จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,168
<’ ฝนศาสตรา’ ในบทกวีของกริดคือสิ่งใด? >
<สำนักข่าวและสตีมเมอร์ทั่วโลกต่างพลิกแผ่นดินตามหาตัว ‘ผู้ครอบครองอาวุธกริด’ !>
<บทกวีของกริดมีการกล่าวถึง ‘เทวตำนาน’ , หรือผู้เล่นสามารถกลายเป็นเทพได้จริง? >
< (บทความ) ไอเท็มภารกิจเกรดมิธ มีข้อแตกต่างอย่างชัดเจนกับไอเท็มเกรดเลเจนดารี>
< ‘ต้องมีการเปิดเผยฉากในบทกวีของกริด!’ มวลชนทั่วโลกต่างเรียกร้องให้ SA กรุปฉายภาพฉากเหตุการณ์ขณะกริดได้รับบทกวี>
『บทกวีลำดับ 4 ของกริดได้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกอีกแล้วนะครับ ความเห็นถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายชัดเจน ฝ่ายหนึ่งระบุว่า SA กรุปควรเปิดเผยฉากขณะกริดได้รับบทกวี เพราะผู้เล่นมีสิทธิ์ได้รับรู้ข้อมูลสำคัญอันจะส่งผลกระทบต่อโลกซาทิสฟายภาพรวม ส่วนอีกฝ่ายระบุว่า การเปิดเผยฉากดังกล่าวอาจเข้าข่ายล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของกริด』
ไม่มีใครพูดถึงงานแข่งนานาชาติ
แม้แต่กลุ่มคนซึ่งเคยเฝ้ารอด้วยใจจดจ่อ ความสนใจก็ยังมุ่งมายังบทกวีของกริดแทน
มนุษยชาติหลายพันล้านกำลังเฝ้าติดตามการกระทำของกริดทุกลมหายใจ
ส่งผลให้ สปอนเซอร์หลักงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติกว่าร้อยบริษัทในปีนี้ต่างพากันตัดพ้อ พวกมันรู้สึกราวกับตนถูกหักหลัง
เมื่อเรทติ้งรายการเกี่ยวกับการแข่งซาทิสฟายนานาชาติลงลดอย่างเห็นได้ชัด กำไรของเหล่าสปอนเซอร์ย่อมถดถอยเป็นเงาตามตัว
ยกเว้นอยู่หนึ่งบริษัท
“คุฮุฮุฮุ! บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกกำลังขาดทุนย่อยยับเพราะหลานเขยของเรา!”
แดจินกรุป
ในฐานะปู่ของยูร่า มันกำลังดื่มด่ำไปกับความสำเร็จของกริด
กริดคือหนึ่งในพรีเซนเตอร์รถรุ่นใหม่ของค่าย ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องด้วยความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับยูร่า คนภายนอกจึงมองว่าแดจินกรุปคือบริษัทในเครือกริดไปโดยปริยาย ฉะนั้น เมื่อชื่อของชายหนุ่มถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง แดจินกรุปจึงได้รับผลพลอยได้ทางอ้อมไม่มากก็น้อย
“หืม อยู่ไหนน้า~”
ประธานใหญ่แห่งแดจินกรุป ลีจินเมียง กำลังชำเลืองมองภาพถ่ายของกริดจากทีวีพลางล็อกอินเข้าสู่เว็บไซต์วิกิพีเดีย
มันทำการค้นหาชื่อกริด และแก้ไขให้ข้อมูลบางให้ส่วนเชื่อมต่อกับหน้าเพจของแดจินกรุป
“ฉันมีหลานสาวแค่คนเดียว”
ปัจจุบัน ลีจินเมียงกำลังสนับสนุนการเล่นเกมของยูร่าชนิดทุ่มสุดตัว
ด้วยสภาพแวดล้อมอันสมบูรณ์แบบสำหรับการเป็นท็อปแรงเกอร์ ยูร่ากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดชนิดใครก็คาดไม่ถึง เธอสามารถพัฒนาตัวเองโดยไม่ต้องพะวงกับปัญญาของโลกภายนอกแม้แต่เรื่องเดียว
สำหรับปีนี้ แม้ทีมเกาหลีจะไม่มีกริด แต่ก็ยังสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นเช่นเคย
ประธานลีจินเมียงไม่เคลือบแคลงเรื่องดังกล่าวเลยสักนิด
***
ดันเจี้ยนทางน้ำใต้ดิน ‘เอเรเซีย’ ถูกจัดให้มีความยากเป็นอันดับหนึ่งจากบรรดาดันเจี้ยนลับทั้งหมดในปัจจุบัน
หากไม่มี ‘ไฮแรงเกอร์’ ร่วมปาร์ตี้มาด้วยอย่างน้อยสามคน ก็เลิกคิดเรื่องการเอาชนะดันเจี้ยนไปได้เลย
ทว่า
[เลเวลอัป]
[ท่านสังหารมอนสเตอร์ทุกตัวในดันเจี้ยนตามลำพัง!]
[เหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นเนื่องจากท่านบรรลุเงื่อนไขชิ้นส่วนลับของอริยดาบ ‘การบำเพ็ญทุกรกิริยา’]
ครอเกลล้างดันเจี้ยนสุดหฤโหดตามลำพัง
มันกำลังหลับตาลงหลังจากใช้พลัง ‘บงการดาบ’ ควบคุมให้หอกไม้ไผ่แทงทะลวงร่างหนูโสโครกผู้เรียกตัวเองว่าราชาใต้ดิน
อริยดาบมิได้กำลังดื่มด่ำความสำเร็จ
สำหรับครอเกล ความสำเร็จเมื่อครู่ช่างง่ายดายจนไม่มีค่าพอให้จดจำ
แล้วมันปลื้มปริ่มกับสิ่งใด?
‘…ดยุคแห่งคุณธรรม’
ครอเกลหลับตาลงเพื่อหวนระลึกถึงฉากเหตุการณ์ในบทกวีเมื่อครู่
ถูกต้อง
ครอเกลมีโอกาสได้เห็นฉากในบทกวี
ไม่สิ เรียกว่า ‘สัมผัสประสบการณ์’ คงจะถูกต้องมากกว่า
ในฐานะอริยดาบ ครอเกลสามารถมองโลกผ่าน ‘ดาบเสือขาว’ ซึ่งส่งให้กริดหยิบยืมชั่วคราว เหตุการณ์เริ่มจากจุดเหนือสุดท้องฟ้า จนกระทั่งพุ่งลงไปยังพื้นดิน และเหลือบเห็นตัวเอกของบทกวี ผู้ลั่นวาจาว่า ตนจะกลายเป็นเทพเพื่อชักนำโลกไปในทิศทางถูกต้อง
วาบ!
ครอเกลพลันขนลุกซู่
มันได้เห็นกริด ผู้กำลังรุกโจมตีใส่ยังบันด้วยฝีมืออันสูสี แสดงใบหน้าเจ็บปวดรวดร้าวเมื่อศาสตราจากฟากฟ้าถูกทำลายเล่มแล้วเล่มเล่า สิ่งนี้ติดตราตรึงใจครอเกลยิ่งกว่ารายละเอียดการต่อสู้เสียอีก
มันมองเห็นอนาคตวันข้างหน้า
อนาคตการกลายเป็นเทพของกริด
ชะตากรรมดังกล่าวจักไม่มีวันแปรเปลี่ยน
ครอเกลพลันตระหนักถึงเป้าหมายใหม่
เทพดาบ
‘การฟาดฟันอันไร้เทียมทาน’
หากผู้เล่นมีสิทธิ์กลายเป็นเทพ ย่อมหมายความว่า ผู้เล่นก็มีสิทธิ์สะบัดเทพให้ขาดสองท่อนเช่นกัน
ฉากในสมองครอเกลแปรเปลี่ยนทีละนิด
ท่ามกลางห่าฝนศาสตรา บุคคลผู้กำลังยืนเผชิญหน้ากริดมิใช่ยังบันการัม
หากแต่เป็นตัวมัน เทพดาบครอเกล
***
พรึบ!
แสงสว่างพลันระเบิดออกจากลมหายใจฟินิกซ์แดงและคันศรฟินิกซ์แดงในตัวกริด
เปลวเพลิงเข้มข้นลุกโชนทั่วร่างชายหนุ่ม
‘สิ่งนี้คืออะไร?’
เมื่อยืนยันว่าเปลวไฟรอบร่างกายปราศจากพิษภัย กริดเดินตรงไปทางวัตถุลึกลับตรงมุมกระท่อม
บริเวณดังกล่าวมีลักษณะคล้ายแท่นบูชาขนาดเล็ก เต็มไปด้วยวัตถุปริศนา แถมยังมีฝุ่นและหยากไย่จับตัวแน่น ใจกลางแท่นบูชาเป็นรูปปั้นของนกตัวเล็กกำลังส่องแสงเลือนราง
“นี่มัน…!”
เป็นเพราะมีขนาดเท่าฝ่ามือ กริดจึงเข้าใจว่าเป็นรูปปั้นของนกตัวเล็ก แต่ความจริงแล้วตรงกันข้าม
หลังจากปัดฝุ่นและหยากไย่ออก รูปลักษณ์แท้จริงพลันมอบความคุ้นเคยให้กริดทันที
“ฟินิกซ์แดง?”
ทันใดนั้น
ซู่ววว!
แสงเลือนรางจากเทวรูปฟินิกซ์แดง ถูกดูดกลืนเข้าไปในคันศรฟินิกซ์แดงบนตัวกริด
ชายหนุ่มสัมผัสได้ทันทีว่าคันธนูเริ่มร้อนและเกิดการสั่นสะเทือนหนักหน่วง
[<ลมหายใจฟินิกซ์แดง> ซึ่งฝังอยู่ใน <เทวรูปฟินิกซ์แดงถูกทอดทิ้ง> ไหลซึมเข้าไปใน <คันศรฟินิกซ์แดงอัดแน่นด้วยพลังเทพ>]
[ท่านต้องรวบรวมลมหายใจฟินิกซ์แดงอีก 19 ครั้ง]
“…!”
ตัวตนแท้จริงของ ‘กระท่อม’ ถูกเปิดเผย
ในอดีต กระท่อมหลังนี้คงเคยเป็นศาลเจ้าเทพฟินิกซ์แดงมาก่อน แต่หลังจากความศรัทธาถูกโอนถ่ายไปให้ยังบัน ความสำคัญของสี่สัตว์เทพก็เลือนหายไปตามกาลเวลา
เราไม่เคยรู้มาก่อน… เทพฟินิกซ์แดงแบ่งปันลมหายใจให้มนุษย์กราบไหว้ด้วยหรือ
‘เข้าใจแล้ว นี่มิใช้ภารกิจยากเกินเอื้อม…’
แต่ไหนแต่ไร กริดเคยคิดมาตลอดว่า ภารกิจฟื้นฟูคันศรฟินิกซ์แดงซึ่งตนรับมาจากเสือคราม มีเงื่อนไขในการบรรลุยากเกินไปสำหรับผู้เล่น
เมื่อครอบครองคันศรฟินิกซ์แดง ภายในระยะเวลา 2 ปี ผู้เล่นไม่สามารถตายได้เกินสองครั้ง แถมยังต้องถูกอาณาจักรฮวานตามล่าสุดขอบฟ้า แม้แต่เงื่อนไขรองอย่าง ‘รวบรวมลมหายใจฟินิกซ์แดงให้ครบ 20 ชิ้น’ ก็ยังยากเกินไปอยู่ดี
แต่ปัจจุบัน กริดเริ่มมองเห็นความสมจริง
จุดประสงค์แท้จริงของภารกิจดังกล่าว คือออกการเดินทางค้นหาศาลเจ้าฟินิกซ์แดงทั่วทั้งทวีปตะวันออกต่างหาก
‘เทพฟินิกซ์แดงส่งเรามายังจุดนี้เพื่อบอกใบ้?’
กริด ผู้สับสนมาตลอดว่าเหตุใดตนถึงได้คืนชีพในกระท่อมแปลกหน้า สมองพลันกระจ่างชัดและเริ่มเข้าใจขั้นตอนต่อไป
ทันใดนั้น มัดหยิบลมหายใจฟินิกซ์แดงออกจากช่องสัมภาระ
‘เรานึกสงสัยมาตลอด…’
สงสัยมาตั้งแต่รับภารกิจแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราลมหายใจฟินิกซ์แดงไปเสริมแกร่ง?
‘ถ้าไม่ถูกมองว่าเป็นไอเท็มคนละชนิดกับลมหายใจฟินิกซ์แดงก็คงดี’
ในกรณีเลวร้าย มันจะไม่สามารถนำมาใช้บรรลุภารกิจฟื้นฟูเทพฟีนิกซ์แดง เพราะระบบเกมมองว่าเป็นไอเท็มต่างชนิดกัน
‘แต่เราควรพิสูจน์ให้กระจ่าง’
คงโง่เขลาน่าดู หากหวาดกลัวการพิสูจน์ให้แน่ชัด ว่าการเสริมแกร่งลมหายใจจะได้ผลลัพธ์ดีขึ้นจากเดิมหรือไม่ เพียงเพราะกลัวว่าจะเสียลมหายใจฟินิกซ์แดงไปเพียงหนึ่งชิ้น
โดยเฉพาะกับกริด ผู้มีอิทธิพลมากพอจะครอบครองลมหายใจสัตว์เทพเป็นกอบเป็นกำ
‘กระท่อมแห่งนี้คงปลอดภัย’
ไม่อย่างนั้น ฟินิกซ์แดงคงไม่ส่งตนมา
แถมยังถูกทิ้งร้างมานานหลายปีจนฝุ่นและหยากไย่เขรอะ ผู้คนคงสัญจรผ่านไม่บ่อยนัก
อย่างน้อย ถ้ายังไม่ออกจากเขตนี้ ก็หมดห่วงว่าจะถูกการัมไล่ตามจนพบตัว
เมื่อได้ข้อสรุป กริดเดินออกไปนอกกระท่อม วางเครื่องไม้เครื่องมือตีเหล็กเรียงรายบนพื้น นำเตาหลอมชนิดพกพาออกมาตั้ง และจ้องมองออกไปยังผืนป่ารอบกระท่อม
“นั่นมัน…”
ปัจจุบัน แพงเจียกำลังอยู่ในฤดูใบไม้ร่วง
แต่เมื่อพ้นจากสุดเขตต้นไผ่ เหตุใดวิวทิวทัศน์ในจุดดังกล่าวจึงคล้ายคลึงฤดูหนาวมาก
ใบไม้ขาวราวกับหิมะ
ฤดูหนาวเฉพาะแถบนี้?
ไม่ใช่ · นั่นคือต้นฟอสฟอรัสขาว
ต้นไม้ปริศนา โดยแม้จะเป็นเพียงต้นไม้ แต่กลับสามารถระเบิดเปลวเพลิงรุนแรงออกมาได้
ถึงจะได้ชื่อว่ามีเปลือกแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าจนไม่มีวันถูกโค่น แถมยังคอยระเบิดเพลิงเกรี้ยวกราดใส่ผู้โจมตี แต่ต้องไม่ลืมว่า กริดคือราชาโอเวอร์เกียร์
[ท่านสวมใส่ <ขวานตัดไม้ของเซียน>]
‘ด้วยเจ้านี่ เราจะไม่เป็นอะไร’
เปรี้ยง!
กริดซัดเต็มแรงโดยไม่ปรานี
หากชาวตะวันออกเดินผ่านมาเห็นฉากเหตุการณ์เมื่อครู่ พวกมันคงจินตนาการว่าขวานต้องขาดออกเป็นสองท่อน และกริดจะเสียชีวิตทันทีจากแรงระเบิด
แต่ขวานของกริดยังสบายดี
ตรงกันข้ามกับการระเบิด ต้นฟอสฟอรัสขาวถูกโค่นกลายเป็นเศษฟืนอย่างเชื่องมือ
ฉึก! ฉึก!
ย้อนกลับไปในตอนแรก กริดเริ่มต้นบนเส้นทางช่างตีเหล็กด้วยภารกิจตัดฟืน
ขวานถูกกระหน่ำสับอย่างช่ำชอง เปลือกไม้สีขาวโพลนมิอาจยับยั้งการเข่นฆ่าจากมนุษย์ตรงหน้าไหว
ผ่านไปเพียงหนึ่งกะพริบตา ต้นฟอสฟอรัสขาวโดยรอบได้ถูกแปรสภาพกลายเป็นฟืนจนเหี้ยนเตียน
‘ประมาณ 2,000 อันแล้วกระมัง…’
นับเป็นจุดเริ่มต้นอันสดใส
ภายใต้เงื่อนไขสมบูรณ์แบบ กริดเริ่มลงมือเสริมแกร่งลมหายใจฟินิกซ์แดง
[เอฟเฟคจากสมญานาม <ดยุคแห่งไฟ> ทำให้ค้อนตีเหล็กของท่านลุกไหม้!]
[ทุกขั้นตอนจะรวดเร็วขึ้นสองเท่า!]
<ดยุคแห่งไฟ>
ช่างฝีมืออันดับหนึ่งแห่งยุคสมัย
“ค้อนสร้างยุทธภัณฑ์
ยุทธ์ภัณฑ์สร้างสันติสุข”
ความตั้งใจอันแน่วแน่ไม่เคยแปรเปลี่ยนเช่นนี้
ในบางครั้งมันคือพิษร้าย
* ค่าพลังจิตเพิ่มขึ้น 20%
* ลดการใช้ค่าเรี่ยวแรงลง 10%
* มีโอกาสแสดงผล ‘ได้คืบจะเอาศอก’ ในอัตราปานกลาง
★ หาก ‘ได้คืบจะเอาศอกแสดงผล’ , ท่านสามารถทำงานต่อได้อีก 1 นาที แต่แลกมากับการสูญเสียค่าพลังชีวิตสูงสุดเป็นการถาวร จำนวนพลังชีวิตแปรผันตามระยะเวลา
(กรุณาบริหารเวลาให้ดี)
* ได้รับทักษะ <เจตจำนงแห่งไฟ>
<เจตจำนงแห่งไฟ> ทักษะติดตัว
เอฟเฟคขณะผลิตไอเท็ม :
ทำงานเร็วขึ้นสองเท่า ไอเท็มซึ่งผลิตโดยฝีมือท่านจะได้รับคุณลักษณะพิเศษ <ลมหายใจดยุคแห่งไฟ> เสมอ
เอฟเฟคขณะต่อสู้ :
เพิ่มพลังโจมตีอาวุธตามค่าพลังจิต เพิ่มการโจมตีธาตุไฟและธาตุจิต ตามค่าพลังจิต
(ความเสียหายธาตุจิตจะมองข้ามพลังป้องกันทั้งหมดของศัตรู)
คำอธิบายของ ‘ดยุคแห่งไฟ’ นั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับ ‘ดยุคแห่งปัญญา’ มาก
แตกต่างเพียงแค่ ดยุคแห่งปัญญาจะเริ่มต้นด้วยวลี ‘ผู้มีปัญญาสูงสุดแห่งยุคสมัย’ , แต่จะจบลงด้วยวลี ‘ในบางครั้งก็เป็นพิษร้าย’ เช่นเดียวกันกับดยุคแห่งไฟ
หมายความว่า สมญานามเหล่านี้แฝงความอันตรายไว้เสมอ ต้องใช้งานอย่างระวัง
แต่ไม่ใช่กับดยุคแห่งคุณธรรม
<ดยุคแห่งคุณธรรม>
ผู้มีคุณธรรมสูงสุดแห่งยุคสมัย
ผู้คนต่างยกย่องในความใจกว้างและอุปนิสัยเถรตรงของท่าน
* ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น 35%
ดยุคแห่งคุณธรรมนั้นไม่มีผลข้างเคียง
แถมพลังพื้นฐานก็ไม่ด้อยไปกว่าดยุคแห่งไฟและดยุคแห่งปัญญาเลยสักนิด อรรถประโยชน์การใช้งานค่อนข้างหลากหลาย
แต่ปัญหาคือชื่อของทักษะ
* ท่านได้รับทักษะ <ถ้อยคำนักคุณธรรม>
<ถ้อยคำนักคุณธรรม>
ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยอาศัยความเป็นนักคุณธรรมของท่าน
ท่านสามารถร้องขอ ‘ฝนศาสตรา’ อันเกิดจากฝีมือการสร้างของท่าน หรือ ขอความช่วยเหลือจากคนรู้จัก
* เอฟเฟคเมื่อเรียกฝนศาสตรา :
- เรียกอาวุธฝีมือการสร้างของท่านกลับคืนมา
- ฝนศาสตราจะโจมตีใส่เป้าหมายตามการกำหนดของท่าน พลังโจมตีเทียบเท่าขณะอยู่ในมือเจ้าของคนปัจจุบัน จำนวนครั้งการโจมตีจะขึ้นอยู่กับเกรดของไอเท็ม ต่ำสุดคือ 1, และสูงสุดคือ 6 ครั้ง เมื่อโจมตีจนครบจำนวนครั้ง อาวุธจะกลับไปหาเจ้าของปัจจุบัน
- หากอาวุธเล่มใดสูญเสียความคงทน ระบบจะทำการหักค่าพลังชีวิตของท่านแทน หรือไม่ก็หนึ่งในทรัพยากรของท่าน เช่นมานา
* เอฟเฟคเมื่อขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
- ท่านสามารถขอความช่วยเหลือจากบริวารหรือบุคคลผู้มีความสัมพันธ์อันดีกับท่านได้
- ท่านสามารถเลือกหยิบยืม ‘ทักษะ’ หรือ ‘ค่าสถานะ’ จากเป้าหมายได้
“…”
ไม่เหมาะจะใช้งานต่อหน้าคนอื่นสักเท่าไร
ขณะครุ่นคิด ปลายนิ้วกริดกำลังลูบไล้ลมหายใจฟินิกซ์แดงซึ่งถูกเสริมแกร่งเสร็จเรียบร้อย
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,557
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
👍👍👍
ReplyDeleteยืมครกปิอาโรมาตอกหน้าการัม ᕕ( ᐛ )ᕗ
ReplyDelete_/ \_