จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 813



    ในปัจจุบัน  มีคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกยกย่องให้เป็น ‘เสาหลัก’ ค้ำจุนจักรวรรดิ
    แต่เมอร์เซเดสและชาวจักรวรรดิต่างไม่ยอมรับในตัวตนของห้าเสาหลักยุคปัจจุบันมากนัก  
    ไม่สิ  ระบุให้ชัดก็คือ  ห้าเสาหลักไม่เคยมีความดีความชอบเป็นที่ประจักษ์มาก่อน
    ไม่มีใครกังขาในความแข็งแกร่ง  แต่กับชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่นั้นต่างออกไป

    ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า  ห้าเสาหลักยุคปัจจุบันมีหน้าที่เพียงอารักขาความปลอดภัยองค์จักรพรรดิเท่านั้น
    แต่การกระทำเช่นนี้สามารถนับเป็นการสร้างความมั่นคงทางอ้อมได้เช่นกัน

    แต่เมื่อเทียบกับอดีตเสาหลักอย่างปิอาโร่และอัสโมเฟล
    ทั้งสองปราบปรามศัตรูมากมายนับไม่ถ้วน  ช่วยเหลือชีวิตชาวเมืองได้มากถึงเรือนหมื่นเรือนแสน
    ปิอาโร่และอัสโมเฟลเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับทุกคนในจักรวรรดิ  ไม่ว่าจะขุนนางหรือชาวเมืองทั่วไป
    ทั้งสองมอบความกล้าและความปลอดภัยให้ชาวจักรวรรดิมานานหลายสิบปี
    ปิอาโร่และอัสโมเฟลที่คือตัวตนที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดนั้น

    “…ชาวนา”

    ‘เลิกล้อกันเล่นสักที’

    เมอร์เซเดสอยากโพล่งถ้อยคำเช่นนี้ออกไป   เธอได้แต่ปรารถนาให้มันไม่เป็นความจริง
    ทว่า  น่าเสียดายที่ดวงตาพิเศษของเธอระบุชัดเจนว่าปิอาโร่มิได้โกหก  แถมภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงตราตรึงในจิตใจ
    
    “ทำไมกัน…”

    เมอร์เซเดสกัดริมฝีปากพลางถามด้วยเสียงสั่นเครือ
    เธอต้องการให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน
    แต่ทุกสิ้นล้วนเป็นความจริง
    ความจริงที่แย่ยิ่งกว่าฝันร้าย    

    “ทำไมคุณถึงกลายเป็นชาวนา?"

    ในสายตาเธอ  หน้าที่เกษตรกรรมเป็นของพลเมืองชนชั้นล่างเท่านั้น
    เมอร์เซเดสมิใช่บุคคลที่รังเกียจชนชั้นต่ำกว่า  เพียงแต่เธอเติบโตในสภาพแวดล้อมตระกูลขุนนางใหญ่ตั้งแต่เด็ก

    สถานะขุนนางของปิอาโร่สูงส่งเกินกว่าจะลดตัวลงมาทำงานเกษตรกรรม
    เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดปิอาโร่ที่ตนเคารพถึงพลิกผันชะตาชีวิตกลายเป็นชาวนา

    ปิอาโร่ย่อมเข้าใจความรู้สึก  เขาเองก็เคยเป็นขุนนางใหญ่มาก่อน
    แต่ปัจจุบัน  ปิอาโร่รู้จักตัวเองดียิ่งกว่าใครทั้งหมด

    “การเป็นชาวนาทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าสมัยเป็นมหาจอมดาบมาก”

    ปิอาโร่เก็บคราดพร้อมกับนำพลองนวดข้าวออกมา
    ตามชื่อของมัน  สิ่งนี้มีไว้นวดข้าวเปลือก

    “ไม่มีอาชีพใดมีเกียรติไปกว่ากัน  ตามความเห็นของฉัน  อาชีพชาวนานั้นมีเกียรติยิ่งกว่าอริยดาบเสียอีก  หากไร้ชาวนา  มนุษย์จะไม่มีอาหารอร่อยให้กินในแต่ละมื้อ  และหากไม่มีอาหารอร่อย  มนุษย์ก็จะขาดพัฒนาการและความสุข”

    “…”

    เฉกเช่นอาชีพนายพราน  หากไม่มีคนเหล่านั้น  มนุษย์ก็จะไม่มีเนื้อให้กิน  ไม่มีหนังให้ทำเครื่องนุ่งห่ม

    เมอร์เซเดสไม่ต้องการยอมรับข้ออ้างเหลวไหลจากปิอาโร่  เธอกำลังถูกผูกมัดด้วยภาระหน้าที่สำคัญ
    ปิอาโร่บอบช้ำและเกิดแผลใจตลอดสิบสองปีที่ผ่านมา  เมอร์เซเดสมีหน้าที่ต้องเยี่ยวยาเขาให้หายขาด

    “หมดช่วงเวลาถามตอบแล้ว”
    
    ปีกของเมอร์เซเดสสยายออกอีกครั้งอย่างระยิบระยับ

    เคร้ง—

    เคร้งเคร้งเคร้ง! 

    ดาบคู่ในมือเริ่มส่องสว่างวูบวาบ
    แสงตกค้างของดาบที่ห่อหุ้มปราณอัศวิน  มันกำลังระบำท่ามกลางความมืดมิดอย่างชดช้อยงดงาม
    
    “ปิอาโร่!  ได้สติกลับมาสักที!”

    แต่ละการโจมตีของเมอร์เซเดสล้วนเปี่ยมด้วยพลังอำนาจดุดัน
    แม้แต่ตัวตนอย่างปิอาโร่ก็ใช่ว่าจะรับมืออัศวินในตำนานได้ง่าย

    ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไป  บาดแผลตามร่างกายปิอาโร่ก็ยิ่งเพิ่มจำนวน
    เขามิได้สวมชุดศึกเนื่องจากออกมาทำฟาร์มตามปรกติ
    กายเนื้อแสนบอบบางมิอาจทนรับเพลงดาบคู่ตระกูลเวนซ์อันโด่งดัง

    แถมปิอาโร่ยังประสบปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น  
    เมอร์เซเดสเริ่มเอาจริงโดยการสลับอาวุธโจมตี

    เธอกระหน่ำจูโจ่มจากทุกทิศโดยไม่เปิดช่องว่างให้ปิอาโร่หยุดพัก  
    แม้แต่การโต้กลับก็ยังทำไม่ได้

    เมอร์เซเดสเชี่ยวชาญเทคนิคโจมตีพร้อมรักษาระยะห่างไปในตัว  
    ระยะอาวุธที่สั้นของปิอาโร่ไม่มีทางสัมผัสโดนร่ายกายเธอแน่

    แต่ปิอาโร่กลับยังดื้อรั้น
    เขาอาศัยม่านบาเรียพืชผลที่เกิดจากทักษะ ‘เร่งโต’ คอยปกป้องตัวเอง
    การโจมตีระยะไกลจากเมอร์เซเดสด้วยธนูและหอกเริ่มเข้าไม่ถึงตัว
    เศษซากข้าวสาลี  มันฝรั่ง  และผักกาดลอยกระจายพุ้งทั่วท้องฟ้า

    “…!”

    เมอร์เซเดสรีบถอยหลังตั้งหลัก
    เธอยังจำได้ดีว่าปิอาโร่สามารถระเบิดพืชผลได้ทุกชนิด 
    แต่คราวนี้กลับไม่มีการระเบิดเกิดขึ้น
    
    ตรงกันข้าม  พวกมันเคลื่อนไหวอิสระกลางอากาศโดยพุ่งโจมตีใส่เมอร์เซเดสจากทุกทิศทาง
    ปิอาโร่กำลังผสานคอมโบทำฟาร์มอิสระรูปแบบที่หก
    พืชผลนานาชนิดกลายเป็นกระสุนให้ชาวนาในตำนานกระหน่ำยิง

    ขณะเมอร์เซเดสกำลังเพ่งสมาธิรับมือห่าฝนเมล็ดพันธุ์  ปิอาโร่ลอบประชิดตัวและฟาดด้วยพลองนวดข้าวจากด้านหลังในมุมอับ
    อัศวินในตำนานยืนสั่นระริกด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
    ชุดเกราะที่เธอสวมคือเกราะหนังเก่าโทรมสมัยยังเป็นศิษย์ปิอาโร่  จึงไม่แปลกที่จะได้รับบาดเจ็บรุนแรง  
    มันปวดร้าวยิ่งกว่าการถูกดาบหรือหอกเสียดแทงเสียอีก
    ความอับอายเมื่ออัศวินอันทรงเกียรติกำลังถูกชาวนาทุบตี…
    อาการบาดเจ็บทางจิตใจและศักดิ์ศรีนั้นรุนแรงกว่าทางกายภาพหลายเท่าตัว 

    “เป็นยังไงบ้าง?  นี่คือพลังของชาวนายังไงล่ะ!  ฉันแข็งแรงและมีสุขภาพดีกว่าตอนเป็นมหาจอมดาบหลายเท่า!  แถมยังมอบความสุขให้แก่ผู้คนได้ด้วย  นี่แหละตัวฉัน!”

    “อึก…!”

    “นี่คือเส้นทางใหม่ของฉัน!!”

    ผืนปฐพีกำลังสั่นสะเทือนรุนแรง
    การดวลระหว่างสองตำนานได้สร้างความพังพินาศเทียบเท่าจอมอสูรรุกรานโลกมนุษย์
    สิ่งมีชีวิตที่อยู่คนละมิติกับปุถุชนได้ป่นเขตเกษตรกรรมของไรนฮาร์ทให้กลายเป็นซากขี้เถ้า

    ชายหนุ่มที่เฝ้ามองการต่อสู้จากระยะไกลพลันกลืนน้ำนายอึกใหญ่

    “มังกรปะทะพยัคฆ์…!”

    กริดเปรียบเทียบอะไรของเขา
    มังกรกับเสือสูสีกันตรงไหน… 

    แต่ช่างเถอะ
    นั่นไม่ใช่ปัญหาเดียวของกริดตอนนี้
    ชายหนุ่มไม่มีเวลาว่างมัวขบคิดถึงความบกพร่องทางตรรกะของตัวเอง
    เขากำลังทึ่งสถานหนัก

    ‘ปิอาโร่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?’

    เมล็ดพันธุ์เกิดระเบิดต่อเนื่องไม่หยุดพัก
    พืชผักงอกเงยคอยพันธนาการร่างเมอร์เซเดสให้เสียสมดุล
    เธอเคลื่องไหวร่างกายได้อย่างจำกัดจำเขี่ยเนื่องจากเถาวัลย์เหนียวคอยฉกฉวยโอกาสตรึงรัดข้อเท้าเป็นระยะ
    
    อีกหนึ่งจุดแข็งของเมอร์เซเดสคือการสลับอาวุธให้เข้ากับสถานการณ์
    ดาบ  ขวาน  ธนู  
    โล่  หอก  และอื่นๆ
    แต่ทั้งหมดกลับถูกปิอาโร่ขัดขวางด้วยกลยุทธอันแยบผลอัญชาญฉลาด

    เมอร์เซเดสถูกเนิร์ฟงั้นหรือ?
    ศัตรูที่แข็งแกร่งจะอ่อนแอลงเมื่อกลายเป็นพวกใช่ไหม… 
    ผิดแล้ว  เมอร์เซเดสไม่เข้าข่ายนี้
    เธอยังคงแข็งแกร่งเหมือนเช่นเคย
    เพียงแต่ปิอาโร่แข็งแกร่งกว่ามาตั้งแต่ต้นเท่านั้นเอง

    กริดเริ่มฉุกคิดได้

    “เขตเกษตรกรรม…”
    
    ปิอาโร่ทำงานในทุ่งข้าวเหล่านี้มานานแรมปี
    หมายความว่าสถานที่แห่งนี้ึคือ… 

    “เขตแดนปิอาโร่…!”

    ปิอาโร่ก้าวข้ามขีดจำกัดของ NPC ปรกติไปไกลแล้ว  เขากลายเป็นตัวตนระดับ ‘บอส’ ที่ครอบครองเขตแดนเป็นของตัวเอง    

    หัวใจกริดกำลังเต้นสูบฉีดเมื่อได้ค้นพบความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของปิอาโร่
    ยิ่งชายคนนี้แข็งแกร่ง  กริดก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัย
    เขาสามารถฝากชีวิตตัวเองไว้กับปิอาโร่ได้โดยปราศจากความเคลือบแคลง    

    ชายหนุ่มยังคงเสียใจอยู่ไหมที่ปิอาโร่เลือกเส้นทางชาวนา?
    คำตอบคือไม่  ความคิดไร้สาระรกสมองเหล่านั้นถูกเททิ้งโดยไม่ใยดี
    คงประหลาดไม่น้อยหากกริดยังคงนึกเสียใจหลังจากได้เห็นพลังต่อสู้ราวกับสัตว์ประหลาด

    และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  ปิอาโร่แข็งแกร่งกว่าอริยดาบครอเกลไม่รู้ตั้งกี่เท่า
    
    “ปิอาโร่!”

    กริดตะโกนเรียกข้ามผืนทุ่งข้าวจากจุดไกลโพ้น
    
    “จงแสดงพลังของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดให้ฉันได้ประจักษ์!”

    เสียงตะโกนของกริดดังสะท้อนไปทั่วเขตเกษตรกรรมอันกว้างใหญ่
    ดังจนแหวกอากาศสอดแทรกเข้ารูหูปิอาโร่ที่กำลังแลกดาบกับเมอร์เซเดสด้วยเสียงดังกระหึ่ม

    สองมือของปิอาโร่ที่กำลังถืออุปกรณ์ทำฟาร์ม…มันเริ่มสั่นระริก

    “หากนั่นเป็นประสงค์ของฝ่าบาท…!”

    ฟ้าววววว— 

    ลมพายุอันเกรี้ยวกราดเริ่มก่อตัวโดยมีปิอาโร่เป็นศูนย์กลาง
    ปีกสีเงินของเมอร์เซเดสสั่นสะเทือนวูบวาบโดยมิอาจรักษารูปทรงไว้ได้

    ทันใดนั้น  ฝ่ามือทั้งสองของปิอาโร่พลันบิดหมุนเป็นเกลียว

    “ทำฟาร์มอิสระ”

    “…!!”

    ดวงตาเมอร์เซเดสเริ่มลุกวาว
    ดาบคู่ของเธอที่กำลังปะทะกับอาวุธของปิอาโร่  พวกมันถูกหมุนวนไปตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย

    “วิชาดาบไร้ก้นบึ้งรูปแบบที่สี่…!”

    เทคนิคดาบที่ปิอาโร่สอนสั่งเมอร์เซเดสตั้งแต่ยังเล็ก  เทคนิคดาบที่เธอใช้ต่อกรกับจอมอสูรอัสทารอธจนกลายเป็นอัศวินในตำนาน

    ทว่า

    “กังหันน้ำ!”

    นี่คือหนึ่งในทักษะไม้ตายใหม่ที่ปิอาโร่เพิ่งคิดค้นขึ้น
    พลังธรรมชาติถูกรีนเร้นออกมาในปริมาณมหาศาลจนสามารถสยบดาบคู่ของอัศวินระดับตำนานได้ราบคาบ

    แผ่นดินด้านล่างเริ่มสั่นสะเทือนรุนแรง
    ทันใดนั้น  เสาวารีต้นใหญ่ได้พวยพุ่งจากพื้นฟาร์มเกษตร  มันกระแทกใส่ร่างเมอร์เซเดสจนลอยขึ้นท้องฟ้า
    
    “อ๊ะ…”
    
    ขณะกำลังเสียการทรงตัวกลางอากาศ  เมอร์เซเดสได้บรรลุถึงสัจธรรมหนึ่งข้อ

    ‘ไม่มีอาชีพใดที่มีเกียรติไปกว่ากัน’

    กรอบความคิดของเธอเริ่มกว้างขึ้น
    ในวินาทีนี้  อัศวินในตำนานเมอร์เซเดสได้ตั้งปณิธานอัศวินข้อแรกแก่ตัวเอง

    ‘ห้ามตัดสินผู้คนด้วยอคติ’

    ทันใดนั้น

[ อัศวินในตำนานเมอร์เซเดสได้ตั้งปณิธานแห่งอัศวินเพิ่มอีกหนึ่งข้อ ]
[ ค่าสถานะทุกชนิดของอัศวินในตำนานเมอร์เซเดสเพิ่มขึ้น 10%  และโอกาสเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองลดลง 80% ]

    “...?”

    กริดขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจกับข้อความระบบที่ปรากฏขึ้นระหว่างการดวล
    
    หลังจากเมอร์เซเดสหล่นกระแทกพื้น  เธอก้มศีรษะลงต่อหน้าปิอาโร่เพื่อเป็นการยอมจำนน

    “พวกเรากลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากพลัดพรากมานานสิบสองปี  แต่ไม่เพียงตัวฉันจะไม่พัฒนาขึ้น  กลับยังต้องพึ่งพาคุณให้ชี้แนะหนทางสว่างอีกครั้ง  ฉันทั้งอับอายและขอบคุณจากใจจริง”

    “ฉันเองก็ได้เรียนรู้จากเธอไม่น้อย  และหากเธอใช้พลังเต็มที่  บางทีชัยชนะอาจไม่ตกเป็นของฉัน”

    “ไม่เลย  ฉันไม่มีโอกาสชนะคุณสักนิด"

    “ฮุฮุ  ถ่อมตัวเกินไปแล้ว”

    คำคื่นอันมืดมิดเลือนผ่านไปอย่างอบอุ่น

    ***

    “จะไปแล้วหรือ?”
    
    หลังจากจบการต่อสู้  เมอร์เซเดสและปิอาโร่ได้ใช้เวลาร่วมกันหนึ่งคืนเต็มสำหรับแลกเปลี่ยนเรื่องราวในช่วงที่ผ่านมา
    จนกระทั่งถึงเช้า  ปิอาโร่ได้ขอเข้าเฝ้ากริดเพื่อกราบทูลลา

    “ขอรับ  ฝ่าบาทมีอัศวินที่ดีที่สุดของทวีปอยู่ข้างกาย  กระหม่อมไม่มีสิ่งใดต้องกังวลอีกแล้ว”

    “ทำไมถึงเข้มงวดกับตัวเองนัก  นายไม่ได้เจอเมอร์เซเดสมาตั้งนานไม่ใช่รึไง?  อยู่ต่ออีกสักวันสองวันก็ได้”

    ปิอาโร่คือคนสำคัญ  กริดย่อมไม่ต้องการให้ชายคนนี้เคร่งเครียดเกินไป

    แต่คำตอบจากปากปิอาโร่คือสิ่งที่กริดคาดไม่ถึง

    “กระหม่อมโกรธตัวเองมากในตอนที่ได้รับข่าวร้ายของข่าน  หากกระหม่อมหาวิธีเพาะปลูกวอลนัทสีทองได้เร็วกว่านี้…ข่านอาจมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น”

    ความเศร้าโศกของกริดที่ต้องเสียข่าน  สิ่งนี้ถูกส่งไปถึงปิอาโร่ด้วย  
    เขาเจ็บแค้นในความไร้ประโยชน์ของตัวเอง

    “ฝ่าบาท…กระหม่อมจะเข้มงวดกับตัวเองให้มากกว่านี้”

    “…”

    เมื่อความจริงใจอันหาที่สุดมิได้ถูกส่งผ่านมาถึง  กริดคงต้องยอมรับการตัดสินใจแต่โดยดี
    ชายหนุ่มเดินเข้าไปจับสองมือปิอาโร่ไว้

    “ขอบคุณมาก  แต่นายอย่าได้ลืมสิ่งสำคัญเด็ดขาด  ห้ามฝืนตัวเองจนเกิดอันตราย  ฉันไม่มีวันให้อภัยแน่ถ้านายจากไปอีกคน”

    “…ขอรับ”

    ฉากตรงหน้าเปี่ยมด้วยความห่วงหาอาทรต่อกัน
    เมอร์เซเดสฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้เห็นสายสัมพันธ์ทีื่แนบแน่นระหว่างนายและบ่าวคู่นี้
    
    “ปิอาโร่  เดี๋ยวก่อน!”

    ใครบางคนตะโกนขึ้นจากด้านนอกพร้อมกับรีบวิ่งเข้ามาในห้อง  
    เป็นเทศมนตรีแร็บบิท
    แร็บบิทโค้งคำนับกริดเล็กน้อยก่อนจะนำกระดาษแผ่นหนึ่งมอบให้ปิอาโร่

    “นี่คือค่าเสียหายทั้งหมดที่นายทำลายเขตเกษตรกรรมเมื่อวาน!  นายต้องชดใช้!”

    “…”

    สาเหตุที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ยังไม่เป็นหนี้และล้มละลายไปเสียก่อน  ส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้กับชายที่ชื่อแร็บบิทคนนี้

    ***

    “เป็นกลุ่มเด็กที่ยอดมาก”

    ผู้อำนวยการโรงเรียนหลวงสติกส์กำลังฉีกยิ้มไม่หุบ

    “ในตอนแรกอาจเรียนรู้ได้ช้ากว่าเด็กทั่วไป  สาเหตุเพราะทุกคนขาดพื้นฐานสามัญสำนึก  แต่เมื่อปรับตัวได้  พวกเขามีพัฒนาการอันน่าเหลือเชื่อ  เด็กทั้ง 23 คนจะเติบโตขึ้นเป็นมหาจอมเวทหรือไม่ก็นักวิชาการที่เก่งกาจ”

    สติกส์กำลังกล่าวถึงเด็กเล็กทั้ง 23 คนที่กริดพามาจากหอแห่งนิรันดร์
    กลุ่มเด็กปริศนาที่ทุกคนเคยเข้าใจผิดว่าเป็นลูกของกริด  เด็กเหล่านี้ตกเป็นประเด็นสนทนาไปทั่วอาณาจักรอยู่พักใหญ่

    แต่ความจริงก็กระจ่างเมื่อสติกส์ระบุว่าทุกคนมีสติปัญญาสูงกว่ามาตรฐานมนุษย์หลายเท่า
    ใช่แล้ว...
    ลูกของกริดไม่มีทางฉลาดขนาดนั้น
    ลอร์ดถือเป็นกรณีพิเศษระดับหนึ่งในล้าน

    กริดอมยิ้มอย่างมีความสุข    

    “เป็นข่าวที่ดี…แล้วพวกเขามีสุขภาพแข็งแรงรึเปล่า?”

    “ทุกคนแข็งแรงมาก  แถมความดำมืดในใจได้สลายไปจนหมด  คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ฝ่าบาทมอบให้พวกเขาตั้งแต่แรกพบ  สิ่งนั้นช่วยเยียวยาจิตใจที่สับสนและตื่นตระหนกได้ดีกว่าโอสถใดทั้งหมด  ฝ่าบาททำได้เยี่ยมมาก”

    สติกส์ส่งสายตาแสนอบอุ่นให้กริด
    เผ่าพันธุ์ชั้นสูงอย่างเอลฟ์  พวกเขาล้วนเกลียดชังเผ่าพันธุ์แสนเน่าเหม็นอย่างมนุษย์เข้ากระดูกดำ
    ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน  ไม่เคยมีบันทึกว่าเอลฟ์ตนใดยกย่องชื่นชมมนุษย์มาก่อน
    
    แต่สติกส์กลับต้องประทับใจในตัวกริดครั้งแล้วครั้งเล่า  ชายคนนี้มอบความรู้สึกแปลกใหม่ให้เขาเสมอ
    เป็นเพราะกริด  สติกส์จึงลดอคติกับมนุษย์ลง  เป็นความเปลี่ยนแปลงมหาศาลภายในระยะเวลาอันสั้น

    ขณะเดียวกัน… 

    “ในที่สุดก็หาพบ”

    ราชาพ่อค้า ‘เคียร์’ คือผู้เล่นคนแรกที่ได้พบผืนป่าต้นไม้โลก

    เนื้อหาซาทิสฟายบทใหม่กำลังจะถูกคลายผนึกด้วยฝีมือผู้เล่นคนหนึ่ง
    แต่ไม่ใช่ในทางที่ดีนัก

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,236
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. เมื่อเก่งขึ้น​ ก็จะเจออุปสรรค​ที่ยากขึ้นเสมอ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00