จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,187



กริดไม่มีวันลืม


ภาพความทรงจำของช่างตีเหล็กในอุดมคติ


ชายผู้ยืนหน้าทั่งเหล็กเงาแวววาวด้วยมาดองอาจสง่างาม รอบตัวรายล้อมด้วยทะเลเมฆสีทองเป็นฉากหลัง


มันเสกเปลวเพลิงอันร้อนแรงออกจากหัวนมเพื่อใช้หลอมละลายโลหะ และใช้ค้อนซึ่งอัดแน่นด้วยพลังสายฟ้าเข้มข้น กระหน่ำทุบนวดโลหะจนกว่าจะพึงพอใจ


เฮ็กเซเทีย เทพแห่งการตีเหล็ก แบบอย่างในอุดมคติของช่างเหล็กทุกคนบนโลก รวมถึงกริด


ยกเว้นเรื่องหัวนม…


“…ฟู่ว!”


‘ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเอาชนะนายได้’


นั่นคือบางส่วนของบทสนทนาสุดท้ายระหว่างกริดและการัม


ชายหนุ่มเจียมตัวและตระหนักดี ด้วยฝีมือปัจจุบันของตน การเอาชนะบุคคลระดับเทพเทียมอย่างการัม นั้นแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้น


นี่เป็นขีดจำกัดของผู้เล่น


ใช่แล้ว ต้องไม่ลืมว่า กริดเป็นแค่ผู้เล่น


ไม่เพียงจะมีอัตราการเติบโตต่ำกว่า NPC พิเศษมาก แต่พลังและระบบบางอย่างยังพันธนาการขีดจำกัดของผู้เล่นไว้ จุดได้เปรียบเพียงอย่างเดียวคงเป็น สามารถตายแล้วเกิดใหม่ได้ตลอด ซึ่งตรงกันข้ามกับชีวิตเดียวของ NPC


ไม่ว่าจะก้มหน้าก้มตาเก็บเลเวลสักเพียงใด ฝึกปรือฝีมือจนเก่งกาจสักแค่ไหน หรือต่อให้กลายเป็นเทพแท้จริงได้สำเร็จ แต่ก็จะถูกระบบบางอย่างของเกมเหนี่ยวรั้งไว้อยู่ดี


นี่เป็นการคาดเดาโดยมีเหตุผลรองรับ


กริดเชื่อว่า ต่อให้ตนกลายเป็นเทพ แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับ NPC ระดับเทพด้วยกัน การต่อสู้จะไม่มีทางออกมาสูสี ตนจะพ่ายแพ้เยี่ยงสุนัขข้างถนน


ฉะนั้น ชายหนุ่มจึงไม่โอหัง มันมิได้กล่าวออกไปเหมือนกับพระเอกในการ์ตูนทำนองว่า ‘ฉันจะก้าวข้ามนายให้ได้ในสักวัน!’


เมื่อทำใจยอมรับความสิ้นหวังได้ กริดตัดสินใจละทิ้งศักดิ์ศรี อาศัยความร่วมมือจากบราฮัมและพวกพ้องสิบวีรชน ในการรุมโจมตีการัมด้วยทุกสิ่งทุกอย่างในมือ


หากหวังดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับบุคคลระดับเทพเทียมให้ชนะ กริดคงได้กล้ำกลืนความคับแค้นดังกล่าวไปจนตาย


ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด ไม่ว่ากริดจะพัฒนาตัวเองได้ไกลแค่ไหน แต่หากมีความฝันเป็นการดวลตัวต่อตัวให้ชนะการัม มันคงไม่มีวันสมหวังจนกระทั่งซาทิสฟายปิดตัว


หรือต่อให้การัมฟั่นเฟือน โอกาสชนะเทพเทียมก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นสักเท่าไร นอกเสียจากกริดจะมีพลังระดับเดียวกับฮานึลหรือรีเบคก้า


แต่ในปัจจุบัน ชายหนุ่มกลับมานึกทบทวนและลองไตร่ตรองดูใหม่


มันเริ่มมองเห็นโอกาสข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ผ่าน ‘หัวใจฟินิกซ์แดง’


พลังฟื้นฟูและคืนสภาพ


หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ‘การเด้งเลือด’


มันเริ่มฉุกคิดได้ หลังจากเหล่าสัตว์เทพให้ความสำคัญกับหัวใจลำดับเก้าของฟินิกซ์แดงอย่างออกนอกหน้า


ถึงจะเป็นระยะเวลาแสนสั้นเพียงสิบกว่าวินาที แต่ในช่วงดังกล่าว มนุษย์ได้ข้ามขีดจำกัดของเผ่าพันธุ์ไปอีกหนึ่งก้าวกระโดดใหญ่


เป็นเอาชนะขีดจำกัดโดยแท้จริง มิใช่วลีติดปากอย่าง ‘เก่งเกินมนุษย์’ หรือ ‘เก่งจนไม่ใช่คน’ ซึ่งมักใช้สื่อถึงฝีมือมากกว่าพลังต่อสู้


“…”


กริดเพ่งสมาธิลึกลงไป


พยายามนึกทบทวนรูปร่างและรายละเอียดของดาบเล่มสีฟ้าครามแสนงดงาม ประหนึ่งถูกแกะสลักจากน้ำแข็งบริสุทธิ์


<ดาบเฮ็กเซเทีย>

เกรด : มิธ

พลังโจมตี : 28,990


นอกจากพลังโจมตี กริดจดจำรายละเอียดอื่นไม่ได้อีกแล้ว


ขณะได้อ่านข้อมูลครั้งแรก ชายหนุ่มแทบไม่อยากเชื่อว่า ของแบบนี้จะมีอยู่จริงในซาทิสฟาย


ค่าพลังโจมตีเหลวไหลเกินไป


แต่กับตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว นับตั้งแต่ตระหนักถึงความสำคัญของหัวใจฟินิกซ์แดง กริดก็เริ่มมองทุกสิ่งในมุมใหม่


แม้จะเป็นเวลาแค่สิบกว่าวินาที แต่หากผู้เล่นอย่างตนเข้าถึงการ ‘เด้งเลือด’ ปริมาณมหาศาลเกินขีดจำกัดมนุษย์ได้ นั่นย่อมหมายความว่า ขีดจำกัดด้านอื่นก็สามารถก้าวข้ามกำแพงในระดับผู้เล่นได้เช่นกัน


<การผลิตของช่างเหล็กทัดเทียมเทพ> Lv.1

เพิ่มปุ่มสร้างอัตโนมัติ และลดเวลาการผลิตลงจากเดิมอย่างมาก

* ระดับต่ำสุดของไอเท็มคือยูนีค

* มีโอกาสปานกลางในการได้รับไอเท็มเกรดเลเจนดารี

* หากเงื่อนไขสอดคล้องกัน มีโอกาสได้รับไอเท็มเกรดมิธในอัตราต่ำ

* ค่าสถานะไอเท็มจะสูงกว่าตัวเลขในสูตรการผลิต 40%

* หากสร้างไอเท็มออกมาเป็นเกรดมิธ แต้มสถานะทุกชนิดจะเพิ่มขึ้น 30 หน่วย และช่างตีเหล็กทั่วโลกจะศรัทธาในตัวท่านมากขึ้น

* ทุกการผลิตไอเท็มเกรดมิธครบ 3 ครั้ง ท่านจะได้รับค่าบารมีเทพ 1 หน่วย

★ เนื่องจากเป็นทักษะชั่วคราว การผลิตไอเท็มเกรดมิธในโหมดนี้จะไม่ถูกนับจำนวน


กริดไม่ได้ใส่ใจกับคำว่า ‘ระดับต่ำสุดของไอเท็มคือยูนีค’ เลยสักนิด


ในสายตาของมันมีเพียงเลเจนดารีหรือสูงกว่าเท่านั้น ยูนีคมิได้ต่างอะไรกับอีปิกหรือแรร์


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น นี่คือทักษะซึ่งถูกยกระดับจากผลของ <ดึงศักยภาพซ่อนเร้น> จึงไม่แปลกหากกริดจะคาดหวังผลลัพธ์สูงสุดเอาไว้


มันกำลังสนใจออปชัน ‘ค่าสถานะของไอเท็มจะสูงกว่าตัวเลขในสูตรการผลิต 40%’ มากกว่า


สูงกว่าทักษะเดิมถึง 10%


ยิ่งค่าสถานะของไอเท็มออกมาเป็นตัวเลขสูง ประสิทธิภาพก็จะยิ่งถูกส่งเสริมจนก้าวกระโดด


‘ต้องเป็นเกรดสูงสุดเท่านั้น!’


จากสถานการณ์ของกริดปัจจุบัน ความต้องการเร่งด่วนคืออุปกรณ์ป้องกัน เพื่อส่งเสริมให้พลังเด้งเลือด สำแดงอิทธิฤทธิ์ได้ชัดเจนขึ้น


ไม่ว่าจะเด้งเลือดได้รุนแรงสักเพียงใด แต่ถ้าพลังป้องกันอ่อนปวกเปียก ค่าเด้งเลือดจะกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ทันที


‘เราใช้ของเก่านานเกินไปแล้ว…’


เซตแสงศักดิ์สิทธิ์ ใช้สลับป้องกันเวทมนตร์


เกราะไหล่ทีราเม็ต เกราะกางเกงส่องสว่าง ผ้าคลุมลันเทียร์ ถุงมือว่องไวอเล็กซ์ หมวกเหล็กทรงกรวย และมงกุฎโอเวอร์เกียร์


อุปกรณ์ข้างต้นล้วนเป็นไอเท็มจากเมื่อหลายปีก่อนทั้งสิ้น ใหม่สุดสองชิ้นคือหมวกเหล็กทรงกรวยและมงกุฎโอเวอร์เกียร์ แต่ก็ยังผลิตขึ้นก่อนจะเริ่มงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติปี 4 หรือต้องย้อนกลับไปนานถึง 4 ปีตามเวลาในเกม


‘เราใช้เซตแสงศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ยังไม่มีการจัดแข่งซาทิสฟายนานาชาติ…’


ชายหนุ่มเริ่มอับอายในการเรียกตัวเองว่าราชาโอเวอร์เกียร์ เพราะแม้แต่ผู้เล่นธรรมดาก็ยังยกระดับอุปกรณ์สวมใส่ของตนอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครทนใช้ไอเท็มจากเมื่อสิบกว่าปีก่อนแน่


หากเป็นเมื่อก่อน สมัยวลี ‘โอเวอร์เกียร์’ ยังเป็นคำดูถูกในเชิงลบ กริดสามารถแก้ต่างได้ว่า ‘ฉันทนใช้อุปกรณ์เก่าเพราะพึ่งพาฝีมือมากกว่าไอเท็มต่างหาก!’ ได้อย่างไม่เขินอาย


แต่ปัจจุบันไม่ใช่แบบอีกแล้ว


โอเวอร์เกียร์กลายเป็นคำสำหรับอวดเบ่ง


ถึงเวลายกระดับเครื่องป้องกันขนานใหญ่


อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าของเก่าจะต้องนำไปทิ้งหรือแจกจ่ายให้คนอื่นทันที ไอเท็มบางชิ้นยังมีประโยชน์ ‘เฉพาะทาง’ สำหรับงัดออกมาใช้ในเหตุการณ์พิเศษ


ปัจจุบัน กริดทำการออกแบบ ‘จุดเด่น’ ของอุปกรณ์ป้องกันชิ้นใหม่ไว้แล้ว โดยเกิดแรงบันดาลใจหลังจากถูกเสือครามโผกอดเต็มแรงและได้รับความเสียหาย 18,500 หน่วย


‘จุดเด่นคือความแข็ง’


เมื่อชายหนุ่มนำวัสดุจากยังบันออกมาวางเรียงบนโต๊ะ เครื่องป้องกันรุ่นเก่าทั้งหมดจะถูกนำวางเทียบเคียง ยกเว้นเพียง ‘เกราะวัลฮัลล่า’ ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของข่าน เสื้อเกราะตัวนี้ยังนับว่าโอเวอร์เกียร์อยู่


ไล่เรียงจากลมหายใจของเทพผู้พิทักษ์ ประกอบไปด้วย เสือขาว 3 เม็ด เต่าดำ 3 เม็ด ฟินิกซ์แดง 2 เม็ด และมังกรคราม 2 เม็ด


ประเภทอุปกรณ์สวมใส่ประกอบด้วย เสื้อฮันบกชายมังกรคราม กล้องยาสูบ กระบี่อ่อน และหอกสั้น แต่ประสิทธิภาพโดยรวมค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับไอเท็มฝีมือกริด


คล้ายกับไอเท็มดรอปทั่วไปจากบอสดันเจี้ยนเลเวล 400 แต่ค่อนข้างน่าผิดหวังเมื่อพิจารณาว่าอีกฝ่ายคือครึ่งเทพ หรือเทพเทียม


แต่กริดก็ทำใจไว้ล่วงหน้าแล้ว


มันย่อมทราบว่า ความแข็งแกร่งของยังบันมีรากฐานจากพรสวรรค์ติดตัวแต่เกิด รวมถึงพลังสนับสนุนจากลมหายใจสัตว์เทพ


ในเมื่อพวกมันมิได้พึ่งพาไอเท็มในการต่อสู้ คงจะแปลกเกินไปสักหน่อย หากจะให้ดรอปไอเท็มสายต่อสู้คุณภาพสูง


และในทางสามัญสำนึก เพียงดรอปลมหายใจสัตว์เทพก็นับว่า ‘ประเมินค่ามิได้’ แล้ว


จริงอยู่ เหรียญทองงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติสามารถนำไปใช้แลกเปลี่ยนกับลมหายใจสัตว์เทพได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มัน ‘หาง่าย’ ขึ้นมาแต่อย่างใด


แดง ฟ้า ขาว ดำ


หลังจากก้มหน้าจ้องมองสักพัก กริดเก็บทั้งหมดเข้ากระเป๋าสัมภาระโดยเหลือไว้เพียงไข่มุกเม็ดสีดำ


ลมหายใจเต่าดำ


“เมื่อไม่นานมานี้”


ก่อนเดินทางมายังทวีปตะวันออก ชายหนุ่มได้สร้างไอเท็มจากลมหายใจเทพผู้พิทักษ์จำนวนสองชิ้น


ชิ้นแรกคือ ดาบลมหายใจฟินิกซ์แดง


ผลลัพธ์ออกมาเป็น ‘ไอเท็มประเภทเติบโต’ กริดจึงมอบให้ลอดพกติดตัวไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า ลอร์ดต้องเติบโตไปพร้อมกับมัน และใช้มันปกป้องครอบครัวอันมีค่า


“ฉันล้มเหลวไม่เป็นท่า กับความพยายามในการเสริมแกร่งลมหายใจเต่าดำ”


ไอเท็มอีกหนึ่งชิ้นคือ ดาบลมหายใจเต่าเดำ กริดหวังจะให้กำเนิดดาบเทพเพิ่มอีกหนึ่งเล่มเพื่อเป็นทางเลือกใช้งาน แต่ผลลัพธ์กลับออกมาเลวร้ายสุดขีด


ห่วงแตกจนไม่มีค่าให้หยิบออกมาใช้งาน


เทียบกับดาบลมหายใจเต่าดำซึ่งเคยสร้างให้ดาเมี่ยนเมื่อหลายปีก่อน ของดาเมี่ยนยังมีประสิทธิภาพสูงกว่า


“ฉันไม่เคยเสริมแกร่งลมหายใจเต่าดำสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว”


กริดสามารถเสริมแกร่งลมหายใจฟินิกซ์แดงได้ง่ายดาย เพราะฟินิกซ์แดงมีพลังอยู่ในขอบเขตของไฟและชีวิต


สอดคล้องกับหลักการของช่างเหล็ก ซึ่งเป็นผู้ ‘ให้กำเนิด’ ไอเท็มด้วย ‘ไฟ’


ในทางกลับกัน ขอบเขตของเต่าดำคือน้ำและความตาย ซึ่งถือเป็นของแสลงสุดโต่งสำหรับช่างตีเหล็กก็มิปาน


พลังน้ำหักล้างกับไฟ และพลังความตายหักล้างกับการ ‘ให้กำเนิด’ ไอเท็ม


ยิ่งกริดใช้ความเป็นช่างตีเหล็กฝืนเสริมแกร่งลมหายใจเต่าดำ คุณภาพของมันก็ยิ่งเสื่อมลงจนไม่สามารถนำมาใช้การได้


“ฉันจึงอยากขอคำแนะนำจากพวกนาย มีใครพอจะทราบวิธีสยบพลังความตายของเทพเต่าดำบ้างไหม? แค่ชั่วคราวก็ยังดี”


เมื่อจบคำถามกริด เหล่าสัตว์รับใช้แต่ละตนต่างมอบคำตอบในแบบของตัวเอง


แต่ไม่มีคำตอบใดน่าฟัง


“ข้าไม่ทราบ”


“ยากมากทีเดียว ธรรมชาติของเทพเต่าดำคือการกำจัดสิ่งไร้ประโยชน์”


“สิ่งไร้ประโยชน์?”


“เทพเต่าดำให้ความสำคัญกับคุณค่าของทุกชีวิตเป็นอย่างมาก ดังนั้น ท่านจะทำลาย ‘ชีวิตเทียม’ ทั้งหมดทิ้ง รวมถึงสิ่งของไร้ประโยชน์ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตแท้”


“…”


ขอบเขตของเต่าดำคือวารีและความตาย


ขณะกริดได้ยินเช่นนั้นในตอนแรก มันเกิดคำถามตามมาทันที สายน้ำควรจะคู่กับชีวิตและการให้กำเนิดไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงคู่กับความตายไปเสียได้?


แต่ในวินาทีนี้ มันเริ่มกระจ่าง


เทพเต่าดำคือหนึ่งในเทพผู้พิทักษ์ คอยปกป้องทุกชีวิตในดินแดนของตนเหมือนกับเทพตนอื่น เพียงแต่วิธีการออกจะรุนแรงไปสักหน่อย


ปกป้องด้วยการเข่นฆ่าและทำลาย


‘…คงเป็นเหตุผลให้พวกยังบัน ไม่กล้าใช้พลังของเทพเต่าดำมากนัก’


ในทางทฤษฎี ยังบันเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตเทียม


สำหรับพวกมันซึ่งเกิดจากฮานึล และทำทุกอย่างตามความประสงค์ของฮานึล พลังเต่าดำก็คงเป็นของแสลงไม่น้อยเช่นกัน


‘…ลมหายใจเต่าดำน่าจะมีประสิทธิภาพสูงสุดจากบรรดาสี่เทพผู้พิทักษ์ แต่น่าเสียดาย เรากลับไม่สามารถใช้มันได้’


กริดเม้มปากอย่างเจ็บใจ


มันเคยวาดฝันไว้ในหัวว่า ตนจะสร้างเซตเครื่องป้องกันสำหรับ ‘ทำลายอาวุธ’ โดยเฉพาะ


เกราะหมวกเต่าดำ เกราะไหล่เต่าดำ และเกราะกางเกงเต่าดำ อุปกรณ์ป้องกันซึ่งคอยกัดกร่อนอาวุธศัตรูอย่างต่อเนื่อง มาพร้อมกับพลังป้องกันมหาศาล


แค่คิดก็สุดยอดแล้ว


แต่ในปัจจุบัน ดูเหมือนจะยังห่างไกลความจริงอยู่มาก


สำหรับตอนนี้ ลมหายใจเต่าดำธรรมดายังไม่เหมาะจะนำมาสร้างไอเท็ม จนกว่าจะหาวิธีเสริมแกร่งให้ได้เสียก่อน


จริงอยู่ มันยังพอมีวิธีใช้งานในรูปแบบไม่เสริมแกร่ง หนึ่งในนั้นคือการผสานเข้ากับโลหะประเภทวารี เหมือนกับเมื่อครั้งสร้างไอเท็มให้ดาเมี่ยน


แต่การนำไปใช้ในรูปแบบดังกล่าว จะทำให้ไอเท็มไม่ได้รับออปชันกัดกร่อนของพลังเต่าดำ มีเพียงการส่งเสริมออปชันธาตุวารีเพิ่มเติมเท่านั้น ไม่ตรงตามความต้องการของกริดสักเท่าไร


‘คงต้องเปลี่ยนจากลมหายใจเต่าดำ เป็นลมหายใจเสือขาวไปก่อน’


อาจไม่มีพลังเอาเปรียบเท่าการกัดกร่อนอาวุธของเป้าหมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดรูปแบบการป้องกันตัวเอง แต่ถ้าเทียบเฉพาะพลังป้องกันเพียงอย่างเดียว จะไม่มีลมหายใจใดสูงไปกว่าเสือขาวอีกแล้ว


ลมหายใจเต่าดำช่วยให้ถึกทนเพราะลดประสิทธิภาพอาวุธศัตรู แต่ลมหายใจเสือขาวช่วยให้ถึกทนด้วยตัวมันเอง และตลอดเวลา


การแข็งตัว เพิ่มน้ำหนัก ปล่อยเสาหิน เสกหนามแหลม…


ออปชันอื่นก็นับว่าไม่เลว เมื่อประเมินจากออปชันของดาบเสือขาวในมือเมอร์เซเดส


<ดาบพญาเสือขาวสยบโลกา>

* ขณะโจมตี มีโอกาสเพิ่มน้ำหนักของดาบในอัตราต่ำ

* เมื่อถูกโจมตี มีโอกาสสร้าง ‘เสาหิน’ ในอัตราปานกลาง

* หากท่านปัดป้องสำเร็จ จะแสดงผลของทักษะ ‘หนามแหลม’

★ มีโอกาสสร้างอาการผิดปรกติ ‘แข็งเป็นหินบางส่วน’ ในอัตราต่ำ

* ได้รับทักษะ ‘จิตวิญญาณแห่งเสือขาว’


<จิตวิญญาณแห่งเสือขาว Lv.1>

* พลังโจมตีและความเร็วลดลง 80% โดยแลกมากกับพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 198%


‘ไม่สิ… เกินกว่าคำว่า ‘ไม่เลว’ ไปมาก’


ย้อนกลับไปขณะทำสงครามปกป้องคาราสึเพื่อยื้อเวลาให้เทพฟินิกซ์แดงคืนชีพ เหล่ายังบันต้องสูญเสียพลัง ‘สมานแผล’ เนื่องจากเทพฟินิกซ์แดงก่อกวนอิทธิพลของลมหายใจ


อย่างไรก็ตาม ถึงบาดแผลจะไม่สมาน แต่บรรดายังบันก็พลิกแพลง ใช้พลัง ‘แข็งตัว’ จากลมหายใจเสือขาวเพื่อห้ามเลือด


‘เรานำพลังแข็งตัวมาปรับใช้กับตัวเองได้’


การทำให้บาดแผลแข็งตัว หมายความว่าบาดแผลจะไม่ปริแตกหรือขยายลุกลาม และไม่ติดอาการเลือดออก


พรึ่บ!


หลังจากจมอยู่กับความคิดตัวเองสักพักจนได้ข้อสรุป กริดเริ่มลงมือจุดเตาหลอม


คราวนี้มันจะสร้าง ‘เกราะกางเกง’ ชิ้นใหม่ขึ้นมาแทนของเก่า จะไม่มีการนำ <เกราะกางเกงแวววาว> ออกมาใช้อีกต่อไป


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,576
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00