จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,193



<เกราะไหล่เสือขาวซึ่งถูกฟินิกซ์แดงโอบกอด>

เกรด : มิธ

ไอเท็มเซต : (เซตเสือขาว/เซตฟินิกซ์แดง)

ความคงทน : อนันต์ พลังป้องกัน : 902

* ต้านทานธาตุดิน +80%

* ต้านทานธาตุไฟ +40%

* ต้านทานธาตุมืด +40%

* ลดโอกาสบาดเจ็บหัวไหล่ 70%

* ลดความเสียหายจากเมื่อถูกโจมตีร่างกายท่อนบน 15%

* มีโอกาสต่ำในการมองข้ามความเสียหายเมื่อถูกโจมตีร่างกายท่อนบน


“…!”


ตามชื่อของมัน เกราะไหล่คืออุปกรณ์สำหรับป้องกันหัวไหล่ เมื่อมีขนาดจำกัด อรรถประโยชน์จึงน้อยลงตามไปด้วย


แม้แต่กริดผู้เคยสร้างเกราะไหล่มานับไม่ถ้วน ก็ยังไม่เคยเห็นเกราะไหล่ใดมีพลังป้องกันสูงกว่า 300 หน่วย


‘แล้วอะไรคือ 902…?’


หลังจากตั้งใจอ่านรายละเอียดของเกราะไหล่ตัวใหม่ กริดยิ่งทวีความประหลาดใจขึ้นทุกขณะ


มันไม่เคยคิดมาก่อนว่า <ลมหายใจเสือขาวดูดกลืนลมหายใจฟินิกซ์แดง> จะสร้างผลลัพธ์สุดแสนอัศจรรย์เช่นนี้ได้


‘ถ้านำไปสร้างชุดเกราะ พลังป้องกันจะไม่ทะลุ 2,300 หน่วยเลยหรือ…’


ชายหนุ่มมิได้กล่าวเกินจริง


เรียงลำดับพลังป้องกันตามแต่ละส่วนของอุปกรณ์สวมใส่ได้ดังนี้ : ชุดเกราะ เกราะกางเกง หมวกเหล็ก รองเท้า เกราะไหล่ และถุงมือ


อย่างไรก็ตาม นั่นมิได้แปลว่าชุดเกราะมีความสำคัญสูงสุดในบรรดาเครื่องป้องกัน


ทุกชิ้นล้วนมีประโยชน์ในตัวเอง จะขาดชิ้นใดชิ้นหนึ่งไปไม่ได้


เอฟเฟคพิเศษของอุปกรณ์ส่วนเกราะไหล่คือ ‘ลดอัตราการบาดเจ็บของหัวไหล่’


เมื่อพิจารณาว่าหัวไหล่ของตัวละครจะได้รับบาดเจ็บง่ายในการต่อสู้ เอฟเฟคพิเศษของเกาะไหล่จึงค่อนข้างสำคัญ โดยจากสถิติในอดีต อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของกริดก็เกิดขึ้นกับหัวไหล่เช่นกัน ไม่ต้องย้อนไปไหนไกล ขณะต่อสู้กับกลุ่มยังบัน ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่จนต้องให้หัตถ์เทวะพยุงขึ้นมา


หัวใจกริดเริ่มพองโตอย่างมีความหวัง


‘บางที เจ้านี่อาจทำให้เราอดทนใช้วิชาดาบทัพสามแสนไหว…’


ลดโอกาสบาดเจ็บหัวไหล่ได้ 70%


นับเป็นตัวเลขสูงลิบ สูงกว่าเกราะไหล่มาตรฐานถึง 7 เท่าตัว


กริด ผู้กำลังชื่นชมเกราะไหล่ชิ้นใหม่อย่างไม่ขาดปาก เริ่มก้มหน้าไล่อ่านรายละเอียดอื่นๆ


* เมื่อถูกโจมตีลำตัว มีโอกาสสูงในการสร้าง <หนามหินร้อนจัด> หนามจะสะท้อนความเสียหายกลับไปจำนวน 60% ของความเสียหายจากผู้โจมตี และสร้างอาการผิดปรกติ ‘ห้ามฮิล’ เป็นเวลา 1 ถึง 3 วินาที

* ได้รับทักษะ <จิตวิญญาณเสือขาวหุ้มด้วยเพลิงลุกโชน>

* ได้รับทักษะ <พยัคฆ์คำรามพ่นไฟ>

* ได้รับทักษะ <คำราม!>

* ได้รับทักษะติดตัว <ธรณีจุติ>

* เพิ่มพลังป้องกัน 10% เมื่อต่อสู้ในสมรภูมิประเภทหุบเขา

* เพิ่มพลังโจมตีของทักษะวงกว้าง 20% ในสมรภูมิประเภทหุบเขา

* ลดเกราะและค่าต้านทานเวทมนตร์ของจอมอสูรลำดับต่ำกว่า 22 เป็นจำนวน 10%

* หากถูกโจมตีจนไอเท็มเสียหาย ความคงทนจะค้างอยู่ค่าต่ำสุดนาน 5 วินาที และจะฟื้นฟูค่าความคงทน 10% เมื่อเอฟเฟคหมดลง (ระยะหน่วง 24 ชั่วโมง)

★ ได้รับทักษะ <หินผา>

★ ได้รับทักษะ <เทพธรณี>

★ เซตไอเท็มเสือขาว :

เพิ่มพลังป้องกันและพลังชีวิต 10% เมื่อสวมใส่ครบ 3 ชิ้น

★ เซตไอเท็มฟินิกซ์แดง :

เพิ่มอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติ 20% เมื่อสวมใส่เซตไอเท็ม 2 ชิ้น และ 40% เมื่อสวมใส่เซตไอเท็ม 4 ชิ้น

เงื่อนไขสวมใส่ : กริด

น้ำหนัก : 450


“…”


ออปชันส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับ <เกราะกางเกงพญาเสือขาวค้ำจุนฟ้าดิน> เนื่องจากสร้างด้วยลมหายใจเสือขาวเช่นเดียวกัน


ไม่เพียงเท่านั้น แม้ละโมบจะทำให้ไอเท็มมีค่าความคงทนเป็นอนันต์ แต่ก็ชุดเกราะยังติดออปชัน ‘ป้องกันไอเท็มชำรุด’ มาด้วยเสมอ


<คำราม!> และ <หินผา> คือทักษะเดียวกันกับเกราะกางเกง มีการใช้ระยะหน่วงร่วมกัน จึงพูดได้เต็มปากว่าออปชันเหล่านี้ ‘ไร้ประโยชน์’


แต่ไม่ใช่กับ <เทพธรณี>


เนื่องจากเป็นทักษะติดตัวซึ่งทำงานแบบมีเงื่อนไขและสุ่มติด ผู้สวมเครื่องป้องกันต้องยืนบนพื้นดิน จึงจะมีโอกาสแสดงผล


ฉะนั้น ‘โอกาส’ ระหว่างเกราะไหล่กับเกราะกางเกงจึงถูกคิดแยกจากกัน


แถมยังมีทักษะ <จิตวิญญาณเสือขาวห่อหุ้มด้วยเพลิงลุกโชน> กับ <พยัคฆ์คำรามพ่นไฟ> ซึ่งแตกต่างจาก <จิตวิญญาณเสือขาว> และ <พยัคฆ์พิสุทธิ์คร่ำครวญ> ค่อนข้างมาก จนถูกระบบมองว่าเป็นคนละทักษะ ใช้ระยะหน่วงแยกจากกันโดยอิสระ


<จิตวิญญาณเสือขาวห่อหุ้มด้วยเพลิงลุกโชน> Lv.1

ได้รับจิตวิญญาณแห่งเสือขาว

ลมหายใจฟินิกซ์แดงจะทำการสร้างเปลวไฟความเสียหาย 6,000 หน่วยต่อหนึ่งวินาทีออกมารอบตัว (มีผลกับผู้เล่นเพียงครึ่งเดียว)

ในระหว่างเปิดใช้งาน พลังโจมตีของผู้สวมจะลดลง 80% และไม่สามารถเดินได้ แลกมากับการได้รับพลังป้องกัน 198% และพลังในการฟื้นฟูพลังชีวิตทุกชนิด 50%

มานา : 50 หน่วยต่อวินาที

ระยะหน่วง : 1 ชั่วโมง

* ทักษะนี้ไม่ใช้ระยะหน่วงร่วมกับ <จิตวิญญาณเสือขาว>

* ทักษะจากไอเท็มเกรดมิธสามารถเลเวลอัป


<พยัคฆ์คำรามพ่นไฟ> Lv.1

สร้างแผ่นดินไหวในรัศมี 5 เมตร และพ่นไฟออกไปด้านหน้าผู้ใช้งาน

ทุกวัตถุในรัศมีจะได้รับอาการผิดปรกติ ‘เสียการทรงตัว’ ส่งผลให้ทั้งค่าพลังป้องกัน ค่าการหลบหลีก และค่าความแม่นยำลดลง 15%

หากเป้าหมายกำลังร่ายมนตร์หรือทักษะ การร่ายจะถูกยกเลิกทันที และเป้าหมายจะสูญเสียค่าเรี่ยวแรงหากถูกเปลวเพลิงโจมตี

มานา : 2,000

ระยะหน่วง : 30 นาที

* ทักษะนี้ไม่ใช้ระยะหน่วงร่วมกับ <พยัคฆ์พิสุทธิ์คร่ำครวญ>

* ทักษะจากไอเท็มเกรดมิธสามารถเลเวลอัป


กริดทบทวนรายละเอียดของเกราะไหล่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าตนไม่ได้ตาฝาดไป


แต่ไม่ว่าจะอ่านสักกี่รอบ รายละเอียดไอเท็มก็ไม่เปลี่ยนแปลง


เราไม่ได้เข้าใจผิดหรือคิดไปเอง…


ฉึบ!


กริดสวมเกราะไหล่อย่างเงียบงัน


บนเกราะไหล่ทั้งสองฝั่งมีปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า ลักษณะคล้ายเขี้ยวเสือขาวซี่ยาว ช่วยมอบกลิ่นอายความดุดันน่าเกรงขามให้แก่เกราะไหล่รูปทรงค่อนข้างธรรมดาและราบเรียบ


“อา…”


กริดกำลังยืนสั่นเทิ้ม


ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไล่จากชุดเกราะ เกราะกางเกง ถุงมือ เกราะไหล่ และรองเท้า ชายหนุ่มรู้สึกราวกับร่างกายของมันกำลังถูกโอบกอดโดยเทพผู้พิทักษ์และความอบอุ่นข่าน สัมผัสนี้ช่วยขจัดความกังวลใจจนหายเป็นเป็นปลิดทิ้ง


“เจ้ามนุษย์!”


ขณะกริดกำลังอิ่มเอมใจ


“เจ้าบอกว่าต้องการพบพวกข้าสินะ!”


สัตว์เทพจักรราศีปรากฏตัวเพิ่ม


ประกอบด้วยม้า ไก่ หมู และงู


งูใช้หางขดบนพื้นและยืดตัวตั้งตรงจนมีสายตาระดับเดียวกับกริด สูงราวสองเมตรเห็นจะได้


“ถ้าต้องการพบพวกเรา เจ้าก็ต้องมาขอเข้าพบด้วยตัวเอง มารยาทไปไหนหมด!”


ในสภาพปราศจากแขนขา ‘งู’ แลบลิ้นพลางข่มขู่กริดเป็นระยะ


“ช่างน่ารังเกียจ! จริงอยู่ พวกเราเหล่าสัตว์เทพจักรราศีรักและเอ็นดูมนุษย์ แต่มารยาทก็สำคัญไม่แพ้กัน ข้าจักสั่งสอนมนุษย์ผู้โง่เขลาให้หลาบจำเอง! เอาล่ะ… หันก้นมาซะ เตรียมรับไม้เรียวแห่งความรักจากข้า!”


“…?”


ผิดคาดโดยสิ้นเชิง


กริดเคยคิดว่าตนจะถูกต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง แล้วเหตุไฉนถึงเริ่มต้นด้วยถ้อยคำข่มขู่เช่นนี้


ชายหนุ่มขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว


ขณะเดียวกัน เสือครามซึ่งยืนด้านหลังงู กำลังเผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย


‘เจ้านั่นคงยังไม่ได้บอกพวกเขาสินะ…’


เมื่อประเมินว่าตนและเหล่าสัตว์เทพมีค่าความสัมพันธ์ค่อนข้างสูง กริดเชื่อว่า การอำเล่นคราวนี้คงมีจุดประสงค์แอบแฝง


อาจมีความนัยบางประการซ่อนอยู่


ทันใดนั้น ดวงตาของงูพลันหมุนเป็นวงกลม


“ยื่นก้นออกมา”


เมื่อสิ้นเสียง เวทลวงตาสุดทรงพลังเริ่มเข้าครอบงำจิตใจชายหนุ่มทีละนิด


สุ้มเสียงแฝงกลิ่นอายเวทมนตร์ของอสรพิษ กำลังกังวานภายในหัวกริดอย่างล่องลอย


[สัตว์เทพจักรราศี ‘พังอูลี’ (หยดน้ำ) กำลังสะกดจิตให้ท่านยอมจำนน]


[ท่านต้านทาน!]


[สะท้อนกลับด้วยสมญานามกษัตริย์คนแรก!]


[เป้าหมายต้านทานอาการผิดปรกติ!]


เอฟเฟคสะท้อนจากสมญานามกษัตริย์คนแรกจะไม่แสดงผลกับเป้าหมายซึ่งมีระดับตัวตนหรือเลเวลค่อนข้างสูง รวมถึงสิ่งมีชีวิตพิเศษ


จึงไม่ต้องพูดถึงสัตว์เทพจักรราศี


กริดเข้าใจและยอมรับความล้มเหลวของพลังสะท้อนอาการผิดปรกติ มันไม่เก็บไปคิดมาก


แต่พังอูลีกลับไม่ใช่ มันมิได้เตรียมใจรับความล้มเหลวในคราวนี้ไว้


อสรพิษตนนี้ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเวทลวงตาของตนจะไม่ได้ผลกับมนุษย์


“จ…เจ้าเป็นใคร?”


“อู๊ด! บุคคลน่าสงสัย! อู๊ด!”


ขณะพังอูลีกำลังผงะถอยหลังด้วยแววตาตื่นกลัว หมูตัวเล็กสีชมพูได้ก้าวเท้าออกมาข้างหน้า ชื่อของมันคือเกิร์นซีย์ กลิ่นกายหอมฟุ้งประหนึ่งดอกไม้สด คล้ายกับรักษาความสะอาดอย่างพิถีพิถันและไม่เคยพลาดการอาบน้ำแม่แต่วันเดียว มันปรี่เข้าหากริดด้วยความเร็วสูงพร้อมกับใช้ศีรษะพุ่งกระแทก


เคร้ง!


[ท่านได้รับความเสียหาย 3,960]


[<เกราะไหล่เสือขาวซึ่งถูกฟินิกซ์แดงโอบกอด> ทำการสร้างหนามหินร้อนจัด]


[สะท้อนความเสียหาย 2,376 หน่วยแก่เป้าหมาย เป้าหมายติดอาการห้ามฮีล]


ฉ่า—!


กลิ่นหมูย่างลอยโชย ทำเอากริดถึงกับหิว


“คึ่ก…?”


หมูตัวอวบอ้วน ผู้ใช้ศีรษะโขกใส่กริดจนเกือบกลายเป็นหมูย่างเสียเอง ทำได้เพียงยืนตกตะลึงและไม่กล้าแม้แต่จะขยับขา


มันรู้สึกราวกับ ตนใช้หัวโขกใส่ภูเขาลูกใหญ่ซึ่งไม่มีวันขยับเขยื้อน


จริงอยู่ เกิร์นซีย์ควบคุมพลังไว้หลายส่วน เพราะไม่ต้องการให้มนุษย์จบชีวิตลงอย่างน่าอนาถในการโจมตีเดียว แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง


“ข้าเอง!”


ความโกลาหลเริ่มต้นขึ้น


‘ม้า’ ปรี่เข้าหากริดและกระโดดถีบขาคู่ใส่ต้นขาชายหนุ่ม แต่ผลลัพธ์คือ มันกระเด็นถอยหลังในสภาพหัวทิ่มก้นจ้ำเบ้า ส่วน ‘ไก่’ พยายามใช้จะงอยปากจิกใส่เท้ากริด แต่ก็ต้องขันกะต๊ากราวกับเป็นเวลาเช้าตรู่ เนื่องจากจะงอยปากแตกหักในพริบตา


“…”


ความเงียบงันพลันปกคลุมโดยรอบ


บุรุษผู้ถูกรุมโจมตียังคงยืนสงบนิ่ง แต่ฝ่ายสัตว์เทพผู้โจมตีกลับกำลังนั่งสั่นกลัว


พวกมันกำลังกลัวเพราะไม่รู้จักอีกฝ่าย


แต่กริดกำลังประหลาดใจยิ่งกว่าใครทั้งหมด


“ทำไมพวกนายถึงอ่อนแอนัก…?”


หรือความจริงแล้ว สัตว์กลุ่มนี้เป็นเพียงสัตว์วิเศษ มิใช่สัตว์เทพจักรราศี?


โทซุน*เดินเข้ามาหาชายหนุ่มพร้อมกับใช้มือสะกิดจากด้านข้าง


(โทซุน — แปลว่าปากแหว่ง แต่เป็นสแลงสำหรับใช้เรียกกระต่าย หรือสัตว์ที่มีปากเป็นร่องเส้นตรงลงมาจากใต้จมูก, คยองจา — เป็นการเรียก ‘ปีหนู’ ในแบบปีนักษัตร คล้ายกับคำว่า ‘ชวด’ ในภาษาไทย)


“พวกเขามิได้อ่อนแอ เพียงแต่ท่านเทพคุณธรรมแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก”


“อา…”


กริดเริ่มนึกบางสิ่งออก


เป็นเพราะมันมิได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาสักพักใหญ่แล้ว จึงไม่แปลกหากจะหลงลืมไปบ้าง


ความรู้สึกดังกล่าวคือ… ความโอเวอร์เกียร์


เครื่องป้องกันเกรดมิธสองชิ้นใหม่ ได้ทำให้ชายหนุ่มถึกทนชนิดเมื่อสามวันก่อนเทียบไม่ติด


“อะแฮ่ม…! เป็นเกียรติอย่างยิ่งกับการได้พบพวกนายทุกคน”


กริดรีบยื่นแขนออกไปขอจับมือเหล่าสัตว์เทพจักรราศีอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากเหลือบเห็นว่าอีกฝ่ายเกิดสติหลุดลอย เพราะตนเผลอหลุดปากเรียกออกไปว่า ‘พวกอ่อนแอ’


ชายหนุ่มกล่าวคำทักทายอย่างเป็นทางการ


“ฉันคือราชาโอเวอร์เกียร์ กริด”


ช่างเหล็กในตำนาน


มหากาพย์จอมดาบเวท


ดยุคแห่งไฟ


ดยุคคุณธรรม


เทพคุณธรรม… และอีกมาก


จากบรรดาสมญานามและชื่อเล่นทั้งหมด กริดชื่นชอบราชาโอเวอร์เกียร์มากเป็นพิเศษ


“ก…กริด?”


ลิ้นสองแฉกของพังอูลีพลันสั่นเทา


“ม…มนุษย์ผู้น่ายกย่อง มนุษย์ผู้คืนชีพให้กับท่านเทพฟินิกซ์แดง…?”


ฉึบ.


หลังจากทราบตัวตนแท้จริงของกริด พังอูลีและอีกสามสัตว์เทพต่างหันไปจ้องเสือครามอย่างโกรธเคือง


พวกมันคือกลุ่มหัวรุนแรงในบรรดาสัตว์เทพจักรราศีด้วยกัน จึงไม่แปลกหากต้องการจะเข้าไปซัดหน้าเสือครามคนละหมัด


แต่ขณะเดียวกัน พังอูลีและพวกพ้องก็ไม่ต้องการให้กริดทักทายเก้อ เพราะนั่นจะถือเป็นการเสียมารยาท จึงรีบเดินเข้าไปจับมือชายหนุ่มอย่างเป็นกันเอง


ในส่วนของพังอูลี มันไม่มีมือ ทางเลือกเดียวคือการใช้ลิ้นสัมผัส


“เป็นเกียรติอย่างยิ่งเช่นกัน”


“ในเมื่อท่านกำลังจะกลายเป็นครึ่งเทพในอีกไม่ช้า จะเป็นอะไรหรือไม่ หากข้าจะขอเรียกท่านว่าเทพโอเวอร์เกียร์”


“…เทพโอเวอร์เกียร์”


เชี่ย…! เท่ฉิบหาย!


ทำไมเราไม่เคยนึกถึงมาก่อน!


เมื่อนำไปเทียบกับ ‘เทพคุณธรรม’ ซึ่งโทซุนชอบเรียก สีหน้าของกริดเริ่มเผยความตื่นเต้น


“ไม่มีปัญหา เชิญเรียกฉันว่าเทพโอเวอร์เกียร์ได้ตามใจชอบ”


ฟังดูเจ๋งกว่าเทพคุณธรรมล้านเท่า!


ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างพลางซักถามพังอูลี


“ฉันต้องการพบพวกนายเพราะอยากฟังเรื่องราวสมัยอดีต ช่วยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเทพเต่าดำให้ฟังได้หรือไม่ จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ไม่เกี่ยง”


เทพผู้พิทักษ์ทุกตนล้วนดำรงชีวิตอยู่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของมนุษย์ กระนั้น แต่ละตนก็มีอุปนิสัยแตกต่างกันออกไป


ประสบการณ์ระหว่างทำภารกิจคืนชีพฟินิกซ์แดงได้สอนให้กริดระมัดระวังตัว การได้ฟังข้อมูลจากปากพังอูลีและพวกพ้องก่อน ย่อมช่วยให้มันดำเนินภารกิจเต่าดำได้ง่ายขึ้น


***


จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีก่อน อาณาจักรชิงคือดินแดนซึ่งไม่เคยมีผู้เล่นคนใดย่างกรายเข้าไปถึง


แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปหลังจากกริดกวาดล้างชุมชนหนูใหญ่พิษจนราบคาบ


เมื่อผู้เล่นเดินทางออกจากแพงเจียง่ายขึ้น บางส่วนจึงสามารถหาลู่ทางอพยพไปยังอาณาจักรชิงผ่านกรุงคาราสึ


หนึ่งในนั้นคือ ‘เฒ่าดาบมาร’


สมัยเฟคเกอร์ยังเป็นเพียงดาวรุ่ง เฒ่าดาบมารคือผู้เล่นคลาสนักลอบสังหารอันดับหนึ่ง


แต่เมื่อนานมาแล้ว มันตัดสินใจอำลาระบบแรงเกอร์และเอาแต่หมกตัวอยู่ในอาณาจักรชิงมาตลอด


‘NPC ยังไม่รู้ข่าวของแดนใต้…’


เฒ่าดาบมาร ผู้มีโอกาสทราบข่าวการคืนชีพของเทพฟินิกซ์แดงจากเพื่อนสนิท กำลังเดินเตร็ดเตร่ไปบนถนนอย่างสบายใจ


หลังจากแหวกว่ายฝูงชนบนถนนซึ่งมีมากมายราวกับสายน้ำ มันเดินเข้าไปในร้านหนึ่งซึ่งมีผู้คนไม่พลุกพล่าน


“เถ้าแก่ มีเนื้อนกดุเหว่าขายไหม”


“นายคงไม่ได้หมายถึงเนื้อของนกซึ่งมีเสียงร้องว่าดุเหว่า ดุเหว่า หรอกใช่ไหม”


“หมายถึงอันนั้นแหละ”


“…”


เถ้าแก่พลันเปลี่ยนสีหน้า ก่อนจะจ้องเฒ่าดาบมารพลางกลืนน้ำลายด้วยสายตาโกรธเคือง


“ฉันเปิดร้านขายเนื้อวัว! แต่กลับมีตาแก่เสียสติเดินเข้ามาสั่งเนื้อนก! โลกนี้เป็นบ้าอะไรกันไปแล้ว! ดวงซวยตั้งแต่เริ่มเปิดร้านเลยพับผ่าสิ… ไสหัวออกไป!”


“…?”


เฒ่าดาบมาร ผู้ถูกเจ้าของร้านขับไล่ไสส่งอย่างไม่ไยดี พลันทำหน้างุนงงสุดขีด


แต่เมื่อมันหันหลังกลับ สายตาเหลือบเห็นเถ้าแก่ของอีกร้านหนึ่งกำลังเดินออกมาโรยเกลือด้านหน้าร้าน


“…ผิดร้านนี่หว่า”


เฒ่าดาบมาร


ในอดีต มันเคยเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกในช่วงเวลาสั้นๆ แต่หลังจากทำภารกิจล้มเหลวติดต่อกันหลายครั้งเพราะความโชคร้าย จึงตัดสินใจถอนตัวออกจากอันดับแรงเกอร์


“เฒ่าดาบมาร วันนี้มาสายไป 4 ชั่วโมง… แต่เป็นเพราะนายไม่เคยผิดนัดเลยสักครั้งตลอดหลายปีหลัง ฉันจึงเชื่อว่านายจะมา”


“ฉันขอโทษ ฮวางกิลดง”


แต่เรื่องราวข้างต้นเป็นเพียงข่าวลือ เพราะในความเป็นจริง เฒ่าดาบมารถูกบังคับให้ออกจากอันดับแรงเกอร์อย่างจำยอม และในภายหลัง ถึงจะพัฒนาตัวเองได้ไม่รวดเร็วเหมือนสมัยอดีต แต่ก็ยังรักษามาตรฐานสูงไว้ได้โดยไม่เคยตกหล่น


และภารกิจปัจจุบันของมันก็คือ…


วางแผนจารกรรมอัญมณีเต่าดำ


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,582
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. เฒ่าดาบมารนี่ไม่ใช่NPCของกริดหรอ??

    ReplyDelete
  2. ฮวางกิลดง?? คุ้นๆชื่อ 🤔
    ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​🙏

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00