จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,196



“2เลเวล? รางวัลเจ๋งเป้ง!”


แรงเกอร์ท็อป 1,000 ผู้ได้รับภารกิจ <เสียงเพรียกจากสวรรค์> ล้วนออกอาการตื่นเต้นยินดี


สำหรับพวกมันซึ่งถูกเรียกว่าไฮแรงเกอร์ เลเวลขั้นต่ำคือ 370


การเก็บเลเวลตลอดทั้งวันจะมอบค่าประสบการณ์เพียง 4 ถึง 5% ดังนั้น หากมีภารกิจใดตอบแทนด้วยการอัปเลเวล คงยากจะมีใครปฏิเสธความเย้ายวนนี้ได้


ไม่ต้องพูดถึงการอัปทีเดียวสองเลเวล สิ่งนี้คงรู้สึกดีไม่ต่างจากฝนตกหลังแดดร้อนมาทั้งวัน


“นี่เป็นอีเวนต์ใหญ่รึเปล่า?”


“พวก SA รู้จักเอาใจผู้เล่นแนวหน้าสักที”


ภารกิจมอบรางวัลตอบแทนอันหอมหวานทำให้ผู้คนเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลังมือ


เแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะระบบตีบวก สุ่มกาชา ผลิตไอเท็ม และอีกมาก หากเป็นระบบเกี่ยวกับการเสี่ยงโชค ทาง SA มักถูกทางเหล่าแรงเกอร์ ‘สรรเสริญ’ อย่างเสียหมาอยู่เสมอ


แต่ก็ดีใจได้เพียงสิบวินาที


“…เส้นตายหนึ่งสัปดาห์”


“เอ๋…? อ่านผิดรึเปล่า!”


ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงของงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ จริงอยู่ ระยะเวลาอาจเหลือแค่วันเดียว แต่นั่นหมายถึงสามวันในซาทิสฟาย


และแน่นอน ไฮแรงเกอร์ส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักกีฬาเข้าแข่งซาทิสฟายนานาชาติ


จึงเป็นไปไม่ได้เลยในทางทฤษฎี กับการเดินทางไปให้ถึงเมืองเฉาจื่อ ณ อาจักรชิงบนทวีปตะวันออกภายในระยะเวลาเพียง 4 วัน


“อีเวนต์คราวนี้เหลวไหลสิ้นดี! ต้องเป็นการกลั่นแกล้งกันแน่”


“พวก SA ส้นตีน! ทำไมถึงจัดอีเวนต์ในเวลาแบบนี้? ไม่แยแสความรู้สึกของนักกีฬาร่วมงานแข่งเลยรึไง”


“อย่างน้อยก็ควรมีรางวัลชดเชยติดมือให้นักกีฬาในงานบ้าง! ไม่ใช่คอยแต่เอาไม้ตีท้ายทอยพวกเราทุกปีแบบนี้!”


ย้อนกลับไปในอดีต กริดเคยประกาศพลิกแผ่นดินล่าเวอราดินพร้อมกับค่าหัว


ตรงข้ามกับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบ เหล่าไฮแรงเกอร์ล้วนเห็นอกเห็นใจกริด พวกมันต่างมองว่า หากตนตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน ก็คงมีการตัดสินใจไม่ต่างกันมากนัก


จากมุมมองของไฮแรงเกอร์และนักกีฬางานแข่งนานาชาติ พวกมันต้องการให้ SA ช่วยปกป้องผู้เข้าแข่งมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้มีคนโชคร้ายแบบกริดเกิดขึ้นอีก


แต่น่าเสียดาย ในปัจจุบัน พวกมันกำลังเผชิญสถานการณ์นั้นกับตัว


ทว่า ศัตรูกลับไม่ใช่ผู้เล่น แต่เป็นผู้ให้บริการเกมจิตใจโหดหิน


ยิ่ง SA เข้าใกล้การครองโลกมากขึ้นทุกขณะ ความสนใจต่อผู้เล่นก็ยิ่งลดน้อยลงเป็นเงาตามตัว ไม่มีการแก้กฎการแข่งซาทิสฟายนานาชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์นักกีฬาเข้าแข่งแม้จะผ่านมาแล้วหลายปี


“ไหนบอกว่านักกีฬาต้องปกป้องสิทธิ์ของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนแข่ง แล้วทำไมถึงหักหลังกันแบบนี้ได้? ไม่อยากให้ไฮแรงเกอร์เข้าร่วมงานแข่งในปีถัดไปแล้วรึไง!”


“SA ไม่รู้จักนำบทเรียนกลับไปปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ไม่เคยฟังเสียงวิจารณ์ของสาธารณชน สักแต่จะให้บริการเกมตามอำเภอใจ ไม่ฟังความเห็นของใครหน้าไหนทั้งสิ้น”


“ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นักกีฬาเข้าแข่งนานาชาติจะมีแต่พวกอ่อนหัด! แล้ว SA จะต้องเสียใจในพฤติกรรมของตัวเอง”


“ปัญหาคือท่าทีของคนส่วนใหญ่ หลายคนเลือกจะนิ่งเมื่อถูก SA เอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะนักกีฬาร่วมงานแข่ง ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกันคว่ำบาตรมากกว่านี้ ทาง SA จะต้องเริ่มสำนึกขึ้นมาบ้างแน่”


“น่าจะยาก ถึงในสายตาคนทั่วไป งานแข่งนานาชาติจะเป็นเทศกาลรื่นเริง แต่ในสายตาแรงเกอร์ระดับท็อป งานนี้ถือเป็นอีเวนต์กอบโกยรางวัลและความมั่งคั่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่มีทางสนใจการคว่ำบาตรร่วมกับพวกเราอยู่แล้ว”


“ฉันคิดว่า SA ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรในอนาคต และพวกเราก็จะเสียเปรียบคนอื่นทุกครั้งเมื่อสละเวลามาร่วมแข่งขัน”


ปัญหาทั้งหมดเริ่มต้นจากภารกิจมอบ 2 เลเวลระหว่างงานแข่งนานาชาติ


ความไม่พอใจของนักกีฬาเข้าแข่งเริ่มปะทุอย่างร้อนแรงประหนึ่งเปลวไฟในเตาหลอม ศรแห่งความเคียดแค้นกำลังพุ่งตรงไปยัง SA กรุป


จนกระทั่ง นักกีฬาต่างรวมตัวกันเพื่อขอเข้าพบทีมบริหารของ SA กรุปภายในเมืองนิวยอร์ค


“ได้โปรดยืดระยะเวลาภารกิจเสียงเพรียกจากสวรรค์ออกไปด้วย”


และคำตอบก็ไม่ผิดคาด


“ไม่ได้ แบบนั้นไม่ยุติธรรม”


“ไม่ยุติธรรมอะไร? แล้วแบบนี้มันยุติธรรมกับพวกเราตรงไหน!”


“ทำไมถึงไม่ยุติธรรมกับพวกคุณ? นักกีฬามีโอกาสได้รับรางวัลใหญ่ในงานแข่งนานาชาติซึ่งหาจากในเกมไม่ได้ ถ้าทางเรายืดภารกิจออกไปเพื่อพวกคุณโดยเฉพาะ ผู้เล่นซึ่งไม่ได้เข้าแข่งอาจเกิดความไม่พอใจเอาได้”


“เหลวไหล! ผู้เล่นไม่ได้เข้าแข่งก็มีสิทธิ์เก็บเลเวลหรือล่าบอสขณะพวกกำลังสละเวลามาเข้าแข่งนานาชาตินี่ไง! ทำไมคุณถึงพูดเหมือนพวกเราได้รับประโยชน์ฝ่ายเดียวโดยไม่ต้องเสียสละอะไรเลย!”


“ภารกิจนี้ถือเป็นการชดเชยเลเวลให้กับผู้เล่นซึ่งไม่เข้าร่วมงานแข่ง เพื่อให้ไม่ถูกเอาเปรียบจากนักกีฬาผู้ได้รับรางวัลในการแข่งมากเกินไป”


“บ้าบอสิ้นดี! ตรรกะสิ้นคิดอะไรของคุณ! ช่างหัวแม่ง! ไม่แข่งมันแล้วโว้ย!”


บรรดานักกีฬาต่างโกรธแค้นเมื่อได้รับคำตอบในเชิงไม่แยแส บางคนถึงขั้นประกาศว่าจะละทิ้งการแข่งในวันสุดท้าย


ทว่า SA กรุปไม่แม้แต่กะพริบตา


“จุดประสงค์ของงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติคือการสร้างความกลมเกลียวของคนทั่วโลก นักกีฬาจะต้องช่วยเพิ่มความนิยมให้เกมซาทิสฟาย และต้องเป็นตัวอย่างอันดีให้กับเยาวชน หากนักกีฬาขาดความรับผิดชอบด้วยการละทิ้งงานแข่งกลางคัน ทางเราจะริบเหรียญก่อนหน้าทั้งหมดคืนและไม่มอบรางวัลใดให้ นอกจากนั้นยังมีบทลงโทษตามมาในภายหลัง”


“พวกสารเลว…!”


ลงเอยด้วย กลุ่มนักกีฬาสบถอย่างหยาบคายเสียงดังฟังชัด


ระบบแรงเกอร์ของซาทิสฟายค่อนข้างละเอียดอ่อน ในบางครั้ง ความต่างแค่ 1% อาจทำให้อันดับหล่นลงไปนับสิบ


แต่ตรงข้ามกับการชดเชยเลเวลให้นักกีฬาเข้าแข่งขัน ทาง SA กรุปเลือกชดเชยเลเวลให้แรงเกอร์ฝั่งไม่ได้เข้าแข่งแทน เรื่องเหลวไหลแบบนี้ทำให้ใครบางคนหัวเสียจนเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่


สถานการณ์เริ่มบานปลาย


“เรื่องของมึงสิ! จะทำอะไรก็เชิญ! บทลงโทษ? ไม่สนแล้วโว้ย! กูก็ไม่คิดจะเข้าแข่งงานส้นตีนแบบนี้แล้วเหมือนกัน! ค*ย!”


มีนักกีฬาคิดถอนตัวค่อนข้างมาก


โดยเฉพาะนักกีฬาผู้ไม่ได้รับเหรียญรางวัลใดเลยตลอดสี่วันผ่านมา


ในทางกลับกัน ผู้ได้รับเหรียญทองย่อมออกอาการลังเลชัดเจน


แต่ก่อนจะกลับไป พวกมันได้เตือนให้ SA กรุประวังพฤติกรรมของตัวเองไว้ให้ดี


***


“…ผมเข้าใจพวกเขานะ”


เมื่อนักกีฬาทุกคนกลับ


สายตาของเหล่าทีมงาน SA ต่างหันมาจ้องยุนซังมินอย่างพร้อมเพรียง


ผู้อำนวยการยุนซังมินมีสีหน้าอิดโรย


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น มันลงทุนจากบ้านเกิดมาถึงนิวยอร์คอันห่างไกลเพื่อทุ่มเวลาชีวิตจัดงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติล่วงหน้านานนับเดือน หากไม่เหน็ดเหนื่อยคงจะแปลกมากกว่า


มันคิดในใจมาตลอดว่า ‘อีกแค่วันเดียวเท่านั้น’ แต่เรื่องไม่คาดฝันดันเกิดขึ้นเสียก่อน สถานการณ์จึงดำเนินไปในทิศทางน่าหดหู่


มันถูกทำร้ายโดยกริด


กริดซึ่งมันชื่นชมและชื่นชอบอย่างมาก


“ผมเข้าใจพวกเขา แต่พวกเรายังจะทำอะไรได้อีกหรือ หากยืดเวลาให้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นักกีฬาพวกนี้จะกอบโกยผลประโยชน์อย่างมหาศาลภายในไม่กี่วัน นั่นจะไม่ยุติธรรมกับนักกีฬาผู้ไม่ได้เข้าแข่ง ไม่ว่าจะเพราะความสมัครใจหรือขาดโอกาสก็ตาม… และเหนือสิ่งอื่นใด”


ทีมปฏิบัติการของ SA ไม่มีอำนาจแทรกแซงตัวเกมโดยเด็ดขาด พวกมันไม่มีสิทธิ์ยืดภารกิจของฮานึลออกไปอีกหนึ่งวัน


แม้แต่ลิมชอลโฮก็ไม่


ประธานลิมชอลโฮเคยกล่าวไว้ชัดเจนว่า ประวัติศาสตร์ของซาทิสฟายต้องถูกเขียนด้วยมือของผู้เล่นเท่านั้น จะไม่ปล่อยให้ใครแทรกแซงเรื่องนี้แน่นอน


“…ผมก็แค่ทำตามกฎของเบื้องบน”


ยุนซังมินถอนหายใจยาว มันไม่สามารถอธิบายเหตุผลแท้จริงให้กับนักกีฬาได้


แต่ในทางกลับ ยุนซังมินก็มองว่า เหตุการณ์ในวันนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของซาทิสฟายมากนัก


งานแข่งนานาชาติเป็นเพียงรายได้เสริม


คุณค่าของซาทิสฟายอยู่ในตัวซาทิสฟายเอง


ยุนซังมินเชื่อว่า ถึงแม้ผู้เล่นจะละทิ้งงานแข่ง แต่คงไม่มีใครละทิ้งการเล่นซาทิสฟายได้แน่


‘ถึงจะน่าเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยก็เถอะ…’


ผู้อำนวยการยุนเปิดหน้าจอบนโต๊ะทำงานของตนหลังจากปิดไปสักพัก


เป็นจอมอนิเตอร์ภาพมุมกว้างภายในปราสาทราชาอสูร บรรยากาศโดยรอบเป็นไปอย่างเย็นยะเยือกน่าขนลุก


ประตูสี่ทิศถูกคุ้มกันโดยสี่ราชันสวรรค์ ส่วนราชาอสูรกำลังยืนเด่นสง่าบนระเบียงยอดหอคอยสูงสุด


ดาเมี่ยน


มันคือดาวดวงใหม่ ผู้กำลังจะได้แจ้งเกิดถัดจากครอเกลและกริด


เมื่อมีอัครทูตเป็นหนึ่งในสี่ราชันสวรรค์ ดาเมี่ยนถูกคาดการณ์ว่าจะสั่งสมพลังชีวิตได้มากกว่ากริดในปีก่อน และนั่นยิ่งทำให้ฝ่ายผู้เล่นสิ้นหวังเมื่อนำไปผนวกกับทักษะบัฟและฮีลแบบเปอร์เซ็นต์


หรือก็คือ ดาเมี่ยนควรจะได้เฉิดฉายไปทั่วโลกในการแข่งปิดท้าย


แต่น่าเสียดาย ดูเหมือนแสงไฟจะสาดส่องไปไม่ถึงดาเมี่ยนในปีนี้


“…คุณคงยังไม่ถึงเวลาจะเป็นพระเอก”


ขณะยุนซังมินจ้องมองดาเมี่ยนในจอภาพ


“อิสซาเบลจัง… ได้โปรดช่วยถ่วงเวลาให้ผมนาน ๆ ด้วยเถิด!”


ด้วยเส้นผมสีเงินซึ่งแพลมออกจากหมวกเหล็กทรงกะโหลกมังกร ดาเมี่ยนกำลังก้มหน้าสวดวิงวอนจากก้นบึ้ง


ตลอดสี่วันผ่านมา มันเฝ้าจับตาการแข่งของสมาชิกโอเวอร์เกียร์อย่างใกล้ชิด และได้ประจักษ์ความน่ากลัวของพวกพ้องรวมถึงครอเกล


“ได้โปรด…! ทำยังไงก็ได้! ได้โปรดอย่าปล่อยให้สัตว์ประหลาดเหล่านั้นเข้ามาได้!”


“…”


ตรงข้ามกับภาพลักษณ์สันตะปาปาผู้น่าเกรงขาม ราชาอสูรกับกำลังกราบไหว้สี่ราชันสวรรค์อย่างน่าสมเพช


***


“คุณบอกว่าพวกเราไม่ควรทำ?”


“นั่นคือคำแนะนำของฉัน”


“…?”


หลังจากเข้าพบยุนซังมิน กลุ่มนักกีฬาได้ขอประชุมพูดคุยกับสมาชิกโอเวอร์เกียร์


พวกมันพยายามโน้มน้าวให้อีกฝ่ายเห็นด้วยและร่วมกันคว่ำบาตรงานแข่ง เผื่อว่าถ้านักกีฬายอดนิยมของกิลด์โอเวอร์เกียร์ถอนตัวกันหมด ทาง SA จะหันมาให้ความสนใจกับปัญหานี้บ้าง และเหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาเคยเป็นเหยื่อของช่องโหว่ในการแข่งมาแล้ว น่าจะเข้าใจหัวอกเดียวกันได้ไม่ยาก


แต่คำตอบเหนือความคาดหมายกลับปรากฏขึ้นตั้งแต่คำแรกโดยยังไม่ทันเริ่มเจรจา


ท่าทีตอบสนองของโอเวอร์เกียร์ตรงข้ามกับจินตนาการพวกมัน


“ภารกิจคราวนี้ พวกคุณไม่ควรทำ”


กิลด์โอเวอร์เกียร์มีประสบการณ์ไม่ดีกับภารกิจ <เสียงเพรียกจากสวรรค์> มาก่อน แม้ว่าคราวนี้จะมีรางวัลตอบแทนมากถึง 2 เลเวลก็ตาม


“เพราะเหตุใดกัน? พวกคุณกลัวไปถึงจุดหมายไม่ทันเวลาหรือ”


“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง มีคนเคยเดินทางไปถึงอาณาจักรชิงได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ภารกิจคราวนี้ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก”


“เปล่า พวกเราจะกลัวหลงทำไม ในเมื่อโอเวอร์เกียร์มีสกังค์อยู่ทั้งคน”


“แล้วปัญหาคือ?”


“เคยได้ดินภารกิจล้างบางช่างตีเหล็กไหม”


“หือ? เคยสิ…”


กลุ่มผู้เล่นพยักหน้าให้จิสึกะ


หลายปีก่อน ซาทิสฟายเคยมีภารกิจใหญ่ระดับสามารถเข้าร่วมได้ทั้งคลาส และคลาสผู้โชคดีก็คือช่างตีเหล็ก


แต่ ณ เวลานั้น มีช่างเหล็กเพียง 100 คนเดินทางไปแพงเจียทันเวลา เนื่องจากทวีปตะวันออกยังเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับผู้เล่นทั่วไป


“ได้ยืนมาว่า ช่างเหล็กของโอเวอร์เกียร์เดินทางไปทำภารกิจ แต่สุดท้ายถูกฆ่าตายหมด… สรุปแล้วนั่นเป็นความจริงหรอกหรือ”


“จริง และดูเหมือนผู้มอบภารกิจในคราวนี้ จะเป็นคนเดียวกับผู้มอบภารกิจคราวก่อน”


“…ใครกัน?”


“ยังบัน”


“…!”


กิลด์โอเวอร์เกียร์เชื่อว่า ผู้มอบภารกิจล่อลวงช่างตีเหล็กเมื่อหลายปีก่อนคือยังบัน


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น คงยังไม่มีผู้เล่นคนใดทราบถึงตัวตนนามว่าฮานึลแน่


แม้กระทั่งกริดเองก็ตาม


และแค่ยังบันก็มีน้ำหนักเพียงพอแล้ว


“ย…ยังบัน?”


ใบหน้ากลุ่มนักกีฬาพลันขาวซีด


ในฐานะไฮแรงเกอร์ ข้อมูลข่าวสารในมือยอมมีไม่น้อย พวกพอจะทราบว่ายังบันคือตัวตนระดับเทพ


เทพผู้ดูแคลนเย้ยหยันมนุษย์


จิสึกะอมยิ้มพลางจ้องมอง


“การเข้าไปข้องเกี่ยวกับไอ้ระยำพรรค์นั้นคงไม่ใช่เรื่องฉลาดสักเท่าไร… คิดเหมือนกันใช่ไหม”


“…”


ไม่มีใครปฏิเสธ


เมื่อได้ยินว่าภารกิจมีกลิ่นไม่ดี นักกีฬาหลายฝ่ายตัดสินใจถอนตัว


***


หลังจากกลุ่มนักกีฬาเดินออกจากห้องพักรับรองซึ่งมีเพียงสมาชิกโอเวอร์เกียร์เหลืออยู่ เสียงของลอเอลดังขึ้น


> ทำได้ดี


เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือ


จิสึกะขมวดคิ้ว


“แบบนี้จะไม่เป็นไรแน่หรือ”


จากคำบอกเล่าของลอเอล หากผู้เล่นคนใดตอบรับภารกิจ มีโอกาสค่อนข้างมาก ในการจะกลายเป็นศัตรูกับกริดภายหลัง


และถ้าภารกิจถูกสร้างโดยยังบัน ‘วายร้าย’ ในเนื้อหาของภารกิจก็น่าจะเป็นกริด ผู้กำลังขัดแย้งกับอาณาจักรฮวานในปัจจุบัน


จากมุมมองกิลด์โอเวอร์เกียร์ พวกมันควรยับยั้งมิให้แรงเกอร์ท็อป 1,000 เข้าร่วมด้วยประการทั้งปวง


“ฉันคิดว่า พวกเราควรโน้มน้าวผู้เล่นคนอื่นด้วยความจริงใจมากกว่า บางที หากทราบว่าอีกฝ่ายคือกริด พวกเขาอาจยอมถอนตัวไปเองก็ได้”


> ไม่เลย นั่นจะตรงกันข้าม การเปิดเผยว่าเป็นกริดไม่ต่างอะไรกับพฤติกรรมยั่วยุ จิสึกะ เธอคงทราบดีกว่าใคร ว่าไฮแรงเกอร์หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีมากแค่ไหน


“นั่นก็ใช่…”


หากเอ่ยชื่อกริดออกไป ต่อให้ไม่เกลียดชังกริดมาก่อน แต่ก็คงมีหลายคนอยาก ‘ลองของ’


ขณะเดียวกัน ศักดิ์ศรีของกริดอาจต้องมัวหมอง และถูกวิจารณ์ว่าเป็นพวกหวาดกลัวความพ่ายแพ้จนโร่ร้องขอให้ผู้อื่นไม่เข้าร่วม


ดังนั้น ทางโอเวอร์เกียร์ต้องรับมือกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม


> ในเมื่อเป็นภารกิจจากยังบัน เราสามารถนำเหตุการณ์สังหารหมู่ช่างตีเหล็กในอดีตมาเป็นข้ออ้างได้ เพียงเท่านี้ก็มากพอจะทำให้หลายคนเปลี่ยนใจแล้ว


“แล้วกับคนไม่เปลี่ยนใจล่ะ?”


เมื่อจิสึกะหวนนึกถึงความแข็งแกร่งของยังบันซึ่งตนเพิ่งได้ต่อสู้มาไม่นาน ร่างกายหญิงสาวเกิดอาการสั่นเทาแผ่วเบา


“ถ้ามีแรงเกอร์เพิ่มเข้าไปอีกสักไม่กี่สิบคน กริดต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากแน่ เพราะขนาดจอมเวททรงพลังบราฮัมยังทำได้เพียง ใช้โลกจินตภาพกักขังการัมโดยมิอาจเอาชนะตามลำพัง… ถ้าอย่างนั้น พวกเราต้องรีบเตรียมตัวไปช่วยกริดแล้ว!”


> ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเธอถอนตัวจากงานแข่ง แรงเกอร์คนอื่นก็จะเข้าใจว่าเธอหลอกพวกเขาเพื่อกอบโกยรางวัลแต่เพียงผู้เดียว ผลลัพธ์จะออกมาตรงกันข้าม ฉะนั้น จงแสร้งทำเป็นหิวกระหายเหรียญทองและเดินหน้าแข่งต่อไป กอบโกยให้มากเข้าไว้


“…”


> อย่าลืม พวกนายทุกคนลงแข่งนานาชาติปีนี้ไปเพื่ออะไร เชื่อฉัน ลมหายใจสัตว์เทพจะเป็นประโยชน์ต่อกริดในระยะยาวมากกว่า


“แล้วนายจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง? คิดจะส่งเมอร์เซเดสกับปิอาโร่ไปทวีปตะวันออกหรือ”


> ไม่ได้ ฉันไม่มีทางปล่อยให้ NPC คนสำคัญต้องเข้าไปเสี่ยงในเขตสงคราม ตอนนี้พวกเราลดทอนแรงเกอร์ไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว คงทำอะไรมากกว่านี้อีกไม่ได้


“…?”


> จิสึกะ ช่วยเยือกเย็นหน่อย อย่าปล่อยให้ความรักต่อกริดบังตา ทุกคนเคยล้มเหลว และกริดเคยล้มเหลวมากกว่าใครทั้งหมด


“นายกำลังพูดเรื่องอะไร…”


> กริดกำลังจะแพ้ และเขาจะกลับไรน์ฮาร์ท


“นี่นาย…!”


ใบหน้าหญิงสาวพลันแดงก่ำ


เธอเริ่มไม่เชื่อใจลอเอล ผู้บอกว่ากริดกำลังจะประสบความล้มเหลวโดยไม่แยแส


ลอเอลตอบสนองอย่างเย็นชา


> กริดกำลังต่อสู้กับพระเจ้า เธอคิดว่ากริดจะเอาชนะพระเจ้า และกลายเป็นผู้ปกครองโลกคนใหม่หรือไง ตอบฉันมา


“…!”


> เธออย่าได้ลืมว่า ความคาดหวัง หากมีมากเกินไป มันจะกลายเป็นภาระ


“…”


จิสึกะก้มหน้าลง


เธอเริ่มตระหนักว่า ทุกคนในโอเวอร์เกียร์คาดหวังให้กริดได้รับชัยชนะมากเกินไป และหากแสดงออกให้อีกฝ่ายเห็น นั่นจะไม่ต่างอะไรกับการสร้างความกดดัน


> ทำหัวให้เย็นลง และดาหน้ากวาดเหรียญทองอื่น ๆ มาให้หมด เธอพลาดไปแล้วหนึ่ง ห้ามพลาดอีกเป็นอันขาด


ฉึบ.


ลอเอลวางสาย


บรรยากาศภายในห้องพลันอึมครึม


ยูร่ามีท่าทีตอบสนองไม่ต่างจากจิสึกะ สมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นก็เช่นกัน


ตั้งแต่เมื่อไรกัน…


พวกตนคาดหวังชัยชนะ 100% จากกริดตั้งแต่ตอนไหน…


“…ลอเอลพูดถูก พวกเราต้องคว้าเหรียญทองอื่นทั้งหมดมาไว้ในมือ เมื่อกริดเสียใจกลับมายังไรน์ฮา์รท ไม่มีสิ่งใดปลอบใจได้ดีกว่าลมหายใจเทพผู้พิทักษ์อีกแล้ว”


คริสทำลายความเงียบงัน


สมาชิกทุกคนพยักหน้ารับพร้อมเพรียง


***


ในเวลาเดียวกัน


“สนุกฉิบหาย”


กริดกำลังเดินทางข้ามภูเขาสลับแม่น้ำ


แต่ไม่มีอุปสรรคใดหยุดยั้งชายหนุ่มได้


ต้องขอบคุณความสุดยอดของ <เทพธรณี>


ทุกครั้งเมื่อเทพธรณีสุ่มแสดงผล กริดจะเปลี่ยนภูเขาลาดชันหรือแม่น้ำเชี่ยวกราก ให้กลายเป็นเพียงพื้นราบเดินสะดวก


ชายหนุ่มเดินอย่างสบายใจโดยนำมือไพล่หลังทั้งสองข้างพลางฮัมเพลง


“…เขาเป็นมนุษย์จริงหรือ”


กลุ่มของชิลชอนต่างกำลังจ้องกริดอย่างไม่เชื่อสายตา


สำหรับพวกมัน ชายคนนี้เหมือนเทพยิ่งกว่ายังบันเสียอีก


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,585
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  2. ว่าจะดอง แต่แอบเห็น😁
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​แอด​🙏

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00