จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 818
ทักษะร่างมืดถูกยกระดับครั้งใหญ่ในสงครามอีเทอนัล
เป็นผลพวงมาจากค่าพลังอสูรที่กริดได้รับหลังจากสังหารผู้คนไปมากมาย
ถัดมา กริดได้รับการชื่นชอบจากเหล่าเทพจนสามารถครอบครอง ‘คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร’
ยังไม่หมด ปราณต่อสู้ของกริดเริ่มปะทุนับตั้งแต่วินาทีที่เบเนียลูเปิดฉากซุ่มโจมตี
และสิ่งสุดท้ายคือ
พลังของจอมอสูรอัสทารอธที่อ่อนแอลง
“อั่กก!!”
ท่ามกลางสายฝนและพายุอสูรโหมกระหน่ำ เบเนียลูกำลังตื่นตระหนกสุดขีด
ดวงตาหลังเส้นผมสีขาวเริ่มสั่นระริกอย่างเห็นได้ชัด
‘เป็นไปไม่ได้’
คงยากที่จะให้เธอยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
หนึ่งในสิบสองผู้พิทักษ์…
หนึ่งในเอลฟ์ระดับสูงจากสิบสองตระกูลใหญ่กลับต้องคุกเข่าต่อหน้ามนุษย์แสนต่ำต้อย
สิ่งนี้สร้างความเสื่อมเสียครั้งใหญ่แก่นาม ‘ผู้พิทักษ์’ ที่มีความหมายว่า ‘ปกป้อง’
“แกขายวิญญาณให้จอมอสูรงั้นหรือ?”
เบเนียลูจดจ้องกริดด้วยสายตาอาฆาตแค้นสุดขีด
เธอไม่ได้มีปัญหากับพลังอสูรของกริด
พลังอสูรมิใช่สิ่งพิเศษ
มีเครื่องประดับมากมายบนโลกที่สามารถเปลี่ยนผู้สวมใส่ให้กลายเป็นอสูรได้ชั่วคราว
แต่เขตแดนสายฟ้าอสูรนั้นต่างออกไป
มันคือการสร้างสนามสายฟ้าในรัศมีรอบตัวหลายร้อยเมตร
บรรยากาศทั้งหมดจะถูกปกคลุมด้วยพลังอสูรปริมาณมหาศาล
เป็นพลังที่มีเฉพาะเหล่าจอมอสูรผู้ปกครองขุมนรกเท่านั้น
“มนุษย์ต่ำช้า! แกร่วมมือกับจอมอสูรเพื่อรุกรานดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเอลฟ์! ไม่มีความละอายใจเลยรึไง!?”
เบเนียลูตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดด้วยพลังเวทมนตร์ เกิดเป็นคลื่นเสียงที่สามารถทะลวงผ่านพายุอสูรและกระจายออกไปทั่วบริเวณ
หากกริดเป็นผู้เล่นทั่วไป เขาคงถูกกระแสมานาปั่นป่วนวงจรเวทมนตร์ภายในร่างกาย อาการผิดปรกติจำนวนมากคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งเงียบด้วยสีหน้าเย็นชาและแววตาเรียบเฉย
“ทำไมถึงรีบด่วนสรุปนัก?”
ฝนและพายุเริ่มสลายไป
ท้องฟ้าเปิดโล่งส่องแสงผ่านช่องใบไม้เขียวขจี
เขตแดนอัสทารอธสิ้นเปลืองมานานเกินไป ชายหนุ่มจึงต้องหยุดใช้งานอย่างไม่มีทางเลือก
แต่การกระทำนี้กลับส่งผลให้เบเนียลูเข้าใจผิด
‘เขาออมมือทำไม? ไม่คิดฆ่าพวกเรางั้นหรือ…!’
นี่ไม่ใช่ข่าวดีเลยสักนิด
สีหน้าเบเนียลูพลันสิ้นหวังสุดขีด
“แกคิดจะจับเราไปขายเป็นทาสสินะ!!”
“…”
เอลฟ์มีอคติกับมนุษย์มากกว่าที่กริดคิด
เธอมองทุกการกระทำของมนุษย์เป็นด้านลบไปเสียหมด
แม้จะครอบครองพลังที่แข็งแกร่ง แต่เบเนียลูกลับหวาดกลัวและโลกแคบกว่าปรกติ
ชายหนุ่มจ้องมองเบเนียลูด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ เอลฟ์เหล่านี้คิดแง่ลบกับมนุษย์จากก้นบึ้ง
สิ่งเดียวที่กริดทำได้คือการปล่อยผ่าน แสร้งไม่ได้ยิน
เบเนียลูเหมือนกับกริดในอดีตไม่มีผิด
“นิสัยหวาดกลัวและคิดลบของเธอไม่ใช่สิ่งที่ผิด เธอไม่ผิดเลยสักนิด คงเจอกับมนุษย์ที่เลวร้ายมาไม่น้อยสินะ”
“…”
เสียงแสนอ่อนโยนของกริดได้ปลุกให้เบเนียลูตื่นจากภวังค์โทสะ
เธออึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะส่ายศีรษะอีกครั้งและกลับมาฉุนเฉียวตามเดิม
“แกอย่าพูดเหมือนรู้ทุกเรื่องไปหน่อยเลย! ฉันไม่หลงกลหน้ากากรอยยิ้มที่แกสวมอยู่! อย่าคิดว่าจะหลอกกันได้!”
“เฮ่อ…ยุ่งยากจังแฮะ”
บทสนทนาระหว่างกริดและเอลฟ์แทบไม่เกิดประโยชน์อันใด
ไม่ต่างจากคุยกับกำแพง
นี่คือความจริงแสนโหดร้ายที่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะได้เผชิญเมื่อมีโอกาสพบหน้าเอลฟ์สาวสวย
แต่ถึงกระนั้น กริดมิได้ผิดหวัง
เขาไม่ได้ต้องการมาที่ป่าแห่งนี้เพื่อพบเอลฟ์อยู่แล้ว
“ฉันจะพูดอย่างรวบรัดก็แล้วกัน ฟังให้ดี ต่อจากนี้คือการอธิบายสถานการณ์”
เมื่อได้ยินกริดกล่าวด้วยน้ำเสียงสุดองอาจ เบเนียลูและเหล่าเอลฟ์ต่างพากันกลืนน้ำลายอึกใหญ่
ผิวพรรณขาวเนียนของพวกเธอกำลังสั่นระริก เอลฟ์หวาดกลัวการถูกมนุษย์จับไปขายเหนือสิ่งอื่นใด
“เริ่มจากแนะนำตัวเองก็แล้วกัน ฉันคือราชาโอเวอร์เกียร์ เป็นผู้สืบทอดตำนานของแพ็กม่า และยังเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรมนุษย์ ฉันมิได้ขายวิญญาณให้จอมอสูร พลังเมื่อครู่คือสิ่งที่ได้ครอบครองหลังจากจัดการจอมอสูรอัสทารอธ”
“…!”
กริดเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับพูดต่อ
“ฉันมาที่นี่เพื่อล่าหมีหมาป่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่าที่นี่เป็นดินแดนของพวกเธอ ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจกลัว”
“…”
"ฉันไม่ต้องการเป็นศัตรูกับพวกเธอ ในฐานะราชา ฉันมีแผนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและค้าขายกับเผ่าพันธุ์อื่นเสมอ ฉันจะไม่บังคับให้เธอเชื่อในสิ่งที่พูด เชิญหวาดกลัวและสงสัยได้ตามที่ต้องการ แต่ฉันขอร้องเพียงสิ่งเดียว ได้โปรดปล่อยให้พวกเราล่าหมีหมาป่าในบริเวณนี้สักพัก"
กริดกล่าวด้วยเสียงใสกังวาน
จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอันงดงามด้านบน
สาเหตุเพราะเขามิอาจจ้องมองเอลฟ์สาวที่อยู่ในสภาพกึ่งเปลือยต่อไปได้
เศษใบไม้ที่ปกปิดร่างไว้เพียงบางส่วน มันยิ่งเผยผิวพรรณมากขึ้นหลังจากถูกกริดกระหน่ำโจมตีใส่
จิตใจกริดไม่แกร่งพอจะจ้องมองโดยปราศจากความคิดลามก เขาไม่ต้องการถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกโรคจิตวิตถาร
ไม่อย่างนั้นอาจเกิดข่าวลือไม่ดีแพร่กระจายในหมู่เอลฟ์สาวสวย
ท่าทีขึงขังแต่แฝงความเขินอายได้ทำให้เบเนียลูและเหล่าเอลฟ์ลดความระแวงต่อกริดลงเล็กน้อย
“ตำนานงั้นหรือ…เข้าใจแล้ว มนุษย์ที่ก้าวข้ามมนุษย์ พลังเมื่อครู่สามารถพิสูจน์คำพูดนั้นได้…
เบเนียลูหรี่ตาลง
“เธอคนนั้นก็เป็นตำนานด้วยหรือ”
เบเนียลูชำเลืองมองเมอร์เซเดส
เมอร์เซเดสยังคงจ้องเบเนียลูด้วยสายตาอาฆาต เธอโกรธแค้นที่อีกฝ่ายบังอาจโจมตีใส่ราชาของตน
ชายหนุ่มเลื่อนมือไปจับแขนเมอร์เซเดสเพื่อให้เธอสงบจิตใจ
“ถูกต้อง เธอเป็นตำนานเหมือนฉัน”
“งั้นหรือ…”
ลงเอยด้วย เบเนียลูยอมจำนนแต่โดยดี
แม้จะไม่รู้จักแพ็กม่าที่กริดเอ่ยถึง แต่สำหรับมนุษย์ที่กลายเป็นตำนาน เบเนียลูย่อมรู้จักโพเวียเป็นอย่างดี
โพเวียคือเด็กที่เกิดจากมนุษย์และเอลฟ์
บุคคลผู้น่าสงสารที่ปราศจากความสุขตลอดชีวิต จนกระทั่งได้รับพลังมหาศาลและกลายเป็นตำนานในภายหลัง
“…ตำนานมนุษย์ที่ฉันรู้จัก เธอเป็นคนที่สุดยอดมาก”
เบเนียลูหรี่ตาลง
“ฉันจะยอมเชื่อใจนายสักครั้ง ในสายตาฉัน นายไม่เหมือนกับมนุษย์โสโครกทั่วไป ด้วยเกียรติของหนึ่งในสิบสองผู้พิทักษ์ ฉันอนุญาตให้นายล่าหมีหมาป่าได้สักพัก พวกมันก็เป็นศัตรูของเอลฟ์เช่นกัน ไม่เลวนักหากมีคนช่วยกำจัดให้”
“ขอบคุณมาก”
“แต่อย่าได้ย่างกรายเข้าไปในป่าลึกเด็ดขาด พวกนายต้องล่าภายในจุดนี้เท่านั้น”
“ไม่มีปัญหา”
กริดขานรับ
ขณะเดียวกัน เมอร์เซเดสกำลังหน้าแดงก่ำเนื่องจากกริดจับมือเธอไม่ปล่อย
“ฝ่าบาท นี่คือโอกาสสำคัญที่จะได้สานสัมพันธ์กับเผ่าเอลฟ์ เหตุใดถึงไม่คว้าไว้?”
ฝีมือธนูของเอลฟ์ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าสิ่งที่จารึกไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ แถมภูติธาตุก็มีประสิทธิภาพสูงจนน่าทึ่ง
เมอร์เซเดสมองว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ควรรีบสานสัมพันธ์กับเผ่าเอลฟ์โดยเร็ว
แน่นอน กริดก็คิดแบบเดียวกัน
“ฉันรู้ แต่ดูท่าทีของพวกเธอสิ หากฉันเร่งร้อนจนเกินพอดี พวกเธอคงสร้างกำแพงระหว่างมนุษย์ขึ้นอีก ดังนั้นพวกเราไม่ควรรีบ โอกาสต้องมาถึงในสักวันแน่”
ในสถานการณ์ปัจจุบัน การผลีผลามโดยไม่ไตร่ตรองมักมีจุดจบที่ไม่สวยนัก
กริดเรียนรู้สิ่งนี้จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดชีวิต
“ได้อยู่ในเขตเอลฟ์ก็เพียงพอสำหรับเราในตอนนี้แล้ว”
“ค่ะ”
เมื่อราชาของตนตัดสินใจหนักแน่น เมอร์เซเดสไม่มีเหตุผลให้ต้องคัดค้าน
“พวกเรามาเริ่มกันเถอะ”
กริดฉีกยิ้มพลางนำเตาหลอมแบบพกพาออกมาพร้อมกับค้อน
ประการแรก เขาต้องซ่อมมันให้กลับมาใช้การได้เสียก่อน
แต่ปัญหาคือสภาพแวดล้อมที่มืดเกินไป
ใบไม้หนาทึบปกคลุมจนแสงแดงส่องลงมาไม่เพียงพอ
เมื่อมองไม่เห็น ประสิทธิภาพในการทำงานจึงลดลงหลายระดับ
“ป่าในบริเวณนี้หนาทึบเกินไป แสงแดดส่องไม่ถึงเท่าที่ควร…”
หลังจากทุบค้อนได้สักพัก กริดตัดสินใจหยุดมือและกวาดสายตามองโดยรอบ
ต้นไม้และพุ่มไม้ใหญ่จำนวนมากปกคลุมผืนป่าจนแน่นถนัด
ชาวเอลฟ์รักธรรมชาติอย่างมาก แต่สิ่งนี้ก็ทำให้ผืนป่าไม่ถูกจัดการและควบคุมให้เป็นระเบียบ
“หืม…”
ในชีวิตจริง กริดปลูกต้นเมเปิ้ล ต้นพลับ และต้มพลัมขนาดเล็กไว้ในสวนหน้าบ้านบนดาดฟ้าตึก
เขาจึงทราบถึงความสำคัญของการตัดแต่งกิ่งให้มีขนาดเหมาะสมอยู่เสมอ
กริดเล็งเห็นว่าผืนป่าแห่งนี้มีสภาพค่อนข้างแย่
ชายหนุ่มตัดสินใจชี้นิ้วไปยังต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าที่มีเถาวัลย์หนามรัดพัน
เขากล่าวขึ้น
“ถ้าพวกเธอรักต้นไม้จริง ก็ควรตัดแต่งดูแลพวกมันบ้าง ต้นไม้เหล่านี้ถูกปล่อยปละละเลยจนแย่งอาหารของกันและกัน วัชพืชมากมายกำลังฆ่าพวกมันทางอ้อม แสงแดดส่องไม่ถึงโคนต้น ทำให้มีมอสเกาะอยู่ใกล้รากและคอยแย่งชิงสารอาหาร ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ปรสิตจะเติบโตได้ดีจนเบียดเบียนความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้”
“…?”
เบเนียลูและเหล่าเอลฟ์เริ่มขมวดคิ้วเมื่อกริดออกปากเทศนา
พวกเธอไม่ค่อยเข้าใจคำพูดประหลาดของกริดมากนัก
“ตัดแต่ง? ปรสิต? นายกำลังพูดเรื่องอะไร”
“ถ้าอยากให้ผืนป่าอุดมสมบูณ์มากกว่านี้ การบำรุงรักษาคือสิ่งจำเป็น”
“หลักการเหลวไหลอะไรของนาย? ธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุดและไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว”
“เป็นแค่มนุษย์อย่ามาทำเป็นรู้ดีกว่าเอลฟ์!”
เกิดท่าทีต่อต้านจากกลุ่มพวกเธอ
ทว่า เบเนียลูกลับแตกต่างออกไป
เธอเห็นภาพของเพื่อนเก่าซ้อนทับกริด
‘เขาพูดแบบเดียวกับโพเวีย…’
โพเวียเคยอธิบายวิธีการดูแลป่าให้เอลฟ์ฟัง สิ่งนี้คือความรู้ของมนุษย์ที่เธอได้ศึกษามาจากพ่อและแม่
แต่เหล่าเอลฟ์ในหมู่บ้านกลับขบขันและเย้ยหยันโพเวียราวเป็นเรื่องตลก
ส่วนใหญ่รังเกียจที่เธอเป็นลูกผสม
และเบเนียลูก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น
เธอโบกมือเพื่อปรามเอลฟ์ตนที่เหลือ
เบเนียลูตัดสินใจลองเชื่อกริดดูสักครั้ง
สาเหตุหนึ่งเพื่อเป็นการชดเชยบาปที่เคยก่อไว้กับโพเวีย
เธอออกปากขอร้องกริด
“…ราชาโอเวอร์เกียร์”
“…?”
“ฉันขอฝากหน้าที่ดูแลผืนป่าในบริเวณนี้ให้นายได้ไหม?”
“เอ๋?”
กริดตะลึงกับคำขอร้องที่คาดไม่ถึง
เบเนียลูโค้งศีรษะลงเล็กน้อย
“ที่นายพูดมาก็มีเหตุผล ฉันต้องการให้นายใช้เทคนิคของมนุษย์ช่วยอนุรักษ์ป่า”
“…!!”
เอลฟ์ที่ขึ้นชื่อด้านความหยิ่งทระนงกลับกำลังก้มศีรษะให้มนุษย์พร้อมกับออกปากขอร้อง…?
แถมเอลฟ์ตนนั้นยังเป็นคนเดียวกับที่คิดทำร้ายกริดอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อครู่
เมอร์เซเดสกำลังทึ่งในความยิ่งใหญ่ของชายผู้เป็นเจ้านาย…
‘ฝ่าบาทเล็งสิ่งนี้ไว้ตั้งแต่ต้น!’
เมอร์เซเดสไม่มีความรู้ด้านต้นไม้และพืชพรรณมากนัก แต่เธอมั่นใจว่ากริดตั้งใจให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้
กริดกำลังยืนเหงื่อแตกขณะที่สายตาชื่นชมจากเมอร์เซเดสจ้องมองมา
‘ด…เดี๋ยว’
[ อนุรักษ์ป่าเอลฟ์ ]
ระดับความยาก : A
เบเนียลู หนึ่งในสิบสองผู้พิทักษ์แห่งเผ่าเอลฟ์ ต้องการขอร้องท่าน
เธอต้องการให้ท่านใช้เทคนิคของมนุษย์ช่วยอนุรักษ์ป่าเอลฟ์ไว้
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ตัดแต่งต้นไม้จำนวน 2,000 ต้น (0/2,000)
รางวัลภารกิจ :
- ค่าความสัมพันธ์กับเผ่าเอลฟ์ทุกตนเพิ่มขึ้น 20 หน่วย
- ใบต้นไม้โลก (20)
- ผลต้นไม้โลก (5)
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : เอลฟ์จะมองท่านเป็นศัตรู
“…ฉันไม่ใช่คนสวนสักหน่อย”
ใช่แล้ว กริดคือช่างตีเหล็ก
แต่เหตุใดช่างตีเหล็กถึงได้รับภารกิจที่ดูคล้ายกับงานของคนสวน?
เขาเดินทางมาที่นี่เพื่อสร้างไอเท็มและเก็บเลเวล ย่อมไม่มีเวลาตัดแต่งต้นไม้มากถึง 2,000 ต้นแน่
‘มันจะเหนื่อยขนาดไหนกัน…’
นี่คือภารกิจที่ต้องยกเลิก!
กริดอยากตะโกนเช่นนี้ออกไป
แต่ปัญหาคือรางวัลภารกิจที่จะได้รับ
ใบต้นไม้โลกสามารถนำไปให้สติกส์สร้างยาครอบจักรวาล
กริดมั่นใจว่าใบและผลต้นไม้โลกคือไอเท็มที่มีมูลค่าสูงมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ค่าความสัมพันธ์ 20 หน่วยกับเผ่าเอลฟ์นับว่าสำคัญไม่แพ้กัน
‘จะทำยังไงดี…’
กริดตัดสินใจไม่ได้ว่าจะรับหรือปฏิเสธ
จนกระทั่งชื่อหนึ่งผุดขึ้นในหัว
‘ปิอาโร่!’
ไม่มีใครรู้เรื่องพืชดีไปกว่าชาวนาในตำนานอีกแล้ว
บางทีปิอาโร่อาจมีเทคนิคจัดการกับต้นไม้ได้เกิดประสิทธิภาพ
เมื่อรู้เช่นนี้ ชายหนุ่มรีบอัญเชิญอัศวินโดยไม่รีรอ
ชาวนาในตำนานและเอลฟ์
นี่คือการพานพบครั้งแรกของสองกลุ่มคนที่มีใจรักธรรมชาติอย่างหาที่สุดมิได้
ปิอาโร่ขมวดคิ้วด้วยสีหน้าตรึงเครียดทันทีที่ถูกอัญเชิญตัว
เขากังวลว่าราชาของตนอาจตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ
ทว่า…
“เอลฟ์.…”
ปิอาโร่ปรากฏตัวต่อหน้าเอลฟ์โดยถือคราดและเคียวเล็กในมือ
เอลฟ์สาวเริ่มได้กลิ่นประหลาดจากร่างกายปิอาโร่ พวกเธอพยายามสูดดมสักพัก
จนกระทั่ง...
ใบหน้าของทุกคนเริ่มแดงก่ำ
“เป็นชายที่ยอดมาก…”
“…”
กลิ่นดินโคลนและธรรมชาติบนร่างปิอาโร่ได้กระตุ้นอารมณ์เหล่าเอลฟ์สาวอย่างน่าประหลาด
นับเป็นโชคดีสำหรับกริด
“ดีล่ะ…หลังจากนี้ฉันจะลงมือสร้างไอเท็ม ส่วนเมอร์เซเดสกินน้ำผึ้งล่อหมี และปิอาโร่คอยตัดแต่งวัชพืชให้ต้นไม้”
กริดใช้คนได้ตรงกับงาน
สิ่งนี้ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้
บริวารมีไว้เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้เจ้านายก็จริง แต่บริวารที่เขาเลือกใช้ในคราวนี้...
อัศวินในตำนานและชาวนาในตำนาน
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,240
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
เหมือนขี่เฟอร์รารี่ไปจ่ายตลาด
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ😊
5555 เหมือนมีพรมแดงปูทางให้เดิน ทรงเริ่มสะดวก
ReplyDeleteตำนานน่ะ ก็แค่รถบัส 55555
ReplyDelete