จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,554

แม้สงครามจะสิ้นสุด แต่โลกก็ยังไม่สงบ

ไม่ว่าจะเป็น การผ่อนปรนการผูกขาดบอสของกิลด์โอเวอร์เกียร์ ทีมล่าเฮลกาโอซึ่งประกอบด้วยสมาชิกหลายหมื่น การเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางศาสนา หรือการแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่เจ็ด

ประเด็นร้อนแรงที่ทำให้ทั่วโลกแตกตื่นทยอยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ความสนใจของผู้คนกำลังมุ่งไปยังงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ

『ซาทิสฟายนานาชาติคือเวทีที่ยอดฝีมือระดับโลกมารวมตัวและห้ำหั่นกันด้วยทักษะ จุดประสงค์เพื่อคัดเลือกผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปีนั้น อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ปีปัจจุบันเป็นต้นไป ทาง SA กรุปได้ประกาศว่า จะเปิดโอกาสให้มีนักกีฬาหน้าใหม่เข้าร่วมเพิ่มขึ้นในการแข่งที่ทุกเงื่อนไขเท่าเทียมกันหมด และนั่นจุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างร้อนแรงขึ้นครับ』

『พวกเขาคิดจะเพิ่มการแข่งแนว MOBA* กับ BR* เข้ามาในปีนี้หรือครับ? 』

(MOBA – Battle Arena – ตัวอย่างเกม: RoV, Dota 2, LoL

BR – Battle Royale – ตัวอย่างเกม: PUBG, Free Fire, Fortnite)

『ใช่ครับ โดยแต่ละประเทศจะทำการจัดแข่งรอบออนไลน์เพื่อคัดเลือกผู้เข้าแข่ง… 』

ซาทิสฟายนานาชาติคือการแข่งขันที่มีศักดิ์ศรีของชาติเป็นเดิมพัน

ผู้คนต่างเฝ้ารอว่าแรงเกอร์จากประเทศของตนจะเฉิดฉายได้มากเพียงใดบนเวทีโลก

อย่างไรก็ดี รางวัลที่มากเกินไปทำให้เกิดปัญหา

ช่องว่างระหว่างผู้คว้าเหรียญสำเร็จและไม่สำเร็จกว้างขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งทำให้เกิดเสียงวิจารณ์

งานแข่งขันฟอร์มยักษ์ที่จัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง

เนื่องจากเป็นการแข่งในนามทีมชาติ ตัวแทนจึงควรเป็นจุดสูงสุดของชาตินั้นๆ

แล้วจะให้แจกรางวัลห่วยๆ ได้อย่างไร

เพียงแต่ ถ้าให้โอกาสผู้เล่นคนอื่นมากกว่านี้ก็คงจะดี

SA กรุปตอบสนองความปรารถนาของคนกลุ่มดังกล่าว

เพื่อระงับกระแสถาโถมจากมวลชนซึ่งปะทุขึ้นนับตั้งแต่มหาสงครามระหว่างมนุษย์กับอสูร

การแข่งใหม่เจ็ดรูปแบบถูกบรรจุเพิ่มเข้ามาในงานซาทิสฟายนานาชาติประจำปี

จากบรรดาทั้งหมด มีถึงห้าประรายการเป็นการแข่งในเงื่อนไขที่ทุกคนเท่าเทียมกัน

หนึ่งในนั้นมีเกมแนว MOBA และ FPS รวมถึง BR ซึ่งเคยถูกจัดในฐานะอีเวนต์พิเศษเมื่อหลายปีก่อน เป็นแนวเกมที่เคยประสบความสำเร็จอย่างยาวนานจนกระทั่งซาทิสฟายเปิดตัว

ในแต่ละการแข่ง ผู้เข้าร่วมจะได้เลือกอาชีพ เริ่มเกมโดยมีเลเวลหนึ่ง ร่วมมือหรือแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นเพื่อคว้าชัยชนะ

เรียกได้ว่าเป็นการนำเกมออนไลน์ที่โด่งดังชนิดอื่นมาจำลองในโลกเสมือนจริง

เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนจะตื่นเต้น

หลายคนเฝ้าฝันถึงโอกาสในการเข้าร่วมงานแข่งที่เดิมที่เป็นอภิสิทธิ์ของคนส่วนน้อย

= ด้วยความสัตย์จริง ถ้าเรามีเงินและเวลา ก็คงเป็นแรงเกอร์ได้เหมือนกัน

= ใช่แล้ว ถึงจะต้องพึ่งพาโชคสักหน่อยก็ตาม

= ถ้าแข่งภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน พวกเราได้เปรียบแน่

มนุษย์ส่วนมากมักมีความเอนเอียงเข้าหาตัวเอง

แม้จะยอมรับในฝีมือของแรงเกอร์ แต่ก็มั่นใจเช่นกันว่าตนสามารถก้าวไปอยู่ในระดับเดียวกันได้

เหตุผลเดียวที่ทำให้ก้าวไปไม่ถึงแรงเกอร์ก็คือ ‘วาสนา’ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกตนก็แค่โชคไม่ดี

หลายคนเชื่อเช่นนั้น ไฟแห่งการแข่งขันในตัวจึงกำลังลุกโชน

คล้ายกับความเชื่อของคนขี้เกียจเรียนซึ่งมักอ้างว่า ‘ถ้าฉันตั้งใจเรียนซะอย่าง การเข้ามหาลัยฯดังก็ไม่ใช่เรื่องยาก’ และผู้เชี่ยวชาญบางคนกำลังชี้ให้เห็นจุดบอดทางความคิดนี้

『เมื่อได้อ่านความคิดเห็นจากสาธารณชนในช่วงหลัง ผมรู้สึกเศร้าใจมาก มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามดึงแรงเกอร์ให้ต่ำลง ตราหน้าว่าพวกเขาเป็นอภิสิทธิ์ชนที่โชคดี… อยากให้จำสิ่งหนึ่งเอาไว้ครับ แรงเกอร์ทุกคนเคย ‘ธรรมดา’ มาก่อน แรงเกอร์ไม่ใช่ตำแหน่งที่แค่มีเงินและเวลาก็ได้มาครอง… สิ่งที่ผมอยากเตือนก็คือ ถ้าคุณมีโอกาสได้แข่งกับพวกเขาภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน ผมกล้ารับประกันว่าพวกคุณจะต้องผิดหวังกับผลการแข่งขัน』

『คุณมองว่าช่องว่างทางฝีมือระหว่างแรงเกอร์กับผู้เข้าแข่งหน้าใหม่ยังกว้างเท่าเดิม? 』

『แน่นอนครับ ผมประเมินว่าฝีมือการควบคุมตัวละคร แปรผันตามอันดับแรงเกอร์ในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ』

『แปรผันตามอันดับ… กล่าวคือ ถ้ากริดเข้าร่วมการแข่งที่มีเงื่อนไขเท่าเทียม เขาจะชนะในทุกรายการใช่ไหมครับ』

『ถูกต้องครับ』

ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาต่างแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

พวกมันทำนายว่าไฮแรงเกอร์ และท็อปแรงเกอร์ จะกวาดรางวัลมากมายเช่นเดิม

นั่นเพราะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่า ‘ประสบการณ์’ มีน้ำหนักมากกว่า ‘พรสวรรค์’ ของผู้เข้าแข่ง

นอกจากนั้นยังถกเถียงกันว่า ความรู้ ฝีมือควบคุม และวิสัยทัศน์ซึ่งถูกปลูกฝังจากประสบการณ์อันน่าเหลือเชื่อตลอดหลายปีของไฮแรงเกอร์ เป็นช่องว่างที่คนทั่วไปมิอาจใช้พรสวรรค์เติมเต็มได้

แน่นอนว่าความเห็นจากสาธารณชนกำลังลุกเป็นไฟ

= แปรผันตามอันดับ? ฮะฮะ! คิดว่าผู้เล่นที่ไม่ใช่แรงเกอร์เข้าไม่มีความฝันกันหรือไง?

= เหลวไหลสิ้นดี! แต่ก็นะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกผู้เชี่ยวชาญพล่ามเรื่องไร้สาระ

= ฮะฮะ! นักกีฬาและเกมเมอร์ที่ครองยุคสมัยมานาน กำลังจะถูกผู้เล่นหน้าใหม่ลบชื่อออกจากประวัติศาสตร์! ฝีมือแปรผันตามอันดับ? พวกมันไม่รู้หรือไงว่าเกมใช้พรสวรรค์มากกว่าประสบการณ์?

= แรงเกอร์ก็แค่พวกพึ่งพาพลังเลเวลกับพลังไอเท็ม ฉันยอมรับว่าพวกมันเก่งกว่าคนอื่นในด้านการเก็บเลเวล แต่ไม่เกินไปหน่อยหรือที่จะบอกว่าฝีมือควบคุมแปรผันตามอันดับ?

= ต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ

ผู้คนที่เคยชื่นชมแรงเกอร์เริ่มหันมาดูถูก

ก็พอจะเข้าใจได้

ทัศนคติของคนจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และจุดยืน

คล้ายกับผู้อ่านนิยายหรือการ์ตูนที่ยกยอผู้แต่งจนถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่กลับด่าทออย่างเสียๆ หายๆ เมื่อตอนล่าสุดถูกปล่อยออกมา

ทัศนคติเปลี่ยนเพราะมีเหตุผลมากพอที่จะเปลี่ยน

นับตั้งแต่วินาทีที่ทราบว่า คนธรรมดาก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของซาทิสฟายนานาชาติได้ และแรงเกอร์เป็นเพียง ‘คู่แข่ง’ มีใช่ ‘ตัวตนจากอีกโลกหนึ่ง’ ทัศนคติของผู้คนย่อมต้องเปลี่ยนไป

『ผู้คนกำลังให้ความสนใจงานแข่งนานาชาติสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนครับ จำนวนผู้สมัครคัดเลือกรอบออนไลน์มีมากจนน่าตกใจ』

『หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า กริดที่หายหน้าไปหลายปี และครอเกลที่หายไปในปีที่แล้วจะลงแข่งแบบเงื่อนไขเท่าเทียมด้วยหรือไม่… ทาง SA กรุปได้ออกมาตอบข้อสงสัยของทุกคนโดยระบุว่า ทางบริษัทยังไม่ได้รับใบสมัครจากกริดและครอเกล นั่นทำให้ทุกคนผิดหวังไม่น้อยทีเดียวครับ』

『แรงเกอร์จำนวนมากไม่คิดจะลงแข่งในรายการใหม่ครับ ท่ามกลางการถกเถียงถึงเหตุผล บทสัมภาษณ์ของแรงเกอร์พีคซอร์ดได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยเป็นวงกว้าง โดยเขากล่าวว่า ‘แรงเกอร์อย่างเราจะเข้าร่วมงานแข่งที่มีไว้เพื่อคนธรรมดาทำไมล่ะครับ?’ 』

『ใช่ครับ ท่าทีดังกล่าวคล้ายกับเป็นการแบ่งแยกชนชั้นระหว่างแรงเกอร์กับผู้เล่นธรรมดาอย่างชัดเจน』

『สาธารณชนคิดเห็นเช่นไรบ้างครับ』

『แง่ลบมากๆ ครับ ส่วนใหญ่สัมผัสถึงการแบ่งชนชั้นได้จากบทสัมภาษณ์ของพีคซอร์ด』

『ต้องยอมรับนะครับว่าแรงเกอร์นั้นยอดเยี่ยม แต่สุดท้ายนั่นก็ไม่ใช่ตำแหน่งอย่างเป็นทางการอยู่ดี』

『ถูกต้องครับ หลายฝ่ายเชื่อว่า การที่แรงเกอร์ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนกลายเป็นคนดัง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอุปกรณ์สวมใส่ 』

『ผมก็ได้อ่านความเห็นทำนองนั้นมาบ้างเหมือนกัน พวกเขาเน้นย้ำว่า แรงเกอร์เก่งได้เพราะอุปกรณ์ และเมื่อมีอุปกรณ์ดี การหาอุปกรณ์ที่ดีขึ้นก็ยิ่งเป็นเรื่องง่าย… หากปราศจากอุปกรณ์ แรงเกอร์แค่คนธรรมดาที่เก่งกว่าปรกติเล็กน้อย』

『ใช่ครับ นอกจากนั้นพวกเขายังเชื่อว่า มีอัจฉริยะมากพรสวรรค์ซ่อนตัวอยู่ในหมู่ผู้เล่นทั่วไปอยู่ไม่น้อย แต่ปราศจากโอกาสเพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย หรือเพราะเริ่มเล่นซาทิสฟายช้าเกินไป หากได้ต่อสู้ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน แรงเกอร์ก็คงถูกโค่นได้ไม่ยากครับ』

『หลายฝ่ายแสดงความเห็นว่า การที่แรงเกอร์ไม่กล้าเข้าร่วมรายการใหม่ เป็นเพราะพวกเขากลัวที่จะแพ้ครับ』

『ถูกต้องครับ มันเสี่ยงเกินไปในมุมมองแรงเกอร์ กับการต้องละทิ้งอุปกรณ์ซึ่งไขว่คว้ามาด้วยความยากลำบากเพื่อเข้าแข่งในรายการที่เท่าเทียมกับคนทั่วไป เมื่อไม่สามารถรับประกันชัยชนะ และความพ่ายแพ้จะทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย ก็คงไม่มีใครอยากลองเดิมพันครับ』

『แต่ผมมองว่าความเห็นจากสาธารณชนก็ใจร้ายไปหน่อย หาก ‘คนธรรมดา’ สามารถฝ่าฟันรอบออนไลน์ไปจนถึงรอบสุดท้ายในงานแข่งจริงได้ พวกเขาทุกคนก็สมควรถูกเรียกว่า ‘มืออาชีพ’ ไม่ใช่หรือ ดังนั้นถึงแรงเกอร์จะแพ้ ก็เป็นการแพ้ให้กับมืออาชีพ ไม่ใช่คนธรรมดาอยู่ดีครับ ไม่ใช่เรื่องที่น่าขายหน้าแต่อย่างใด』

『แต่พีคซอร์ดเรียกผู้เข้าแข่งในรอบสุดท้ายว่า ‘คนธรรมดา’ นะครับ』

『ผมมีความรู้สึกว่า หัวข้อ ‘แรงเกอร์คิดว่าตัวเองเหนือกว่า’ คงกลายเป็นประเด็นร้อนในเร็วๆ นี้แน่ครับ』

***

“ฮาย~”

“รุน’ หวัด”

“…?”

พีคซอร์ดซึ่งเพิ่งเชื่อมต่อซาทิสฟาย เกิดความสับสนเล็กน้อย

เหตุเพราะพวกพ้องยังคงทักทายด้วยท่าทีปรกติ

มันคิดว่าจะถูกตำหนิจากบทสัมภาษณ์ของตัวเอง แต่ก็ต้องประหลาดใจ

เมื่อเห็นสีหน้าสับสน โทบันยิ้ม

“คงมีหลายคนโล่งใจหลังจากได้ฟังบทสัมภาษณ์ของนาย”

มีสองเหตุผลสำคัญที่ทำให้แรงเกอร์หลีกเลี่ยงรายการใหม่

อันดับแรก พวกมันตระหนักถึงวัตถุประสงค์ของซาทิสฟายนานาชาติ

เหนือกว่าการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ งานแข่งนี้มีเพื่อสร้างชื่อเสียงและความมั่งคั่งให้ตัวเอง

จากมุมมองของแรงเกอร์ การใช้จุดแข็งของตัวเองเพื่อพิสูจน์คุณค่าตัวเอง คือสิ่งที่พึงกระทำมากที่สุด และมีประโยชน์กับทุกฝ่ายมากที่สุด

การสร้างชื่อเสียงและภาพจำบทเวทีใหญ่อย่างซาทิสฟายนานาชาติ คือเรื่องที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในสายตาทุกคน

ในอีกแง่หนึ่ง พวกมันอ่านบรรยากาศออก

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกตนลงแข่งในรายการที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าร่วม?

กำราบคนธรรมดาอย่างง่ายดายและน่าเบื่อหน่าย สุดท้ายก็ได้สวมเหรียญทองลงบนคอ

ไม่ได้อะไรเลยนอกจากเหรียญรางวัล นอกจากนั้นยังจะเกิดผลเสีย

พวกตนจะถูกคนธรรมดาและสื่อหลักวิจารณ์เสียๆ หายๆ ในเรื่องที่ลงมา ‘แย่ง’ โควตาสำหรับแสดงฝีมือของคนธรรมดา และมีโอกาสถูกที่จะถูกสังคมรุมประณามจนชื่อเสียงดิ่งฮวบ

แน่นอน พวกมันสามารถอ้างว่า เป็นเพราะถูกสาธารณชนยั่วยุมาก่อน แต่นั่นก็ยิ่งจะทำให้เกิดแรงต่อต้าน

ไม่มีอะไรดีไปกว่าการปล่อยให้คนธรรมดาแข่งกันเองอีกแล้ว

ถูกต้อง

ช่องว่างระหว่างแรงเกอร์และคนทั่วไปนั้นกว้างมาก

อาจยังคลุมเครือจนถึงเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่ในปัจจุบันนั้นชัดเจน

ผู้เล่นที่ไม่ได้เป็นแรงเกอร์ ไม่ใช่แค่เพราะพวกมันโชคไม่ดี แต่ยังขาดความสามารถด้วย

หลักฐานยืนยันก็คือ กลุ่มคนที่โชคดีได้เป็นแรงเกอร์เมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันถูกดีดกลับลงไปในตำแหน่งที่ควรจะเป็น

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลสนับสนุนเชิงสถิติจำนวนมาก แรงเกอร์ตระหนักถึงความเข้มข้นของฝีมือระหว่างตัวเองและคนธรรมดา

“แต่ส่วนตัวแล้ว ฉันอยากให้กริดลงแข่งนะ”

โทบันกล่าวขณะเดินเข้าไปในวัง

บรรยากาศด้านในปราสาทกำลังคึกคัก

ปัจจุบันกำลังมีการเตรียมตัวต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจากจักรวรรดิ

โทบันเหลือบไปเห็นกริดซึ่งแต่งกายในชุดคลุมหรูหรา พลางหันไปยกนิ้วให้พีคซอร์ด

“คนสมัยนี้ พูดอะไรนิดหน่อยก็โกรธกันแล้ว”

แถมยังมีการราดน้ำมันลงกองไฟของพวกผู้เชี่ยวชาญอีก

ความเกลียดชังซึ่งคนธรรมดามีต่อแรงเกอร์ เริ่มลุกลามไปถึงกริด

สืบเนื่องจากเรื่องที่กริดเคยมีฝีมือควบคุมห่วยแตกสมัยยังอ่อนแอ บางคงจึงเสียดสีว่า กริดคงไม่กล้าลงแข่งรายการใหม่เพราะกลัวจะอับอายต่อหน้าคนทั้งโลก

แน่นอน นั่นเป็นแค่ความเห็นส่วนน้อย

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนคิดแบบนี้อยู่จริง ทั้งที่กริดแสดงฝีมือให้ประจักษ์หนแล้วหนเล่า ซึ่งนั่นทำให้พีคซอร์ดหัวเสียอย่างมาก

“หือ? มีอุบัติเกิดขึ้นหรือ?”

กริดเดินเข้ามาใกล้

สีหน้าของพีคซอร์ดไม่สู้ดีนัก กริดจึงถามด้วยความกังวล

“เรื่องนั้น…”

เมื่อโทบันอธิบายสถานการณ์จบ กริดระเบิดเสียงหัวเราะ

“สนใจทำไม? โลกนี้มีประชากรเกือบหมื่นล้าน มีใครได้รับความรักจากทุกคนด้วยหรือ? เป็นธรรมดาที่บางคนจะเกลียดเรา…”

“ฉันเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ชอบหน้าแรงเกอร์ แต่ทำไมถึงต้องลามมาหานายด้วย? นายไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”

“โลกนี้มีพวกจิตไม่ปรกติอยู่มาก ตรรกะวิบัติอีกนับไม่ถ้วน… ใส่ใจในเรื่องที่ควรใส่ใจเถอะ”

กริดเผยสีหน้าขื่นขมเล็กน้อยขณะปลอบใจพวกพ้องทั้งสอง

ชายหนุ่มหวนนึกถึงตัวเองในอดีต สมัยที่หัวใจยังเต็มไปด้วยความรู้สึกต่ำต้อย จนสามารถวิจารณ์คนอื่นเสียๆ หายๆ โดยไร้เหตุผล

คนแบบนี้มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก

ตราบใดที่กลายเป็นบุคคลสาธารณะ ก็ต้องทนรับคำวิจารณ์บางส่วนให้ได้ แต่ถ้าบางครั้งอีกฝ่ายล้ำเส้นเกินไป ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้กฎหมายจัดการ

“จักรพรรดินีใกล้มาถึงแล้ว ทันทีที่เธอประกาศสวามิภักดิ์ ประเด็นเกี่ยวกับงานแข่งนานาชาติก็จะหายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์ทันที ดังนั้น เลิกกังวลแล้วทำสมองให้โล่งดีกว่า”

คำพยากรณ์ของกริดช่างแม่นยำ

“จักรวรรดิซาฮารันขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป จักรวรรดิซาฮารันจะขอสวามิภักดิ์ภายใต้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ และรับใช้ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิกริดแต่เพียงผู้เดียว”

ท่ามกลางสายตาของผู้เล่นนับล้านที่กำลังออนไลน์อยู่ทั่วทุกมุมทวีป ทันทีที่จักรพรรดินีบาซาร่าประกาศ โลกก็ตกอยู่ในความโกลาหล

จักรวรรดิแรกและจักรวรรดิเดียวของทวีป ชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่ง บัดนี้มีผู้เล่นเถลิงบัลลังก์เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่

ประเด็นร้อนแรงทั่วโลกมิใช่งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติอีกต่อไป

หลายฝ่ายเริ่มวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวในอดีตของกริดและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ บ้างมุ่งประเด็นไปที่ผู้เล่นจักรพรรดิคนแรก บ้างก็เล่นประเด็นจักรพรรดิของผู้เล่น มนุษย์เป็นหนึ่งเดียวโดยปราศจากสงคราม รวมถึงบทความสรรเสริญกริด

คำวิจารณ์ที่เคยมีต่อพีคซอร์ดอันตรธานหายไปราวกับเป็นเรื่องโกหก

ทุกสิ่งกลับด้านประหนึ่งการพลิกฝ่ามือ

แต่เรื่องแบนนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายหน ไม่น่าแปลกใจอะไรนัก

‘เดี๋ยวพองานแข่งนานาชาติใกล้เข้ามา กระแสสังคมก็คงเปลี่ยนไป… มหัศจรรย์ชะมัด’

กริดกำลังคิดว่า การได้เข้าร่วมซาทิสฟายนานาชาติหลังจากห่างหายไปนาน ก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่นัก

ด้วยหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการฉลองชัยเหนือมหาสงคราม หรือไม่ก็การเฉลิมฉลองหลังก่อตั้งจักรวรรดิ

คงจะสนุกไม่น้อยถ้าตนเป็นตัวแทนแรงเกอร์ที่กำลังหัวเสีย ในการเข้าไปคว่ำโต๊ะงานเลี้ยงรื่นเริงของผู้เล่นทั่วไป

‘…ไม่สิ มันสนุกเกินกว่าที่เราจะลงไปเล่นเอง’

ถ้าส่งลอเอลลงแข่ง หมอนั่นคงกวาดเหรียญทองเป็นกอบเป็นกำเลยไม่ใช่หรือ?

ในเมื่อแรงเกอร์ส่วนใหญ่มิได้เข้าร่วม พรสวรรค์การปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของลอเอลคือจุดแข็งที่ราวกับเกิดมาเพื่อรายการใหม่

ชายคนนี้ไม่ได้ถูกเรียกว่าอัจฉริยะเพราะจับสลากได้

ขณะกริดกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับลอเอลผู้ห่างหายจากสมรภูมิแนวหน้ามานาน

“…?”

ลอเอลรู้สึกเย็นไปถึงกระดูกโดยไม่ทราบสาเหตุ เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผาก

‘เกิดอะไรขึ้น? หรือจะเป็นเพราะฝันร้ายเมื่อคืน?’

อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ซึ่งผนวกรวมกับจักรวรรดิซาฮารัน จะกลายเป็นจักรวรรดิในชื่อใหม่

อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ซาฮา…

นั่นคือชื่อที่ลอเอลได้ยินจากฝันร้ายเมื่อคืน

ได้โปรด ขอให้ความจริงผิดไปจากนี้ด้วยเถิด…

ลอเอลสวดวิงวอนถึงจากก้นบึ้ง และปรารถนาให้เทพโอเวอร์เกียร์ตอบรับ

______________

ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059   ★ ★ จบบริบูรณ์  ★ ★

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

• Next
• Previous