จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,176
โดยทั่วไปแล้ว จังหวะเท้ารำดาบสำหรับใช้งานทักษะ ‘มายา’ ค่อนข้างซับซ้อน
เพื่อให้สมกับคำอธิบายทักษะ ทุกการเคลื่อนไหวจำเป็นต้องแฝงความสง่างามและความอลังการกว่าปรกติเล็กน้อย ส่งผลให้จังหวะเท้ามีความซับซ้อนกว่าท่ารำดาบพื้นฐานชนิดอื่น
เป็นสาเหตุให้กริดมองว่า ‘มายาร่ายรำทำลายล้างสังหาร’ ยังมีจุดด่างพร้อย
หากลดเหลือแค่ ‘ร่ายรำทำลายล้างสังหาร’ โดยตัด ‘มายา’ ออก ขั้นตอนการปล่อยทักษะจะสะดวกและใช้งานง่ายกว่านี้มาก แต่เพื่อให้ได้พลังทำลายในระดับสูงสุด กริดจึงตัดสินใจใช้ทักษะผสานสี่ชนิดโดยไม่ลดทอน
จริงอยู่ ยิ่งคู่ต่อสู้แข็งแกร่ง โอกาสใช้ท่ารำดาบให้สำเร็จก็ยิ่งลำบาก
แต่ถ้ามี ‘เสมือนเทพ’ คอยช่วยเหลือ เรื่องราวก็จะต่างออกไปในทันที
“มายาร่ายรำทำลายล้างสังหาร”
วิชาดาบผสาน 4 ชนิดถูกปลดปล่อยใส่การัมมากถึงสามครั้งซ้อน
ความเสียหายรวมจากทั้งหมด รุนแรงจนแม้กระทั่งการัม ผู้เปิดใช้งานลมหายใจฟินิกซ์แดงจนมีระดับการฟื้นฟูร่างกายถึงค่าสูงสุด ยังต้องแสดงอาการหวาดหวั่นสั่นกลัวให้เห็น
“ค… แค่ก! แค่ก!”
มายาร่ายรำทำลายล้างสังหารชุดแรกอาจถูกทำลายได้ง่ายดาย และในชุดสอง การัมก็จัดการได้เกือบทั้งหมด ทว่า มายาร่างรำทำลายล้างสังหารชุดสุดท้าย ได้ส่งให้การัมต้องกระเด็นถอยหลังอย่างหมดสภาพ
เมื่อสัมผัสว่าร่างกายถูกโอบล้อมด้วยอารมณ์สายฟ้าเข้มข้น การัมรีบปรี่เข้าหากริดพร้อมกับแลกดาบพลางอาเจียนเลือดสีแดงเข้มเป็นระยะ
วาบ
การัมกำลังเย็นไปถึงสันหลัง
มันชะล่าใจเมื่อสามารถทำลายมายาร่ายรำทำลายล้างสังหารสองชุดแรกได้เกือบหมดจด
หงึกหงึก.
แขนขวาข้างกำกระบี่อ่อนกำลังสั่นเทา
ช่องท้องกำลังมีเลือดไหล หางตาชำเลืองเห็นข้อศอกซ้ายมีบาดแผลและรอยเลือด
‘ฟื้นฟูไม่ทัน…?’
ขณะกำลังถูกทุกสายตาจ้องมอง ไม่เพียงเราจะถูกมนุษย์ไล่ต้อนจนตกเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่ยังได้บาดแผลตามลำตัวอีกหลายจุด…
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่จะกลายเป็นหนึ่งในความอับอายครั้งใหญ่ของชีวิตการัม
เหตุการณ์ในวันนี้ต้องถูกลบเลือนไปจากความทรงจำของทุกคน
“แค่ก! แค่ก! คึ…อ๊ากกกกก!!”
การัมหมุนตัวปัดหัตถ์เทวะทั้งสี่ข้างจนกระเด็นไปคนละทิศทาง ตามด้วยการแผดเสียงแหกปากคำรามลั่น
ร่างกายเริ่มฉาบด้วยอาภรณ์สายฟ้าเข้มข้นอีกครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยอำนาจแห่งเทพสายฟ้าออกไปทุกทิศทางรอบตัวอย่างไร้ความปราณี
จุดประสงค์คือการฆ่าพยานรู้เห็นความอับอายในวันนี้ให้หมดสิ้น
แต่เจตนาของมันกลับสำเร็จไม่ลุล่วง
สืบเนื่องมาจาก กลุ่มผู้เล่นหลายร้อยคนต่างพยายามช่วยกันปกป้องชาวเมืองไว้อย่างสุดความสามารถ
แน่นอน มีหลายสิบหายไปกับอำนาจสายฟ้าทรงพลังขณะพยายามใช้เวทมนตร์หรืออาวุธป้องกันการโจมตี
เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว การัมเริ่มทำสีหน้าบิดเบี้ยว
“พวกสวะ! พวกสัตว์ชั้นต่ำ! ค…แค่ก!”
แม้จะดูเหมือนกำลังเดือดดาล แต่ภายในใจการัมกลับสุขุมจนน่าเหลือเชื่อ
มันตระหนักอย่างแจ่มชัดว่าหนึ่งในยังบันสวมคัดอย่างฮันกยอล เคยเสียชีวิตเพราะผลข้างเคียงจากการใช้พลังเทพ 4 ชนิดพร้อมกันมาแล้ว จึงตัดสินใจใช้พลังเทพทีละนิดอย่างใจเย็น
เริ่มจากมังกรครามและฟินิกซ์แดง
ขณะเดียวกัน มันก็จงใจถ่วงเวลากริดโดยการใช้สายลมล่องหนพุ่งทำลายคลื่นดาบจากท่าโจมตีต่อเนื่องของกริด เพื่อให้พลังการฟื้นฟูของฟินิกซ์แดงเกิดประโยชน์สูงสุด
ทันใดนั้น
พรึ่บบบบ!
เมื่อเห็นหลอดพลังชีวิตของอีกฝ่ายกำลังเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วน่าตกใจ กริดรีบอัญเชิญเขตแดนพายุเพลิงเทพพร้อมกับรักษาระยะห่างให้อยู่ภายในขอบเขตแสดงผล
เปลวเพลิงอันร้อนแรงได้ปกคลุมสนามรบเป็นบริเวณกว้าง
ทว่า เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายฟินิกซ์แดงจากเขตแดนพายุเพลิงเทพ การัมพลันฉีกยิ้มกว้างอย่างมีเลศนัย
“คึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ทำไมแกถึงได้โง่ขนาดนี้!”
สาเหตุทำให้เพลิงฟินิกซ์แดงถูกเรียกว่าเพลิงไม่มีวันดับ เพราะเพลิงชนิดดังกล่าวอัดแน่นไปด้วย ‘พลังชีวิต’ ปริมาณมหาศาล
ใช่แล้ว พลังชีวิต
หมายความว่า หากนำไปใช้อย่างถูกวิธีจะทำให้เกิดประโยชน์กับตัวเองได้มากมาย
สำหรับการัม สิ่งนี้คือโอกาสทอง มันเตรียมอ้าแขนรับพลังฟินิกซ์แดงของกริดอย่างชุ่มฉ่ำหัวใจ
‘เราจะกินให้หมด!’
การัมสูดเปลวเพลิงเข้าไปเป็นจำนวนมาก
มันหวังแปรเปลี่ยนเพลิงฟินิกซ์แดงจากเขตแดนของกริดให้กลายเป็นพลังชีวิตของตนในปริมาณท่วมท้น
ทว่า
‘อะไรกัน…!’
หลังจากสูดเปลวเพลิงเข้าไปในปอดจนเต็ม การัมเริ่มพบความผิดปรกติทางคุณลักษณะบางอย่างจากเปลวเพลิง
เพลิงฟินิกซ์แดงของกริดได้แฝงเจตจำนงอันน่าสะอิดสะเอียนมาด้วยอย่างเต็มเปี่ยม
เจตจำนงซึ่งต้องการจะฆ่าการัมให้ตาย!
‘ฟินิกซ์แดง… กลิ่นอายฟินิกซ์แดงตัวจริง!’
ทันใดนั้น สายตาการัมพลันมองทะลุผ่านไปยังเสาเพลิงแดงอมส้มด้านหลังกำแพงวังหลวง
กระบวนการคืนชีพของฟินิกซ์แดงถูกเร่งให้เร็วขึ้นอย่างเป็นปริศนา
ด้วยสภาพแวดล้อมปัจจุบัน เขตแดนพายุเพลิงเทพของกริด จึงสามารถผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเพลิงฟินิกซ์แดงของจริงได้ด้วยเจตจำนงแห่งเทพ
การัมพลันตระหนักได้ทันทีว่า ฟินิกซ์แดงเริ่มกลับมามีอำนาจ จึงปฏิเสธและไม่ยอมมอบพลังให้แก่ตนอย่างสมบูรณ์
ขณะเดียวกัน มันก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า เหตุใดอัตราการฟื้นฟูจากลมหายใจฟินิกซ์แดงของตนถึงมิได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคย
หากขัดขวางพิธีกรรมคืนชีพของฟินิกซ์แดงและผนึกมันกลับไปตามเดิมไม่ได้ เราก็จะไม่มีวันได้ใช้พลังฟินิกซ์แดงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ…
ขณะการัมกำลังคิดเช่นนั้น
ปึด!
ร่างกายการัมเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันจากภายใน ส่งผลให้ดวงตาของมันเริ่มสั่นกระตุกฉับพลัน
นั่นคือเสียงของปอดระเบิด
ปอดของการัมกำลังลุกไหม้
“คึ่ก…! แค่ก!”
ยังบันการัมรีบกลั้นหายใจออก
เพราะหากหายใจออกในตอนนี้ เกรงว่าเส้นเลือดตามร่างกายจะถูกเปลวเพลิงแผดเผาจนเกิดความเสียหายรุนแรงจนเกิดเยียวยา
ขณะเดียวกัน
[ เป้าหมายซึ่งตกอยู่ในอำนาจของ <เขตแดนพายุเพลิงเทพ> พยายามฟื้นฟูตัวเอง แต่กลับประสบความล้มเหลว ]
[ จากอิทธิพลของ <โทสะเพลิงเทพ>, เป้าหมายจะสูญเสียพลังชีวิต 15,000 หน่วยรวมถึงไม่สามารถใช้คุณสมบัติของการฮีลได้ชั่วขณะ ]
ยิ่งได้อ่านข้อความระบบครบทุกตัวอักษร สีหน้าของกริดก็ยิ่งแจ่มใส
ตรงข้ามกับการัมผู้หมดโอกาสเติมพลังชีวิต กริดยังคงฟื้นฟูร่างกายตามปรกติ! แถมยังมีโพชันคอยช่วยสนับสนุนอีกแรง
ชายหนุ่มเริ่มมองเห็นแสงแห่งความหวัง
‘หากการัมถูกขังอยู่ภายในเขตแดนพายุเพลิงเทพของเรา พลังการต่อสู้ของมันจะลดลงมาก’
ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องรักษาระยะของเขตแดนเพลิงเทพให้ได้ โอกาสถ่วงเวลาการัมก็ยังพอมี…
ในส่วนของมานาสำหรับเปิดใช้งานเขตแดนพายุเพลิงเทพ เรื่องนี้ไม่เคยเป็นปัญหา
เพราะกริดกำลังสวมแหวนแห่งความไร้เหตุผล และเมื่อตัวมันอยู่ในเขตแดนพายุเพลิงเทพเช่นกัน อัตราการฟื้นฟูของตัวละครและพวกพ้องจะเพิ่มขึ้น 20% ตลอดเวลา
ถูกต้อง
หากตัวกริดยังคงได้รับอิทธิพลของเขตแดนพายุเพลิงเทพ ประสิทธิภาพของโพชันมานาก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
เมื่อนำทุกสิ่งมาผนวก ไม่ว่าจะเป็นอัตราการฟื้นฟูมานาตามธรรมชาติ ระยะหน่วง และปริมาณการใช้มานา กริดสามารถเปิดใช้งานเขตแดนได้นานถึง 40 นาทีต่อเนื่องเลยทีเดียว
และ 40 นาทีดังกล่าวก็จะหมายถึงช่วงเวลาแห่งนรกของยังบันการัม!
[ นักพรตและบัณฑิตของอาณาจักรโชช่วยกันเร่งความเร็วในการคืนชีพให้ฟินิกซ์แดง ]
[ ระยะเวลาในการคืนชีพของฟินิกซ์แดงลดลงจากอย่างเดิมมาก! ]
[ ระยะเวลาในการคืนชีพเหลือเพียง 54 นาที]
‘เราทำได้แน่…!’
เฉกเช่นทุกครั้ง กริดตระหนักความสำคัญของการมีพวกพ้องเหนือสิ่งใด
กษัตริย์อาณาจักรโชและบริวาร ต่างช่วยกันอย่างขยันขันแข็งเพื่อคืนชีพให้เทพของพวกตน
ขณะเดียวกัน ประชากรฝ่ายผู้เล่นอีกราวหนึ่งร้อยคนล้วนยืนกรานต่อสู้ข้างเดียวกับกริด
‘การัม พวกเราเดินบนทางคนละเส้น!’
ของฉันถูก และของนายผิด!
เครื่องพิสูจน์ชัดเจนก็คือ การต่อสู้ตามลำพังของนายและการต่อสู้แบบมีพวกพ้องของฉัน!
ขณะกริดเริ่มมองเห็นอนาคต
“ใบหน้าอวดดีนั่น…!”
ขณะการัมละสายตาจากเสาเพลิงด้านหลังมายังกริด ดวงตาของมันพลันเบิกโพลง
ซู่ววว!
ไอน้ำกำลังพรั่งพรูออกจากร่างกายการัม
พลังของเต่าดำซึ่งอยู่ในของเขตของวารีและความตาย เริ่มสยบพลังชีวิตอันร้อนแรงภายในเขตแดนพายุเพลิงเทพ
“…!?”
ใบหน้าของกริด ผู้เคยได้ประจักษ์พลังของเต่าดำจากฮันกยอลมาแล้ว พลันอึมครึมและเริ่มออกอาการตึงเครียด
ชายหนุ่มรีบยกดาบขึ้นพร้อมกับตั้งท่าป้องกัน แต่ทันใดนั้น ท่ามกลางเปลวเพลิงอันลุกโชนซึ่งเริ่มปะปนกับหมอกสีดำ การัมได้ปรากฏตัวด้านหน้ากริดอย่างกะทันหัน
กระบี่อ่อนถูกตวัดเล็งใส่แก้มกริด
“ข้าคือเทพ หากริอ่านขัดขวางเทพ โทษมีเพียงสถานเดียวคือความตาย”
พรึ่บ!
เพลิงฟินิกซ์สีส้มอมแดงพลันพวยพุ่งออกจากแผ่นหลังการัมทั้งฝั่งซ้ายและขวา ไม่ว่าจะมองมุมใดก็คล้ายคลึงกับปีกเทวทูตเข้าไปทุกที
หลังจากได้เห็นฉากตรงหน้า ใครยังจะกล้าปฏิเสธว่าการัมไม่ใช่เทพหรือ…?
ฉึก—!
กระบี่อ่อนการัมฟันถากแก้มกริด, คมดาบพุ่งลงมาเฉือนใส่กระดูกไหปลาร้าจนเกิดบาดแผลค่อนข้างใหญ่
“คึ่ก…!”
หมอกพิษของเต่าดำจะแฝงพลังกัดก่อนอายุขัยของสิ่งมีชีวิตไว้เสมอ
สุดยอดเครื่องป้องกันซึ่งกริดแสนภูมิใจหนักหนาหลายชิ้น รวมถึงชุดเกราะวัลฮัลล่าของข่าน ยามนี้ได้สูญเสียค่าความคงทนไปเป็นจำนวนมหาศาลจนถึงขีดแดง
พรืดดด!!
การัมดึงกระบี่อ่อนกลับพร้อมกับอาศัยแรงเหวี่ยงในการหมุนตัว ปิดด้วยท้ายการฟาดกระบี่ใส่กริดซ้ำอีกหนจนส่งให้ชายหนุ่มกระเด็ดถอนหลังไปไกลอย่างไม่มีทางเลือก
โครม!
กริดกระแทกพื้นเต็มแรงและกลิ้งต่ออีกหลายต่อหลายตลบ ก่อนจะฝืนพยุงตัวยืนด้วยดวงตาแดงก่ำโดยไม่มีคำพูดใดเล็ดรอด
สีหน้าของกริดกำลังบิดเบี้ยวจากอาการบาดเจ็บไหปลาร้า เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นทุกซอกมุมของร่างกาย และเมื่อได้เห็นเลือดตรงมุมปากกริด การัมคาดเดาว่าคงเป็นเพราะอีกฝ่ายได้รับพิษของเต่าดำเข้าไปเรียบร้อยแล้ว
มุมปากสองข้างของการัมกำลังยกโค้งอย่างเหยียดหยัน โดยหารู้ไม่ว่า ในความเป็นจริง กริดมิได้ติดพิษเนื่องจากกำลังสวมชุดเกราะฝีมือข่าน—ผู้ถูกเจ้าแห่งพิษเล่นงานก่อนจะหมดลมหายใจ
‘หลังจากวันนี้ ตัวเราจะสมบูรณ์แบบ’
การัมกล่าวกับตัวเองคนเดียว
จริงอยู่ กริดคือผู้มีสิทธิ์กลายเป็นเทพ
แต่ถ้าการัมปราบกริดและยับยั้งการคืนชีพของเทพฟินิกซ์แดงสำเร็จ สิ่งนี้จะถือเป็นการพิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นถึงความยิ่งใหญ่
ถุด.
การัมบ้วนเศษก้อนเลือดค้างปากออกจากลำคอและช่องปาก ก่อนจะยกปลายกระบี่อ่อนชี้ไปทางกริดด้วยสายตาแน่วแน่
การต้องสั่นกลัวต่อหน้ากริดในจังหวะเมื่อครู่ การัมไม่คิดให้อภัยตัวเองไปชั่วชีวิต
มันเตรียมสะบั้นศีรษะกริดให้ขาดออกจากร่างกาย จากนั้นก็ไล่ฆ่าทุกคนจนเหี้ยน จะได้ไม่หลงเหลือพยานคนใดรู้เห็นและแพร่งพรายอาการสั่นกลัวของตนได้อีก
“แต่ในทางกลับกัน… กริดเอ๋ย เจ้าเองก็สำคัญกับข้ามากทีเดียว”
ในฐานะเครื่องเซ่นสังเวยชั้นเยี่ยม
ไม่มีงานใดเหมาะกับเจ้าไปมากกว่านี้แล้ว!
สังเวยเพื่อให้ตัวเรากลายเป็นเทพโดยสมบูรณ์!
ขณะกำลังฉีกยิ้มกว้าง การัมลดมือลงพร้อมกับตวัดกระบี่อ่อน
ทันใดนั้น
พรึ่บ!
ร่างกายกริดพลันลุกโชนด้วยเปลวเพลิง ตามด้วยการแยกออกเป็นหลายร่างในเวลาเดียวกัน
สิ่งนี้คือทักษะดัดแปลงจากพลัง <ราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน> โดยอาศัยความช่วยเหลือจากทักษะ ‘เจตจำนงแห่งไฟ’
สุดยอดเทคนิคสำหรับเอาตัวรอดจากศัตรูในยามจนมุม หรือต้องการถ่วงเวลา
เปรี้ยงงงง!
ทว่า การัมฟาดกระบี่อ่อนเป็นแนวนอนด้วยความเร็วยากจะมอบตามทันด้วยตาเปล่า เพียงการฟาดฟันแค่ครั้งเดียว ร่างแยกมายาทั้งหมดของกริดพลันสลายหายไปจนเกลี้ยง
ในส่วนของร่างจริง ชายหนุ่มต้องขอบคุณพลัง ‘แปรสภาพอัตโนมัติ’ ของเฟย์ริส ไม่อย่างนั้นมันคงสิ้นลมหายใจตามร่างแยกไปแล้วเช่นกัน
บาเรียโลหะนับว่าเป็นประโยชน์ต่อศัตรูสายโจมตีทางกายภาพอย่างมาก เพราะนอกจากจะแสดงผลแบบอัตโนมัติแล้ว ความเสียหายก็ยังลดลงไปได้อย่างมหาศาล ชายหนุ่มจึงแทบไม่สูญเสียพลังชิวิต
“ตายยากตายเย็นนักนะ!”
เมื่อเสร็จการโจมตีแรก การัมดึงดาบกลับเข้าหาตัวพร้อมกับแสดงสีหน้าฉุนเฉียว
การยังไม่ยอมแพ้ของกริด ส่งผลให้มันระคายเคืองอารมณ์เหนือคำบรรยาย
“ในเมื่อเจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้ แล้วทำไมถึงไม่ยอมแพ้สักที? หรือคิดว่าสามารถเอาชนะข้าได้จริง?”
“…ไม่เคยเลยสักครั้ง”
“…?”
“ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะเอาชนะแกได้”
“แล้วทำไมถึง…”
ขณะการัมกำลังเกิดความอยากรู้อยากเห็น ถ้อยคำของมันพลันชะงักไปกลางประโยค
การัมเริ่มตระหนักว่าตนมองข้ามบางจุดไป
เลือดตรงมุมปากของมันมีสีแดง…?
‘มันไม่ได้ถูกพิษของเต่่าดำเล่นงานหรือไง?’
นั่นคือพิษของเทพแห่งความตายเชียวนะ!
เฉกเช่นทุกครั้ง สามัญชนสุดบัดซบตรงหน้าตนมักมาพร้อมความพิสดารยากเกินความเข้าใจอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม การัมไม่รีรออีกแล้ว
ไม่มีคำว่าออมมืออีกต่อไป
ขณะการัมแกว่งกระบี่อย่างสุดฝีมือเพื่อเตรียมปิดฉากกริดให้หมดลมหายใจ
“เนตรมองทะลุ”
กริดเริ่มสำรวจร่างกายการัมอย่างละเอียด
“…!?”
ความรู้สึกอันน่าสะอิดสะเอียนคล้ายกับถูกอีกฝ่ายจดจ้องทุกซองมุมร่างกายอย่างละเอียด
นับตั้งแต่เกิดมา จวบจนปัจจุบัน การัมไม่เคยตระหนักถึงอันตายได้รุนแรงเท่าวินาทีนี้มาก่อน จึงตัดสินใจพลิกแพลงวิถีการฟันกระบี่อ่อนเพื่อลอบเล่นงานกริดจากมุมอับ
อย่างไรก็ตาม การผกผันของวิถีกระบี่ ย่อมอยู่ในการคำนวณของเนตรมองทะลุด้วยเช่นกัน
เคร้งงง!!
เพลงกระบี่รุกรับหนึ่งเดียว
หนึ่งในท่าไม้ตายลับของการัมถูกกริดทำลายลงโดยมีเมอร์เซเดสคอยช่วยเหลือ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,565
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ได้เนตรเมียน้อยมาใช้ด้วย
ReplyDeleteขอบคุณครับ😊🙏
ReplyDelete