จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 806


[ เทพบนสวรรค์มิอาจละสายตาจากท่านได้  หลังจากสร้างสุดยอดไอเท็มที่แม้แต่เทพยังปรารถนาครบสามชิ้น  ตัวตนของท่านกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระดับใกล้เคียงทวยเทพโดยปริยาย ]

    นี่คือข้อความระบบที่กริดได้รับหลังจากสร้างดาบเสือขาวเกรดมิธสำเร็จ
    มันเป็น ‘เหตุการณ์พิเศษ’ ครั้งแรกภายใต้เงื่อนไขไอเท็มเกรดมิธ
    และรางวัลตอบแทนก็คือ—เสมือนเทพ 

[ เสมือนเทพ – ช่างตีเหล็ก  ]
    ยกระดับตัวตนของท่านให้ใกล้เคียงเทพ
* ทุกทักษะตีเหล็กจะปราศจากเวลาร่าย
* ทุกทักษะตีเหล็กจะปราศจากระยะหน่วง
    ทุกทักษะสามารถใช้งานได้สองครั้งติดต่อกันก่อนจะเกิดระยะหน่วงหลังใช้
ทรัพยากรที่ใช้ : ไม่มี
ระยะหน่วงหลังใช้ : 23 ชั่วโมง
    
    ตัวอักษรหนึ่งพลันผุดขึ้นในหัวกริดทันที
    อักษร ‘ค.ควาย’

    ‘ค…’

    ทักษะด้านตีเหล็กเกือบทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับการผลิต
    หากทักษะการตีเหล็กของเขามีปุ่มให้กดใช้เหมือนกับช่างตีเหล็กทั่วไป  บางทีกริดอาจได้รับผลประโยชน์จาก ‘เสมือนเทพ’ มากกว่านี้

    เพียงกดปุ่มก็สร้างไอเท็มเสร็จสิ้นทันที  นั่นคือสิ่งที่กริดจินตนาการ

    แต่น่าเสียดายที่ทักษะการตีเหล็กระดับตำนานล้วนเป็นแบบติดตัวไร้ปุ่มกด
    แถมวิชาดาบแพ็กม่ายังถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ ‘ทักษะดาบ’ มิใช่การตีเหล็ก
    จึงไม่ได้รับผลจากเสมือนเทพ

    เมื่อลองครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน  กริดแทบไม่ได้รับผลประโยชน์จากเสมือนเทพเลยสักนิด
    ชายหนุ่มเดือดดาลและหัวเสียกับทักษะใหม่นานหลายชั่วโมง

    “ผสานไอเท็ม”

    ในวันเดียวกับที่ได้รับทักษะใหม่  เมื่อใจเย็นลงและขบคิดหาทางใช้งานทักษะเสมือนเทพให้เกิดประโยชน์สูงสุด
    เขาไล่เรียงรายชื่อของทักษะตีเหล็กทั้งหมดที่มี  รวมถึงทักษะลับจากแพ็กม่าที่ครอบครองหลังจากบรรลุเงื่อนไขพิเศษ

    มีสองทักษะที่เข้าตากริด
    ผสานไอเท็มและเปลี่ยนรูปไอเท็ม
    
    สองยอดทักษะที่มีประสิทธิภาพสูงหากใช้งานอย่างถูกต้อง  แต่ระยะหน่วงของเปลี่ยนรูปไอเท็มนั้นแสนนาน
    และระยะเตรียมตัวก่อนใช้งานของผสานไอเท็มก็มีมากเกินไป  การต่อสู้จริงกับศัตรูที่แข็งแกร่งจึงถูกจำกัดโอกาส

    แต่เสมือนเทพสามารถกลบจุดด้อยทั้งหมดในพริบตา
    มันลบทั้งระยะหน่วงและระยะเวลาร่าย
    กริดเริ่มมั่นใจว่าพลังใหม่จะทำให้เขากลายเป็นตัวไร้พ่ายที่สมบูรณ์แบบ

[ ท่านผสาน‘ไม้เท้าบีเลียล’ และ ‘ดาบอัสนีฯ’ เข้าด้วยกัน ] 

    ในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด  กริดมักเลือกผสานไอเท็มที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเสมอ
    เช่นดาบและดาบ

    ทำไมน่ะหรือ?
    เพราะการผสานไอเท็มที่แตกต่างอย่างสุดขั้วจะซับซ้อนและใช้เวลานานกว่าการผสานไอเท็มชนิดเดียวกันตามปรกติ
  
    แต่ปัญหาได้กล่าวได้หมดไปเมื่อมีทักษะเสมือนเทพ
    ทักษะใหม่ป้ายแดงสามารถบันดาลไอเท็มผสานชนิดใหม่ในพริบตาโดยพึ่งพาการคำนวณจากมอร์เฟียส  
    ระบบซาทิสฟายจะจัดการทุกสิ่งให้กริด

    และนั่นคือเหตุผลที่กริดกล้าเสี่ยงดวง
    ชายหนุ่มผสานดาบเข้ากับไม้เท้าซึ่งเป็นประเภทไอเท็มที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
    
    วาบ!

    ไม้เท้าบีเลียลและดาบอัสนีฯ เริ่มลอยขึ้นฟ้าพลางหมุนรอบกันเป็นเกลียว
    เพียงพริบตาก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว  
    ระหว่างกระบวนการได้เกิดแสงสว่างอันงดงามซึ่งใครได้เห็นเป็นต้องตะลึง

    น่าเสียดายที่เทพอัสนีเป็นเพียงอาวุธสังหารที่ไร้อารมณ์และจิตใจ  มันมิได้แยแสความงดงามของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
    จุดมุ่งหมายเดียวในหัวคือทำลายกริดให้สิ้นซาก

[ ผสานไอเท็มเสร็จสิ้น ]    

    ดาบและไม้เท้าที่หลอมรวมเป็นหนึ่งภายในเสาลำแสงสีขาว  มันหวนกลับคืนสู่มือกริดเมื่อกระบวนการผสานไอเท็มเสร็จสิ้น
    ระบบซาทิสฟายได้คิดคำนวณรูปลักษณ์ใหม่อย่างชาญฉลาด  ไม่มีสิ่งใดบกพร่องหรือขัดหูขัดตากริดแม้แต่น้อย

    ไม้เท้าที่ยาวกว่าสองเมตรได้แปรเปลี่ยนตัวเองเป็นด้ามจับให้ดาบอัสนีฯ  ความยาวอาวุธรวมทั้งสิ้นจึงกลายเป็นสามเมตร
    คล้ายคลึงกับหอกที่มีส่วนสันคมยาวกว่าปรกติ

[ ไม้เท้าบีเลียล + ดาบอัสนีฯ ]
เกรด : มิธ (พัฒนา)
ความคงทน : อนันต์
พลังโจมตี : 3,490
พลังเวท : 2,253
* เพิ่มสติปัญญา 30%
* เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 20%
* เพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์ 40%
* เพิ่มพลังโจมตีธาตุไฟ 30%
* เพิ่มพลังโจมตีธาตุมืด 30%
* เพิ่มพลังโจมตีธาตุสายฟ้า 15%
* สร้างความเสียหายแก่สิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้น 50%
* มีโอกาสปานกลางที่จะปลดปล่อย เปลวเพลิง(มหึมา) ขณะโจมตี
* มีโอกาสเล็กน้อยที่จะปลดปล่อยภาพหลอนขณะโจมตี
* มีโอกาสเล็กน้อยที่จะปลดปล่อยสายฟ้าสีชาดขณะโจมตี
★ มีโอกาสปานกลางที่จะปลดปล่อยเพลิงทมิฬขณะโจมตี
* เพิ่มความเร็วร่ายเวท 30%
* สามารถร่ายเวทมนตร์สามชนิดได้พร้อมกัน
( ใช้ความชำนาญสูงมาก )
( หากเวทมนตร์ธาตุไฟและมืดถูกปลดปล่อยพร้อมกัน  การโจมตีแต่ละชนิดจะรุนแรงขึ้น 200% )
* สร้างบาเรียคุ้มกาย 5,000 หน่วยทุกครั้งที่ผู้ใช้งานปลดปล่อยเวทมนตร์
( เป้าหมายที่โจมตีใส่บาเรียมีโอกาสตกอยู่ในอาการหวาดกลัวและเชื่องช้า )
★ ออปชั่นเพลิงมหึมา  ภาพหลอน  สายฟ้าสีชาด  และเพลิงทมิฬจะถูกนับให้เป็นการปลดปล่อยเวทมนตร์
* เพิ่มโอกาสคริติคอลเวทมนตร์ 20%
* เพิ่มความเสียหายคริติคอลเวทมนตร์ 150%
* ได้รับทักษะ ‘บรรลุสัจธรรม’
* ได้รับทักษะ ‘ปรารถนาอันแรงกล้า’
* ได้รับทักษะ ‘พลังบีเลียล’
...
...

    “…???”

    พลังโจมตีและพลังเวทมนตร์ของอาวุธผสานจะมีค่าต่ำกว่าตอนที่แยกกันอยู่
    คงเป็นผลกระทบที่เกิดจากการนำดาบมารวมกับหอกจนทำให้รูปทรงเสียสมดุลอุดมคติไป

    แต่ออปชั่นที่แสดงให้เห็นกลับมิได้แตกต่างจากเดิมนัก  มีการเปลี่ยนแปลงเพียงข้อเดียวเท่านั้น

* สร้างบาเรียคุ้มกาย 5,000 หน่วยทุกครั้งที่ผู้ใช้งานปลดปล่อยเวทมนตร์
( เป้าหมายที่โจมตีใส่บาเรียมีโอกาสตกอยู่ในอาการหวาดกลัวและเชื่องช้า )
★ ออปชั่นเพลิงมหึมา  ภาพหลอน  สายฟ้าสีชาด  และเพลิงทมิฬจะถูกนับให้เป็นการปลดปล่อยเวทมนตร์
    
    การผสานระหว่างไม้เท้าบีเลียลและดาบอัสนีฯ ได้ให้กำเนิดศาสตราสุดโกงชนิดใหม่ขึ้น    

    มันมากมายกว่าที่กริดคาดคิดหลายเท่า
    นี่น่ะหรือพลังของมิธ+มิธ… 

[ เทพแห่งการตีเหล็กตกตะลึงอย่างมาก  เขาเกิดความไม่พอใจที่มนุษย์สามารถแสดงพลังอันน่าทึ่ง ]
[ เทพตนอื่นต่างพากันหัวเราะเยาะเทพแห่งการตีเหล็ก ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับเทพแห่งการตีเหล็กลดลง 1 หน่วย ]
[ หากค่าความสัมพันธ์กับเทพแห่งการตีเหล็กลดลงถึง -10 หน่วย  ทุกไอเท็มที่ท่านสร้าง (ระดับเหนือกว่าเลเจนดารี) จะถูกสาป ]

    “เทพหัวค…”

    กริดสบถอย่างหัวเสียอีกครั้งหลังจากว่างเว้นไปครึ่งเดือน

    ทุกครั้งที่เขาได้รับสิ่งใหม่  ความสุขมักเกินขึ้นพร้อมความทุกข์เสมอ
    แม้จะได้รับผลประโยชน์มหาศาล  แต่ก็ต้องมาพร้อมความกังวลใจอยู่ร่ำไป

    เฉกเช่นการถูกเนิร์ฟทุกครั้งที่สร้างไอเท็มเกรดเลเจนดารีครบห้าชิ้นเมื่อในอดีต
    
    ‘ไม่พอใจ?  คำสาป?  หมอนี่เป็นเทพได้ยังไงกัน?!’

    สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วงหากเหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ถ้าการผสานไอเท็มเกรดมิธสองชิ้นทำให้เทพไม่พึงพอใจ  เขาควรเลี่ยงกระทำมันงั้นหรือ?
    ในช่วงที่กริดยังไม่ทราบวิธีเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับเทพ  เขามิอาจใช้ทักษะผสานไอเท็มสุ่มสี่สุ่มห้าได้    

    “บัดซบ!  ทำไมถึงน่าหงุดหงิดขนาดนี้…”

    ‘ระยำเอ้ย!!’

    ขณะเดียวกัน  เทพอัสนีทั้งห้าตนเริ่มลงมือโจมตีใส่กริดที่กำลังหงุดหงิด
    การตอบสนองของชายหนุ่มเรียบง่ายกว่าที่คิด

    กริดหมุนตัวกวาดหอก(?)เป็นแนวนอนทรงจันทร์ครึ่งเสี้ยว  เทพอัสนีห้าตนถูกโจมตีอย่างพร้อมเพรียงด้วยอาวุธที่มีระยะโจมตีกว่าสามเมตร
    เกิดเปลวเพลิงขนาดใหญ่ผสมปนเปไปกับสายฟ้าสีชาดที่รุนแรง

    เพียงพริบตา  รอบกายกริดได้ถูกห่อหุ้มด้วยบาเรียสีดำหนาสองชั้น

[ ท่านสร้างบาเรียคุ้มกาย 5,000 หน่วย ]
[ ท่านสร้างบาเรียคุ้มกาย 5,000 หน่วย ]

    ชายหนุ่มได้รับบาเรียคุ้มกันความเสียหาย 10,000 หน่วยจากการฟันกวาดแค่ครั้งเดียว
    เทพอัสนีอีกสามตนที่ไม่ถูกออปชั่นพิเศษเล่นงานต่างลงมือโจมตีสวนกลับใส่กริด

[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,900 หน่วย ]
[ เป้าหมายต้านทานอาการ ‘หวาดกลัว’ ]
[ เป้าหมายต้านทานอาการ ‘เชื่องช้า’ ไม่สำเร็จ ]

[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,710 หน่วย ]
[ เป้าหมายต้านทานอาการ ‘หวาดกลัว’ ]
[ เป้าหมายต้านทานอาการ ‘เชื่องช้า’ ไม่สำเร็จ ]
...
...
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,050 หน่วย ]
...
...

    กริดเฝ้ามองเทพอัสนีสูญเสียความเร็วที่เป็นจุดเด่นไป  ดวงตาของชายหนุ่มกำลังสั่นระริกด้วยความตื้นตันใจ

    ‘สุดยอด…!’

    ศัตรูถูกอาการผิดปรกติเล่นงานถือเป็นเรื่องรอง
    กริดกำลังดื่มด่ำไปกับบาเรียสุดโกงที่สามารถซ้อนทับไม่รู้จบโดยไม่ต้องพึ่งพามานา

    ‘มากกว่านี้…!’

    กริดวาดฝันถึงอนาคตอันสดใสที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ
    เขาควงหอกผสานซึ่งอัดแน่นพลังโจมตีและพลังเวทมนตร์ใส่เทพอัสนีโดยไม่รีรอ
    
    ‘เราจะสร้างไอเท็มให้มากกว่านี้!’

    ชายหนุ่มผุดไอเดียมหาศาลในหัว
    เขามีแผนจะสร้างสุดยอดไอเท็มหลายชนิดและทดสอบผสานเข้าด้วยกันในอนาคต  
    
    หากมีทักษะเสมือนเทพล่ะก็  
    ตนสามารถสร้างอาวุธที่เหนือขีดจำกัดของระบบซาทิสฟายได้แน่

    อาวุธที่พลังโจมตี 999,999,999
    ชุดเกราะพลังป้องกัน 999,999,999
    แม้สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้  แต่อาวุธผสานของกริดก็เข้าใกล้มันได้มากกว่าใครทั้งหมด
    โหมดเสมือนเทพคือร่างที่ช่วยรีดเร้น ‘พลังแห่งไอเท็ม’ ออกมาถึงขีดสุด
    
    เทพอัสนีทั้งห้าตนที่พยายามโจมตีใส่กริดด้วยความเร็วแสนเชื่องช้า  พวกมันถูกแปรเปลี่ยนเป็นซากผ้าขี้ริ้วในพริบตา
    กลับกัน  กริดยังคงสบายดีทุกประการ    

    เปลวเพลิงมหึมา  สายฟ้าสีชาด  และเพลิงทมิฬ—ออปชั่นเหล่านี้ปรากฏขึ้นทุกครั้งที่กริดกวัดแกว่งหอกใส่ 
    โล่ดูดซับความเสียหายปริมาณมากกำลังซ้อนทับหลายชั้น  ค่าดูดซับสูงเกินกว่าห้าหมื่นหน่วยไปเรียบร้อยแล้ว
        
    “ฮะฮะ…!  คุฮ่าฮ่าฮ่า!”

    ความปีติกำลังสุมในอกกริด
    เขารู้สึกประหนึ่งตัวเองใช้สูตรโกง
    นี่คือความสนุกสนานซึ่งเป็นสิทธิ์พิเศษของผู้ที่ครอบครองพลังไอเท็ม
    
    หากเทพอัสนีเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์  พวกมันคงด่าทอกริดอย่างเสียหายในความโกงเหนือจินตนาการครั้งนี้
    
    “เนี๊ยวฮ่าฮ่าฮ่า!”

    โนเอะเองก็มีความสุขสุดขีดไม่แพ้กัน
    มันก้มหน้ารับประทานเศษซากเทพอัสนีแสนอร่อยโดยไม่ยอมเงยขึ้น
    ทุกครั้งที่โนเอะกลืนแก่นเทพอัสนีเข้าไป  เลเวลของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
    เลเวลในปัจจุบันเพิ่มสูงเกือบร้อยระดับเพียงพริบตา

    หลังจากกริดเชือดพวกมันอย่างง่ายดาย  เทพอัสนีทั้งห้าตนล้วนถูกโนเอะกินเรียบไม่เหลือซาก  
    เมื่อผลของผสานไอเท็มหมดลง  ชายหนุ่มเก็บอาวุธทั้งสองเข้าช่องสัมภาระ    
    จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองเพดานกระจกใส

    “ศิลาอัสนี…”

    เหนือยอดหอแห่งนิรันดร์กำลังเกิดเมฆฝนหนาทึบรวมถึงพายุสายฟ้าขนาดมหึมา
    ต้นตอของพวกมันคงมาจากหินก้อนนี้

    กริดตัดสินใจทำลายกระจกเพดานด้านบนไปพร้อมศิลาอัสนี

    ทันใดนั้น… 

    ซู่ววว— 

    เมฆหมอกหนาที่เคยปกคลุมท้องฟ้ารวมถึงพายุสายฟ้าทั้งหมด  บัดนี้สลายไปในพริบตาราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมากก่อน
    สายฝนที่กระหน่ำสาดเทลงมาพลันหยุดชะงัก  แสงสว่างกลับคืนสู่โลกที่เคยสีเทาและหมองหม่น

    *** 

    “…!!”

    โกลด์ฮิตลืมตาขึ้นอีกครั้ง
    เธอรีบพยุงร่างกายพลางกวาดสายตามองไปโดยรอบ   จากนั้นก็ภาวนาให้เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเป็นเพียงฝันไป

    ฉากปัจจุบันที่โกลด์ฮิตมองเห็นคือภาพการดวลระหว่างบาอินและคิวราทัน
    …เมื่อครู่ไม่ใช่ความฝัน

    ‘บ้าจริง!’

    โกลด์ฮิตหงุดหงิดตัวเองที่ทำตัวหน้าสมเพชต่อหน้าองค์จักรพรรดิ
    นับเป็นความอับอายไปชั่วชีวิต

    ยิ่งมั่นใจมาก  เวลาผิดหวังก็ยิ่งได้รับผลกระทบรุนแรง
    ใบหน้าของเธอกำลังแดงก่ำด้วยความอับอายและโมโห
    
    โกลด์ฮิตขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างสับสน    
    ก่อนหน้านี้  เหตุใดเธอถึงไม่ใช่เวทเคลื่อนย้ายมิติมายังท้องพระโรงโดยเร็ว?
    นั่นก็เพื่อให้ตัวเองมีเวลาวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับอัสทารอธให้มากที่สุด

    โกลด์ฮิตมั่นใจว่าอัลทารอธใช้พลังอสูรและสายฟ้าเป็นหลัก  แถมยังมีวิชาดาบช่วยเสริมอีกเล็กน้อย
    เธอจึงร่ายเวทเสริมแกร่งร่างกายเพื่อเพิ่มค่าต้านทานสายฟ้าและพลังป้องกันกายภาพ
    
    ไม่เพียงเท่านั้น  หลังจากเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยอุกกาบาต  โกลด์ฮิตยังกางบาเรียคุ้มกายไว้อีกชั้นเผื่อว่าจอมอสูรโจมตีสวนกลับ
    ในฐานะบุคคลที่แสวงหาชีวิตอันเป็นนิรันดร์  โกลด์ฮิตย่อมมีความถึกทนในระดับเหนือจอมเวททั่วไป
    
    ถึงกระนั้นกลับหมดสติในพริบตาตั้งแต่เริ่มปรากฏตัว  โกลด์ฮิตพยายามรีดเร้นความทรงจำสุดท้ายให้ออกมาชัดเจนที่สุด

    ‘เราไม่ได้ถูกมันโจมตี’

    ใช่แล้ว  สายฟ้าฟาดผ่าลงมาจากด้านบน  มิได้ออกจากร่างคิวราทัน
    เธอหรี่ตาลงพลางครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน

    ‘มีศัตรูคนอื่นอยู่ที่นี่…’

    โกลด์ฮิตมั่นใจว่าตนถูกลอบโจมตีจากด้านหลังในทีเผลอ
    
    ‘แถมเป็นศัตรูที่มีฝีมือมาก’

    อีกฝ่ายใช้เวทมนตร์ทรงพลังซึ่งสามารถทะลวงผ่านบาเรียคุ้มกายที่มีค่าต้านทานธาตุธรรมชาติสูง  แถมยังพรางตัวได้แนบเนียนชนิดที่ไม่มีใครแยกแยะได้
    
    บางทีอาจเป็นจอมอสูรอีกตน…

    ยังมีจอมอสูรตนอื่นซ่อนอยู่ในวังหลวงงั้นหรือ?
    โกลด์ฮิตทำได้เพียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ 

    ทันใดนั้น  
    เมื่อเธอลองย้อนนึกดูอีกครั้ง

    สายฟ้าที่ผ่าจากด้านบน…     

    “อะ…!?”

    โกลด์ฮิตพลันเย็นหลังวาบ
    เป็นอีกหนที่เธอประเมินศัตรูต่ำเกินไป
    เวทมนตร์ที่อัสทารอธใช้มิใช่การยิงสายฟ้าธรรมดา  แต่เป็นการสร้างพายุสายฟ้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ
    แถมยังพายุสายฟ้าแบบไร้ธาตุ!     

    “เขตแดนอัสทารอธ...?!”

    ปีศาจตนนี้ไม่ได้กระจอกอย่างที่ทุกคนในจักรวรรดิคิดอีกต่อไป  อัสทารอธอาจเป็นจอมอสูรหลักเดียวด้วยซ้ำ… 

    ดาบในมือบาอินยังคงมิอาจพุ่งผ่านสนามแม่เหล็กโลหะของคิวราทันได้
    มันหยุดกึกกลางอากาศเฉกเช่นทุกครั้ง
    บาอินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหลบหลีกการโจมตีที่คิวราทันสวนกลับมา
    แต่แม้จะหลบได้หนึ่ง  ดาบที่สองจากก็ยากหลบให้พ้น
    
    “…”

    ท้องพระโรงใหญ่กำลังพังถล่ม
    อัศวินลำดับหนึ่งมีสภาพเละเทะยิ่งกว่าซากผ้าขี้ริ้ว
    ห้าเสาหลักที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
    ฉากหลังของสนามรบประดับประดาด้วยซากทหารเลวและอัศวินระดับต่ำจำนวนมาก
    
    นี่คือความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามของจอมอสูร  อัสทารอธทำท่าจะกล่าวบางสิ่ง

    ‘มนุษยชาติจบสิ้นเท่านี้แล้ว’

    แต่ทันใดนั้น…     

    ซู่ววว— 

    ฝนฟ้าคะนองบนท้องฟ้าพลันหยุดลงกระทันหัน
    พายุสายฟ้าสลายไปในพริบตา  พลังอสูรปริมาณมหาศาลจากร่างคิวราทันเริ่มลดระดับลงอย่างรวดเร็ว
    
    ‘หรือว่า…!?’

    ใบหน้าของชายคนหนึ่งผุดขึ้นในหัวโกลด์ฮิตที่กำลังกระวนกระวายใจทันที

    …ราชาโอเวอร์เกียร์
    
    จากนั้น

    กึก!

    เมอร์เซเดสใช้ดาบหักในมือพยุงร่างกายตัวเองขึ้นต่างไม้เท้า
    สถานการณ์ตรงหน้าใกล้เคียงกับความสิ้นหวังอย่างมาก
    สภาพของเธอร่อแร่และเปี่ยมด้วยบาดแผล  จะล้มลงเสียชีวิตไปเมื่อใดก็ไม่มีใครประหลาดใจ
    
    แค่สูดลมเข้าปอดยังยากเลยกระมัง…     

    แล้วเพราะอะไรกัน?
    เหตุใดองค์จักรพรรดิฮวนเดอร์ถึงรู้สึกเชื่อใจในตัวเมอร์เซเดสโดยปราศจากความเคลือบแคลงแม้แต่น้อย
    
    นี่นะหรือ…
    อัศวินที่สามารถฝากชีวิตไว้ได้

    
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,230
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สู้ๆเมอร์เซเดส เธอและจักรพรรดิฮวนเดอร์ต้องเอามาเป็นพันธ์มิตรกริดและเป็นพวกพ้องกริดให้ได้ สู้ๆ

    ReplyDelete
  2. ลุ้นหนักมาก

    ReplyDelete
  3. กริดโดนอีกแล้ว สร้างอาวุธได้ดีจนเทพเคือง

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00