จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,186



“ทำไมเธอถึง…?”


ร่างกายแสนอ่อนนุ่มและขนปุกปุย


กริดในอ้อมกอดของแฮมสเตอร์ยักษ์ กำลังยืนสับสนกับเหตุการณ์ตรงหน้า


ราชินีหนู


เฉกเช่นเมื่อครั้งแรกพบ เธอกำลังสวมมงกุฏหยาบและผ้าคลุมเก่าโทรมตัวใหญ่ ลักษณะไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วมากนัก แต่ในทางสามัญสำนึก ราชินีหนูไม่สมควรมีลมหายใจอยู่บนโลกอีกแล้ว


กริดฆ่าหล่อนไปกับมือ


แล้วทำไมถึงยังดูเหมือนกับมีชีวิตจิตใจ ไม่ต่างอะไรกับคนเป็น…


ราชินีหนูปล่อยมือจากกริดพลางยิ้มให้


ในอดีต เธอคือหนูพิษน่ารังเกียจ แต่ปัจจุบันกลับไม่เหลือกลิ่นอายความชั่วร้ายหรือพิษกัดกร่อน มีเพียงรอยยิ้มอบอุ่นและเป็นกันเอง


“ข้าคืนชีพเพราะเทพฟินิกซ์แดงคืนชีพ สิ่งนี้คือความพิเศษของสัตว์เทพผู้รับใช้พระองค์”


สัตว์รับใช้ของเทพผู้พิทักษ์จะไม่มีวันถูกฆ่าตายด้วยวิธีการปรกติ เฉกเช่นเสื้อครามผู้มิอาจถูกฆ่าด้วยฝีมือยังบัน


คล้ายกับไฮดร้า หากไม่ใช้วิธีพิเศษหรือการลดทอนพลังศรัทธา การกำจัดให้สิ้นซากแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย


คิดมาถึงจุดนี้ กริดรีบกวาดสายตาสำรวจไปรอบตัว จุดประสงค์เพื่อค้นหา ‘เพศผู้’ ให้พบ


แต่ตรงนี้กลับมีเพียงราชินีหนูผู้เดียว


“อะ…” ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหนี ไม่กล้าสบตากับราชินีหนู


หล่อนเผยรอยยิ้มขื่นขม


“ท่านกำลังเป็นห่วงสามีข้าใช่ไหม”


“…”


“สามีของข้าเป็นเพียงสัตว์วิเศษ ไม่ใช่สัตว์รับใช้เหมือนข้า การตายในร่างมอนสเตอร์จะไม่สามารถคืนชีพกลับมาได้”


“…”


ในการพบกันครั้งแรกระหว่างกริดและราชินีหนู เธอไม่ได้อยู่ตัวตนเดียว ในกระโจมยังมีหนูตัวผู้ด้วยอีกหนึ่ง


สามีของเธอ <หนูแข็งแกร่งเพศผู้>


แต่ความสงบสุขของเธอก็ถูกทำลาย


กริดเป็นผู้สังหารสามีของราชินีหนูกับมือ


จริงอยู่ ชุมนุมหนูใหญ่พิษในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นแค่กลุ่มมอนสเตอร์ด้อยสติปัญญา ไม่ใช่สัตว์วิเศษเหมือนปัจจุบัน การดำรงอยู่ของพวกมันทำให้ชาวเมืองแพงเจียต้องเดือดร้อน


กริดกวาดล้างชุมชนหนูใหญ่พิษเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ขณะเดียวกันก็หวังให้ชาวเมืองเกิดความชื่นชอบตน


แต่เมื่อมองย้อนกลับไป โศกนาฏกรรมครั้งนั้นค่อนข้างน่าเศร้า ชายหนุ่มรู้สึกผิดจากก้นบึ้ง


‘…แต่ตอนนั้น เราทำไปเพราะความถูกต้อง ในฐานะมนุษย์ ไม่มีเหตุผลให้ต้องขอโทษเธอ’


ตรงกันข้าม ยิ่งขอโทษ ราชินีหนูจะยิ่งแบกรับภาระทางจิตใจมากกว่าเดิม


เมื่อประเมินจากสถานะของชุมนุมหนูใหญ่พิษในขณะนั้น การกระทำของกริดนับว่าสมเหตุสมผลแล้ว หากมันต้องเป็นฝ่ายขอโทษ เกรงว่าราชินีหนูจะยิ่งรู้สึกแย่


‘ในตอนนั้น การกำจัดพวกเขาคือทางเลือกถูกต้องแล้ว และยังส่งผลดีมาจนถึงปัจจุบัน ช่วยให้เรามีโอกาสทำภารกิจคืนชีพฟินิกซ์แดง”


ฉึบ.


ราชินีหนูเหยียดแขนออกมาหากริด ผู้เอาแต่ยืนนิ่งและปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดจากันแม้แต่คำเดียว


“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่โกรธท่าน หากวันนั้นท่านไม่ลงมือ ชุมนุมหนูใหญ่พิษจะยิ่งสร้างความเดือดร้อนแก่มวลมนุษย์ ซึ่งข้าและสามีไม่ต้องการให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น ได้โปรดอย่าเศร้าโศกไปเลย ท่านผู้มีพระคุณ”


“…ขอบคุณมาก คยองจา”


เมื่อคืนชีพใหม่ในฐานะสัตว์รับใช้ของเทพผู้พิทักษ์ ราชินีหนูมีชื่อจริงว่า <คยองจา>


ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร ว่าทำไมราชินีหนูถึงได้มีชื่อไพเราะนัก แต่เสือครามกลับมีชื่อสุดห่วยอย่าง ‘เสือคราม’


ขณะเดียวกัน ชื่อของเธอส่งผลต่อจิตใจและมุมมองของกริดไม่น้อย


‘ชื่อคล้ายกับคุณย่า…’


“มู่ว! มู่ว! มู่ว! ราชินีจงเจริญ!”


“มู่ว! มู่ว! เป็นมิตรกับมนุษย์ตลอดไป!”


เมื่อเห็นกริดและคยองจาจับมือกันด้วยบรรยากาศชื่นมื่น เหล่าหนูด้านนอกต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องพลางใช้สามง่ามกระแทกพื้นอึกทึก


ท่อนขาของเผ่าพันธุ์แฮมสเตอร์มีลักษณะสั้นป้อมผิดจากลำตัว ยิ่งผนวกกับขนปุกปุยก็ยิ่งเหมือนก้อนกลมๆ อันน่ารักน่าชัง


ไม่หลงเหลือกลิ่นอายความชั่วร้ายสมัยยังเป็นหนูใหญ่พิษอีกแล้ว


ท่ามกลางความเอะอะวุ่นวาย


“…”


บราฮัมเอาแต่ยืนนิ่ง


ว่ากันตามตรง หากจะถามว่าใครเป็นผู้สังหารสามีของราชินีหนู คำตอบแท้จริงคงเป็นบราฮัมมากกว่ากริด


ในตอนนั้น บราฮัมกำลังผสานวิญญาณกับร่างกริด ใช้เวทตั้งเวลาจำนวนมากผูกกับศรเวท และปิดฉากด้วยการกระหน่ำโจมตีใส่หนูแข็งแรงเพศผู้จนถึงแก่ความตาย


แต่คยองจาย่อมไม่ทราบเรื่องนี้


แน่นอน กริดเองก็ไม่คิดโยนความผิด


ไม่มีเหตุผลให้ต้องโทษบราฮัม ท่ามกลางวินาทีความเป็นความตาย หากไม่ฆ่าก็ต้องเป็นฝ่ายถูกฆ่า บราฮัมย่อมเลือกรักษาชีวิตกริด


“วัวดำก็คืนชีพแล้วใช่ไหม” กริดถามพลางหันไปมองกลุ่มหนูซึ่งกำลังเต้นรำอย่างมีความสุข


คยองจาพยักหน้ารับ


“ถูกต้อง เขาเองก็เป็นหนึ่งในสัตว์รับใช้เทพผู้พิทักษ์ หลังจากคืนชีพ วัวดำได้แปลงกายเป็นมนุษย์ และเดินทางไปยังหมู่บ้านเพื่อเข้าบ่อนพนันทันที…”


“…?”


“ขอเวลาสักครู่”


ตึง!


ราชินีหนูนั่งลง พื้นดินพลันสะเทือนเล็กน้อย แม้จะมีร่างกายใหญ่โตกว่ากริดราวสองเท่า แต่ช่วงขาของเธอสั้นมาก การยืนเป็นเวลานานจะไม่เกิดผลดีไม่ระยะยาว


“ท่านแวะเข้ามาเพราะเป็นห่วงเสือครามกับโทซุนใช่ไหม”


หลังจากเทพฟินิกซ์แดงคืนชีพ คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากกริดจะแวะมาหาเสือครามและโทซุนสักครั้ง


ชายหนุ่มพยักหน้า


“ถูกต้อง ฉันเคยเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของพวกเขา แต่ตอนนี้ไม่อีกแล้ว หลังจากเห็นว่าเธอยังแข็งแรงสมบูรณ์ดี”


“นั่นก็ไม่ผิด แต่ได้โปรดอยู่รอก่อน ทุกคนกำลังต้องการพบหน้าท่าน…”


ขณะคยองจากำลังเล่า


“กริดดด!! โฮกกกก!!”


“เทพ! ท่านเทพ!”


เสือหลายสิบตัวกำลังตะกุยสี่ขาเพื่อเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้กริดและคยองจา ด้านหลังเกิดฝุ่นควันคละคลุ้งฟุ้งกระจาย


เสือครามวิ่งนำหน้าสุด โทซุนนั่งบนหัวไหล่


“พวกนาย…!”


กริดเผยสีหน้าโล่งใจ ไม่เพียงเสือครามและโทซุน แต่เสือเขี้ยวกุดตัวอื่น ผู้ยอมเสียสละตัวเองเพื่อรับมือฮันกยอล ก็ยังแลดูสบายดี


ชายหนุ่มเคยเข้าใจว่า พวกเขาคงถูกยังบันฮันกยอลเชือดทิ้งหมดไปแล้ว แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง


กลุ่มเสือเขี้ยวกุดหยุดยืนหน้ากริด และกล่าวพลางแยกเขี้ยวปลอมด้วยท่าทีสุดแสนภูมิใจ


“ทานกริด ทำหน้าแบบนั้นทำไมหรือ? โฮก? ท่านเป็นห่วงพวกเราหรือ”


“ไม่ต้องกังวลไป! พวกเรายังแข็งแรงสมบูรณ์ สูบบุหรี่ไปได้อีกหลายปี! โฮกกก!”


“กริด! ข้าไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเจ้าจะชุบชีวิตท่านเทพฟินิกซ์แดงได้รวดเร็วเช่นนี้! ขอบคุณมาก! กริด! ขอบคุณมาก!”


“แอ๊พ!”


เสือคราม ผู้กำลังดีใจจนออกนอกหน้า โผกอดกริดอย่างแนบแน่นในลักษณะเดียวกับราชินีหนูเมื่อครู่


[ได้รับความเสียหาย 18,500]


เสือย่อมเป็นเสือ


ไม่เหมือนกับแฮมสเตอร์แขนขาสั้นป้อมและขนปุกปุย เสือครามมีแต่กล้ามเนื้อ แรงกอดรัดจากมันทำให้ชายหนุ่มถึงกับเจ็บหลัง


“อ๊า! นายมันป่าเถื่อน!”


โทซุนรีบกระชากเสือครามออกจากกริด ตามด้วยการลูบไล้แผ่นหลังชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน


“ข้าจะไม่ลืมความกล้าหาญของท่าน จะไม่ลืมความเด็ดเดี่ยวขณะท่านเผชิญหน้ากับยังบันเพื่อปกปกป้องชุมชนกระต่ายของพวกเรา… ท่านเทพคุณธรรม”


“…”


ท่ามกลางเสียงนกร้อง กริดกำลังถูกรายล้อมด้วยบรรดาสัตว์วิเศษและสัตว์เทพซึ่งคอยรับใช้เทพผู้พิทักษ์ ชายหนุ่มซึมซับบรรยากาศอบอุ่นอ่อนโยนเข้าไปทีละนิด จนกระทั่ง มันเริ่มขมวดชนกัน


จริงอยู่ เป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อได้เห็นทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แต่การเรียกตนว่าเทพคุณธรรมมันดีแล้วหรือ…


กริดรีบปฏิเสธ


“อย่าได้เรียกฉันว่าเทพ ตอนนี้ยังเป็นเพียงสามัญชนเดินดิน”


“นั่นก็จริง แต่คุณงามความดีของท่านจะไม่หยุดลงเท่านี้แน่ และจะกลายเป็นเทพคุณธรรมตัวจริงในสักวันอยู่ดี…”


“ท่านกริด พกขนมต็อกมาด้วยรึเปล่า?”


“โฮกก! ข้าอยากกินขนมต็อก!”


“…พวกนายเงียบก่อน”


ตรงข้ามกับไฮดร้า ซึ่งกลายเป็นสัตว์เทวตำนานจากการเข่นฆ่าเทพ เหล่าสัตว์จักรราศีได้กลายเป็นสัตว์เทพ เพราะพวกมันคอยรับใช้เทพผู้พิทักษ์อย่างซื่อสัตย์มาตลอด


เปรียบดังผู้ส่งสารแห่งเทพ


จริงอยู่ อาจเป็นเรื่องดี เมื่อมีตัวกลางคอยสานสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทพให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่สัตว์รับใช้เหล่านี้มักแสดงพฤติกรรมตรงไปตรงมาเกินไปในบางครั้ง


คงเพราะเป็นสัตว์ จึงอ่านและตีความสีหน้าของมนุษย์ได้ไม่เก่ง จึงมีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา


กริดพยายามมอบคำแนะนำ โดยหวังให้สัตว์เทพเหล่านี้ ช่วยปกป้องคุ้มครองและอยู่ร่วมกับชาวแดนใต้อย่างมีความสุข


ผ่านไปจนกระทั่ง


“ท… ท่านกริดมีหัวใจฟินิกซ์แดง!”


เสือครามจ้องมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าประหลาดใจสุดขีด


ได้ยินเช่นนั้น ทั้งคยองจาและโทซุนต่างหันมาเพ่งสายตาจ้องมองอย่างละเอียด


“ส…สุดยอด! ท่านกริดมีหัวใจของเทพฟินิกซ์แดงจริงด้วย!”


“แฮ่ม! แน่นอนอยู่แล้ว เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณช่วยคืนชีพตน ท่านเทพฟินิกซ์แดงคงไม่ตระหนี่เกินไปนัก”


“อะ…”


กริดเพิ่งตระหนักได้ มันลืมเสียสนิทว่าตนกำลังครอบครอง ‘หัวใจเทพ’ อยู่


ไม่ต้องมีคำบรรยายให้ซับซ้อน การเปลี่ยน ‘อักขระแห่งความมืด’ ให้กลายเป็น ‘อักขระแห่งความตะกละ’ ก็มากพอจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หัวใจของเทพมีพลังยอดเยี่ยมมากเพียงใด


“เทพฟินิกซ์แดงมอบหัวใจลำดับ 1,000 ให้ท่านใช่ไหม?”


“ไม่ ข้าว่าลำดับ 999 มากกว่า”


“ไม่หรอกกระมัง หัวใจสามหลักมิได้ถูกมอบให้มนุษย์ง่ายดายเช่นนั้น อุตส่าห์สั่งสมพลังมานานหลายปี”


“ก็เพราะมันมีค่า ท่านถึงต้องมอบให้กริด! เพื่อแลกกับการคืนชีพแล้ว ยอมสละหัวใจสามหลักสักดวงก็นับว่าคุ้มค่ามาก ป่านนี้ห้าอาวุโสคงอกแตกตายไปแล้วกระมัง”


หัวใจของเทพฟินิกซ์แดงจะสั่งสมพลังเมื่อเวลาผ่านไป ทุกหนึ่งปีจะมีหัวใจใหม่ถือกำเนิดขึ้นเสมอ ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มพลังให้กับหัวใจดวงเก่าทั้งหมด


จึงหมายความว่า ยิ่งเป็นหัวใจน้อยหลักมากเท่าใด ปริมาณพลังงานเทพก็ยิ่งเข้มข้นมากเท่านั้น ดังนั้น การสูญเสียหัวสำคัญไป จะส่งผลโดยตรงกับความแข็งแกร่งของฟินิกซ์แดง


เสือครามยังคงยืนกรานคำตอบเดิม


“กริดเป็นผู้มีพระคุณคนสำคัญ ข้ามั่นใจว่าเทพฟินิกซ์แดงจะยอมมอบหัวใจลำดับ 999”


ต้องสารภาพตามตรง ขณะเสือครามส่งคันศรฟินิกซ์แดงให้กริดพร้อมมอบภารกิจ มันคาดไม่ถึงมาก่อนว่า อีกฝ่ายจะทำสำเร็จได้ภายในระยะเพียงไม่กี่วันเท่านั้น


ตอนแรกคิดไว้ว่าจะล้มเหลวด้วยซ้ำ เมื่อเห็นว่ากริดกำลังถูกยังบันการัมตามล่าตัว


เสือครามมองสถานการณ์ไปตามจริง อีกฝ่ายเป็นถึงห้าอาวุโสและยังบัน ซึ่งเคยผนึกพลังของตนและเทพผู้พิทักษ์สำเร็จมาแล้ว


แต่ผลลัพธ์กลับออกมาตรงข้ามกับความคาดหมายอย่างน่าอัศจรรย์ กริดคืนชีพให้ฟินิกซ์แดงได้ในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น


มันจึงเชื่อว่า การได้รับหัวใจฟินิกซ์แดงแสนสำคัญอย่างลำดับ 999 นับเป็นเรื่องคู่ควรแล้ว


เสือครามจ้องชายหนุ่มด้วยสายตาคาดหวัง


กริดยอมเปิดปากเล่า


“ฉันได้… หัวใจลำดับเก้า”


“…!?”


“…!?”


ดวงตาเหล่าสัตว์เทพและสัตว์วิเศษพลันเบิกโพลงพร้อมเพรียง ตาดำกำลังสั่นเทาราวกับจะหลุดออกจากเบ้าเสียให้ได้


“มันดีขนาดนั้นเลยหรือ”


ชายหนุ่มไม่เข้าใจ ทำไมทุกคนถึงต้องแสดงอากัปกิริยาเกินพอดีเช่นนี้ด้วย


จริงอยู่ กริดยอมรับในความยิ่งใหญ่ของหัวใจฟินิกซ์แดงลำดับเก้า ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลง ‘อักขระ’ อันเป็นระบบสำคัญในซาทิสฟายได้


แต่ว่ากันตามตรง กริดไม่ได้มองว่าการเปลี่ยนจากอักขระแห่งความมืด เป็นอักขระแห่งความตะกละ จะยกระดับตัวละครอะไรได้มากขนาดนั้น เรียกว่าค่อนข้างเสียประโยชน์ด้วยซ้ำ


จริงอยู่ อักขระชนิดใหม่เน้นหนักไปในด้านพลังด้านการฮีล การฟื้นตัว และค่าเรี่ยวแรงเป็นสำคัญ ถือเป็นปัจจัยช่วยยื้อชีวิตได้ดี


แต่ก็เท่านั้น หากนำไปเทียบกับอักขระความมืดซึ่งมีร่างมืดให้ใช้งาน กริดมองว่าเป็นการลดระดับลงเล็กน้อยด้วยซ้ำ หรือต่อให้เป็นการอัปเกรดจริง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นต้องตื่นตะลึงจนตาค้างเช่นนี้


ทันใดนั้น โทซุนตะโกนเสียงดัง


“ต้องยอดเยี่ยมอยู่แล้ว!! เพราะหัวใจหลักเดียวของท่าน… ไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นหนึ่งในเก้าเศษเสี้ยวหัวใจเทพแท้จริง!!”


“…?”


เมื่อโทซุนเริ่มควบคุมสติไม่อยู่ คยองจาช่วยอธิบายอย่างใจเย็น


“เล่าให้เห็นภาพ เทพผู้พิทักษ์จะไม่มีวันตายโดยสมบูรณ์ ถ้าหัวใจหลักเดียวทั้งเก้าดวงยังอยู่ครบถ้วน แม้แต่ห้าอาวุโสก็มิอาจทำลายหัวใจหลักเดียวได้ สิ่งนี้ไม่มีวันถูกโจมตีจากภายนอก ขอเพียงยังมีหัวใจหลักเดียวครบถ้วนในตัว เทพผู้พิทักษ์ก็จะเป็นอมตะไปตลอดกาล”


หรือสรุปก็คือ


“หัวใจทั้งเก้าดวงจะหมายถึงชีวิตของเทพผู้พิทักษ์เอง และยังเป็นกุญแจหนึ่งในเก้าดอกซึ่งคอยกุมชะตากรรมดินแดนภาคใต้เอาไว้ และท่านกริดกำลังถือกุญแจดังกล่าวไว้หนึ่งดอก”


“…”


กริดถึงกับหมดคำพูด


มันเริ่มเข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใด ฟินิกซ์แดงถึงมอบหัวใจลำดับเก้าแสนสำคัญมาให้ตน


‘เขาเลือกเราเป็นพวกพ้องคนสำคัญ’


ตลอดไป…


กริดเลื่อนมือขึ้นมากุมหัวใจ เมื่อสัมผัสว่ามีเสียงหัวใจเต้นสองจังหวะ ชายหนุ่มเริ่มหวนนึกถึงบทกวีลำดับ 4 ของตน


เราสัญญาว่าจะกลายเป็นเทพ…


สัญญาว่าจะปกป้องโลก โลกซึ่งมีชะตากรรมต้องดำเนินไปถึงจุดจบ หากไม่มีใครคิดเปลี่ยนแปลงมัน


‘และจากคำสาบานนั้น…’


เทพฟินิกซ์แดงเลือกสนับสนุนเรา


“…”


กริดหรี่ตาลง


ท่ามกลางแสงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ชายหนุ่มยืนนิ่งด้วยท่วงท่าสง่างามเป็นเวลานาน


นานแค่ไหนไม่มีใครทราบ กริดเรียกสติกลับมาและรีบเปิดช่องสัมภาระ


มันหยิบบรรดาไอเท็มดรอปจากการัมออกมาพร้อมกับค้อนตีเหล็ก


ชายหนุ่มก้มหน้าไตร่ตรองว่า ตนควรพัฒนาอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


“มาแข็งแกร่งไปด้วยกันเถอะ…”


[ท่านตัดสินใจดึงศักยภาพซ่อนเร้น]


[กรุณาเลือกทักษะหลักสำหรับอัปเกรด]


[< (ท้าทายเทพ) การผลิตของช่างเหล็กในตำนาน [แท้จริง] > ระดับสูงสุด ถูกพัฒนาไปเป็น <การผลิตของช่างเหล็กทัดเทียมเทพ> Lv.1]


[<การผลิตของช่างเหล็กทัดเทียมเทพ> ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ทักษะการผลิต เอฟเฟคจะคงอยู่จนกว่าท่านจะสร้างไอเท็มสำเร็จ 1 ชิ้น]


“เริ่มต้นด้วยความโอเวอร์เกียร์”


[เอฟเฟคของบทกวีลำดับ 1 กำลังแสดงผลร่วมกับ <การผลิตของช่างเหล็กทัดเทียมเทพ>!]


[บทกวีลำดับ 1 จะมอบผลลัพธ์เทียบเท่ากับการทุบค้อนนวดโลหะจำนวน 10 ล้านครั้ง…]


[เอฟเฟคของบทกวีลำดับ 1 จะทำให้ค่าสถานะและทักษะของไอเท็มเพิ่มขึ้น 20%]


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,576
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. บ๊ะ!!!
    คักแท้👍😁

    ReplyDelete
  2. สนุกมากกกก ขอบคุณนะครับ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00