จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 807



    จอมอสูรคือตัวตนที่มีอายุขัยอยู่นอกเหนือกาลเวลา
    ในสายตาคนทั่วไป  ระยะเวลาสิบห้าปีนับว่าแสนสั้น  แต่ถึงอัสทารอสจะเป็นจอมอสูรตนหนึ่ง  มันกลับรู้สึกว่าเวลาสิบหายปีนั้นแสนยาวนาน
    ร่างกายใหม่ที่ได้ครอบครองเมื่อสิบห้าปีก่อนนั้นแสนเปราะบาง  การเดินผ่านกลุ่มคนหมู่มากล้วนก่อให้เกิดความหวั่นวิตกในใจเสมอ

    มันถอนหายใจยาวทุกครั้งที่ผ่านพ้นหนึ่งวันไปอย่างราบรื่น

    “…ฉันอดทนมาตลอดสิบห้าปี”

    โซ่ตรวนที่ชื่อว่าพันธสัญญาจะถูกปลดก็ต่อเมื่อความปรารถนาของผู้อัญเชิญเป็นจริง
    มันกำจัดปิอาโร่และอัสโมเฟลที่เป็นสองขวากหนามสำคัญในยุครุ่งเรื่องของจักรวรรดิ
    พลังอำนาจภายของอัสทารอธกำลังเพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง  มันพยายามอย่างหนักเพื่อให้แต่ละวันผ่านพ้นโดยไม่เกิดปัญหาใด

    ทว่า

    “นังนี่…!”

    ซู่ววว!

    ดวงตาอัสทารอธแผ่จิตสังหารอันทรงพลังในยามจ้องมองเมอร์เซเดส

    “แกทำทุกอย่างพัง!!”

    อันที่จริง  ต้นตอความพินาศทั้งหมดมาจากราชาโอเวอร์เกียร์
    หากมนุษย์เสียสติคนนั้นไม่โผล่มาช่วยเมอร์เซเดสไว้  มันก็คงกลบเกลื่อนทุกสิ่งโดยการสังหารเธอและป้ายความผิดเฉกเช่นเหตุการณ์ในอดีต
    และถ้าตัวตนของมันยังไม่ถูกเปิดเผย  ความปรารถนาของผู้ทำพันธสัญญาที่ต้องการเป็นจักรพรรดิก็จะบรรลุผล
    ระหว่างนั้น  อัสทารอธจะฟื้นฟูพลังเวทมนตร์ปริมาณมหาศาลจนสามารถสร้างร่างเนื้อใหม่ได้อีกครั้ง
    
    ใช่แล้ว  บุคคลที่ทำให้ทุกสิ่งวุ่นวายคือราชาโอเวอร์เกียร์  ความพยายามของมันตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมาต้องเป็นหมัน
    อัสทารอธอยากฉีกกระชากร่างกริดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  แต่ราชาโอเวอร์เกียร์มิได้อยู่ในท้องพระโรงใหญ่แห่งนี้  ความโกรธแค้นทั้งหมดจึงถูกนำมาลงกับเมอร์เซเดสอย่างไม่มีทางเลือก

    “ทำไม…แกไปรู้จักมันได้ยังไง!!”

    ร่างมนุษย์ที่แสนอ่อนแอของอัสทารอธมิอาจทานทนต่อโทสะมหาศาลที่กำลังสุมอก
    มันโกรธจัดจนเส้นเลือดใหญ่บนหน้าผากระเบิดออก  โลหิตสาดกระเซ็นทั่วพื้นห้องจนกลายเป็นสีแดงฉาน
    อัสทารอธมิได้แยแสความน่าสะอิดสะเอียดที่เกิดขึ้น  มันยกแขนเล็กน้อยพลางเล็งฝ่ามือไปยังเมอร์เซเดสที่มีสภาพร่อแร่
    มนตร์ดำจำนวนหนึ่งถูกรวบรวมจากทั่วร่างเพื่อหมายดับชีวิตของหญิงสาวน่าสมเพชตรงหน้า
    ตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมา  มันได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมนุษย์หนึ่งเรื่อง

    มนุษย์นั้นแสนอ่อนแอ 

    อ่อนแอไม่ต่างจากปศุสัตว์ที่ขุมนรกเลี้ยงไว้เป็นอาหาร    
    เมอร์เซเดสต้องตายคาทีเมื่อเวทมนตร์นี้ถูกปลดปล่อยออกไป  
    มันมิได้เคลือบแคลงแม้แต่น้อย 
    แม้แต่สายลมเพียงบางเบาก็มากพอจะดับชีวิตของเมอร์เซเดสที่มีสภาพยับเยินยิ่งกว่าผ้าขี้ริ้ว

    มนุษย์มีขีดกำจัดที่มิอาจก้าวข้ามได้อยู่
    สายฟ้าอสูรซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอัสทารอธเริ่มสำแดงพลังอีกครั้ง
    แรงดึงดูดมหาศาลจากสายฟ้ากำลังพวยพุ่งเขาหาตัวเมอร์เซเดส—การต้านทานขัดขืนทุกชนิดล้วนไร้ผล
    มันหวังจะดูดเธอเข้ามาใกล้และใช้ดาบในมือทิ่มแทงให้สาแก่ใจ
    ใช่แล้ว  มนุษย์ต้องมีจุดจบที่น่าสมเพชเยี่ยงนั้น  อัสทารอธแสยะยิ้มด้วยสีหน้าแสนมั่นใจ 
    
    ขณะเดียวกัน  ฮวนเดอร์กำลังเกิดความเชื่อมั่นในตัวเมอร์เซเดสอย่างน่าประหลาด

    “เมอร์เซเดส!  เจ้าต้องมีชีวิตรอด!”

    ตลอดสิบสองปีที่เธอรับใช้องค์จักรพรรดิผู้นี้  บางทีครั้งนี้อาจเป็นหนแรกที่เจ้านายออกคำสั่งจากก้นบึ้งของหัวใจ
    
    “…”

    สตินึกคิดของเธอกำลังเลือนลาง
    ร่างกายชาไปทั้งตัวและไม่ยอมฟังคำสั่ง
    สายตาพร่าวมัวประหนึ่งยืนทามกลางดงหมอกหนาทึบ

    สิ่งเดียวที่รั้งให้ร่างกายพยุงตัวไว้คือจิตวิญญาณอันแน่วแน่ที่มุ่งมั่นจะปกป้ององค์จักรพรรดิด้วยลมหายใจสุดท้าย
    
    แต่ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเมื่อฮวนเดอร์ออกคำสั่งใหม่  
    ภาพการมองเห็นของเมอร์เซเดสกลับมาชัดเจนอีกครั้ง  ชัดเจนกว่าครั้งใดทั้งหมด
    เธอเพ่งพิจารณาโลกใบนี้ด้วยความละเอียดถี่ถ้วนเหนือสิ่งที่ดวงตามนุษย์สามารถกระทำได้    
    ดวงตาพิเศษซึ่งเป็นพรสวรรค์ของเธอ
    ดวงตาที่เคยเป็นคำสาป  แต่ได้ปิอาโร่ช่วยปลดปล่อยผนึกให้สำแดงพลังที่แท้จริง

    ในวินาทีก่อนที่เศษดาบหักจะถูกดูดเข้าหาอัสทารอธ  เมอร์เซเดสรีบปล่อยมือเพื่อมิให้ร่างกายถูกดูดไปพร้อมดาบ
    
    “เปล่าประโยชน์!”

    มันรีดเร้นพลังพลังอสูรปริมาณมหาศาลพลางพุ่งเข้าหาเธอด้วยความเร็วสูง
    อัสทารอธแสยะยิ้มเย้ยหยันที่เมอร์เซเดสยอมละทิ้งอาวุธเพียงหนึ่งเดียวเพื่อให้ตัวเองรอด
    การกระทำเฮือกสุดท้ายที่เปล่าประโยชน์ของสิ่งมีชีวิตแสนอ่อนแอ
    ดาบที่อัดแน่นด้วยพลังอสูรในมือมันกำลังพุ่งแหวกอากาศเข้าปะทะกลางหน้าผากเมอร์เซเดส
    
    ในเสี้ยววินาที
    เธอตัดสินใจตอบโต้ด้วยเทคนิคดาบแม้ฝ่ามือจะเปลือยเปล่า
    
    “วิชาดาบไร้ก้นบึ้ง·รูปแบบที่สี่!”

    ร่างกายของเมอร์เซเดสเริ่มปลดปล่อยเทคนิคดาบที่เธอพร่ำฝึกฝนจนซึมลึกเข้ากระดูกดำ
    วิชาดาบต้องห้ามของปิอาโร่  บุคคลที่ถูกจักรวรรดิตราหน้าให้เป็นกบฏแผ่นดิน
    แม้ปัจจุบันจะถูกห้ามใช้ในราชอาณาจักรซาฮารัน  แต่เมอร์เซเดสกลับเลือกสำแดงออกมาในวาระสุดท้ายของชีวิต
        
    เธอไม่มีสิ่งใดต้องเสียอีกแล้ว

    “อะไรกัน?”

    อัสทารอธหรี่ตาลงอย่างตกตะลึง
    ดาบที่ควรเสียบทะลวงใบหน้าของเมอร์เซเดสจนมิดด้าม  กลับถูกปลายนิ้วของเธอหยุดไว้กึ่งกลางอากาศ

    เมอร์เซเดสใช้ท่อนแขนและฝ่ามือของตัวเองเป็นสิ่งแทนดาบ
    ขณะฝ่ามืออันเปลือยเปล่ากำลังคว้าปลายดาบอัสทาแน่น… 

    ทันใดนั้น
    ร่างของอัศวินลำดับหนึ่งพลันส่องแสงสีทองอร่ามสว้างไสวไปทั่วท้องพระโรงใหญ่
    
    ข้อความโลกอุบัติขึ้นต่อหน้าทุกคน

[ อัศวินในตำนานถือกำเนิดแล้ว! ]
[ อัศวินทุกคนบนโลกจะเคารพยกย่องเธอ ]

    “อะไรกัน…?  ไม่!  เป็นไปไม่ได้!”

    ความหวาดกลัวที่ถูกผนึกไว้ส่วนลึกสุดของจิตใจอัสทารอธ  บัดนี้เริ่มหวนกลับตามหลอกหลอนอีกครั้ง
    มันเห็นเงาลางของมุลเลอร์ซ้อนทับร่างเมอร์เซเดส  
    ตัวตนตำนานที่ก้าวข้ามขีดกำจัดมนุษย์ย่อมสามารถคุกคามดวงจิตของสิ่งชีวิตระดับสูงเยี่ยงจอมอสูร

    เมอร์เซเดสเกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพียงพริบตา  ราวกับเป็นคนละบุคคลกับเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
    อัสทารอธพยายามปฏิเสธความจริงอันแสนโสมมตรงหน้ามัน

    “อัศวินยืนหยัด”

    ซู่ววว— 

    ปราณดาบสีเงินระเบิดพวยพุ่งออกไปรอบตัวเมอร์เซเดสทุกทิศทาง  พลังประหลาดของเธอลอยผ่านตัวอัสทารอธไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
    
    “อะ…โอ้!!”

    “ซ…เซอร์เมอร์เซเดส!”

    อัศวินทุกคนที่ได้รับปราณดาบของเธอต่างลุกยืนกระฉับกระเฉงขึ้นอีกครั้ง
    พวกเขามีชีวิตชีวาไม่เหมือนกับบุคคลใกล้หมดลมหายใจเมื่อครู่เลยสักนิด

    กึ่งกลางหน้าอกทุกคนกำลังส่องสว่างสัญลักษณ์ดาบสีเงิน
    เหล่าอัศวินต่างลุกโชนด้วยไฟแห่งการต่อสู้อย่างเต็มเปี่ยม

    เมอร์เซเดสเองก็มีสัญลักษณ์ดาบเงินเช่นกัน  แต่กึ่งกลางหน้าอกของเธอเจิดจ้าสว่างไสวยิ่งกว่าใครทั้งหมด

    “แกกำลังทำอะไร?!!”

    อัสทารอธโพล่งขึ้นด้วยสีหน้าหวาดผวา
    มันแผดเสียงคำรามดังกึกก้องประหนึ่งสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ
    
    ทว่า  เมอร์เซเดสและเหล่าอัศวินต่างมิได้เกรงกลัว  พวกเขากำลังสวมเกราะที่ชื่อ ‘ความกล้าหาญ’ เป็นสิ่งคุ้มกาย
    
    “แด่แผ่นดินแม่”

    “แด่แผ่นดินแม่!!”

    เธอและอัศวินทุกคนต่างตะโกนปลุกใจด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม  
    กองอัศวินสีชาดอันเกรียงไกรพุ่งโจมตีอัสทารอธจากทุกทิศทางโดยปราศจากความลังเล
    มันจำเป็นต้องสละดาบของตัวเองที่เมอร์เซเดสกำลังกำแน่นไม่ยอมปล่อย
    หากต้องการมีชีวิตรอดจากกลุ่มอัศวินที่ล้อมโจมตี  หนทางเดียวคือการถอยกลับไปตั้งหลักอีกครั้ง

    ตัวมันในตอนนี้ไม่มีพลังเหลือพอจะใช้สนามสายฟ้าอสูรอีกแล้ว

    ต้องขอบคุณอัสทารอธ  เมอร์เซเดสได้รับดาบใหม่และกลายเป็นตัวตนอัศวินที่สมบูรณ์แบบ
    แม้ร่างกายจะเปี่ยมด้วยบาดแผล  แต่เธอกลับกระโจนเข้าใส่อัสทารอธที่คิดหนีด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

    เมอร์เซเดสเริ่มร่ายรำเพลงดาบขณะลอยตัวกลางอากาศอันวางเปล่า
    ความงามชดช้อยไร้ที่ติกำลังดึงดูดสายตาทุกคู่ภายในท้องพระโรงใหญ่

    “ดาบสัตย์สาบาน”

    ไม่มีใครนับทันว่าเมอร์เซเดสทิ่มแทงใส่อัสทารอธไปทั้งหมดกี่ดาบ  ปราณดาบสีเงินจำนวนมากกระหน่ำพุ่งใส่จนสายตามนุษย์ไล่ตามไม่ทัน

    ถึงขนาดเกิดภาพลวงตาคล้ายเอกภพขึ้นกึ่งกลางอากาศ

    “แค่ก!”

    อัสทารอธล้มลงพลางกระอักเลือด

    ครืนนนนน!

    แผ่นดินกำลังสั่นสะเทือนรุนแรงจากพลังของเมอร์เซเดส  แต่เหล่าอัศวินทุกคนสามารถยืนตั้งมั่นโดยไม่มีใครเสียหลัก

    ด้วยบัฟหมู่ที่เมอร์เซเดสแจกจ่าย  ความกล้าหาญและพละกำลังของกองอัศวินสีชาดได้เพิ่มขึ้นมหาศาล
    
    “แกนะแก…!”

    อัสทารอธพยายามฝืนลุกยืนอย่างยากลำบากด้วยใบหน้าที่ขาวซีด  อัศวินสีชาดสุดเกรียงไกรในสภาพบัฟครบหลายสิบคนกำลังหันคมดาบใส่มันจากทุกทิศทาง
    
    เมื่อเมอร์เซเดสเห็นอัสทารอธถูกล้อมไว้จนหมดทางหนี  เธอตัดสินใจดึงดาบกลับเข้าหาลำตัว  ปลายดาบตั้งตรงชี้ขึ้นฟ้า  ฝ่ามือสองข้างกำด้ามจับแน่นและยกขึ้นสูงบริเวณอก
    
    คมดาบที่เถรตรงกำลังสื่อถึงจิตใจที่ไม่มีวันคดเคี้ยวของเธอ

    “เคยบอกไปแล้วไม่ใช่รึไง…?  ฉันคนนี้จะลงทัณฑ์แกเอง!”

    ปราณดาบสีเงินรอบตัวเมอร์เซเดสพลันระเบิดออก  เกิดเป็นแสงสีเงินระยิบระยับสยายออกจากแผ่นหลังของเธออย่างงดงามราวกับปีกนางฟ้า

    ร่างกายเมอร์เซเดสลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมด้วยดวงตาที่ส่องสว่าง
    ดาบในมือเปล่งประกายเจิดจ้าอัดแน่นด้วยปราณดาบแสนทรงพลัง

    เมอร์เซเดสในร่างวาลไครี่ได้ปรากฏกายกลางอากาศเหนือศรีษะของมัน

    อัสทารอธกำลังสิ้นหวังสุดขีด

    “ทำไมกัน?!”

    ทำไมถึงต้องมีตำนานคอยตามก่อกวนมันทุกครั้ง!?

    เมอร์เซเดสพุ่งโฉบพลางสะบั้นดาบใส่อัสทารอธเต็มกำลัง
    ประหนึ่งนางฟ้าที่จุติบนโลกมนุษย์เพื่อลงทัณฑ์อสูรร้ายโดยเฉพาะ

    อัสทารอธสูญสิ้นพลังเวทมนตร์เกือบทั้งหมดหลังจากศิลาอัสนีถูกป่นละเอียด
    มันย่อมมิอาจรับมือการโจมตีจากตำนานนางฟ้าคนใหม่ได้

    ร่างของจอมอสูรผู้โชคร้ายถูกแยกออกเป็นสองซีก
    ละอองเถ้าถ่านสีเทากระจายฟุ้งคลุ้งทั่วท้องพระโรงใหญ่

    “เฮ—!!”

    เสียงโห่ร้องดีใจของอัศวินสีชาดดังระงมไปทั่ว  บรรยากาศสุดชื่นมื่นปกคลุมไททันภายในเวลาเพียงไม่นาน

    ขณะเดียวกัน
    ฮวนเดอร์  บาอิน  และโกลด์ฮิตต่างเฝ้ามองเหตุการณ์อย่างเงียบงัน
    ตำนานคนที่สองแห่งจักรวรรดิซาฮารัน
    บาอินและโกลด์ฮิตแอบเกิดความริษยาเล็กน้อยในใจ
    
    ส่วนด้านจักรพรรดิ

    “…”

    มันกำลังละอาย… 
    นับตั้งแต่ลืมตาดูโลกจนถึงทุกวันนี้  มันปกครองทวีปตะวันตกโดยไม่เคยมีผู้ใดอยู่ในสายตามาก่อน
    นี่จึงเป็นหนแรกที่มันรู้สึกอยากก้มศีรษะขอโทษใครสักคนจากใจจริง
    
    เมอร์เซเดสเดินเข้ามาใกล้    
    แม้เธอจะรอดชีวิตอย่างฉิวเฉียดด้วยการพัฒนาตัวเองไปเป็นตำนาน  แต่ร่างกายก็ยังเปี่ยมด้วยบาดแผลและโลหิตที่เปรอะเปื้อน
    
    ถึงกระนั้นกลับยังงดงามและมีเสน่ห์
    
    “ฝ่าบาท…ได้โปรดอภัยที่หม่อมฉันไร้ความสามารถ  ไม่ยอมกราบทูลความจริงให้เร็วกว่านี้”

    “…”

    ขณะฮวนเดอร์นิ่งเงียบไป  เมอร์ซเดสคุกเข่าลงหนึ่งข้างด้วยสีหน้าสำนึกผิด
    การกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้องค์จักรพรรดิรู้สึกเจ็บแปลบมากกว่าเดิม

    “ถึงขนาดนี้แล้ว…เจ้ายังนำความผิดทั้งหมดไปเป็นของตัวเองอีกหรือ?”

    “เรื่องราวทั้งหมดเกิดจากความบกพร่องของอัศวินลำดับหนึ่งเพคะ”

    “ปิอาโร่และอดีตอัศวินสีชาดมิได้ทรยศเราใช่ไหม?”

    “เพคะ…ทุกสิ่งเกิดจากแผนชั่วของจอมอสูร”

    “ช่วยเล่ามาตั้งแต่ต้นได้ไหม?”

    “หม่อมฉันเพิ่งทราบความจริงเมื่อไม่นานมานี้…อัสโมเฟลและปิอาโร่ยังมีชีวิตอยู่และคอยรับใช้ราชาโอเวอร์เกียร์”

    เมอร์เซเดสเริ่มอธิบายเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นโดยไม่ปิดบัง
    ไม่ว่าจะได้ยินหรือเห็นสิ่งใดมา  เธอถ่ายทอดทุกอย่างให้ฮวนเดอร์พิจารณาจนหมดเปลือก

    จักรพรรดิตั้งใจฟังอย่างเงียบงันขณะที่อัศวินโดยรอบเริ่มหลั่งน้ำตา
    
    “เรื่องราวเป็นแบบนี้เองหรือ…”

    เมื่อเมอร์เซเดสเล่าทุกอย่างจบ  ฮวนเดอร์เพียงพยักหน้าเล็กน้อย

    มันตัดพ้อและนั่งสำนึกความผิดพลาดที่ตนเคยกระทำในอดีต  แต่อีกใจหนึ่งก็โล่งอกที่ปิอาโร่และอัสโมเฟลยังมีชีวิตอยู่เคียงข้างเจ้านายที่ยอดเยี่ยมอย่างราชาโอเวอร์เกียร์
    
    “เมอร์เซเดส”
    
    “เพคะฝ่าบาท”

    จักรพรรดิคิดจะทำสิ่งใด
    จะยกเลิกโทษให้แก่ปิอาโร่และอัญเชิญกลับมาเป็นวีรบุรุษจักรวรรดิอีกครั้งหรือไม่
    รึว่าจะปกปิดความจริงทั้งหมดและทำเหมือนกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

    แต่ไม่ว่าฮวนเดอร์จะเลือกทางใด  เมอร์เซเดสก็พร้อมยอมทำตามแต่โดยดี
    ไม่ว่าทางใดก็เข้าใจได้ทั้งสิ้น

    ทว่า  ภายในส่วนลึกของจิตใจ  เธอต้องการให้มลทินของปิอาโร่ถูกขจัด
    เมอร์เซเดสเฝ้าฝันมาตลอดว่าสักวันปิอาโร่จะได้หลุดพ้นจากสถานะกบฏแผ่นดิน

    ทันใดนั้น
    สุ้มเสียงของฮวนเดอร์ดังลอดเข้ามาในโสตประสาท

    “เราขอปลดเจ้าออกจากการเป็นอัศวินแห่งจักรวรรดิ”

    “…!”

    “ฝ…ฝ่าบาท!!”

    เมอร์เซเดสตกตะลึงจนไร้คำพูด
    เหล่าอัศวินที่เหลือต่างพยายามคัดค้านเต็มกำลัง  แม้แต่บาอินและโกลด์ฮิตก็กำลังสับสนไม่ต่างกัน
    
    เหตุใดองค์จักรพรรดิถึงสั่งปลดอัศวินที่เพิ่งกลายเป็นตำนาน?
    ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด  แต่สิ่งนี้ถือเป็นการกระทำที่โง่เขลา

    แต่ไหนแต่ไรมา  บาอินมักทำตามคำสั่งฮวนเดอร์โดยไม่เคยโต้แย้ง  
    แม้ภายในใจอาจรู้สึกตะขิดตะขวงบ้าง  แต่มันก็ไม่เคยออกปากคัดค้าน

    ทว่าคราวนี้  มันรีบเดินมาคุกเข่าลงตรงหน้าฮวนเดอร์พลางขอให้ทบทวนดูใหม่

    “ฝ่าบาทได้โปรดไตร่ตรอง…”

    ฮวนเดอร์ส่ายศีรษะอย่างไม่แยแส  มันลงจากบัลลังก์ไปหาเมอร์เซเดสที่กำลังสับสนไปถึงก้นบึ้งหัวใจ
    องค์จักรพรรดิใช้ฝ่ามือสัมผัสแขนที่เปี่ยมด้วยบาดแผลของเมอร์เซเดสอย่างอ่อนโยน

    “นี่มิใช่คำสั่ง  แต่เป็นคำขอร้อง”

    น้ำเสียงของฮวนเดอร์เริ่มสั่นเครือ
    
    “เมอร์เซเดส…ได้โปรดให้เราชดใช้บาปในอดีตของตัวเองด้วย  ช่วยปรนนิบัติข้างกายเพื่อนรักของเราให้มีความสุขตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่”

    ปิอาโร่เป็นอัจฉริยะแห่งจักรวรรดิตั้งแต่อายุยังน้อย  เขาย่อมเติบโตจากตระกูลขุนนางใหญ่
    ไม่แปลกที่ฮวนเดอร์สมัยเป็นองค์ชายจะได้พบหน้าปิอาโร่ในวังหลวงบ่อยครั้ง
    คนทั้งสองเป็นสหายรักต่อกันก่อนจะกลายมาเป็นเจ้านายและลูกน้องในภายหลัง
    และนั่นคือเหตุผลที่การทรยศของปิอาโร่สร้างความบอบช้ำให้ฮวนเดอร์เป็นเท่าทวี
    และเป็นเหตุผลที่อัศวินสีชาดถูกเกลียดชังเข้ากระดูกดำจนไม่ต้องการแม้แต่จะชายตามอง
    
    การทรยศของปิอาโร่คือความเจ็บปวดครั้งใหญ่ในชีวิตองค์มหาจักรพรรดิ

    “ได้โปรด…เราขอร้องเจ้า”

    “…”

    ฮวนเดอร์เริ่มหลั่งน้ำตา
    เมอร์เซเดสและเหล่าอัศวินสีชาดล้วนไม่มีใครเคยเห็นภาพนี้
    พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าจักรพรรดิของตนก็เป็นมนุษย์เดินดินคนหนึ่ง

    เธอมิอาจปฏิเสธคำขอร้องจากก้นบึ้งหัวใจชายที่น่าสงสารคนนี้ได้

    ลงเอยด้วย

    “…หม่อมฉันกราบทูลลา  ขอสัญญาว่าจะปกป้องดูแลอดีตวีรบุรุษด้วยชีวิต  จะทำให้สหายรักของฝ่าบาทมีความสุขตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ”

    “ขอบใจมาก…”

    แล้วก็

    “เราขอโทษ”

    นับตั้งแต่สูญเสียจักรพรรดินีอาเรียและถูกเพื่อนรักหักหลัง  จักรพรรดิฮวนเดอร์มิเคยสนทนากับผู้ใดจากความรู้สึกก้นบึ้งของหัวใจเลยสักครั้ง

    แต่สิ่งเหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต

    มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีปตะวันตกฉีกยิ้มกว้างพลาดปาดคราบน้ำตา
    ภาระหัวใจอันหนักอึ้งและความดำมืดได้สลายไปอย่างสมบูรณ์
    ฮวนเดอร์ยอมสละหนึ่งตัวตนแสนสำคัญเพื่อชดเชยบาปแก่เพื่อนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาตั้งแต่ยังเล็ก
    
    เมื่อผู้นำกลับมามีจิตใจที่แข้มแข็งอีกครั้ง  ไม่มีใครทราบได้ว่า  จักรวรรดิซาฮารันจะกลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่เพียงใด

    ขณะเดียวกัน… 

[ อัศวินในตำนานถือกำเนิดขึ้นแล้ว! ]
[ ท่านผนึกจอมอสูรที่อ่อนแอลง ‘อัสทารอธ’ สำเร็จ! ]
[ ท่านได้รับรางวัลอันดับหนึ่งในการปราบจอมอสูรอัสทารอธ ]

    “…เรื่องบ้าบออะไรอีกเนี่ย?”

    กริดมืดแปดด้านกับสิ่งที่เกิดขึ้น

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,231
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สนุกนุกมากครับ

    ReplyDelete
  2. สนุก​มาก​ขอบคุณ​ครับ
    กริด😂

    ReplyDelete
  3. อยู่ดีก็ได้ไอเท็มฟรี🤔

    ReplyDelete
  4. เจ้าตัวยังไม่รู้เลยว่าช่วยปราบจอมอสูร

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00