จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,184



[ท่านได้รับความเสียหายจนถึงแก่ชีวิต]


[ร่างกายซึ่งก้าวข้ามกฎแห่งชีวิตได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง!]


[โลหิตของเหยื่อกำลังไหลย้อนกลับและสร้างความเสียหายให้กับร่างกายท่าน]


ตามปรกติแล้ว หากผู้เล่นต้องการเปลี่ยนเป็นเผ่าอันเดด ก็ต้องเตรียมใจรับผลข้างเคียงในหลายด้านไว้ด้วย


ค่าความว่องไวลดลง ผนึกบางทักษะ และผลของเวทฮีลจะย้อนกลับทั้งหมด


แต่เจียงซืออาชาทมิฬกลับไม่มีผลกระทบด้านความว่องไวหรือถูกผนึกทักษะ ส่งผลให้มันคือสุดยอดเครื่องจักรทำลายล้างอย่างแท้จริง


ตามตำนานทวีปตะวันออก เจียงซืออาชาทมิฬจะถูกยกย่องให้อยู่ในลำดับต้นๆ ของกองทัพเจียงซือเสมอ


อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้มิได้มีแต่ข้อดี


เจียงชืออาชาทมิฬนั้นมีผลข้างเคียงรุนแรงชนิดน้อยคนนักจะจินตนาการออก


“อึก…อ๊ากกกกก!!”


ความตายจะมาพร้อมบทลงโทษหนักหน่วง เพราะมันต้องสูญเสียเลือดมนุษย์จำนวน 300 คนซึ่งถูกฉีดเข้าร่างกายตลอดพิธีกรรม 33 วัน


ต้องเสียค่าประสบการณ์เป็นสองเท่าจากปรกติ และต้องใช้เวลาคืนชีพนานถึงสองวันเต็ม


ว่ากันตามตรง เจียงซืออาชาทมิฬแทบไม่มีโอกาสตายในสถานการณ์ปรกติ หากสู้ไม่ไหวก็ยังมีโอกาสหนีรอดอยู่มาก เพียงแต่ศัตรูในคราวนี้ออกจะผิดรุ่นไปสักหน่อย


“กริด…! กริดดดดดดด!!”


เวอราดินแหกปากคำราม


มันยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของมนุษย์และกลายเป็นเจียงซือเพื่อแก้แค้นกริด แต่ผลลัพธ์กลับออกมาเป็นตรงกันข้าม นอกจากจะแก้แค้นไม่สำเร็จ มันยังถูกกริดโค่นอย่างง่ายดาย


เวอราดินโกรธแค้นจนถึงขั้นหลั่งน้ำตา


“…”


ทว่า กริดไม่แม้แต่จะแยแส


ภาพดังกล่าวทำให้เวอราดินแทบอกแตกตาย


‘…เราเป็นได้แค่อากาศธาตุสำหรับมัน!’


เป็นแค่ฝุ่นผง…


เมื่อโลกสีเทาถูกฉาบด้วยความดำมืด เวอราดินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล็อกเอาต์


การล็อกเอาต์ครั้งสุดท้าย


มันไม่อยากกลับเข้าไปในซาทิสฟายอีกแล้ว


“นี่… นายน่ะ”


เมื่อไล่จัดการเวอราดินและฝูงเจียงซือโลหิตจนหมด กริดได้พบกับนักพรตตัวปัญญา


ชื่อเหนือศีรษะเขียนว่า ‘ซาบัก*’


สวมหมวกคัดสีดำ ทาหน้าขาวโพลน สวมชุดฮันบกสีดำสนิท ไม่ว่าจะมองมุมใดก็เหมือนจอซึงซาจา*ไม่มีผิด


(จอซึงซาจา - ตำนานยมทูตของเกาหลีใต้)


“นายคือนักพรตผู้ทำให้ไอ้ขยะนั่นกลายเป็นเจียงซือสินะ…”


“ถูกต้อง และยังเป็นผู้สร้างตราประทับบนตัวเจ้าด้วย”


“…?”


ตัวเรามีตราประทับอะไร?


กริดเอียงคอครุ่นคิด จนกระทั่งเริ่มนึกถึงไอเท็มชิ้นหนึ่งสมัยอดีตกาลนานมาแล้ว


ตราประทับเพียงอันเดียวในชีวิต


<ตราประทับแห่งการพัฒนา>

เกรด : ยูนีค

สร้างได้จากโรงแปรธาตุ หากแปะติดกับร่างกาย จะทำการสุ่มเพิ่มค่าพละกำลัง ความว่องไว ความอดทน หรือสติปัญญา อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นจำนวน 200 แต้ม

เงื่อนไขการใช้งาน : เลเวล 200 หรือสูงกว่า

น้ำหนัก : 0


(*ปรากฏครั้งแรกในตอน 546)


ตราประทับดังกล่าวคือจุดพลิกผันทำให้กริดชื่นชอบโรงแปรธาตุมากขึ้น ไม่ผิดนักถ้าจะกล่าวว่า หากตอนนั้นไม่ดรอปไอเท็มชนิดนี้มา มันคงกัดฟันเลิกทำโรงแปรธาตุไปนานแล้ว


“แกเป็นคนสร้าง?”


สีหน้ากริดบ่งบอกชัดเจนว่ายังเคลือบแคลง


มันไม่ค่อยอยากเชื่อสักเท่าไร ว่าผู้สมรู้ร่วมคิดของเวอราดินสุดกระจอก จะสามารถสร้างสิ่งอัศจรรย์อย่างตราประทับแห่งการพัฒนาซึ่งเพิ่มแต้มสถานะได้ถึง 200


“ตราประทับอันนี้สร้างจากโรงแปรธาตุของอาณาจักรฮวานไม่ใช่หรือ ฉันได้ยินมาแบบนั้น”


อาณาจักรฮวานคือเมืองของยังบันและห้าอาวุโส พวกมันไม่ต้อนรับมนุษย์ นั่นคือข้อมูลจากปากกษัตริย์โช


ซาบักตอบคำถามกริด


“คิดว่าคนอย่างยังบันจะสนใจศาสตร์การแปรธาตุนักหรือ?”


“…!”


ก็จริงของมัน… กริดหมดคำโต้แย้ง


ชายหนุ่มยังไม่ลืมว่าการัมเคยดูแคลนท่วงท่ารำดาบและศาสตร์การตีเหล็กของแพ็กม่า


‘มันคงดูแคลนโรงแปรธาตุด้วยเช่นกัน’


ยังบันมักใช้ทางลัด อาศัยพลังพันธนาการเพื่อจับมนุษย์ใช้ประโยชน์เสียมากกว่า


ยิ่งนึกภาพถาม คำกล่าวอ้างของนักพรตก็ยิ่งฟังขึ้นมากทีเดียว


แต่กริดยังไม่วางใจ จึงชักดาบออกมาจอลำคอซาบักและซักถาม


“แล้วทำไมเสือครามถึงบอกว่านักพรตมารเป็นลิ่วล้อของอาณาจักรฮวาน”


ไม่เพียงเท่านั้น การสร้างเจียงซือล้วนเกิดจากการพรากชีวิตมนุษย์อย่างไม่มีทางเลือก


นักพรตมารผู้สร้างเจียงซือจึงกลายเป็นฝ่ายชั่วร้ายของโลกไปโดยปริยาย และเสือครามยังเล่าอีกว่า ย้อนกลับไปราวสิบปีก่อน นักพรตมารได้พยายามปลูกกระเทียมและจิงจูฉ่ายเพื่อหวังเปลี่ยนให้บรรดาสัตว์กลายเป็นสัตว์วิเศษ


“เสือครามเล่าว่า สัตว์วิเศษจะต้องกลายเป็นบริวารของห้าอาวุโส เจ้าจึงพยายามกระจายจิงจูฉ่ายและกระเทียมจนทั่วภูเขาหมีใหญ่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเหล่าสัตว์เทพไปให้กับห้าอาวุโสไม่ใช่หรือไง?”


กริดคาดเดาอย่างมั่นใจ


“หืม…”


“ไม่เพียงเท่านั้น พวกแกนักพรตมารพยายามสร้างความวุ่นวายบนทวีปเพื่อให้ยังบันออกมาจัดการปัญหา และเมื่อทำสำเร็จ พวกมันก็จะได้รับบารมีเทพจากความศรัทธาของประชาชน… ฉันพูดถูกไหม?”


กริดพยายามถามจี้ซาบัก มันเชื่อโดยไม่เคลือบแคลงว่า ซาบักจะต้องเป็นสมุนตัวฉกาจของห้าอาวุโสและอาณาจักรฮวานแน่นอน


แต่คำตอบของซาบักทำให้กริดต้องทึ่ง


“เหตุผลของข้าไม่ซับซ้อน เมื่อเริ่มตระหนักว่าอาณาจักรฮวานเผยแพร่ตำนานปลอม นับแต่นั้น ข้าก็พยายามชุบชีวิตอดีตเทพคืนมา”


“…?”


“จริงอยู่ สัตว์วิเศษจะไม่สามารถขัดขืนเจตจำนงแห่งเทพได้ แต่อย่าลืมว่า ‘เทพ’ มิได้จำกัดเฉพาะห้าอาวุโส ฟินิกซ์แดงเองก็คืนชีพกลับมาใหม่ในฐานะเทพแท้จริงเช่นกัน”


“…!”


“การคืนชีพของเทพฟินิกซ์แดงทำให้สถานการณ์บนสวรรค์ปั่นป่วน ฝ่ายเซียนบนสวนสวรรค์มีโอกาสเลือกข้างระหว่างฟินิกซ์แดงและห้าอาวุโส ส่วนฝ่ายสัตว์วิเศษย่อมต้องเลือกอยู่กับเทพฟินิกซ์แดงอยู่แล้ว”


“หมายความว่า เจ้าต้องการให้เหล่าสัตว์กลายเป็นสัตว์วิเศษ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการคืนชีพของเหล่าเทพผู้พิทักษ์ในอนาคต?”


ขณะกริดยังคงสับสน บราฮัมเป็นฝ่ายออกหน้าตั้งคำถามแทน


หลังจากยืนข้างชายหนุ่มมาสักพัก มหาจอมเวทในตำนานกำลังให้ความสนใจซาบักโดยไม่กะพริบตา


“ดูเหมือนว่า ทางทวีปตะวันออกก็มีตัวตนระดับเหนือมนุษย์เหมือนกันสินะ”


“เหนือมนุษย์…?”


กริดพลันเย็นสันหลังวาบ


หากซาบักเป็นเหนือมนุษย์จริง สถานการณ์จะกลายเป็นเลวร้ายสุดขีดทันที


นั่นเพราะมันสัมผัสไม่ได้เลยว่า อีกฝ่ายเป็นเหนือมนุษย์!


สิ่งนี้แปลว่าซาบักมีระดับสูงกว่ากริด สูงจนสามารถกลบกลิ่นอายได้ตามใจชอบโดยไม่ถูกตรวจพบ


ซาบักเริ่มเผยรอยยิ้ม คล้ายกับมีความสุขหลังจากได้พบคนพูดรู้เรื่องเสียที


“ข้าชื่อซาบัก ผู้นำของเหล่านักพรตมาร”


“บราฮัม มหาจอมเวทผู้รับใช้กริดคนนี้”


“…ราชาโอเวอร์เกียร์กริด”


กริดฝืนแนะนำตัวด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน สาเหตุเพราะมันยังไม่เข้าใจในหลายเรื่อง


“ขอถามหนึ่งข้อ ทำไมถึงต้องสร้างเจียงซือซึ่งแลกมาด้วยชีวิตของมนุษย์”


“หากคิดทำสงครามกับอาณาจักรฮวาน จะหวังพึ่งแค่กำลังมนุษย์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ฝ่ายต่อต้านจำเป็นต้องมีกองทัพอมตะสำหรับสร้างสันติภาพให้โลก”


“สร้างสันติภาพให้โลกโดยการฆ่าคน?”


“เรื่องนี้เป็นเหตุสุดวิสัย เหล่านักพรตมารชื่นชอบการสร้างเจียงซือเป็นชีวิตจิตใจ ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก”


“…?”


“จนกระทั่งตอนนี้ ข้าไม่เคยเปิดเผยแผนก่อกบฏให้ใครล่วงรู้มาก่อน ไม่มีใครในกลุ่มนักพรตมารทราบตัวจริงและจุดประสงค์ของข้า และข้าก็ไม่มีทางเลือกนอกจากพยายามจากทำตัวให้กลมกลืนกับพวกมัน”


“…”


“นี่คือสิ่งจำเป็น เพื่อรวบรวมกองทัพเจียงซือ ข้าต้องรวบรวมนักพรตมารจำนวนมาก และเพื่อซื้อใจนักพรตมารจำนวนมาก ข้าก็ต้องกลมกลืนไปกับพวกมัน… แต่อย่าได้โกรธกันเลย หากทวงคืนสันติสุขให้โลกได้เมื่อไร ข้าจะจัดการลงโทษพวกมันอย่างสาสม”


เมื่อจบประโยค กริดพลันตระหนัก


ซาบักเป็นคนประเภทเดียวกับแพ็กม่า…


ขอให้เป้าหมายลุล่วง ระหว่างทางช่างมัน


“เจ้ากำลังจะไปหาสัตว์วิเศษใช่ไหม ข้าเองก็อยากคุยกับพวกเขาเพื่อโน้มน้าวเรื่องกระเทียมและจิงจูฉ่าย ขอตามไปด้วยได้ไหม”


ซาบักขอร้องอย่างสุภาพ


แม้จะทราบว่าอีกฝ่ายคือมนุษย์คนแรกของทวีปตะวันออกผู้ตระหนักถึงความไม่ชอบมาพากลและพยายามสร้างสันติสุข แต่กริดกลับมอบคำตอบอย่างเย็นชา


“ขอปฏิเสธ”


“…?”


รอยยิ้มบนใบหน้าซาบักเริ่มจืดชืด


กริดพลันสั่นกลัว แต่ก็ยังอธิบายกลับไปอย่างหนักแน่น


“อุดมคติของแกมันผิด วิธีการก็ผิด ฉันไม่ขอร่วมมือด้วยเด็ดขาด”


“ฮะฮะ…?”


ซาบักระเบิดเสียงหัวเราะแห้ง ก่อนจะเอียงคอถามพลางขมวดคิ้วด้วยสีหน้าสุดฉงน


“คุณธรรมของข้ามีข้อบกพร่อง? นี่ข้าหูฝาดไปรึเปล่า?”


ตึกตัก!


หัวใจกริดเริ่มบีบเกร็งคล้ายกับมีใครใช้ในมือจับโดยตรง ประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์เริ่มร้องเตือนถึงอันตราย


เมื่อเห็นกริดตอบสนองโดยการตั้งท่าเตรียมต่อสู้เต็มอัตราศึก บราฮัมเป็นฝ่ายออกปากแทน


“ถ้าไม่ร่วมมือแล้วจะทำไม?”


“…”


ซาบักทำเพียงสงบปาก


เมื่อเห็นว่าคงไม่ได้ความคืบหน้า มันตัดสินใจก้าวถอยหลังกลับไปเล็กน้อย


“วันนี้จะยอมถอยก่อนก็ได้ แต่ขอให้ลองกลับไปคิดดู ความร่วมมือระหว่างเราจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย”


ฉึบ.


ซาบักหายตัวไปอย่างสมบูรณ์ คล้ายกับร่างกายของมันซึมลงไปยังใต้ดิน


ผ่านไปสักพัก เมื่อบราฮัมมั่นใจว่าตนแกะรอยอีกฝ่ายไม่สำเร็จ มันหันมาพูดกับกริดด้านข้าง


“ไม่ต้องกังวลไป เจ้านั่นเป็นแค่เหนือมนุษย์ธรรมดา ไม่ใช่ครึ่งเทพหรือเทพ”


“…อา”


แต่ถึงจะพูดแบบนั้น อดีตสันตะปาปาเครย์เชอร์สุดทรงพลังก็เป็น ‘แค่’ เหนือมนุษย์ธรรมดาเช่นกัน และกริดไม่มีแววจะทัดเทียมกับเครย์เชอร์ได้ในอนาคตอันใกล้


หากนำมาเทียบกัน จุดมุ่งหมายของซาบักนั้นดีกว่าเครย์เชอร์ค่อนข้างมาก เพราะสันตะปาปาบ้ากามคนนั้นเลิกคิดถึงโลกและเอาแต่สนใจแมรีโรสในช่วงบั้นปลาย ส่วนซาบักพยายามทำเพื่อโลกโดยแท้จริง


เพียงแต่ใช้วิธีการผิด


“สันติสุขจากความโชคร้ายของใครบางคนนั้นไม่ใช่สันติสุขอย่างแท้จริง”


แพ็กม่าพิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว


กริดยังไม่ลืมวาระสุดท้ายของแพ็กม่า ยังไม่ลืมสีหน้าอันเจ็บแค้นและสำนึกเสียใจในการกระทำอันผิดวิธีของตน


ชายหนุ่มหันมาเร่งบราฮัม


“รีบไปกันเถอะ”


“อา”


กริดใช้ชุนโป ส่วนบราฮัมใช้เทเลพอร์ต


คนทั้งสองเร่งฝีเท้าสุดกำลังจนกระทั่งเข้าสู่เขตชุมชนเสือเขี้ยวกุด


***


ซีบาลได้พิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะสุดโกงของจักรกลเวทมนตร์ไปแล้วในการแข่งซาทิสฟายนานาชาติปีก่อน ชายผู้นี้คือหนึ่งในตัวเต็งของรายการ PVP อย่างไร้ข้อกังขา หลายฝ่ายจึงมั่นใจว่าซีบาลจะเข้าร่วมการแข่ง PVP อีกหนึ่งปี


แต่ผิดคาด มันไม่ลงแข่ง


เหตุผลไม่ซับซ้อน เพราะครอเกลจากประเทศเดียวกันได้ลงแข่งในรายการนี้แล้ว


“คงไม่ฉลาดสักเท่าไร หากเลือกลงแข่งรายการเดียวกับครอเกลจนตัวเองต้องพลาดเหรียญทอง”


ซีบาลเป็นเจ้าแห่งการวางแผน


มันมีโอกาสประจักษ์ศักยภาพอันยอดเยี่ยมของคลาสอริยดาบมาแล้วหลายหน


สักวัน เขาจะทัดเทียมกริด…


ซีบาลมั่นใจว่า ถึงตนจะขับจักรเวทมนตร์ไรเดอร์สได้เต็มเวลา แต่ก็คงไม่เพียงพอสำหรับการเอาชนะอริยดาบครอเกลในการดวล


อีกทั้ง การชิงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองในปีนี้ยังมีความหมายกับทีมสหรัฐมาก มันจึงต้องจริงจังเป็นพิเศษ


‘ต้องยอมสละศักดิ์ศรีไม่เข้าท่าและโกยเหรียญทองให้มากเข้าไว้’


ในเมื่อปีนี้ไม่มีกริด ถ้าหากทีมสหรัฐยังคว้าโอกาสไว้ไม่ได้ พวกมันคงไม่มีหน้ากลับไปพบกับเหล่ากองเชียร์ทั่วประเทศ


ต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้น


ผู้แพ้ไม่มีโอกาสแก้ตัว


ฉะนั้น


『นักกีฬาตัวแทนทีมชาติสหรัฐ ซีบาล เข้ามาในสนามแข่งแล้วครับ!』


ซีบาลเลือกลงแข่งทำลายวัตถุ


แคนาดาส่งแรงเกอร์ฝีมือดี เช่นเดียวกันกับทีมจีน ส่วนเกาหลีใต้ส่งยูร่าเข้าแข่ง


เมื่อเห็นดังนั้น ซีบาลวางแผนเตรียมขจัดปัจจัยไม่คาดฝันออกไปในทันที


‘ถ้าเราคว้าทองแรกมาได้ คงอื่นในทีมก็จะเล่นง่ายขึ้น’


มันชำเลืองยูร่า


หญิงสาวลงแข่งโดยจับคู่กับแรงเกอร์อันดับไม่ติดท็อป 1,000 มิใช่อีกหนึ่งขุนพลสำคัญในทีมเกาหลีใต้อย่างจิสึกะ


“เกาหลีใต้กำลังคิดอะไรอยู่?”


“…?”


“จิสึกะได้เปรียบในการแข่งทำลายวัตถุไม่ใช่หรือ หากคุณกับเธอร่วมมือกัน ผมคิดว่าเหรียญทองคงจะสูสีกว่านี้ แล้วทำไมถึงตัดสินใจลงแข่งตามลำพัง?”


แน่นอน ถ้าทีมเกาหลีส่งยูร่าและจิสึกะลงพร้อมกัน แม้แต่ซีบาลก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้เหรียญทอง แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะเท่ากับเป็นการใช้สองแลกหนึ่ง


แต่ดูเหมือนมันจะกังวลมากไปเอง


คงเพราะทีมเกาหลีเริ่มเสียขวัญจากการไม่มีกริดลงแข่งกระมัง…


คล้ายกับทีมเกาหลีต้องการกอบโกยเหรียญทองให้มากเข้าไว้ จึงส่งสองหัวแยกกันลงคนละรายการ เป็นเหตุให้ตัดสินใจผิดพลาดในคราวนี้


“ช่างเถอะ… ขอให้ได้เหรียญเงินก็แล้วกัน”


เมื่อระฆังการแข่งดังกังวาน ซีบาลส่งเสียงให้กำลังใจยูร่าพร้อมกับอัญเชิญไรเดอร์ส


ตึง! ตึง! ตึง!


ส่วนบนของลำตัวติดปืนใหญ่ไว้จำนวนแปดกระบอก โดยช่วงล่างยังมีอีกหกกระบอก ทั้งหมดกำลังเล็งไปยังเป้าบินบนท้องฟ้า


“ยิง”


ซีบาลออกคำสั่ง มันไม่มีเคลือบแคลงเลยว่าชัยชนะได้ตกเป็นของตนเรียบร้อยแล้ว


จนกระทั่งจรวดสิบกว่านัดอันแสนภาคภูมิในของมัน พลันระเบิดกลางอากาศอย่างไม่ทราบสาเหตุ


“เกิดอะไรขึ้น…?”


มันย่อมคาดไม่ถึงผลลัพธ์เช่นนี้มาก่อน จึงแสดงท่าทีตกตะลึงโดยไม่ปิดบัง พลางมองโลกผ่านดวงตาไรเดอร์สเพื่อสำรวจสถานการณ์


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


การโจมตีของนักกีฬาคนอื่นล้วนระเบิดกลางอากาศก่อนถึงเป้าหมายเช่นเดียวกับจรวดซีบาล ท้องฟ้ากำลังปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันจากการระเบิดอย่างเป็นปริศนา


“บ้าบอสิ้นดี…”


ทันใดนั้น โลกพลันถูกย้อมกลายเป็นสีดำสนิท


กึ่งกลางท้องฟ้าด้านบนมีดวงจันทร์ขุมนรกซึ่งมาพร้อมดวงตาน่าขยะแขยงนับหมื่น ถัดลงมาจากจันทร์แดงเล็กน้อย หลุมดำปริศนากำลังเปิดออกทีละนิด


‘ยูร่า!’


ซีบาลรีบหันไปมองด้านข้าง


อีกฝ่ายยังคงยืนในจุดเริ่มต้น


ใช่แล้ว ยืนในจุดเดิม โดยกำลังรัวยิงกระสุนสีเขียวใส่ประตูมิติเบื้องหน้าโดยไม่หยุดพัก


นี่คือผลจากทักษะ ‘มิติขุมนรก’ ซึ่งเคยสร้างความประทับใจให้ครอเกลในการแข่งปีก่อนจนยากจะลืมเลือน


หลักการก็คือ อัญเชิญขุมนรกขึ้นมาปกคลุมสนามรบเอาไว้ จากนั้นก็เสกประตูมิติขึ้นตรงหน้าด้วยทักษะ ‘มิติขุมนรก’ และกำหนดปลายทางเป็นท้องฟ้าเหนือวัตถุเป้าหมายทั้งหมดรอบเกาะ


『นักกีฬายูร่าจากเกาหลีใต้ได้ทำลายวัตถุทั้งหมดแล้วครับ!』


『ย…ยี่สิบสามวินาที! สถิติโลกใหม่ครับ!』


“…”


ซีบาลทำได้เพียงหุบปากเงียบ


นับแต่นี้ไป บุคคลซึ่งมันจะมอบความยำเกรงมิได้มีแค่กริดกับครอเกลอีกแล้ว แต่ยังรวมยูร่าเพิ่มเข้าไปด้วย


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,573
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00