จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,600
กริดย่อมไม่ทราบถึงสมรรถนะที่แท้จริงของจักรกลเวทมนตร์
เพราะมันไม่มีข้อมูล
มีเพียงผู้ขับเท่านั้นจึงจะเห็นข้อมูลโดยละเอียด
เป็นข้อบังคับของระบบ
ประการแรก ปัจจัยที่กำหนดค่าสถานะของจักรกลเวทมนตร์ หนึ่งในนั้นคือศักยภาพของผู้ขับ
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือซีบาล
ไรเดอร์สที่กริดสร้างจากทักษะ <เปลี่ยนรูปไอเท็ม> มีสมรรถภาพต่ำกว่าไรเดอร์สที่ซีบาลขับพอสมควร
กล่าวคือ ผู้สร้างสามารถกะเกณฑ์ศักยภาพได้อย่างคร่าวจากประสิทธิภาพอาวุธ พลังงาน ความทนทาน และขนาดตัวถังของจักรกลเวทมนตร์ แต่สมรรถนะที่แท้จริงจะเกิดขึ้นหลังจากมีนักบินเข้าไปขับ
ให้จินตนาการถึงอนิเมประเภทหุ่นยนต์ทั้งหลาย
ในการ์ตูนเหล่านั้น ผู้สร้างหุ่น กับนักขับ ส่วนใหญ่เป็นคนละคนกัน
หากพิจารณาจากจุดยืน กริดจะคล้ายกับ ‘หมอ’ สำหรับจักรกลเวทมนตร์มากกว่า
หมอกริด
‘ไรเดอร์สรุ่นจำลองที่สร้างจากทักษะเปลี่ยนรูปไอเท็ม มีแนวโน้มที่จะอ่อนแอกว่าต้นฉบับ’
ไรเดอร์สที่หัตถ์เทวะจำแลงกาย ไม่เพียงจะเป็นรุ่นเดียวกับไรเดอร์สของซีบาล แต่ยังผ่านการวิจัยและดัดแปลงโดยฝีมือกริด
ทว่า หัตถ์เทวะกลับมิอาจดึงความสามารถของไรเดอร์สออกมาได้เต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
แม้จะทราบข้อเท็จจริงนี้ แต่กริดก็ยังยืนกรานที่จะเปลี่ยนหัตถ์เทวะให้เป็นไรเดอร์สบ่อยครั้ง เพราะอย่างน้อยก็ยังมีประโยชน์ในหลายสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็เป็นรสนิยมส่วนตัวของกริด
ชายหนุ่มยังไม่ลืม
ความยอดเยี่ยมของไรเดอร์สที่ควบคุมโดยดวงวิญญาณบราฮัมในงานแข่ง ‘ตะลุมบอนราชาอสูร’
รวมถึงความโดดเด่นของซีบาลในมหาสงครามระหว่างมนุษย์กับอสูร
นี่คือเหตุผลว่าทำไม กริดจึงหมกมุ่นอยู่กับจักรกลเวทมนตร์นัก แม้จะมิอาจดึงศักยภาพสูงสุดออกมาได้
‘จักรกลเวทมนตร์คงแข็งแกร่งขึ้นถ้าเราได้ขับเอง’
แต่กริดไม่มีสิทธิ์เป็นนักขับ
ทำได้แค่จับจักรกลเวทมนตร์เหวี่ยงไปมาหรือขว้างใส่ศัตรู แต่นั่นไม่ใช่การขับ และการเข้าไปนั่งในห้องนักบิน ก็ไม่ต่างอะไรกับการสวมชุดเกราะขนาดยักษ์ที่มิอาจขยับเขยื้อน
‘…แต่ถึงจะขับได้ นั่นก็คงไม่มีประโยชน์’
กริดมีพวกพ้องที่แข็งแกร่งชื่อลาร์ดวูล์ฟ
อีกฝ่ายสามารถดัดแปลงไรเดอร์สของซีบาล ให้กริดมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะขึ้นขับ
ทว่า ชายหนุ่มไม่เคยร้องขอแม้แต่ครั้งเดียว
เพราะการเข้าไปนั่งในห้องนักบิน หมายถึงการผนึกพลังต่อสู้ของตัวเอง
กริดในปัจจุบัน แข็งแกร่งกว่าประสิทธิภาพสูงสุดของไรเดอร์สหลายเท่า
นอกจากนั้น ทักษะส่วนใหญ่จะถูกห้ามใช้งานขณะขับ และแทนที่ด้วยทักษะเฉพาะตัวของจักรกลเวทมนตร์เอง แน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นผลเสียสำหรับกริด
ต้องไม่ลืมว่า แม้แต่สภาหอคอยก็ใช้จักรกลเวทมนตร์เป็นเพียงหน่วยสนับสนุน
ขนาดว่าเป็นจักรกลเวทมนตร์ของลาร์ดวูล์ฟที่สวมถุงมือเหล็กแสงจันทร์
ท้ายที่สุดแล้ว กริดได้ข้อสรุปกับตัวเอง
นั่นคือการสร้างจักรกลเวทมนตร์ ‘ที่ดีกว่าเดิม’ ขึ้นมาให้ได้
โดยนั่นจะทำให้หัตถ์เทวะซึ่งสามารถดึงพลังออกมาใช้ได้เพียง ‘บางส่วน’ สามารถแสดงศักยภาพในระดับที่น่าพึงพอใจ
ขณะกำลังคิดเช่นนั้น
“…”
ชายหนุ่มเผชิญหน้ากับจักรกลเวทมนตร์สีแดง
ทราวก้า
อาวุธลับที่คนยักษ์โบราณสร้างขึ้น โดยมีจุดประสงค์เป็นการ ‘สังหารเทพ’
ค่าสมรรถนะสูงกว่าจักรกลเวทมนตร์ตัวอื่นในทุกด้าน
ในแง่ความเร็วและพละกำลัง มันแทบไม่ด้อยไปกว่ากริด
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
น้ำทะเลแยกออกจากกันหนแล้วหนเล่า
ระดับน้ำทะเลยุบตัวลงมาก เนื่องจากน้ำบางส่วนลอยขึ้นฟ้า บางส่วนกลายเป็นวังวน
กริดปะทะกับทราวก้าอย่างดุเดือดเป็นเวลานาน
ไม่ว่าจะในน้ำ หรือบนฟ้า
บางครั้งก็พุ่งข้ามเส้นขอบฟ้า บางครั้งก็ร่อนลงบนเกาะ และเปลี่ยนให้เป็นผุงผงจากแรงระเบิด
ครืนนน—!
การต่อสู้อันดุเดือดไปกระตุ้นให้ภูเขาไฟใต้ทะเลเกิดการปะทุ
เปลวไฟที่ลุกโชนจากก้นทะเล ถูกน้ำทะเลทำให้เย็นลงจนกลายเป็นกลุ่มควันดำพวยพุ่งขึ้นฟ้า
เมื่อผนวกกับเศษขี้เถ้าภูเขาไฟ ทัศนวิสัยของกริดจึงถูกบดบังโดยสมบูรณ์
> ระวัง…!
สามารถปรับเปลี่ยนร่างกายตัวเอง จนสร้างระบบสื่อสารใหม่ขึ้นมา?
เสียงของไฟโวล์ฟดังกังวานในโสตประสาทกริดโดยตรง
ระบบที่ผู้เล่นเรียกว่า ‘กระซิบ’ และเหนือมนุษย์เรียกว่า ‘เสียงก้อง’
‘นิสัยดีผิดคาดแฮะ’
กริดยิ้ม
ไฟโวล์ฟกำลังใช้ร่างกายอันใหญ่โตโอบกอดชาวเผ่าวารีไว้ คอยปกป้องอีกฝ่ายจากอันตรายทุกชนิดที่ถาโถม
ทันใดนั้นเอง ข้อมูลชุดหนึ่งถูกส่งมาจากประสาทสัมผัสเทียม
แจ้งว่าตำแหน่งทราวก้าอยู่ทางฝั่งขวา
‘เจ้านี่มีระบบตรวจจับความร้อน?’
ปัจจุบัน กริดใช้งานประสาทสัมผัสเทียมและประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์พร้อมกัน
ต่อให้หลับตาสนิท ก็ยังหยั่งถึงความเคลื่อนไหวรอบตัวได้ง่ายดาย
การปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลจึงเปรียบเสมือนโอกาสทอง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า กับทราวก้าก็เช่นกัน
ชายหนุ่มซึ่งวางแผนจะถือไพ่เหนือกว่าขณะขี้เถ้าภูเขาไฟฟุ้งกระจาย ถูกอีกฝ่ายระบุตำแหน่งได้ทันที
กล่าวคือ การสูญเสียทัศนวิสัยไม่ได้ทำให้ทราวก้าอ่อนแอลง
เคร้ง!
ท่าแทง ‘สังหาร’ ปะทะกับกำปั้นทราวก้า
จรวดพุ่งออกจากกำปั้นทราวก้าพร้อมกับระเบิดรุนแรง ส่งร่างกริดกระเด็นไปไกล
วรูม!
เครื่องยนต์ของทราวก้าเร่งรอบจนเต็มกำลังขับ
กริดประเมินว่าอีกฝ่ายคงพุ่งตามติดประชิดตัว จึงเปิดใช้งาน ‘จิตวิญญาณเสือขาว’ และเตรียมคอมโบท่ารำดาบผสานกับ ‘พลิกโลกา’
แต่กลับต้องผิดคาด ทราวก้าไม่ได้ไล่ตาม
> ตรวจสอบอีกครั้ง… ยืนยันว่าทัศนวิสัยของเป้าหมายถูกบดบัง…
ทราวก้ามั่นใจ การรับรู้ของกริดถูกปิดกั้นโดยสมบูรณ์
หลังจากวิเคราะห์เสียงภูเขาไฟระเบิดและคลื่นยักษ์ มันมั่นใจว่าโสตประสาทและการดมกลิ่นของกริดถูกรบกวน
แล้วเหตุใด การโจมตีของตนถึงถูกอ่านออก?
ดวงตาสีฟ้าของมันเปล่งแสงขณะพยายามวิเคราะห์หาสาเหตุ
“…”
ทราวก้าทำการตรวจสอบเพื่อยืนยันอีกหลายสิ่ง
มีทั้งการยิงจรวด ใช้เวทมนตร์ และโจมตีด้วยหอกดาบโดยตรง
กริดที่สูญเสียการรับรู้ด้านประสาทสัมผัสทุกชนิด กลับยังคงรับมือการโจมตีอันหลากหลายได้แม่นยำ
> ตรวจพบปฏิกิริยาเคมีของอนุภาคขนาดเล็ก… สันนิษฐานว่าเป็นพลังพิเศษของเป้าหมาย
“…!”
ดวงตากริดพลันเบิกกว้าง
ประสาทสัมผัสเทียมที่สร้างจากผงด้ายเงินและมานา
จวบจนปัจจุบัน ยังไม่เคยมีใครตรวจพบโครงข่ายประสาทสัมผัสเทียมของกริด ไม่เว้นแม้แต่เหนือมนุษย์
สิ่งนี้มิได้ตรวจพบยาก เพียงแต่กลมกลืนจนไม่เตะตา
แต่ไหนแต่ไร ละอองมานาจะลอยอยู่ในบรรยากาศด้วยรูปแบบที่ไม่ตายตัว
แน่นอนว่าเหนือมนุษย์และตัวตนก้าวข้าม ล้วนสัมผัสถึงประสาทสัมผัสเทียมของกริด เพียงแต่เข้าใจว่านั่นคือละอองมานาตามธรรมชาติ
เหมือนกับที่ในเมืองมักเต็มไปด้วยฝุ่นกับกลิ่นน้ำมัน และในสนามรบที่เต็มไปด้วยกลิ่นเลือด
ประสาทสัมผัสเทียมจะยิ่งกลมกลืน เมื่อเป้าหมายยิ่งมีประสาทสัมผัสเฉียบคม
กล่าวคือ สิ่งมีชีวิตธรรมดา มีโอกาสตรวจพบประสาทสัมผัสเทียมมากตัวตนก้าวข้ามทั้งหลาย
แต่ทราวก้าแตกต่างออกไป
ด้วยการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ มันพบว่ามีสิ่งแปลกปลอม (ผงด้ายเงิน) ปะปนกับละอองมานาในปริมาณมากเกินไป
แถมยังระบุขอบเขตได้แม่นยำ
ทราวก้าเริ่มหลีกเลี่ยงรัศมีของประสาทสัมผัสเทียม
พลังลับของกริดซึ่งเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติประหนึ่งการไหลเวียนของอากาศ ถูกทราวก้าอ่านออกในทุกอิริยาบถ
กริดเข้าใจอย่างถ่องแท้ ถึงเหตุผลที่ทราวก้าแข็งแกร่งเป็นพิเศษ
‘ส่วนหนึ่งมาจากสมรรถนะที่สูง แต่กุญแจสำคัญคือปัญญาประดิษฐ์’
ปัญญาประดิษฐ์ของทราวก้าสามารถวิเคราะห์ ออกคำสั่งกับร่างกาย และดึงศักยภาพสูงสุดของจักรกลเวทมนตร์ออกมาใช้งาน
บางที คนยักษ์อาจมองว่าจักรกลเวทมนตร์ไร้คนขับ คือสุดยอดจักรกลเวทมนตร์ในอุดมคติ
‘ปัญญาประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้… ไฟโวล์ฟสร้างขึ้นอีกได้ไหม?’
กริดเริ่มทะเยอทะยาน
กองทัพจักรกลเวทมนตร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ระดับสูง
มันอยากสร้างสิ่งนั้น
หมับ!
กริดใช้มือคว้าเขากึ่งกลางศีรษะของทราวก้า
เมื่อทราบว่าอีกฝ่ายค้นพบประสาทสัมผัสเทียม กริดก็คาดเดาตำแหน่งทราวก้าได้ง่ายขึ้นด้วยประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์
เป็นการอาศัยจุดบอดทางความคิด ของศัตรูที่พยายามอยู่นอกขอบเขตประสาทสัมผัสเทียมมากเกินไป
ทราวก้าดิ้นรนขัดขืน แต่ก็เปล่าประโยชน์
หลังจากถูกทุ่มด้วย ‘พลิกโลกา’ จนสูญเสียความสามารถในการบินชั่วคราว ท่ารำดาบผสานหกชนิดของกริด ปะทะใส่หน้าอกอีกฝ่ายอย่างจัง
> อันตราย… ตรวจพบการมาเยือนของเทพสงครามซือโหยว… รีบหนีทันที…
> เออเรอร์ เออเรอร์… ระบุตัวตนของเป้าหมายล้มเหลว
> ผลการประเมิน… ระบบเสียหายรุนแรง… ปลดอุปกรณ์ความปลอดภัย ดำเนินการซีเควนซ์ระเบิดตัวเอง
การดิ้นรนเฮือกสุดท้ายของทราวก้าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
มันเปิดหน้าอกพร้อมกับปลดปล่อยแรงระเบิดปริมาณมหาศาล
รุนแรงในระดับที่ ไม่ว่าใครก็คงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นลมหายใจมังกร
หากกริดตอบสนองช้าไปเพียง 0.1 วินาที
มันคงคลี่ ‘ผ้าปริศนา’ ของครูเกอร์ออกมาดูดซับแรงระเบิดไว้ไม่ทัน
> ซีเควนซ์ระเบิดตัวเองถูกขัดขวางโดยแรงโน้มถ่วงปริศนาที่มีความหนาแน่นสูง… ยืนยันพลังที่สองของเป้าหมาย…
“นั่นไม่ใช่พลัง”
ทันทีที่ท่ารำดาบผสานหกชนิดจบลง
“โอเวอร์เกียร์ต่างหาก”
กริดอธิบาย
ประสาทสัมผัสเทียมและผ้าปริศนา
สองสิ่งนี้ เป็นเพียงส่วนเล็กๆ จากพลังโอเวอร์เกียร์ทั้งหมด
> คำพูดของเป้าหมายสร้างความสับสน… ปิดกั้นเสียงของเป้าหมาย…
ซ่า!
หลังจากตกลงไปในทะเล ในที่สุดดวงตาของทราวก้าก็อับแสง
กริดมิได้ทำลายอีกฝ่ายทิ้ง
ชายหนุ่มรีบเก็บดาบและนำฉมวกมังกรออกมา เริ่มปฏิบัติการกู้ซากร่วมกับหัตถ์เทวะ ไฟโวล์ฟ และเผ่าวารีทันที
ดูเหมือนว่า เหล็กแสงจันทร์ของไฟโวล์ฟที่เคยเป็นจุดประสงค์หลัก ตอนนี้เป็นเพียงของแถม
***
ไม่นานหลังจากกอบกู้ทราวก้าและเหล็กแสงจันทร์เสร็จ
“เอาล่ะ ถึงเวลาลบร่องรอยทั้งหมดทิ้งและรีบถอนตัว”
ไฟโวล์ฟเร่งเร้าเสียงเครียด
“เทพสวรรค์ต้องสัมผัสถึงกลิ่นอายสังหารเทพแน่”
จักรกลเวทมนตร์ทราวก้า ถือกำเนิดด้วยเจตจำนงที่เป็นอันตราย
มันถูกสร้างขึ้นเพื่อสังหาร ‘ตัวตนสัมบูรณ์’ ผู้สร้างและจัดการโลก
ทราวก้าเป็นตัวแทนของเจตจำนงที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
แม้กริดจะเพิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า เจตจำนงดังกล่าวคงเกิดขึ้นจริงได้ยาก แต่ลำพังการดำรงอยู่ของมัน ก็มากพอจะทำให้เทพขุ่นเคืองใจ
“เร่งมือเร็วเข้า”
กริดเห็นด้วย
อันดับแรก หลังจากส่งนักรบเผ่าวารีกลับ โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ โนเอะ แรนดี้ และแวมไพร์ทายาทถูกอัญเชิญออกมาลบร่องรอย
ข้อจำกัดของเครื่องจักร
เนื่องจากไม่มีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง ทราวก้าจึงทำได้เพียงนอนแน่นิ่ง
ผ่านไปสักพัก
หลังจากเก็บกวาดเสร็จ กริดหนีออกจากจุดเกิดเหตุทันที
***
“นี่มัน…?”
ณ หอแห่งปัญญา
สภาหอคอยต่างตกตะลึงกับการมาเยือนโดยไม่แจ้งล่วงหน้าของกริด
จักรกลเวทมนตร์สีแดงตัวใหญ่
“ขออภัยที่มาเยือนโดยไม่บอกกล่าว แต่ฉันจำเป็นต้องหาที่ซ่อนมันโดยด่วน”
หากต้องการซ่อนบางสิ่ง ไม่มีสถานที่ใดเหมาะสมไปกว่าหอแห่งปัญญา
แม้แต่เทพและมังกรก็มิอาจระบุพิกัดของที่นี่ได้แม่นยำ
ภัยคุกคามเพียงหนึ่งเดียวคือมหาโจรราตรีสีชาด แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจทราวก้า
นอกจากนั้น ฟรอนซาลล์ผู้ครอบครองวงแหวนเทพที่ถูกซ่อมแซม ย่อมไม่ปล่อยให้ใครบุกรุกได้ง่ายนัก
“ดีแล้วที่มา พวกเรายินดีต้อนรับเสมอ”
เมื่อตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของทราวก้า ลาร์ดวูล์ฟอ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ
เป็นความสำเร็จเชิงบวกโดยแท้จริง
กริดรีบขอร้องทันที ให้ลาร์ดวูล์ฟร่วมมือกับไฟโวล์ฟเพื่อหาวิธีผลิตปัญญาประดิษฐ์แบบทราวก้าขึ้นมาจำนวนมาก
“อา… ถึงโอกาสสำเร็จจะต่ำ แต่ข้าก็อยากลองดู… ถ้าล้มเหลวก็อย่าโกรธกันล่ะ”
“ใครจะไปโกรธลง”
กริดขอยืมห้องเพื่อพักอยู่ที่นี่สักระยะ
ในเมื่อภารกิจจบลงแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการวางแผนสร้างไอเท็ม
‘คิดแล้วก็ตลกดี…’
ในตอนแรก เราวางแผนจะสร้างไอเท็มระหว่างการเก็บกู้เหล็กแสงจันทร์ จากนั้นก็กลับไรน์ฮาร์ททันที…
แต่เมื่อทราวก้าปรากฏตัว แผนการทั้งหมดก็พังครืน
ลองมองย้อนกลับไปในช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆ มักไม่ดำเนินไปตามแผนอย่างราบรื่นสักเท่าไร
ที่น่าขันกว่านั้นคือ หลังจากกลายเป็นอันดับหนึ่งของโลก กลายเป็นเทพจักรพรรดิ ชีวิตกริดกลับยิ่งเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่เข้าใจ
‘หรือว่าชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องวางแผน?’
ขณะกำลังใคร่ครวญว่า ตนควรเลิกทำตัวเป็นเด็กประถมที่ต้องวางแผนละเอียดยิบในช่วงวันหยุดยาว
กริดดึงพิมพ์เขียวเปล่าออกมากาง
เมื่อเปิดใช้งานทักษะออกแบบไอเท็ม ชายหนุ่มหวนนึกถึงมังกรที่เคยเผชิญหน้ามาทั้งหมด
ระบุให้ชัดเจนกว่านั้น กริดพยายามทบทวนโครงสร้างเกล็ดของพวกมัน
หากถักสานเกล็ดในลักษณะดังกล่าว จะดูดซับแรงกระแทกได้มากน้อยเพียงใด?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้นแบบที่สำคัญคือรูปแบบเกล็ดของอิฟริตและครานเบล
กริดต้องการเลียนแบบเกราะป้องกันของหนึ่งในตัวตนที่สูงส่งและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตภัณฑ์ที่แม้แต่เหล่าสภาหอคอยซึ่งกำลังมุงดูไม่มีทางจินตนาการออก นับประสาอะไรกับเทพบนสวรรค์
สิ่งนี้คือลางบอกเหตุว่า รุ่งอรุณกำลังจะมาเยือน
______________
ปัจจุบันแปลถึงตอน 2,059 ★ ★ จบบริบูรณ์ ★ ★
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ
นี่สิกริดดด!! มันส์มากครับผม ขอบคุณที่แปลครับ
ReplyDelete