จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,188

เกราะกางเกงนั้นมีหลายประเภท

ไล่ตั้งแต่ประเภทเน้นป้องกันจากหัวเข่าถึงช่วงเลยหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ไปจนถึงประเภทป้องกันตั้งแต่หัวเขายันเป้ากางเกง และตามธรรมชาติของอุปกรณ์สวมใส่ ยิ่งไอเท็มมีขนาดใหญ่ขึ้น ความคล่องตัวของผู้สวมก็ยิ่งลดลง รวมถึงยังต้องใช้ค่าพละกำลังมากในการสวม

การแบกรับน้ำหนักของร่างกายส่วนล่างเป็นเรื่องซับซ้อนทางสรีระ สิ่งนี้แตกต่างจากกำลังแขนปรกติ ต้องอาศัยการเกร็งต้นขาและหน้าท้องเข้าช่วยอย่างมาก

เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นส่วนใหญ่ถึงนิยมใส่เกราะกางเกงประเภทสั้น (ป้องกันตั้งแต่หัวเข่าจนถึงส่วนเหนือหัวเข่าเล็กน้อย) และยังเป็นเหตุผลว่าทำไมเซตกริดรุ่นผลิตจำนวนมาก ถึงมีส่วนเกราะกางเกงเป็นประเภทสั้น

แต่ข้อเสียทั้งหมดข้างต้น ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับกริดเลยสักนิดเดียว

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

<ละโมบ> กำลังถูกนวดบนทั่ง

เมื่อได้โลหะผสมระหว่างละโมบกับ <ลมหายใจเสือขาวเสริมแกร่ง> กริดลงมือสร้างข้อพับชุดเกราะเป็นลำดับแรก แผนคือการสร้างข้อพับจำนวนมาก เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ

“บ้าน่า…”

เสือครามกล่าวชื่นชมขณะมันพยายามใช้ฟันขบกัดโลหะสีทองเข้มซึ่งถูกวางกองไว้ข้างกริด

“ทำไมท่านถึงนวดโลหะชนิดนี้ได้ง่ายนัก?”

“หือ? มันจะแค่ไหนนักเชียว…”

เสื้อเขี้ยวกุดตัวหนึ่งไม่เข้าใจความตกตะลึงของเสือคราม จึงเดินดุ่มเข้ามาพร้อมกับใช้ฟันกัดละโมบเต็มแรง

กร็อบ!

เส้นขนสีเหลืองทั่วร่างพลันชี้แหลมโด่เด่

มือไม้สั่นเทานอกเหนือการควบคุม

ร่างกายอันใหญ่โตของเสือเขี้ยวกุด กำลังกระตุกแผ่วเบาคล้ายกับถูกไฟฟ้าช็อตกะทันหัน

แกร่ก.

ฟันปลอมร่วงกราวหมดปาก

เสือเขี้ยวกุดตัวอื่นต่างจ้องมองเหตุการณ์ด้วยสีหน้าตื่นตะลึง

“อะ… อะ… อะไรกัน!”

“เกิดอะไรขึ้น!”

ต้องขอบคุณการเสียสละของพวกพ้อง บรรดาเสือเขี้ยวกุดจึงเริ่มตระหนักถึงความแข็งของละโมบ และทำได้เพียงถลึงตามองกริดอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์

เหลวไหลสิ้นดี

กริดกำลังใช้ค้อนทุบละโมบราวกับเป็นเต้าหู้

ทุกครั้งเมื่อค้อนกระทบใส่ ละโมบจะเปลี่ยนรูปทรงไปตามจังหวะการนวดของกริดเสมอ

พวกมันจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมโลหะแข็งเช่นนี้ถึงได้กลายเป็นขนมโมจิเมื่ออยู่ในมือกริด

โทซุนส่ายหน้าอย่างสมเพช

“เจ้าพวกเสือโง่ แค่เห็นท่านจุดฟืนไม้ฟอสฟอรัสขาวก็น่าจะเข้าใจแล้วไม่ใช่หรือ”

เหล่าเสือเขี้ยวกุดต่างพากันจ้องมองฟืน

ไม้ฟอสฟอรัสขาว

ไม่เพียงจะมีผิวแข็งจนตัดได้ยาก แต่ยังเกิดระเบิดทุกครั้งเมื่อมีบางสิ่งไปกระทบเข้า

ถึงกระนั้น กริดกลับใช้ไม้ฟอสฟอรัสขาวเป็นฟืนเตาจำนวนมาก แถมยังสามารถควบคุมเปลวเพลิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“สำหรับเทพคุณธรรม ท่านมิได้แข็งแกร่งเฉพาะการต่อสู้เท่านั้น”

ไม่ต้องสงสัยอีกแล้วว่า แม้แต่ทักษะการตีเหล็กเองก็อยู่ในขอบเขตของเทพ

เนื่องจากอยู่บนโลกมาเป็นเวลานาน โทซุนย่อมเคยพานพบผู้คนมามาก แต่กริดกลับมีฝีมือตีเหล็กสูงกว่าช่างเหล็กหน้าไหนทั้งหมด

เธอค่อนข้างมั่นใจว่า กริดเก่งกาจยิ่งกว่าเหล่าช่างเหล็กผู้สร้างศาสตราเทพ ซึ่งถูกใช้ผนึกเทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่เสียอีก

‘ฝนศาสตราในคราวนั้น อาวุธทุกชิ้นคงเป็นฝีมือการสร้างของท่านเทพคุณธรรม’

ศาสตราของท่าน ทำให้ผู้คนเกิดความศรัทธาเลื่อมใส และนั่นคือต้นตอของพลังบารมี… โทซุนนั่งไขว่ห้างพลางครุ่นคิด

ขณะเดียวกัน เมื่อนวดละโมบเสร็จ กริดหยิบเศษหนังแผ่นหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ

เศษหนังมีสภาพย่ำแย่จนน่าใจหาย ฉีกขาดกระจัดกระจาย แหว่งโหว่ และไม่กลมกลืนเป็นผืนเดียวกัน

ราวกับถูกถลกจากศพของสัตว์ซึ่งมีบาดแผลฉกรรจ์เต็มตัวก่อนจะเสียชีวิต

เสือครามพลันขมวดคิ้ว

“หนังคุณภาพต่ำ”

เฉกเช่นสำนวน ‘เสือตายย่อมทิ้งหนัง*’ เสือครามให้ความสำคัญกับหนังสัตว์มาก

(เป็นสำนวนเกาหลี — แปลว่า เมื่อเสียชีวิต นักรบกล้าหาญจะทิ้งชื่อเสียงไว้ให้ผู้คนจดจำ)

สำหรับเสือคราม หนังสัตว์ในมือกริดมีคุณภาพต่ำจนน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อนำไปเทียบกับแร่ละโมบสุดอัศจรรย์

“ท่านจะใช้มันจริงหรือ?”

“ถูกต้อง ฉันจำเป็นต้องสอดหนังไว้ระหว่างแผ่นโลหะ เพื่อซับแรงกระแทกจากภายนอก ไม่ให้เข้าไปถึงผู้สวมภายใน”

ขณะกริดพยักหน้าอธิบาย เสือครามส่งเสียงคำรามพลางทุบอก

“โฮก! หากต้องใช้หนังคุณภาพต่ำเช่นนั้น ท่านใช้หนังข้าแทนดีกว่า!”

เสือตายย่อมทิ้งหนัง

หมายความว่า เมื่อมีหนัง ก็ต้องมีการตาย

แต่เสือครามเป็นสัตว์เทพ ถึงจะถูกถลกหนังออกจนหมดตัว มันจะยังไม่ตายและสามารถสร้างหนังขึ้นมาทดแทนได้

จริงอยู่ อาจเลี่ยงความเจ็บปวดแสนสาหัส ซึ่งทุกข์ทรมานยิ่งกว่าความตายไม่ได้ แต่เพื่อกริดผู้มีพระคุณแล้ว เสือครามเต็มใจมอบหนังให้โดยไม่ลังเล

“เข้ามา! เชิญแล่หนังข้าไปได้เลย!”

เสือครามคำรามด้วยสีหน้าขึงขัง

สำหรับผู้มีพระคุณต่อชุมชนมอนสเตอร์ ผู้มีพระคุณต่อสัตว์ป่าในแดนใต้ทั้งหมด และผู้ต่อลมหายใจของสัตว์เทพทุกตน เสือครามเต็มใจอุทิศร่างกายให้แม้จะต้องเจ็บปวด

“หือ? งั้นก็เยี่ยมเลย”

กริดไม่ปฏิเสธ

ไม่มีเหตุผลให้ชายหนุ่มต้องปฏิเสธหนังสัตว์คุณภาพสูง

‘คงมีระดับสูงกว่าหนังเฟย์ริส’

ไม่สิ ต้องดีกว่าแน่นอนอยู่แล้ว

เสือครามคือสัตว์เทพ ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ครึ่งเทพ ถึงจอมอสูรลำดับ 22 เฟย์ริสจะน่าเกรงขามสักเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางเทียบกับสัตว์เทพได้แน่นอน

วางหนังเฟย์ริสลง กริดย่างกรายเข้าหาเสือครามพร้อมกับมีดแหลมในมือ

ทันใดนั้น

หงึกหงึก.

เสือครามยืนตัวสั่นประหนึ่งไผ่ต้องลม

ขณะเดียวกัน กริดสังเกตเห็นว่า บรรดาเสือเขี้ยวกุดด้านหลังกำลังจ้องมองเสือครามด้วยสายตาราวกับ ‘เขาต้องบ้าไปแล้วแน่’

‘นายมันบ้า…’

กริดเคยเข้าใจว่าตนสามารถแล่หนังของอีกฝ่ายได้ง่ายดาย แต่ความจริงแล้วไม่ใช่

เกือบไปแล้ว มันเกือบก่อบาปด้วยการแล่หนังสัตว์ทั้งเป็น

ถอนหายใจยาวหนึ่งหน กริดหันหลังกลับพร้อมกับลดมีดลง

“อย่าพูดจาเหลวไหลน่า แล้วอีกอย่าง หนังสัตว์ของฉันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”

หนังของจอมอสูรลำดับ 22 เฟย์ริส

ส่วนชำรุดสามารถซ่อมแซมได้ด้วยเทคนิคการฟอกหนังขั้นสูง

เคร้ง!

กริดนำละโมบออกจากทั่งและวางหนังของเฟย์ริสลงไปแทน จากนั้นก็เริ่มใช้ค้อนนวดเพื่อให้หนังนิ่มลง

ผ่านไปไม่กี่อึดใจ เศษหนังขาดแหว่งได้ผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นผืนสมบูรณ์

ปรากฏการณ์อันน่าเหลือเชื่อและไม่มีวันทำได้จริงด้วยหลักฟิสิกส์เช่นนี้ เกิดจากผลของทักษะตีเหล็กซึ่งถูกยกระดับด้วย ‘ดึงศักยภาพซ่อนเร้น’ จนมีระดับทัดเทียมเทพ ผนวกเข้าผลของบทกวี

“อะ…!”

ได้เห็นกริดทำในสิ่งเป็นไปไม่ได้ บรรดาสัตว์เทพต่างพากันอ้าปากค้างโดยไม่เปล่งเสียง

แต่เพียงไม่นานก็ต้องรีบนำมือขึ้นมาอุดจมูก

กลิ่นเหม็นบัดซบลอยคละคลุ้ง

พลังอสูรจากหนังเฟย์ริส ได้กระตุ้นต่อมความขยะแขยงของเหล่าสัตว์เทพให้ตื่นตัว

ราชินีหนู คยองจา กล่าวเพราะทนไม่ไหว

“กริด ข้าคิดว่าท่านไม่ควรใช้มัน อยู่ให้ห่างสิ่งอัปมงคลนั่นเข้าไว้ดีกว่า”

“หือ…”

สำหรับกริด มันไม่เคยพบใครรังเกียจกลิ่นของพลังอสูรมาก่อน และเหนือสิ่งใด ตัวมันเองมิได้ต่อต้านพลังอสูร

ด้วยความยอดเยี่ยมของร่างมืด กริดแทบจะอยู่กับพลังอสูรมาทั้งชีวิต

‘แต่ในความเป็นจริง การอยู่ให้ห่างจากพลังอสูรถือเป็นเรื่องถูกต้อง’

พลังอสูรคือสัญลักษณ์ของจอมอสูร

และเทพคือศัตรูของจอมอสูร

เทพผู้พิทักษ์เกิดจากความปรารถนาอันแรงกล้าของมนุษย์ และสัตว์เทพก็เกิดจากเทพผู้พิทักษ์อีกทอดหนึ่ง จึงไม่แปลกหากพวกเขาจะรังเกียจพลังอสูรเป็นล้นพ้น

“แต่พวกนายไม่ต้องห่วง”

นั่นคือคำพูดสุดท้ายของกริด

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

ไม่ว่าสัตว์เทพจะกล่าวสิ่งใดหลังจากนี้ กริดจะไม่ได้ยินจนกว่างานของตนจะเสร็จ

ในวินาทีหนังฟอกถูกประกบเข้ากับบานพับของชุดเกราะ ชายหนุ่มได้เข้าสู่ภาวะไร้ตัวตนอย่างสมบูรณ์

พรึ่บ!

เปลวเพลิงลุกโชนจากปลายค้อน

สิ่งนี้คือพลัง <เจตจำนงแห่งไฟ> จากสมญานาม <ดยุคแห่งไฟ>

[<เจตจำนงแห่งไฟ> ทำการเร่งความเร็วกระบวนการตีเหล็กทั้งหมด]

[ไอเท็มซึ่งถูกสร้างขณะใช้ทักษะ <เจตจำนงแห่งไฟ> จะได้รับเอฟเฟค <ลมหายใจดยุคแห่งไฟ>]

<ลมหายใจดยุคแห่งไฟ>

* เพิ่มพลังโจมตีธาตุไฟ 20%

* เพิ่มค่าต้านทานธาตุไฟ 50%

* เพิ่มค่าพลังจิต 5%

พรึ่บ—!

เปลวเพลิงจากปลายค้อนกริดเริ่มทวีความร้อนแรง โลหะรูปทรงคล้ายเกราะขาถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานจากอุณหภูมิมหาศาล ชายหนุ่มทำเช่นนี้ซ้ำไปมาจนกระทั่งได้รูปทรงต้องการ

“สมบูรณ์แบบ”

บราฮัมซึ่งยืนมองจากด้านข้างอย่างเงียบงันมาสักพัก ยามนี้กล่าวชมเชยผลงานอย่างออกนอกหน้า

วิ้ง—

ทันใดนั้น แสงอันเจิดจ้าแต่อบอุ่น พลันสว่างไสวจนฉาบชุมชนหนูใหญ่พิษให้กลายเป็นสีเหลืองทอง

ยกเว้นบราฮัมและสัตว์เทพ เหล่าสัตว์วิเศษโดยรอบต้องหลับตาลงอย่างมิอาจสู้แสง

[ท่านผลิตไอเท็ม <เกราะกางเกงพญาเสือขาวค้ำจุนฟ้าดิน> สำเร็จ!]

[รางวัลตอบแทนจากการสร้างไอเท็มเกรดมิธ ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่มขึ้น 30 แต้ม]

[เนื่องจาก <การผลิตของช่างเหล็กทัดเทียมเทพ> เป็นเพียงทักษะชั่วคราว ระบบจะไม่นับจำนวนการผลิตเกรดมิธ]

[พลังเสือขาวอันเข้มได้เอ่อล้นจนแผ่อาบร่างกายเสือคราม ในฐานะทายาทเสือขาว เสือครามจะยิ่งทรงพลังขึ้นกว่าเดิม]

<เกราะกางเกงพญาเสือขาวค้ำจุนฟ้าดิน>

เกรด : มิธ

ไอเท็มเซต (เซตเสือขาว)

ความคงทน : อนันต์ พลังป้องกัน : 1,200

* ค่าต้านทานธาตุดิน +60%

* ค่าต้านทานธาตุมืด +40%

* ลดความเสียหายเมื่อถูกโจมตีส่วนล่างของร่างกาย 30%

* มีโอกาสสูงในการมองข้ามความเสียหายเมื่อถูกโจมตีส่วนล่างของร่างกาย

* มีโอกาสสูงในการปลดปล่อย ‘หนามหิน’ เมื่อถูกโจมตีส่วนล่างของร่างกาย หนามหินจะรุนแรง 50% ของความเสียหายจากผู้โจมตี และจะเกิดเอฟเฟค ‘ลดฮีล’ ใส่ผู้โจมตี

* ได้รับทักษะ <จิตวิญญาณเสือขาว>

* ได้รับทักษะ <พยัคฆ์พิสุทธิ์คร่ำครวญ>

* ได้รับทักษะ <คำราม!>

* ได้รับทักษะ <ธรณีจุติ>

* เพิ่มพลังป้องกัน 10% เมื่อต่อสู้ในสมรภูมิประเภทหุบเขา

* เพิ่มพลังโจมตีของทักษะวงกว้าง 20% ในสมรภูมิประเภทหุบเขา

* ลดเกราะและค่าต้านทานเวทมนตร์ของจอมอสูรลำดับต่ำกว่า 22 เป็นจำนวน 10%

* หากถูกโจมตีจนไอเท็มเสียหาย ความคงทนจะค้างอยู่ค่าต่ำสุดนาน 5 วินาที และจะฟื้นฟูค่าความคงทน 10% เมื่อเอฟเฟคหมดลง (ระยะหน่วง 24 ชั่วโมง)

* ได้รับทักษะ <หินผา>

* ได้รับทักษะ <เทพธรณี>

สร้างโดยกริด ช่างเหล็กผู้มีฝีมือทัดเทียมเทพชั่วขณะ

จะช่วยป้องกันตั้งแต่ต้นขาลงไปจนถึงหัวเข่า

เมื่อผนวกสุดยอดเทคนิคเข้ากับความยืดหยุ่นของละโมบ ความคล่องตัวของผู้สวมจึงไม่ลดลง

ด้วยวัตถุ <หนังเฟย์ริสเสริมแกร่ง> ค่าต้านทานธาตุมืดจึงอยู่ในระดับสูง

เดิมที <ลมหายใจเสือขาวเสริมแกร่ง> จะทำให้ <หนังเฟย์ริสเสริมแกร่ง> เกิดการแข็งตัวจนขาดความยืดหยุ่น แต่โลหะ <ละโมบ> ได้สลายข้อจำกัดดังกล่าวออกไป ส่งผลให้พลังลับของเสือขาว หนึ่งในสี่เทพผู้พิทักษ์ ถูกผังติดกับไอเท็มโดยบังเอิญ

<ลมหายใจเสือขาวเสริมแกร่ง> ได้ปกคลุมร่างกายของผู้สวมใส่ด้วยพรระดับเทวตำนาน

ชุดเกราะตัวนี้อันแน่นไปด้วยบทกวีความยิ่งใหญ่ของกริด

★ เมื่อสวมครบเซต 3 ชิ้นจะเพิ่มค่าพลังป้องกันและพลังชีวิต 10%

เงื่อนไขสวมใส่ : กริด

น้ำหนัก : 600

<จิตวิญญาณเสือขาว> Lv.1

ได้รับจิตวิญญาณแห่งเสือขาว

* พลังโจมตีและความเร็วจะลดลง 80% แลกมากกับพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 198%

มานา : 17 หน่วยต่อวินาที

ระยะหน่วงหลังใช้ : 30 นาที

* ทักษะจากไอเท็มเกรดมิธสามารถเลเวลอัป

<พยัคฆ์พิสุทธิ์คร่ำครวญ> Lv.1

สร้างแผ่นดินไหวในรัศมี 5 เมตร

ทุกวัตถุในรัศมีจะได้รับอาการผิดปรกติ ‘เสียการทรงตัว’ ส่งผลให้ค่าพลังป้องกัน หลบหลีก และแม่นยำลดลง 13%

หากเป้าหมายกำลังร่ายมนตร์หรือทักษะ การร่ายจะถูกยกเลิกทันที

มานา : 1,500 หน่วย

ระยะหน่วงหลังใช้ : 10 นาที

* ทักษะจากไอเท็มเกรดมิธสามารถเลเวลอัป

<คำราม!> Lv.1

อัญเชิญเสียงคำรามของเสือขาว

ศัตรูทั้งหมดในระยะของเสียงคำรามเสือขาวจะติดอาการ ‘ชะงัก’ อย่างน้อย 1 วินาที และสูงสุด 7 วินาที เพิ่มพลังป้องกันให้กับพวกพ้องในระยะเสียงคำราม 10%

มานา : 2,000 หน่วย

ระยะหน่วงหลังใช้ : 12 ชั่วโมง

* ทักษะจากไอเท็มเกรดมิธสามารถเลเวลอัป

<หินผา>

ร่างกายของท่านจะแกร่งดังหินผา

* ล้างอาการผิดปรกติทั้งหมดทันที

* เป็นอมตะ 2 วินาที แต่จะสูญเสียความเร็วทุกชนิด 50%

* หากอยู่ในผลของ <จิตวิญญาณเสือคราม> ท่านจะเป็นอมตะ 4 วินาที และสูญเสียความเร็วทุกชนิด 70%

มานา : 1,000 ต่อวินาที

ระยะหน่วง : 1 ชั่วโมง

* ทักษะจากไอเท็มเกรดมิธสามารถเลเวลอัป

<เทพธรณี>

ทักษะติดตัวประเภทสุ่มแสดงผล

ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเสือขาว

หากกำลังยืนบนพื้นดิน มีโอกาสต่ำในการควบคุมพื้นดินรอบตัว

* ใช้มานา 2,000 หน่วยเพื่อเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศรอบตัว และจะกลับคืนสภาพเดิมภายใน 30 วินาที

* ใช้มานา 3,000 หน่วยเพื่อเสกให้เป้าหมายภายในรัศมี 10 เมตรกลายเป็นหิน เป้าหมายจะไม่สามารถเคลื่อนไหว และไม่สามารถถูกโจมตี

* ทุกการโจมตีจะเกิดเอฟเฟค <เสกเสาหิน> เสาหินขนาดใหญ่จะสร้างผล <พุ่งชน> ทำให้เป้าหมายลอยกระเด็น 5 เมตร ความรุนแรงเทียบเท่า 50% ของพลังโจมตีอาวุธ

* หากเสียชีวิตในร่างเทพธรณี ท่านจะได้รับความพิโรธจากเทพเสือขาว

* ทักษะจากไอเท็มเกรดมิธสามารถเลเวลอัป

“สุดยอด…”

เหล่าสัตว์วิเศษและสัตว์เทพต่างอ้าปากค้างอย่างพร้อมเพรียง ในมุมมองสิ่งมีชีวิตพันปีอย่างพวกมัน เกราะกางเกงของกริดนั้นยอดเยี่ยมเกินกว่าธรรมดาไปมาก

กรอบสีทองอร่าม เนื้อโลหะสีขาวสว่างแวววาว และแผ่นบานพับสีทองเข้ม

เมื่อทุกคนสัมผัสถึงกลิ่นอายอันเข้มข้นของพลังเสือขาว ก็ไม่มีใครนึกสงสัยในประสิทธิภาพของมันอีก

“ฟู่ว…”

ถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง กริดเหลือบมองและยืนยันว่าระยะหน่วงของทักษะ ‘ดึงศักยภาพซ่อนเร้น’ ยังเหลืออีกถึง 9 ชั่วโมง

ชายหนุ่มหันไปกล่าวกับเหล่าสัตว์เทพซึ่งกำลังยืนอึ้งจนหมดคำพูด

“สำหรับครั้งหน้า ฉันจะสร้างสามง่าม มงกุฎ และผ้าคลุมผืนใหม่ให้คยองจา”

“…!”

ด้วยพลังทางกายภาพทัดเทียมยังบัน ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเหล่าสัตว์เทพจะไม่เคยให้ความสำคัญกับอุปกรณ์สวมใส่

ยกเว้นคยองจา เสือครามกับโทซุนแทบไม่มีอาภรณ์สวมใส่ ใช้เพียงใบไม้หนึ่งแผ่นช่วยปิดจุดสำคัญของร่างกายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ถึงพวกมันจะไม่เคยแยแสมาก่อน แต่คราวนี้กลับกำลังมีดวงตาเปล่งปลั่ง

เหล่าสัตว์เทพสุดน่าเกรงขาม พลันตระหนักถึงความสำคัญของ ‘โอเวอร์เกียร์’ ทันทีเมื่อได้ประจักษ์เกราะกางเกงตัวใหม่ของกริด

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,577

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous