จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 813
ในปัจจุบัน มีคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกยกย่องให้เป็น ‘เสาหลัก’ ค้ำจุนจักรวรรดิ
แต่เมอร์เซเดสและชาวจักรวรรดิต่างไม่ยอมรับในตัวตนของห้าเสาหลักยุคปัจจุบันมากนัก
ไม่สิ ระบุให้ชัดก็คือ ห้าเสาหลักไม่เคยมีความดีความชอบเป็นที่ประจักษ์มาก่อน
ไม่มีใครกังขาในความแข็งแกร่ง แต่กับชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่นั้นต่างออกไป
ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ห้าเสาหลักยุคปัจจุบันมีหน้าที่เพียงอารักขาความปลอดภัยองค์จักรพรรดิเท่านั้น
แต่การกระทำเช่นนี้สามารถนับเป็นการสร้างความมั่นคงทางอ้อมได้เช่นกัน
แต่เมื่อเทียบกับอดีตเสาหลักอย่างปิอาโร่และอัสโมเฟล
ทั้งสองปราบปรามศัตรูมากมายนับไม่ถ้วน ช่วยเหลือชีวิตชาวเมืองได้มากถึงเรือนหมื่นเรือนแสน
ปิอาโร่และอัสโมเฟลเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับทุกคนในจักรวรรดิ ไม่ว่าจะขุนนางหรือชาวเมืองทั่วไป
ทั้งสองมอบความกล้าและความปลอดภัยให้ชาวจักรวรรดิมานานหลายสิบปี
ปิอาโร่และอัสโมเฟลที่คือตัวตนที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดนั้น
“…ชาวนา”
‘เลิกล้อกันเล่นสักที’
เมอร์เซเดสอยากโพล่งถ้อยคำเช่นนี้ออกไป เธอได้แต่ปรารถนาให้มันไม่เป็นความจริง
ทว่า น่าเสียดายที่ดวงตาพิเศษของเธอระบุชัดเจนว่าปิอาโร่มิได้โกหก แถมภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงตราตรึงในจิตใจ
“ทำไมกัน…”
เมอร์เซเดสกัดริมฝีปากพลางถามด้วยเสียงสั่นเครือ
เธอต้องการให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน
แต่ทุกสิ้นล้วนเป็นความจริง
ความจริงที่แย่ยิ่งกว่าฝันร้าย
“ทำไมคุณถึงกลายเป็นชาวนา?"
ในสายตาเธอ หน้าที่เกษตรกรรมเป็นของพลเมืองชนชั้นล่างเท่านั้น
เมอร์เซเดสมิใช่บุคคลที่รังเกียจชนชั้นต่ำกว่า เพียงแต่เธอเติบโตในสภาพแวดล้อมตระกูลขุนนางใหญ่ตั้งแต่เด็ก
สถานะขุนนางของปิอาโร่สูงส่งเกินกว่าจะลดตัวลงมาทำงานเกษตรกรรม
เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดปิอาโร่ที่ตนเคารพถึงพลิกผันชะตาชีวิตกลายเป็นชาวนา
ปิอาโร่ย่อมเข้าใจความรู้สึก เขาเองก็เคยเป็นขุนนางใหญ่มาก่อน
แต่ปัจจุบัน ปิอาโร่รู้จักตัวเองดียิ่งกว่าใครทั้งหมด
“การเป็นชาวนาทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าสมัยเป็นมหาจอมดาบมาก”
ปิอาโร่เก็บคราดพร้อมกับนำพลองนวดข้าวออกมา
ตามชื่อของมัน สิ่งนี้มีไว้นวดข้าวเปลือก
“ไม่มีอาชีพใดมีเกียรติไปกว่ากัน ตามความเห็นของฉัน อาชีพชาวนานั้นมีเกียรติยิ่งกว่าอริยดาบเสียอีก หากไร้ชาวนา มนุษย์จะไม่มีอาหารอร่อยให้กินในแต่ละมื้อ และหากไม่มีอาหารอร่อย มนุษย์ก็จะขาดพัฒนาการและความสุข”
“…”
เฉกเช่นอาชีพนายพราน หากไม่มีคนเหล่านั้น มนุษย์ก็จะไม่มีเนื้อให้กิน ไม่มีหนังให้ทำเครื่องนุ่งห่ม
เมอร์เซเดสไม่ต้องการยอมรับข้ออ้างเหลวไหลจากปิอาโร่ เธอกำลังถูกผูกมัดด้วยภาระหน้าที่สำคัญ
ปิอาโร่บอบช้ำและเกิดแผลใจตลอดสิบสองปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดสมีหน้าที่ต้องเยี่ยวยาเขาให้หายขาด
“หมดช่วงเวลาถามตอบแล้ว”
ปีกของเมอร์เซเดสสยายออกอีกครั้งอย่างระยิบระยับ
เคร้ง—
เคร้งเคร้งเคร้ง!
ดาบคู่ในมือเริ่มส่องสว่างวูบวาบ
แสงตกค้างของดาบที่ห่อหุ้มปราณอัศวิน มันกำลังระบำท่ามกลางความมืดมิดอย่างชดช้อยงดงาม
“ปิอาโร่! ได้สติกลับมาสักที!”
แต่ละการโจมตีของเมอร์เซเดสล้วนเปี่ยมด้วยพลังอำนาจดุดัน
แม้แต่ตัวตนอย่างปิอาโร่ก็ใช่ว่าจะรับมืออัศวินในตำนานได้ง่าย
ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไป บาดแผลตามร่างกายปิอาโร่ก็ยิ่งเพิ่มจำนวน
เขามิได้สวมชุดศึกเนื่องจากออกมาทำฟาร์มตามปรกติ
กายเนื้อแสนบอบบางมิอาจทนรับเพลงดาบคู่ตระกูลเวนซ์อันโด่งดัง
แถมปิอาโร่ยังประสบปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น
เมอร์เซเดสเริ่มเอาจริงโดยการสลับอาวุธโจมตี
เธอกระหน่ำจูโจ่มจากทุกทิศโดยไม่เปิดช่องว่างให้ปิอาโร่หยุดพัก
แม้แต่การโต้กลับก็ยังทำไม่ได้
เมอร์เซเดสเชี่ยวชาญเทคนิคโจมตีพร้อมรักษาระยะห่างไปในตัว
ระยะอาวุธที่สั้นของปิอาโร่ไม่มีทางสัมผัสโดนร่ายกายเธอแน่
แต่ปิอาโร่กลับยังดื้อรั้น
เขาอาศัยม่านบาเรียพืชผลที่เกิดจากทักษะ ‘เร่งโต’ คอยปกป้องตัวเอง
การโจมตีระยะไกลจากเมอร์เซเดสด้วยธนูและหอกเริ่มเข้าไม่ถึงตัว
เศษซากข้าวสาลี มันฝรั่ง และผักกาดลอยกระจายพุ้งทั่วท้องฟ้า
“…!”
เมอร์เซเดสรีบถอยหลังตั้งหลัก
เธอยังจำได้ดีว่าปิอาโร่สามารถระเบิดพืชผลได้ทุกชนิด
แต่คราวนี้กลับไม่มีการระเบิดเกิดขึ้น
ตรงกันข้าม พวกมันเคลื่อนไหวอิสระกลางอากาศโดยพุ่งโจมตีใส่เมอร์เซเดสจากทุกทิศทาง
ปิอาโร่กำลังผสานคอมโบทำฟาร์มอิสระรูปแบบที่หก
พืชผลนานาชนิดกลายเป็นกระสุนให้ชาวนาในตำนานกระหน่ำยิง
ขณะเมอร์เซเดสกำลังเพ่งสมาธิรับมือห่าฝนเมล็ดพันธุ์ ปิอาโร่ลอบประชิดตัวและฟาดด้วยพลองนวดข้าวจากด้านหลังในมุมอับ
อัศวินในตำนานยืนสั่นระริกด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
ชุดเกราะที่เธอสวมคือเกราะหนังเก่าโทรมสมัยยังเป็นศิษย์ปิอาโร่ จึงไม่แปลกที่จะได้รับบาดเจ็บรุนแรง
มันปวดร้าวยิ่งกว่าการถูกดาบหรือหอกเสียดแทงเสียอีก
ความอับอายเมื่ออัศวินอันทรงเกียรติกำลังถูกชาวนาทุบตี…
อาการบาดเจ็บทางจิตใจและศักดิ์ศรีนั้นรุนแรงกว่าทางกายภาพหลายเท่าตัว
“เป็นยังไงบ้าง? นี่คือพลังของชาวนายังไงล่ะ! ฉันแข็งแรงและมีสุขภาพดีกว่าตอนเป็นมหาจอมดาบหลายเท่า! แถมยังมอบความสุขให้แก่ผู้คนได้ด้วย นี่แหละตัวฉัน!”
“อึก…!”
“นี่คือเส้นทางใหม่ของฉัน!!”
ผืนปฐพีกำลังสั่นสะเทือนรุนแรง
การดวลระหว่างสองตำนานได้สร้างความพังพินาศเทียบเท่าจอมอสูรรุกรานโลกมนุษย์
สิ่งมีชีวิตที่อยู่คนละมิติกับปุถุชนได้ป่นเขตเกษตรกรรมของไรนฮาร์ทให้กลายเป็นซากขี้เถ้า
ชายหนุ่มที่เฝ้ามองการต่อสู้จากระยะไกลพลันกลืนน้ำนายอึกใหญ่
“มังกรปะทะพยัคฆ์…!”
กริดเปรียบเทียบอะไรของเขา
มังกรกับเสือสูสีกันตรงไหน…
แต่ช่างเถอะ
นั่นไม่ใช่ปัญหาเดียวของกริดตอนนี้
ชายหนุ่มไม่มีเวลาว่างมัวขบคิดถึงความบกพร่องทางตรรกะของตัวเอง
เขากำลังทึ่งสถานหนัก
‘ปิอาโร่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?’
เมล็ดพันธุ์เกิดระเบิดต่อเนื่องไม่หยุดพัก
พืชผักงอกเงยคอยพันธนาการร่างเมอร์เซเดสให้เสียสมดุล
เธอเคลื่องไหวร่างกายได้อย่างจำกัดจำเขี่ยเนื่องจากเถาวัลย์เหนียวคอยฉกฉวยโอกาสตรึงรัดข้อเท้าเป็นระยะ
อีกหนึ่งจุดแข็งของเมอร์เซเดสคือการสลับอาวุธให้เข้ากับสถานการณ์
ดาบ ขวาน ธนู
โล่ หอก และอื่นๆ
แต่ทั้งหมดกลับถูกปิอาโร่ขัดขวางด้วยกลยุทธอันแยบผลอัญชาญฉลาด
เมอร์เซเดสถูกเนิร์ฟงั้นหรือ?
ศัตรูที่แข็งแกร่งจะอ่อนแอลงเมื่อกลายเป็นพวกใช่ไหม…
ผิดแล้ว เมอร์เซเดสไม่เข้าข่ายนี้
เธอยังคงแข็งแกร่งเหมือนเช่นเคย
เพียงแต่ปิอาโร่แข็งแกร่งกว่ามาตั้งแต่ต้นเท่านั้นเอง
กริดเริ่มฉุกคิดได้
“เขตเกษตรกรรม…”
ปิอาโร่ทำงานในทุ่งข้าวเหล่านี้มานานแรมปี
หมายความว่าสถานที่แห่งนี้ึคือ…
“เขตแดนปิอาโร่…!”
ปิอาโร่ก้าวข้ามขีดจำกัดของ NPC ปรกติไปไกลแล้ว เขากลายเป็นตัวตนระดับ ‘บอส’ ที่ครอบครองเขตแดนเป็นของตัวเอง
หัวใจกริดกำลังเต้นสูบฉีดเมื่อได้ค้นพบความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของปิอาโร่
ยิ่งชายคนนี้แข็งแกร่ง กริดก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัย
เขาสามารถฝากชีวิตตัวเองไว้กับปิอาโร่ได้โดยปราศจากความเคลือบแคลง
ชายหนุ่มยังคงเสียใจอยู่ไหมที่ปิอาโร่เลือกเส้นทางชาวนา?
คำตอบคือไม่ ความคิดไร้สาระรกสมองเหล่านั้นถูกเททิ้งโดยไม่ใยดี
คงประหลาดไม่น้อยหากกริดยังคงนึกเสียใจหลังจากได้เห็นพลังต่อสู้ราวกับสัตว์ประหลาด
และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ปิอาโร่แข็งแกร่งกว่าอริยดาบครอเกลไม่รู้ตั้งกี่เท่า
“ปิอาโร่!”
กริดตะโกนเรียกข้ามผืนทุ่งข้าวจากจุดไกลโพ้น
“จงแสดงพลังของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดให้ฉันได้ประจักษ์!”
เสียงตะโกนของกริดดังสะท้อนไปทั่วเขตเกษตรกรรมอันกว้างใหญ่
ดังจนแหวกอากาศสอดแทรกเข้ารูหูปิอาโร่ที่กำลังแลกดาบกับเมอร์เซเดสด้วยเสียงดังกระหึ่ม
สองมือของปิอาโร่ที่กำลังถืออุปกรณ์ทำฟาร์ม…มันเริ่มสั่นระริก
“หากนั่นเป็นประสงค์ของฝ่าบาท…!”
ฟ้าววววว—
ลมพายุอันเกรี้ยวกราดเริ่มก่อตัวโดยมีปิอาโร่เป็นศูนย์กลาง
ปีกสีเงินของเมอร์เซเดสสั่นสะเทือนวูบวาบโดยมิอาจรักษารูปทรงไว้ได้
ทันใดนั้น ฝ่ามือทั้งสองของปิอาโร่พลันบิดหมุนเป็นเกลียว
“ทำฟาร์มอิสระ”
“…!!”
ดวงตาเมอร์เซเดสเริ่มลุกวาว
ดาบคู่ของเธอที่กำลังปะทะกับอาวุธของปิอาโร่ พวกมันถูกหมุนวนไปตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
“วิชาดาบไร้ก้นบึ้งรูปแบบที่สี่…!”
เทคนิคดาบที่ปิอาโร่สอนสั่งเมอร์เซเดสตั้งแต่ยังเล็ก เทคนิคดาบที่เธอใช้ต่อกรกับจอมอสูรอัสทารอธจนกลายเป็นอัศวินในตำนาน
ทว่า
“กังหันน้ำ!”
นี่คือหนึ่งในทักษะไม้ตายใหม่ที่ปิอาโร่เพิ่งคิดค้นขึ้น
พลังธรรมชาติถูกรีนเร้นออกมาในปริมาณมหาศาลจนสามารถสยบดาบคู่ของอัศวินระดับตำนานได้ราบคาบ
แผ่นดินด้านล่างเริ่มสั่นสะเทือนรุนแรง
ทันใดนั้น เสาวารีต้นใหญ่ได้พวยพุ่งจากพื้นฟาร์มเกษตร มันกระแทกใส่ร่างเมอร์เซเดสจนลอยขึ้นท้องฟ้า
“อ๊ะ…”
ขณะกำลังเสียการทรงตัวกลางอากาศ เมอร์เซเดสได้บรรลุถึงสัจธรรมหนึ่งข้อ
‘ไม่มีอาชีพใดที่มีเกียรติไปกว่ากัน’
กรอบความคิดของเธอเริ่มกว้างขึ้น
ในวินาทีนี้ อัศวินในตำนานเมอร์เซเดสได้ตั้งปณิธานอัศวินข้อแรกแก่ตัวเอง
‘ห้ามตัดสินผู้คนด้วยอคติ’
ทันใดนั้น
[ อัศวินในตำนานเมอร์เซเดสได้ตั้งปณิธานแห่งอัศวินเพิ่มอีกหนึ่งข้อ ]
[ ค่าสถานะทุกชนิดของอัศวินในตำนานเมอร์เซเดสเพิ่มขึ้น 10% และโอกาสเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองลดลง 80% ]
“...?”
กริดขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจกับข้อความระบบที่ปรากฏขึ้นระหว่างการดวล
หลังจากเมอร์เซเดสหล่นกระแทกพื้น เธอก้มศีรษะลงต่อหน้าปิอาโร่เพื่อเป็นการยอมจำนน
“พวกเรากลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากพลัดพรากมานานสิบสองปี แต่ไม่เพียงตัวฉันจะไม่พัฒนาขึ้น กลับยังต้องพึ่งพาคุณให้ชี้แนะหนทางสว่างอีกครั้ง ฉันทั้งอับอายและขอบคุณจากใจจริง”
“ฉันเองก็ได้เรียนรู้จากเธอไม่น้อย และหากเธอใช้พลังเต็มที่ บางทีชัยชนะอาจไม่ตกเป็นของฉัน”
“ไม่เลย ฉันไม่มีโอกาสชนะคุณสักนิด"
“ฮุฮุ ถ่อมตัวเกินไปแล้ว”
คำคื่นอันมืดมิดเลือนผ่านไปอย่างอบอุ่น
***
“จะไปแล้วหรือ?”
หลังจากจบการต่อสู้ เมอร์เซเดสและปิอาโร่ได้ใช้เวลาร่วมกันหนึ่งคืนเต็มสำหรับแลกเปลี่ยนเรื่องราวในช่วงที่ผ่านมา
จนกระทั่งถึงเช้า ปิอาโร่ได้ขอเข้าเฝ้ากริดเพื่อกราบทูลลา
“ขอรับ ฝ่าบาทมีอัศวินที่ดีที่สุดของทวีปอยู่ข้างกาย กระหม่อมไม่มีสิ่งใดต้องกังวลอีกแล้ว”
“ทำไมถึงเข้มงวดกับตัวเองนัก นายไม่ได้เจอเมอร์เซเดสมาตั้งนานไม่ใช่รึไง? อยู่ต่ออีกสักวันสองวันก็ได้”
ปิอาโร่คือคนสำคัญ กริดย่อมไม่ต้องการให้ชายคนนี้เคร่งเครียดเกินไป
แต่คำตอบจากปากปิอาโร่คือสิ่งที่กริดคาดไม่ถึง
“กระหม่อมโกรธตัวเองมากในตอนที่ได้รับข่าวร้ายของข่าน หากกระหม่อมหาวิธีเพาะปลูกวอลนัทสีทองได้เร็วกว่านี้…ข่านอาจมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น”
ความเศร้าโศกของกริดที่ต้องเสียข่าน สิ่งนี้ถูกส่งไปถึงปิอาโร่ด้วย
เขาเจ็บแค้นในความไร้ประโยชน์ของตัวเอง
“ฝ่าบาท…กระหม่อมจะเข้มงวดกับตัวเองให้มากกว่านี้”
“…”
เมื่อความจริงใจอันหาที่สุดมิได้ถูกส่งผ่านมาถึง กริดคงต้องยอมรับการตัดสินใจแต่โดยดี
ชายหนุ่มเดินเข้าไปจับสองมือปิอาโร่ไว้
“ขอบคุณมาก แต่นายอย่าได้ลืมสิ่งสำคัญเด็ดขาด ห้ามฝืนตัวเองจนเกิดอันตราย ฉันไม่มีวันให้อภัยแน่ถ้านายจากไปอีกคน”
“…ขอรับ”
ฉากตรงหน้าเปี่ยมด้วยความห่วงหาอาทรต่อกัน
เมอร์เซเดสฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้เห็นสายสัมพันธ์ทีื่แนบแน่นระหว่างนายและบ่าวคู่นี้
“ปิอาโร่ เดี๋ยวก่อน!”
ใครบางคนตะโกนขึ้นจากด้านนอกพร้อมกับรีบวิ่งเข้ามาในห้อง
เป็นเทศมนตรีแร็บบิท
แร็บบิทโค้งคำนับกริดเล็กน้อยก่อนจะนำกระดาษแผ่นหนึ่งมอบให้ปิอาโร่
“นี่คือค่าเสียหายทั้งหมดที่นายทำลายเขตเกษตรกรรมเมื่อวาน! นายต้องชดใช้!”
“…”
สาเหตุที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ยังไม่เป็นหนี้และล้มละลายไปเสียก่อน ส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้กับชายที่ชื่อแร็บบิทคนนี้
***
“เป็นกลุ่มเด็กที่ยอดมาก”
ผู้อำนวยการโรงเรียนหลวงสติกส์กำลังฉีกยิ้มไม่หุบ
“ในตอนแรกอาจเรียนรู้ได้ช้ากว่าเด็กทั่วไป สาเหตุเพราะทุกคนขาดพื้นฐานสามัญสำนึก แต่เมื่อปรับตัวได้ พวกเขามีพัฒนาการอันน่าเหลือเชื่อ เด็กทั้ง 23 คนจะเติบโตขึ้นเป็นมหาจอมเวทหรือไม่ก็นักวิชาการที่เก่งกาจ”
สติกส์กำลังกล่าวถึงเด็กเล็กทั้ง 23 คนที่กริดพามาจากหอแห่งนิรันดร์
กลุ่มเด็กปริศนาที่ทุกคนเคยเข้าใจผิดว่าเป็นลูกของกริด เด็กเหล่านี้ตกเป็นประเด็นสนทนาไปทั่วอาณาจักรอยู่พักใหญ่
แต่ความจริงก็กระจ่างเมื่อสติกส์ระบุว่าทุกคนมีสติปัญญาสูงกว่ามาตรฐานมนุษย์หลายเท่า
ใช่แล้ว...
ลูกของกริดไม่มีทางฉลาดขนาดนั้น
ลอร์ดถือเป็นกรณีพิเศษระดับหนึ่งในล้าน
กริดอมยิ้มอย่างมีความสุข
“เป็นข่าวที่ดี…แล้วพวกเขามีสุขภาพแข็งแรงรึเปล่า?”
“ทุกคนแข็งแรงมาก แถมความดำมืดในใจได้สลายไปจนหมด คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ฝ่าบาทมอบให้พวกเขาตั้งแต่แรกพบ สิ่งนั้นช่วยเยียวยาจิตใจที่สับสนและตื่นตระหนกได้ดีกว่าโอสถใดทั้งหมด ฝ่าบาททำได้เยี่ยมมาก”
สติกส์ส่งสายตาแสนอบอุ่นให้กริด
เผ่าพันธุ์ชั้นสูงอย่างเอลฟ์ พวกเขาล้วนเกลียดชังเผ่าพันธุ์แสนเน่าเหม็นอย่างมนุษย์เข้ากระดูกดำ
ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่เคยมีบันทึกว่าเอลฟ์ตนใดยกย่องชื่นชมมนุษย์มาก่อน
แต่สติกส์กลับต้องประทับใจในตัวกริดครั้งแล้วครั้งเล่า ชายคนนี้มอบความรู้สึกแปลกใหม่ให้เขาเสมอ
เป็นเพราะกริด สติกส์จึงลดอคติกับมนุษย์ลง เป็นความเปลี่ยนแปลงมหาศาลภายในระยะเวลาอันสั้น
ขณะเดียวกัน…
“ในที่สุดก็หาพบ”
ราชาพ่อค้า ‘เคียร์’ คือผู้เล่นคนแรกที่ได้พบผืนป่าต้นไม้โลก
เนื้อหาซาทิสฟายบทใหม่กำลังจะถูกคลายผนึกด้วยฝีมือผู้เล่นคนหนึ่ง
แต่ไม่ใช่ในทางที่ดีนัก
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,236
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
เมื่อเก่งขึ้น ก็จะเจออุปสรรคที่ยากขึ้นเสมอ
ReplyDelete