จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 824
เคร้ง…
เคร้ง…
เคร้ง…
ท่ามกลางผืนฟ้าสีเทายามรุ่งสาง เสียงทุบค้อนที่ดังตลอดทั้งคืน ยังคงใสกังวาลไปทั่วป่าอันเงียบสงัด
‘ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวล’
เมอร์เซเดสส่ายศีรษะพลางขจัดความคิดฟุ้งซ่าน
เธอเกิดความคิดแปลกประหลาดขึ้นหลังจากตื่นมาเห็นกริดในสภาพเหงื่อชุ่ม
เหตุใดกริดถึงมีขวานโรเล็กซ์?
แล้วเกราะสีชาดเหล่านี้เป็นของใคร?
เมื่อวานก่อนที่เธอจะหลับ เมอร์เซเดสเห็นเต็มสองตาว่ากริดนำเกราะสีชาดและขวานใหญ่ออกมาวางบนทั่ง
จินตนาการของเธอพลันพุ่งพล่านไปไกล
ภายในใจเริ่มรู้สึกขัดแข้งจนกระทั่งนอนหลับ
แต่เมื่อตื่นขึ้น เมอร์เซเดสมั่นใจว่าความรู้สึกดังกล่าวมิได้สั่นคลอนจิตใจอันภักดีที่เธอมอบให้กริด
เพราะไม่ว่าอย่างไร เหตุการณ์เลวร้ายที่เธอเคยจินตนาการเมื่อคืน มันคือสิ่งที่ขึ้นไปแล้วในอดีต
ไม่มีมนุษย์คนใดย้อกลับไปแก้ไขอดีตได้
ใช่แล้ว
ต่อให้กริดคือผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายที่สังหารโรเล็กซ์และอัศวินสีชาดระหว่างศึกวัลฮัลล่าจริง เมอร์เซเดสก็ไม่มีสิทธิ์โกรธหรือมองว่าตัวเองถูกหักหลัง
‘ในตอนนั้น จักรวรรดิคือศัตรูที่สำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์’
ตัวตนของจักรวรรดิคือสิ่งที่เดียวที่สามารถถล่มอาณาจักรของกริดให้หายไปจากแผนที่ทวีป
แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม
เมอร์เซเดสมิอาจกล่าวโทษการกระทำของกริด
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีสิทธิ์ปกป้องตัวเองจากจักรวรรดิอย่างชอบธรรม
ในมุมมองกริด เขาทำหน้าที่ราชาคนหนึ่งได้อย่างยอดเยี่ยม
หรือต่อให้กริดทำเรื่องไม่สมควรลงไปจริง แต่ปัจจุบัน เมอร์เซเดสคืออัศวินประจำตัวกริด
เธอต้องโอบกอดอดีตของกริดทั้งหมดไว้อย่างอ่อนโยน
ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือร้าย
แต่มีหนึ่งสิ่งที่เมอร์เซเดสรู้สึกเสียดาย
‘หากโรเล็กซ์รู้ถึงความสัมพันธ์ของฝ่าบาทและปิอาโร่…’
โรเล็กซ์อาจไม่ต้องตาย
เขาอาจกำลังรับใช้กริดข้างกายปิอาโร่เหมือนกับเธอ
แต่แน่นอน สมมติฐานเช่นนี้เป็นเพียงจินตนาการเฟ้อฝัน
ไม่มีคำว่า ‘ถ้า’ อยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับใดทั้งสิน
‘…เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง การพูดออกไปอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง’
เมอร์เซเดสส่ายศีรษะพลางระงับจิตใจที่ฟุ้งซ่าน
แต่ทันใดนั้น เสียงประหลาดได้ดังขึ้นจากจุดที่ไม่ห่างมากนัก
‘นั่นเสียงอะไร?’
เธอหมกมุ่นกับความคิดจนปล่อยให้ศัตรูเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัวงั้นหรือ?
เมอร์เซเดสกระโจนไปในอากาศพร้อมกับหมุนควงสว่าน
ดาบเสือขาวในมือพุ่งจู่โจมใส่เป้าหมายต้นเสียงอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ดาบเสือขาวปะทะกับเปลือกแข็งปริศนาจนเกิดเสียงโลหะกระทบดังกึงก้อง
เมื่อสัมผัสถึงความโกลาหล ปิอาโร่รีบตื่นจากการนอนพร้อมกับหันไปมองในจุดที่เกิดความวุ่นวาย
‘จิ้งหรีดถ้ำ’ ตัวเท้าม้ากำลังโจมตีใส่เมอร์เซเดสด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง
ไม่ผิดแน่ จิ้งหรีดตัวนี้ต้องเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์—สิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับโลก
เมื่อมนุษย์ขยับขยายอาณาเขตของตัวเอง เหล่าสัตว์ป่าต่างต้องอพยพหลบหนีเพื่อดำรงสายพันธุ์ไว้
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์จึงไม่เคยมีบันทึกเกี่ยวกับจิ้งหรีดถ้ำมาก่อน
ย่อมไม่มีใครทราบว่า พวกมันได้หลบหนีมาอยู่ในเขตป่าต้นไม้โลกของชาวเอลฟ์
“อึก!”
แม้แต่หนึ่งในตัวตนที่เก่งที่สุดของทวีปก็ยังตกเป็นฝ่ายตั้งรับ
สิ่งมีชีวิตประหลาดมีทั้งหมดแปดขา
สองในแปดคือขาสั้นคู่หน้าสุด อีกสี่ข้างเป็นขาบริเวณลำตัวซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะกำบังและอาวุธสำหรับโจมตี ส่วนขาคู่ใหญ่ด้านหลังสุดมีไว้สำหรับพยุงตัวและกระโดด
วิธีการต่อสู้ของสัตว์ดึกดำบรรพ์ย่อมแปลกประหลาดชนิดที่มนุษย์ไม่เคยพานพบ
ยากเหลือเกินที่มนุษย์จะเทียบชั้นนักล่าซึ่งพัฒนาตัวเองตลอดหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา
ลงเอยด้วย
เมอร์เซเดสตัดสินใจสยายปีกเงินเพื่อรักษาระยะห่างที่ได้เปรียบ
ทว่า…
หนวดคู่หน้าที่ยาวและเหนียวของมัน เปี่ยมด้วยประสาทสัมผัสซึ่งไวต่อการเคลื่อนไหวของศัตรู
จิ้งหรีดถ้ำเหยียดขาหน้ายืดยาวออกกระแทกใส่เมอร์เซเดสที่พยายามบินหนี
อัศวินในตำนานพลันกระอักโลหิตคำโตพลางกระเด็นลอยเคว้งกลางอากาศ
“แค่…ก!”
อัศวินผู้สูงศักดิ์กลับถูกแมลงกระจ้อยร่อยเล่นงานงั้นหรือ?
เปล่าเลย
เมอร์เซเดสมีได้เกิดความคิดโอหังอย่างไร้สาระเช่นนั้น
จิ้งหรีดยักษ์ตัวนี้คือสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งเกินแมลงไปมาก
ผิวเปลือกนอกแข็งยิ่งกว่าเกล็ดไวเวิร์น
พละกำลังสูงส่งยิ่งกว่าหมีหมาป่าในยามกลางวันแสก
แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด
การโจมตีแสนพิสดารที่ยากจะคาดเดา
การดวลในศึกนี้จึงตึงมือกว่าสถานการณ์ใดทั้งหมดที่เมอร์เซเดสเคยพบเจอ
เธอไม่สามารถใช้สัญชาตญาณตัวเองเพื่อรับมือการเคลื่อนไหวที่ไม่คุ้นเคยได้เลย
ทันใดนั้น
ผืนดินเริ่มยุบตัวลงโดยไม่มีลางบอกเหตุ
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อจิ้งหรีดถ้ำยักษ์กดขาหลังไปลงกับพื้น
มันเตรียมดีดตัว
พื้นดินโดยรอบยุบลงลึกจนน่าใจหาย
จนกระทั่งจิ้งหรีดถ้ำกระโจนขึ้นไปในอากาศเพื่อตามปิดฉากอัศวินในตำนาน
“เมอร์เซเดส! ลืมตาสักที!!”
สัตว์ประหลาดยักษ์ตนนี้กำลังลอยอยู่กลางอากาศได้อย่างไร?
เมอร์เซเดสจ้องมองมันด้วยสายตาเหม่อลอย
จนกระทั่งเสียงตะโกนปิอาโร่เล็ดรอดเข้ามาในหู
“เร่งโต!”
ต้นไม้ที่ปิอาโร่ตัดแต่งมาทั้งวันพลันงอกเงยด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
กิ่งก้านที่เคยถูกตัดทิ้งเพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติ บัดนี้เริ่มยืดยาวกลับสู่สภาพเดิมพลางปกคลุมด้วยใบไม้เขียวชะอุ่ม
ต้องขอบคุณต้นไม้ใหญ่ที่งอกเงยเป็นกำบังให้เมอร์เซเดส
จิ้งหรีดยักษ์ถูกขัดขวางมิให้เข้าถึงตัวอัศวินในตำนานได้ง่ายนัก
ถึงกระนั้น มันอาศัยขาหน้าที่แหลมคมตัดทำลายกิ่งไม้ยักษ์จนแหลกละเอียดในพริบตา
เมอร์เซเดสหลุดจากภวังค์เหม่อลอยอย่างรวดเร็ว
ปราณดาบสีเงินกำลังถูกรวบรวมควบแน่นรอบดาบเสือขาว
เกิดเป็นแสงสว่างแสบตาท่ามกลางบรรยากาศยามรุ่งสางสีเทาหม่น
ขณะเดียวกัน
ปิอาโร่รีบปลดปล่อย ‘บดข้าวเปลือก’ โดยไม่รีรอ
วัตถุปริศนาขนาดใหญ่ตกกระแทกใส่ร่างจิ้งหรีดถ้ำอย่างแม่นยำ
“ดาบสัตย์สาบาน!”
เมอร์เซเดสพุ่งปรี่เข้าหาจิ้งหรีดถ้ำพร้อมกับสยายปีกเงิน
ดาบพญาเสือขาวสยบโลกากระหน่ำแทงใส่ช่องท้องที่บวมป่องของมันหลายหน
เกิดเป็นการโจมตีผสานแสนทรงพลังระหว่างสองตำนานที่เคยมีประสบการณ์โค่นจอมอสูร
ทว่า…
“อึก!”
“ชิ!”
พลังทำลายไม่มากพอจะจบชีวิตจิ้งหรีดถ้ำสุดแกร่ง
จุดอ่อนเดียวของมันคือการออกล่าเหยื่อเฉพาะตอนกลางคืน
จิ้งหรีดถ้ำเป็นนักล่าบนจุดสูงสุดห่วงโซ่อาหารนับตั้งแต่โลกใบนี้ถือกำเนิด
ตัวตนของมันยิ่งใหญ่ทรงพลังระดับเดียวกับผู้ปกครองแห่งขุมนรก
“สัตว์ประหลาดตัวนี้…”
เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง
เมอร์เซเดสถึงกับผงะเมื่อเหลือบไปเห็นซากศพหมีหมาป่านับสิบตัวเรียงรายเป็นทางยาวที่มันวิ่งผ่านมา
สิ่งนี้คือร่องรอยการล่าตลอดทั้งคืนของจิ้งหรีดถ้ำ
และคงเป็นสาเหตุที่หมีหมาป่าเก็บตัวซุ่มเงียบตลอดคืน
ปัจจุบัน มันกำลังเล็งคร่าชีวิตสิ่งมีชีวิตแสนอ่อนแอที่มีชื่อว่า ‘มนุษย์’
เมื่อมั่นใจถึงเจตนาของสัตว์ดึกดำบรรพ์ตัวนี้
เมอร์เซเดสเริ่มรวบรวมสมาธิเพื่อใช้ดวงตาพิเศษจดจ่อการเคลื่อนไหวที่ผิดแผกพิสดารของมัน
ขณะเดียวกัน
ปิอาโร่ผุดวิธีรับมือขึ้นในหัว
“เธอต้องตรึงมันไว้อย่างเต็มกำลัง ฉันจะเตรียมพื้นที่ทำฟาร์มเป็นบริเวณกว้าง ระหว่างนั้นช่วยหยุดมันให้ด้วย”
“รับทราบ!”
เมอร์เซเดสตอบอย่างฉะฉานพลางโยกตัวหลบการโจมตีที่กำลังพุ่งเข้าหา
ผืนดินจะสั่นสะเทือนทุกครั้งเมื่อจิ้งหรีดถ้ำเริ่มก้าวขาโจมตี
ขณะเดียวกัน
ในจุดที่มีกริด ทั่งเหล็ก และเตาหลอม
แผ่นหินขนาดใหญ่ซึ่งเป็นฐานรองเริ่มเกิดรอยร้าว สามารถพังครืนลงได้ทุกเมื่อ
แต่กริดกลับมิได้แยแสสิ่งรอบตัวเลยสักนิด
สมาธิทั้งหมดของเขากำลังจดจ่ออยู่กับงานเบื้องหน้า
นับตั้งแต่วินาทีที่จิ้งหริดถ้ำปรากฏตัวจวบจนถึงปัจจุบัน กริดมิได้แสดงท่าทีกระวนกระวายใจให้เห็นแม้แต่วินาทีเดียว
คงฟังดูเกินจริงไปมากหากจะกล่าวว่า กริดไม่รับรู้ถึงการต่อสู้อันดุเดือดที่เกิดขึ้น
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
กริดกำลังอยู่ในภาวะดังกล่าว
เขาอาศัยภายในโลกส่วนตัวตามลำพัง
รับรู้เพียงตัวเอง ค้อน ทั่งเหล็ก เปลวเพลิง และโลหะ
‘เราสัมผัสได้’
กระดูกยักษ์ถูกกระหน่ำทุบจนอยู่ในรูปทรงสมบูรณ์แบบที่เข้าต้องการ
ประสิทธิภาพถูกรีดเร้นออกมาถึงขีดสุด
ปราณต่อสู้ภายในมิธริลนิลจึงส่งเสียงคำรามเพื่อเป็นการตอบสนอง
ขณะเดียวกัน ดีบุกโรซ่าคือตัวกลางที่คอยระงับความเดือดพล่านของกระดูกยักษ์และมิธริลนิลได้อย่างอยู่หมัด
เคร้ง!
เคร้ง! เคร้ง!
ฝีมือการทุบค้อนของกริดเข้าขั้นไร้ที่ติ
ยิ่งเวลาผ่านไปนาน สมาธิก็ยิ่งจดจ่อราวกับทุกสิ่งหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย
บัฟความอดทนของช่างเหล็กและลมหายใจของช่างเหล็กแสดงผลอย่างต่อเนื่อง
โลหะที่เป็นแกนกลางของชุดเกราะจึงทวีความเจิดจรัสและอุดมด้วยประสิทธิภาพ
ในที่สุด…
‘ตอนนี้แหละ!’
ผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ได้อุบัติขึ้นเบื้องหน้ากริด
[ ท่านสร้างไอเท็มสำเร็จ! ]
[ เทพแห่งการตีเหล็กประหลาดใจอย่างมาก เขาถึงกับกล่าวว่า มนุษย์คนนี้มีทักษะด้านตีเหล็กที่สามารถเทียบชั้นตนได้ในบางมุม ]
[ เทพตนอื่นต่างพากันหัวเราะเยาะเทพแห่งการตีเหล็กที่กำลังกระวนกระวายใจ ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับเทพแห่งการตีเหล็กลดลง 1 หน่วย]
[ หากค่าความสัมพันธ์กับเทพแห่งการตีเหล็กลดลงเหลือ -10 หน่วย ไอเท็มทุกชนิดที่ท่านสร้าง (เกรดเลเจนดารีขึ้นไป) จะถูกสาป ]
[ ค่าความสัมพันธ์ปัจจุบัน : -2 หน่วย ]
ชุดเกราะหนักเต็มรูปแบบซึ่งมีผิวโลหะมันเงาสีแดงอมม่วงขึ้นอยู่กับมุมแสงตกกระทบ
ในที่สุดมันก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์
และนามของมันคือ
ชุดเกราะราชาวีรบุรุษ
***
ดาบในมือเมอร์เซเดสกำลังลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีเงิน
ต่อหน้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ยืนบนจุดสูงสุดห่วงโซ่อาหารมายาวนาน เธอมิอาจออมแรงได้แม้แต่หนึ่งส่วน
สัตว์ประหลาดตนนี้คือสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์ทั่วไปไม่มีวันจินตนาการถึง
จิ้งหรีดถ้ำต่อสู้อย่างดุดันด้วยพละกำลังมหาศาล
มันมีขาหลังใหญ่โตที่กระโจนได้ไกลหลายรอยเมตร ไม่มีบริเวณใดบนผืนป่าที่เมอร์เซเดสสามารถหลบพ้น
มันมีขาหน้าที่แข็งแต่ยืดหยุนอย่างน่าเหนือเชื่อ
มีหนวดคู่ที่คอยสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวศัตรูได้ไวราวกับรู้ล่วงหน้า
มีขาด้านข้างลำตัวอีกมากถึงสองคู่ สำหรับปกปิดจุดอ่อนขณะถูกโจมตีโต้กลับ
ราวกับมันคือสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่อต่อสู้โดยเฉพาะ
เมอร์เซเดสเป็นได้เพียงทหารเลวที่พยายามสร้างรอยขีดข่วนใส่ป้อมปราการยักษ์ตามลำพัง
ความต่างชั้นของพลังมีมากถึงเพียงนั้น
บาดแผลตามร่างกายเมอร์เซเดสเริ่มเพิ่มจำนวนแม้จะใช้ทักษะ ‘จิตวิญญาณเสือขาว’ เผชิญหน้าโดยตรง
ขณะเดียวกัน ปิอาโร่ยังคงก้มหน้ารีบทำฟาร์ม
‘ยื้อเวลาให้ฉันอีกนิด!’
ในการจะปราบจิ้งหรีดถ้ำ กลยุทธ์พื้นฐานคือการพันธนาการมันให้แน่นหนา
เมื่อมั่นใจในแผนการ ปิอาโร่จึงรีบใช้เวลาทั้งหมดเพื่อเคลียหน้าดินด้วยทักษะทำฟาร์มอิสระ
หากใช้แผนนี้ เมอร์เซเดสจำเป็นต้องยื้อเวลาไว้อีกราวสามนาที
ไม่สิ ปิอาโร่สวดภาวนาให้เธอมีลมหายใจต่อไปอีกสักสองนาทีก็เพียงพอแล้ว
แต่ในห้วงความคิดปัจจุบันของเมอร์เซเดส สองนาทีคือเวลาที่แสนนานราวกับชั่วนิรันดร์
ปราการ ‘จิตวิญญาณเสือขาว’ เริ่มพังลงไม่เป็นท่า
ข้าข้างลำตัวของจิ้งหรีดที่เคยมีไว้ป้องกันตัวเพียงอย่างเดียว ได้สลับหน้าที่มาเป็นเหล็กแหลมคอยทิ่มแทง
การโจมตีของมันทะลวงผ่านด่านป้องกันวิชาดาบคู่ได้ง่ายดาย
ขายาวแหลมเสียบเข้าที่เอวเมอร์เซเดสจนเกิดแผลลึก
เป็นเพราะกริดหวังสร้างชุดเกราะให้เธอใหม่
เกราะหนังเก่าโทรมตัวเก่าจึงยังไม่ถูกซ่อมแซมหลังจากเสร็จการล่าหมีหมาป่า
เมื่อไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ตั้งแต่ต้น
ตอนนี้จึงมีสภาพคล้ายผ้าขี้ริ้วเข้าไปทุกขณะ
เมอร์เซเดสฝืนตั้งรับแข้งขาสั่นเมื่อถูกกระหน่ำโจมตีจากขาจิ้งหรีดทั้งหกข้าง
ปีกสีเงินที่ห่อหุ้มร่างกายประหนึ่งป้อมปราการเริ่มเกิดรอยแตกร้าว
ขาที่เหยียดยาวและแหลมคมเริ่มฉีกทำลายผิวปีกเงินทีละนิด
ถึงจะกัดฟันอดทนไว้ แต่ภายในใจเธอกลับครุ่นคิดถึงแต่ความต่ำต้อยของตัวเอง
‘เราเป็นได้เพียงมดปลวกเองหรือ?’
เธอศรัทธาในวีรบุรุษอย่างแรงกล้า จึงฝึกฝนตัวเองอย่างหนักตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา
จนกระทั่งถูกยกย่องให้เป็นอัศวินอันดับหนึ่งของทวีป
และกลายเป็นอัศวินในตำนานสำเร็จ
ทว่า ทุกสิ่งกลับไร้ค่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ดึกดำบรรพ์
ตำนานของเผ่าพันธุ์มนุษย์กลายเป็นเพียงตัวตนแสนบอบบางในสายตาสิ่งมีชีวิตที่ปกครองโลกนานหลายหมื่นปี
ความยากลำบากตลอดเวลาที่ผ่านมา
ความแน่วแน่ของจิตใจที่ไม่เคยสั่นคลอน
ความหวังที่จะมีชีวิตอันรุ่งโรจน์กับราชาคนใหม่
ทั้งหมดกลายเป็นเพียงมโนภาพเพ้อฝัน
‘ฝ่าบาท…ฉันขอโทษ’
ปีกสีเงินเริ่มแตกละเอียดและร่วงกราวเป็นเศษแก้ว
ท่ามกลางบาดแผลและสภาพอันยับเยินของร่างกาย เมอร์เซเดสยังคงกำดาบเสือขาวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
หน้าที่สุดท้ายของเธอคือการปกป้องอาวุธแสนสำคัญของผู้เป็นนาย
ขณะที่ลมหายใจเริ่มขาดห้วง เมอร์เซเดสตัดสินใจปล่อยจิตให้โล่ง
เธอสงบสติลงเพื่อต่อสู้อย่างเยือกเย็นโดยหมายจะยื้อเวลาให้นานที่สุด
เส้นผมของหญิงงามแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวบริสุทธิ์สองสว่าง
ดาบพญาเสือขาวสยบโลกาพลันอัดแน่นด้วยปราณสีเงินเฮือกสุดท้ายที่เป็นราวกับแสงอายุขัย
ศีรษะของเธอส่องแสงสีขาวนวลราวกับคืนจันทร์เต็มดวง
แม้ลมหายใจใกล้ดับมอด เธอยังคงองอาจและงดงามสมฐานะอัศวินในตำนาน
ขณะเดียวกัน
จิ้งหรีดถ้ำได้เหยียดขาที่ยาวและแหลมเล็งทะลวงใส่ใบหน้าอันเรียวเล็กของเมอร์เซเดส
“ไอ้มอนสเตอร์หัวค…”
คำสบถหยาบคาบที่เธอคุ้นเคยพลันดังกระทบแก้วหู
“ทำไมไอ้แมลงน่าขยะแขยงนี่ถึงแข็งแกร่งระดับจอมอสูรได้?”
กริด
เบื้องหน้าเมอร์เซเดสคือแผ่นหลังของกริด
ผ้าคลุมลันเทียร์สะบัดพริ้วในยามที่เธอตัดสินใจละทิ้งชีวิตของตัวเองโดยสมบูรณ์
วังวนห้วงมิติหมุนวนเบื้องหน้ากริดเพื่อสะท้อนการโจมตีของสัตว์ดึกดำบรรพ์กลับไป
จากนั้น ชายหนุ่มหันหลังพลางยื่นชุดเกราะตัวหนึ่งให้
“สวมมันซะ แล้วแสดงฝีมือที่แท้จริงของเธอให้ฉันเห็น”
รอยยิ้มของกริดอบอุ่นเหนือสิ่งอื่นใดในโลก
แต่สาเหตุของรอยยิ้มคือ—ชื่อเหนือศีรษะจิ้งหรีดถ้ำที่ถูกสลักด้วยสีทองอร่าม
สิ่งนี้ย่อมหมายความว่า มันคือมอนสเตอร์พิเศษที่จะดรอปไอเท็มล้ำค่าเมื่อตายลง
“โนเอะ! แรนดี้! ท…ท่านจะเป็นราชาแห่งความตายได้หรือไม่!”
“เมี๊ยว!”
เกี๊ยก เกี๊ยก!
ปาร์ตี้ของกริดกำลังต่อสู้อย่างเต็มสูบด้วยพลังทั้งหมดที่มี บนเวทีที่ปิอาโร่เตรียมการไว้ล่วงหน้า
***
ขณะเดียวกัน
ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุ๊ป
“หรือพวกเขาจะล่ามันสำเร็จ?”
“…บ้าบิ่นมาก บ้าบอสิ้นดี!”
ยุนนาฮีและทีมปฏิบัติการที่กำลังเฝ้าหน้าจอหลายสิบตัว พวกเขาโพล่งถ้อยคำข้างต้นขึ้นพร้อมกัน
จิ้งหรีดถ้ำคือมอนสเตอร์ระดับภัยพิบัติที่มีไว้ควบคุมจำนวนประชากรเอลฟ์
แถมยังเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับเนื่อเรื่องบทใหม่ บทที่จะเป็นจุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ในอนาคต
ทว่า เหตุการณ์กลับพลิกผันไปจากความตั้งใจเดิมของผู้พัฒนา
สืบเนื่องมาจากการกระทำของ ‘เคียร์’ ราชาพ่อค้าและ ‘กริด’ ราชาโอเวอร์เกียร์
เหตุการณ์ลงเอยด้วย จิ้งหรีดถ้ำกลายเป็นเหยื่อที่ถูกผู้เล่นเพียงคนเดียวล่า
ตัวตนของอัศวินในตำนานเมอร์เซเดสยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ทุกคนคาดเดา
ถึงจะเป็นตำนาน แต่การรับมือจิ้งหรีดถ้ำได้ตามลำพังมันออกจะ…
‘แล้วถ้ากริดได้พบเคียร์หลังจากนี้…’
จากนิสัยของกริด
มีโอกาสเกือบร้อยเปอร์เซนต์ที่เขาจะช่วยเหลือและดำรงเผ่าพันธุ์เอลฟ์ไว้
และหากเป็นเช่นนั้น
เนื่อเรื่องในบท ‘ดาร์คเอลฟ์’ ก็จะสูญหายไปจากโลกซาทิสฟายโดยสมบูรณ์
‘แทนที่สิบสองผู้พิทักษ์แห่งเอลฟ์จะทำสัญญากับวิหารยาธานเพื่อต้องการพลังที่มากขึ้น…’
เหตุการณ์ในโลกซาทิสฟายได้ดำเนินผิดจากครรลองเดิมกี่ครั้งแล้วนะ?
ไม่มีใครใน SA กรุ๊ปที่ตอบได้ว่าเนื้อเรื่องซาทิสฟายถูกเปลี่ยนแปลงด้วยฝีมือผู้เล่นไปแล้วกี่หน
“ปล่อยไว้แบบนี้ดีแล้วหรือ?”
เมื่อเห็นทีมปฏิบัติการตั้งคำถามด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ
ยุนนาฮีอมยิ้มพลางตอบกลับ
“ลืมเจตจำนงของท่านประธานแล้วรึไง? ซาทิสฟายคือโลกที่ผู้เล่นเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นด้วยตัวเอง พวกเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย”
เจ้าหน้าที่ทุกคนทำได้เพียงเฝ้ามองอย่างเงียบงัน
ใครจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายและได้ครอบครองทุกสิ่งในโลกเสมือน…
ไม่มีผู้ตอบคำถามนี้ได้
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,245
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สุดยอดดด
ReplyDeleteขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง🙏
ว้าว...มันมาก ขอบคุณครับชอบเรื่องนี้มาก
ReplyDeleteขอบคุณครับ ผมอ่านมาทุกวันนี่ก็จะ3ปีแล้วตั้งแต่ปี2017 สนุกจริฃๆ
ReplyDeleteใช่ เราก็ติดตามมาตั้งแต่เรื่องเก่าถึงแม้เรื่องเก่าจะยังอัพไม่จบ เพราะต้องตีพิมพ์และจดลิขสิทธิ์ จนไม่สามารถอัพได้ แต่ยังจำชื่อพระเอกได้ ชื่อหยุนเซ่อ ถ้าจำไม่ผิด ติดตามมานานมาก จนเริ่มมาอ่านเรื่องนี้ต่อ ตอนแรกอ่านไปยังไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง แต่พออ่านไปเรื่องๆ ก็เริ่มสนุกและติดงอมแงมมาก จนหยุดอ่านไม่ได้ วันไหนไม่ได้อ่านเหมือนขาดอะไรไปในชีวิตประจำวัน 😂🙏
Delete👍
Delete