จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 817
สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์แสนน่าเบื่อที่พบได้ในการเล่นเกมออนไลน์ :
- เสริมแกร่งล้มเหลว
- สะสมค่าประสบการณ์อย่างยากลำบากหลายวัน…แต่พลาดตายจนสูญเสียไปทั้งหมด
- ล่าบอสล้มเหลว หรือล่าสำเร็จ แต่ไอเท็มไม่ดรอปตามที่หวัง
- ฝ่าฟันภารกิจอย่างยากลำบาก สูญเสียหลายไปสิ่ง แต่กลับได้รับไอเท็มตอบแทนสุดห่วย
- มารู้ตัวทีหลังว่าคลาสที่เล่นไม่เก่ง
- ขายไอเท็มไปในราคาถูก แล้วรู้ตัวทีหลังว่ามีมูลค่าสูง
- ได้เห็นผู้เล่นคนอื่นถูกหวยกับตา
และอีกมากมาย
นี่เป็นเพียงส่วนน้อยของความหงุดหงิดใจที่เกิดขึ้นภายในซาทิสฟาย
จริงอยู่ที่เกมมีจุดประสงค์เพื่อมอบความบันเทิงให้ผู้เล่น แต่ขณะเดี่ยวกันก็มอบความระทมให้ไม่น้อย
“อา…”
กริดเองก็มีชะตาไม่ต่างกัน แม้จะยืนบนจุดสูงสูงของผู้เล่นสองพันล้านก็ตาม
เขาครอบครองทั้งความมั่งคั่งและชื่อเสียงมากมาย
แต่ระหว่างทางก็มีความรู้สึกด้านลบเกิดขึ้นบ่อยครั้งครั้ง
ปัจจุบันก็เช่นกัน
เผ่าพันธุ์เอลฟ์คือสิ่งมีชีวิตแสนหายากที่ปิดกั้นตัวเองจากมนุษย์นานหลายร้อยปี
ถึงกริดต้องการพบตัวมากเพียงใด แต่ความปรารถนานั้นก็ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
ทว่า เหตุใดเอลฟ์ถึงได้ปรากฏตัวในสถานการณ์แสนสำคัญเช่นนี้?
“…ทำไมต้องมีเรื่องเกิดขึ้นทุกครั้งที่ฉันใช้ไม้ฟอสฟอรัสขาว!!”
ชายหนุ่มสถบอย่างหัวเสีย
ลูกศรดอกหนึ่งพุ่งผ่านกริดไปกระแทกใส่เตาหลอมขนาดพกพา
ฉึก!
[ เตาหลอมขนาดพกพาได้รับความเสียหาย! ]
[ เตาหลอมขนาดพกพาทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ]
[ ท่านควรใช้อย่างระมัดระวัง ]
“เชี่ย!”
ฟืนไม้ฟอสฟอรัสขาวกำลังลุกโชนภายในเตาหลอมที่เกิดรูโหว่
สิ่งนี้หมายความว่า ฟืนแสนหายากจากทวีปตะวันตกได้ถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า
'เหลืออีกแค่ 80 ชิ้นเท่านั้น…'
ในการตีเหล็กแต่ละครั้ง กริดต้องใช้ฟืนไม้ฟอสฟอรัสขาวมากถึงสี่ชิ้นเพื่อให้ได้อุณหภูมิที่ต้องการ
ยิ่งจำนวนฟืนล้ำค่าลดลง ชายหนุ่มก็ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้น
แต่กลับมีเอลฟ์บัดซบปรากฏตัวขึ้นและทำให้ฟืนฟอสรอรัสขาวสี่ชิ้นกลายเป็นหมัน
กริดรู้สึกอย่างอื่นไม่ได้นอกจากความเดือดดาล
“พวกแกก็แค่น่ารักเท่านั้น!”
ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นความจริง
ข่าวลือที่ว่า คิมแทฮีและคิมอีซุนจะกลายเป็นปลาหมึกทันทีเมื่อยืนเทียบเคียงกับ NPC เผ่าพันธุ์เอลฟ์ในซาทิสฟาย
จากบรรดาเอลฟ์กลุ่มใหญ่ที่ปรากฏตัวต่อหน้ากริด ไม่มีตนใดเลยที่ไม่น่ารัก
ความงามของเอลฟ์ทุกคนก้าวข้ามมนุษย์ไปไกลมาก
สวยกว่าหญิงเลอโฉมทุกคนที่กริดเคยรู้จักมาทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นยูร่า จิสึกะ ไอรีน ซูเอ เมอร์เซเดส และอีกหลายคน
ยิ่งมีเมอร์เซเดสยืนเทียบเช่นนี้ กริดก็ยิ่งเห็นภาพชัดเจน
แต่น่ารักแล้วอย่างไร? ในเมื่อพวกหล่อนไม่มีวันเป็นของกริด!
“แถมหน้าอกเล็กชะมัด…อั่ก!”
ฉึก!
[ ท่านได้รับความเสียหาย 8,980 หน่วย ]
“ฝ่าบาท!”
“หัถต์เทวะ!”
ลูกศรถูกยิงซ้ำโดยโดยไร้สุ้มเสียง
กริดสามารถหลบศรดอกแรกพ้นเพราะค่าความว่องไวและวิสัยทัศน์ แต่การหลบศรที่เล็งยิงซ้ำเพื่อดักทางนั้นยากกว่ามาก
‘เหมือนกับที่เคยเห็นในหนัง’
การยิงธนูซ้อนสองดอกไล่เลี่ยกัน ดอกที่สองจะถูกเล็งดักในจุดที่อีกฝ่ายเคลื่อนที่หลบจากดอกแรก
นี่คือเทคนิคสำคัญของพลธนูเกาหลีใต้ในอดีต เป็นรากฐานกองทัพราชวงศ์โชซอนที่ยิ่งใหญ่มานานหลายปี
ผู้เล่นคลาสนักธนูชาวเกาหลีทุกคนต่างใช้เทคนิคนี้อย่าภาคภูมิใจ
‘ช่างแม่ง!’
กริดไม่สนใจความสุดยอดของทักษะธนู
“วิชาดาบแพ็กม่า!”
เคร้ง! เคร้ง!
กริดเริ่มรำดาบโดยมีหัตถ์เทวะและเมอร์เซเดสคอยปกป้อง
ฉึก!
ศรปริศนาพุ่งลอดผ่านช่องว่างหัตถ์เทวะ ปักเข้าที่ต้นขากริด และยกเลิกผลของการการรำดาบทั้งหมด
นี่คือวินาทีที่จุดอ่อนของวิชาดาบแพ็กม่าถูกเล่นงานอย่างเฉียบคม
‘ชิ! ศรพวกนี้พุ่งเร็วฉิบ’
ทั้งความรุนแรง ความเร็ว และทิศทาง
ทุกสิ่งล้วนเป็นระดับปรมาจารย์ด้านธนู
ฝีมือธนูของเผ่าเอลฟ์ทำให้กริดหวนนึกถึงอัศวินความตายของ ‘โพเวีย’ นักธนูในตำนาน
นี่คือขีดจำกัดที่แรงเกอร์คลาสนักธนูไม่มีวันเอื้อมถึง
ฝนธนูถูกสาดโปรยจากฟากฟ้า
หัตถ์เทวะที่ได้รับความเสียหายสะสมมากเข้า พวกมันเกิดอาการชะงักไปชั่วครู่
กริดกำลังตกอยู่ในอันตราย
“วิชาดาบเวนซ์รูปแบบที่สาม”
ปัจจุบัน กริดมียอดอัศวินประจำตัวคอยทำหน้าที่ขับรถบัส
ไม่สิ…ไม่ใช่อัศวิน หากแต่เป็นอัศวินในตำนาน
เมอร์เซเดสคอยปกป้องกริดจากภัยอันตรายทั้งปวง
“ปราณดาบโบยบิน”
ปราณดาบสีเงินปริมาณมหาศาลพวยพุ่งไปยังทิศทางที่เมอร์เซเดสเล็งไว้
พายุสีเงินฉีกทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
ไม่ว่าจะเป็นพุ่มไม้ ต้นไม้ หรือหินใหญ่
“กรี๊ดดดดด!”
ฟ้าวววว!
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
กลุ่มเอลฟ์ถูกพายุสีเงินเฉือนร่างจนกระเด็นไปคนละทิศทาง เสียงกรีดร้องแหลมลึกดังสะท้อนไปทั่วป่า
แต่ฝ่ายที่ตกใจกลับเป็นกริดและเมอร์เซเดส
‘พลังชีวิตลดไปครึ่งเดียวเองหรือ’
เอลฟ์ทุกตนยังคงรอดชีวิต แถมยังเหลือหลอดพลังชีวิตมากถึง 50%
พลังป้องกันอยู่ในระดับน่าทึ่งแม้ร่างกายจะสวมเพียงเศษใบไม้ปกปิด
เป็นค่าความถึกทนที่ไม่เข้ากับรูปร่างแสนบอบบางเลยสักนิด
'ขนาดเอลฟ์ทั่วไปยังขนาดนี้…! แล้วเอลฟ์ตนนั้นจะขนาดไหนกัน?'
สายตาของกริดชำเลืองมองเอลฟ์หญิงผมขาว
เอลฟ์นามว่า 'เบเนียลู' คือ NPC พิเศษอย่างไม่ต้องสงสัย ชื่อของเธอถูกสลักด้วยอักษรสีทองชัดเจน
“ฝ่าบาทควรเลี่ยงการปะทะซึ่งหน้ากับพวกเธอ”
เมอร์เซเดสเองก็ตระหนักได้ถึงความเลวร้ายของสถานการณ์
ดูเหมือนเผ่าเอลฟ์จะแข็งแกร่งกว่าในข่าวลือมาก
เมอร์เซเดสมีแผนจะปกป้องกริดเท่าที่เธอสามารถรับมือไหว
แต่ว่า…
“หลีกเลี่ยงการปะทะ?”
ความเห็นของเมอร์เซเดสได้ระคายเคืองศักดิ์ศรีกริด
ขายหนุ่มชำเลืองมองเข้าไปในดวงตาของเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
กริดตัดสินใจใช้ 'พลิ้วไหว' เพื่อโยกตัวหลบธนูสองดอกที่ถูกยิงใส่ในเวลาแทบจะพร้อมกัน
“เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันมิได้อ่อนแอถึงขนาดให้ใครต้องคอยปกป้อง”
ฝีเท้าของกริดเร็วขึ้นกว่ายามปรกติหลายเท่า
สิ่งนี้เป็นผลพวงมาจากพลิ้วไหว
ชายหนุ่มหลบฝนธนูที่พุ่งเข้าหาพลางรำดาบด้วยความเร็วที่สูงขึ้น
จากนั้นก็ปลดปล่อยวิชาดาบแพ็กม่าออกมาหนึ่งชนิด
“ชิ!”
“นั่นอะไร?”
กลุ่มเอลฟ์ที่หลบหลังจุดซุ่มยิงเริ่มแสดงสีหน้าหวาดผวา
พวกเธอถูกแรงคุกคามปริศนาสะกดให้ร่างกายนิ่งชะงัก มิอาจขยับได้แม่แต่ปลายนิ้ว
นี่คือทักษะสำหรับข่มศัตรูที่ไม่สามารถป้องกันด้วยค่าต้านทาน
คันศรและลูกธนูในมือเหล่าเอลฟ์เริ่มร่วงหล่นลงสู่พื้นหญ้า
“วิชาดาบแพ็กม่า!”
ในตอนแรก กริดสวมใส่ชุดที่เบาสบายสำหรับสร้างไอเท็ม
แต่ปัจจุบัน เขากลับมาสวมชุดเกราะวัลฮัลล่าอีกครั้ง ไอเท็มดูต่างหน้าของข่าน สหายที่กริดรักมากที่สุด
กริดรีบฉวยโอกาสทองขณะกลุ่มเอลฟ์กำลังเสียหลัก
“คลื่น!”
“…!”
ทั้งเอลฟ์และเมอร์เซเดสต่างพากันทึ่งในสิ่งที่เห็น
ตัวตนของกริดเปรียบดั่งภูเขาไฟที่ระเบิดปะทุพลังทำลายออกมารอบตัว ทุกสรรพสิ่งในบริเวณจะถูกทำลายจนพินาศ
แข็งแกร่ง ทรงพลัง และรัศมีกว้าง
ฝูงเอลฟ์ต่างถูกโจมตีอย่างถ้วนหน้าพร้อมกับลดความเร็วลงหลายระดับ
“ตอนนี้แหละ!”
กริดส่งสัญญาบอกใคร?
แน่นอนอยู่แล้ว
“อื้อ!”
เป็นเมอร์เซเดส
เธอกำลังทึ่งกับความยอดเยี่ยมของราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ตนรับใช้
“วิชาดาบเวนซ์รูปแบบที่สี่·ปราณดาบคลุ้มคลั่ง”
พายุปราณดาบสีเงินเริ่มก่อตัวอีกครั้งใต้ฝ่าเท้าของกลุ่มเอลฟ์ที่ถูกลดความเร็ว
เมื่อทั้งสองผสานคอมโบโจมตี เอลฟ์หลายตนถูกจึงส่งให้ปลิวลอยขึ้นฟ้าอย่างพร้อมเพรียง
“วิชาดาบแพ็กม่า·มายาร่ายรำ”
“วิชาดาบเวนซ์รูปแบบที่ห้า·ปราณดาบโปรยปราย”
กริดและเมอร์เซเดสเล็งใช้ทักษะโจมตีระยะไกลเพื่อปิดฉากเอลฟ์ที่ถูกส่งให้ลอยกลางอากาศ
แต่พวกเขาทำได้เพียงคิด
“อั่ก…!”
“อึก!”
กริดและเมอร์เซเดสส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดออกมาพร้อมกัน
เป็นฝีมือของเบเนียลู
เธอฟาดคันศรใส่ลำคอกริด ขณะเดียวกันก็ใช้กำปั้นที่อัดแน่นด้วยพลังภูติไฟชกใส่ท้องเมอร์เซเดส
ร่างกริดกระแทกใส่หินใหญ่จนแตกละเอียด
ส่วนร่างเมอร์เซเดสกำลังพุ่งเข้าหาต้นไม้ใหญ่ที่ห่างออกไป
แต่เธอกางปีกสีเงินเพื่อหยุดไว้ได้ทัน
เบเนียลูฉวยโอกาสนี้ใช้ภูมิลมช่วยเหลือเหล่าเอลฟ์ที่กำลังลอยกลางอากาศ
ทุกคนร่อนลงพื้นอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน
กริดเริ่มฉีกยิ้มกว้าง
‘เป็นสัญญาณบอกใบ้สินะ’
การที่สวรรค์มอบอัศวินในตำนานให้ตน หมายความว่าเขาจะได้เผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นในอนาคต
ตัวตนระดับปีศาจที่หลบซ่อนอยู่ทั่วทุกมุมโลกซาทิสฟาย
ใช่แล้ว กริดประเมินว่าเบเลียลูมีระดับไม่ด้อยไปกว่าเมอร์เซเดส
‘แต่เมอร์เซเดสกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ’
ผืนป่าแห่งนี้มีต้นไม้โลกที่คอยมอบพลังแก่เผ่าพันธุ์เอลฟ์
ยิ่งไปกว่านั้น…
‘เราและเมอร์เซเดสไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับภูติธาตุเลยสักนิด’
พลังของภูติธาตุยังเป็นปริศนา
กริดเฝ้ามองเบเนียลูคอยสลับใช้พลังไปมาระหว่างภูติไฟและภูติลม
ชื่อของพวกมันคือ ‘ยูทัน’ และ ‘ซุลล์’
ปัจจุบัน อาการนึกเสียดายไม้ฟอสฟอรัสขาวไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว
ขณะกริดกำลังเพ่งพิจารณาศัตรูอย่างละเอียดถี่ถ้วน น้ำเสียงเหยียดหยันของเบเนียลูได้ดังเข้ามาในโสตประสาท
“หล่อนเป็นมนุษย์ที่พอใช้ได้ แต่กับแกแล้วไม่ใช่”
เผ่าพันธุ์เอลฟ์ถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ระดับสูง เฉกเช่นเผ่าวารี แวมไพร์ และเนตรมาร
เบเนียลูมีความทระนงตนด้วยเกียรติของหนึ่งในสิบสอง ‘ผู้พิทักษ์’ อย่างมาก
ในสายตาเธอ มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตแสนโสมมและอ่อนแอ
เธอจึงไม่ชอบหน้ามนุษย์เพศชายที่กำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาท้าทาย
“ยูทัน·ซุลล์”
ภูติธาตุถือเป็นสัญลักษณ์แสดงพลังอำนาจของเผ่าเอลฟ์
ในบรรดาเอลฟ์ทั้งหมด มีเพียงสิบห้าตนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ครอบครองภูติตั้งแต่สองธาตุขึ้นไป
ประกอบด้วยผู้พิทักษ์ทั้งสิงสองตนและสามราชา
“ช่วยเป็นพลังให้ฉัน”
คันศรที่เบเนียลูง้างไปด้านหลังเริ่มุลกโชนด้วยเปลวเพลิงร้อนแรง
ทันใดนั้น สายลมพลันพัดผ่านจากด้านเบเนียลู พุ่งปะทะใบหน้ากริด
เส้นผมชายหนุ่มเริ่มปลิวไสว
เบเนีลลูปลดปล่อยสายรั้ง
ธนูเพลิงจากเผ่าเอลฟ์ที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วถูกส่งเสริมด้วยสายลมอันเกรี้ยวกราด
เป้าหมายการยิงคือกริด
“กล้าดียังไง!!”
เมอร์เซเดสออกตัวตั้งแต่ก่อนที่เบเนียลูจะเริ่มโจมตี
ดาบในมือเธอสะบั้นใส่ศรเพลิงจนขาดเป็นสองท่อน แต่กลับเกิดระเบิดทรงอานุภาพลุกท่วมร่างเมอร์เซเดส
เกราะหนังเก่าโทรมที่เธอสวมกลายเป็นเศษซากผ้าขี้ริ้วในพริบตา
“แกนะแก!”
เมอร์เซเดสเดือดดาลเมื่อหัวไหล่ขาวนวลของเธอถูกเผย
หากมีเอลฟ์ถูกฆ่าที่นี่ เกรงว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรโอเวอร์และเผ่าเอลฟ์จะถูกตัดขาดตลอดกาล
แต่เมอร์เซเดสมิได้แยแสอีกต่อไป เธอตัดสินใจปลดปล่อยสุดยอดพลังของอัศวินในตำนาน
จะไม่ผู้ใดใครรอดชีวิตกลับไปหลังจากหันคมดาบใส่ราชาของตน
ทว่า…
กริดชิงลงเมือได้เร็วกว่าเมอร์เซเดส
เมื่อเข้าสู่โหมดร่างมืด ชายหนุ่มพุ่งแหวกอากาศเข้าหาเบเนียลูได้เร็วกว่าเมอร์เซเดสที่ชะงักไปเพราะแรงระเบิด
“สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ!”
เบเนียลูรังเกียจเผ่าอสูรและมนุษย์
กริดมีทั้งสอง
ในสายตาเธอ กริดในร่างมืดคือตัวตนที่ต้องถูกลบออกจากโลกโดยเร็ว
ภูติธาตุทั้งสองตนตอบสนองโทสะของเบเนีลลู
รอบกายเธอกำลังรายล้อมด้วยพายุอัคคีหมุนวน
สิ่งนี้คือม่านบาเรียที่มิยอมให้การโจมตีทางกายภาพแทรกผ่านเข้าโดยง่าย
แถมยังมีอำนาจฉีกกระชากทุกสรรพสิ่งที่รุกล้ำเข้าไปด้านใน
“ฝ่าบาท!”
เมอร์เซเดสรีบพุ่งกอดกริดพร้อมกับสยายปีกเงินเพื่อป้องกันภัยอันตราย
ทว่า สายฟ้าสีดำกลับฟาดผ่าลงมาจากด้านบน กระทบร่างเธออย่างจัง
‘อะไรกัน?’
เมื่อครู่ยังฟ้าสว่างอยู่เลยมิใช่หรือ?
เหล่าเอลฟ์รีบแหงนหน้าขึ้นมองด้านบน ทุกคนกำลังเห็นท้องฟ้าสีเทาหม่นปกคลุมผืนป่ารัศมีกว่าสองร้อยเมตร
กริดหันไปกระซิบข้างหูเมอร์เซเดสที่กำลังโอบกอดตน
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัว…เธอควรอยู่ห่างจากฉันให้มากที่สุด”
“…!”
อัศวินผู้มีหน้าที่ปกป้องเจ้านายกลับถูกสั่งให้ออกห่าง?
ขณะคิดปฏิเสธเสียงแข็ง นัยน์ตาดำของเมอร์เซเดสพลันสั่นระริก เธอรีบถอยจากกริดด้วยความเร็วสูงสุดโดยไม่รีรอ
พลังเวทมนตร์ประหลาดที่กำลังปกคลุมฟ้องฟ้าในขณะนี้ เมอร์เซเดสกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
เหมือนกับ…
‘อัสทารอธ?’
สายฟ้าอสูรเริ่มผ่าใส่กลุ่มเอลฟ์ด้านล่างอย่างต่อเนื่อง
“อะไรกัน…?!!”
เสาเวทมนตร์ลวงตาของเบเนียลูถูกทำลายโดยการฟาดผ่าจากสายฟ้าเพียงหนึ่งเส้น
เธอกำลังสับสนปนทึ่งกับพลังแปลกประหลาดที่กริดใช้
เบเนียลูพยายามถอยห่างจากพายุด้วยความช่วยเหลือจากภูติลม แต่สายลมอสูรที่ปกคลุมทั่วบริเวณได้ลดความเร็วของเธอลงหลายส่วน
ขณะเดียวกัน
ร่างกายกริดกำลังเบาหวิว
“หวังว่าเธอจะยังไม่ตายหลังจากโดนไอ้นี่เข้าไป…พวกเรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก”
ชายหนุ่มแสยะยิ้ม
“คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร”
หมอนี่ต้องการคุยเรื่องอะไร…?
การโจมตีสุดทรงพลังกระแทกใส่ร่างเบเนียลูอย่างจัง
สายฟ้าอสูรโดยรอบบริเวณได้กระหน่ำผ่าจนกลุ่มเอลฟ์สาวต่างมีสภาพยับเยินประหนึ่งกับผ้าขี้ริ้ว
ฝนอสูร พายุอสูร และสายฟ้าอสูรกำลังปกคลุมผืนป่าต้นไม้โลกรอบตัวกริด
[ ท่านได้รับสมญานาม ‘ผู้ทำให้เอลฟ์ประหลาดใจ’! ]
[ เผ่าเอลฟ์ทึ่งในตัวท่าน ]
[ เผ่าเอลฟ์เลิกเป็นศัตรูกับท่าน ]
เป็นอีกครั้งที่กริดสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้สิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์
ขณะเดียวกัน…
“แข็งแกร่ง…!”
เมอร์เซเดสที่เฝ้ามองด้านนอกพายุทำได้เพียงอ้าปากค้าง
ในที่สุดเธอก็จำได้…
เจ้านายของตนคือราชาวีรบุรุษคนแรกในรอบหลายร้อยปี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,239
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
แข็งแกร่งป่ะล่ะ😁
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ🙏
อึ้งไปเลยละซิ เมอร์เซเดส มีเจ้านายเก่งก็แบบนี้แหล่ะ เพราะราชาของคุณคือ ราชาโอเวอร์เกีย 555
ReplyDeleteเอล์ฟ สวะ
ReplyDelete