล่งพลางกางปีกออกกว้าง ได้ทำลายบรรยากาศยินดีปรีดารอบเมืองฟรอนเทียร์ในพริบตา


“เป็นการต่อสู้ที่น่าสนใจมาก ดังนั้นข้าจะรักษาสัญญา… แต่เจ้านี่ต้องตาย”


จริงอยู่ ซาร์ดยอมรับศักยภาพในตัวลาเด็น


อีกแค่ไม่กี่ปี เด็กหนุ่มคนนี้ต้องมีฝีมือทัดเทียมอัศวินสีชาดหลักเดียวได้แน่


แต่ถึงอย่างนั้น มอนสเตอร์บนเทือกเขาเคอัสก็ยังแข็งแกร่งกว่าลาเด็นหลายเท่า


อัศวินหนุ่มแห่งฟรอนเทียร์คงมิอาจสร้างความสนุกสนานให้ดราโกเนี่ยนได้สักเท่าไร


เพื่อที่จะปกครองฟรอนเทียร์ด้วยความหวาดกลัว มันตัดสินใจเชือดวีรบุรุษของชาวเมืองทิ้ง


อีกหนึ่งเหตุผลคือ เป็นการลงโทษที่บังอาจเข่นฆ่าชาวดราโกเนี่ยน จะได้ไม่มีใครกล้าทำเป็นแบบอย่างในอนาคต


ซาร์ดไม่ลังเล


ฉึบ.


หางแหลมยาวที่ยาวกว่าของฟราวา พุ่งลงโดยมีเป้าหมายเป็นลำคอของลาเด็น


ไม่ว่าใครก็มองออกว่า การโจมตีครั้งนี้จะทำให้ลาเด็นหมดสิทธิ์ลุกขึ้นมาอีกตลอดกาล


“…”


ลาเด็นมิได้ดิ้นรนขัดขืน ไม่แม้แต่ขยับตัว


ทำเพียงนอนมองปลายหางพุ่งเข้าหาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า


ปลงแล้ว?


ไม่ใช่


มันทราบดี หากการดวลกับฟราวาจบลงเมื่อไร ตนจะไม่มีทางถูกฆ่าตายด้วยปัจจัยภายนอกเด็ดขาด


“มายาร่ายรำสะพรั่ง!”


เพราะที่นี่ยังมีกริด


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


ฝ่าบาทกริด บุคคลที่ชาวโอเวอร์เกียร์เชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก


ขณะปราณดาบสีฟ้ากำลังพุ่งถล่มใส่ซาร์ดพร้อมกับสร้างแรงระเบิดต่อเนื่อง


“สะพรั่งทำลายล้างร่ายรำสังหาร!”


เพียงราชาโอเวอร์เกียร์ปรากฏกาย ซาร์ดก็สิ้นท่าภายในเสี้ยววินาที


‘ก…แกรนมาสเตอร์?’


ซาร์ดที่ร่างกายยับเยินยิ่งกว่าผ้าขี้ริ้ว ดวงตากำลังเทาด้วยความหวาดกลัวจากก้นบึ้ง


มันไม่เข้าใจเลยสักนิด เหตุใดบุคคลที่มีฝีมือทัดเทียมกับอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิ ถึงมาปรากฏตัวตรงหน้าตนได้


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,634
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. จะได้เมียน้อยอีกคนเปนเผ่าดราโกเนียมั้ยนิ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00