จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 808
ชื่อ : คาซัค
อายุ : 6 ปี
เพศ : ชาย
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
เลเวล : 1
พละกำลัง : 1/40
ความอดทน : 2/50
ความว่องไว : 1/30
สติปัญญา : 1/???
เด็กที่มีพรสวรรค์ด้านพลังเวทมนตร์สูง
เขาถูกลักพาตัวมายังหอแห่งนิรันดร์เมื่อสี่ปีก่อน จากนั้นก็อยู่ในการดูแลของจอมเวทมาโดยตลอด
เด็กคนนี้มิอาจพูดภาษามนุษย์ได้ ไม่มีความรู้ด้านวิชาการแม้แต่น้อย เพราะไม่เคยมีใครสอนสิ่งเหล่านี้
ชื่อ : ชาช่า
อายุ : 5 ปี
เพศ : หญิง
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
เลเวล : 1
พละกำลัง : 1/20
ความอดทน : 2/40
ความว่องไว : 1/40
สติปัญญา : 1/???
เด็กที่มีพรสวรรค์ด้านพลังเวทมนตร์สูง
เธอถูกลักพาตัวมายังหอแห่งนิรันดร์เมื่อสี่ปีก่อน จากนั้นก็อยู่ในการดูแลของจอมเวทมาโดยตลอด
เด็กคนนี้มิอาจพูดภาษามนุษย์ได้ ไม่มีความรู้ด้านวิชาการแม้แต่น้อย เพราะไม่เคยมีใครสอนสิ่งเหล่านี้
หลังจากทำลายศิลาอัสนี กริดรีบลงมายังหอคอยชั้น 79 เพื่อรีบหนี
ใจจริงเขาต้องการตรงไปยังวังหลวงทันทีเพื่อช่วยเมอร์เซเดส
ทว่า กริดกลับมิอาจเดินผ่านกลุ่มเด็กเล็กที่ถูกขังอยู่ในกรง
“อาบู? อ๊า!”
เด็กชายหญิงหลายสิบคนเริ่มยื่นมือออกจากกรงเมื่อเห็นกริด เสียงโครกครากจากท้องบ่งบอกถึงความหิวโหยได้ดี
‘บ้าจริง’
กริดไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก
หากโกลด์ฮิตใช้เด็กเหล่านี้เป็นภาชนะบรรจุดวงจิตจริง ก็ควรดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดีมิใช่หรือ
เหตุใดถึงปล่อยปละราวกับฟาร์มปศุสัตว์เช่นนี้
‘พวกมันทำกับเด็กได้ลงคอ…’
เพียงจินตนาการก็มากพอจะทำให้กริดเกิดความโกรธจัด ไอ้พวกสวะที่น่ารังเกียจ
ชิ…
กริดหรี่ตาลงเล็กน้อยพลางระงับความรู้สึกไว้ กลุ่มเด็กเล็กในกรงเริ่มแสดงสีหน้าหวาดผวาเมื่อเห็นเขาทำหน้าตาน่ากลัว
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ใช่คนเลว”
กริดจิตใจอ่อนโยนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร
เขาไม่เคยช่วยเหลือและทำดีกับคนแปลกหน้ามาก่อนสักครั้ง ชายหนุ่มยิ้มจืดชีดพลางออกแรงทำลายกลอนกรงสุนัข
ด้วยค่าพละกำลังกว่าสามพันแต้ม โลหะบางเฉียบเหล่านี้มิใช่สิ่งที่เกินความสามารถ
“ออกมาได้แล้ว”
กริดเปิดประตูอย่างเบามือ แต่กลับไม่มีเด็กคนใดกล้าขยับตัว
สำหรับเด็กเหล่านี้ กรงสุนัขคับแคบเป็นเพียงโลกใบเดียวที่พวกเขารู้จัก
‘…ให้ตายสิ’
ชายหนุ่มพลันเดือดดาลยิ่งขึ้นเมื่อจินตนาการถึงใบหน้าของโกลด์ฮิต
ไม่สิ บางทีนั่นอาจเป็นใบหน้าและร่างของเด็กที่ช่วงชิงมาอีกที
“เฮ่อ…”
กริดถอยหายใจยาวพลางเดินเข้าไปในกรงสุนัข เขาคุกเข่าลงโดยไม่สนว่าพื้นกรงจะเปรอะเปื้อนหรือไม่
“ออกมากับฉันเถอะ ข้างนอกมีของอร่อยและสิ่งสวยงามเต็มไปหมด การหายใจในแต่ละครั้งจะได้รับอากาศแสนสดชื่น”
“…”
แม้จะไม่รู้ภาษ แต่ความจริงใจของกริดได้สื่อถึงพวกเขา
รอยยิ้มแสนอบอุ่นผสานกับค่าสถานะความน่าหลงไหล ส่งผลให้ท่าทีของกลุ่มเด็กเล็กเริ่มเปลี่ยนไป
“อาบู…”
คนแรกที่กล้าขยับเข้าหากริดเป็นเด็กผู้ชายใบหน้าหล่อเหลา เขารวมรวบความกล้าหาญทั้งหมดที่มีเพื่อฝ่าฝืนขีดจำกัดตัวเอง
และนี่คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
“อ๊า! อ๊า!”
เด็กชายเด็กสาวที่เหลือต่างพากันวิ่งกรูตามออกมา
“ช่วยเงียบหน่อยนะ”
กริดยื่นกางเกงในที่เขาผลิตให้กับเด็กแต่ละคนได้เช็ดตัว
“แกคิดจะทำไอะไร?!”
กลุ่มจอมเวทจำนวนมากกำลังยืนล้อมอยู่หน้าประตูทางเข้า พวกมันรีบขึ้นมาด้านบนหลังจากได้ยินเสียงศิลาอัสนีถูกทำลาย
กลุ่มเด็กเริ่มแสดงท่าทีหวาดกลัว พวกเขารีบหลบหลังกริดพลางเกาะแข้งขาด้วยฝ่ามือที่สั่นระริก
ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม
“เด็กพวกนี้คืออะไร?”
“แกก็เคยพบโกลด์ฮิตไปแล้วนี่ แค่นี้ก็เดาไม่ออกงั้นหรือ หืม…”
“ตอบมา ทำไมแกถึงต้องทารุณพวกเขาพวกเขาให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย”
“การทิ้งขวางมิใช่การทารุณ เด็กกลุ่มนี้เคยถูกพวกเราดูแลอย่างดีมาก่อน แต่หลังจากหมดคุณสมบัติ ‘ภาชนะ’ ก็เป็นอย่างที่เห็น พวกมันกลายเป็นของมีตำหนิ”
“…ของมีตำหนิ? แล้วทำไมถึงไม่ปล่อยไป จับมาขับไว้ทำไมอีก?”
กริดผ่านร้อนผ่านหนาวมากมายภายในโลกซาทิสฟาย
เขาได้เผชิญความยากลำบากนานาชนิดและขัดเกลาตัวเองให้ควบคุมความโกรธอยู่เสมอ
แต่ครั้งนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ
เหยื่อผู้ถูกกระทำเป็นเพียงเด็กเล็กไร้เดียงสา
ถึงแม้กริดจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นระริก แต่เหล่าจอมเวทกลุ่มใหญ่ด้านนอกกลับมิได้แยแส
พวกมันกำลังโกรธแค้นกริดไม่แพ้กัน
กริดกลายเป็นศัตรูของทุกคนทันทีที่เขาทำลายศิลาอัสนี
“ปล่อยพวกมันทิ้งไปคงน่าเสียดายแย่ พวกมันยังมีประโยชน์ในฐานะหนูทดลองทางเวทมนตร์”
ถ้อยคำดังกล่าวเปี่ยมด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเจือยั่วยุ
ลงเอยด้วย
“ไอ้พวกสวะ!”
กริดมิอาจควบคุมตัวเองได้อีก
เขาพุ่งเข้าจู่โจมใส่กลุ่มจอมเวทที่เตรียมตั้งค่ายกลรับมือไว้แล้วล่วงหน้า
“คลื่นวารี!”
“สายฟ้าต่อเนื่อง!”
ราชาโอเวอร์เกียร์—ราชาวีรบุรุษคนใหม่หลังจากอริยดาบมุลเลอร์ราวหนึ่งร้อยปี
ใช่แล้ว ราวหนึ่งร้อยปี
หนึ่งร้อยปีเป็นระยะเวลาที่นานจนผู้คนหลงลืมความยอดเยี่ยมของมุลเลอร์ไปเกือบหมดสิ้น
ไม่มีใครมองราชาวีรบุรุษเป็นตันตนแสนวิเศษอีกต่อไป
พวกมันยอมรับว่ากริดแข็งแกร่ง
แต่แข็งแกร่งในระดับต้านไหวหากทุกคนร่วมมือกัน
ความมั่นใจแสนโง่เขลาในครั้งนี้ได้นำไปสู่หายนะอย่างใหญ่หลวง
“อะไรกัน...?”
พวกมันเริ่มขมวดคิ้วเมื่อกริดไร้รอยขีดข่วนแม้จะถูกเวทมนตร์ผสานเปิดฉากเล่นงาน
ชายหนุ่มมิได้แยแสกลุ่มเวทมนตร์แสนกระจอกบนพื้นแม้แต่น้อย
“ชิ! ระเบิดกัมปนาท!”
หนึ่งในกลุ่มจอมเวทเริ่มปลดปล่อยเวทมนตร์ระเบิดสุดทรงพลัง
พวกมันเพิ่งตระหนักได้ว่า หากมัวพะวงมิให้หอคอยพังทลาย ทุกคนในที่นี้คงไม่มีใครรอดจากเงื้อมมือกริดได้แน่
แต่น่าเสียดายที่สติปัญญามักมาถึงในยามที่สายเกินไป
กริดอาศัยค่าต้านทานเวทมนตร์ที่สูงส่งจากวัลฮัลล่าผสานกับแหวนโดรันเพื่อประคับกระคองระดับพลังชีวิต
จากนั้นก็เสร็จสิ้นท่วงท่ารำดาบ
“วังวน”
“…!!”
บึ้มมมมมมมม!
ระเบิดกัมปนาทที่ควรฉีกกระชากร่างกริด บัดนี้ถูกสะท้อนย้อนกลับหากลุ่มจอมเวทผู้น่าสมเพช
บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัส
บางคนถูกยกเลิกการร่ายมนตร์
กริดมั่นใจมากว่าจอมเวทเหล่านี้เชี่ยวชาญการรบแบบกลุ่ม
พวกมันย่อมมีแผนผสานเวทมนตร์แต่ละคนให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดเป็นคอมโบใหญ่
กริดที่ผ่านสมรภูมิมาแล้วมากมายย่อมตระหนักถึงความจริงข้อนี้ได้ดี
และเป็นสาเหตุที่เขาเลือกใช้ ‘วังวน’ สวนกลับตั้งแต่วินาทีที่พวกมันเปิดฉาก
หลักการรบกับจอมเวทกลุ่มใหญ่
สิ่งสำคัญคือการทำลายกระแสสงครามและความฮึกเหิมตั้งแต่ต้น
ค่ายกลเวทมนตร์ของพวกมันเริ่มเสียสมดุล แต่กริดก็มิได้ใช้ทักษะใดซ้ำเติมเข้าไป
ชายหนุ่มมั่นใจในพลังโจมตีของตัวเองและความอ่อนแอของ NPC จอมเวทที่มีเป็นทุนเดิม
พลังป้องกันและพลังชีวิตต่ำติดดิน
เพียงการโจมตีธรรมดาที่อาศัยถุงมือว่องไวอเล็กซ์ก็มากพอ
ไม่ผิดหนักหากจะกล่าวว่า สงครามได้จบลงแล้วในวินาทีนี้
และแน่นอนว่า…
“ฝนศรเวท!”
“ค้อนอัสนี!”
ย้อมต้องมีบุคคลฝีมือดีแฝงตัวภายในกลุ่มจอมเวทขนาดใหญ่
บางคนที่เป็นศิษย์ของโกลด์ฮิตโดยตรงย่อมสามารถพลิกแพลงเวทมนตร์ได้หลากหลายรูปแบบ
เช่นการเลือกใช้เวทมนตร์โจมตีระยะประชิดเป็นเต้น เวทมนตร์ชนิดนี้จะมีระยะเวลาร่ายสั้น แต่มักสร้างความเสียหายได้ไม่รุนแรงนัก
ปัญหาของพวกมันคือ
ดาบเดียวจากกริดสามารถสร้างภัยพิบัติได้รุนแรงกว่าการตอดเล็กตอดน้อยของพวกมันหลายเท่าตัว
ศึกนี้จบลงอย่างเป็นทางการแล้ว
“อั่ก…! แค่ก!”
“แกมันบ้าไปแล้ว!”
จอมเวทที่ล้มลงพยายามข่มขู่กริด
“คิดว่าจะหนีรอดจากเงื้อมมือจักรวรรดิหลังจากทำร้ายพวกเรารึไง!?”
“พวกเราเป็นคนสำคัญของจักรวรรดิ! คิดหรือว่าจักรวรรดิจะปล่อยแกไว้! ตัวแกและอาณาจักรของแกต้องถูกลบออจากประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล!!”
จอมเวทภายในหอแห่งนิรันดร์ล้วนมีเลเวลขั้นต่ำอยู่ที่ 360
แต่น่าเสียดายที่พวกมันเป็น NPC เผ่ามนุษย์ ขีดจำกัดของ NPC ประเภทนี้คือพลังชีวิตที่ต่ำมากหากเทียบกับมอนสเตอร์ทั่วไป
ถึงแม้จะแลกมาด้วยสติปัญญาที่ชาญฉลาดกว่ามากก็ตาม
เพียงระเบิดทมิฬสองถึงสามครั้งก็มากพอจะแปรเปลี่ยนให้พวกมันเป็นกลุ้มก้อนผ้าขี้ริ้วขนาดใหญ่
เพียงพริบตาเดียว พวกทำได้เพียงนอนหมอบอย่างหมดสภาพและเอาแต่พูดจาข่มขู่กริดด้วยเสียงโหวกเหวก
กริดกวาดสายตาไปรอบห้องพลางกำดาบแน่น
‘คงต้องกำจัดทิ้งให้หมดสถานเดียว’
มิใช่เพราะกริดโมโหในสิ่งที่พวกมันทำกับกลุ่มเด็กน้อย แต่สิ่งนี้เกี่ยวพันอย่างมากต่อชะตากรรมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
จักรวรรดิซาฮารันมีชะตากรรมที่ต้องเป็นศัตรูกับกริดในอนาคต การตัดกำลังด้านจอมเวทคือสิ่งที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางกองทัพลงอย่างมาก
กริดเพิ่งทำลายศิลาอัสนีเพื่อตัดลดทอนอัสทารอธให้เมอร์เซเดส
เขาหวังฉวยโอกาสแสนล้ำค่านี้กำจัดเหล่าจอมเวทของจักรวรรดิให้หมดสิ้นในคราเดียว
ใช่แล้ว กริดมิได้ตกหลุมพรางคำยั่วยุแสนตื้นเขินของพวกมันในตอนต้นอย่างที่ทุกคนเข้าใจ
ชายหนุ่มคำนวณอย่างที่ถ้วนก่อนจะตอบสนองท่าทียั่วยุอย่างใจเย็น
“นั่นคือชะตากรรมที่ฉันมิอาจหลีกเลี่ยง จักรวรรดิคืออุปสรรคใหญ่ที่ฉันต้องก้าวข้ามในสักวันอยู่แล้ว”
“แกนะแก…!”
คำตอบของกริดทำให้พวกมันตกอยู่ในความสิ้นหวัง
ชายหนุ่มชำเลืองมองโนเอะเพื่อส่งสัญญาณ
แมวอวบอ้วนขนสีทองพลันอ้าปากหาวเล็กน้อยพลางเดินเข้าไปหากลุ่มเด็ก
“เจ้าพวกมนุษย์จิ๋ว! จงรับชมความงดงามของสัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกผู้นี้ซะ! เมี๊ยว!”
“อาบู! อาโบวว!”
เด็กเล็กในกรงสุนัขย่อมไม่เคยเห็นสัตว์เลี้ยงใดที่น่ารักเท่าโนเอะมาก่อน
เมื่อกริดมั่นใจว่าสายตาเด็กทุกคนกำลังสนใจโนเอะ เขาจึงลงมือเก็บกวาดจอมเวทสวะที่เหลือให้สิ้นซาก
“รีบไปกันเถอะ”
***
‘ต้องรีบไปช่วยเมอร์เซเดส’
หลังจากเดินออกจากหอแห่งนิรันดร์ที่ไม่หลงเหลือจอมเวทแม้แต่คนเดียว กริดกำลังตัดสินใจว่าจะทำสิ่งใดต่อ
‘โกลด์ฮิตรู้เรื่องที่เราอยู่ในไททัน’
คงเลี่ยงไม่ได้ที่กริดจะตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยของคดีโคมระย้าร่วงหล่นและกำแพงเมืองถล่ม
แต่เขาก็มิได้กังวลมากนัก
จักรวรรดิคงมองว่าความวุ่นวายเกิดจากจอมอสูรเสียมากกว่า
‘อัสทารอธเผยตัวในจังหวะเหมาะเจาะมาก เรื่องราวทั้งหมดจึงกลมกลืนอย่างลงตัว’
กริดตัดสินใจรีบมุ่งหน้าไปช่วยเมอร์เซเดส เขาไม่รู้ตัวเลยว่า ตนคือต้นเหตุที่ทำให้อัสทารอธต้องเผยตัวตนต่อหน้าผู้คนมากมาย
“รออยู่ที่นี่ก่อนนะ”
กริดพากลุ่มเด็กมาซุกซ่อนในจุดปลอดภัยพลางยื่นอาหารและน้ำให้
โนเอะทำปากเเป็นทรง ‘ㅅ’ ขณะบินมาเกาะไหล่กริด ยากเหลือเกินที่จะเรียกสิ่งมีชีวิตที่น่ารักขนาดนี้ว่าสัตว์อสูร
‘ถ้าเด็กกลุ่มนี้ถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่ดี พวกเขาคงกำลังอยู่ในวัยร่าเริงและมีความสุข’
กริดส่งสายตาที่อ่อนโยนและห่วงใยให้ทุกคนโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น
[ อัศวินในตำนานถือกำเนิดขึ้นแล้ว! ]
[ อัศวินทุกคนจะยกย่องชื่นชมในตัวเธอ ]
“อะไรนะ?”
ข้อความโลกที่ประกาศตัวตนตำนานคนใหม่กำลังแสดงต่อหน้ากริด
เมื่อเห็นข้อความระบบใช้คำว่า ‘เธอ’ กับอัศวินในตำนาน กริดจึงเข้าใจในทันที
‘เมอร์เซเดส?’
ชื่อแรกที่ผุดขึ้นในหัว
[ ท่านผนึกจอมอสูรที่อ่อนแอลง ‘อัสทารอธ’ สำเร็จ! ]
[ ท่านได้รับรางวัลอันดับหนึ่งในการปราบจอมอสูรอัสทารอธ ]
กริดได้แต่ยืนทึ่ง
“…เรื่องบ้าบออะไรกันอีก?”
กริดไม่แปลกใจที่จักรวรรดิสามารถโค่นจอมอสูรอย่างอัสทารอธลงได้
ในเมื่อตัวเขาทำสำเร็จกับบีเลียล จักรวรรดิที่มีพลังอำนาจมากกว่าย่อมสามารถปราบจอมอสูรได้ไม่ยาก
ทว่า…
‘ทำไมเราถึงได้รางวัลอันดับหนึ่ง?’
กริดได้ MVP ทั้งที่ไม่ได้สู้กับบอสแม้แต่วินาทีเดียว
‘บั๊กรึไง…อ๊ะ!’
ชายหนุ่มที่กำลังสับสนพลันฉุกคิดได้
‘หรืออัสทารอธจะไม่มีทางถูกฆ่าหากเราไม่ทำลายศิลาอัสนี? นั่นคือเหตุผลที่เราได้รางวัลอันดับหนึ่งงั้นหรือ’
กริดเดาถูกเพียงครึ่งเดียว
การทำให้อัสทารอธเปิดเผยตัวตนก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการคิดคำนวณของรางวัล
แต่เขาย่อมไม่ทราบเรื่องนั้น
ใครจะไปคิดว่าการปราบเทพอัสนีเพียงตัวเดียวจะทำให้จอมอสูรปรากฏกายได้?
‘แย่ล่ะสิ…’
ถึงเหตุการณ์เมื่อครู่จะน่าตื่นเต้นมากเพียงใด แต่กริดกลับมิได้คิดเรื่องของรางวัลในหัวแม้แต่น้อย
สีหน้าของเขากำลังหวั่นวิตกอย่างหนัก
การใช้สมองโดยไม่หยุดพักส่งผลให้กริดคาดเดาเหตุการณ์ได้ถึงหนึ่งสิ่ง
‘ถ้าเมอร์เซเดสกลายเป็นอัศวินในตำนานไปแล้ว…’
ตำนาน…
เธอต้องมีบทบาทสำคัญในการปราบอัสทารอธแน่นอน และป่านนี้คงเป็นวีรสตรีคนใหม่ของจักรวรรดิ
ตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นคงไม่มีทางได้เข้าร่วมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์แน่
จักรวรรดิไม่มีทางปล่อยเธอออกมา
โดยเฉพาะฮวนเดอร์
กริดไม่มีวันพรากเมอร์เซเดสจากอ้อมอกจักรวรรดิได้ตลอดกาล
“บ้าจริง…”
แต่ไหนแต่ไรมา เขามักพึ่งพาพลังแห่งไอเท็มเสมอ
ขุมพลังสำคัญล้วนเกิดจากไอเท็ม ผ่านพ้นวิกฤติมากมายได้ด้วยพลังจากไอเท็ม
กระทั่งเรียกตัวเองว่าราชาโอเวอร์เกียร์ผู้พึ่งพาพลังไอเท็ม
แต่กริดก็ตระหนักถึงความสำคัญของกำลังคนเป็นอย่างดี
ตัวเขามีบริวาร NPC ที่ยอดเยี่ยมมากมายทั้งปิอาโร่ อัสโมเฟล สติกส์ และแร็บบิท
กริดเสียใจกับการพลาดคว้าตัวเมอร์เซเดสจน ของรางวัลอันดับหนึ่งจากอัสทารอธกลายเป็นสิ่งไร้ค่าในทันที
“เฮ่อ…กลับอาณาจักรก่อนดีกว่า…เอ๋?”
กริดที่กำลังจะออกเดินทางด้วยสีหน้าผิดหวังพลันชะงักเท้า
สายตาของเขาชำเลืองเห็นรางวัลชิ้นสุดท้ายเข้า
[ ‘พลังจอมอสูรอัสทารอธที่อ่อนแอลง’ ถูกสลักลงในอักขระความมืด ]
“…”
เป็นของแถมที่น่าสนใจ
แต่กริดไม่เคยเห็นพลังอัสทารอธมาก่อน เขาไม่ได้สู้กับอัสทารอธด้วยตัวเอง คงเป็นการยากที่จะให้คาดเดาพลังได้ถูกต้อง
ชายหนุ่มรีบเปิดอ่านรายละเอียด
[ พลังจอมอสูรอัสทารอธที่อ่อนแอลง ]
หากท่านมีพลังอสูรหรืออยู่ในสถานะอสูร ท่านสามารถเปิดใช้งานทักษะ ‘เขตแดนพายุสายฟ้าอสูร’
“…เขตแดน?”
กริดทึ่งจนอ้าปากค้าง
มีเขตแดนเป็นของตัวเอง…?
นี่มัน…
“นี่เราเป็นบอสรึไง?”
พลังของกริดไม่ใช่ความหลากหลายและพลังไอเท็มอีกต่อไป เขากลายเป็นตัวตนระดับบอสใหญ่แห่งทวีปโดยสมบูรณ์
ใช่แล้ว
พลังแห่งบอส
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,232
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
บอสกริด👍
ReplyDeleteขอบคุณครับ
บอสกริดจงเจริญ
ReplyDeleteชดเชยให้ด้วยครับ
ReplyDelete#กริด
เมื่อวานไม่ได้ลงชดเชยให้ด้วยนะครับสนุกมากครับ
ReplyDeleteโอ้ มันละทีนี้ หวังว่าได้พลังใหม่มาแล้วจะพอสู้กับยังบันได้เท่าเทียมบ้างนะ บอสกริด
ReplyDeleteนอกจากโอเวอร์เกียร์ ยังจะโอเวอร์บอสอีกเรอะ? 🤓🤓
ReplyDelete