จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,555
ขุดออกงานของกริดหรูหราอลังการเป็นอย่างมาก
มงกุฎเงินซึ่งสร้างก่อนพิธีผนวกรวมดินแดนจะเริ่มได้ไม่นาน มองความสง่างามที่ต่างออกไป
มันแผ่แสงสีเงินราวกับพระจันทร์ ดูลึกลับและงดงาม
เป็นความวิจิตรที่ยากหากพอๆ กับการได้เห็นราชินีแห่งป่าผู้เลอโฉม
ดวงตาของเหล่าผู้หลงใหลในความงามเยี่ยงเอลฟ์ ล้วนจดจ้องไปทางกริดเป็นตาเดียว
ชายชุดคลุมทองแกว่งไกวเฉียดพื้นห้องอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งกริดย่างกรายมาถึงบัลลังก์
“ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิ”
ลอเอลก้มศีรษะด้วยความนอบน้อมถึงขีดสุด มือสองข้างประคองแก้วไวน์ใบใหญ่ด้วยความระมัดระวัง เกรงว่าของเหลวด้านในจะหกเลอะ
กริดรับแก้วอย่างนุ่มนวล ชายแขนเสื้อซึ่งค่อนข้างกว้าง พัดกระพือแผ่วเบาโดยที่ของเหลวในแก้วไม่สั่นไหว ปราศจากระลอกคลื่นใดทั้งปวง
ฉากดังกล่าวถูกถ่ายทอดผ่านกล้องนับพันตัว
ผู้ชมต่างพากันตกตะลึง
เมื่อเห็นกริดใส่ใจแม้เพียงรายละเอียดเล็กน้อย ทุกคนตระหนักได้อีกครั้งว่าช่องว่างระหว่างตนและกริดนั้นกว้างใหญ่เพียงใด
ราวกับชายหนุ่มเป็นบุคคลจากอีกโลกหนึ่ง
ทันทีที่กริดรับแก้ว มหาจักรพรรดินีผู้สูงสง่าคุกเข่าลง
“ตัวข้า บาซาร่า บริวารผู้ซื่อสัตย์ของท่าน ขอสาบานว่าจักจงรักภักดีต่อมหาจักรพรรดิองค์ใหม่แต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าจะร่างกาย จิตใจ หรือวิญญาณนี้ล้วนอุทิศให้พระองค์จนหมดสิ้น ข้าและตระกูลข้าจักซื่อสัตย์และคอยสนับสนุนมหาจักรพรรดิตราบชั่วลูกชั่วหลาน”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า งานพิธีในวันนี้ มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์มากกว่างานใดในประวัติศาสตร์ทวีปตะวันตก
ห้ามมีข้อผิดพลาดด้วยประการทั้งปวง และแน่นอน ทุกคนที่เข้าร่วมพิธีต้องท่องบทพูด
ทว่า คำสาบานของบาซาร่านั้นต่างออกไปจากบท
ในความเป็นจริง คำสาบานดังกล่าวต้องมีเงื่อนไขกำกับว่า ‘ตราบใดที่มหาจักรพรรดิและราชวงศ์ไม่ทรยศพวกเรา’ แต่เธอกลับมิได้เอ่ยออกมา
นั่นทำให้คำสัตย์ของเธอปราศจากเงื่อนไข
“…”
ดวงตาเรียวยาวของบาซาร่าลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า จดจ้องใบหน้ากริดซึ่งกำลังสับสน
ดวงตาแฝงเสน่หาจ้องกริดอยู่สักพัก ก่อนจะเบือนไปทางปิอาโร่ที่ยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม
“บริวารของท่าน บาซาร่า จักไม่สงสัยในตัวมหาจักรพรรดิและผู้ภักดีของพระองค์”
เฮือก
เปลือกตาปิอาโร่กระตุกแผ่วเบา
‘ความสงสัย’ ที่เคยมีต่อจักรพรรดิฮวนเดอร์
สิ่งนี้หมายถึงปิอาโร่อย่างมิอาจปฏิเสธ
เหตุการณ์ในครั้งนั้นคือบทโหมโรงซึ่งนำไปสู่ความถดถอยของจักรวรรดิพันปี
ในวินาทีนี้ บาซาร่ากำลังสื่อสารกับทุกคนว่า เหตุการณ์เช่นนั้นต้องไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
“ข้าจักไม่ริษยา”
คราวนี้ ดวงตาของบาซาร่าหันไปทางอัสโมเฟล
ชายผู้เคยนำพายุคทองมาสู่จักรวรรดิร่วมกับปิอาโร่
ทว่า ตำแหน่งในปัจจุบันของอัสโมเฟลแตกต่างจากปิอาโร่โดยสิ้นเชิง สถานะต่ำกว่าเมอร์เซเดสเสียอีก
ขณะที่ทั้งสองได้ยืนเคียงกายกริด อัสโมเฟลต้องยืนต่อแถวด้านหลังลึกเข้าไป
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มิได้รู้สึกอิจฉาเมอร์เซเดสและปิอาโร่
อัสโมเฟลเจียมเนื้อเจียมตัว และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าความผิดที่ตนเคยก่อนั้นหนักหนาสาหัสเพียงใด
มันเห็นด้วยกับบาซาร่า บาปของตนควรถูกบรรจุลงในแบบเรียนในฐานะตัวอย่างที่ผิด
ซินกูเล็ด อเมลด้า และดันเต้ซึ่งได้รับความเสียหายใหญ่หลวงจากการกระทำของอัสโมเฟล กำลังจ้องเข้าไปในตาอัสโมเฟล
ฉากดังกล่าวทำให้บาซาร่าขยับยิ้ม
“แม้ว่าจะถูกหักหลัง แต่ข้าก็จะมอบโอกาสให้พระองค์ได้ชดเชยความผิด จะจดจำและระลึกถึงคำสาบานในวันนี้ จะยอมกล้ำกลืนความเจ็บปวดและโกรธแค้นเอาไว้ชั่วขณะ จะคอยยืนหยัดเคียงข้างฝ่าบาทในทุกเวลา”
บาซาร่ามิได้แต่งบทขึ้นมาใหม่ เพียงแต่ดัดแปลงตามที่เธอเห็นว่าเหมาะสม
เพื่อให้บุคคลที่จะกลายเป็นผู้นำคนใหม่ เห็นอกเห็นใจและไม่หลงลืมพวกตน
เจตนารมณ์ดังกล่าวถูกถ่ายทอดไปยังกริดอย่างแจ่มแจ้ง
“ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง”
จำเป็นต้องปราศรัยยืดยาวด้วยหรือ?
กริดปัดตกสุนทรพจน์ที่ฮิวรอยและลอเอลช่วยกันเค้นสมองคิดขึ้น
เพราะสิ่งที่มันต้องการถ่ายทอดคือความรู้สึก มิใช่ตรรกะ
“ฉันดำรงอยู่เพื่อทุกคน จดจำสิ่งนี้เอาไว้ก็พอ”
ดำรงอยู่เพื่อทุกคน?
เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ สิ่งนี้ฟังดูอุดมคติเกินไป
อย่างไรก็ดี กระทั่งผู้ชมทางบ้านก็ยังมองว่าคำสาบานของกริดฟังดูน่าเชื่อถือ
หากกริดเป็นเหมือนคนอื่นที่ใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง
นั่นจะขัดแย้งกับพฤติกรรมที่ผ่านมาทั้งหมด
ในตอนแรกอาจไม่ใช่ แต่สำหรับปัจจุบัน ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ากริดกำลังต่อสู้เพื่อกิลด์โอเวอร์เกียร์ อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ และผู้คนอีกมาก
กระทั่งเหตุผลในการบุกถล่มนรกก็เพื่อผู้อื่น มิใช่เพื่อตัวเอง
และมิได้ทำไปโดยหวังผลประโยชน์แอบแฝง
ไม่มีใครรู้ว่ากริดทำแบบนั้นไปทำไม
แต่ทุกคนรู้ว่า อย่างน้อยก็ในโลกใบนี้ กริดคือวีรบุรุษของมวลมนุษย์
ไม่มีใครปฏิเสธ ‘สัจธรรม’ ดังกล่าว
[จักรวรรดิซาฮารันตกอยู่ใต้การปกครองจองอาณาจักรโอเวอร์เกียร์]
[จักรวรรดิใหม่ถือกำเนิด]
[ประมุขสูงสุดแห่งจักรวรรดิใหม่คือ ‘กริด’]
ทันทีที่กริดและบาซาร่าดื่มไวน์ ข้อความโลกปรากฏขึ้นตรงมุมสายตาทุกคน
[ท่านคือผู้เล่นคนแรกที่ได้เป็นจักรพรรดิ!]
[ฉายา <กษัตริย์คนแรก> วิวัฒนาการเป็น <ปฐมจักรพรรดิ>]
ข้อความใหม่ปรากฏขึ้นในการมองเห็นของกริดเพียงคนเดียว
คำว่า ‘วิวัฒนาการ’ นั้นถูกต้องแล้ว
ผลเดิมจากสมญานามกษัตริย์คนแรกถูกพัฒนาขึ้นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเช่น <บาเรียคุ้มกาย> ซึ่งจะแสดงผลเมื่อสูญเสียพลังชีวิตไป 70% ของค่าสูงสุด ปัจจุบันจะแสดงผลเมื่อสูญเสียพลังชีวิต 50% ของค่าสูงสุด
นอกจากนั้น แต้มสถานะพิเศษที่ได้รับจากการเลเวลอัป ยังเพิ่มจากสองเป็นหกแต้ม
[เทพโอเวอร์เกียร์กริดกำลังเขียนมหากาพย์บทที่สิบหก*]
(*ต้นฉบับเขียนว่าบทที่สิบห้า แต่ผมจำได้ว่าเขียนบทที่สิบห้าไปแล้ว)
[เทวตำนานถูกบันทึกพร้อมกับการถือกำเนิดของมหาจักรวรรดิ]
มหากาพย์ยังคงดำเนินต่อ
[เหล่าผู้สูญเสียซึ่งกำลังเตร็ดเตร่ไปบนถนนอย่างหมดอาลัยตายอยาก พวกท่านเสียใจได้ แต่ห้ามหมดหวัง]
[จงเฝ้ามองมหาจักรพรรดิผู้เคยเป็นเยี่ยงท่าน]
[จงชะล้างหัวใจที่เปื้อนบาดแผลและความโกรธ ด้วยความยุติธรรมและความรับผิดชอบ]
[จงเฝ้ามองมหาจักรพรรดิผู้เคยเป็นเยี่ยงท่าน]
[นับตั้งแต่สายสะดือถูกตัด จงตระหนักว่าชีวิตคนเรานั้นมีชะตากรรมต้องเผชิญความยากลำบาก ความทุกข์คือสิ่งที่มิอาจเลี่ยง แต่ความสุขคือสิ่งที่มักเกิดจากความพากเพียร]
[จงเฝ้ามองมหาจักรพรรดิผู้เคยเป็นเยี่ยงท่าน แต่ตอนนี้กำลังดูแลเอาใจใส่ท่าน]
[จงเฝ้ามองพระองค์ ฟังพระองค์ และเรียนรู้จากพระองค์]
[ความทุกข์คือสิ่งที่มิอาจเลี่ยง แต่ความสุขคือสิ่งที่มักเกิดจากความพากเพียร]
สำหรับมหากาพย์ของกริดในอดีต ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นกลอน
แต่เค้าโครงไม่ตายตัว จุดประสงค์มีเพียงเพื่อการเล่าเรื่อง
คราวนี้จึงมาเป็นเพลง
เพลงซึ่งมีท่วงทำนองและเนื้อหาสรรเสริญมหาจักรพรรดิ แต่ขณะเดียวกันก็สร้างความหวังให้ผู้คนเมื่อต้องเผชิญความยากลำบาก
เรื่องเล่าในวันนี้จึงไม่มีวันเลือนหายไปตลอดกาล
...
..
[มหากาพย์บทที่สิบหกเสร็จสมบูรณ์]
[ผลของมหากาพย์ทำให้ประชาชนของท่านเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญและไม่ละทิ้งความหวัง พวกเขาปรารถนาจะเลียนแบบท่านที่ไม่ท้อแท้หรือตัดใจยอมแพ้ไปโดยง่าย]
[อัตราการเติบโตของ NPC จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์เพิ่มขึ้น 20% เป็นการถาวร]
[เมื่อค่าสถานะทุกชนิดของ NPC จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด มีโอกาสเล็กน้อยที่จะปลดพันธนาการขีดจำกัด]
[ความจงรักภักดีของ NPC จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์จะมีค่าสูงตลอดเวลา]
[มีโอกาสมากขึ้นที่ NPC พิเศษจะถือกำเนิดในจักรวรรดิโอเวอร์]
[กิจการภายในจักรวรรดิโอเวอร์เกียร์เติบโตเร็วขึ้น 10%]
[ระดับตัวตนของท่านเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากเขียนมหากาพย์เสร็จสิ้น, โอกาสเกิดผลประโยชน์เชิงบวกเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมาก]
“…”
กริดกำลังสั่นสะท้าน
ทักษะติดตัวซึ่งเป็น ‘ผลประโยชน์เชิงบวก’ - บัญชาเทพ
หลังจากตรวจสอบและพบว่าโอกาสติดบัญชาเทพเพิ่มขึ้นจากเดิม 10% เป็นอีกครั้งที่กริดตระหนักถึงความสำคัญของระดับตัวตน
ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าลอเอลกำลังซีดเซียว แข้งขาอ่อนระทวย
สาเหตุเกิดจากข้อความโลกที่เพิ่งประกาศ
[จักรพรรดิ ‘กริด’ ประกาศว่า นามอันยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิใหม่คือ ‘โอเวอร์เกียร์’]
นี่คือเหตุผลที่คำว่า ‘จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์’ ปรากฏขึ้นหลายครั้งในหน้าต่างข้อความส่วนตัวของกริด
ในวินาทีที่ครองบัลลังก์ ระบบได้แจ้งถามชื่อจักรวรรดิใหม่กับกริด และชายหนุ่มก็กรอกคำว่า ‘โอเวอร์เกียร์’ ลงไปทันที
เมื่ออาณาจักรโอเวอร์เกียร์กลายเป็นจักรวรรดิ ชื่อใหม่ก็ย่อมต้องเป็นจักรวรรดิโอเวอร์เกียร์อยู่แล้ว
อย่างน้อยกริดก็คิดเช่นนั้น
และชาวโอเวอร์เกียร์เกือบทั้งหมดก็คิดเช่นนั้น
มีเพียงลอเอลคนเดียวที่มิอาจขจัดความเศร้าโศกซึ่งเกิดขึ้นตามลำพัง
สิ่งเดียวที่ช่วยปลอบประโลมหัวใจของมันก็คือ อย่างน้อยชื่อนี้ก็ยังดีกว่าในฝันร้าย
จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์ยังฟังดูเท่กว่าจักรวรรดิโอเวอร์เกียร์ซาฮาหลายขุม
‘อา… เป็นชื่อที่ไม่เลวร้ายนัก เสียงกังวานของมันฟังดูไพเราะ’
กล้องหลายร้อยตัวกำลังจับภาพลอเอลผู้กำลังหลั่งน้ำตา
พิธีกรรีบรายงานทันทีว่า ชายคนนี้กำลังมีความสุขมากเพียงใดในฐานะหมายเลขสองของจักรวรรดิโอเวอร์เกียร์
น้ำตาเหล่านี้ย่อมต้องสื่อถึงห้วงอารมณ์ปีติยินดีอย่างไม่ต้องสงสัย
***
แผนที่ของทวีปตะวันตกเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
สีแดงของจักรวรรดิซาฮารันถูกย้อมกลายเป็นสีน้ำเงินทั้งหมด สอดคล้องกับสีของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เดิม
ปัจจุบัน ดินแดนมากกว่าสองในสามของทวีปกลายเป็นของจักรวรรดิโอเวอร์เกียร์
เป็นของกริด
ทุกสิ่งเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน
ไม่มีการปะทะหรือหลั่งเลือดระหว่างการเปลี่ยนแปลง
เป็นการผนวกรวมดินแดนในอุดมคติ
เป็นสถานการณ์ที่ชาวเกาหลีซึ่งอาศัยอยู่บนดินแดนที่ถูกแบ่งแยก เฝ้าฝันให้เกิดขึ้นสักครั้ง
‘ถ้าในชีวิตจริงเราแข็งแกร่งได้แบบนี้…’
คาบสมุทรเกาหลีอาจรวมกันเป็นหนึ่งได้โดยไม่มีใครตาย
คิดถึงตรงนี้ มุมปากกริดยกขึ้นเล็กน้อย
ถัดมา ชายหนุ่มตรวจสอบสมญานาม <ผู้ถูกยอมรับจากผู้ก่อตั้ง> และเผยสีหน้าโล่งอก
‘ตอนแรกก็กังวลนิดหน่อย แต่ดูเหมือนจะไม่มีปัญหา’
คุณสมบัติของสมญานามซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสค้นหาเหมืองแร่ภายในจักรวรรดิซาฮารัน ยังคงแสดงผลตามปรกติ
ระบบได้เปลี่ยนจากคำว่า ‘จักรวรรดิซาฮารัน’ กลายเป็น ‘อดีตจักรวรรดิซาฮารัน’
นั่นหมายถึงดินแดนของซาฮารันก่อนจะถูกโอเวอร์เกียร์ฮุบกลืน
‘ไมเนอร์จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต’
ไมเนอร์พบคู่ชีวิตที่ดีและมีลูกด้วยกันสามคนยังกับกระต่าย นอกจากนั้น กริดยังได้ยินว่ามารดาที่แก่เฒ่าของไมเนอร์ก็กำลังสุขสบายเนื่องจากมีลูกสะใภ้แสนดี
วันนี้ไมเนอร์อาจกำลังมีความสุข แต่กริดกังวลว่าอีกฝ่ายอาจไม่ต้องการแยกจากกับครอบครัว
‘คงต้องเกลี้ยกล่อมด้วยวิธีสันติ ดีกว่าใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ… อา ครอบครัวของเขาน่าจะมีความสุขถ้าเราอนุญาตให้ย้ายเข้ามาอยู่ในไททันขณะไมเนอร์ออกไปท่องเที่ยว’
โครงสร้างทางการศึกษาของไททันนั้นยอดเยี่ยม ในบางแง่มุม ที่นั่นยอดเยี่ยมยิ่งกว่ากรุงไรน์ฮาร์ทเสียอีก จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
กริดกำลังวางแผนให้ไมเนอร์ทำตัวเป็น ‘พ่อห่าน*’
(*พ่อห่านจะอยู่แยกกับครอบครัวและกลับไปหาเป็นพักๆ)
นั่นเป็นความหวังดีที่ไม่มีประสงค์ร้ายเจือปน แต่หากไม่ระวังอาจนำพาไปสู่ผลลัพธ์อันน่าเศร้า
แต่ไม่ว่าจะลงเอยเช่นไร จักรวรรดิโอเวอร์เกียร์ก็มีชะตากรรมต้องร่ำรวยไม่แปรเปลี่ยน
“หลังจากนี้พวกเราจะไม่ขัดสนเงินทองอีก”
ลอเอลกล่าวด้วยสีหน้ามั่นใจ
คุณค่าของดินแดนและประชากรที่ฮุบกลืนมาได้ มากมายเกินกว่าจะจินตนาการออก
ต้องไม่ลืมว่า จักรวรรดิซาฮารันปกครองดินแดนมานานหลายร้อยปีในฐานะจักรวรรดิแรกของทวีป
รากฐานของชาติมั่นคงอย่างมาก และทั้งหมดนั่นได้ถูกดูดกลืนมาเป็นของกริด
หากลอเอลและเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ปกครองด้วยมุมมองและองค์ความรู้สมัยใหม่ อำนาจเศรษฐกิจย่อมต้องยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“มหาจักรพรรดิเสด็จแล้ว!”
กริดเดินตามหลังลอเอลเข้าไปในโถง
เหล่ารัฐมนตรีและแขกพิเศษที่กำลังรออยู่ ต่างทยอยลุกขึ้นยืนและโค้งคำนับ
จำนวนของผู้ร่วมงานคือหลักหมื่น
เต็มไปด้วยแขกพิเศษจากภายนอก
ใช่แค่ราชวงศ์และขุนนางใหญ่จากทุกอาณาจักร แต่ยังรวมไปถึงสหเผ่าพันธุ์อย่างออร์ค เอลฟ์ คนแคระ และดราโกเนี่ยน หรือแม้กระทั่งสิบสองจักรราศีจากทวีปตะวันออกก็มาด้วย
อันที่จริง สามารถพูดได้เต็มปากว่าขั้วอำนาจทั้งหมดบนโลกกำลังรวมตัวกันที่นี่
เป็นสายสัมพันธ์ขนาดมหึมาที่มีกริดเป็นศูนย์กลาง
ทุกคนต่างยอมรับในตัวกริด และคอยเป็นพลังให้กริดเสมอมา
จึงเป็นธรรมดาที่จะเดินทางมาร่วมงานผนวกรวมดินแดนและพิธีสมรสในฐานะแขกพิเศษ
แน่นอน เจ้าบ่าวเจ้าสาวในพิธีสมรสคือกริดและบาซาร่า
เป็นเรื่องปรกติ
เหตุผลที่ฝ่ายจักรวรรดิยอมผนวกรวมดินแดนกับโอเวอร์เกียร์โดยปราศจากแรงต้าน ก็เพราะกริดยอมรับเงื่อนไขที่จะผนวกรวมราชวงศ์ซาฮารันและโอเวอร์เกียร์เป็นหนึ่งเดียว
รวมกันเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น
แน่นอนว่าไอรีนเห็นด้วย
ไม่สิ เธอคือคนที่โน้มน้าวให้กริดยอมรับข้อเสนอ
ในฐานะทายาทตระกูลขุนนางใหญ่ ไอรีนย่อมเข้าใจการสมรสทางการเมือง
เธอไม่ติดขัดเรื่องที่กริดมีภรรยาหลายคน อีกทั้งยังเป็นคนบอกให้กริดหาเพิ่มมานานแล้ว
“อะ…”
กริดทึ่งกับบาซาร่าในเดรสตัวยาว
อาจเพราะเธอคือสายเลือดของซาฮารันผู้ยิ่งใหญ่
แม้อายุจะมากกว่ากริด แต่สตรีผู้นี้ช่างงดงามและสูงส่ง
ท่าทางขณะกำลังถอดมงกุฎออก ได้ส่งเสริมให้ใบหน้าของหญิงสาวทวีความสดใสและเปล่งปลั่งยิ่งกว่าเก่า
[เทพโอเวอร์เกียร์ ‘กริด’ สมรสกับ ‘บาซาร่า’]
ท่ามกลางคำอวยพรและกำลังใจอย่างล้นหลาม
กริดและบาซาร่าจุมพิตกันและกัน
แม้จะมิได้เกิดจากความรักอันบริสุทธิ์ แต่กริดสาบานว่าจะทะนุถนอม หวงแหน และเคารพเกียรติของบาซาร่าตราบจนชีวิตจะหาไม่ นี่คือความรับผิดชอบที่มันต้องแบกรับ
= บ้าบอที่สุด
= เคยมีชาวเกาหลีใต้มีเมียสองคนมาก่อนไหม?
└ราชวงศ์ในอดีตนับไหม?
= บาซาร่าสง่างามมากจริงๆ …
└ เห็นด้วย คำว่า ‘สง่างาม’ เหมาะสมกว่าคำว่า ‘สวย’
└ เธอทั้งเฉลียวฉลาดและมีจิตใจดี
= อิจฉา! อิจฉา! อิจฉา! อิจฉา! อิจฉา!
= ฉันมีลางสังหรณ์แปลกๆ ว่าเราจะได้เห็นภาพแบบนี้ในชีวิตจริงของกริด
└ คิดเหมือนกัน ฮะฮะ!
└ ฮะฮะ!
= ทำไมรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่รีบแก้กฎหมายการสมรสเสียที? อยากเห็นกริดย้ายไปอยู่ตะวันออกกลางหรือไง? ฉันก็อยากทำเหมือนกริด!
└ หรือว่าที่กริดยังไม่แต่งงานสักทีก็เพราะติดกฎหมาย?
└ กริดกำลังจะกลายเป็นมุสลิม?
หลังจากสงบนิ่งมาหลายปี
ในที่สุด จำนวนกลุ่มต่อต้านกริดก็กลับมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
แต่ยังไม่ใช่จำนวนที่ต้องกังวลอะไร
เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า คนส่วนใหญ่ยอมรับในการแต่งงานของกริดและบาซาร่า
หลายคนอาจอิจฉา แต่น้อยคนนักจะสาปแช่ง
ทว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคู่สมรสคือเมอร์เซเดส?
บางที กลุ่มต่อต้านกริดอาจเพิ่มจำนวนขึ้นแบบติดจรวด
______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059 ★ ★ จบบริบูรณ์ ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ
ต้องอย่างนี้สิ ถึงจะเป็นกริด🤭
ReplyDelete